Sculptra กระตุ้นคอลลาเจน สร้างคุณภาพผิว คืออะไร?

Sculptra

BEFORE & AFTER

Before and After Sculptra
Before and After Sculptra

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




    วันที่สะดวกในการติดต่อ




    เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    Sculptra ตัวสร้างคุณภาพผิวที่เป็นที่พูดถึงมากที่สุด

    Sculptra ที่สุดของงานผิวที่เป็นที่กล่าวขานกันมาตลอดถึงความดีงามหลังการรักษาว่าได้งานผิวที่มีคุณภาพ จนไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจึงได้รับความนิยมไปทั่วโลกขนาดนี้ เพราะเราทุกคนเชื่อว่าการจะมีผิวที่ดีได้ต้องเริ่มมาจากภายในซึ่งนั่นหมายถึงชั้นใต้ผิวหนังนั่นเอง เมื่อมีอายุที่มากขึ้นก็ทำให้ผิวหนังไม่สามารถคงสภาพที่ยังดูสวยสดใสได้เหมือนตอนยังอ่อนเยาว์จึงต้องเริ่มจากการบำรุงผิวจากใต้ชั้นผิว เพื่อให้สร้างความอ่อนเยาว์จากภายในให้ส่งผลออกมาที่ผิวภายนอกนั่นเอง

    Sculptra  เป็นหนึ่งโปรแกรมที่ช่วยสร้างคอลลาเจนใต้ผิวที่ถูกกล่าวขานอย่างแพร่หลายมากๆเนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่ดี ดูมีความเป็นธรรมชาติ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์กว่าวัยได้

    Sculptra คืออะไร?

    Sculptra Collagen Biostimulator หรือสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวที่เป็นตัวแรกของโลกได้รับความแพร่หลายไปทั่วโลกมาอย่างยาวนานตั้งแต่ 1999 Sculptra ถูกใช้อย่างเป็นวงกว้างมาแล้วกว่า 20 ปีจากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ทั้งยังเป็น Collagen Biostimulator ตัวเดียวที่ได้รับรองมาตรฐานจาก US FDA ประเทศสหรัฐอเมริกาและ ได้รับ อย.ไทยในปี 2023

    Sculptra Collagen Biostimulator คือสาร Poly-L-Lactic (PLLA) ที่ทำให้มีขนาดที่เล็กที่สุด เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการนำมาฉีดเพื่อเพิ่มการกระตุ้นคอลลาเจนให้กับบริเวณใต้ผิวหนัง ซึ่งสาร Poly-L-Lactic (PLLA) เป็นสารชนิดเดียวกับเส้นไหมที่แพทย์ใช้ทำการเย็บแผลให้กับคนไข้ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดการตกค้างหรือส่งผลให้เกิดอันตรายหลังจากการทำ โดยสาร Poly-L-Lactic (PLLA) จะเข้าไปทำการกระตุ้นคอลลาเจนให้กับบริเวณใต้ผิวหนังที่คอลลาเจนเริ่มมีการเสื่อมสลายไปตามวัย สาร Poly-L-Lactic (PLLA) Collagen Biostimulator หลังจากฉีดไปแล้วจะสามารถย่อยสลายได้เป็น H2O, Co2 และ Lactic acid จึงสามารถเข้ากันกับร่างกายของคนเราได้เป็นอย่างดีและยังย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ทั้งนี้ Sculptra ยังมีงานวิจัยรองรับในการรักษามากกว่า 50 งานวิจัย รวมถึงได้ทำกลุ่มตัวอย่างในการรักษา และทดลองมากกว่า 1,000 ราย จึงถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีผู้รับรองและการันตีเรื่องประสิทธิภาพความพึงพอใจรวมทั้งความปลอดภัยในการรักษา

    Sculptra เป็นโปรแกรมฉีดที่จัดอยู่ในกลุ่ม Collagen Biostimulator ที่ใช้ในการฉีดให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจนของตัวเองเพื่อทดแทนที่คอลลาเจนเก่าใต้ผิวหนังที่สูญเสียไป โดยการทำงานใต้ผิวหนังชั้นลึกเพื่อให้ส่งผลออกมาถึงผิวหนังชั้นนอกจึงทำให้ช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจนและช่วยคืนความอ่อนเยาว์ ชุ่มชื่นให้กับผิว ยกกระชับผิวที่มีความหย่อนคล้อยให้กลับมากระชับอีกครั้ง ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกบนผิวให้ตื้นขึ้น ปรับผิวกระจ่างใส รูขุมขนกระชับแน่นขึ้น คุณภาพของผิวและความเต่งตึงของใบหน้าในภาพรวมดีขึ้น  ปรับให้ผิวที่เคยหลวมจากการสูญเสียคอลลาเจน ให้แน่น อิ่มฟูอีกครั้ง และด้วยความที่ Sculptra ไม่ใช่การฉีดสารเติมเต็มแต่เป็น Collagen Biostimulator จะทำให้ใต้ผิวค่อยๆฟื้นฟูตัวเองและได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากที่สุดโดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหรืออาการข้างเคียงใดๆในการรักษา

    Sculptra มีคอลลาเจนที่สำคัญต่อร่างกายอย่างไร?

    คอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่จัดเป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนังมนุษย์และมีสัดส่วนในผิวหนังของคนเราสูงถึง 80% – 90% ไม่เพียงเท่านั้นคอลลาเจนยังเป็นส่วนของโครงสร้างสำคัญต่างๆที่ประกอบในร่างกาย อาทิ ในกระดูก ในกล้ามเนื้อ เป็นส่วนประกอบของเล็บ เส้นเอ็น รวมทั้งข้อต่อของคนเราด้วย

    ร่างกายของมนุษย์ประกอบไปด้วยคอลลาเจนรวมกันหลายชนิดแต่จะมี 5 ชนิดที่สามารถพบได้บ่อยในร่างกายคือ

    1. Collagen Type 1 คอลลาเจนไทป์นี้เป็นคอลลาเจนที่มีความยืดหยุ่นรวมทั้งมีความแข็งแรงสูง สามารถพบได้บริเวณผิวหนัง และเส้นเอ็น
    2. Collagen Type 2 คอลลาเจนไทป์นี้เป็นคอลลาเจนที่มีเส้นใยหลวมกว่าคอลลาเจนไทป์ 1 สามารถพบได้บริเวณกระดูก และข้อต่อ
    3. Collagen Type 3 คอลลาเจนไทป์นี้เป็นคอลลาเจนที่มีความแข็งแรงต่ำเมื่อเทียบกับคอลลาเจนไทป์ 1 สามารถพบได้ที่บริเวณผิวหนัง และหลอดเลือด
    4. Collagen Type 4 คอลลาเจนไทป์นี้เป็นคอลลาเจนที่มีลักษณะเฉพาะตัวมาก สามารถพบได้ตามเนื้อเยื่อที่เกี่ยวพันที่หุ้มกล้ามเนื้อ ไขมัน และเส้นใยฝอยของเยื่อบุผิว
    5. Collagen Type 5  คอลลาเจนไทป์นี้เป็นคอลลาเจนที่มีลักษณะคล้ายกันกับคอลลาเจนไทป์ 1 สามารถพบได้ตามเส้นผม เนื้อเยื่อของทารก รวมไปจนถึงผิวของเซลล์

    Sculptra มีความสำคัญอย่างไรต่อเซลล์ Fibroblast

    เซลล์ Fibroblast  คือเซลล์ที่ก่อให้เกิดคอลลาเจนและอิลาสติน ที่เรารู้จักกัน โดยคอลลาเจนและอิลาสตินนั้นเป็นสิ่งที่อยู่ภายใต้ผิวหนังของคนเราและเป็นตัวทำหน้าที่สร้าง และรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว รวมทั้งยังทำหน้าที่ในการทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรง สร้างความยืดหยุ่น เด้งกระชับ แต่เมื่อคนเรามีอายุที่มากขึ้นโดยปกติประมาณ 25-30 ปี เซลล์ Fibroblast จะค่อยๆลดลงเรื่อยๆตามวัย ส่งผลให้คอลลาเจน และอิลาสตินไม่เกิดการสร้างขึ้นใหม่ จึงทำให้ผิวของคนเราเกิดความหย่อนคล้อยลงเรื่อยๆเมื่อมีอายุที่มากขึ้น

    กระบวนการทำงานของ Sculptra หลังฉีดลงสู่ผิว?

    หลังฉีด Sculptra Collagen Biostimulator ลงสู้ผิวแล้วผิวจะมีความเติมเต็ม กระชับ เด้งฟูขึ้นทันทีหลังจากฉีด อันเนื่องมาจาก Sculptra เป็นโปรแกรมที่จะต้องทำการผสมกับ Sterile water ก่อนแล้วค่อยนำมาฉีดเข้าที่บริเวณผิวหนังจึงทำให้ผิวหนังเติมเต็มขึ้นจากการฉีดน้ำเข้าไปที่ผิวหนัง หลังจากนั้นประมาณ 2-3 วันจะค่อยๆยุบลง และจะกลับมายุบ ไม่เต่งตึงเหมือนเดิมเนื่องจากร่างกายได้ทำการดูดซึม Sterile water ที่ฉีดเข้าไปจนหมด

    โดยระหว่างนั้น Sculptra ก็จะกระจายตัวไปจนทั่วผิวหนัง หลังจากนั้น Sculptra ก็จะเริ่มทำงานกับผิวหนังโดยหลังจากที่ฉีด Sculptra และตัวยาเริ่มกระจายตัวไปสู่ส่วนต่างๆของผิวหนังอนุภาคของ Sculptra จะเริ่มทำงานโดยการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายด้วยวิธีการคือการดึงเซลล์ Macrophages เพื่อมาล้อมรอบตัวอนุภาคของ Sculptra ให้มากที่สุดจากนั้นจะเริ่มทำการส่งสัญญาณให้กับ Fibroblast ที่อยู่ใต้ผิวหนังเพื่อให้เกิดการรวมตัวที่มากขึ้น ทำให้ผิวมีความแข็งแรงขึ้น หนาแน่นขึ้นยกกระชับมากขึ้นและเมื่อเวลาผ่านไป Sculptra จะค่อยๆเกิดการสลายออกไปเองตามกระบวนการของร่างกาย แต่จะเหลือคอลลาเจนและอิลาสตินที่ถูกสร้างในขณะที่ Sculptra ยังอยู่ในร่างกายเอาไว้แทนที่ ทำให้ผิวที่เคยหลวมเกิดการกระชับแน่นขึ้น และช่วยในการยกกระชับใบหน้า และฟื้นฟูคุณภาพผิวได้ยาวนานถึง 25 เดือนซึ่งยังไม่มี Collagen Biostimulator ตัวใดสามารถทำได้

    ความเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้า และผิวหนังเมื่อมีอายุมากขึ้น

    เมื่อคนเรามีอายุและวัยที่เพิ่มมากขึ้น โครงสร้างและกระดูกบนใบหน้าจะมีความเปลี่ยนแปลงเนื่องจากกระดูกของเราจะเกิดการย่อยสลาย ( Volume loss ) และกร่อนลงไปตามกาลเวลา จึงทำให้ใบหน้ามีความเปลี่ยนแปลงจากการสูญเสียปริมาตรของกระดูก และเมื่อกระดูกมีการผุกร่อนลงไปแล้วใบหน้าภาพรวมจะดูโทรมขึ้นเนื่องจากโครงหน้าจะเริ่มตอบ ไม่สดใสเหมือนตอนกระดูกยังไม่ผุกร่อนนั่นเอง

    ไม่เพียงเท่านั้น คอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนังของคนเรา ก็จะสร้างได้น้อยลงเรื่อยๆไปจนถึงหยุดสร้าง และสูญเสียออกไปเรื่อยๆ โดยคนเราจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนในผิวไปทุกๆปีละ 1-2 % เมื่ออายุเราเข้าสู่วัย  20 ปี คอลลาเจนในผิวหนังจะเริ่มสร้างได้น้อยลง และจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนไปเมื่อเข้าสู่วัย 45 ปีในปริมาณ 1- 2% ซึ่งภาพรวมหลังจากที่ค่อยๆสูญเสียกระดูกอันเป็นโครงสร้างของใบหน้ารวมทั้งสูญเสียคอลลาเจนไป ก็จะดูหย่อนคล้อย จากที่เคยตึง กระชับก็จะไม่เหมือนผิวในช่วงวัยก่อนหน้าอีกแล้ว

    อะไรคือความพิเศษของ Sculptra ?

    Sculptra เป็น Original Collagen Biostimulator ที่สามารถกระตุ้นให้ผิวหนังเกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวโดยเป็นคอลลาเจนตามธรรมชาติได้ สูงถึง 66.5% โดยเป็นคอลลาเจน type1 ที่ช่วยในการสร้างความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้กับผิว ได้หลังจากฉีด Sculptra ไป 3 เดือนโดยประมาณ ซึ่งคอลลาเจนที่ได้จะเป็นคอลลาเจนที่เป็นคอลลาเจนที่ผลิตจากผิวหนังของเราเองไม่ก่อให้เกิดอันตราย

    ในการฉีด Sculptra ในแต่ละครั้งจะต้องใช้ปริมาณยาเท่าไร?

    จากการทำการวิจัยเกี่ยวกับ Sculptra Collagen Biostimulator โดยเน้นการทำการทดลองจากคนจริงและมีกลุ่มตัวอย่างในจำนวนที่สามารถทำการคาดคะเนได้แล้ว แพทย์แนะนำให้ใช้ Sculptra ในช่วงอายุคนไข้ 10 ปี ต่อ Sculptra 1 ขวด โดยสามารถปรับเปลี่ยนตามความหลวมของผิวหนังแต่ละคนได้ ทั้งนี้ให้ปรึกษาแพทย์ถึงจำนวนตัวยาที่ใช้ในการรักษาก่อนเข้ารับบริการ

    Sculptra

    Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมาะกับใคร ?

    1. Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
    2. Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยบนใบหน้าทั้งริ้วรอยที่เห็นชัดและริ้วรอยที่เห็นไม่ชัด
    3. Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยตามวัย
    4. Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีอายุมากและร่างกายหยุดการผลิตคอลลาเจนแล้ว
    5. Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน
    6. Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีผิวที่แข็งแรง
    7. Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีผิวที่อ่อนเยาว์
    8. Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีคุณภาพผิวที่ดี
    9. Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีผิวที่กระชับอิ่มฟู
    10. Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานไม่ต้องการฉีดบ่อยๆ

    Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับใคร ?

    1. Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีประวัติผิวหนังมีการเกิดคีลอยด์หรือมีแผลเป็นนูน
    2. Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีประวัติผิวหนังเคยแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis)
    3. Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนัง
    4. Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีการอักเสบของผิวในบริเวณที่ต้องการทำ
    5. Sculptra เหมาะกับผู้ที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ ให้นมบุตร

    หลังจากฉีด Sculptra จะมีผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างไร?

    • หลังจากฉีด Sculptra ใบหน้าที่ดูผอมตอบ จากการสูญเสียคอลลาเจน จะถูกเติมเต็มด้วย Collagen Biostimulator ให้ดูอวบอิ่ม มีน้ำมีนวลมากขึ้น
    • หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยในการเติมร่องลึกและริ้วรอยให้ตื้นขึ้นได้
    •  หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยในการเติมเต็มหน้าแก้มที่แบนทำให้โหนกแก้มดูเล็กใบหน้าโดยรวมดูละมุนลงได้
    •  หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยปรับให้ใบหน้ามีความสวยอิ่มเอิบและดูผ่องเนื่องจากผิวดีมากขึ้น
    • หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยทำให้รูขุมขนเล็กลง ลดการเกิดการอุดตันอันเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้
    • หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยปรับสภาพผิวให้ดีมากยิ่งขึ้นได้
    • หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยให้ผิวที่หลวมมีความหนาแน่นมากขึ้น
    • หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยประให้ผิวดูสว่างกระจ่างใสมากขึ้น
    • หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยลดริ้วรอยและจุดด่างดำเล็กๆได้
    • หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยทำให้ผิวมีคุณภาพที่ดีมากขึ้นได้
    • หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยให้ใบหน้าสวยอิ่มเอิบมากขึ้น ดูแตกต่างจากเดิม เปลี่ยนตัวเองให้คุณเป็นคนใหม่ได้ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์
    Sculptra

    Sculptra สามารถทำที่บริเวณใดได้บ้าง ?

    • Sculptra สามารถทำได้ในบริเวณ ขมับ
    • Sculptra สามารถทำได้ในบริเวณ หน้าแก้ม
    • Sculptra สามารถทำได้ในบริเวณ แก้มล่าง
    • Sculptra สามารถทำได้ในบริเวณ แนวกราม

    Sculptra ไม่สามารถทำที่บริเวณใดได้บ้าง?

    • Sculptra ไม่สามารถทำได้ในบริเวณ โซนใต้ตา
    • Sculptra ไม่สามารถทำได้ในบริเวณ ทีโซน
    • Sculptra ไม่สามารถทำได้ในบริเวณ ร่องแก้ม
    • Sculptra ไม่สามารถทำได้ในบริเวณ ร่องน้ำหมาก

    โดยบริเวณที่กล่าวมาทั้งหมดนับเป็นจุดที่มีความบอบบางสูง อาจทำให้เกิดความอันตรายในการทำได้ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ และเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการรักษา

    ลักษณะของการบรรจุขวดของ Sculptra มีลักษณะของการบรรจุขวดอย่างไร?

    • Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่บรรจุมาในขวดที่สะอาดปราศจากเชื้อ
    • Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาในรูปแบบ dried powder หรือที่เรียกกันว่าเป็นแบบผง

    Sculptra ที่บรรจุมาในขวด จะประกอบไปด้วย

    1.  อนุภาคของสาร Poly-L-lactic acid (PLLA) ปริมาณ 150 mg โดยเป็นสารที่เป็นส่วนประกอบหลักและไม่ก่อให้เกิดอันตราย
    2. Sodium Carboxymethylcellulose สารให้ความคงตัว ปริมาณ 90 mg โดยเป็นส่วนประกอบที่ส่งผลในการทำละลาย และเมื่อ Sculptra เกิดการละลายแล้ว จะสามารถใช้งานได้ทันที
    3. Mannitol ปริมาณ 127.5 mg เป็นส่วนประกอบที่ทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถมีการบรรจุเป็นแบบสุญญากาศได้
    Sculptra

    จะเห็นผลหลังจากการฉีด Sculptra นานเท่าไร?

    หลังจากการฉีด Sculptra Collagen Biostimulator จะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นหลังจากการฉีดอย่างต่อเนื่อง โดยจะสามารถสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดในระยะเวลา 2-3 สัปดาห์เป็นต้นไป และจะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนหลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน โดยผิวหนังจะเริ่มสร้างคอลลาเจนไทป์ 1 ได้สูงถึง 66.5%

    เมื่อเข้ารับการฉีด Sculptra ควรเตรียมตัวอย่างไร ?

    • ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาด้วย Sculptra ไม่ควรฉีดหรือทำการรักษาใบหน้าหรือผิวหน้าด้วยหัตถการประเภทอื่นๆ 2 – 4 สัปดาห์
    • ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาด้วย Sculptra ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด อาทิยาในกลุ่มยาแอสไพริน เป็นระยะเวลาขั้นต่ำ 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันอาการฟกช้ำ
    • ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาด้วย Sculptra ควรงดการรับประทานวิตามินบำรุงที่เป็นสาเหตุทำให้เลือดหยุดไหลยากในตอนฉีด Sculptra  อาทิ วิตามินอี น้ำมันตับปลาเป็นต้น แปะก๊วย เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์
    • ผู้มีอาการป่วย หรือมีโรคประจำตัวร้ายแรง ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนเข้าทำการฉีด Sculptra
    • ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาด้วย Sculptra ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระยะเวลา 1-3 วัน
    • ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาด้วย Sculptra  ควรดูแลสุขภาพร่างกายอยู่ในสภาพปกติแข็งแรงดี

    ขั้นตอนการฉีด Sculptra

    • ปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์เพื่อประเมินผิวหน้า รวมทั้งสภาพผิวอย่างละเอียดก่อนการทำการฉีด Sculptra
    • ผู้ช่วยแพทย์จะทำความสะอาดผิว เพื่อชะล้างและกำจัดความันรวมทั้งสิ่งสกปรกบนใบหน้า ก่อนการทำการฉีด Sculptra
    • ทายาชาเพื่อลดความเจ็บในระหว่างทำการฉีด Sculptra ทิ้งเอาไว้ 30-40 นาที
    • เช็ดยาชาออกเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำการฉีด Sculptra
    • แพทย์ลงมือทำการฉ๊ด Sculptra โดยการฉีดเข้าสู่ใต้ผิวหนังอย่างแม่นยำเพื่อให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว
    • เช็ดเพื่อห้ามเลือด
    • ประคบเย็นเพื่อให้รอยเข็มจางลง และแปะพลาสเตอร์ปิดรอยเข็ม

    วิธีการดูแลตัวเองหลังจากฉีด Sculptra เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ?

    • หลังจากเข้ารับบริการฉีด Sculptra ควรนวดให้ครบ Triple 5 คือ นวด 5 วัน 5ครั้ง วันละ 5 นาที ตามคำสั่งของแพทย์เพื่อให้ Sculptra กระจายตัวไปทั่วทั้งใบหน้า
    • หลังจากเข้ารับบริการฉีด Sculptra ควรหลีกเลี่ยงการให้ใบหน้าสัมผัสแสงแดดจัดหรือแสงยูวีเช่นแสงไฟจนกว่าอาการบวมและแดงจากการฉีดจะหายไป
    • หลังจากเข้ารับบริการฉีด Sculptra ไม่ควรเข้ารับการทำหัตถการชนิดอื่นๆ ในระยะเวลา 2-4 สัปดาห์ เพื่อให้ตัวยา Sculptra ได้ทำงานก่อน
    • หลังจากเข้ารับบริการฉีด Sculptra ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าเนื่องจากใบหน้ายังมีความบวมอยู่
    • หลังจากเข้ารับบริการฉีด Sculptra ควรหลีกเลี่ยงการอบซาวน่า หรือการอบไอน้ำในระยะเวลา 24 ชั่วโมง
    • หลังจากเข้ารับบริการฉีด Sculptra หากมีอาการเจ็บในบริเวณที่ทำสามารถใช้เจลเย็นประคบในบริเวณที่ฉีด Sculptra ได้

    Triple 5 วิธีการนวดใบหน้าหลังฉีด Sculptra ทั้งหมด 4 ท่า ประกอบด้วย

    ท่าที่ 1 ใช้นิ้วโป้งนวดไปที่บริเวณขมับด้านซ้าย และด้านขวา  จากนั้น ให้กำมือและค่อย ใช้กำปั้น นวดคลึง จากเลื่อนจากหน้าผากออกไปทางขมับด้านซ้ายและขวาพร้อมๆกัน

    ท่าที่ 2 ให้ยกนิ้วโป้งขึ้น แล้ววางนิ้วโป้งให้แนบกับแก้มด้านซ้ายและขวา จากนั้นค่อยๆเลื่อนนิ้วโป้ง ให้ออกไปบริเวณข้างแก้มพร้อมกันทั้งซ้ายและขวาโดยใช้วิธีกดแล้วค่อยๆ เลื่อนออกอย่างช้าๆ และเบามือ

    ท่าที่ 3 ให้กำมือ แล้วใช้ในส่วนอุ้งมือกดเข้าที่บริเวณข้างแก้ม จากนั้นค่อยๆ นวดโดยการเริ่มไล่จากด้านล่างใบหน้า ขึ้นไปด้านบนใบหน้า ให้ถึงบริเวณโหนกแก้ม ให้ทำวนหลายๆครั้ง ซึ่งวิธีนวดนี้จัดเป็นวิธีการยกกระชับผิวหน้า

    ท่าที่ 4 ให้ยกนิ้วโป้งเหมือนกันกับท่าที่ 2 แล้วนำนิ้วมาจรดที่บริเวณคางจากนั้นจึงค่อยๆ เลื่อนนิ้วโป้งไล่ขึ้นไปตามแนวสันกราม

    โดยการนวด Triple 5  แนะนำให้นวด 5 วันหลังจากการฉีด Sculptra วันละ 5 ครั้ง และครั้งละ 5 นาที เพื่อให้ผลลัพธ์ในการฉีด Sculptra เป็นไปอย่างดีที่สุด

    Sculptra ต้องทำกี่ครั้งเพื่อการรักษาที่ดีและเห็นผลที่สุด

    Sculptra จำนวน 2 – 3 ครั้ง และเมื่อครบกำหนดควรมาทำเพิ่มเพื่อผลลัพธ์อันเป็นที่น่าพึงพอใจและเพื่อคงสภาพผลลัพธ์ของผิวให้ดีไปโดยตลอด

    Sculptra ควรเว้นระยะเวลาการฉีดนานเท่าไร ?

    ในการฉีด Sculptra ควรเว้นระยะห่างในการฉีดประมาณ 4 – 6 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์และประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี

    ผลข้างเคียงของ Sculptra มีอะไรบ้าง?

    หลังจากฉีด Sculptra  ในช่วง 1-2 วันแรก อาจมีอาการปวด บวมหรือแดงที่ผิว อาการเหล่านี้จะสามารถหายไปเองได้ตามธรรมชาติในระยะ 4-5 วัน โดยไม่ต้องกังวล

    หลังจากฉีด Sculptra อาจมีการเจอตุ่มนูน บวมหรือก้อนเล็กๆ ในบริเวณใต้ผิวหนังที่ฉีด ซึ่งเป็นอาการปกติหลังการทำสามารถหายได้เองโดยไม่ต้องกังวล หากมีความกังวลสามารถแจ้งโที่เข้ารับบริการเพื่อให้แพทย์ทำการนวด เพื่อการกระจายตัวของสาร PLLA ที่มากขึ้นและไม่เกาะตัวกันเป็นก้อน

    Sculptra สามารถทำได้ตอนอายุเท่าไร?

    โดยปกติคอลลาเจนของคนเราจะลดลงตั้งแต่มีอายุ 20 ปี เป็นต้นไปและจะเริ่มสร้างคอลลาเจนได้ช้าลงตามลำดับดังนั้นเมื่อคอลลาเจนลดลง จึงสามารถทำการสร้างงคอลลาเจนเพื่อทดแทนคอลลาเจนที่ลดลงได้ในทันทีเพื่อให้ผิวหนังยังคงสภาพที่ดีอยู่และเพื่อไม่ให้ความชุ่มชื้น ยืดหยุ่นบนผิวลดลง ทั้งนี้ยังเป็นการยืดอายุของผิว รวมทั้งยังช่วยคงสภาพความแน่นกระชับของผิวให้มีริ้วรอยช้าลงกว่าผู้ที่เริ่มฉีด Sculptra ในอายุที่มากอีกด้วย

    Sculptra สามารถทำร่วมกับโปรแกรมประเภทฉีดอื่นๆได้หรือไม่ ?

    Sculptra เป็นโปรแกรมฉีดประเภท Biostimulator ให้เพื่อฉีดกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวโดยมีวัตถุประสงค์ต่างจากโปรแกรมฉีดชนิดอื่นๆที่อาจเป็นการฉีดเพื่อเติมเต็มอย่างฟิลเลอร์หรือลดขนาดกล้ามเนื้อ อย่างฉีดโบ จะเห็นได้ว่าโปรแกรมฉีดแต่ละชนิดจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปอีกทั้งโปรแกรมฉีดแต่ละชนิดยังทำงานคนละชั้นผิวหนังของใบหน้า

    จึงสามารถฉีด Sculptra ร่วมกับโปรแกรมฉีดชนิดอื่นๆได้ นับเป็นสิ่งที่ดีอีกด้วยเนื่องจากเป็นการดูแลความงามอย่างทั่วถึงทุกชั้นผิวทั้งนี้ในการทำนัดเพื่อเข้ามาทำทุกโปรแกรมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญถึงลำดับการทำเพื่อให้กระทำทุกโปรแกรมได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

    Sculptra เป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเนื่องจากงานผิวหรือ skin quality เป็นสิ่งที่มาแรงมากในช่วงนี้ จึงมีหลากหลายคลินิกเสริมความงามให้ความสนใจ ดังนั้นสิ่งที่ควรให้ความคำนึงถึงก่อนทำการรักษาทุกครั้งคือความน่าเชื่อถือของคลินิกที่ให้บริการ ความได้มาตรฐาน ความสะอาด ชนิดของยา และการการันตีต่างๆ รวมทั้งประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำการดูแล จึงควรศึกษาหาข้อมูลโดยละเอียดทุกครั้งก่อนเข้ารับบริการเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เต็มประสิทธิภาพที่สุดในการรักษา

    ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




      วันที่สะดวกในการติดต่อ




      เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว