Block to Curve ตัวช่วยยกกระชับผิวกาย เก็บเนื้อปลิ้น ไร้ส่วนเกิน
ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ใส่เสื้อผ้าแล้วเนื้อปลิ้น มีไขมันดื้อลดยาก ถือเป็นปัญหาที่กวนใจสาว ๆ และยังสร้างความไม่มั่นใจให้อยู่ไม่น้อย ทำความรู้จักกับแพ็ค Block to Curve ทางเลือกดูแลหุ่นที่มาพร้อม Slim & Slender เปปไทด์คุมหิว และ Oligio Body ยกกระชับผิวกาย ลดไขมัน ให้ผิวแน่น เฟิร์ม และดูมีสัดส่วนมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด
ผิวไม่กระชับ เนื้อปลิ้น มีวิธีแก้อะไรบ้าง?
การแก้ปัญหาผิวไม่กระชับ หรือผิวหย่อนคล้อย ไม่ว่าจะเป็น บริเวณต้นแขน หน้าท้อง หรือเอว ที่มักมีไขมันสะสม และมีผิวที่ขาดคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งสามารถแก้ได้หลายวิธี เช่น
- ควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
การปรับพฤติกรรมการกิน หรือควบคุมอาหาร ไม่ว่าจะเป็น การลดของหวาน ของทอด อาหารไขมันสูง และควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น โปรตีน หรือผักผลไม้ สามารถช่วยลดไขมันและยกกระชับผิวได้
- การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
การออกกำลังกายด้วยการเวทเทรนนิ่ง และการคาร์ดิโออย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดไขมันสะสม และช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้แน่นขึ้น
- ใช้เทคโนโลยียกกระชับผิวกาย โดยไม่ต้องผ่าตัด
ผู้ที่ลดไขมันได้ยาก มีไขมันดื้อ แม้จะออกกำลังกายแล้วแต่ไขมันก็ยังไม่ลดลง หรือผิวเกิดการหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์อย่าง Block to Curve สามารถช่วยลดไขมัน ยกกระชับผิว พร้อมควบคุมความหิวได้ เนื่องจาก Block to Curve เป็นการนำเทคโนโลยีอย่าง Oligio Body ลดไขมันเฉพาะจุด และยกกระชับผิวกายในคราวเดียว และ Slim & Slender เปปไทด์คุมหิว ลดไขมัน ที่จะช่วยลดไขมัน ยกกระชับผิวกายที่หย่อนคล้อย กระชับสัดส่วนให้ดูเล็กลง Block to Curve จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลหุ่น
Block to curve คืออะไร ?
Block to Curve คือ ตัวช่วยดูแลรูปร่างแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ ไขมันสะสม ยกกระชับผิว โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่ง Block to Curve ได้รวมเทคโนโลยีดูแลหุ่น อย่าง Oligio Body ยกกระชับผิวกาย เก็บเนื้อปลิ้น ลดไขมัน และ Slim & Slender เปปไทด์คุมหิว ปรับพฤติกรรมการกินได้ในคราวเดียว Block to Curve เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกิน ผิวไม่กระชับ ผิวหย่อนคล้อย หรือผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่าง ไม่มีเวลาออกกำลังกาย
Block to Curve มีจุดเด่นอย่างไร ?
Block to Curve เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดไขมัน พร้อมยกกระชับผิวกาย ให้ได้รูปร่างที่มีสัดส่วน โดยไม่ต้องผ่าตัด รวมเทคโนโลยีที่น่าสนใจอย่าง Slim & Slender เปปไทด์คุมหิว ช่วยควบคุมความอยากอาหาร และ Oligio Body ยกกระชับผิวกายและลดไขมันได้พร้อมกัน นอกจากนี้ Block to Curve ยังมีความโดดเด่นที่หลากหลายด้าน ดังนี้
- Block to curve ช่วยลดไขมันเฉพาะจุดได้
Block to Curve สามารถช่วยลดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดในแต่ละบริเวณที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา รอบเอว เหนียง ล้วนเป็นบริเวณที่มีไขมันสะสม และไขมันดื้อลดได้ยาก แม้จะออกกำลังกาย
- Block to curve ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานดีขึ้น
Block to Curve เป็นเทคโนโลยีที่สามารถช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญพลังงานส่วนเกินอย่างไขมันได้มากขึ้น Block to Curve ยังช่วยให้ร่างกายสามารถขับของเสียตกค้างออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Block to curve ช่วยกระชับรูปร่าง ลดความหย่อนคล้อย
Block to Curve สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว ยกกระชับผิวกาย ลดความหย่อนคล้อย และกระชับรูปร่างให้ดูสมส่วนมากขึ้น ส่งผลให้ผิวกายดูเรียบเนียน และสัดส่วนดูเล็กลง
- Block to curve ช่วยยกกระชับผิวกาย โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล พักฟื้นไม่นาน
Block to Curve เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับและไม่เป็นอันตราย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมัน ยกกระชับผิวกาย โดยไม่ต้องผ่าตัด ทำให้ไม่มีแผล และใช้เวลาพักฟื้นนานไม่นาน Block to curve จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น มีเวลาจำกัด หรือกลัวการผ่าตัด
- Block to curve ลดเซลลูไลท์และผิวเปลือกส้ม
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเซลลูไลท์ หรือผิวเปลือกส้ม ผิวไม่เรียบเนียน Block to Curve สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวดูกระชับเรียบเนียนอย่างสม่ำเสมอ ลดปัญหาเซลลูไลท์และผิวเปลือกส้มบริเวณต้นขา
- Block to curve สามารถเห็นผลลัพธ์เมื่อทำต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์
หากต้องการผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงและต่อเนื่อง ควรทำ Block to Curve อย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ จะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนที่เล็กลงและผิวที่กระชับขึ้น
- Block to curve ช่วยดูแลสุขภาพโดยรวม
Block to Curve นอกจากจะช่วยลดไขมัน ยกกระชับผิวกายให้ได้เรียบเนียน และได้สัดส่วนแล้วนั้น ยังช่วยดูแลสุขภาพในด้านอื่น ๆ ได้ เช่น ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ปรับพฤติกรรมการกิน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน และ Block to Curve ยังช่วยยกกระชับผิวกายและสัดส่วนให้สวยงาม
Block to curve เหมาะกับใคร?
Block to curve ทางเลือกช่วยลดไขมัน ยกกระชับผิวกาย ที่จะช่วยดูแลรูปร่างและสุขภาพโดยรวม เป็นการนำเทคโนโลยีที่น่าสนใจอย่าง Slim & Slender เปปไทด์คุมหิว และ Oligio Body ยกกระชับผิวกาย Block to curve จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหา ดังนี้
- Block to curve เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 12-75 ปี
- Block to curve เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน หรือมีค่า BMI มากกว่า 30
- Block to curve เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างภายใต้การดูแลของแพทย์
- Block to curve เหมาะสำหรับผู้ที่ลดน้ำหนักได้ยาก น้ำหนักลงยาก
- Block to curve เหมาะสำหรับผู้ที่มีนิสัยชอบกินจุบจิบ กินระหว่างวัน หรืออิ่มยาก
- Block to curve เหมาะสำหรับผู้ที่เสี่ยงเป็นภาวะโรคอ้วน
- Block to curve เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับพฤติกรรมการกิน
- Block to curve เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างให้สมส่วน
- Block to curve เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยจากอายุที่เพิ่มขึ้น หรือน้ำหนักที่ลดลงอย่างรวดเร็ว
- Block to curve เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด หรือไขมันดื้อและลดยาก ไม่ว่าจะเป็น บริเวณเหนียง คอ ต้นแขน ต้นขา และหน้าท้อง
- Block to curve เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวกาย แบบไม่ต้องผ่าตัด สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น
- Block to curve เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว
- Block to curve เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวขาดความยืดหยุ่น ไม่กระชับ
- Block to curve เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการชะลอปัญหาผิวหย่อนคล้อยก่อนวัย
การดูแลรูปร่างด้วย Block to curve ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น ก่อนเข้ารับการบริการ Block to curve ควรแจ้งประวัติการรักษา ประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัวให้ละเอียด ทั้งนี้ ผลลัพธ์ของการรักษาด้วย Block to curve นั้นก็จะขึ้นอยู่กับปัญหา และรูปร่างของแต่ละบุคคล
Block to curve ช่วยยกกระชับผิวได้ไหม?
Block to Curve ไม่เพียงแต่ช่วยลดไขมันสะสมในร่างกาย หรือช่วยควบคุมน้ำหนักเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยยกกระชับผิวกายที่หย่อนคล้อยให้เต่งตึงและเรียบเนียนขึ้น ส่งผลให้สัดส่วนดูเล็กลง หมดปัญหาเนื้อปลิ้น ไขมันแน่น ด้วยการผสานเทคโนโลยี 2 ประเภท คือ
- Slim & Slender
Block to Curve มาพร้อม Slim & Slender เปปไทด์คุมหิวที่ช่วยปรับพฤติกรรมการกิน ลดความอยากอาหาร รวมถึงลดไขมันสะสมในร่างกาย และเมื่อไขมันลดลง ก็จะส่งผลสัดส่วนดูเล็กลง และผิวดูกระชับขึ้น
- Oligio Body
Block to Curve ได้มีการนำ Oligio Body เทคโนโลยีคลื่น RF ที่สามารถส่งพลังงานได้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมัน ช่วยลดไขมันสะสมเฉพาะจุด พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ส่งผลให้ผิวมีความแน่นและยืดหยุ่นขึ้น ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยได้
การดูแลรูปร่างด้วย Block to curve ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น ก่อนเข้ารับการบริการ Block to curve ควรแจ้งประวัติการรักษา ประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัวให้ละเอียด ทั้งนี้ ผลลัพธ์ของการรักษาด้วย Block to curve นั้นก็จะขึ้นอยู่กับปัญหา และรูปร่างของแต่ละบุคคล
Block to curve : Oligio Body ยกกระชับผิวกาย คืออะไร?
Oligio Body ถือเป็นหนึ่งเทคโนโลยีของ Block to Curve ที่จะช่วยเก็บเนื้อปลิ้น บล็อคไขมัน แบบไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง Monopolar RF ทำการปล่อยพลังงานได้อย่างต่อเนื่อง และกระจายพลังงานได้สม่ำเสมอ ซึ่งพลังงานสามารถลงได้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ ช่วยให้ผิวที่หย่อนคล้อยกลับมาตึงกระชับ พร้อมทั้งลดไขมันสะสมเฉพาะจุดในคราวเดียว
โดย Oligio Body จะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอิลาสตินใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวที่มีความหย่อนคล้อยกลับมากระชับ รูขุมขนดูเล็กลง ลดริ้วรอย และริ้วรอยเล็ก ๆ พร้อมช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน และสุขภาพดี นอกจากนี้ยังช่วยยกกระชับผิวกาย ลดสัดส่วนเฉพาะจุด ลดไขมันส่วนเกินใต้ชั้นผิว และกระชับสัดส่วนให้ดูเล็กลง
Oligio Body สามารถทำได้หลายบริเวณที่มีไขมันสะสมทั่วร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ต้นแขน ต้นขา เหนียง หรือหน้าท้อง ซึ่งหลังทำจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ถึง 20-30% จากนั้นจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เต็มที่ภายใน 3 เดือน และผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 1 ปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังทำ เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และหมั่นออกกำลังกายควบคู่กัน
Oligio Body ยกกระชับผิวกาย มีหลักการทำงานอย่างไร?
Oligio Body ยกกระชับผิว ทำงานด้วยเทคโนโลยีคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบ Monopolar RF 6.78 MHz ที่สามารถช่วยส่งพลังงานลงสู่ชั้นผิวได้อย่างเสถียรและสม่ำเสมอ เพื่อเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน พร้อมลดไขมันได้พร้อมกัน โดยพลังงานจะถูกส่งลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมัน (Subcutaneous Fat) ที่ระดับความลึกประมาณ 4.3 มิลลิเมตร โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อบริเวณรอบ ๆ
กลไกการทำงานหลักของ Oligio Body ยกกระชับผิว สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ขั้นตอนสำคัญ คือ
- การสร้างความร้อนในชั้นผิว
Oligio Body จะทำการส่งคลื่น RF ที่ความถี่ 6.78 MHz และจะส่งพลังงานลงลึกสู่ชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ชั้น SMAS และชั้นไขมัน (Subcutaneous Fat) จากนั้นพลังงานจะถูกเปลี่ยนเป็นความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 40–45°C ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสำหรับการกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิวให้เกิดการสร้างใหม่ และเรียงตัวได้ดีขึ้น
- การเปลี่ยนแปลงโมเลกุลไขมัน
จากนั้นความร้อนจากคลื่น RF จะทำให้เซลล์ไขมันเกิดการสั่นสะเทือนในระดับโมเลกุล ส่งผลให้เซลล์ไขมันแตกตัว และเข้าสู่กระบวนการเผาผลาญของร่างกาย จากนั้นไขมันส่วนเกินจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านระบบขับของเสีย Oligio Body จึงเหมาะกับบริเวณที่มีไขมันสะสม เช่น เหนียง หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หรือบริเวณที่มีไขมันดื้อลดยาก
- การหดตัวของเส้นใยคอลลาเจน
ความร้อนที่ส่งผ่านคลื่น RF จะเข้าไปทำให้เส้นใยคอลลาเจนเดิมของผิวหนังเกิดการหดตัว พร้อมทั้งกระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) เกิดการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ ส่งผลให้ผิวดูกระชับขึ้นหลังทำ โดยกระบวนการสร้างคอลลาเจนจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง 3–6 เดือนหลังทำ
นอกจากนี้ Oligio Body ยังมีระบบทำความเย็น (Cooling System) ขณะพลังงาน RF ทำงาน โดยระบบจะควบคุมอุณหภูมิที่ผิวชั้นนอกให้คงที่ประมาณ 5°C เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคือง หรือการเกิดเบิร์นระหว่างทำ นอกจากนี้ยังมีระบบสั่น (Vibration) ที่ช่วยลดความรู้สึกเจ็บขณะทำ ส่งผลให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกสบาย ไม่ต้องทนความร้อนสะสม
Fast Moving เทคนิคเฉพาะของ Oligio Body ดีอย่างไร?
เทคนิค Fast Moving คือ เทคนิคที่ออกแบบมาเพื่อใช้ร่วมกับ Oligio Body โดยเฉพาะ โดยทำการเคลื่อนหัวทิปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวกาย และลดไขมันเฉพาะจุดให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และตรงตามความต้องการของผู้รับบริการ
จุดเด่นของเทคนิค Fast Moving
- เทคนิค Fast Moving เป็นเทคนิคที่ออกแบบมาเพื่อใช้ร่วมกับ Oligio Body ยกกระชับผิว โดยเฉพาะ
- เทคนิค Fast Moving ทำให้พลังงานสามารถลงลึกสู่ผิวได้อย่างสม่ำเสมอทุกช็อต
- เทคนิค Fast Moving สามารถให้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอทั่วทั้งบริเวณ ไม่ทำให้เกิดจุดร้อนสะสม
- เทคนิค Fast Moving สามารถช่วยลดระยะเวลาในการทำ เนื่องจากเทคนิค Fast Moving สามารถครอบคลุมพื้นที่ผิวได้กว้างในเวลาที่สั้นลง
- เทคนิค Fast Moving สามารถช่วยลดไขมันและยกกระชับผิวในคราวเดียว โดยทำการส่งพลังงานไปยังชั้นไขมันและชั้นผิวพร้อมกัน โดยไม่ต้องเจ็บตัวหรือพักฟื้น
- เทคนิค Fast Moving เหมาะกับการยกกระชับผิวกายและลดไขมันบริเวณกว้าง เช่น หน้าท้อง ต้นขา สะโพก ต้นแขน และกรอบหน้า
Oligio Body ยกกระชับผิว ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
Oligio Body เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวกายที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (Monopolar RF) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่าง ซึ่ง Oligio Body ยกกระชับผิว ยังสามารถช่วยดูแลรูปร่างได้หลายจุด ไม่ว่าจะเป็น
- ยกกระชับผิวกายที่หย่อนคล้อย จากอายุที่มากขึ้น หรือการน้ำหนักที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ช่วยฟื้นฟูผิวที่ขาดความยืดหยุ่น ให้ผิวแน่นกระชับ
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว ให้ผิวมีความยืดหยุ่น แน่นกระชับ ผิวดูสม่ำเสมอมากขึ้น
- ลดริ้วรอยและกระชับรูขุมขน ช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องตื้น รอยย่น ให้ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น
- ลดไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น เหนียง หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา ช่วยให้สัดส่วนดูชัดเจนมากขึ้น
- ชะลอความหย่อนคล้อยในอนาคต ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของผิวให้แน่น กระชับ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว
ทั้งนี้ ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล การใช้ Oligio Body ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น ก่อนเข้ารับการบริการ Oligio Body ควรแจ้งประวัติการรักษา ประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัวให้ละเอียด
Oligio Body ยกกระชับผิว ทำส่วนไหนได้บ้าง?
Oligio Body ช่วยยกกระชับผิวกายและลดไขมันได้พร้อมกัน โดยไม่ต้องผ่าตัด สามารถทำได้หลายบริเวณทั่วร่างกาย ทั้งบริเวณใบหน้า และบริเวณลำตัว ไม่ว่าจะเป็น
- ลำคอ ช่วยลดปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณคอ ลดรอยพับและเส้นคอที่เห็นชัดเจน ทั้งยังช่วยฟื้นฟูความเรียบเนียนของผิว
- ต้นแขน ช่วยลดไขมันสะสมบริเวณต้นแขน กระชับต้นแขนที่หย่อนคล้อยให้แน่นและดูเรียวขึ้น
- ต้นขา ช่วยลดไขมันเฉพาะจุด ยกกระชับผิวกายที่หย่อนคล้อย และแก้ปัญหาผิวเปลือกส้มให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- หน้าท้อง ลดไขมันสะสม พร้อมยกกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อยหลังคลอด ช่วยให้หน้าท้องดูเรียบและเฟิร์มขึ้น
Oligio Body หลังทำสามารถอยู่ได้นานเท่าไหร่?
Oligio Body ยกกระชับผิว จะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว ยกกระชับผิวกายให้เรียบเนียน และช่วยลดไขมันได้พร้อมกัน โดยจะเริ่มเห็นผลเต็มที่ประมาณ 3-6 เดือน จะสามารถคงผลลัพธ์ได้นานถึง 6 เดือน ถึง 1 ปี หากทำการรักษาครบตามคำแนะนำของแพทย์ ทั้งนี้ ระยะเวลาของผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาผิวก่อนทำ การดูแลตัวเองหลังทำ
ทั้งนี้ ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล การใช้ Oligio Body ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น ก่อนเข้ารับการบริการ Oligio Body ควรแจ้งประวัติการรักษา ประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัวให้ละเอียด
Block to curve : Slim & Slender เปปไทด์คุมหิว คืออะไร ?
Slim & Slender หรือ เปปไทด์คุมหิวที่พัฒนามาเลียนแบบการทำงานของฮอร์โมน GLP-1 (Glucagon-Like Peptide-1) ฮอร์โมนธรรมชาติในร่างกาย ที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมความรู้สึกอยากอาหาร หรือความอิ่มภายในร่างกาย โดย Slim & Slender จะช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มได้เร็ว อิ่มได้นานขึ้น ทั้งยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ กระตุ้นการหลั่งอินซูลิน และลดการหลั่งของกลูคากอน พร้อมช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันสะสมในร่างกาย หรือผู้ที่ต้องการตัวช่วยในการดูแลรูปร่างให้ได้หุ่นในแบบที่ต้องการ
Slim & Slender ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
- ช่วยควบคุมความหิว ลดความอยากอาหาร
- ช่วยปรับสมดุลทางเดินอาหาร ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
- ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ช่วยลดการสะสมของไขมัน และเร่งการเผาผลาญไขมันเก่า
- ช่วยปรับพฤติกรรมการกินอาหาร ลดการกินจุบจิบ หรือกินระหว่างวัน
- ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มได้เร็วและนานมากขึ้น จึงช่วยปรับปริมาณการกินของแต่ละมื้อให้พอดี
- ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคแทรกซ้อนหรือปัญหาสุขภาพระยะยาว ที่อาจเกิดจากภาวะโรคอ้วน
- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดการหลั่งของกลูคากอน และกระตุ้นการหลั่งของอินซูลิน
ทั้งนี้ ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวางแผนการรักษา Slim & Slender เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามต้องการ
Slim & Slender ช่วยคุมความหิวได้อย่างไร?
Slim & Slender คือ เปปไทด์ที่เลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 (Glucagon-Like Peptide-1) ทำหน้าที่ควบคุมความหิวและลดความอยากอาหาร โดย Slim & Slender จะส่งผลจะส่งสัญญาณไปยังสมองให้ร่างกายรู้สึกอิ่มไว ทั้งยังช่วยทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะได้นานมากขึ้น จึงทำรู้สึกอิ่มได้นาน ช่วยลดพฤติกรรมกินจุบจิบ หรือกินเกินความจำเป็น นอกจากนี้เปปไทด์ Slim & Slender ยังสามารถออกฤทธิ์ได้นานกว่าฮอร์โมน GLP-1 (Glucagon-Like Peptide-1) จึงช่วยทำให้สามารถควบคุมน้ำหนักได้ โดยไม่ต้องพึ่งการอดอาหารหรือการคุมอาหารอย่างเคร่งครัด
Slim & Slender ทำงานอย่างไร?
- เมื่อรับประทานอาหาร Slim & Slender จะส่งสัญญาณไปยังสมอง ให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ลดความหิว และสามารถปรับปริมาณอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายได้
- หลังมื้ออาหารอาจเกิดระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้ Slim & Slender จะช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ที่ทำหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ค่อย ๆ ลดลง โดยไม่ทำให้ระดับน้ำตาลต่ำเกินไป หรือต่ำอย่างรวดเร็ว
- นอกจากนี้ Slim & Slender ยังสามารถช่วยลดการหลั่งฮอร์โมนกลูคากอน หรือฮอร์โมนที่มีส่วนในการเพิ่มระดับน้ำตาลและกรดไขมันในเลือก เมื่อกลูคากอนลดลงก็จะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงตามไปด้วย
- Slim & Slender ทำให้รู้สึกอิ่มได้นานมากขึ้น เนื่องจากสามารถช่วยลดการบีบตัวของกระเพาะอาหาร ทำให้กระเพาะอาหารย่อยอาหารช้าลง อาหารอยู่ในกระเพาะได้นานขึ้น จึงส่งผลให้รู้สึกอิ่มและทานอาหารได้น้อยลง ทำให้รู้สึกอิ่มและทานน้อยลง สามารถช่วยลดน้ำหนักได้
ถ้าหยุดใช้ Slim & Slender แล้วโยโย่ไหม ?
ถือเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนอาจจะเกิดความสงสัย หรือไม่มั่นใจว่า หากหยุดใช้ Slim & Slender แล้วร่างกายจะโยโย่ไหม หรือจะกลับมาอ้วนไหม? การใช้ Slim & Slender หากสามารถควบคุมน้ำหนัก หรือได้สัดส่วนตามที่ต้องการแล้วนั้น สามารถหยุดใช้ได้ โดยไม่เกิดการโยโย่ และไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เนื่องจาก Slim & Slender เป็นเปปไทด์ที่ได้รับการรับรองว่าไม่อันตรายต่อร่างกาย ทั้งยังเป็นการลดไขมัน ควบคุมน้ำหนัก ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากต้องการผลลัพธ์ที่ดีอย่างต่อเนื่องควรทำควบคู่กับการออกกำลังกาย และการปรับพฤติกรรมการกิน เพื่อสุขภาพที่ดี
Slim & Slender สามารถลดไขมันส่วนใดบ้าง ?
Slim & Slender เป็นตัวช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดไขมัน ที่มาในรูปแบบเปปไทด์ช่วยคุมหิว ที่สามารถควบคุมความอยากอาหาร ปรับพฤติกรรมการกิน กระตุ้นระบบเผาผลาญ ทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มได้และนานขึ้น จึงส่งให้สามารถลดไขมันสะสมได้ทั่วร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ไขมันใต้ชั้นผิว หรือไขมันในช่องท้อง
ผิวไม่กระชับ เกิดจากอะไร?
ผิวไม่กระชับหรือผิวที่มีลักษณะหย่อนคล้อย เป็นปัญหามักเกิดขึ้นได้กับทุกเพศและทุกวัย สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น
- อายุที่เพิ่มขึ้น
เมื่ออายุเพิ่มขึ้นร่างกายจะทำการผลิตคอลลาเจน และอิลาสตินได้น้อยลงกว่าปกติ ส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่น และเกิดการหย่อนคล้อยได้ง่าย
- แสงแดดและมลภาวะ
รังสี UV ที่ได้รับจากแสงแดดหรือฝุ่น ควัน มลภาวะต่าง ๆ สามารถทำลายผิวได้แบบสะสม โดยจะเข้าไปทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิว นอกจากนี้ยังส่งผลให้ผิวบางลง เกิดความหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้
- น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว
ปัญหาผิวไม่กระชับหรือหย่อนคล้อย สามารถเกิดได้จากการที่น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วในระยะเวลาสั้น หรือการลดน้ำหนักแบบผิดวิธี ซึ่งอาจทำให้เกิดผิวหย่อนคล้อย เนื่องจากขาดกล้ามเนื้อหรือไขมันมาพยุง
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต
พฤติกรรมการใช้ชีวิตในบางอย่าง อาจส่งผลให้เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยและผิวไม่กระชับได้ เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ การพักผ่อนไม่เพียงพอ การดื่มน้ำไม่เพียงพอ หรือผิวที่ขาดการบำรุงดูแล ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิตและการฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ ผิวเกิดการอ่อนแอ สูญเสียความยืดหยุ่น และหย่อนคล้อยเร็วขึ้น
- กรรมพันธุ์ และฮอร์โมน
กรรมพันธุ์ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำเกิดผิวไม่กระชับ หรือผิวหย่อนคล้อย เช่น ผิวบางตั้งแต่กำเนิด หรือมีโครงสร้างคอลลาเจนที่อ่อนแอทำให้ผิวหย่อนคล้อยเร็วกว่าปกติ นอกจากนี้สำหรับผู้ที่อายุมากขึ้น หรือมีฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ก็อาจทำให้ผิวเกิดความหย่อนคล้อย และเกิดริ้วรอยได้ง่าย
Block to curve อีกหนึ่งตัวช่วยดูแลรูปร่างให้หุ่นสวยเฟิร์ม ลดไขมัน พร้อมยกกระชับผิวกาย โดยไม่ต้องผ่าตัด รวม 2 เทคโนโลยียอดฮิต อย่าง Oligio Body ยกกระชับผิวกาย และ Slim & Slender เปปไทด์คุมหิว ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่าง มีไขมันลดยาก หรือมีผิวกายที่หย่อนคล้อย ไม่กระชับ สำหรับใครที่สนใจ Block to curve สามารถเข้ามาปรึกษาและสอบถามได้ที่ รมย์รวินท์คลินิกทุกสาขา
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการบริการ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด