ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
SUPER HIFU (ไฮฟู) ยกกระชับ เก็บกรอบหน้า ปรับหน้าเรียว
เคยเป็นไหม เวลาถ่ายรูปกับเพื่อน ๆ แล้วต้องหลบด้านหลังเพื่อนอยู่เสมอ ๆ เพราะว่ากลัวหน้าบาน หน้าใหญ่ และรู้หรือไม่ว่าการหน้าบาน และหน้าใหญ่ของคนเรานั้นไม่ได้เกิดจากโครงหน้าของเราตั้งแต่เกิด แต่เกิดจากการหย่อนคล้อย และห้อยตกลงมาของผิวหน้าของคนเราตามอายุ โดยแต่ละช่วงอายุจะมีความหย่อนคล้อยและริ้วรอยที่มากขึ้น ดังนี้
เมื่อมีอายุถึง 20 ปี ผิวหน้าของเราจะเริ่มมีปัญหาเบื้องต้นจากชั้นผิวหนังแท้ เนื่องจากวันนี้ยังมีการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวอยู่ จะลดการผลิตคอลลาเจนเพียงเล็กน้อย โดยจะเห็นได้ว่าเมื่อมีอายุในวัย 20 กลางถึง 20 ปลาย จะเริ่มมี ริ้วรอย ความหย่อนคล้อยเกิดขึ้นต่างจากตอนช่วง Teen age
เมื่ออายุเข้าสู่วัย 30 ปี ผิวจะเริ่มขยับไปมีปัญหาในส่วนผิวหนังแท้ที่มากขึ้น รวมทั้งผิวหนังชั้นหนังกำพร้า หรือผิวชั้นนอกเกิดการผลัดตัวช้าลง ในช่วงวัยนี้จะเห็นว่าผิวหน้าจะเริ่มยกหย่อนลงมาอย่างเห็นได้ชัดมากขึ้น จากการที่คอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิวถูกทำลาย และยังสร้างขึ้นน้อยลง รวมทั้งผิวจะเริ่มมีความหยาบกร้านจากการผลัดตัวช้าของผิวร่วมด้วย
เมื่ออายุก้าวเข้าสู่วัย 40 ปี ในวัยนี้ ผิวหนังจะเริ่มมีความอ่อนแอ และเกิดปัญหาได้มากยิ่งขึ้น อันเนื่องมาจากคุภาพผิวที่ไม่ดีเท่าเก่า ความหนาแน่นของชั้นผิวไม่เหมือนตอนยังสาว จากการสลายของไขมัน และชั้นเนื้อเยื่อที่อยู่ระหว่างชั้นไขมัน และชั้นกล้ามเนื้อที่เรารู้จักกันในชื่อว่าชั้น SMAS ที่มีหน้าที่ในการยกผิวให้มีความกระชับ ได้เริ่มเสื่อมคุณภาพ ทำให้ความสามารถในการยกกระชับของชั้น SMAS ลดน้อยลง ทำให้ผิวหน้ามีความหย่อนคล้อยลง และจะมากขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่ดูแล
และเมื่ออายุเข้าสู่วัย 50 ปี จากที่มีปัญหาผิวอยู่แล้วก็จะยิ่งมีปัญหาผิวมากขึ้นไปอีกขั้น จะเริ่มเห็นว่า รูปหน้าจากที่เคยหงายขึ้นก็จะเริ่มคว่ำ ส่วนต่าง ๆ บนใบหน้าก็จะเริ่มหย่อน และคล้อยลงมา ปากเริ่มคว่ำ เริ่มมีร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และจะหย่อนคล้อยมากขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่ดูแล เนื่องจากโครงสร้างในส่วนกระดูกของใบหน้าจะมีการทรุด หรือยุบตัวลงเรื่อย ๆ ตามธรรมชาติ จึงทำให้ใบหน้าเริ่มเปลี่ยน กระดูกโหนกแก้มจากที่เคยสูงก็จะยุบตัวลง ทำให้ใบหน้าดูโทรม ตอบลงนั่นเอง
นอกจากปัญหาด้านโครงสร้างภายในของใบหน้า และผิวหนังแล้ว ปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลให้ใบหน้าหย่อนคล้อยก็ยังมีมากมาย ที่เราไม่สามารถเลี่ยงปัญหาได้ อาทิเช่น
แสงแดด
เป็นตัวทำร้ายผิวชั้นดีที่สามารถทำลายคอลลาเจนใต้ผิวได้ ยิ่งเจอมากยิ่งทำลายคอลลาเจนมาก และยังเป็นสิ่งที่สะสมอาการมากขึ้นเรื่อย ๆ และจะค่อย ๆ ส่งผลให้ใบหน้าหย่อนคล้อยในที่สุด และสามารถทำให้เกิดการหย่อนคล้อยได้มากขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่รีบป้องกัน
ความเครียด
เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผิวในลักษณะทางตรง เนื่องจากเมื่อคนเราเกิดความเครียด ร่างกายก็จะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลมากขึ้น เกิดอนุมูลอิสระที่มากขึ้น ทำให้คอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิวหนังของเรานั้น สลายออกไปจากการทำลายของอนุมูลอิสระ ใบหน้าของเราก็จะเกิดความหย่อนคล้อย และเหี่ยวย่นตามมา
แรงโน้มถ่วงของโลก
ปัจจัยนี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อความหย่อนคล้อยบนผิวหน้าจริง ๆ เนื่องจากโลกของเราทุกอย่างจะตกลงสู่ด้านล่าง ใบหน้าก็เช่นกัน เมื่อถึงเวลาก็จะตกหย่อนลงมาตามกาลเวลาหากผิวของเราบาง หรือไม่แข็งแรงมากพอ
ไขมัน
เป็นปัจจัยที่เกี่ยวกับภายในร่างกายของคนเราที่เมื่ออายุมากขึ้น ชั้นไขมันที่เคยอิ่มฟูก็จะลดขนาดชั้นลง ส่งผลให้ผิวไม่กระชับ ไม่อิ่มตัวและหนาชั้นขึ้นเหมือนเดิม และกลายเป็นความหย่อนคล้อยของใบหน้า และผิวหนังในที่สุด
การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเป็นปัจจัยที่เกิดในบางคนเท่านั้น เนื่องจากปัจจัยนี้จะเกิดกับผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหักโหมมากจนเกินไป หรือผู้ที่ลดรูปร่าง และสัดส่วนในระยะเวลาอันสั้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของชั้นผิว ที่กลายเป็นขาดความยืดหยุ่น ไม่กระชับ ห้อย และย้อยลงนั่นเอง
กิจวัตรประจำวัน
การดำเนินชีวิต และการดูแลตัวเองเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อใบหน้าที่หย่อนคล้อย รวมทั้งการสูบบุหรี ดื่มแอลกอลฮอล์ หรือพักผ่อนไม่เพียงพอก็ส่งผลต่อการไหลเวียนของโลหิตภายในร่างกาย และคอลลาเจนที่อยู่ในชั้นผิวเช่นกัน จึงส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อยได้ไวมากกว่าปกติ อันเนื่องมาจากการใช้ชีวิตและวิถีชีวิต เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือไม่มีประโยชน์ การตากแดดเป็นประจำ ก็ส่งผลต่อสภาพผิว และเป็นสาเหตุในการเกิดการหย่อนคล้อยของใบหน้าได้เช่นกัน
พันธุกรรม
สภาพผิวก็เป็นสิ่งส่งต่อทางพันธุกรรมเช่นเดียวกันกับสีผิว แต่สิ่งเหล่านี้เมื่อรู้ตัวแล้วสามารถป้องกัน และฟื้นฟูให้มีสภาพ และคุณภาพที่ดีได้
อายุ
เป็นสิ่งที่ส่งผลโดยตรงต่อคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิว ซึ่งเมื่อคนเรามีอายุที่เพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากคอลลาเจนและอิลาสติน ที่อยู่ใต้ชั้นผิวจะลดจำนวนลงแล้ว ยังเกิดการสร้างที่น้อยลงด้วย จึงส่งผลโดยตรงต่อความยืดหยุ่น และความแข็งแรงของชั้นผิว ทำให้เกิดการหย่อนคล้อยมากขึ้น และไม่เต่งตึงเหมือนในวัยเด็กวัยสาวนั่นเอง
ปัจจัยเรื่องการพักผ่อน
เมื่อเราพักผ่อนโดยการนอนหลับ ร่างกายของเราจะหลั่งฮอร์โมน ที่ช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขึ้นมาที่เรียกว่า โกรทฮอร์โมน ซึ่งเมื่อโกรทฮอร์โมนหลั่งออกมาจะออกมา จะช่วยสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในร่างกายด้วย และเมื่อไม่ได้พักผ่อนนอนหลับนั้น โกทธฮอร์โมนในร่างกายจะไม่ได้หลั่งออกมา ผิวของเราก็จะสูญเสียความแข็งแรง ทำให้คุณภาพผิวแย่ขึ้น และเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา ทั้งหย่อนคล้อย และมีความบอบบาง
เมื่อทราบถึงปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้ากันแล้ว มาทำความรู้จักกับวิธีดูแลรักษาใบหน้าให้ไม่หย่อนคล้อย อย่างโปรแกรมสุดฮิตติดลมบน ที่ใคร ๆ ก็ต้องรู้จัก เพราะอยู่ในแวดวงยกกระชับมาแล้วเกินกว่าสิบปีอย่าง SUPER HIFU โปรแกรมที่ครองใจคนมาแล้วแทบทุกช่วงอายุที่สามารถยกกระชับ เก็บกรอบหน้า ปรับหน้าเรียวได้
SUPER HIFU (ไฮฟู) ยกกระชับ เก็บกรอบหน้า ปรับหน้าเรียวคืออะไร?
SUPER HIFU (ไฮฟู) ย่อมาจาก High Intensity Focus Ultrasound เป็นเครื่องโฟกัสอัลตร้าซาวนด์ที่มีความเข้มข้นสูง และมีความจำเพาะเจาะจง สามารถยกกระชับผิวที่มีความหย่อนคล้อย และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังได้เป็นอย่างดี โดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรมให้เจ็บตัว โดยเน้นการส่งผลลงลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อที่ทำการห่อหุ้มกล้ามเนื้อ มีลักษณะเส้นใยในตัวเองเป็นเส้นใยแนวนอน จึงทำให้ชั้น SMAS เป็นชั้นผิวหนังที่มีความแข็งแรงและทนทาน จึงทำให้ผลลัพธ์ในการรักษาคล้ายกับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงใบหน้า ส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ กระชับมากขึ้น
การทำงานของ SUPER HIFU (ไฮฟู) ยกกระชับ เก็บกรอบหน้า ปรับหน้าเรียว
SUPER HIFU ทำงานโดยการปล่อยพลังงาน High Intensity Focus Ultrasound ออกมาเป็น Dot หรือเป็นจุด โดยจะมีหัว Applicator ในการปล่อยพลังงานความลึกหลากหลายระดับ เพื่อรองรับความต้องการยกกระชับในแต่ละชั้นผิว เช่น ระดับความลึก 1.5 mm, 2.0 mm, 3.0 mm, 4.5 mm, 6.0 mm, 13.0 mm. โดยแต่ละความลึกของของ Applicator จะกระตุ้นการสร้างให้เกิดคอลลาเจนใต้ชั้นผิวที่แตกต่างกันใบในแต่ละชั้นผิว จึงทำให้มีผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น
ข้อดี SUPER HIFU (ไฮฟู) ยกกระชับ เก็บกรอบหน้า ปรับหน้าเรียว
- SUPER HIFU สามารถยกกระชับผิวได้ โดยไม่ต้องใช้เข็ม หรือการผ่าตัด
- SUPER HIFU เป็นโปรแกรมยกกระชับที่มีความปลอดภัยสูง
- SUPER HIFU เป็นโปรแกรมที่ไม่ทำให้ผิวเบิร์น ไหม้
- SUPER HIFU ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ
- SUPER HIFU ไม่มีรอยช้ำ บวม เจ็บหลังทำ
- SUPER HIFU สามารถใช้หน้าได้ทันที
- SUPER HIFU สามารถช่วยลดริ้วรอยที่มีขนาดเล็ก ๆ ตื้น ๆ ได้เป็นอย่างดี
- SUPER HIFU สามารถเก็บและกระชับกรอบหน้าได้เป็นอย่างดี
- SUPER HIFU สามารถสลายไขมันส่วนเกินที่สะสมได้บางส่วน
- SUPER HIFU สามารถทำบริเวณรอบดวงตาได้ โดยไม่อันตราย และไม่กระทบกับการมองเห็น
- SUPER HIFU สามารถทำร่วมกับการทำหัตถการอื่นได้
- SUPER HIFU สามารถทำซ้ำได้บ่อย
ข้อเสีย SUPER HIFU (ไฮฟู) ยกกระชับ เก็บกรอบหน้า ปรับหน้าเรียว
- SUPER HIFU จะมีความเจ็บระหว่างทำเล็กน้อย
- SUPER HIFU จะมีรอยแดงเล็กน้อยหลังทำ 1 – 2 ชั่วโมง โดยจะหายได้เองไม่ต้องกังวล
- SUPER HIFU อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง
SUPER HIFU (ไฮฟู) ยกกระชับ เก็บกรอบหน้า ปรับหน้าเรียวช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ?
SUPER HIFU ถูกออกแบบมาเพื่อให้ช่วยในเรื่องการยกกระชับใบหน้าและกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนให้ครบในทุกชั้นผิว
- SUPER HIFU ส่งผลให้ผิวมีความแน่น และแข็งแรงมากกว่าเดิม
- SUPER HIFU แก้ปัญหาริ้วรอย
- SUPER HIFU แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้
- SUPER HIFU ช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตา
- SUPER HIFU ช่วยแก้ปัญหาหนังตาตก
- SUPER HIFU ยกหางคิ้ว
- SUPER HIFU ช่วยกระชับไขมันใต้คาง
- SUPER HIFU ลดริ้วรอยที่คอ
- SUPER HIFU ลดเหนียง
- SUPER HIFU กระชับกรอบหน้า
- SUPER HIFU ช่วยยกกระชับผิวบริเวณตัวได้ เช่น เอว, หน้าท้อง, สะโพก, ต้นแขน, ท้องแขน, ต้นขา
- SUPER HIFU ป้องกันความหย่อนคล้อยของผิวในอนาคตได้
SUPER HIFU (ไฮฟู) ยกกระชับ เก็บกรอบหน้า ปรับหน้าเรียวเหมาะกับใคร ?
SUPER HIFU เป็นเครื่องมือยกกระชับที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
- SUPER HIFU เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้า และผิวกายหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ
- SUPER HIFU เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยที่มีขนาดเล็กน้อย ๆ
- SUPER HIFU เหมาะกับผู้ที่มีร่องใต้ตา
- SUPER HIFU เหมาะกับร่องแก้มที่ไม่ลึกมาก
- SUPER HIFU เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระชับผิว โดยไม่ผ่าตัด
- SUPER HIFU เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับ โดยไม่ใช้เข็มฉีดยา
- SUPER HIFU เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น หลังทำใช้หน้าได้เลย ไม่มีแผล
- SUPER HIFU เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการมีผิวหย่อนคล้อยในอนาคต
- SUPER HIFU เหมาะกับผู้ที่กรอบหน้าไม่ชัด
- SUPER HIFU เหมาะกับผู้ที่อยากหน้าเรียว เล็ก
SUPER HIFU (ไฮฟู) ยกกระชับ เก็บกรอบหน้า ปรับหน้าเรียว
SUPER HIFU สามารถทำได้ทุกบริเวณที่ต้องการยกกระชับ
- SUPER HIFU สามารถทำได้บริเวณใบหน้าช่วยในการยกกระชับ ปรับรูปหน้า เก็บกรอบหน้าให้มีความคมชัดเรียว สวยมากขึ้น
- SUPER HIFU สามารถทำได้บริเวณเหนียงแก้ปัญหาใต้คาง เหนียง และคางสองชั้น ที่เป็นไขมันสะสมทำให้ดูใบหน้าไม่เข้ารูป ให้ดูเข้ารูป และหน้าดูสมส่วนมากขึ้น
- SUPER HIFU สามารถทำได้บริเวณคอช่วยลดริ้วรอยความหย่อนคล้อย จนเกิดเป็น รอยเหี่ยวย่นที่คอ รอยสร้อยคอ ปล้องที่คอ ให้คอดูสวย ระหงมากขึ้น
- SUPER HIFU สามารถทำได้บริเวณร่องมุมปากเก็บ และลดริ้วรอยบริเวณร่องมุมปาก ร่องน้ำหมาก และริ้วรอยแห่งวัย
- SUPER HIFU สามารถทำได้บริเวณแก้ม ช่วยในการแก้ปัญหาลดไขมันสะสมที่แก้ม กระชับพวงแก้มที่หย่อนคล้อยให้ยกกระชับ
- SUPER HIFU สามารถทำได้บริเวณรอบดวงตาแก้ปัญหาตีนกา และริ้วรอยรอบดวงตา แห่งวัย แก้ปัญหาหางตาตก ช่วยยกหางตา
- SUPER HIFU สามารถทำได้บริเวณหน้าผากลดริ้วรอย บริเวณหน้าผาก ร่องลึก และรอยย่นบริเวณ หน้าผากอันเป็นสาเหตุที่ทำให้ดูแก่กว่าวัย
- SUPER HIFU สามารถทำได้บริเวณเปลือกตาบนลดริ้วรอย และความหย่อนคล้อยบริเวณเปลือกตาบน ช่วยเปิดให้ดวงตาดูสดใสมากยิ่งขึ้น
- SUPER HIFU สามารถทำได้บริเวณกรอบหน้า ช่วยให้ใบหน้าดูชัดเจน เข้ารูปดูวีเชฟมีมิติมากยิ่งขึ้น
- SUPER HIFU สามารถทำได้บริเวณต้นแขนลดขนาดไขมันที่ต้นแขน ทำให้แขนกระชับ เฟิร์มขึ้น และช่วยในการกำจัดเซลลูไลท์
- SUPER HIFU สามารถทำได้บริเวณต้นแขนช่วยกระชับและ ลดไขมันหน้าท้องช่วยให้หน้าท้องมีขนาดลดลง และกระชับได้มากขึ้น
- SUPER HIFU สามารถทำได้บริเวณรอบเอวปรับ และลดขนาดรอบเอวกระชับมากขึ้น ทำให้ร่างกายดูมีส่วนเว้า ส่วนโค้งดูมีเคิร์ฟมากยิ่งขึ้น
- SUPER HIFU สามารถทำได้บริเวณสะโพก ช่วยกระชับสะโพกให้เข้ารูปมากยิ่งขึ้น ช่วยให้สาว ๆ ที่ไม่ถนัดออกกำลังกายได้มีรูปร่างที่สวยมากยิ่งขึ้น
ใครไม่เหมาะกับ SUPER HIFU (ไฮฟู) ยกกระชับ เก็บกรอบหน้า ปรับหน้าเรียว
- ผู้ที่ไม่เหมาะกับ SUPER HIFUคือ ผู้ที่ประสบปัญหาสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ โดยละเอียดก่อนทำการรักษา
- ผู้ที่ไม่เหมาะกับ SUPER HIFUคือ ผู้มีปัญหาด้านผิวหนัง
- ผู้ที่ไม่เหมาะกับ SUPER HIFUคือ ผู้ที่มีแผลเป็นคีลอยด์
- ผู้ที่ไม่เหมาะกับ SUPER HIFUคือ ผู้ที่มีบาดแผลเปิด
- ผู้ที่ไม่เหมาะกับ SUPER HIFUคือ ผู้ที่มีสิวหรือซีสต์
- ผู้ที่ไม่เหมาะกับ SUPER HIFUคือ ผู้ป่วยที่ฝังโลหะใต้ผิวหนัง
- ผู้ที่ไม่เหมาะกับ SUPER HIFUคือ ผู้หญิงที่มีการตั้งครรภ์
- ผู้ที่ไม่เหมาะกับ SUPER HIFUคือ คุณแม่ผู้ให้นมบุตร
อายุเท่าไหร่จึงจะทำ SUPER HIFU (ไฮฟู) ยกกระชับ เก็บกรอบหน้า ปรับหน้าเรียวได้
สามารถทำ SUPER HIFU ได้ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่เริ่มมีปัญหาผิวหน้า ทั้งไขมันบนใบหน้า และความหย่อนคล้อยบนใบหน้า อีกทั้งการเริ่มทำ SUPER HIFU ตั้งแต่อายุยังไม่มากจะเป็นการป้องกันผิว เกิดความหย่อนคล้อยได้ในอนาคตอีกด้วย
การเตรียมตัวก่อนทำ SUPER HIFU (ไฮฟู) ยกกระชับ เก็บกรอบหน้า ปรับหน้าเรียว
SUPER HIFU เป็นหัตถการยกกระชับใบหน้าที่ไม่ต้องเตรียมตัวมาก สามารถเตรียมตัวได้ดังนี้
- ก่อนทำ SUPER HIFU ควรพักผ่อนให้เพียงพอ
- ก่อนทำ SUPER HIFU ควรงดสูบบุหรี่
- ก่อนทำ SUPER HIFU ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์
- ก่อนทำ SUPER HIFU ควรงดเว้นการทำโปรแกรมเลเซอร์บริเวณที่ทำ เพราะจะทำให้ผิวบาง
ขั้นตอนการทำ SUPER HIFU (ไฮฟู) ยกกระชับ เก็บกรอบหน้า ปรับหน้าเรียว
- แพทย์ทำการประเมินใบหน้า และวางแผนการรักษาด้วย SUPER HIFU
- ผู้ช่วยแพทย์ทำความสะอาดใบหน้า เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการทำ SUPER HIFU
- ทายาชาทิ้งไว้ 30-40 นาที เพื่อบรรเทาความเจ็บก่อนทำ SUPER HIFU
- เช็ดยาชาเตรียมพร้อมทำการรักษาด้วย SUPER HIFU
- แพทย์ทำการยิง SUPER HIFU จนครบจำนวนช็อตที่ต้องการ
- ผู้ช่วยแพทย์ทำความสะอาดใบหน้าเป็นอันเสร็จ
การดูแลตัวเองหลังทำ SUPER HIFU (ไฮฟู) ยกกระชับ เก็บกรอบหน้า ปรับหน้าเรียว
- หลังทำ SUPER HIFU ควรทาครีมกันแดด ที่มี SPF PA++ เป็นประจำ เพื่อป้องกันหน้าจากแสงแดด เนื่องจากหลังทำผิวจะบาง
- หลังทำ SUPER HIFU ควรเลี่ยงการสูบบุหรี่
- หลังทำ SUPER HIFU ควรงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮลล์
- หลังทำ SUPER HIFU ควรงดการอบซาวนน่า
- หลังทำ SUPER HIFU ควรงดกิจกรรมที่โดนแสงแดด
SUPER HIFU (ไฮฟู) ยกกระชับ เก็บกรอบหน้า ปรับหน้าเรียวกี่วันเห็นผล
SUPER HIFU เป็นโปรแกรมยกกระชับที่เห็นผลหลังทำตั้งแต่ครั้งแรก และเป็นโปรแกรมที่สามารถทำให้ผิวยกกระชับได้ 20% หลังทำ และจะค่อย ๆ เห็นผลลัพธ์หลังการทำที่ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ ในระยะ 1-2 เดือน โดยผู้เข้ารับบริการจะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนในระยะเวลา 3-4 เดือน
SUPER HIFU (ไฮฟู) ยกกระชับ เก็บกรอบหน้า ปรับหน้าเรียวควรเว้นระยะนานแค่ไหนก่อนทำครั้งต่อไป
สามารถทำ SUPER HIFU ได้ทุกๆระยะเวลา 3-6 เดือน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผิวหน้าเกิดการสร้างเซลล์ Fibroblast และสร้างคอลลาเจนให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อป้องกันผิวหน้าเกิดการหย่อนคล้อยได้
หลัง SUPER HIFU (ไฮฟู) ยกกระชับ เก็บกรอบหน้า ปรับหน้าเรียวหน้าบวมกี่วัน
หลังทำ SUPER HIFU อาจมีใบหน้าบวมประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่จะบวมไม่มาก ผู้เข้ารับบริการสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ในที่นี้ในบางเคสอาจไม่บวมเลยก็ได้เช่นกัน
หลัง SUPER HIFU (ไฮฟู) ยกกระชับ เก็บกรอบหน้า ปรับหน้าเรียว คงสภาพใต้ผิวอยู่ได้นานแค่ไหน
SUPER HIFU คงผลลัพธ์ใต้ผิวได้นาน 5-6 เดือนขึ้นอยู่กับการดูแลและสภาพผิวของแต่ละบุคคล ยิ่งดูแลดี ปฏิบัติตัวตามคำสั่งแพทย์ก็จะยิ่งทำให้คงผลลัพธ์ต่อผิวได้นานมากยิ่งขึ้น
หากหยุดทำ SUPER HIFU (ไฮฟู) ยกกระชับ เก็บกรอบหน้า ปรับหน้าเรียว จะทำให้ผิวหน้าเกิดความหย่อนคล้อยมากกว่าเดิมหรือไม่
หลังจากทำ SUPER HIFU มาแล้วและไม่ทำต่ออย่างต่อเนื่องจะไม่ส่งผลกระทบต่อผิวโดยการทำให้ผิวหนังเกิดความหย่อนคล้อยมากขึ้น เนื่องจากการยิ่งคลื่นจาก SUPER HIFU ลงสู่ผิวนั้นจะเป็นการกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ใต้ผิวหนังจัดเรียงคอลลาเจนใหม่ และเกิดผลดีในการสร้างคอลลาเจนในระยะยาวโดยไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างชั้นผิวหนัง แต่การที่แนะนำให้ทำทุกๆ 3-6 เดือนนั้น เป็นการกระตุ้นให้เกิดการ้างสร้างคอลลาเจนใหม่ที่ใต้ชั้นผิวเพียงเท่านั้น
สรุปได้ว่าหลังทำ SUPER HIFU และไม่ได้ทำอย่างต่อเนื่อง จะไม่ส่งผลกระทบในการทำให้ผิวเกิดความหย่อนคล้อยมากขึ้น แต่ผิวจะไม่กระชับเท่าตอนที่ทำ SUPER HIFU เท่านั้นเอง
ผู้ที่มีโรคประจำตัว และต้องทานยารักษาโรคเป็นประจำ SUPER HIFU (ไฮฟู) ยกกระชับ เก็บกรอบหน้า ปรับหน้าเรียวได้หรือไม่
สามารถทำ SUPER HIFU ได้ โดยไม่ต้องหยุดยาและรักษาอย่างต่อเนื่องได้ในระหว่างทำ ทั้งนี้หากมีความกังวลในการรักษา สามารถปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์ก่อนทำการรักษา เพื่อประเมินความเหมาะสมได้อีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ในทุกการทำหัตถการหลังทำและก่อนทำ ควรทำการปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพื่อทำการประเมิน และวางแผนการรักษาให้เหมาะแก่ผู้เข้ารับบริการรายบุคคล และหลังทำผู้เข้ารับบริการควรปฏิบัติตัวตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การรักษามีความปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์อย่างดีที่สุดหลังทำการรักษา ที่รมย์รวินท์คลินิกมี SUPER HIFU ให้บริการทุกสาขา และมีแพทย์ผู้มีประสบการณ์พร้อมสำหรับทำการรักษา โดยสามารถเข้ามาปรึกษา เพื่อประเมินปัญหาเบื้องต้นได้ที่หน้าสาขาทั้ง 28 สาขา