เมื่ออายุมากขึ้น ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ และขาดความยืดหยุ่นก็เริ่มตามมา ทำให้หลายคนกังวล และมองหาวิธีแก้ไขที่ไม่เสี่ยงอันตราย โดยหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมปัจจุบันคือ “ฟิลเลอร์ยกกระชับ” ซึ่งเป็นการยกกระชับปรับรูปหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม และไม่ต้องพักฟื้นนาน จึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย และริ้วรอย ร่องลึกได้อย่างแม่นยำ บทความนี้ รมย์รวินท์คลินิกจะพามาทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ยกกระชับแบบเจาะลึกว่า ฟิลเลอร์ยกกระชับคืออะไร? ฉีดจุดไหนได้บ้าง? เหมาะกับใคร? และมีข้อดีอย่างไร? เรารวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว
ฟิลเลอร์ยกกระชับ คืออะไร?
ฟิลเลอร์ยกกระชับ (Lifting Filler) คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid – HA) เข้าไปยังผิวหนัง โดยจะช่วยในการยกกระชับผิวหน้าในจุดที่หย่อนคล้อย และพยุงโครงสร้างผิวที่เกิดจากกระดูกทรุด หรือไขมันยุบตัวตามวัย เพื่อยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนกว่าวัย และดูมีมิติมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นนาน
สาเหตุที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย
ผิวหย่อนคล้อยเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบบ่อยเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วผิวหย่อนคล้อยสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น
อายุที่เพิ่มมากขึ้นเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะค่อย ๆ สูญเสียคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนัง ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักในการพยุงผิว หากโครงสร้างเหล่านี้เสื่อมสภาพลง ผิวก็จะเริ่มขาดความยืดหยุ่น ขาดความกระชับ และขาดความชุ่มชื้น จนส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อย และเกิดริ้วรอยได้
- ไขมัน และกระดูกทรุดตัว
ไขมัน และกระดูกทรุดตัวเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น ชั้นไขมัน และชั้นกระดูกก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลง โดยไขมันที่เคยพยุงโครงสร้างผิวก็จะค่อย ๆ บางลง ในขณะที่ชั้นกระดูกก็จะเริ่มทรุดตัวตามวัย ทำให้โครงสร้างผิวขาดการพยุง และนำไปสู่ปัญหาผิวหย่อนคล้อยอย่างเห็นได้ชัด
- ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน เมื่อระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ผิวก็จะเริ่มบาง แห้งกร้าน และขาดความยืดหยุ่น จนเกิดความหย่อนคล้อย และริ้วรอยได้ง่าย
- แสงแดด รังสี UV
แสงแดด และรังสี UV เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย เนื่องจากแสงแดดจะเข้าไปทำลายคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนัง รวมถึงกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ และเร่งให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ส่งผลให้ผิวอ่อนแอ สูญเสียความกระชับ ขาดความยืดหยุ่น และเกิดความหย่อนคล้อยได้
- มลภาวะต่าง ๆ
ฝุ่น ควัน และมลภาวะต่าง ๆ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย เนื่องจากสิ่งเหล่านี้สามารถแทรกซึมเข้าสู่ผิว และกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ ทำให้คอลลาเจน และอีลาสตินเสื่อมสภาพเร็วขึ้น จนส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ และสูญเสียความยืดหยุ่นได้
- พักผ่อนไม่เพียงพอ
การพักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย เนื่องจากขณะหลับ ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ออกมา ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูเซลล์ผิว หากนอนหลับไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะผลิตโกรทฮอร์โมนได้น้อยลง และผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) เพิ่มขึ้นแทน โดยฮอร์โมนนี้จะเข้าไปกระตุ้นการทำลายคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่น ขาดความกระชับ และเกิดความหย่อนคล้อยได้ง่าย
- ความเครียดสะสม
ความเครียดสะสม เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย เนื่องจากเมื่อเรามีความเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมา ซึ่งฮอร์โมนนี้จะเข้าไปยับยั้งการผลิตคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนัง รวมถึงกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวเสื่อมสภาพไว จนผิวสูญเสียความยืดหยุ่น ขาดความกระชับ และเกิดความหย่อนคล้อยตามมา
- สูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
การสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย เนื่องจากสารพิษในบุหรี่ และแอลกอฮอล์จะเข้าไปทำลายคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนัง รวมถึงเร่งกระบวนการเสื่อมของผิว และทำให้ร่างกายขับน้ำออกมามากกว่าปกติ ทำให้ผิวแห้งกร้าน ขาดความยืดหยุ่น ไม่กระชับ และเกิดความหย่อนคล้อยได้ง่าย
สัญญาณที่บ่งบอกถึงผิวหย่อนคล้อย
ปัญหาผิวหย่อนคล้อยสามารถสังเกตได้จากหลายสัญญาณ ดังนี้
- กรอบหน้าไม่คมชัด ผิวหนังเริ่มกองตัวอยู่ใต้คาง
- หน้าแก้มตก แก้มดูห้อย ไม่เต่งตึง
- ร่องแก้มลึก ร่องน้ำหมากชัด
- หนังตาตก ใต้ตาหย่อนเป็นร่องลึก
- มีริ้วรอยรอบดวงตา และริมฝีปาก
- ลำคอมีรอยย่น และมีลักษณะเป็นชั้น ๆ
ฟิลเลอร์ยกกระชับ ฉีดจุดไหนได้บ้าง?
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ สามารถฉีดได้หลากหลายจุดบนใบหน้า ขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการแก้ไข และการพิจารณาของแพทย์ ซึ่งโดยทั่วไปจุดที่นิยมฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ มีดังนี้
- ฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับบริเวณใต้ตา สามารถลดความหย่อนคล้อยของใบหน้าได้ โดยฟิลเลอร์จะช่วยพยุงผิวบริเวณใต้ตาให้เต่งตึง เติมเต็มร่องลึกใต้ตา ลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตา และแก้ปัญหาถุงใต้ตาที่เกิดขึ้นตามวัย
- ฟิลเลอร์ขมับ
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับบริเวณขมับ สามารถลดความหย่อนคล้อยของใบหน้าได้ โดยฟิลเลอร์จะช่วยพยุงโครงสร้างผิว เติมเต็มขมับให้ดูอิ่มฟู และยกกระชับปรับรูปหน้าใบหน้าส่วนบนให้ดูอ่อนกว่าวัยมากขึ้น
- ฟิลเลอร์โหนกแก้ม
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับบริเวณโหนกแก้ม สามารถลดความหย่อนคล้อยของใบหน้าได้ โดยฟิลเลอร์จะช่วยยกพยุงใบหน้าส่วนกลาง และปรับโครงสร้างใบหน้าให้มีความสมส่วน
- ฟิลเลอร์แก้มส้ม
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับบริเวณแก้มส้ม สามารถลดความหย่อนคล้อยของใบหน้าได้ โดยฟิลเลอร์จะช่วยยกกระชับหน้าแก้มให้ดูเต่งตึง กระชับ และมีมิติมากขึ้น รวมถึงยังช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องแก้ม และร่องน้ำหมากได้
- ฟิลเลอร์แก้มตอบ
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับบริเวณแก้มตอบ สามารถลดความหย่อนคล้อยของใบหน้าได้ โดยฟิลเลอร์จะช่วยพยุงผิวข้างแก้มให้ยกขึ้น แก้ปัญหากระเปาะแก้ม และปรับโครงสร้างใบหน้าให้มีความสมดุล
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับบริเวณร่องแก้ม สามารถลดความหย่อนคล้อยของใบหน้าได้ โดยฟิลเลอร์จะช่วยลดเลือนร่องแก้มลึก และร่องน้ำหมาก รวมถึงยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วน
- ฟิลเลอร์กรอบหน้า
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับบริเวณกรอบหน้า สามารถลดความหย่อนคล้อยของใบหน้าได้ โดยฟิลเลอร์จะช่วยเพิ่มความคมชัดให้กรอบหน้า พร้อมยกกระชับใบหน้าแนวกรอบหน้าให้เต่งตึง และดูอ่อนกว่าวัยมากขึ้น
- ฟิลเลอร์คาง
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับบริเวณคาง สามารถลดความหย่อนคล้อยของใบหน้าได้ โดยฟิลเลอร์จะช่วยยกพยุงใบหน้าส่วนล่าง และปรับโครงสร้างใบหน้าให้มีความสมดุล ดูมีมิติ
เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ จะใช้เทคนิคที่แตกต่างจากการฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มทั่วไป โดยจะเน้นการแก้ปัญหาแบบองค์รวม และวางฟิลเลอร์ในตำแหน่งสำคัญที่มักเกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อย ซึ่งมีบทบาทในการพยุงโครงสร้างผิว และยกกระชับปรับรูปหน้าให้สมดุลมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยเติมเต็มชั้นไขมันที่ลดลง และเสริมชั้นกระดูกที่ทรุดตัวตามวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย และดูมีมิติมากขึ้น
ทั้งนี้ แพทย์จะเป็นผู้วิเคราะห์ และประเมินโครงสร้างใบหน้าอย่างละเอียด เพื่อเลือกตำแหน่งฉีดที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล เช่น ใต้ตา ขมับ โหนกแก้ม หน้าแก้ม คาง หรือกรอบหน้า ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีผลต่อการยกพยุงใบหน้าโดยรวม โดยจะใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่พอดี เพื่อให้ผลลัพธ์แลดูเป็นธรรมชาติ และไม่แข็งทื่อ
ฟิลเลอร์ยกกระชับ ยี่ห้อไหนดี?
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ โดยยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้ความนิยม มีดังนี้
- Juvederm
Juvederm เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตจากประเทศสหรัฐอเมริกาโดยบริษัท Allergan ซึ่งมีกระบวนการผลิตฟิลเลอร์ถึง 2 แบบ ได้แก่ HYLACROSS และ VYCROSS โดย HYLACROSS เป็นเทคโนโลยีที่เด่นเรื่องความอุ้มน้ำ ฉีดแล้วฟูได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณที่มีการขยับบ่อย ในขณะที่ VYCROSS เป็นเทคโนโลยีที่เด่นเรื่องการยกพยุงผิว บวมน้ำน้อย ยึดเกาะได้ดี เหมาะสำหรับการฉีดเติมเต็ม และเพิ่มความอวบอิ่มให้ผิว
ปัจจุบันฟิลเลอร์ Juvederm ถูกผลิตออกมาทั้งหมด 7 รุ่น ซึ่งตอบโจทย์กับปัญหา และความต้องการที่แตกต่างกัน โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน และให้คำแนะนำในการเลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วหลังฉีด Juvederm ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 12 – 24 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ การดูแลตัวเองหลังฉีด และสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- Restylane
Restylane เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตจากประเทศสวีเดนโดยบริษัท Galderma ซึ่งมีกระบวนการผลิตฟิลเลอร์ถึง 2 แบบ ได้แก่ NASHA และ OBT โดย NASHA เป็นเทคโนโลยีที่เด่นเรื่องการคงรูป ดึงโมเลกุลน้ำมาเก็บในฟิลเลอร์ และเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี โดยไม่ไหลไปยังบริเวณอื่น ในขณะที่ OBT เป็นเทคโนโลยีที่เด่นเรื่องความยืดหยุ่น กลมกลืนกับผิวได้ดี และสามารถปรับรูปทรงได้อย่างหลากหลาย
ปัจจุบันฟิลเลอร์ Restylane ถูกผลิตออกมาทั้งหมด 8 รุ่น ซึ่งตอบโจทย์กับปัญหา และความต้องการที่แตกต่างกัน โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน และให้คำแนะนำในการเลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วหลังฉีด Restylane ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 12 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ การดูแลตัวเองหลังฉีด และสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- Belotero
Belotero เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์โดยบริษัท Merz Aesthetics ซึ่งมีกระบวนการผลิตฟิลเลอร์ที่เรียกว่า CPM เป็นเทคโนโลยีที่มีจุดเด่นถึง 3 ประการ ได้แก่ Cohesivity ช่วยให้ฟิลเลอร์ยึดเกาะกันอย่างหนาแน่น โดยไม่กระจายตัวไปยังบริเวณอื่น, Elasticity ช่วยให้ฟิลเลอร์ยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับได้ดี โดยไม่แข็งทื่อ และ Plasticity ช่วยให้ฟิลเลอร์ปั้นทรงง่าย กลมกลืนกับผิวได้ดี สามารถปรับรูปทรงได้อย่างหลากหลาย
ปัจจุบันฟิลเลอร์ Belotero ถูกผลิตออกมาทั้งหมด 7 รุ่น ซึ่งตอบโจทย์กับปัญหา และความต้องการที่แตกต่างกัน โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน และให้คำแนะนำในการเลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วหลังฉีด Belotero ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 6 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ การดูแลตัวเองหลังฉีด และสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ฟิลเลอร์ยกกระชับ เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุประมาณ 25 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงวัยที่มีเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย และเกิดริ้วรอยได้ง่าย
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย และขาดความกระชับ เช่น หน้าแก้มห้อย ใต้ตาหย่อน หนังตาตก และกรอบหน้าดูไม่คมชัด
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก เช่น ร่องแก้มลึก ร่องน้ำหมาก ใต้ตาลึก มุมปากตก และมีริ้วรอยรอบดวงตา
- ผู้ที่มีปัญหาไขมันยุบ และกระดูกทรุด
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวบาง ไขมันยุบ และกระดูกทรุดจากอายุที่มากขึ้น ทำให้ผิวขาดการพยุง และเกิดความหย่อนคล้อยได้ง่าย
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าไม่สมดุล
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าไม่สมดุล และดูขาดมิติ รวมถึงผู้ที่ต้องการยกกระชับปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน และมีความเรียวยาว
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าตอบ
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าตอบ ดูโทรม เหนื่อยล้า และแก่กว่าวัย เช่น แก้มตอบ และขมับตอบ ซึ่งเป็นผลมาจากการยุบตัวของไขมัน และกระดูกตามวัย
- ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการการผ่าตัด แต่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ต้องพักฟื้นนานหลังทำ
หมายเหตุ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับควรปรึกษาแพทย์ และแจ้งประวัติสุขภาพให้แพทย์ทราบอย่างครบถ้วน ทั้งประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ ประวัติการรักษา และยาที่รับประทานเป็นประจำ
ฟิลเลอร์ยกกระชับ ไม่เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยอย่างรุนแรง อาจแนะนำให้พิจารณาทางเลือกอื่นร่วมด้วย เช่น เครื่องยกกระชับ
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ส่วนประกอบในฟิลเลอร์ หรือแพ้สาร Hyaluronic Acid (HA)
- ผู้ที่มีอาการผิวหนังอักเสบ และติดเชื้อบริเวณที่ฉีด เช่น สิวอักเสบ เป็นเริม หรือแผลติดเชื้อ
- ผู้ที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์ และกำลังให้นมบุตรอยู่
- ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกง่าย มีโรคที่เกี่ยวกับแข็งตัวของเลือด หรือรับประทานยาละลายลิ่มเลือด
- ผู้ที่มีปัญหาภูมิคุ้มกันบกพร่อง มีโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือรับประทานยากดภูมิคุ้มกัน
หมายเหตุ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับควรปรึกษาแพทย์ และแจ้งประวัติสุขภาพให้แพทย์ทราบอย่างครบถ้วน ทั้งประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ ประวัติการรักษา และยาที่รับประทานเป็นประจำ
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ
- แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ใบหน้ากลับมาเต่งตึง กระชับ และดูอ่อนกว่าวัยมากขึ้น
- แก้ปัญหาได้หลายจุด แม้ในจุดที่บอบบาง
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ สามารถแก้ปัญหาได้หลากหลายจุดบนใบหน้า แม้ในจุดที่มีผิวบอบบาง เช่น รอบดวงตา และหน้าผาก
- เห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่ในครั้งแรกที่ทำการฉีด โดยจะเห็นได้ชัดเลยว่า ผิวดูยกกระชับขึ้น ริ้วรอย ร่องลึกดูตื้นขึ้น ใบหน้าดูสมส่วน และดูมีมิติอย่างชัดเจน
- ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ สามารถย่อยสลายได้เองตามกระบวนการธรรมชาติ เนื่องจากใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) จึงไม่เสี่ยงอันตราย และไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย
- เจ็บน้อย ใช้เวลาฉีดไม่นาน
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ ให้ความรู้สึกเจ็บน้อย และใช้ระยะเวลาในการฉีดไม่นานเพียง 15 – 30 นาที ต่อหนึ่งจุด รวมถึงมีการทายา หรือฉีดยาชาให้ก่อนทำ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องความเจ็บขณะฉีด
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นนาน จึงมีความสะดวก และสบาย หลังฉีดสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ
- ก่อนฉีดควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ยกกระชับอย่างละเอียด
- ก่อนฉีดควรให้แพทย์ประเมินสภาพผิว เพื่อวางแผนการฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับอย่างเหมาะสม
- ก่อนฉีดควรแจ้งประวัติสุขภาพให้แพทย์ทราบอย่างชัดเจน ได้แก่ ประวัติโรคประจำ อาการแพ้ และยาที่ใช้อยู่
- ก่อนฉีดงดอาหารเสริม วิตามิน รวมถึงยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด และยาต้านการอักเสบ
- ก่อนฉีดงดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
- ก่อนฉีดงดทำเลเซอร์ ทรีตเมนต์ และงดทำหัตถการต่าง ๆ ที่รุนแรงกับผิว
- ก่อนฉีดงดขัดหน้า สครับหน้า และใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมในการผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA
- ก่อนฉีดควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยการดื่มน้ำให้เพียงพอ และนอนหลับพักผ่อนให้มาก ๆ
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ
- หลังฉีดหลีกเลี่ยงการแต่งหน้า หรือใช้เครื่องสำอางบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ
- หลังฉีดควรประคบเย็นอย่างเบามือ ในกรณีที่มีอาการบวมแดง
- หลังฉีดหลีกเลี่ยงการบีบ นวด กด หรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดโดยตรง
- หลังฉีดงดการเผชิญความร้อนสูง และงดโดนแสงแดดเป็นเวลานาน
- หลังฉีดงดการทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก และงดออกกำลังกายอย่างหนัก
- หลังฉีดงดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
- หลังฉีดงดทำเลเซอร์ ทรีตเมนต์ และงดทำหัตถการต่าง ๆ ที่รุนแรงกับผิว
- หลังฉีดงดขัดหน้า สครับหน้า และใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมในการผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA
- หลังฉีดควรบำรุงผิวให้คงความชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่อง โดยการใช้มอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำทุกวัน
- หลังฉีดควรปกป้องผิวจากแสงแดดและรังสี UV โดยการทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
- หลังฉีดควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยการดื่มน้ำให้เพียงพอ และนอนหลับพักผ่อนให้มาก ๆ
- หลังฉีดควรปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องตามที่แพทย์แนะนำ
จะเห็นได้ว่า ฟิลเลอร์ยกกระชับเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่สามารถแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้อย่างรวดเร็ว และให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีบาดแผล และไม่ต้องพักฟื้นนานหลังทำ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ หน้าแก้มห้อย ใบหน้าตก และกรอบหน้าไม่ชัด ทำให้ผิวหน้ากลับมาเต่งตึง กระชับ แน่นฟู และดูอ่อนกว่าวัยอย่างแลดูเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ สำหรับใครที่สนใจการฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้ที่ รมย์รวินท์คลินิก เพื่อให้แพทย์วิเคราะห์ และประเมินโครงสร้างใบหน้า พร้อมวางแผนการฉีดฟิลเลอร์อย่างเหมาะสม ทั้งในเรื่องของตำแหน่งที่ฉีด เทคนิคที่ใช้ และกำหนดปริมาณฟิลเลอร์ที่ตอบโจทย์กับปัญหาได้อย่างแม่นยำ เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงาม และไม่เสี่ยงอันตราย
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด