ทำหน้าเรียว ที่ไหนดี? เจาะลึกวิธีเลือกคลินิกอย่างมั่นใจและได้ผลลัพธ์ดี

ทำหน้าเรียว ที่ไหนดี? เจาะลึกวิธีเลือกคลินิกอย่างมั่นใจและได้ผลลัพธ์ดี

ทำหน้าเรียว ที่ไหนดี? เจาะลึกวิธีเลือกคลินิกอย่างมั่นใจและได้ผลลัพธ์ดี

“หน้าเรียว” กลายเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของหลายคนที่อยากปรับลุคให้ดูดีขึ้น เสริมความมั่นใจ และให้ภาพรวมของใบหน้าดูละมุน สมส่วนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเพื่อเสริมบุคลิกภาพในการทำงาน ถ่ายภาพให้ดูดีขึ้น หรือเพื่อความพึงพอใจส่วนตัว การทำหน้าเรียวจึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ทุกวันนี้ มีหลากหลายวิธีที่สามารถช่วยให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคจากการปรับรูปหน้าด้วยหัตถการ เช่น โปรแกรมฉีดโบ ยกกระชับผิวด้วยคลื่นพลังงาน ไปจนถึงการเติมเต็มรูปหน้าด้วยสารเติมเต็มต่าง ๆ ซึ่งแต่ละวิธีล้วนมีข้อดีเฉพาะตัว และเหมาะกับสภาพปัญหาที่ต่างกันไป

 

แต่สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการเลือกวิธี คือการเลือกสถานที่ที่ให้บริการอย่างเหมาะสม คลินิกที่มีมาตรฐาน ชัดเจนเรื่องข้อมูล และดำเนินการโดยแพทย์ประจำคลินิก ย่อมช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจ และได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติอย่างที่คาดหวัง

 

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจว่าควรเลือกทำหน้าเรียวที่ไหน และจะเลือกคลินิกแบบไหนจึงจะคุ้มค่า ไม่เสี่ยง และเห็นผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ได้จริง

 

สรุปทำหน้าเรียว ที่ไหนดี เพื่อผลลัพธ์ที่ดีอย่างมั่นใจ

การทำหน้าเรียวไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของความละเอียดอ่อนในการปรับโครงหน้าอย่างเหมาะสม การเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานจึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญสู่ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

 

รมย์รวินท์คลินิกพร้อมดูแลทุกขั้นตอนการยกกระชับปรับรูปหน้าเรียวกระชับ ด้วยแพทย์ประจำคลินิกและการเลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งโปรแกรมฉีดโบ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงการยกกระชับด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ไม่ว่าจะเป็น Ultraformer MPT, Ulthera Prime หรือ Super HIFU ที่สามารถปรับแต่งพลังงานได้อย่างแม่นยำตามปัญหาเฉพาะบุคคล

 

ทุกเคสที่เข้ารับบริการทำหน้าเรียวที่รมย์รวินท์คลินิก จะได้รับการประเมินโครงหน้าอย่างละเอียดโดยแพทย์ เพื่อให้สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ ยังมีการติดตามผลหลังทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดในทุกขั้นตอน

 

ทำไมใคร ๆ ก็อยากทำหน้าเรียว?

ในยุคที่เทรนด์ความงามจากเกาหลี (K-Beauty) ได้รับความนิยมไปทั่วโลก การทำหน้าเรียวกลายเป็นรูปแบบโครงหน้าที่หลายคนใฝ่ฝัน ความงามสไตล์เกาหลีที่เน้นใบหน้าเรียว กรอบหน้าชัดเจน และโครงหน้าที่ได้สัดส่วนพอดี ช่วยส่งเสริมให้ลุคโดยรวมดูอ่อนเยาว์ สุภาพ และเข้ากับหลากหลายสไตล์การแต่งหน้าได้ง่ายขึ้น

 

การมีโครงหน้าที่เรียวกระชับ ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้นในชีวิตประจำวัน แต่ยังเพิ่มความมั่นใจเมื่อพบปะผู้คนหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ถ่ายภาพ หรือแม้แต่การใช้ชีวิตบนโซเชียลมีเดีย

 

ที่สำคัญ การยกกระชับปรับรูปหน้าเรียวมักใช้เทคนิคที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด และเห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนภายในระยะเวลาอันสั้น เช่น การฉีดโปรแกรมโบปรับขนาดกราม การยกกระชับด้วยคลื่นพลังงาน หรือการเติมเต็มรูปหน้าด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้ใบหน้าดูได้รูปมากขึ้นโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน จึงตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสวยงามอย่างดูเป็นธรรมชาติ

 

วิธีทำหน้าเรียวยอดฮิตในปัจจุบัน
วิธีทำหน้าเรียวยอดฮิตในปัจจุบัน

 

วิธีทำหน้าเรียวยอดฮิตในปัจจุบัน

ในปัจจุบัน การทำหน้าเรียวมีตัวเลือกหลากหลายที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดใหญ่ แต่สามารถยกกระชับปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน ดูเป็นธรรมชาติ และเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

โปรแกรมฉีดโบ

หนึ่งในวิธีทำหน้าเรียวที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือการฉีดโปรแกรมโบ โดยโปรแกรมฉีดโบทำงานผ่านการยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ เมื่อฉีดเข้าไปบริเวณกราม จะช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณนั้นให้เล็กลง ทำให้กรอบหน้าดูเรียวกระชับมากขึ้น

การฉีดโปรแกรมโบเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ ไม่ใช่จากกระดูก หรือไขมันสะสม ผลลัพธ์หลังฉีดจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงภายในประมาณ 24 สัปดาห์ และอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ และพฤติกรรมการใช้กล้ามเนื้อของแต่ละบุคคล

 

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับปรับรูปหน้า

นอกจากการลดขนาดกล้ามเนื้อแล้ว การเติมเต็มรูปหน้าด้วยสารเติมเต็มเป็นอีกเทคนิค ที่ช่วยให้ใบหน้าดูสมูทและเรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่นิยมใช้คือฟิลเลอร์ไฮยาลูโรนิกแอซิด (HA) ซึ่งมีคุณสมบัติเสริมโครงสร้างผิว เติมเต็มร่องลึก และช่วยให้รูปหน้าเข้ารูปมากขึ้น จุดที่นิยมฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้า ได้แก่

  • คาง เพื่อเสริมคางให้ยาวขึ้น
  • ร่องแก้ม เติมเต็มร่องลึกให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
  • ขมับ เติมความเต็มอิ่มให้ใบหน้าด้านบนสมดุลกับรูปหน้าโดยรวม

การเลือกโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ HA แท้เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะนอกจากให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติแล้ว ยังไม่เสี่ยงอันตรายอีกด้วย สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และหากมีปัญหาสามารถฉีดสลายได้

 

โปรแกรมเครื่องยกกระชับ

โปรแกรมเครื่องยกกระชับ คือเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาเพื่อช่วยฟื้นฟูความกระชับของผิวหน้าและผิวกาย โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด อาศัยการส่งพลังงานเฉพาะ เช่น คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง (Micro-Focused Ultrasound) ลงลึกถึงชั้นผิวในระดับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการดึงหน้า นั่นก็คือชั้น SMAS เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และเสริมความแข็งแรงให้โครงสร้างผิวจากภายใน ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่เคยหย่อนคล้อยกลับมากระชับ เต่งตึง ดูเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมช่วย ลดเลือนริ้วรอย และปรับโครงหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น ซึ่งเครื่องยกกระชับมีหลากหลายเครื่องแตกต่างกันไป ดังนี้

  • Super HIFU เป็นเทคโนโลยียกกระชับที่ใช้ คลื่นเสียงความถี่สูง (High-Intensity Focused Ultrasound) ยิงพลังงานลงลึกถึง ชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และยกกระชับผิวจากภายใน ช่วยให้ผิวที่หย่อนคล้อยกลับมาตึงกระชับและดูเรียวขึ้น
  • Ultraformer MPT โดดเด่นด้วยการ ยิงพลังงานได้รวดเร็วและแม่นยำกว่าเดิม สามารถปรับความลึกได้ตามแต่ละปัญหาผิว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ปรับรูปหน้าเรียวพร้อมยกกระชับในเวลาอันสั้น ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพักฟื้น
  • Ulthera Prime คือ รุ่นใหม่ที่พัฒนาต่อจาก Ulthera SPT ใช้ พลังงาน MFU-V (Microfocused Ultrasound with Visualization) เหมือนเดิม แต่ปรับปรุงให้ ยิงพลังงานได้แม่นยำและเรียบเนียนขึ้น ใช้เวลาน้อยลง จุดเด่นสำคัญคือ หน้าจอ Visualization ที่ช่วยให้แพทย์มองเห็นชั้นผิวแบบเรียลไทม์ ทำให้เล็งพลังงานได้ตรงจุด เสริมผลลัพธ์ให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
  • Thermage FLX ใช้ คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radiofrequency: RF) ส่งพลังงานความร้อนลงลึกถึง ชั้นหนังแท้ (Dermis) เพื่อ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและกระชับผิว จุดเด่นคือ หัวทิปแบบใหม่และเทคโนโลยี AccuREP™ ที่ช่วยปรับพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ ทำให้ผลลัพธ์สม่ำเสมอและรู้สึกสบายขณะทำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ยกกระชับผิวหน้าและผิวกาย พร้อมลดริ้วรอยโดยไม่ต้องพักฟื้น
  • Oligio ใช้ คลื่นวิทยุ Monopolar RF ส่งความร้อนลงสู่ ชั้นหนังแท้และไขมันใต้ผิว เพื่อ กระตุ้นคอลลาเจนและช่วยสลายไขมันส่วนเกิน จุดเด่นคือ ระบบ Cooling และ Skin Temperature Tracking Sensor ที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิให้ปลอดภัย เหมาะกับผู้ที่ต้องการ ผิวกระชับ ลดเหนียง และปรับรูปหน้าพร้อมกันในคราวเดียว

 

ทำหน้าเรียว ที่ไหนดี กับปัจจัยสำคัญของการเลือกคลินิก
ทำหน้าเรียว ที่ไหนดี กับปัจจัยสำคัญของการเลือกคลินิก

 

ทำหน้าเรียว ที่ไหนดี กับปัจจัยสำคัญของการเลือกคลินิก

การเลือกคลินิกทำหน้าเรียว ไม่ใช่เพียงแค่พิจารณาราคาโปรโมชั่นเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงมาตรฐาน ความน่าเชื่อถือในทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต โดยมีหลักเกณฑ์ที่ควรตรวจสอบดังนี้

  • คลินิกต้องมีใบอนุญาตประกอบการถูกต้อง

ก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ ควรตรวจสอบว่าคลินิกมีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล ที่ออกโดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพอย่างถูกต้องหรือไม่ สามารถตรวจสอบชื่อคลินิกได้ผ่านเว็บไซต์ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือสอบถามข้อมูลโดยตรงที่คลินิก ทั้งนี้ควรมีการระบุเลขที่ใบอนุญาตประกอบการอย่างชัดเจนบนป้าย หรือเอกสารต่าง ๆ ของคลินิก

  • แพทย์ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ คือการตรวจสอบว่าแพทย์ที่ให้บริการมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภาหรือไม่ โดยสามารถค้นหาชื่อแพทย์และเลขใบอนุญาตได้จากเว็บไซต์ของแพทยสภาโดยตรง

  • รีวิวและผลลัพธ์จากผู้ใช้จริง

การดูรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการจริง เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยประกอบการตัดสินใจได้เป็นอย่างดี ควรเลือกดูรีวิวจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น Facebook, Pantip, Wongnai หรือรีวิวที่มีข้อมูลการทำจริงจากลูกค้า ไม่ควรเชื่อรีวิวที่แสดงภาพ Before-After โดยไม่มีคำอธิบายรายละเอียด เช่น ช่วงเวลาหลังทำ หรือวิธีการทำ เพราะอาจมีการแต่งภาพหรือเลือกมุมกล้องที่ทำให้เข้าใจผิดได้

  • ความสะอาดและมาตรฐานของสถานที่

ความสะอาดของคลินิกและอุปกรณ์ที่ใช้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สำคัญในการรักษา ควรสังเกตสภาพห้องหัตถการ อุปกรณ์เครื่องมือว่ามีการฆ่าเชื้ออย่างเหมาะสมหรือไม่ และคลินิกควรเลือกใช้เข็มหรืออุปกรณ์ที่เป็นแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือปัญหาสุขภาพในภายหลัง

  • มีการประเมินใบหน้าก่อนเข้ารับบริการ

คลินิกที่ได้มาตรฐาน จะต้องมีขั้นตอนการประเมินใบหน้าโดยแพทย์ผู้ให้บริการจริง ไม่ใช่พนักงานขายหรือเซลล์ที่แนะนำโปรแกรมแทนแพทย์ การประเมินจะช่วยให้เข้าใจปัญหาของโครงหน้าในแต่ละราย และวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด

 

คลินิกที่ควรหลีกเลี่ยงมีลักษณะอย่างไร?

แม้ปัจจุบัน จะมีคลินิกเสริมความงามให้เลือกมากมาย แต่ไม่ใช่ทุกแห่งจะมีมาตรฐานที่น่าเชื่อถือ หากเลือกผิด อาจเสี่ยงต่อผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ หรือเกิดผลข้างเคียงที่ต้องใช้เวลาฟื้นฟูนาน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจทำหน้าเรียว ควรสังเกตสัญญาณเตือนเหล่านี้

  • ราคาถูกผิดปกติ หรือมีโปรโมชั่นไม่สมเหตุสมผล

หากพบว่าคลินิกเสนอราคาถูกกว่ามาตรฐานทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด หรือมีโปรโมชั่นที่ดูน่าสงสัย เช่น ลดราคามากเกินไป แจกโปรทำฟรี หรือแถมโปรแกรมที่ไม่สมเหตุสมผล อาจต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะราคาที่ถูกผิดปกติมักสะท้อนถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ วัสดุที่ใช้ หรือมาตรฐานการบริการที่ต่ำกว่าที่ควรเป็น

  • โฆษณาเกินจริง

คลินิกที่ใช้ข้อความโฆษณาเกินจริง เช่น “เห็นผล 100%”, “หน้าเรียวถาวร” หรือ “การันตีผลลัพธ์โดยไม่มีข้อแม้” เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือน เนื่องจากหัตถการด้านความงามมักมีตัวแปรหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ เช่น สภาพผิว อายุ และการดูแลตัวเองหลังทำ การรับประกันผล 100% โดยไม่อธิบายเงื่อนไขจึงเป็นการสื่อสารที่เกินจริงและควรหลีกเลี่ยง

  • ไม่แจ้งชื่อแพทย์ หรือไม่มีข้อมูลแพทย์

คลินิกที่โปรโมตแต่โปรโมชั่น แต่ไม่ระบุชื่อแพทย์ที่ให้บริการ หรือไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับแพทย์เลย ถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะการทำหน้าเรียวต้องดำเนินการโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาตถูกต้อง และมีความเข้าใจในโครงสร้างใบหน้า การไม่เปิดเผยข้อมูลแพทย์อาจหมายถึงการใช้บุคลากรที่ไม่มีคุณสมบัติเหมาะสม

 

รวมโปรแกรมทำหน้าเรียว ราคาเท่าไหร่?

การทำหน้าเรียวมีหลากหลายเทคนิคให้เลือก และแต่ละวิธีจะมีช่วงราคาที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับประเภทหัตถการ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ และประสบการณ์ของแพทย์ผู้ให้บริการ โดยราคาโดยประมาณในปี 2025 มีดังนี้

  • โปรแกรมฉีดโบ เริ่มต้นประมาณ 4,000 – 15,000 บาท

(ขึ้นกับปริมาณยูนิตที่ใช้ และยี่ห้อของสารออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ)

  • โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ เริ่มต้นประมาณ 9,000 – 25,000 บาท

(ขึ้นกับยี่ห้อโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ปริมาณซีซีที่ใช้ และบริเวณที่ฉีด)

  • โปรแกรมเครื่องยกกระชับ เริ่มต้นประมาณ 12,000 – 40,000 บาท

(ขึ้นกับจำนวนช็อต เครื่องมือที่ใช้ และระดับความลึกในการยิง)

 

หมายเหตุ

ราคาข้างต้นเป็นราคาประมาณการเท่านั้น อาจมีความแตกต่างไปตามยี่ห้อผลิตภัณฑ์ ปริมาณที่ใช้ เครื่องมือที่เลือก และประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำการรักษา แนะนำให้เข้ารับการประเมินโดยตรงที่คลินิก เพื่อประเมินค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาเฉพาะบุคคล

 

ข้อดีของการทำหน้าเรียวที่รมย์รวินท์คลินิก

  • การทำหน้าเรียว ดำเนินการโดยแพทย์ประจำคลินิก ผ่านการประเมินและดูแลอย่างใกล้ชิดทุกเคส
  • การทำหน้าเรียว ใช้ผลิตภัณฑ์แท้ และเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล
  • การทำหน้าเรียว มีตัวเลือกหัตถการหลากหลาย เช่น โปรแกรมฉีดโบ, โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์, Ultraformer MPT, Ulthera Prime
  • การทำหน้าเรียว เน้นผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เข้ากับโครงสร้างใบหน้าเฉพาะบุคคล
  • การทำหน้าเรียว มีการติดตามผลหลังทำ เช่น นัดรีวิวผลลัพธ์ หรือตรวจเช็กความเปลี่ยนแปลง
  • การทำหน้าเรียว ใช้แนวทางการรักษาแบบเฉพาะบุคคล
  • การทำหน้าเรียว บรรยากาศภายในคลินิกสะอาด ปลอดโปร่ง เป็นมิตร และมีความเป็นส่วนตัว
  • การทำหน้าเรียว มีมาตรฐานด้านการควบคุมความสะอาด
  • การทำหน้าเรียว มีข้อมูลใบอนุญาตประกอบกิจการ และข้อมูลแพทย์ที่ตรวจสอบได้ชัดเจน
  • การทำหน้าเรียว มีการให้ข้อมูลบริการอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการโฆษณาเกินจริง
  • การทำหน้าเรียว เน้นความเข้าใจตรงกับความต้องการของลูกค้า ไม่ยัดเยียดบริการที่ไม่จำเป็น
  • การทำหน้าเรียว มีโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับมาตรฐานการรักษา
  • การทำหน้าเรียว มีหลายสาขา เดินทางสะดวก ครอบคลุมพื้นที่หลักในกรุงเทพ
  • การทำหน้าเรียว มีบริการให้ข้อมูลออนไลน์ และเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำตลอดการรักษา
  • การทำหน้าเรียว มีรีวิวจากลูกค้าจริง มีข้อมูล Before-After พร้อมคำอธิบายที่น่าเชื่อถือ
  • การทำหน้าเรียว ใช้เทคโนโลยีและเทคนิคใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อผลลัพธ์ที่พัฒนาและอัปเดตตามเทรนด์ความงาม
  • การทำหน้าเรียว มีทีมบริการใส่ใจ ดูแลตั้งแต่แรกจนจบการรักษา
  • การทำหน้าเรียว คัดสรรเฉพาะหัตถการและเครื่องมือที่มีงานวิจัยรองรับเท่านั้น

 

ทำหน้าเรียว ช่วยอะไรบ้าง?
ทำหน้าเรียว ช่วยอะไรบ้าง?

 

ทำหน้าเรียว ช่วยอะไรบ้าง?

  • การทำหน้าเรียว ช่วยปรับโครงหน้าให้ได้สัดส่วน ดูสมมาตรมากขึ้น
  • การทำหน้าเรียว ทำให้ใบหน้าดูเรียว เล็ก และยาวขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ
  • การทำหน้าเรียว ลดขนาดกรามหรือแก้มที่ใหญ่จากกล้ามเนื้อหรือไขมัน
  • การทำหน้าเรียว ยกกระชับผิวหน้าที่เริ่มหย่อนคล้อยให้ตึงกระชับขึ้น
  • การทำหน้าเรียว กรอบหน้าชัดขึ้น เห็นแนวสันกรามและคางได้ชัดเจน
  • การทำหน้าเรียว ลดไขมันสะสมบริเวณแก้มล่างและกรอบหน้า
  • การทำหน้าเรียว ช่วยทำให้ใบหน้าดูสดใส อ่อนเยาว์กว่าวัย
  • การทำหน้าเรียว แก้ไขปัญหารูปหน้าไม่เท่ากัน ให้ดูสมดุลมากขึ้น
  • การทำหน้าเรียว เสริมความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน
  • การทำหน้าเรียว ช่วยให้โครงหน้าดูอ่อนโยนและละมุนขึ้น
  • การทำหน้าเรียว ปรับบุคลิกภาพโดยรวมให้ดูดีมากขึ้น
  • การทำหน้าเรียว ช่วยเสริมบุคลิกภาพในสายงานที่ต้องใช้รูปลักษณ์
  • การทำหน้าเรียว ลดโอกาสการเกิดริ้วรอยในอนาคตบางจุดจากการหย่อนคล้อย

 

การทำหน้าเรียว เหมาะกับใครบ้าง?
การทำหน้าเรียว เหมาะกับใครบ้าง?

 

การทำหน้าเรียว เหมาะกับใครบ้าง?

  • การทำหน้าเรียว เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้ากว้างจากกล้ามเนื้อ
  • การทำหน้าเรียว เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณแก้ม หรือแนวกรอบหน้า
  • การทำหน้าเรียว เหมาะสำหรับผู้ที่มีโครงหน้าขาดความชัดเจน อยากให้กรอบหน้าคมขึ้น
  • การทำหน้าเรียว เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อยจากวัยที่เพิ่มขึ้น
  • การทำหน้าเรียว เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่องแก้มลึก หรือคางสั้น ต้องการปรับสมดุลรูปหน้า
  • การทำหน้าเรียว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดขนาดกรามโดยไม่ผ่าตัด
  • การทำหน้าเรียว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน
  • การทำหน้าเรียว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาหน้าไม่เท่ากัน
  • การทำหน้าเรียว เหมาะสำหรับผู้ที่มีระยะเวลาจำกัด ต้องการทำหัตถการที่เห็นผลไว
  • การทำหน้าเรียว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นโดยธรรมชาติ
  • การทำหน้าเรียว เหมาะสำหรับผู้ที่มีแนวคางหรือแนวกรามไม่ชัด ต้องการให้รูปหน้าคมขึ้น
  • การทำหน้าเรียว เหมาะสำหรับผู้ที่เคยลดน้ำหนักแล้วผิวหน้าหย่อนคล้อย ต้องการกระชับขึ้น
  • การทำหน้าเรียว เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาพักฟื้นน้อย ต้องการทำหน้าเรียวแบบใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • การทำหน้าเรียว เหมาะสำหรับผู้ที่อยากปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม

 

หมายเหตุ

การทำหน้าเรียวควรได้รับการประเมินอย่างละเอียดจากแพทย์ เพื่อเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับสภาพใบหน้าและโครงสร้างผิวของแต่ละบุคคล

 

การทำหน้าเรียว ไม่เหมาะกับใครบ้าง?

  • การทำหน้าเรียว ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวรุนแรง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้
  • การทำหน้าเรียว ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
  • การทำหน้าเรียว ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณใบหน้า หรือมีสิวอักเสบรุนแรงในช่วงเวลาทำหัตถการ
  • การทำหน้าเรียว ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร
  • การทำหน้าเรียว ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังใช้ยาบางชนิด เช่น ยากลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือด
  • การทำหน้าเรียว ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือได้รับการรักษาด้วยยากดภูมิคุ้มกัน
  • การทำหน้าเรียว ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากระดูกใบหน้าเบี้ยวผิดรูปจากการบาดเจ็บ หรือโรคกระดูก
  • การทำหน้าเรียว ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้สารออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ
  • การทำหน้าเรียว ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้สารเติมเต็ม หรือสารไฮยาลูโรนิกแอซิด
  • การทำหน้าเรียว ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์เกินจริง
  • การทำหน้าเรียว ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต หรือมีภาวะ Body Dysmorphic Disorder
  • การทำหน้าเรียว ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมีแผลเปิด บาดแผล หรือการอักเสบบริเวณใบหน้า
  • การทำหน้าเรียว ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่าย หรือมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
  • การทำหน้าเรียว ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดบริเวณใบหน้าหรือขากรรไกร ควรเว้นช่วงฟื้นตัวก่อน
  • การทำหน้าเรียว ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีแนวโน้มการเกิดแผลเป็นคีลอยด์ง่าย
  • การทำหน้าเรียว ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะติดเชื้อเฉียบพลัน เช่น มีไข้สูง ไข้หวัดใหญ่

 

คำแนะนำ

ก่อนตัดสินใจทำหน้าเรียว ควรเข้ารับการประเมินใบหน้าและสุขภาพโดยแพทย์ เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาเฉพาะบุคคล และหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

 

การเตรียมตัว

  • ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีทำหน้าเรียวแต่ละเทคนิค เพื่อเข้าใจแนวทางเบื้องต้น
  • ควรเลือกคลินิกที่มีใบอนุญาต และแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพตรวจสอบได้
  • ควรนัดปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินรูปหน้า และวางแผนการรักษาให้เหมาะกับปัญหาเฉพาะบุคคล
  • ควรแจ้งประวัติสุขภาพโดยละเอียด เช่น โรคประจำตัว ประวัติแพ้ยา หรือการใช้ยาปัจจุบัน
  • งดวิตามินและอาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา โสม อย่างน้อย 3–7 วัน
  • ควรพักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนทำ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
  • ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นและฟื้นตัวได้ดี
  • งดรับประทานยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือด
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 24–48 ชั่วโมง
  • งดแต่งหน้า ทาครีมบำรุง หรือทาครีมกันแดดบริเวณใบหน้าในวันที่เข้ารับบริการ
  • หลีกเลี่ยงการทำหัตถการอื่นบนใบหน้าประมาณ 1–2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก เช่น ออกกำลังกายหนัก ว่ายน้ำ หรือซาวน่าในช่วง 24–48 ชั่วโมง

 

การดูแลตัวเองหลังทำหน้าเรียว
การดูแลตัวเองหลังทำหน้าเรียว

 

การดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรมหน้าเรียว

  • ควรหมั่นทาครีมบำรุงที่ช่วยลดการอักเสบ หรือช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน
  • ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูผิวและระบบไหลเวียน
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวรุนแรง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณใบหน้า หรือมีสิวอักเสบรุนแรงในช่วงเวลาทำหัตถการ
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังใช้ยาบางชนิด เช่น ยากลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือด
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือได้รับการรักษาด้วยยากดภูมิคุ้มกัน
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากระดูกใบหน้าเบี้ยวผิดรูปจากการบาดเจ็บ หรือโรคกระดูก
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้สารออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้สารเติมเต็ม หรือสารไฮยาลูโรนิกแอซิด
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์เกินจริง
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต หรือมีภาวะ Body Dysmorphic Disorder
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมีแผลเปิด บาดแผล หรือการอักเสบบริเวณใบหน้า
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่าย หรือมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดบริเวณใบหน้าหรือขากรรไกร ควรเว้นช่วงฟื้นตัวก่อน
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีแนวโน้มการเกิดแผลเป็นคีลอยด์ง่าย
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะติดเชื้อเฉียบพลัน เช่น มีไข้สูง ไข้หวัดใหญ่

 

ทำหน้าเรียว ที่ไหนดี? เจาะลึกวิธีเลือกคลินิกอย่างมั่นใจและได้ผลลัพธ์ดี

“หน้าเรียว” กลายเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของหลายคนที่อยากปรับลุคให้ดูดีขึ้น เสริมความมั่นใจ และให้ภาพรวมของใบหน้าดูละมุน สมส่วนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเพื่อเสริมบุคลิกภาพในการทำงาน ถ่ายภาพให้ดูดีขึ้น หรือเพื่อความพึงพอใจส่วนตัว การทำหน้าเรียวจึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ทุกวันนี้ มีหลากหลายวิธีที่สามารถช่วยให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคจากการปรับรูปหน้าด้วยหัตถการ เช่น โปรแกรมฉีดโบ ยกกระชับผิวด้วยคลื่นพลังงาน ไปจนถึงการเติมเต็มรูปหน้าด้วยสารเติมเต็มต่าง ๆ ซึ่งแต่ละวิธีล้วนมีข้อดีเฉพาะตัว และเหมาะกับสภาพปัญหาที่ต่างกันไป

 

แต่สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการเลือกวิธี คือการเลือกสถานที่ที่ให้บริการอย่างเหมาะสม คลินิกที่มีมาตรฐาน ชัดเจนเรื่องข้อมูล และดำเนินการโดยแพทย์ประจำคลินิก ย่อมช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจ และได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติอย่างที่คาดหวัง

 

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจว่าควรเลือกทำหน้าเรียวที่ไหน และจะเลือกคลินิกแบบไหนจึงจะคุ้มค่า ไม่เสี่ยง และเห็นผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ได้จริง

 

สรุปทำหน้าเรียว ที่ไหนดี เพื่อผลลัพธ์ที่ดีอย่างมั่นใจ

การทำหน้าเรียวไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของความละเอียดอ่อนในการปรับโครงหน้าอย่างเหมาะสม การเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานจึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญสู่ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

 

รมย์รวินท์คลินิกพร้อมดูแลทุกขั้นตอนการยกกระชับปรับรูปหน้าเรียวกระชับ ด้วยแพทย์ประจำคลินิกและการเลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งโปรแกรมฉีดโบ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงการยกกระชับด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ไม่ว่าจะเป็น Ultraformer MPT, Ulthera Prime หรือ Super HIFU ที่สามารถปรับแต่งพลังงานได้อย่างแม่นยำตามปัญหาเฉพาะบุคคล

 

ทุกเคสที่เข้ารับบริการทำหน้าเรียวที่รมย์รวินท์คลินิก จะได้รับการประเมินโครงหน้าอย่างละเอียดโดยแพทย์ เพื่อให้สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ ยังมีการติดตามผลหลังทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดในทุกขั้นตอน

 

ทำไมใคร ๆ ก็อยากทำหน้าเรียว?

ในยุคที่เทรนด์ความงามจากเกาหลี (K-Beauty) ได้รับความนิยมไปทั่วโลก การทำหน้าเรียวกลายเป็นรูปแบบโครงหน้าที่หลายคนใฝ่ฝัน ความงามสไตล์เกาหลีที่เน้นใบหน้าเรียว กรอบหน้าชัดเจน และโครงหน้าที่ได้สัดส่วนพอดี ช่วยส่งเสริมให้ลุคโดยรวมดูอ่อนเยาว์ สุภาพ และเข้ากับหลากหลายสไตล์การแต่งหน้าได้ง่ายขึ้น

 

การมีโครงหน้าที่เรียวกระชับ ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้นในชีวิตประจำวัน แต่ยังเพิ่มความมั่นใจเมื่อพบปะผู้คนหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ถ่ายภาพ หรือแม้แต่การใช้ชีวิตบนโซเชียลมีเดีย

 

ที่สำคัญ การยกกระชับปรับรูปหน้าเรียวมักใช้เทคนิคที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด และเห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนภายในระยะเวลาอันสั้น เช่น การฉีดโปรแกรมโบปรับขนาดกราม การยกกระชับด้วยคลื่นพลังงาน หรือการเติมเต็มรูปหน้าด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้ใบหน้าดูได้รูปมากขึ้นโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน จึงตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสวยงามอย่างดูเป็นธรรมชาติ

 

วิธีทำหน้าเรียวยอดฮิตในปัจจุบัน
วิธีทำหน้าเรียวยอดฮิตในปัจจุบัน

 

วิธีทำหน้าเรียวยอดฮิตในปัจจุบัน

ในปัจจุบัน การทำหน้าเรียวมีตัวเลือกหลากหลายที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดใหญ่ แต่สามารถยกกระชับปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน ดูเป็นธรรมชาติ และเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

โปรแกรมฉีดโบ

หนึ่งในวิธีทำหน้าเรียวที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือการฉีดโปรแกรมโบ โดยโปรแกรมฉีดโบทำงานผ่านการยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ เมื่อฉีดเข้าไปบริเวณกราม จะช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณนั้นให้เล็กลง ทำให้กรอบหน้าดูเรียวกระชับมากขึ้น

การฉีดโปรแกรมโบเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ ไม่ใช่จากกระดูก หรือไขมันสะสม ผลลัพธ์หลังฉีดจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงภายในประมาณ 24 สัปดาห์ และอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ และพฤติกรรมการใช้กล้ามเนื้อของแต่ละบุคคล

 

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับปรับรูปหน้า

นอกจากการลดขนาดกล้ามเนื้อแล้ว การเติมเต็มรูปหน้าด้วยสารเติมเต็มเป็นอีกเทคนิค ที่ช่วยให้ใบหน้าดูสมูทและเรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่นิยมใช้คือฟิลเลอร์ไฮยาลูโรนิกแอซิด (HA) ซึ่งมีคุณสมบัติเสริมโครงสร้างผิว เติมเต็มร่องลึก และช่วยให้รูปหน้าเข้ารูปมากขึ้น จุดที่นิยมฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้า ได้แก่

  • คาง เพื่อเสริมคางให้ยาวขึ้น
  • ร่องแก้ม เติมเต็มร่องลึกให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
  • ขมับ เติมความเต็มอิ่มให้ใบหน้าด้านบนสมดุลกับรูปหน้าโดยรวม

การเลือกโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ HA แท้เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะนอกจากให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติแล้ว ยังไม่เสี่ยงอันตรายอีกด้วย สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และหากมีปัญหาสามารถฉีดสลายได้

 

โปรแกรมเครื่องยกกระชับ

โปรแกรมเครื่องยกกระชับ คือเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาเพื่อช่วยฟื้นฟูความกระชับของผิวหน้าและผิวกาย โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด อาศัยการส่งพลังงานเฉพาะ เช่น คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง (Micro-Focused Ultrasound) ลงลึกถึงชั้นผิวในระดับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการดึงหน้า นั่นก็คือชั้น SMAS เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และเสริมความแข็งแรงให้โครงสร้างผิวจากภายใน ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่เคยหย่อนคล้อยกลับมากระชับ เต่งตึง ดูเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมช่วย ลดเลือนริ้วรอย และปรับโครงหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น ซึ่งเครื่องยกกระชับมีหลากหลายเครื่องแตกต่างกันไป ดังนี้

  • Super HIFU เป็นเทคโนโลยียกกระชับที่ใช้ คลื่นเสียงความถี่สูง (High-Intensity Focused Ultrasound) ยิงพลังงานลงลึกถึง ชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และยกกระชับผิวจากภายใน ช่วยให้ผิวที่หย่อนคล้อยกลับมาตึงกระชับและดูเรียวขึ้น
  • Ultraformer MPT โดดเด่นด้วยการ ยิงพลังงานได้รวดเร็วและแม่นยำกว่าเดิม สามารถปรับความลึกได้ตามแต่ละปัญหาผิว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ปรับรูปหน้าเรียวพร้อมยกกระชับในเวลาอันสั้น ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพักฟื้น
  • Ultherapy Prime คือ รุ่นใหม่ที่พัฒนาต่อจาก Ulthera SPT ใช้ พลังงาน MFU-V (Microfocused Ultrasound with Visualization) เหมือนเดิม แต่ปรับปรุงให้ ยิงพลังงานได้แม่นยำและเรียบเนียนขึ้น ใช้เวลาน้อยลง จุดเด่นสำคัญคือ หน้าจอ Visualization ที่ช่วยให้แพทย์มองเห็นชั้นผิวแบบเรียลไทม์ ทำให้เล็งพลังงานได้ตรงจุด เสริมผลลัพธ์ให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
  • Thermage FLX ใช้ คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radiofrequency: RF) ส่งพลังงานความร้อนลงลึกถึง ชั้นหนังแท้ (Dermis) เพื่อ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและกระชับผิว จุดเด่นคือ หัวทิปแบบใหม่และเทคโนโลยี AccuREP™ ที่ช่วยปรับพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ ทำให้ผลลัพธ์สม่ำเสมอและรู้สึกสบายขณะทำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ยกกระชับผิวหน้าและผิวกาย พร้อมลดริ้วรอยโดยไม่ต้องพักฟื้น
  • Oligio ใช้ คลื่นวิทยุ Monopolar RF ส่งความร้อนลงสู่ ชั้นหนังแท้และไขมันใต้ผิว เพื่อ กระตุ้นคอลลาเจนและช่วยสลายไขมันส่วนเกิน จุดเด่นคือ ระบบ Cooling และ Skin Temperature Tracking Sensor ที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิให้ปลอดภัย เหมาะกับผู้ที่ต้องการ ผิวกระชับ ลดเหนียง และปรับรูปหน้าพร้อมกันในคราวเดียว

 

ทำหน้าเรียว ที่ไหนดี กับปัจจัยสำคัญของการเลือกคลินิก
ทำหน้าเรียว ที่ไหนดี กับปัจจัยสำคัญของการเลือกคลินิก

 

ทำหน้าเรียว ที่ไหนดี กับปัจจัยสำคัญของการเลือกคลินิก

การเลือกคลินิกทำหน้าเรียว ไม่ใช่เพียงแค่พิจารณาราคาโปรโมชั่นเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงมาตรฐาน ความน่าเชื่อถือในทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต โดยมีหลักเกณฑ์ที่ควรตรวจสอบดังนี้

  • คลินิกต้องมีใบอนุญาตประกอบการถูกต้อง

ก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ ควรตรวจสอบว่าคลินิกมีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล ที่ออกโดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพอย่างถูกต้องหรือไม่ สามารถตรวจสอบชื่อคลินิกได้ผ่านเว็บไซต์ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือสอบถามข้อมูลโดยตรงที่คลินิก ทั้งนี้ควรมีการระบุเลขที่ใบอนุญาตประกอบการอย่างชัดเจนบนป้าย หรือเอกสารต่าง ๆ ของคลินิก

  • แพทย์ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ คือการตรวจสอบว่าแพทย์ที่ให้บริการมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภาหรือไม่ โดยสามารถค้นหาชื่อแพทย์และเลขใบอนุญาตได้จากเว็บไซต์ของแพทยสภาโดยตรง

  • รีวิวและผลลัพธ์จากผู้ใช้จริง

การดูรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการจริง เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยประกอบการตัดสินใจได้เป็นอย่างดี ควรเลือกดูรีวิวจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น Facebook, Pantip, Wongnai หรือรีวิวที่มีข้อมูลการทำจริงจากลูกค้า ไม่ควรเชื่อรีวิวที่แสดงภาพ Before-After โดยไม่มีคำอธิบายรายละเอียด เช่น ช่วงเวลาหลังทำ หรือวิธีการทำ เพราะอาจมีการแต่งภาพหรือเลือกมุมกล้องที่ทำให้เข้าใจผิดได้

  • ความสะอาดและมาตรฐานของสถานที่

ความสะอาดของคลินิกและอุปกรณ์ที่ใช้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สำคัญในการรักษา ควรสังเกตสภาพห้องหัตถการ อุปกรณ์เครื่องมือว่ามีการฆ่าเชื้ออย่างเหมาะสมหรือไม่ และคลินิกควรเลือกใช้เข็มหรืออุปกรณ์ที่เป็นแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือปัญหาสุขภาพในภายหลัง

  • มีการประเมินใบหน้าก่อนเข้ารับบริการ

คลินิกที่ได้มาตรฐาน จะต้องมีขั้นตอนการประเมินใบหน้าโดยแพทย์ผู้ให้บริการจริง ไม่ใช่พนักงานขายหรือเซลล์ที่แนะนำโปรแกรมแทนแพทย์ การประเมินจะช่วยให้เข้าใจปัญหาของโครงหน้าในแต่ละราย และวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด

 

คลินิกที่ควรหลีกเลี่ยงมีลักษณะอย่างไร?

แม้ปัจจุบัน จะมีคลินิกเสริมความงามให้เลือกมากมาย แต่ไม่ใช่ทุกแห่งจะมีมาตรฐานที่น่าเชื่อถือ หากเลือกผิด อาจเสี่ยงต่อผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ หรือเกิดผลข้างเคียงที่ต้องใช้เวลาฟื้นฟูนาน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจทำหน้าเรียว ควรสังเกตสัญญาณเตือนเหล่านี้

  • ราคาถูกผิดปกติ หรือมีโปรโมชั่นไม่สมเหตุสมผล

หากพบว่าคลินิกเสนอราคาถูกกว่ามาตรฐานทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด หรือมีโปรโมชั่นที่ดูน่าสงสัย เช่น ลดราคามากเกินไป แจกโปรทำฟรี หรือแถมโปรแกรมที่ไม่สมเหตุสมผล อาจต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะราคาที่ถูกผิดปกติมักสะท้อนถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ วัสดุที่ใช้ หรือมาตรฐานการบริการที่ต่ำกว่าที่ควรเป็น

  • โฆษณาเกินจริง

คลินิกที่ใช้ข้อความโฆษณาเกินจริง เช่น “เห็นผล 100%”, “หน้าเรียวถาวร” หรือ “การันตีผลลัพธ์โดยไม่มีข้อแม้” เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือน เนื่องจากหัตถการด้านความงามมักมีตัวแปรหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ เช่น สภาพผิว อายุ และการดูแลตัวเองหลังทำ การรับประกันผล 100% โดยไม่อธิบายเงื่อนไขจึงเป็นการสื่อสารที่เกินจริงและควรหลีกเลี่ยง

  • ไม่แจ้งชื่อแพทย์ หรือไม่มีข้อมูลแพทย์

คลินิกที่โปรโมตแต่โปรโมชั่น แต่ไม่ระบุชื่อแพทย์ที่ให้บริการ หรือไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับแพทย์เลย ถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะการทำหน้าเรียวต้องดำเนินการโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาตถูกต้อง และมีความเข้าใจในโครงสร้างใบหน้า การไม่เปิดเผยข้อมูลแพทย์อาจหมายถึงการใช้บุคลากรที่ไม่มีคุณสมบัติเหมาะสม

 

รวมโปรแกรมทำหน้าเรียว ราคาเท่าไหร่?

การทำหน้าเรียวมีหลากหลายเทคนิคให้เลือก และแต่ละวิธีจะมีช่วงราคาที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับประเภทหัตถการ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ และประสบการณ์ของแพทย์ผู้ให้บริการ โดยราคาโดยประมาณในปี 2025 มีดังนี้

  • โปรแกรมฉีดโบ เริ่มต้นประมาณ 4,000 – 15,000 บาท

(ขึ้นกับปริมาณยูนิตที่ใช้ และยี่ห้อของสารออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ)

  • โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ เริ่มต้นประมาณ 9,000 – 25,000 บาท

(ขึ้นกับยี่ห้อโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ปริมาณซีซีที่ใช้ และบริเวณที่ฉีด)

  • โปรแกรมเครื่องยกกระชับ เริ่มต้นประมาณ 12,000 – 40,000 บาท

(ขึ้นกับจำนวนช็อต เครื่องมือที่ใช้ และระดับความลึกในการยิง)

 

หมายเหตุ

ราคาข้างต้นเป็นราคาประมาณการเท่านั้น อาจมีความแตกต่างไปตามยี่ห้อผลิตภัณฑ์ ปริมาณที่ใช้ เครื่องมือที่เลือก และประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำการรักษา แนะนำให้เข้ารับการประเมินโดยตรงที่คลินิก เพื่อประเมินค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาเฉพาะบุคคล

 

ข้อดีของการทำหน้าเรียวที่รมย์รวินท์คลินิก

  • ดำเนินการโดยแพทย์ประจำคลินิก ผ่านการประเมินและดูแลอย่างใกล้ชิดทุกเคส
  • ใช้ผลิตภัณฑ์แท้ และเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล
  • มีตัวเลือกหัตถการหลากหลาย เช่น โปรแกรมฉีดโบ, โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์, Ultraformer MPT, Ulthera Prime
  • เน้นผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เข้ากับโครงสร้างใบหน้าเฉพาะบุคคล
  • มีการติดตามผลหลังทำ เช่น นัดรีวิวผลลัพธ์ หรือตรวจเช็กความเปลี่ยนแปลง
  • ใช้แนวทางการรักษาแบบเฉพาะบุคคล
  • บรรยากาศภายในคลินิกสะอาด ปลอดโปร่ง เป็นมิตร และมีความเป็นส่วนตัว
  • มีมาตรฐานด้านการควบคุมความสะอาด
  • มีข้อมูลใบอนุญาตประกอบกิจการ และข้อมูลแพทย์ที่ตรวจสอบได้ชัดเจน
  • มีการให้ข้อมูลบริการอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการโฆษณาเกินจริง
  • เน้นความเข้าใจตรงกับความต้องการของลูกค้า ไม่ยัดเยียดบริการที่ไม่จำเป็น
  • มีโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับมาตรฐานการรักษา
  • มีหลายสาขา เดินทางสะดวก ครอบคลุมพื้นที่หลักในกรุงเทพ
  • มีบริการให้ข้อมูลออนไลน์ และเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำตลอดการรักษา
  • มีรีวิวจากลูกค้าจริง มีข้อมูล Before-After พร้อมคำอธิบายที่น่าเชื่อถือ
  • ใช้เทคโนโลยีและเทคนิคใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อผลลัพธ์ที่พัฒนาและอัปเดตตามเทรนด์ความงาม
  • มีทีมบริการใส่ใจ ดูแลตั้งแต่แรกจนจบการรักษา
  • คัดสรรเฉพาะหัตถการและเครื่องมือที่มีงานวิจัยรองรับเท่านั้น

 

ทำหน้าเรียว ช่วยอะไรบ้าง?
ทำหน้าเรียว ช่วยอะไรบ้าง?

 

ทำหน้าเรียว ช่วยอะไรบ้าง?

  • ช่วยปรับโครงหน้าให้ได้สัดส่วน ดูสมมาตรมากขึ้น
  • ทำให้ใบหน้าดูเรียว เล็ก และยาวขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ
  • ลดขนาดกรามหรือแก้มที่ใหญ่จากกล้ามเนื้อหรือไขมัน
  • ยกกระชับผิวหน้าที่เริ่มหย่อนคล้อยให้ตึงกระชับขึ้น
  • กรอบหน้าชัดขึ้น เห็นแนวสันกรามและคางได้ชัดเจน
  • ลดไขมันสะสมบริเวณแก้มล่างและกรอบหน้า
  • ช่วยทำให้ใบหน้าดูสดใส อ่อนเยาว์กว่าวัย
  • แก้ไขปัญหารูปหน้าไม่เท่ากัน ให้ดูสมดุลมากขึ้น
  • เสริมความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน
  • ช่วยให้โครงหน้าดูอ่อนโยนและละมุนขึ้น
  • ปรับบุคลิกภาพโดยรวมให้ดูดีมากขึ้น
  • ช่วยเสริมบุคลิกภาพในสายงานที่ต้องใช้รูปลักษณ์
  • ลดโอกาสการเกิดริ้วรอยในอนาคตบางจุดจากการหย่อนคล้อย

 

การทำหน้าเรียว เหมาะกับใครบ้าง?
การทำหน้าเรียว เหมาะกับใครบ้าง?

 

การทำหน้าเรียว เหมาะกับใครบ้าง?

  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้ากว้างจากกล้ามเนื้อ
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณแก้ม หรือแนวกรอบหน้า
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีโครงหน้าขาดความชัดเจน อยากให้กรอบหน้าคมขึ้น
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อยจากวัยที่เพิ่มขึ้น
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่องแก้มลึก หรือคางสั้น ต้องการปรับสมดุลรูปหน้า
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดขนาดกรามโดยไม่ผ่าตัด
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาหน้าไม่เท่ากัน
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีระยะเวลาจำกัด ต้องการทำหัตถการที่เห็นผลไว
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นโดยธรรมชาติ
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีแนวคางหรือแนวกรามไม่ชัด ต้องการให้รูปหน้าคมขึ้น
  • เหมาะสำหรับผู้ที่เคยลดน้ำหนักแล้วผิวหน้าหย่อนคล้อย ต้องการกระชับขึ้น
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาพักฟื้นน้อย ต้องการทำหน้าเรียวแบบใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • เหมาะสำหรับผู้ที่อยากปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม

หมายเหตุ

การทำหน้าเรียวควรได้รับการประเมินอย่างละเอียดจากแพทย์ เพื่อเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับสภาพใบหน้าและโครงสร้างผิวของแต่ละบุคคล

 

การทำหน้าเรียว ไม่เหมาะกับใครบ้าง?

 

คำแนะนำ

ก่อนตัดสินใจทำหน้าเรียว ควรเข้ารับการประเมินใบหน้าและสุขภาพโดยแพทย์ เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาเฉพาะบุคคล และหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

 

การเตรียมตัวก่อนทำหน้าเรียว

  • ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีทำหน้าเรียวแต่ละเทคนิค เพื่อเข้าใจแนวทางเบื้องต้น
  • ควรเลือกคลินิกที่มีใบอนุญาต และแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพตรวจสอบได้
  • ควรนัดปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินรูปหน้า และวางแผนการรักษาให้เหมาะกับปัญหาเฉพาะบุคคล
  • ควรแจ้งประวัติสุขภาพโดยละเอียด เช่น โรคประจำตัว ประวัติแพ้ยา หรือการใช้ยาปัจจุบัน
  • งดวิตามินและอาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา โสม อย่างน้อย 3–7 วัน
  • ควรพักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนทำ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
  • ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นและฟื้นตัวได้ดี
  • งดรับประทานยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือด
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 24–48 ชั่วโมง
  • งดแต่งหน้า ทาครีมบำรุง หรือทาครีมกันแดดบริเวณใบหน้าในวันที่เข้ารับบริการ
  • หลีกเลี่ยงการทำหัตถการอื่นบนใบหน้าประมาณ 1–2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก เช่น ออกกำลังกายหนัก ว่ายน้ำ หรือซาวน่าในช่วง 24–48 ชั่วโมง

 

การดูแลตัวเองหลังทำหน้าเรียว
การดูแลตัวเองหลังทำหน้าเรียว

 

การดูแลตัวเอง

  • ควรหมั่นทาครีมบำรุงที่ช่วยลดการอักเสบ หรือช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน
  • ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูผิวและระบบไหลเวียน
  • ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 PA+++ ทุกวัน
  • งดนอนคว่ำหรือนอนตะแคงกดใบหน้าด้านที่ทำหัตถการ อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 3–7 วัน
  • งดออกกำลังกายหนัก หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก 3–5 วัน
  • งดการทำหัตถการเสริมอื่น ๆ บนใบหน้าชั่วคราว 2–4 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการนวด คลึง กด หรือจับใบหน้าแรง ๆ ในช่วง 24–48 ชั่วโมงแรก
  • หลีกเลี่ยงการอบซาวน่า หรือทำทรีตเมนต์บนใบหน้า เป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงอาหารเค็มจัดหรือหมักดองในช่วงแรก เพื่อลดการบวม
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารผลัดเซลล์ผิวหรือสารกระตุ้นผิวแรง ๆ ชั่วคราว

 

การทำหน้าเรียวเจ็บไหม?

  • การทำหน้าเรียว ส่วนใหญ่จะมีอาการเจ็บหรือไม่สบายตัวเพียงเล็กน้อยระหว่างทำ ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่เลือก เช่น โปรแกรมฉีดโบหรือโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ อาจมีความรู้สึกเหมือนโดนเข็มเล็ก ๆ จิ้ม หรือรู้สึกตึง ๆ ขณะทำ ส่วนเทคโนโลยียกกระชับ เช่น Super HIFU หรือ Ulthera Prime อาจรู้สึกอุ่น ๆ โดยแพทย์มักมีวิธีช่วยลดความเจ็บ เช่น การทายาชา หรือปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

 

ทำหน้าเรียวหลายเทคนิคควบคู่กันได้ไหม?

  • การทำหน้าเรียว สามารถใช้หลายเทคนิคควบคู่กันได้ เช่น ฉีดโบเพื่อลดกล้ามเนื้อกราม ร่วมกับการทำ Super HIFU เพื่อยกกระชับผิว โดยแพทย์จะเป็นผู้วางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับสภาพใบหน้าแต่ละคน การใช้เทคนิคเสริมกันอย่างถูกต้องจะช่วยให้ผลลัพธ์ชัดเจน และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

 

อายุเท่าไหร่ถึงเริ่มทำหน้าเรียวได้?

  • โดยทั่วไปผู้ที่อายุ 20 ปีขึ้นไปสามารถเริ่มทำหน้าเรียวได้ หากมีปัญหาโครงหน้าหนัก เช่น กรามใหญ่ ผิวเริ่มหย่อนคล้อย หรือไขมันสะสมบริเวณกรอบหน้า อย่างไรก็ตามการเข้ารับการประเมินโดยแพทย์ก่อนทำถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด

 

ถ้าหยุดทำหน้าเรียวไป จะกลับมาเหมือนเดิมไหม?

  • หากหยุดทำหน้าเรียว รูปหน้าจะค่อย ๆ กลับสู่สภาพเดิมตามธรรมชาติ ไม่มีผลทำให้แย่ลงกว่าเดิม แต่ผลลัพธ์ที่เคยได้ เช่น ความกระชับหรือขนาดกล้ามเนื้อกรามที่ลดลง จะค่อย ๆ ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ทั้งนี้ การดูแลสุขภาพผิวและรูปร่างควบคู่ไปด้วย จะช่วยชะลอการเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าได้

 

การทำหน้าเรียวมีผลข้างเคียงระยะยาวไหม?

  • โดยทั่วไปหากทำหน้าเรียวกับแพทย์ และใช้ผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐาน ผลข้างเคียงระยะยาวจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก อาจมีเพียงผลข้างเคียงชั่วคราว เช่น รอยบวม ช้ำ หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงบางจุดในกรณีฉีดโปรแกรมโบ ซึ่งส่วนใหญ่จะหายเองภายในระยะเวลาหนึ่ง การเลือกคลินิกและแพทย์ที่เชื่อถือได้ จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนในอนาคต

 

การทำหน้าเรียวในปัจจุบัน มีเทคนิคหลากหลายที่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งการลดขนาดกราม ยกกระชับปรับรูปหน้า หรือยกกระชับผิว โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งการผ่าตัด การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด และใช้เทคโนโลยีที่มีมาตรฐานการรับรอง ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างผลลัพธ์ที่ตรงใจ และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

 

อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ของการทำหน้าเรียวอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น โครงสร้างใบหน้าเดิม, อายุ, สภาพผิว, ปริมาณกล้ามเนื้อ หรือไขมันสะสม รวมถึงการดูแลตัวเองหลังทำ ดังนั้น การเข้ารับการประเมินอย่างละเอียดโดยแพทย์ และการเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับปัญหาเฉพาะตัว จึงมีบทบาทสำคัญในการทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และน่าพึงพอใจที่สุด

 

หากคุณกำลังมองหาทางเลือก เพื่อยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับได้อย่างมั่นใจ การปรึกษาแพทย์ในคลินิกที่น่าเชื่อถืออย่างเช่น รมย์รวินท์คลินิก อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะพาคุณไปสู่ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ได้อย่างเหมาะสมกับคุณที่สุด
aria-level=”1″> ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 PA+++ ทุกวัน

  • งดนอนคว่ำหรือนอนตะแคงกดใบหน้าด้านที่ทำหัตถการ อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 3–7 วัน
  • งดออกกำลังกายหนัก หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก 3–5 วัน
  • งดการทำหัตถการเสริมอื่น ๆ บนใบหน้าชั่วคราว 2–4 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการนวด คลึง กด หรือจับใบหน้าแรง ๆ ในช่วง 24–48 ชั่วโมงแรก
  • หลีกเลี่ยงการอบซาวน่า หรือทำทรีตเมนต์บนใบหน้า เป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงอาหารเค็มจัดหรือหมักดองในช่วงแรก เพื่อลดการบวม
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารผลัดเซลล์ผิวหรือสารกระตุ้นผิวแรง ๆ ชั่วคราว

 

การทำหน้าเรียวเจ็บไหม?

  • การทำหน้าเรียว ส่วนใหญ่จะมีอาการเจ็บหรือไม่สบายตัวเพียงเล็กน้อยระหว่างทำ ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่เลือก เช่น โปรแกรมฉีดโบหรือโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ อาจมีความรู้สึกเหมือนโดนเข็มเล็ก ๆ จิ้ม หรือรู้สึกตึง ๆ ขณะทำ ส่วนเทคโนโลยียกกระชับ เช่น Super HIFU หรือ Ulthera Prime อาจรู้สึกอุ่น ๆ โดยแพทย์มักมีวิธีช่วยลดความเจ็บ เช่น การทายาชา หรือปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

 

ทำหน้าเรียวหลายเทคนิคควบคู่กันได้ไหม?

  • การทำหน้าเรียว สามารถใช้หลายเทคนิคควบคู่กันได้ เช่น ฉีดโบเพื่อลดกล้ามเนื้อกราม ร่วมกับการทำ Super HIFU เพื่อยกกระชับผิว โดยแพทย์จะเป็นผู้วางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับสภาพใบหน้าแต่ละคน การใช้เทคนิคเสริมกันอย่างถูกต้องจะช่วยให้ผลลัพธ์ชัดเจน และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

 

อายุเท่าไหร่ถึงเริ่มทำหน้าเรียวได้?

  • โดยทั่วไปผู้ที่อายุ 20 ปีขึ้นไปสามารถเริ่มทำหน้าเรียวได้ หากมีปัญหาโครงหน้าหนัก เช่น กรามใหญ่ ผิวเริ่มหย่อนคล้อย หรือไขมันสะสมบริเวณกรอบหน้า อย่างไรก็ตามการเข้ารับการประเมินโดยแพทย์ก่อนทำถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด

 

ถ้าหยุดทำหน้าเรียวไป จะกลับมาเหมือนเดิมไหม?

  • หากหยุดทำหน้าเรียว รูปหน้าจะค่อย ๆ กลับสู่สภาพเดิมตามธรรมชาติ ไม่มีผลทำให้แย่ลงกว่าเดิม แต่ผลลัพธ์ที่เคยได้ เช่น ความกระชับหรือขนาดกล้ามเนื้อกรามที่ลดลง จะค่อย ๆ ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ทั้งนี้ การดูแลสุขภาพผิวและรูปร่างควบคู่ไปด้วย จะช่วยชะลอการเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าได้

 

การทำหน้าเรียวมีผลข้างเคียงระยะยาวไหม?

  • โดยทั่วไปหากทำหน้าเรียวกับแพทย์ และใช้ผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐาน ผลข้างเคียงระยะยาวจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก อาจมีเพียงผลข้างเคียงชั่วคราว เช่น รอยบวม ช้ำ หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงบางจุดในกรณีฉีดโปรแกรมโบ ซึ่งส่วนใหญ่จะหายเองภายในระยะเวลาหนึ่ง การเลือกคลินิกและแพทย์ที่เชื่อถือได้ จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนในอนาคต

 

การทำหน้าเรียวในปัจจุบัน มีเทคนิคหลากหลายที่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งการลดขนาดกราม ยกกระชับปรับรูปหน้า หรือยกกระชับผิว โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งการผ่าตัด การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด และใช้เทคโนโลยีที่มีมาตรฐานการรับรอง ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างผลลัพธ์ที่ตรงใจ และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

 

อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ของการทำหน้าเรียวอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น โครงสร้างใบหน้าเดิม, อายุ, สภาพผิว, ปริมาณกล้ามเนื้อ หรือไขมันสะสม รวมถึงการดูแลตัวเองหลังทำ ดังนั้น การเข้ารับการประเมินอย่างละเอียดโดยแพทย์ และการเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับปัญหาเฉพาะตัว จึงมีบทบาทสำคัญในการทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และน่าพึงพอใจที่สุด

 

หากคุณกำลังมองหาทางเลือก เพื่อยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับได้อย่างมั่นใจ การปรึกษาแพทย์ในคลินิกที่น่าเชื่อถืออย่างเช่น รมย์รวินท์คลินิก อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะพาคุณไปสู่ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ได้อย่างเหมาะสมกับคุณที่สุด