สลายฟิลเลอร์ คืออะไร? มีผลข้างเคียงไหม? ฉีดกี่วันเห็นผล?

ฉีดสลายฟิลเลอร์

ฉีดสลายฟิลเลอร์ คืออะไร? มีผลข้างเคียงไหม? ฉีดกี่วันเห็นผล?

หลายคนที่เคยมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ อาจเคยรู้สึกไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ เช่น ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน ฟิลเลอร์บวมแดง ผลลัพธ์ดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือฉีดแล้วไม่ตรงตามความต้องการ โดยปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วย “การฉีดสลายฟิลเลอร์” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดหลังจากฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างแม่นยำ และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

วันนี้ รมย์รวินท์ขอพาทุกคนไปทำความรู้จัก และไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการฉีดสลายฟิลเลอร์ว่า การฉีดสลายฟิลเลอร์ คืออะไร? ทำงานอย่างไร? อันตรายไหม? ทำไมถึงต้องฉีดสลาย? สามารถติดตามอ่านได้ในบทความนี้ค่ะ

 

ฉีดสลายฟิลเลอร์ คืออะไร? ทางออกในการแก้ไขปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ 

 

ฉีดสลายฟิลเลอร์ คืออะไร?
ฉีดสลายฟิลเลอร์ คืออะไร?

 

ฉีดสลายฟิลเลอร์ คืออะไร?

การฉีดสลายฟิลเลอร์ คือ การฉีดสารเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) เข้าไปยังบริเวณที่มีฟิลเลอร์อยู่ เพื่อย่อยสลายฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ออกจากผิวหนัง ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะใช้ในกรณีที่เคยฉีดฟิลเลอร์มาแล้ว แต่ไม่พึงพอใจในผลลัพธ์ หรือฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนแข็งหลังฉีด ทั้งนี้ การฉีดสลายฟิลเลอร์ควรทำการรักษากับแพทย์ที่มีความเข้าใจเท่านั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่กลับมาดูเป็นธรรมชาติ และไม่เป็นอันตรายหลังฉีด

 

ฉีดสลายฟิลเลอร์ มีกระบวนการทำงานอย่างไร?

เมื่อทำการฉีดเอนไซม์ Hyaluronidase เข้าไปยังผิวหนังในบริเวณที่มีฟิลเลอร์ประเภท HA อยู่ เอนไซม์จะออกฤทธิ์ในการย่อยสลายโมเลกุล HA โดยลดการอุ้มน้ำ และทำลายการยึดเกาะของฟิลเลอร์ ทำให้เนื้อฟิลเลอร์ ค่อย ๆ แตกตัวออกกลายเป็นน้ำ ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่าย และขับออกจากร่างกายได้ตามธรรมชาติ เมื่อฟิลเลอร์ถูกสลาย และขับออกจากร่างกายไปแล้ว ผิวบริเวณที่เคยมีฟิลเลอร์อยู่จะค่อย ๆ ยุบลง และกลับมาเรียบเนียนใกล้เคียงกับก่อนที่ฉีดฟิลเลอร์เข้าไป

 

ฉีดสลายฟิลเลอร์ เหมาะกับใคร?
ฉีดสลายฟิลเลอร์ เหมาะกับใคร?

 

ฉีดสลายฟิลเลอร์ เหมาะกับใคร?

การฉีดสลายฟิลเลอร์ เป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากฉีดฟิลเลอร์ไปแล้ว ซึ่งจะใช้ได้กับฟิลเลอร์ประเภท HA เท่านั้น โดยผู้ที่เหมาะสำหรับการฉีดสลายฟิลเลอร์ มีดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน
  • ผู้ที่มีปัญหาฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม
  • ผู้ที่ไม่พึงพอใจในผลลัพธ์เดิมหลังจากฉีดฟิลเลอร์
  • ผู้ที่มีปัญหาฉีดฟิลเลอร์แล้วผิวไม่เรียบเนียน
  • ผู้ที่มีปัญหาฉีดฟิลเลอร์แล้วใบหน้าผิดรูป
  • ผู้ที่มีปัญหาฉีดฟิลเลอร์แล้วฟิลเลอร์ไหลย้อย เคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง
  • ผู้ที่มีปัญหาฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดอาการแพ้ 
  • ผู้ที่มีปัญหาฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดอาการอักเสบ
  • ผู้ที่มีปัญหาฉีดฟิลเลอร์แล้วผลลัพธ์แลดูไม่เป็นธรรมชาติ

หมายเหตุ ควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ โดยแจ้งข้อมูลสุขภาพให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด ตั้งแต่ประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ ประวัติการรักษา และยาที่กำลังรับประทาน

 

ฟิลเลอร์ มีทั้งหมดกี่ประเภท?

ปัจจุบันฟิลเลอร์ที่ใช้ในทางการแพทย์ความงามมีหลากหลายประเภท โดยส่วนใหญ่สามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 3 ประเภท ดังนี้

  • ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler)

ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler) เป็นประเภทฟิลเลอร์ที่นิยมนำมาฉีดกันอย่างแพร่หลายในวงการความงาม เนื่องจากมีให้เลือกใช้หลากหลายยี่ห้อ และสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยจะผลิตจาก Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่สังเคราะห์เลียนแบบสารในร่างกาย จึงไม่เสี่ยงอันตราย และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ โดยหลังฉีดเสร็จสามารถคงผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 6 – 18 เดือน และหากเกิดข้อผิดพลาด สามารถแก้ไขง่ายด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase 

  • ฟิลเลอร์กึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler)

ฟิลเลอร์กึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler) เป็นอีกหนึ่งประเภทฟิลเลอร์ที่นิยมนำมาฉีด รองลงมาจากฟิลเลอร์แบบชั่วคราว เนื่องจากมีความคงตัวสูง และให้ผลลัพธ์ในระยะยาว ไม่ต้องมีการฉีดซ้ำบ่อย ซึ่งจะมีอายุการใช้งานที่นานกว่าฟิลเลอร์แบบชั่วคราว โดยส่วนใหญ่แล้ว ฟิลเลอร์กึ่งถาวรจะผลิตจากสารสังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นคอลลาเจน เช่น Calcium Hydroxylapatite (CaHA) หรือ Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ซึ่งหลังฉีดเสร็จสามารถคงผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 24 เดือน หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ย่อยสลายไปเองตามธรรมชาติ

  • ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Filler)

ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Filler) เป็นประเภทฟิลเลอร์ที่ไม่นิยมนำมาฉีด และมีความเสี่ยงในการเกิดอันตรายสูง เนื่องจากใช้สารแปลกปลอมที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ และเกิดการตกค้างอยู่ในร่างกายอย่างถาวร เช่น ซิลิโคนเหลว หรือพาราฟิน โดยจะพบได้บ่อยในฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์หิ้วที่ไม่ผ่านการรับรองจาก อย. ซึ่งหากต้องการแก้ไข หรือนำฟิลเลอร์ออก ต้องใช้วิธีผ่าตัด หรือขูดออกเท่านั้น ไม่สามารถฉีดสลายได้เหมือนฟิลเลอร์แบบชั่วคราว

 

ฉีดสลายฟิลเลอร์ อันตรายไหม?

การฉีดสลายฟิลเลอร์ โดยทั่วไปถือเป็นการรักษาที่ไม่มีความอันตราย หากฉีดกับแพทย์ที่มีความรู้ และความเข้าใจสามารถวิเคราะห์ และคำนวณปริมาณเอนไซม์ Hyaluronidase ที่ควรใช้ได้อย่างเหมาะสม รวมถึงกำหนดบริเวณที่ต้องการฉีดสลายฟิลเลอร์ได้อย่างแม่นยำ แต่ทั้งนี้ ควรระมัดระวังเรื่องการใช้ปริมาณเอนไซม์ Hyaluronidase ที่มากจนเกินไป หรือฉีดสลายฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง เนื่องจากอาจทำให้คอลลาเจนในชั้นผิวถูกทำลาย และทำให้ผิวบริเวณโดยรอบไม่เรียบเนียนได้

 

บริเวณไหนที่นิยมฉีดสลายฟิลเลอร์?
บริเวณไหนที่นิยมฉีดสลายฟิลเลอร์?

 

บริเวณไหนที่นิยมฉีดสลายฟิลเลอร์?

การฉีดสลายฟิลเลอร์ สามารถฉีดได้หลายบริเวณบนใบหน้า ซึ่งโดยส่วนใหญ่บริเวณที่เกิดปัญหา และนิยมฉีดสลายฟิลเลอร์บ่อย มีดังนี้

  • หน้าผาก 

การฉีดสลายฟิลเลอร์บริเวณหน้าผาก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากมาแล้วเป็นคลื่น ผิวหน้าผากไม่เรียบเนียน นูน ปูด และผิดรูป

  • ใต้ตา

การฉีดสลายฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา โดยส่วนใหญ่จะใช้ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาแล้วเป็นก้อน ผิวใต้ตาไม่เรียบเนียน และดูบวมย้อยผิดปกติ

  • ร่องแก้ม

การฉีดสลายฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้ม โดยส่วนใหญ่จะใช้ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มมาแล้วเป็นก้อน บวม นูนผิดปกติ ดูไม่เป็นธรรมชาติ และไม่เรียบเนียน

  • ริมฝีปาก

การฉีดสลายฟิลเลอร์บริเวณริมฝีปาก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ปากมาแล้วผิดรูป ปากเบี้ยว ปากไม่เท่ากัน ดูบวม เป็นก้อน และไม่เป็นธรรมชาติ

  • คาง

การฉีดสลายฟิลเลอร์บริเวณคาง โดยส่วนใหญ่จะใช้ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์คางมาแล้วเป็นก้อน บวม ย้อย ผิดรูป คางแหลมเกินไป ดูไม่เป็นธรรมชาติ

 

ข้อควรรู้ก่อนฉีดสลายฟิลเลอร์

  • การฉีดสลายฟิลเลอร์ จะใช้แก้ไขปัญหาในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) เท่านั้น 
  • ควรฉีดโดยแพทย์ที่มีความรู้ และความเข้าใจ สามารถวางแผนการรักษา และแก้ไขปัญหาได้อย่างแม่นยำ 
  • ควรแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ที่เคยฉีดให้แพทย์ทราบ ได้แก่ ประเภทฟิลเลอร์ ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ บริเวณที่ฉีด ปริมาณที่ฉีด และระยะเวลาที่ฉีดฟิลเลอร์ครั้งล่าสุด
  • หากเคยมีประวัติการแพ้เหล็กในของผึ้ง หรือแพ้เอนไซม์ Hyaluronidase ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนฉีดสลายฟิลเลอร์
  • ควรเลือกฉีดสลายฟิลเลอร์ภายในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และมีใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

 

ขั้นตอนการฉีดสลายฟิลเลอร์
ขั้นตอนการฉีดสลายฟิลเลอร์

 

ขั้นตอนการฉีดสลายฟิลเลอร์

  1. ปรึกษาแพทย์ พร้อมแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ที่เคยฉีดให้แพทย์ทราบอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นประเภทฟิลเลอร์ ยี่ห้อที่ฉีด ปริมาณที่ฉีด และระยะเวลาที่ฉีดครั้งล่าสุด
  2. แพทย์จะตรวจประเมินปัญหาในบริเวณที่เคยฉีดฟิลเลอร์ พร้อมวางแผนการรักษา โดยการคำนวณปริมาณเอนไซม์ Hyaluronidase ที่ควรใช้อย่างเหมาะสม
  3. ทำความสะอาดผิวในบริเวณที่จะฉีดสลายฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อ
  4. แพทย์จะใช้เข็มฉีดเอนไซม์ Hyaluronidase เข้าไปยังบริเวณที่ต้องการสลายฟิลเลอร์โดยตรง ซึ่งเทคนิคที่ใช้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์
  5. เมื่อฉีดสลายฟิลเลอร์เสร็จ แพทย์จะนัดติดตามผลหลังทำการรักษา เพื่อประเมินว่าฟิลเลอร์สลายหมดหรือไม่ หากยังมีฟิลเลอร์หลงเหลืออยู่ แพทย์อาจพิจารณาให้ฉีดสลายฟิลเลอร์ซ้ำอีกครั้ง

 

ข้อดี – ข้อจำกัดของการฉีดสลายฟิลเลอร์

ข้อดีของการฉีดสลายฟิลเลอร์

  • การฉีดสลายฟิลเลอร์ สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
  • การฉีดสลายฟิลเลอร์ ช่วยให้ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์กลับมาเรียบเนียน ใกล้เคียงกับสภาพเดิม
  • การฉีดสลายฟิลเลอร์ ไม่เป็นอันตราย หากฉีดโดยแพทย์ที่มีความรู้ และความเข้าใจภายในคลินิกที่ได้มาตรฐาน
  • การฉีดสลายฟิลเลอร์ มีความสะดวกสบาย เนื่องจากใช้ระยะเวลาในการรักษาไม่นาน 
  • การฉีดสลายฟิลเลอร์ เป็นการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น หลังฉีดเสร็จสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • การฉีดสลายฟิลเลอร์ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น เนื้อตาย หรือใบหน้าผิดรูป

 

ข้อจำกัดของการฉีดสลายฟิลเลอร์

  • การฉีดสลายฟิลเลอร์ ไม่สามารถใช้สลายฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์ประเภทอื่นที่ไม่ใช่ HA ได้ ซึ่งในกรณีที่เคยฉีดฟิลเลอร์ปลอมมาก่อน อาจต้องพิจารณาวิธีการผ่าตัด หรือขูดออกแทน โดยจะมีความซับซ้อน และเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงกว่ามาก
  • การฉีดสลายฟิลเลอร์ อาจเสี่ยงผิวยุบ หรือไม่เรียบเนียนได้ หากฉีดกับแพทย์ที่ขาดความรู้ ความเข้าใจ และไม่สามารถประเมินปริมาณเอนไซม์ Hyaluronidase ได้อย่างเหมาะสม เช่น ฉีดมากจนเกินไป หรือฉีดผิดตำแหน่ง อาจทำให้คอลลาเจนในชั้นผิวถูกทำลาย จนผิวยุบ เป็นหลุม หรือไม่เรียบเนียนได้
  • การฉีดสลายฟิลเลอร์ อาจต้องฉีดซ้ำหลายครั้ง เพื่อให้ฟิลเลอร์สลายออกทั้งหมด โดยเฉพาะในกรณีที่เคยฉีดฟิลเลอร์ปริมาณมาก ใช้ฟิลเลอร์เนื้อแน่น และคงตัวสูง การฉีดสลายฟิลเลอร์เพียงครั้งเดียวอาจไม่เพียงพอ ทำให้ต้องกลับมาฉีดซ้ำหลายครั้ง เพื่อให้เห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน

 

ฉีดสลายฟิลเลอร์ กี่วันเห็นผล?
ฉีดสลายฟิลเลอร์ กี่วันเห็นผล?

 

ฉีดสลายฟิลเลอร์ กี่วันเห็นผล?

หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ เอนไซม์ Hyaluronidase จะเริ่มออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว และเห็นการเปลี่ยนแปลงเบื้องต้นได้ภายใน 24 – 48 ชั่วโมง โดยสังเกตได้จากบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เริ่มนิ่ม และยุบตัวลง ซึ่งฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลาย และถูกดูดซึมออกจากร่างกายอย่างค่อยเป็นค่อยไป

จากนั้นเมื่อครบ 1 สัปดาห์ จะเห็นได้ว่า ฟิลเลอร์ยุบตัวลงอย่างชัดเจน และผิวกลับมาใกล้เคียงกับสภาพเดิมอย่างดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณฟิลเลอร์ที่เคยฉีด และเนื้อฟิลเลอร์ที่เคยใช้  หากในกรณีที่มีฟิลเลอร์คงเหลืออยู่มาก หรือใช้ฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง แพทย์อาจพิจารณาให้กลับมาฉีดซ้ำ เพื่อให้ฟิลเลอร์สลายออกไปทั้งหมด

 

ฉีดสลายฟิลเลอร์แล้ว ฉีดฟิลเลอร์ต่อได้เลยไหม?

หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ จะไม่แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ใหม่เลย เนื่องจากผิวบริเวณที่ฉีดสลาย อาจยังมีอาการบวมแดง อักเสบ และยังเข้าที่ไม่สมบูรณ์ อีกทั้ง หากฉีดฟิลเลอร์ใหม่เข้าไปในขณะที่เอนไซม์ Hyaluronidase ยังออกฤทธิ์อยู่ อาจทำให้ฟิลเลอร์ใหม่ถูกสลายตามไปด้วย ส่งผลให้ผลลัพธ์ผิดเพี้ยน และไม่ตรงตามความต้องการได้ 

โดยทั่วไป แพทย์จะแนะนำให้รอประมาณ 1 – 2 สัปดาห์หลังจากฉีดสลายฟิลเลอร์เดิม เพื่อให้ผิวได้มีเวลาฟื้นฟู และกลับสู่สภาพปกติอย่างสมบูรณ์ ซึ่งการให้เวลาผิวพักฟื้นอย่างเหมาะสมถือเป็นขั้นตอนสำคัญ ที่ช่วยให้แพทย์สามารถประเมินสภาพผิว และวางแผนการฉีดครั้งใหม่ได้แม่นยำมากขึ้น

 

ฉีดสลายฟิลเลอร์ ต้องฉีดกี่ครั้ง?

จำนวนครั้งในการฉีดสลายฟิลเลอร์ อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณฟิลเลอร์ที่เคยฉีด เนื้อฟิลเลอร์เดิมที่เคยใช้ และสภาพผิวของแต่ละบุคคล ซึ่งโดยส่วนใหญ่ แพทย์จะแนะนำให้ฉีดสลายฟิลเลอร์ประมาณ 1 – 3 ครั้ง โดยหลังจากการฉีดสลายในครั้งแรก แพทย์จะนัดติดตามผล เพื่อประเมินว่าฟิลเลอร์สลายหมดแล้วหรือไม่ หากยังคงเหลืออยู่ แพทย์จะทำการประเมิน และวางแผนการฉีดสลายเพิ่มเติมในครั้งถัดไป

 

ถาม – ตอบเกี่ยวกับการฉีดสลายฟิลเลอร์

ฉีดสลายฟิลเลอร์ มีผลข้างเคียงไหม?

หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ โดยทั่วไปจะไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย แต่อาจมีอาการเกิดขึ้นเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อย และสามารถหายได้เองภายใน 1 – 3 วัน ดังนี้

  • อาการบวมแดง 
  • เจ็บ หรือปวดระบม
  • มีรอยฟกช้ำ
  • อาการคัน หรือระคายเคืองเล็กน้อย

 

ฟิลเลอร์ปลอม สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ไหม?

  • ฟิลเลอร์ปลอมไม่สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ เนื่องจากเอนไซม์ Hyaluronidase มีคุณสมบัติเฉพาะเจาะจงในการย่อยสลายโมเลกุล HA เท่านั้น ไม่สามารถทำปฏิกิริยา และย่อยสลายฟิลเลอร์ประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ HA ได้ อีกทั้ง การฉีดฟิลเลอร์ปลอมยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายสูง เนื่องจากสารที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน และไม่ได้รับการรับรองจาก อย. เช่น ซิลิโคน พาราฟิน หรือสารสังเคราะห์อื่น ๆ ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ทำให้การแก้ไขปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ปลอม จึงมีความซับซ้อน และเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนสูงค่ะ

 

ฉีดสลายฟิลเลอร์ ต่างจากการขูดฟิลเลอร์ และผ่าตัดอย่างไร?

โดยทั่วไปการฉีดสลายฟิลเลอร์ การขูดฟิลเลอร์ และการผ่าตัดนำฟิลเลอร์ออก มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้

  • ฉีดสลายฟิลเลอร์

การฉีดสลายฟิลเลอร์ เป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อน บวม อักเสบ หรือผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ซึ่งจะใช้ได้กับฟิลเลอร์ประเภท HA เท่านั้น โดยแพทย์จะใช้เอนไซม์ Hyaluronidase ฉีดเข้าไปในบริเวณที่มีฟิลเลอร์อยู่ เพื่อออกฤทธิ์ในการย่อยสลายโมเลกุล HA ให้แตกตัวกลายเป็นน้ำ และทำให้ร่างกายดูดซึมออกได้ง่าย ซึ่งวิธีนี้ ถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูงในการแก้ไขปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากไม่เสี่ยงอันตราย และสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น

  • ขูดฟิลเลอร์

การขูดฟิลเลอร์ เป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้กับฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์กึ่งถาวรที่ไม่ใช่ประเภท HA จึงไม่สามารถฉีดสลายด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase ได้ โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือทางการแพทย์ ขูดเอาเนื้อฟิลเลอร์ที่ติดกับเนื้อเยื่อออก ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง และทิ้งรอยแผลเป็นเล็กน้อย รวมถึงเป็นวิธีที่ไม่สามารถนำฟิลเลอร์ออกมาได้ทั้งหมด

  • ผ่าตัดนำฟิลเลอร์ออก

การผ่าตัดนำฟิลเลอร์ออก เป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้กับฟิลเลอร์ปลอมที่มีก้อนแข็งขนาดใหญ่ ไม่สามารถขูดออก หรือฉีดสลายได้ รวมถึงมีพังผืดล้อมรอบอยู่เป็นจำนวนมาก โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดเปิดแผลเพื่อนำฟิลเลอร์ปลอมออกมา ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน และแผลเป็น รวมถึงต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนาน อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ไม่สามารถนำฟิลเลอร์ออกมาได้ทั้งหมดอีกด้วย

 

ฉีดสลายฟิลเลอร์ ที่ไหนดี?

ก่อนตัดสินใจฉีดสลายฟิลเลอร์ ควรศึกษาหาข้อมูล และพิจารณาอย่างรอบด้าน เพื่อประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหา และป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะแนะนำให้พิจารณา ดังนี้

  • การฉีดสลายฟิลเลอร์ ควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความรู้ และความเข้าใจ โดยแพทย์จะต้องสามารถประเมิน วิเคราะห์สภาพผิว และวางแผนการฉีดสลายฟิลเลอร์ได้อย่างแม่นยำ
  • การฉีดสลายฟิลเลอร์ ควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานตามหลักกระทรวงสาธารณสุข โดยคลินิกจะต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้อง และภายในคลินิกจะต้องมีความสะอาด ถูกสุขอนามัย
  • การฉีดสลายฟิลเลอร์ ควรเลือกคลินิกที่มีการนัดติดตามผลหลังทำการรักษา เพื่อประเมินว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดสลายไปยังคงเหลืออยู่หรือไม่ และสามารถให้คำแนะนำในการฉีดครั้งถัดไปได้อย่างเหมาะสม
  • การฉีดสลายฟิลเลอร์ ควรเลือกคลินิกที่มีรีวิวที่น่าเชื่อถือจากผู้ใช้บริการจริง ทั้งรูปภาพเปรียบเทียบก่อน – หลังทำ รวมถึงวิดีโอ และคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นในเชิงบวก

การฉีดสลายฟิลเลอร์ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ประเภท HA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม ฉีดฟิลเลอร์แล้วอักเสบ รวมถึงฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่พึงพอใจในผลลัพธ์ ซึ่งถือเป็นวิธีที่ไม่เสี่ยงอันตราย และสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว แต่ทั้งนี้ การฉีดสลายฟิลเลอร์ควรอยู่ภายใต้การดูแลจากแพทย์ที่มีความเข้าใจ และคลินิกที่มีมาตรฐาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการฉีดผิดตำแหน่ง หรือใช้ปริมาณเอนไซม์ Hyaluronidase ที่ไม่เหมาะสม สำหรับใครที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ประจำรมย์รวินท์คลินิกได้ทุกสาขาค่ะ

 

*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด