เลเซอร์กำจัดขนดีจริงไหม ? เคลียร์ทุกข้อสงสัยก่อนทำจริง
เลเซอร์กำจัดขนคืออะไร ?
เลเซอร์กำจัดขน คือ การกำจัดขนด้วยพลังงานเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะ โดยเครื่องเลเซอร์แต่ละประเภทจะมีความโดดเด่นในการทำงานที่แตกต่างกันออกไป แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการทำลายรากขนและลดการเกิดใหม่ของขน ทำให้เมื่อทำเลเซอร์ต่อเนื่องจำนวนขนและความหนาของขนจะลดลงอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
การทำงานของเลเซอร์กำจัดขน
เลเซอร์กำจัดขนจะทำงานโดยการส่งพลังงานเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะเจาะจงลงไปเพื่อทำลายรากขน ซึ่งพลังงานแสงที่ถูกส่งลงไปจะถูกดูดซึมโดยเม็ดสีเมลานินในเส้นขน แล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ทำให้ขนหลุดร่วงและชะลอการเกิดขนใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการทำเลเซอร์กำจัดขนต้องทำอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากวงจรการเกิดขนมีหลายระยะ และเลเซอร์กำจัดขนจะกำจัดขนได้ดีเมื่อขนอยู่ในระยะเติบโต จึงต้องทำอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง เพื่อหยุดการเจริญเติบโตของขนในระยะยาว
วงจรการเกิดขน
การเกิดเส้นขนบนร่างกายมนุษย์ ไม่ได้เกิดขึ้นทันทีในครั้งเดียว แต่มีระยะการเติบโตทั้งหมด 3 ระยะ ได้แก่ Anagen, Catagen และ Telogen ซึ่งการเกิดขนแต่ละระยะมีความเกี่ยวข้องกับการทำงานของเลเซอร์กำจัดขนที่แตกต่างกันออกไป โดยวงจรการเกิดขนมีความแตกต่างกัน ดังนี้
1.ระยะแรกหรือระยะเจริญเติบโต (Anagen Hair)
Anagen Hair หรือ ระยะเจริญเติบโต ระยะนี้เป็นช่วงแรกของวงจรการเกิดเส้นขนซึ่งถือว่าเป็นระยะที่เส้นขนเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ โดยระยะนี้เซลล์บริเวณรากขนจะมีการแบ่งตัวอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ทำให้ขนยาวขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับการสร้างเม็ดสีเมลานิน โดยระยะนี้จะสามารถแบ่งออกเป็น 6 ระยะย่อยได้แก่
- ระยะ Anagen I กระตุ้นรูขุมขนให้เข้าสู่กระบวนการเติบโตอีกครั้งหลังจากพักตัว
- ระยะ Anagen II เซลล์รากขนแบ่งตัวต่อเนื่องและสร้างโครงสร้างเบื้องต้นของเส้นขน
- ระยะ Anagen III เริ่มต้นสร้างเม็ดสีเมลานิน ในระยะนี้จะเริ่มมีลักษณะของขนชัดเจนขึ้น
- ระยะ Anagen IV เส้นขนงอกออกจากฐานรูขุมขนและเริ่มเคลื่อนตัวขึ้นมาบนชั้นหนังกำพร้า
- ระยะ Anagen V เส้นผมยาวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ระยะ Anagen VI เส้นผมเข้าสู่ระยะเจริญเติบโตเต็มที่และความยาวของเส้นขนจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
โดยเส้นขนในระยะนี้จะมีช่วงอายุเฉลี่ยประมาณ 2-3 ปี แต่ในผู้ที่มีสุขภาพดีมาก ๆ อาจจะมีระยะนี้ยาวถึง 5-6 ปี ซึ่งการทำเลเซอร์กำจัดขนจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในช่วงระยะนี้ เนื่องจากระยะนี้เส้นขนจะเชื่อมติดกับรากขนอย่างแน่นหนา ทำให้พลังงานเลเซอร์สามารถส่งผ่านลงไปยังรากขนได้อย่างเต็มที่
2.ระยะที่สองหรือระยะเปลี่ยนผ่าน (Catagen Hair)
ระยะ Catage หรือ ระยะที่สองหรือระยะเปลี่ยนผ่าน เป็นระยะเวลาสั้น ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างระยะเจริญเติบโตและระยะหลุดร่วง ซึ่งระยะนี้การแบ่งตัวของเซลล์รากขนจะหยุดลงพร้อมกับการหยุดผลิตของเม็ดสีเมลานิน ทำให้เส้นผมเริ่มแห้ง เสื่อมสภาพ และไม่มีพลังงานเพียงพอในการเจริญเติบโตต่อ
โดยการทำเลเซอร์กำจัดขนในช่วงระยะ Catagen จะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่ากับระยะ Anagen เนื่องจากเส้นขนได้แยกตัวออกจากฐานรากที่เชื่อมต่อกับหลอดเลือดแล้ว ทำให้การส่งผ่านพลังงานเลเซอร์เพื่อทำลายรากขนจึงทำได้ไม่เต็มที่
3.ระยะสุดท้ายหรือระยะฟักตัว (Telogen Hair)
ระยะ Telogen หรือระยะสุดท้ายของวงจรเส้นขน ซึ่งเป็นระยะที่เส้นขนหยุดการเจริญเติบโตอย่างสมบรูณ์ โดยไม่มีการแบ่งตัวของเซลล์รากขนหรือเม็ดสีเมลานินอีก ซึ่งเส้นขนในระยะนี้จะอยู่ในรูขุมขนนิ่ง ๆ ประมาณ 1-3 เดือนก่อนหลุดร่วงออกไปจากหนังศรีษะ ทำให้ระยะ Telogen มักจะไม่แน่นติดกับรากเหมือนในระยะ Anagen จึงสามารถหลุดออกได้ง่ายและไม่มีเส้นขนงอกขึ้นมาใหม่ในระยะนี้ จะต้องรอเข้าสู่ระยะ Anagen ใหม่ก่อน จึงจะมีการเริ่มต้นการเจริญเติบโตของเส้นขนใหม่
การทำเลเซอร์กำจัดขนในระยะนี้จะไม่ได้ผลเท่าที่ควร เนื่องจากในระยะนี้เส้นขนจะไม่เชื่อมต่อกับรากขนอย่างแน่นหนา ทำให้พลังงานไม่สามารถส่งผลลงไปทำลายรากขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บริเวณที่นิยมทำเลเซอร์กำจัดขน
การทำเลเซอร์กำจัดขนเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถลดการเกิดขนใหม่ได้ในระยะยาว โดยเลเซอร์กำจัดขนสามารถทำได้หลายบริเวณ ซึ่งบริเวณที่นิยมทำเลเซอร์กำจัดขน มีดังนี้
- บริเวณรักแร้ การทำเลเซอร์กำจัดขนบริเวณนี้เป็นบริเวณที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ เนื่องจากขนในบริเวณนี้เกิดขึ้นไวและมีขนหนา
- บริเวณแขนและขา บริเวณนี้มักจะเป็นบริเวณที่เปิดเผย ทำให้ผู้คนจำนวนมากเลือกทำเลเซอร์เพื่อกำจัดขนบริเวณนี้ เพื่อให้ผิวเรียบเนียน
- บริเวณขอบบิกินีและบลาซิเลียน การทำเลเซอร์นี้เป็นที่นิยมอย่างมากในผู้หญิงที่ต้องการความสะอาด และต้องการเพิ่มความมั่นใจเมื่อสวมใส่ชุดว่ายน้ำ
- บริเวณหนวดและคาง เป็นจุดที่ได้รับความนิยมมากในกลุ่มผู้ชายที่ต้องการกำจัดขนถาวร ช่วยลดการโกนหรือถอนบ่อย ๆ และช่วยป้องกันการเกิดขนคุดและผิวอักเสบ ทำให้ใบหน้าดูสะอาดมากขึ้นอีกด้วย
- บริเวณก้นและร่องก้น บริเวณนี้เป็นบริเวณที่ไม่เปิดเผยแต่มักได้รับความนิยมในการกำจัดขนเช่นกัน บริเวณนี้มักจะทำพร้อมกับการกำจัดขนบิกินี่ เพื่อให้ผิวบริเวณนี้เรียบเนียนทั้งหมดเมื่อชุดว่ายน้ำ
ข้อดีของการทำเลเซอร์กำจัดขน
การทำเลเซอร์กำจัดขนเป็นวิธีกำจัดขนที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นวิธีที่มีข้อดีหลายอย่างเมื่อเทียบกับการกำจัดขนแบบเดิม ๆ โดยข้อดีของการทำเลเซอร์ขนมีหลายประการ ดังนี้
- ลดการเกิดใหม่ของขนได้นานขึ้นหรือถาวรในบางบุคคล เนื่องจากเลเซอร์สามารถทำลายรากขนได้ถึงชั้นรูขุมขน ทำให้ขนเกิดใหม่ช้าลงและบางลงเรื่อย ๆ
- การทำเลเซอร์กำจัดขนมักให้ผลลัพธ์ที่นาน เมื่อทำต่อเนื่องสม่ำเสมอ จะช่วยลดความถี่ในการกำจัดขนซ้ำ ๆ และประหยัดเวลาในการกำจัดขนในระยะยาวในอนาคตได้
- ลดปัญหาขนคุดและระคายเคือง เนื่องจากการทำเลเซอร์จะส่งแสงลงไปยังรากขนได้โดยไม่ทำลายผิวรอบข้าง จึงลดโอกาสการเกิดขนคุดและการระคายเคืองได้ดี
- ผิวเรียบเนียนขึ้นและสม่ำเสมอขึ้น เนื่องจากไม่มีขนหรือจุดด่างดำจากขนที่เกิดขึ้นใหม่
- สามารถกำจัดขนได้หลายบริเวณ ไม่ว่าจะเป็นรักแร้ แขน ขา บิกินีไลน์ หนวด หรือแม้แต่บริเวณใบหน้า เนื่องจากสามารถปรับพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละจุดได้
- ไม่เป็นอันตรายเมื่อทำโดยผู้ที่มีประสบการณ์ เลเซอร์ในปัจจุบันได้รับการพัฒนาให้สามารถส่งพลังงานลงสู่ผิวได้ โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อบริเวณรอบ ๆ ได้
- ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ การทำเลเซอร์อาจมีค่าใช้จ่ายสูงในช่วงเริ่มต้น แต่เมื่อทำอย่างสม่ำเสมอจนครบคอร์สแล้วผลลัพธ์จะยาวนานมากกว่าการกำจัดขนด้วยวิธีอื่น ๆ
ด้วยข้อดีที่หลากหลายที่มากกว่าการกำจัดขนแบบทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ความสะดวก ความเรียบเนียน และการให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน จึงทำให้การทำเลเซอร์กำจัดขนเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
เลเซอร์กำจัดขนเหมาะกับใคร
การทำเลเซอร์กำจัดขนเป็นวิธีการที่ไม่เป็นอันตราย สามารถทำได้ผู้คนหลากหลายประเภท โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการกำจัดขนที่สะดวกสบายและให้ผลลัพธ์ระยะยาว ไม่ต้องกำจัดขนบ่อย ๆ นอกจากนี้เลเซอร์กำจัดขนยังเหมาะกับคนอีกหลายกลุ่ม ดังนี้
- เลเซอร์กำจัดขนเหมาะกับผู้ที่มีขนดก โดยเฉพาะผู้ที่มีขนหนา สีเข้ม และขนขึ้นบ่อย เพราะพลังงานเลเซอร์จะจับเม็ดสีของเส้นขนได้ดี ยิ่งขนเข้ม ผลลัพธ์ยิ่งชัด
- เลเซอร์กำจัดขนเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาขนคุดหรือผิวระคายเคืองจากการโกน เนื่องจากการทำเลเซอร์จะช่วยลดการเกิดขนคุดและการอักเสบซ้ำ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เลเซอร์กำจัดขนเหมาะกับผู้ที่ต้องการผิวเรียบเนียนและมั่นใจในการแต่งตัว เนื่องจากช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน ลดรอยดำจากการถอนหรือโกนซ้ำ ๆ
- เลเซอร์กำจัดขนเหมาะกับผู้ที่มีเวลาน้อยและไม่อยากกำจัดขนบ่อย เนื่องจากเมื่อทำครบคอร์สแล้วการเกิดใหม่ของขนจะบางและช้าลง
- เลเซอร์กำจัดขนเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว และลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดขนในระยะยาว
- เลเซอร์กำจัดขนเหมาะกับผู้ที่ไม่มีปัญหาผิว เช่น ผู้ที่ไม่มีภาวะผิวไวแสง ไม่มีโรคผิวหนังอักเสบ ไม่มีแผลเปิดในบริเวณที่ต้องการทำ และไม่มีประวัติแพ้แสงหรือสารเคมีง่าย ๆ
ดังนั้นเลเซอร์กำจัดขนจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์การกำจัดขนที่ชัดเจนในระยะยาวและผู้ที่ต้องการมีผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ ลดการเกิดปัญหาผิวต่างๆที่มักตามมาหลังจากการกำจัดขนด้วยวิธีอื่น ๆ
เลเซอร์กำจัดขนไม่เหมาะกับใคร
แม้การทำเลเซอร์กำจัดขนจะเป็นวิธีการกำจัดขนที่ไม่เป็นอันตราย และมีประสิทธิภาพในการกำจัดขน แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงหรือควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนการตัดสินใจทำ เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียง โดยกลุ่มที่อาจไม่เหมาะกับการทำเลเซอร์กำจัดขน มีดังนี้
- เลเซอร์กำจัดขนไม่เหมาะกับผู้ที่มีขนอ่อนหรือสีอ่อนมาก เนื่องจากผู้ที่มีลักษณะขนแบบนี้จะสามารถตอบสนองต่อการทำเลเซอร์ได้น้อย ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะมีความแตกต่าง ไม่ชัดเจนเท่ากับผู้ที่มีขนสีเข้ม
- เลเซอร์กำจัดขนไม่เหมาะกับผู้ที่มีสีผิวเข้มมาก เนื่องจากผู้ที่มีผิวสีเข้มอาจมีโอกาสเกิดภาวะผิวไหม้หรือรอยดำจากเลเซอร์ได้ง่ายกว่า จึงต้องเลือกประเภทเลเซอร์ให้เหมาะกับผิวสีนี้และควรทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์
- เลเซอร์กำจัดขนไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร แม้ไม่ได้มีข้อมูลยืนยันแน่ชัดว่าส่งผลกระทบโดยตรงต่อทารกหรือการให้นม แต่ทางการแพทย์มักแนะนำให้เลี่ยงหัตถการใด ๆ ที่อาจกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหรือระบบร่างกายก่อน
- เลเซอร์กำจัดขนไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคผิวหนังหรือปัญหาผิวเฉพาะบริเวณที่ต้องการทำ เช่น ผู้ที่มีแผลเปิด ผิวหนังอักเสบ ติดเชื้อ หรือมีภาวะผิวไวแสง เพราะอาจทำให้แผลลุกลามหรืออาการรุนแรงขึ้นได้
- เลเซอร์กำจัดขนไม่เหมาะกับผู้ที่ใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์เพิ่มความไวต่อแสง เพราะอาจทำให้ผิวบางลงและไวต่อแสงมากขึ้น หากต้องการทำควรปรึกษาแพทย์เพื่อเว้นระยะก่อนการทำ
- เลเซอร์กำจัดขนไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติเป็นแผลเป็นนูนหรือรอยดำหลังการรักษา เนื่องจากอาจเพิ่มเป็นความเสี่ยงในการเกิดรอยดำหรือเกิดเป็นแผลนูนซ้ำได้ หากต้องการทำจึงควรปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิดก่อนการทำ
สำหรับผู้ที่มีปัญหาดังกล่าว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องก่อนการตัดสินใจทำ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์และไม่เป็นอันตรายในระยะยาว
การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์กำจัดขน
การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์กำจัดขนเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงหลังทำได้ โดยการเตรียมก่อนทำเลเซอร์กำจัดขน สามารถเตรียมตัวได้ ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการถอนหรือแว็กซ์ขนอย่างน้อย 3-4 สัปดาห์ เพื่อให้แสงเลเซอร์จับและทำลายรากขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- หลีกเลี่ยงการโดนแดดหรืออาบแดด 1-2 สัปดาห์ก่อนทำ เนื่องจากผิวที่ไหม้แดงหรือมีความไวต่อแสงจะมีความเสี่ยงต่อการระคายเคืองหรือเกิดรอยดำหลังทำเลเซอร์ได้ง่าย
- หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดในบริเวณที่ต้องการทำ เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้ทำให้ผิวบางและไวต่อแสง อาจเพิ่มโอกาสเกิดผิวไหม้หรือระคายเคืองจากเลเซอร์ได้
- งดการโกนขนก่อนวันทำเลเซอร์ประมาณ 24 ชั่วโมง เพื่อให้เลเซอร์ยิงได้ลึกถึงรากขน โดยไม่ติดขนด้านบน
- แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือใช้ยาบางชนิด เพื่อประเมินในการทำเลเซอร์ไม่ให้เกิดอันตราย
การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์กำจัดขนอย่างเหมาะสมจะทำให้ขั้นตอนการทำเลเซอร์ราบรื่น ช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้นและลดความเสี่ยงจากการทำได้
ขั้นตอนการทำเลเซอร์กำจัดขน
ขั้นตอนการทำเลเซอร์กำจัดขนเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการทำโดยผู้ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและไม่เป็นอันตราย โดยขั้นตอนมาตรฐานที่มักใช้ทำในการทำเลเซอร์กำจัดขนในคลินิกความงามหรือสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาต มีดังนี้
- ขั้นตอนที่ 1 ปรึกษาและประเมินสภาพผิว
ในขั้นตอนแรกก่อนการตัดสินใจทำเลเซอร์จะมีการซักประวัติเบื้องต้น เพื่อเลือกเครื่องเลเซอร์และพลังงานการใช้เลเซอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละสภาพผิว
- ขั้นตอนที่ 2 ทำความสะอาดบริเวณที่จะทำเลเซอร์
ในขั้นตอนนี้เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดบริเวณที่ต้องการกำจัดขน เพื่อขจัดคราบมัน เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่อาจรบกวนการทำงานของเลเซอร์ได้
- ขั้นตอนที่ 3 โกนขนในบริเวณที่จะทำเลเซอร์
เมื่อทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะทำการโกนขนให้ผิวเรียบ เพื่อให้พลังงานเลเซอร์ลงไปถึงรากขนได้ดี
- ขั้นตอนที่ 4 ทาเจลหรือแปะเจลเย็น
ในขั้นตอนนี้จะมีการทาเจลหรือแปะเจลเย็นแล้วแต่ชนิดของเครื่อง เพื่อช่วยกระจายพลังงานและลดอาการแสบร้อนระหว่างการทำ
- ขั้นตอนที่ 5 ใส่แว่นป้องกันแสงเลเซอร์
ในขั้นตอนนี้ทั้งผู้รับบริการและผู้ให้บริการต้องใส่แว่นป้องกันเลเซอร์ เพื่อป้องกันแสงเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูงไม่ให้เข้าสู่ดวงตา
- ขั้นตอนที่ 6 ยิงเลเซอร์กำจัดขน
ขั้นตอนนี้จะเริ่มยิงเลเซอร์กำจัดขนในบริเวณที่ต้องการทำ โดยใช้เลเซอร์ที่เหมาะสมกับขนและผิวของแต่ละบุคคล
- ขั้นตอนที่ 7 ประคบเย็นและทาครีมบำรุงหลังการทำเลเซอร์
หลังทำเลเซอร์กำจัดขนเสร็จ เจ้าหน้าที่จะทำการประคบเย็นหรือทาครีมลดการอักเสบ เพื่อลดรอยแดงและช่วยปลอบประโลมผิวหลังทำ
- ขั้นตอนที่ 8 แนะนำการดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์กำจัดขน
ในขั้นตอนสุดท้ายหลังทำเรียบร้อยเจ้าหน้าที่จะทำการอธิบายข้อควรปฏิบัติหลังทำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ลดการเกิดผลข้างเคียง
ขั้นตอนการทำเลเซอร์กำจัดขนจะมีการทำที่เป็นระบบและอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและไม่เป็นอันตราย
การดูแลผิวหลังทำเลเซอร์กำจัดขน
การดูแลผิวหลังทำเลเซอร์กำจัดขนอย่างเหมาะสม เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้การทำเลเซอร์กำจัดขนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการดูแลผิวหลังทำเลเซอร์กำจัดขนสามารถทำได้ ดังนี้
- ใช้เจลเย็นหรือใช้ผ้าชุบน้ำประคบเย็น หากมีอาการร้อนหรือแดงใน 24 ชั่วโมงแรกหลังทำ สามารถใช้เจลหรือผ้าชุบน้ำเย็นในการประคบ เพื่อบรรเทาอาการเหล่านี้ได้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัดโดยตรงอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์หลังทำ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวไหม้หรือเกิดรอยดำจากรังสี UV
- ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ที่อาจทำให้เกิดรอยดำหรือผิวไหม้หลังทำเลเซอร์ได้
- หลีกเลี่ยงการขัด ถู หรือเกา ในบริเวณที่ทำ 5-7 วัน เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือเกิดแผลหลังทำได้
- งดการถอนหรือแว๊กซ์ขนบริเวณที่ทำ เพราะการกำจัดขนด้วยวิธีเหล่านี้จะเป็นการขัดขวางประสิทธิภาพของการทำเลเซอร์กำจัดขนครั้งต่อไป
- ทาครีมบำรุงผิวที่อ่อนโยน เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นและลดการระคายเคือง โดยการใช้ครีมควรเลือกครีมที่ไม่มีแอลกอฮอลล์ น้ำหอม หรือกรดผลไม้
การดูแลผิวหลังทำเลเซอร์กำจัดขนอย่างถูกต้อง ช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้นและช่วยลดการเกิดผลข้างเคียงหลังทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลข้างเคียงหลังทำเลเซอร์กำจัดขน
แม้การทำเลเซอร์กำจัดขนจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและไม่เป็นอันตราย แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงบางอย่างเกิดขึ้นได้ในบางบุคคล โดยเฉพาะหากไม่ได้รับการดูแลหลังทำอย่างเหมาะสม โดยผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการทำเลเซอร์กำจัดขน มีดังนี้
- ผิวแดงหรือแสบร้อนชั่วคราว เป็นอาการทั่วไปที่เกิดขึ้นได้บ่อยหลังทำเลเซอร์ แต่โดยปกติแล้วจะหายไปได้เองภายใน 24-48 ชั่วโมง หากเกิดอาการนี้ สามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็นหรือทาครีมบำรุงที่อ่อนโยน
- อาการบวมเล็กน้อยรอบรูขุมขน คล้ายยุงกัดรอบรูขุมขน อาการนี้จะหายไปเองภายในไม่กี่วัน เนื่องจากเป็นเพียงปฏิกิริยาของผิวต่อพลังงานเลเซอร์
- ผิวแห้งหรือลอกเป็นขุย สามารถเกิดได้โดยเฉพาะในผู้ที่ผิวแห้งอยู่แล้ว หากเกิดอาการนี้ควรทาครีมบำรุงอย่างสม่ำเสมอเพื่อคืนความชุ่มชื้นให้ผิว
- รอยดำหรือรอยแดงในบางกรณี สามารถเกิดได้หากไม่หลีกเลี่ยงแสงแดดหลังทำเลเซอร์
- ผิวไหม้หรือพุพอง อาการนี้สามารถเกิดได้น้อย ซึ่งเกิดจากการใช้พลังงานเลเซอร์สูงเกินไป หรือเครื่องไม่มีคุณภาพ หากเกิดอาการนี้ควรได้รับการเข้าพบแพทย์ทันที
ผลข้างเคียงจากการทำเลเซอร์กำจัดขนส่วนใหญ่สามารถหายได้เองและไม่เป็นอันตรายหากดูแลอย่างถูกวิธี หากมีอาการที่ผิดปกติหลายวัน ควรเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาทันที
รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลเซอร์กำจัดขน
- เลเซอร์กำจัดขนเจ็บไหม ?
ระดับความรู้สึกขณะทำเลเซอร์กำจัดขนขึ้นอยู่กับชนิดของเครื่องเลเซอร์และสภาพผิวของแต่ละคน โดยทั่วไปจะรู้สึกแค่เหมือนหนังยางดีด หรืออุ่น ๆ บนผิวเท่านั้น ไม่ได้เจ็บมาก
- เลเซอร์กำจัดขนต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล ?
โดยทั่วไปแล้วเลเซอร์กำจัดขนจะเห็นได้ชัดหลังการทำ 4–6 ครั้ง ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำและความหนาแน่นของเส้นขน บางบริเวณอาจต้องทำซ้ำมากกว่า 6 ครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนาน
- เลเซอร์กำจัดขนถาวรจริงไหม ?
การทำเลเซอร์กำจัดขนจะช่วยลดจำนวนการเกิดขนระยะยาวให้เกิดน้อยลง บางลง และขึ้นช้างลงได้ ในบางบุคคลอาจไม่เกิดขนขึ้นอีกเลย เมื่อทำครบคอร์สแล้วส่วนใหญ่ควรทำซ้ำปีละ 1–2 ครั้งเพื่อคงผลลัพธ์ไว้
- เลเซอร์กำจัดขนกับ IPL ต่างกันยังไง ?
การทำเลเซอร์กำจัดขนจะใช้พลังงานแสงความยาวคลื่นเฉพาะเจาะจงและลงลึกถึงรากขน ส่วน IPL เป็นแสงหลายช่วงคลื่น จึงจะให้ประสิทธิภาพต่ำกว่าเลเซอร์และต้องทำหลายครั้งและไม่เหมาะกับผิวคล้ำหรือขนอ่อน
- เลเซอร์กำจัดขนทำให้ผิวบางไหม?
การทำเลเซอร์กำจัดขนไม่ทำให้ผิวบาง เพราะเลเซอร์จะทำงานโดยการลงลึกถึงรากขนโดยไม่ต้องทำลายชั้นผิวรอบข้าง แต่ผิวมีโอกาสบอบบางชั่วคราวหลังทำได้ จึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมบำรุงอย่างเหมาะสมในช่วงนี้
- เลเซอร์กำจัดขนทำให้ผิวขาวขึ้นไหม ?
การทำเลเซอร์กำจัดขนไม่ได้ทำให้ผิวขาวโดยตรงแต่การกำจัดขนสามารถลดจุดด่างดำจากการโกนหรือถอนบ่อย ๆ ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและกระจ่างใสมากขึ้นได้
การทำเลเซอร์กำจัดขนเป็นหนึ่งในวิธีดูแลผิวที่ได้รับความนิยม เนื่องจากสามารถทำได้หลากหลายบริเวณและสามารถลดจำนวนเส้นขนได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว โดยใช้แสงเลเซอร์ยิงลงลึกถึงรากขน ทำให้ขนบางลงและงอกช้าลงกว่าวิธีทั่วไป อีกทั้งยังช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอยิ่งขึ้น ซึ่งผลลัพธ์จากการทำเลเซอร์จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นหลังทำต่อเนื่องประมาณ 4–6 ครั้ง และในบางรายอาจต้องทำซ้ำปีละ 1–2 ครั้งเพื่อคงผลลัพธ์
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด