วิธียกกระชับหน้าที่เหมาะกับแต่ละช่วงวัย อัปเดตเทคนิคใหม่ล่าสุด
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น คอลลาเจนและอีลาสตินให้ผิวเริ่มลดลง ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อยขาดความกระชับ และเกิดริ้วรอยอย่างเลี่ยงไม่ได้ การยกกระชับหน้าจึงเป็นทางเลือกสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการคืนความอ่อนเยาว์ และเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง
แต่รู้หรือไม่ว่าเทคนิคการยกกระชับที่ได้ผลดีนั้นขึ้นอยู่กับช่วงวัย เพราะแต่ละช่วงวัยมีโครงสร้างผิวและระดับความเสื่อมของคอลลาเจนที่แตกต่างกัน ตั้งแต่อายุ 20 ปีที่เริ่มมีความกังวลเรื่องผิวหย่อนคล้อย ไปจนถึงวัย 50 ปีที่ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้เต่งตึงและกระชับมากขึ้น
ดังนั้นการเลือกเทคนิคยกกระชับหน้าให้เหมาะสมกับช่วงวัย จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ดี ทั้งในแง่ของการปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย และฟื้นฟูสภาพผิวอย่างดูเป็นธรรมชาติ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับเทคโนโลยียกกระชับหน้าที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย พร้อมอัปเดตเทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณมีผิวกระชับ เด้งฟู ดูเด็กลงได้โดยไม่ต้องศัลยกรรม

วิธียกกระชับหน้าที่เหมาะกับแต่ละช่วงวัย
วิธียกกระชับหน้าที่เหมาะกับช่วงวัย
การยกกระชับหน้า เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยคืนความเต่งตึงให้กับผิวและป้องกันปัญหาความหย่อนคล้อยที่เกิดขึ้นตามอายุ เมื่ออายุมากขึ้นคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวจะลดลง ส่งผลให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและเริ่มมีริ้วรอย ดังนั้น การเลือกเทคนิคการยกกระชับหน้าให้เหมาะสมกับช่วงวัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ผิวดูอ่อนเยาว์และกระชับขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ โดยแต่ละช่วงวัยเหมาะกับวิธียกกระชับที่แตกต่างกันออกไป
วัย 20 ปี ดูแลผิวก่อนริ้วรอยมาเยือน
แม้ว่าผิวในวัยนี้จะยังมีความยืดหยุ่นดีและคอลลาเจนยังผลิตได้อย่างต่อเนื่อง แต่เมื่ออายุเริ่มเข้าสู่ช่วงวัย 20 ปี กระบวนการสร้างคอลลาเจนจะเริ่มช้าลง หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อยเร็วกว่าปกติ การดูแลผิวตั้งแต่ช่วงวัยนี้จะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ซึ่งเทคนิคที่เหมาะสม มีดังนี้
- Oligio : ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแบบอ่อนโยน เหมาะสำหรับการป้องกันริ้วรอยก่อนวัย
- EMFACE : เทคโนโลยีที่ช่วยกระชับกล้ามเนื้อใบหน้าและยกกระชับผิวโดยไม่ต้องใช้เข็ม
วัย 30 ปี เริ่มยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอยแรกเริ่ม
ในช่วงวัย 30 ปี การผลิตคอลลาเจนเริ่มลดลงอย่างชัดเจน ผิวเริ่มไม่กระชับเหมือนเดิมและริ้วรอยแรกเริ่มปรากฏ โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา และร่องแก้ม การเลือกเทคนิคยกกระชับที่เหมาะสมจะช่วยฟื้นฟูผิว ลดเลือนริ้วรอย และทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น ซึ่งเทคนิคที่เหมาะสม มีดังนี้
- Thermage FLX : กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยกระชับผิวได้ลึกถึงชั้นหนังแท้
- Morpheus8 : ผสานพลังงาน RF และ Microneedling ช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Ulthera Prime : ยิงพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว
วัย 40 ปี ฟื้นฟูผิว ลดริ้วรอยลึก
เมื่ออายุเข้าสู่ช่วงวัย 40 ปี คอลลาเจนจะลดลงอย่างมาก ผิวบางลงและเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่น ริ้วรอยลึกขึ้น ผิวหย่อนคล้อยบริเวณแก้มและแนวกรามเริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้น โครงหน้าดูเปลี่ยนแปลงไป การยกกระชับหน้าด้วยเทคโนโลยีที่สามารถฟื้นฟูผิวได้ลึก จะช่วยให้ผิวดูเต่งตึงขึ้นและคืนความอ่อนเยาว์ ซึ่งเทคนิคที่เหมาะสม มีดังนี้
- Ultherapy Prime : ยิงพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยยกกระชับผิว
- Thermage FLX : ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิว กระชับแก้มและเหนียง
- Morpheus8 : กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพ
- EMFACE : ช่วยกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า ลดความหย่อนคล้อยบริเวณหน้าผากและร่องแก้ม
วัย 50 ปี ฟื้นฟูโครงสร้างผิว คืนความอ่อนเยาว์
ในวัย 50 ปี คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวลดลงไปมาก ทำให้เกิดปัญหาหนังตาตก แก้มห้อย ใบหน้าดูเหนื่อยล้า และโครงหน้าเริ่มเปลี่ยนแปลง การเลือกเทคนิคที่สามารถฟื้นฟูโครงสร้างผิวได้ลึก จะช่วยยกกระชับและคืนความเต่งตึงให้กับใบหน้า ซึ่งเทคนิคที่เหมาะสม มีดังนี้
- Ultherapy Prime: ฟื้นฟูโครงสร้างผิวและกระชับผิวที่หย่อนคล้อย
- Thermage FLX : ช่วยลดความหย่อนคล้อยบริเวณแก้ม คาง และลำคอ

เปรียบเทียบเทคโนโลยียกกระชับหน้ายอดนิยม
- ยกกระชับหน้า Ulthera Prime
Ulthera Prime ใช้พลังงานอัลตราซาวนด์แบบเฉพาะเจาะจง ลงไปกระตุ้นคอลลาเจนในผิว ยกกระชับและลดความหย่อนคล้อยถึงชั้น SMAS เทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30-50 ปี ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับการศัลยกรรมดึงหน้า สามารถอยู่ได้นาน 2 ปี
- ยกกระชับ Thermage FLX
Thermage FLX ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (RF) ส่งพลังงานความร้อนลงลึกถึงชั้นหนังแท้เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวตึงกระชับขึ้น เทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30-40 ปี ที่เริ่มมีปัญหาผิวย่อนคล้อย โดยเฉพาะบริเวณกรอบหน้า แก้ม และลำคอ สามารถให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน 1-3 เดือน และอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี
- ยกกระชับ Morpheus8
Morpheus8 เป็นการผสานระหว่างพลังงานคลื่นวิทยุ (RF) และ Microneedling โดยใช้เข็มขนาดเล็กเจาะเข้าสู่ชั้นผิวเพื่อปล่อยพลังงาน RF กระตุ้นคอลลาเจนและฟื้นฟูผิว เทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30-40 ปี ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยและยกกระชับผิวไปพร้อมกับการกระชับรูขุมขน Morpheus8 ช่วยให้ผิวแน่นขึ้น ลดริ้วรอย และช่วยให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้น
- ยกกระชับ Oligio
Oligio เป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (Momopolar RF) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยให้ผิวเต่งตึง เทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 20 ปี ที่ต้องการป้องกันการสูญเสียคอลลาเจนและลดโอกาสเกิดริ้วรอยก่อนวัย
- ยกกระชับ EMFACE
EMFACE เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้การกระตุ้นกล้ามเนื้อใบหน้าผ่านคลื่นไฟฟ้า HIFES ร่วมกับการใช้พลังงาน RF เพื่อช่วยยกกระชับผิวโดยไม่ต้องใช้เข็ม เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30-40 ปี ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้กระชับขึ้นโดยเน้นการกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า ผลลัพธ์ของ EMFACE จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นภายใน 3-4 สัปดาห์หลังทำ และอยู่ได้นาน 6-12 เดือน
ทำไมต้องเลือกการยกกระชับหน้าให้เหมาะกับช่วงวัย?
การยกกระชับหน้าไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่เป็นกระบวนการฟื้นฟูและดูแลผิวให้เหมาะสมกับอายุที่เพิ่มขึ้น การเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับช่วงวัยช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น คงความอ่อนเยาว์ได้นาน และลดโอกาสเกิดริ้วรอยลึกที่ยากต่อการแก้ไข ทั้งนี้เหตุผลที่ต้องเลือกยกกระชับใบหน้าให้เหมาะสมกับช่วงวัย มีดังนี้
โครงสร้างผิวเปลี่ยนแปลงตามอายุ ต้องดูแลให้เหมาะสม
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น คอลลาเจนและอีลาสตินที่ช่วยให้ผิวเต่งตึงจะลดลง ส่งผลให้ผิวขาดความกระชับและเกิดริ้วรอย
- ในช่วงวัย 20 ปี – ผิวยังมีความยืดหยุ่นดี แต่เริ่มมีสัญญาณของคอลลาเจนที่ลดลง หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อยเร็วกว่าปกติ
- เมื่อเข้าสู่วัย 30 ปี – การผลิตคอลลาเจนลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผิวเริ่มไม่กระชับเท่าเดิม และเริ่มมีริ้วรอยบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา และร่องแก้ม
- ในวัย 40 ปี – ผิวบางลงและเริ่มขาดความยืดหยุ่น ริ้วรอยลึกขึ้น และแก้มเริ่มตก กรอบหน้าไม่ชัดเจนเหมือนเดิม
- สำหรับวัย 50 ปี – ปัญหาผิวหย่อนคล้อยจะเห็นได้ชัดขึ้น หนังตาตก แก้มห้อย ใบหน้าดูเหนื่อยล้า และโครงหน้าเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน
เลือกเทคนิคที่เหมาะสมช่วยให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนและดูเป็นธรรมชาติ
เทคนิคยกกระชับหน้าแต่ละประเภทมีหลักการทำงานที่แตกต่างกันออกไป การเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับช่วงวัยจะช่วยให้ผิวได้รับการกระตุ้นคอลลาเจนอย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุดอย่างแม่นยำ
- ในช่วงวัย 20 ปี อาจใช้การดูแลผิวด้วยเทคนิคของ Oligio และ EMFACE เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและรักษาความยืดหยุ่น
- เมื่ออายุ 30 ปี เริ่มมีปัญหาผิวไม่กระชับ สามารถเลือก Ulthera Prime, Thermage FLX หรือ Morpheus8 เพื่อช่วยยกกระชับและลดเลือนริ้วรอยแรกเริ่ม
- สำหรับวัย 40 ปี ผิวเริ่มหย่อนคล้อยอย่างเห็นได้ชัด การเลือกใช้ Ulthera Prime, Thermage FLX, Morpheus8 หรือ EMFACE จะช่วยฟื้นฟูผิวให้เต่งตึงและดูอ่อนเยาว์
- เมื่อเข้าสู่ช่วงวัย 50 ปี ปัญหาผิวหย่อนคล้อยรุนแรงขึ้น ควรใช้เทคนิคที่สามารถฟื้นฟูโครงสร้างผิวได้ลึกขึ้น เช่น Ulthera Prime หรือ Thermage FLX อาจทำร่วมกับหัตถการอื่น เพื่อคืนความกระชับให้กับใบหน้า
การดูแลผิวตั้งแต่แรก ป้องกันปัญหาผิวหย่อนคล้อยก่อนเกิดขึ้น
การเริ่มดูแลผิวตั้งแต่วัย 20-30 ปี ด้วยเทคนิคที่เหมาะสม จะช่วยชะลอการเสื่อมของคอลลาเจน และลดความจำเป็นในการใช้เทคนิคที่รุนแรงขึ้นในอนาคต ขณะที่ในวัย 40-50 ปี เทคนิคที่สามารถกระตุ้นคอลลาเจนลึกถึงชั้นโครงสร้างผิวจะช่วยคืนความกระชับ ลดริ้วรอย และช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ได้อย่างดูเป็นธรรมชาติ
ลดความเสี่ยงจากการทำหัตถการที่ไม่เหมาะสม
การใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสมกับในช่วงวัย อาจส่งผลให้ผิวบางลงหรือเกิดการระคายเคืองได้ ดังนั้น การเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับโครงสร้างผิวและปัญหาผิวแต่ละช่วงวัยจะช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและไม่อันตรายมากขึ้น
การยกกระชับหน้า ช่วยแก้ปัญหาผิวอะไรบ้าง?
- การยกกระชับหน้า ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้เต่งตึงขึ้น
- การยกกระชับหน้า ฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรง
- การยกกระชับหน้า ปรับผิวหน้าให้ดูสดใส อ่อนเยาว์
- การยกกระชับหน้า ลดริ้วรอยบริเวณ หน้าผาก หางตา ร่องแก้ม และรอบปาก
- การยกกระชับหน้า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
- การยกกระชับหน้า ปรับโครงหน้าให้ดูเรียวขึ้น
- การยกกระชับหน้า ลดไขมันสะสมที่แก้มและเหนียง
- การยกกระชับหน้า ลดไขมันใต้คาง และยกกระชับผิวบริเวณเหนียง
- การยกกระชับหน้า ช่วยให้ลำคอและเนินอกดูตึงขึ้น
- การยกกระชับหน้า ปรับสมดุลผิวให้เรียบเนียน
- การยกกระชับหน้า รูขุมขนกระชับขึ้น ทำให้ผิวดูเรียบเนียน
- การยกกระชับหน้า ลดความมันบนใบหน้า และป้องกันการเกิดสิว
- การยกกระชับหน้า กระตุ้นการไหลเวียนเลือดใต้ผิว ทำให้ผิวดูสดใสขึ้น
- การยกกระชับหน้า ฟื้นฟูผิวให้ดูสุขภาพดีขึ้น
- การยกกระชับหน้า ปรับสมดุลของกล้ามเนื้อใบหน้า

วิธียกกระชับหน้าที่เหมาะกับแต่ละช่วงวัย
ใครบ้างที่เหมาะกับการยกกระชับหน้า?
- การยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด
- การยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเหนียงเพิ่มขึ้น ทำให้ใบหน้าดูไม่กระชับ
- การยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก หางตาตก ทำให้ใบหน้าดูอ่อนล้า
- การยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยหรือความหย่อนคล้อยบริเวณแก้มและคาง
- การยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวบางลงและสูญเสียความยืดหยุ่น
- การยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ต้องเผชิญแสงแดดหรือมลภาวะบ่อย
- การยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวหน้าเริ่มมีรอยย่นบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา หรือร่องแก้ม
- การยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน ดูโทรมและไม่สดใส
- การยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักลดลงมากและมีผิวย้วย
- การยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยบริเวณเหนียงและลำคอ
- การยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าดูอิดโรย เหนื่อยล้า
- การยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก มุมปากตก ทำให้ดูเศร้าหรือแก่ขึ้น
- การยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหามีปัญหาร่องแก้มลึก ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย
- การยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการป้องกันริ้วรอยและความหย่อนคล้อยก่อนวัย
- การยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมสร้างคอลลาเจนให้ผิวแข็งแรง
- การยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้กรอบหน้าชัดขึ้น
- การยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับโครงหน้าหรือทำให้หน้าดู V-Shape โดยไม่ต้องศัลยกรรม
- การยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องใช้สารเติมเต็ม
- การยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใบหน้าดูกระชับขึ้นโดยไม่ต้องพักฟื้น
- การยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเจ็บตัวจากการศัลยกรรมดึงหน้า
หมายเหตุ:
ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเลือกวิธีการยกกระชับ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล
ใครไม่เหมาะกับการยกกระชับหน้าบ้าง?
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจ หรือมีเครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker)
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคลมชัก หรือมีภาวะเกี่ยวกับระบบประสาท
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคแพ้ภูมิตัวเอง (Autoimmune Disease) เช่น SLE หรือโรคหนังแข็ง
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีสิวอักเสบรุนแรง แผลเป็นที่ยังไม่หาย หรือโรคผิวหนังอักเสบ
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีแผลเปิด หรือแผลเป็นที่ยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบางจากการใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ หรือมีภาวะผิวบางผิดปกติ
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายจนเกิดรอยแดงหรือบวมง่าย
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะไขมันบนใบหน้าต่ำเกินไป
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนในทันที
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์เหมือนการศัลยกรรมดึงหน้า
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีการฉีดสารเติมเต็มบริเวณใบหน้ามาก่อน
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งผ่านการทำศัลยกรรมใบหน้า หรือหัตถการที่ต้องพักฟื้น
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีประวัติเป็น มะเร็งผิวหนัง หรือมีเนื้องอกที่ใบหน้า
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เคยเข้ารับการรักษามะเร็งด้วย เคมีบำบัดหรือรังสีบำบัด
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานและมีภาวะการสมานแผลช้า
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคผิวหนังที่เกี่ยวกับการสร้างคอลลาเจนผิดปกติ เช่น โรคหนังแข็ง (Scleroderma)
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) หรือโรคด่างขาว (Vitiligo)
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะผิวไวต่อแสง หรือผิวไหม้แดดรุนแรง
- การยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับภาวะเลือดออกง่าย หรือการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
คำแนะนำ:
เพื่อผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุด ควรเข้ารับการประเมินจากแพทย์ประจำคลินิกก่อนทำการรักษาทุกครั้ง

วิธียกกระชับหน้าที่เหมาะกับแต่ละช่วงวัย
รวมข้อดีของการยกกระชับหน้า
- การยกกระชับหน้า ช่วยให้ผิวเต่งตึง กระชับขึ้น
- การยกกระชับหน้า ลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยของผิว
- การยกกระชับหน้า ยกกระชับปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน กรอบหน้าชัดขึ้น
- การยกกระชับหน้า เห็นผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึงเกินไป
- การยกกระชับหน้า ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
- การยกกระชับหน้า ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว
- การยกกระชับหน้า ช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระชับรูขุมขน
- การยกกระชับหน้า ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าโทรม ดูเหนื่อยล้า
- การยกกระชับหน้า แก้ปัญหามุมปากตก และช่วยให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น
- การยกกระชับหน้า ลดไขมันสะสมบริเวณใบหน้า
- การยกกระชับหน้า ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง
- การยกกระชับหน้า ช่วยชะลอวัย และลดความจำเป็นในการทำศัลยกรรมดึงหน้า
- การยกกระชับหน้า ฟื้นฟูผิวจากภายใน ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น
- การยกกระชับหน้า สามารถทำได้หลายส่วนของร่างกาย
- การยกกระชับหน้า ไม่อันตรายและได้รับการรับรองระดับสากล
- การยกกระชับหน้า เหมาะกับทุกช่วงวัย ทุกสภาพผิว
- การยกกระชับหน้า สามารถทำซ้ำได้โดยไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง
ข้อจำกัดของการยกกระชับหน้าที่จำเป็นต้องรู้
- การยกกระชับหน้า ไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่เทียบเท่ากับการศัลยกรรมดึงหน้า
- การยกกระชับหน้า ต้องใช้ระยะเวลาในการเห็นผล ไม่ได้เปลี่ยนแปลงทันที
- การยกกระชับหน้า ผลลัพธ์อยู่ได้ชั่วคราว ไม่ถาวร
- การยกกระชับหน้า อาจไม่สามารถลดริ้วรอยลึกได้ทั้งหมด
- การยกกระชับหน้า บางเทคโนโลยีอาจทำให้รู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะทำ
- การยกกระชับหน้า อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยหลังทำ
- การยกกระชับหน้า อาจส่งผลต่อสารเติมเต็ม หรือการร้อยไหมที่เคยทำมาก่อน
- การยกกระชับหน้า มีข้อจำกัดสำหรับบางกลุ่มที่มีโรคประจำตัว

การเตรียมตัวก่อนทำยกกระชับหน้า
- ก่อนทำยกกระชับหน้า ควรเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และให้แพทย์ประเมินสภาพผิว
- ก่อนทำยกกระชับหน้า ควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับ ประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว หรือยาที่กำลังรับประทาน
- ก่อนทำยกกระชับหน้า ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
- ก่อนทำยกกระชับหน้า ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวเป็นประจำ
- ก่อนทำยกกระชับหน้า ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และเตรียมตัวให้พร้อม
- ก่อนทำยกกระชับหน้า หลีกเลี่ยงยาแอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, วิตามินอี อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- ก่อนทำยกกระชับหน้า หลีกเลี่ยงอาหารเสริมบางชนิด อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- ก่อนทำยกกระชับหน้า หลีกเลี่ยงการขัดหน้า สครับผิว หรือใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของกรด
- ก่อนทำยกกระชับหน้า หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด หรือทำให้ผิวไหม้แดด อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- ก่อนทำยกกระชับหน้า งดดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
- ก่อนทำยกกระชับหน้า งดการทำหัตถการอื่น ๆ ที่อาจรบกวนผิว อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์
- ก่อนทำยกกระชับหน้า งดแต่งหน้าในวันเข้ารับการรักษา
การดูแลตัวเองหลังทำยกกระชับหน้า
- หลังทำยกกระชับหน้า ควรทาครีมกันแดด SPF 50 PA+++ เป็นประจำ
- หลังทำยกกระชับหน้า ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นสูง เช่น Hyaluronic Acid, Ceramide
- หลังทำยกกระชับหน้า ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น
- หลังทำยกกระชับหน้า งดขัดหน้า หรือใช้สครับ ในช่วง 1 สัปดาห์
- หลังทำยกกระชับหน้า งดกด นวด หรือถูใบหน้าแรง ๆ
- หลังทำยกกระชับหน้า งดใช้เครื่องสำอางหนัก ๆ ใน 24 ชั่วโมงแรก
- หลังทำยกกระชับหน้า งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
- หลังทำยกกระชับหน้า หลีกเลี่ยงซาวน่า, อบไอน้ำ, อาบน้ำอุ่นจัด และการออกกำลังกายหนัก
- หลังทำยกกระชับหน้า หลีกเลี่ยงการโดนแดดโดยตรงอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
- หลังทำยกกระชับหน้า หลีกเลี่ยงสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA, Retinol ในช่วง 3-7 วันแรก
- หลังทำยกกระชับหน้า หลีกเลี่ยงการทำหัตถการอื่น ๆ ที่รบกวนผิวในช่วง 1-2 สัปดาห์
วิธียกกระชับหน้าที่เหมาะกับแต่ละช่วงวัย
การยกกระชับหน้าอยู่ได้นานแค่ไหน?
- ผลลัพธ์ของการยกกระชับหน้าจะขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่ใช้ โดย Thermage FLX และ Ulthera อยู่ได้นาน 1-2 ปี, ส่วน Oligio และ EMFACE อยู่ได้นาน 6-12 เดือน อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานขึ้นหากมีการดูแลผิวอย่างเหมาะสม
ยกกระชับหน้าทำแล้วเจ็บไหม?
- ระดับความรู้สึกเจ็บของการยกกระชับหน้าขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่ใช้ เช่น Ultherapy อาจทำให้รู้สึกจี๊ด ๆ หรืออุ่นใต้ผิว ส่วน Thermage อาจมีความรู้สึกร้อนเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปสามารถทนได้ หรือแพทย์อาจใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อลดความไม่สบายขณะทำ
การยกกระชับหน้าช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตาได้ไหม?
- สามารถช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตาได้ โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อดูแลผิวบริเวณนี้โดยเฉพาะ เช่น Ultherapy, Thermage FLX และ Morpheus8 ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวรอบดวงตาดูกระชับขึ้น และลดริ้วรอยเล็ก ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ต้องทำยกกระชับหน้ากี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
- การยกกระชับหน้ามักเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1-3 เดือน เนื่องจากเป็นการกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว โดยส่วนใหญ่ Ultherapy และ Thermage สามารถทำปีละครั้ง เพื่อคงผลลัพธ์ให้นานขึ้น
การยกกระชับหน้าสามารถทำเองที่บ้านได้ไหม?
- ปัจจุบันมีเครื่องยกกระชับหน้าแบบพกพาสำหรับใช้ที่บ้าน แต่ประสิทธิภาพต่ำกว่าการทำในคลินิก เพราะพลังงานไม่สามารถลงลึกถึงชั้นผิวได้เท่ากับเครื่องมือทางการแพทย์ ดังนั้นหากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน แนะนำให้ทำกับแพทย์ประจำคลินิกเท่านั้น
ยกกระชับหน้ากับโปรแกรมฉีดโบหรือโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แตกต่างกันอย่างไร?
- การยกกระชับหน้าช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและยกผิวให้กระชับขึ้น โดยไม่ต้องฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในผิว ส่วนโปรแกรมฉีดโบช่วยลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า โดยทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ขณะที่ฉีดฟิลเลอร์ ใช้เติมเต็มร่องลึกให้ผิวดูอิ่มขึ้น ซึ่งทั้งหมดสามารถใช้ร่วมกันเพื่อให้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น
ถ้าหยุดทำยกกระชับหน้า ผิวจะแย่ลงกว่าเดิมไหม?
- การหยุดทำยกกระชับหน้า จะไม่ทำให้ผิวแย่ลงกว่าเดิม แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผิวจะกลับสู่สภาพที่เป็นไปตามวัย เพราะการผลิตคอลลาเจนตามธรรมชาติลดลงตามอายุ อย่างไรก็ตาม หากดูแลผิวดี ผลลัพธ์ของการยกกระชับก็จะอยู่ได้นานขึ้น
การเลือก วิธียกกระชับหน้าให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย เป็นกุญแจสำคัญในการคงความอ่อนเยาว์และฟื้นฟูสุขภาพผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในช่วงวัย 20 ปี การดูแลควรเน้นไปที่การป้องกันและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่วนวัย 30ปี จะเริ่มมีสัญญาณของริ้วรอยและความหย่อนคล้อยเล็กน้อย ควรเลือกเทคนิคที่ช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นของผิว ขณะที่วัย 40 ปี ต้องอาศัยการฟื้นฟูในระดับลึกเพื่อคืนความกระชับ และวัย 50 ปี อาจต้องใช้เทคโนโลยีที่ช่วยปรับโครงสร้างผิวเพื่อคืนความอ่อนเยาว์อย่างเต็มที่
เทคโนโลยีความงามที่ก้าวล้ำในปัจจุบัน เช่น Thermage FLX, Ulthera, Morpheus8, Oligio และ EMFACE ได้รับการพัฒนาให้สามารถยกกระชับผิวหน้าได้แบบไม่อันตราย โดยไม่ต้องผ่าตัด ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจน ลดริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้ดูเรียวกระชับอย่างดูเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ผลลัพธ์หลังทำขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพผิว โครงสร้างใบหน้า และการดูแลหลังทำหัตถการ
ก่อนเลือกทำหัตถการยกกระชับ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านผิวพรรณ เพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ เพราะการดูแลผิวอย่างเหมาะสม ควบคู่ไปกับการเลือกใช้เทคโนโลยีที่ถูกต้อง จะช่วยให้คุณคงความอ่อนเยาว์ได้อย่างยาวนาน และเผยผิวที่กระชับ เต่งตึง ดูสุขภาพดีได้ในทุกช่วงวัย