ชีวิตดี๊ดี…ลบรอยสัก ลบอุปสรรคในชีวิต

73

ในโมเม้นท์หนึ่งของช่วงชีวิต หลายคนเกิดอารมณ์อยากมีรอยสัก และตัดสินใจเดินไปหาช่างให้ช่วยบรรจงเข็มสักลวดลายที่ชื่นชอบลงบนร่างกาย ซึ่งคุณอาจจะรู้สึกภาคภูมิใจในช่วงเวลานั้นค่ะ แต่เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง รอยสักที่คุณเคยชื่นชอบอาจสร้างอุปสรรคในการดำเนินชีวิตประจำวัน หรือไปขัดขวางความฝันที่เคยตั้งใจเอาไว้ไม่ให้สามารถกระทำได้ เมื่อรอยสักกลายเป็นอุปสรรค และทางออกก็คือ การลบรอยสักให้เกลี้ยงค่ะ ซึ่งวิธีการลบรอยสักที่ได้ผลดีและปลอดภัยมากที่สุดก็คือ เลเซอร์ลบรอยสัก เมื่อลบรอยสักออกไปแล้ว เราลองมากันดูว่า จะช่วยลบอุปสรรคในด้านใดออกไปได้บ้าง เพื่อชีวิตดีดี๊แบบที่คุณต้องการค่ะ…

shutterstock 546214693

1. ไร้ข้อจำกัดเรื่องการสมัครงาน

หลากหลายอาชีพนั้นได้ตั้งกฎเหล็ก “ห้ามมีรอยสัก” ออกมาเป็นระเบียบของการสมัครงานอย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าตัวคุณจะมีความสามารถชนิดเจ๋งสุดๆ ไอเดียกระฉูด มีมันสมองฉลาดเลิศ แต่ต้องยอมรับความจริงของชีวิตค่ะ ว่างานบางตำแหน่ง หรือบางธุรกิจก็มีข้อจำกัดในเรื่องของบุคลิกภาพ ความน่าเชื่อถือ และความสะอาดสะอ้านของร่างกายอย่างเคร่งครัด ชนิดที่เรียกว่า เป๊ะตั้งแต่หัวจรดเท้า หากมีรอยสัก ก็ควรทำการลบรอยสักเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เช่น อาชีพสายการบินซึ่งเชื่อว่าเป็นอาชีพในฝันที่ใครๆ ก็อยากเข้าร่วมทำงานในองค์กรอันมีเกียรตินี้ ดังนั้น เมื่อภาพลักษณ์มีความสำคัญ หนึ่งในมารตการคัดบุคลากรเข้าร่วมงานสายการบินจึงมีความเข้มงวด รวมถึงห้ามมีรอยสักปรากฏให้เห็นบนร่างกาย รวมถึงอาชีพข้าราชการทุกตำแหน่ง หรือรัฐวิสาหกิจ ที่มีข้อห้ามชัดเจนเรื่องห้ามมีรอยสัก ดังนั้น ถ้าคุณยังฝันอยากทำงานด้านสายการบิน หรืองานในตำแหน่งราชการก็รีบลบรอยสักแล้วเดินหน้าหาความฝันที่คุณต้องการดีกว่าค่ะ

2. พ่อปลื้มแม่ปริ่มยิ้มได้ เมื่อลูกสาวลบรอยสัก

อันนี้ ส่งผลต่อความรู้สึกโดยตรงกับคนที่รักคุณค่ะ โดยเฉพาะคุณสาวๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่มักออกอาการไม่ปลื้มกับรอยสักของลูกสาวสักเท่าไหร่หรอกค่ะ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะความรัก ห่วงใย ความกังวล ด้วยเกรงว่ารอยสักจะไปสร้างผลกระทบต่อชีวิตของลูกสาว ประหนึ่งว่า ถ้าลูกเจ็บแต่พ่อแม่จะเจ็บยิ่งกว่านะคะ ซึ่งในฝั่งของลูกสาว หากมีรอยสักที่เกิดจากอารมณ์เพียงชั่ววูบ แต่ไม่ได้รู้สึกผูกพันหรือยึดติดกับรอยสักที่มีนั้น ก็แนะนำให้ลบรอยสักนั่นออกไปดีกว่านะคะ คงช่วยทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกยินดีและโล่งใจไม่น้อยและการลบรอยสักยังเป็นผลดีต่อตัวคุณเองด้วยค่ะ

shutterstock 150111695

3. เปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อคนรอบข้าง

ถึงแม้ว่ารอยสัก จะเป็นรสนิยมความชื่นชอบส่วนบุคคลที่ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับใคร แต่เอาเข้าจริงๆ ความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ต่อคนที่มีรอยสักย่อมมีความรู้สึกว่าคนที่มีรอยสักดูอันตราย หรืออาจมีอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย จนไม่กล้าเข้าใกล้ ซึ่งเชื่อว่าหลายครั้งที่คนมีรอยสักคงเคยสัมผัสความรู้สึกของคนรอบข้างนั้นได้ แม้ว่าในความเป็นจริงรอยสักจะเป็นเพียงความชื่นชอบส่วนตัวก็ตาม เอาเป็นว่า ถ้าคุณไม่ได้ซีเรียสอะไรกับรอยสักที่มี การลบรอยสักออกไปอาจช่วยลดความรู้สึกอึดอัดของคุณในเวลาที่เจอกับคนในสังคมรอบๆ ข้างได้ค่ะ

4. ลบรอยสัก ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพอนามัย

ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับรอยสักเลยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ไม่ใช่ว่า คุณจะสามารถวางใจได้ 100% นะคะ เพราะอันตรายแฝงที่มากับรอยสักนั้น น่ากลัวกว่าที่คิด ดังข้อมูลที่เรามานำเสนอดังนี้ค่ะ

  • ความเสี่ยงเมื่อรอยสักสัมผัสถูกแสงแดด อย่างที่ทราบกันดีว่าแสงแดดแรงๆ สามารถทำร้ายผิวของเราได้มากแค่ไหน แต่ผิวที่มีรอยสักจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเจ็บป่วย หากผิวบริเวณนั้นสัมผัสถูกแสงแดดมากเกินไป สำหรับบางคนอาจมีอาการบวมและคันเกิดขึ้น โดยเฉพาะรอยสักที่มีหมึกสีเหลือง เป็นสาเหตุของอาการคัน อักเสบ และผิวหนังบวมแดงเมื่อสัมผัสถูกแสงแดด ซึ่งเกิดจากแคดเมี่ยมที่อยู่ในหมึกนั่นเอง ทั้งนี้ หมึกสีอื่นๆ ก็สามารถสร้างปัญหาได้เช่นกัน โดยจากการศึกษาในประเทศเดนมาร์กพบว่า ผู้ที่สักลายด้วยหมึกสีดำ แดง และฟ้าจะแสดงปฏิกิริยาทางผิวหนังอย่างชัดเจนค่ะ หากไม่อยากเสี่ยงกับอาการเหล่านี้ควรลบรอยสักออกเพื่อสุขภาพของคุณเองค่ะ
  • ผิวหนังบริเวณรอยสักไหม้จากการตรวจ MRI มีตัวอย่างให้เห็นในปี 2011 นักฟุตบอลอาชีพรายหนึ่งซึ่งมีรอยสักสีดำได้ทำการเอ็กซเรย์ หรือที่เรียกว่าตรวจ MRI  ปรากฏว่าผิวหนังของเขามีรอยไหม้ขณะที่ตรวจ MRI อยู่ เนื่องจากกระแสไฟฟ้าได้ก่อตัวขึ้นในผงเหล็กซึ่งเป็นส่วนประกอบของหมึก สำหรับผู้ป่วยที่สักลายด้วยหมึกดำจะมีความเสี่ยงในการตรวจ MRI เนื่องจากหมึกดำมีเหล็กออกไซด์ รวมถึงหมึกสีแดงก็มีความเสี่ยงนี้ด้วยเช่นกัน
  • โดนลอยสักกลบจนไม่เห็นปัญหาด้านสุขภาพ ทั้งนี้ ลายสักบนผิวหนังอาจไปปกปิดปัญหาด้านสุขภาพซึ่งทำให้ผู้ที่เกิดปัญหาไม่สามารถรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติได้ทันเวลา มีรายงานว่า รอยสักจะปกปิดอาการของโรคมะเร็งผิวหนัง ซึ่งรวมถึงมะเร็งไฝ มะเร็งผิวหนังชนิดเบซาลเซลล์ (BCC) เป็นมะเร็งผิวหนังชนิดหนึ่งที่มีจุดเริ่มต้นมาจากเบซาลเซลล์ ซึ่งเป็นเซลล์ที่อยู่ภายในผิวหนังทำหน้าที่สร้างเซลล์ผิวหนังใหม่เมื่อเซลล์เดิมตาย และมะเร็งผิวหนังชนิดสเควมัสเซลล์ (SCC) เกิดขึ้นในผิวหนังชั้นกลาง โดยในปี 2013 มีรายงานว่าพบผู้ชายคนหนึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งไฝหลังจากที่เขาไปลบรอยสักด้วยเลเซอร์ เนื่องจากก่อนหน้านี้ บริเวณที่มีการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งถูกปิดทับด้วยหมึกดำ ซึ่งรอยสักทำให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังสังเกตไฝที่อาจกลายเป็นมะเร็งได้ลำบาก หากรอยสักนั้นไม่จำเป็นต่อชีวิตก็ควรทำการลบรอยสักออกเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจตามมา
shutterstock 789102274

5. ญาติผู้ใหญ่ฝั่งคู่รักเลิกกีดกัน

หุหุ… ข้อนี้ฟังดูแล้วอาจจะมีหลายท่านคิดว่า ดูละครน้ำเน่ามากไปหรือเปล่า? แต่มันคือชีวิตจริงของใครหลายๆ คนที่ต้องประสบกับปัญหานี้อยู่นะคะ สำหรับปัญหารอยสักที่ญาติฝั่งแฟนเขาไม่ปลื้มอย่างแรงเนี่ย… บางรายถึงขั้นยื่นคำขาด ถ้าหากไม่ลบรอยสักออกจะให้ลูกหลานตนเองเลิกคบ หรือไม่ยอมให้แต่งงานด้วยกันเลยก็มีค่ะ ดังนั้น เพื่อตัดปัญหาด้านอุปสรรคความรัก การลบรอยสักจึงเป็นทางออกที่จะทำให้ความรักของคุณทั้งคู่ผ่านฉลุย ไร้ปัญหาญาติกีดกัน ได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างแฮปปี้ค่ะ

สักด้วยมือ ลบด้วยเลเซอร์ ทางออกของการลบรอยสักที่ไม่ทิ้งร่องรอยปัญหาผิว

72

ปัญหาส่วนใหญ่ที่ตามมาของคนที่ตัดสินใจสักไปแล้วก็คือ ลวดลายที่สักเอ๊าท์ตกเทรนด์ ลายไม่สวยถูกใจ สักความทรงจำของแฟนเก่าแล้วเกิดปัญหากับแฟนคนใหม่ หรือวัยรุ่นที่คึกคะนองสักกันเองแล้วลวดลายออกมาเพี้ยนๆ ดูตลก กลายเป็นปัญหาหนักใจที่ต้องการลบรอยสักนั้นทิ้งไป ซึ่งปัญหาของคนที่ลบรอยสักด้วยวิธีธรรมชาติอย่างการใช้ปูนแดง ยางมะละกอ หรือยางของเม็ดมะม่วงหิมพานต์นั้น ผลของมันทำให้เกิดรอยแผลเป็นมาแทนที่รอยสัก ดังนั้น ทางออกของการลบรอยสักที่ดีที่สุดในยุคนี้ คงไม่มีอะไรจะเห็นผลดีเกินกว่านวัตกรรมลบรอยสักด้วยเลเซอร์ค่ะ แล้วเลเซอร์ดีกว่าอย่างไร? ทำไมต้องลบรอยสักด้วยเลเซอร์ มาดูคำตอบกันค่ะ

ลบรอยสักด้วยเลเซอร์เห็นผล 100% หรือไม่?

มักมีหลายคนสงสัยว่า การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ รอยสักจะหายเกลี้ยงเลยหรือไม่?  ทั้งนี้ การลบรอยสักด้วยเลเซอร์จะเห็นผล 100% เลยหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้ค่ะ

  1. ขนาดและสีของรอยสัก ขนาดที่ใหญ่จะต้องใช้ระยะเวลานาน ส่วนสีของรอยสักแต่ละสีจะมีความยากง่ายในการลบต่างกัน แต่ก็มีบางคนที่ทำเลเซอร์ลบรอยสักเพียงครั้งเดียวก็จางได้ค่ะ เช่น คนที่สักด้วยสีดำสีเดียว จะลบรอยสักได้ง่ายที่สุดเพราะสีดำจะดูดซึมแสงเลเซอร์ได้เกือบทุกชนิดและดูดได้มากที่สุด จึงทำให้เห็นผลไวกว่าสีอื่นค่ะ
  2. ตำแหน่งของร่างกายที่สัก อาจจะมีผลในเรื่องการเกิดแผลเป็นหลังจากการลบรอยสัก เช่น บริเวณหลัง หน้าอก สามารถเกิดแผลเป็นได้ง่ายกว่าบริเวณอื่น นอกจากนี้ ยังมีข้อควรระวังสำหรับบางตำแหน่งที่ลบรอยสักยาก เช่น สักอายไลน์เนอร์บริเวณตำแหน่งใกล้ดวงตา ซึ่งเลเซอร์ที่ใช้ในการลบรอยสักพวกนี้จะเป็นอันตรายกับจอประสาทตา ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่จะทำให้ตาสูญเสียการมองเห็นได้ค่ะ
  3. ระดับความลึกของรอยสัก ปัจจัยหนึ่งของการลบรอยสัก จะยากหรือง่ายนั้นก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของช่างที่สักด้วยค่ะ ถ้าใช้เครื่องมือสักโดยช่างที่มีความชำนาญสูง จะลบไม่ยาก เพราะระดับของการสักนั้นอยู่ในระดับเดียวกัน แต่ในขณะเดียวกันถ้าสักแบบพวกมือสมัครเล่น หรือใช้มือสัก การสักจะอยู่คนละระดับกัน ทำให้ยิ่งลบรอยสักยากขึ้นเพราะระดับความลึกไม่เท่ากันค่ะ

การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ จะทำให้รอยสักจะจางลงเรื่อยๆ ได้มากถึง 95% หลังเลเซอร์ลบรอยสักประมาณ 5-6 ครั้ง โดยทำห่างกันทุก 1-2 เดือน ซึ่งคุณควรพบแพทย์ทุกครั้งตามนัด เพื่อติดตามผลและทำอย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผลดี

แต่ถ้าใครอยากลบรอยสักให้หายภายในครั้งเดียวแบบ 100% อาจต้องพึ่งวิธีการตัดรอยสักออกไปค่ะ ซึ่งเป็นวิธีการผ่าตัดโดยการตัดผิวหนังบริเวณที่มีรอยสักออกแล้วเย็บแผลให้เข้าหากัน แต่เหมาะสำหรับรอยสักที่มีขนาดเล็กๆ เท่านั้นนะคะ วิธีการลบรอยสักนี้ แม้ว่ารอยสักก็จะหายเกลี้ยงแต่จะมีแผลเป็นเล็กๆ มาแทนค่ะ ดังนั้น ถ้าอยากให้รอยสักจางไปโดยไม่มีแผลเป็น ก็ควรลบรอยสักด้วยเลเซอร์ดีกว่าค่ะ

shutterstock 379393678

ลบรอยสักด้วยนวัตกรรมเลเซอร์ Nupico Untattoo

รมย์รวินท์คลินิกเข้าใจและตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นของการลบรอยสักด้วยเลเซอร์แบบเดิมๆ จึงได้นำนวัตกรรมเลเซอร์อันทันสมัย Nupico Untattoo มาช่วยแก้ปัญหาระหว่างและหลังกระบวนการลบรอยสักได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรามาลองมาทำความรู้จักกับนวัตกรรมเลเซอร์ลบรอยสัก Nupico Untattoo กันว่าจะช่วยแก้ปัญหารอยสักของคุณได้อย่างไรบ้าง และได้ผลที่ดีกว่าเลเซอร์ลบรอยสักแบบเดิมได้อย่างไร มาดูกันค่ะ

  1. ลบรอยสักได้ทุกสี และรักษาได้ครอบคลุมทุกเม็ดสีทั้งตื้นและลึก นวัตกรรมเลเซอร์ Nupico Untattoo มีความยาวของคลื่นให้เลือกใช้หลายช่วงคลื่น รอยสักสามารถจางลงได้ทุกสีแม้เป็นสีที่ลบยาก และมีความยาวคลื่นชนิดที่ไม่ทำให้เกิดสะเก็ดแผลหลังการรักษา ดังนั้น หลังการลบรอยสักผิวของคุณจึงเนียนเรียบไม่เกิดรอยนูนตะปุ่มตะป่ำขึ้นค่ะ
  2. เห็นผลการรักษาอย่างชัดเจนในครั้งแรก โดยใช้แสงเลเซอร์เข้าไปแตกตัวเม็ดสีที่มีอยู่ใต้ผิวหนังให้มีขนาดเล็กลง สามารถเข้าไปทำลายเม็ดสีได้ทุกเฉดสีในชั้นผิวหนังลึก หลังการรักษาลบรอยสักในครั้งแรกจะเห็นได้ว่าความแน่นของเม็ดสีน้อยลงเป็นข้อดีที่ช่วยลดจำนวนครั้งของการรักษาลงได้
  3. ไม่เกิดรอยดำ หากลบรอยสักด้วยวิธีนี้ เนื่องจากเลเซอร์ Nupico Untattoo จะถูกปล่อยออกมาในระยะเวลาที่สั้นมากๆ พลังงานแสงนี้จะถูกยิงเข้าไปยังผิวทำให้เม็ดสีแตกออกเป็นอนุภาคเล็กๆ ในทันที โดยจะไม่ทำให้เกิดความร้อนสะสมไม่เสี่ยงต่อผิวไหม้ จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดรอยดำได้ค่ะ
  4. เจ็บน้อย จุดเด่นที่สำคัญของการลบรอยสักด้วย Nupico Untattoo คือเจ็บน้อย โดยแพทย์จะแปะยาชาช่วยเพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บลงมาได้อีกระดับ หลังทำไปสักพักจะรู้สึกชาแต่แทบไม่รู้สึกถึงความเจ็บ ดังนั้น หลังการลบรอยสักคุณจึงไม่ต้องพักฟื้น และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติค่ะ
  5. ปลอดภัย เลเซอร์ Nupico Untattoo ได้รับการรับรองจาก FDA ประเทศสหรัฐอเมริกา และ อย.ของประเทศไทย จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยทุกขั้นตอนของการทำค่ะ

การดูแลหลังลบรอยสักด้วยเลเซอร์

  • มัดระวังอย่าให้โดนน้ำหลังทำเลเซอร์ เพราะจะทำให้แผลชื้นติดเชื้อได้ง่าย
  • หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลที่ทำเลเซอร์สัมผัสแสงแดด
  • ควรทาครีมที่แพทย์จัดให้จนกว่าแผลจะหายเป็นปกติ เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงเกิดรอยด่างดำขึ้นได้

หลังลบรอยสักด้วยเลเซอร์แล้วมีผลข้างเคียงหรือไม่?

การลบรอยสักด้วยเลเซอร์มีผลข้างเคียงน้อยมากค่ะ ทั้งนี้ เมื่อสะเก็ดหลุดหลังการรักษาแล้วรอยสักจะค่อยๆ จางลงในระดับหนึ่ง โดยไม่เกิดแผลเป็นหรือร่องรอยใดๆ หลังทำการลบรอยสักคุณอาจจะรู้สึกเจ็บหรือแสบบริเวณที่ทำการรักษาเล็กน้อย สามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็นและทานยาแก้ปวดได้ค่ะ

อยากลบรอยสักแบบปลอดภัย แต่ไม่อยากเจ็บตัว ควรใช้วิธีไหน

71

การสักตามผิวหนัง เป็นการนำเม็ดสีเข้าสู่ผิวหนังด้วยวิธีการทำให้เกิดแผลเล็กๆ จากการเจาะด้วยเข็มหรือเครื่องสัก เมื่อแผลหายเม็ดสีจะค้างอยู่ในชั้นผิวหนังตลอดไป โดยมีหลากหลายเหตุผลของคนที่สักเพื่อความพึงพอใจ ความสวยงาม ความเชื่อศรัทธา ความรัก อยากเท่ หรือสาวๆ บางคนอาจจะสักเพื่อความสวยงามบนใบหน้าเช่นการสักคิ้ว เป็นต้น แต่เมื่อรอยสักที่เคยชื่นชอบกลับไม่เป็นที่ต้องการของเราอีกต่อไป ด้วยต่างเหตุผลต่างความจำเป็นของแต่ละคน ซึ่งจะมีเหตุผลใดบ้างเราได้รวบรวมเหตุผลที่คนอยากลบรอยสักมาให้ดู และเมื่ออยากลบรอยสักแบบปลอดภัย แต่ไม่อยากต้องเจ็บตัวซ้ำอีกจะมีวิธีลบรอยสักไหนบ้าง เราก็มีข้อมูลดีๆ มานำเสนอเช่นกันค่ะ

เหตุผลที่อยากลบรอยสัก

  • สักพลาด การสักผิดพลาดถือเป็นฝันร้ายของหลายคน เพราะรอยสักนั้นจะติดฝังแน่นลงบนเรือนร่างไปตลอดชีวิต ยิ่งเห็นยิ่งช้ำใจจึงเป็นเหตุผลแรกๆ ที่ต้องลบรอยสักค่ะ
  • สักไม่สวย เมื่อลวดลายที่สักออกมาไม่ตรงใจ บิดเบี้ยว สีเพี้ยน ลายเพี้ยน เจ้าของลายสักออกอาการไม่ปลื้มแบบนี้ก็เป็นเหตุให้ต้องลบรอยสักออกไปค่ะ
  • ลายมันเอ๊าท์ ส่วนใหญ่ปัญหานี้มักจะเกิดกับวัยรุ่นที่ไปสักตามกระแสฮิตตอนนั้น แต่พอวันเวลาผ่านไปไอ้ลวดลายเท่ๆ คูลๆ ที่เคยสักเอาไว้กลับกลายเป็นความเอ๊าท์ความเชยแบบสุดๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้พี่คงทนอายไม่ได้ต้องลบรอยสักออกไปซะแล้วล่ะ
  • อยากทำงาน มีหลายบริษัทเลยนะคะที่ไม่รับคนที่มีรอยสักเข้าทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชนบางบริษัท เพราะฉะนั้นถ้าตั้งใจอยากทำงานในองค์กรที่หวังไว้ก็ต้องลบรอยสักนั้นออกไปซะ
  • อยากลืมเธอ ยามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน แต่ยามชังแม้กินน้ำตาลยังขมขื่น คนที่สักชื่อแฟนหรือความทรงจำเกี่ยวกับแฟนอันนี้น่าเป็นห่วงค่ะ เพราะเมื่อเลิกกันแล้วเธอก็หมดความหมายจึงต้องลบเธอออกไปจากความทรงจำซะ นั่นก็คือการลบรอยสักที่เกี่ยวข้องกับเธอออกไปค่ะ
  • อยากแต่งงานกับเธอ เมื่อครอบครัวอีกฝ่ายยื่นคำขาดว่าถ้าไม่ลบรอยสักจะไม่ยอมให้ลูกของตนแต่งงานด้วย เอาล่ะสิ งานนี้มันหนักใจไม่น้อย แต่เพื่อจะได้แต่งงานกับเธอแล้วฉันยอมทุกอย่างจึงเป็นเหตุผลปนรอยยิ้ม ของคนต้องการลบรอยสัก
  • ลบความผิดพลาดสมัยวัยรุ่น มีหลายคนที่เคยลองสักกันเองแบบตามมีตามเกิดกับเพื่อนตอนสมัยวัยรุ่น ซึ่งผลที่ออกมาก็คงเดาได้ไม่ยากใช่ไหมคะ ว่าลวดลายจะมีสภาพเป็นแบบไหน พอโตเป็นผู้ใหญ่ความอายมันก็บังเกิดค่ะ ดังนั้น จึงต้องลบรอยสักที่เคยคิดว่าเท่ (หรือเปล่า…) อันนี้ออกไปซะ ไม่งั้นคงต้องโดนล้อไปตลอดชีวิตแน่ค่ะ

ลบรอยสักมีอันตรายหรือไม่?

สิ่งที่กังวลใจสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจลบรอยสัก ก็คืออันตรายที่แฝงมากับการลบรอยสักค่ะ อันที่จริงแล้วการลบรอยสักจะมีอันตรายหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับวิธีที่ใช้ในการลบรอยสัก ในกรณีที่ลบรอยสักโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะมีความปลอดภัย โดยแพทย์มักจะเลือกใช้วิธีมาตรฐานอย่างการลบรอยสักด้วยเลเซอร์ ซึ่งเลเซอร์ที่ใช้จะเป็นเลเซอร์สำหรับใช้ลบรอยสักโดยเฉพาะ และแพทย์จะยิงแสงเลเซอร์ในขนาดที่พอเหมาะ จำนวนครั้งในการทำเหมาะสมที่ทำให้รอยสักจางลงได้โดยไม่เกิดผลแทรกซ้อนตามมา

แต่ในกรณีที่ไปลบรอยสักโดยใช้น้ำยาลอกลายที่เป็นกรดเพื่อกัดผิวหนังบริเวณที่สักให้หลุดออกไปนั้น ขอเตือนไว้ก่อนว่าเป็นวิธีการลบรอยสักที่มีอันตรายและไม่แนะนำให้ทำค่ะ เพราะน้ำกรดจะมีฤทธิ์กัดกร่อนค่อนข้างแรง ถ้ารอยสักมีขนาดใหญ่หรือเป็นบริเวณกว้าง ทำไปแล้วไม่ได้รับการดูแลแผลอย่างดีมีโอกาสจะเกิดการติดเชื้อเอาง่ายๆ ได้เลยนะคะ และเมื่อแผลหายแล้วมีโอกาสเป็นแผลเป็นนูน หรือคีลอยด์ ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายได้ค่ะ

ลบรอยสักแบบไหน ปลอดภัยแต่ไม่เจ็บตัว

แม้ว่าเราจะเคยทนทานความเจ็บกับเข็มของรอยสักได้ แต่ยังคงจำความรู้สึกเจ็บนั้นได้ดีและรู้สึกเข็ดหากต้องเจ็บตัวซ้ำอีกเมื่อลบรอยสักออก เราจึงมีทางออกสำหรับคนที่อยากลบรอยสักแบบปลอดภัยแต่ไม่อยากเจ็บตัวมาฝากกันค่ะ

ลบรอยสักด้วยครีม

ถ้าคุณเคย “เจ็บมาเยอะ” ข้อดีของวิธีนี้ คือคุณไม่ต้องเจ็บตัว แต่ข้อเสียอาจจะเป็นเรื่องของเวลาที่อาจจะต้องใช้เวลานานถึงนานมากเลยทีเดียว โดยคุณสมบัติของครีมลบรอยสักจะซึมซับเข้าไปทำให้รอยสักดูจางลง (อย่างน้อยก็ต้อง 1 เดือนขึ้นไปถึงจะเห็นความจางของหมึก) ซึ่งคนที่ใช้วิธีลบรอยสักนี้อาจจะต้องใช้เงินพอสมควรเพราะใช้ระยะเวลานาน และเห็นผลค่อนข้างช้า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วยค่ะ

shutterstock 384997729

ลบรอยสักแบบไม่เจ็บตัว ด้วยนวัตกรรมเลเซอร์ NU-PICO un-tattoo

ปัจจุบันวิธีลบรอยสักที่ได้ผลดีและนิยมมากที่สุดคือ การใช้เลเซอร์ลบรอยสัก ซึ่งไม่เป็นการทำลายชั้นผิวหนัง ทางรมย์รวินท์คลินิกได้นำนวัตกรรมเลเซอร์ NU-PICO un-tattoo ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการใช้ลบรอยสัก โดยแพทย์ผู้ชำนาญการจะเป็นผู้ประเมินการรักษาด้วยแสงเลเซอร์ที่มีความยาวของคลื่นหลายช่วงคลื่น เพื่อเข้าไปทำลายเม็ดสีได้ทุกเฉดสีในชั้นผิวหนังลึกอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รอยสักสามารถจางลงได้ทุกสีแม้เป็นสีที่ลบยาก และมีความยาวคลื่นชนิดที่ไม่ทำให้เกิดสะเก็ดแผลหลังการรักษา ไม่ทำเกิดความร้อนสะสมไม่เสี่ยงต่อผิวไหม้ จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดรอยดำ และไม่เกิดรอยแผลหลังลบรอยสักไปแล้วค่ะ

จุดเด่นที่สำคัญของ NU-PICO un-tattoo ในการลบรอยสัก คือเจ็บน้อยค่ะ คุณสามารถทำตัวชิวๆ ได้โดยไม่ต้องเกร็ง โดยแพทย์จะแปะยาชาช่วยเพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บลงมาได้อีกระดับ หลังทำไปสักพักจะรู้สึกชาแต่แทบไม่รู้สึกถึงความเจ็บเลยล่ะค่ะ หลังทำการลบรอยสักคุณสามารถลั้ลลาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่ต้องพักฟื้น เลเซอร์ NU-PICO un-tattoo ได้รับการรับรองจาก FDA ประเทศสหรัฐอเมริกา และ อย.ของประเทศไทย ดังนั้น คุณจึงมั่นใจหายห่วงได้ในความปลอดภัยทุกขั้นตอนของการทำค่ะ

สักคิ้วพลาดทำไงดี! มาดูคำตอบของการลบรอยสักคิ้วแบบไม่ทิ้งรอยแผลบนใบหน้า

70

ว่ากันว่า ผู้หญิงจะสวยหรือไม่สวยก็ดูกันที่คิ้วนี่แหละค่ะ มีสาวๆ จำนวนมากยอมลงทุนสักคิ้วถาวร 6 มิติ 7 มิติ เพราะอยากให้หน้าตัวเองดูเป๊ะปังตลอดเวลาไม่ว่าจะนอนหลับหรือเพิ่งตื่นนอนก็ต้องสวยไว้ก่อนเสมอ ซึ่งร้านที่ให้บริการสักคิ้วในปัจจุบันมีเยอะมากจนเราเองก็เลือกไม่ถูกเหมือนกันว่าจะไปทำที่ร้านไหนดี เพราะดูจากรีวิวแล้วก็แทบจะเหมือนกันหมด งานนี้ต้องวัดกันที่ฝีมือช่างแล้วล่ะค่ะ ถ้างานออกมาดี อันนี้ขอปรบมือรัวๆ แต่ถ้าทำออกมาแล้วไม่สวย คิ้วหนาเกินจนกลายเป็นหนูน้อยชินจัง คิ้วสูงเกินไป คิ้วตกเกินไป คราวนี้ล่ะ กลายเป็นปัญหาใหญ่ให้สาวๆ ต้องปวดกันไปถึงตับกันเลย สาวๆหลายคนต้องหาวิธีลบรอยสัก… เพราะรอยสักคิ้วมันจะอยู่กับคุณตลอดไป แต่… อย่าเพิ่งโวยวายไปค่ะ เพราะเรามีข้อมูลดีๆ มาแชร์เกี่ยวกับการลบรอยสักคิ้วแบบไม่ทิ้งรอยแผลซ้ำเติมบนใบหน้ามาฝากค่ะ

1. เขียนคิ้วลบรอยสัก

เป็นวิธีการลบรอยสักคิ้วแบบเอาตัวรอดชั่วครั้งชั่วคราว สำหรับสาวๆ ที่ต้องการปกปิดความผิดพลาดของรอยสัก ลองนำวิธีการเขียนคิ้วเพื่อลบรอยสักนี้ไปใช้ได้นะคะ

  1. ลงคอนซีลเลอร์ทับรอยสัก จะเลือกใช้แบบครีมหรือแบบน้ำก็ได้ค่ะ เพื่อกลบทับรอยสักคิ้วเดิมที่เราไม่ชอบให้หายไป แต่สาวๆ ที่ใช้วิธีลบรอยสักคิ้วแบบนี้ต้องพึงระวังมากที่สุดก็คือ จะต้องเลือกสีที่ใกล้เคียงกับใบหน้าของเราและเกลี่ยให้เนียนมากที่สุดนะคะ ไม่งั้นจะเห็นรอยด่างชัดเจนมากค่ะ
  2. เริ่มลากหางคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้วแบบแท่ง ให้ออกมาเป็นทรงแบบที่เราต้องการก่อน แต่สาวๆ ที่สักคิ้วต้องจำไว้อย่างนึงว่า การที่เราสักคิ้วมาแล้วนั้น มันจะทำให้คิ้วของเราเข้มประมาณนึงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเวลาเขียนคิ้วจะต้องระวังและเบามือมากๆ ไม่งั้นจะเหมือนมีปลิงเกาะอยู่ที่คิ้วได้นะ
  3. ใช้ดินสอเขียนคิ้วแบบฝุ่น คู่กับแปรงเขียนคิ้ว ค่อยๆ ลากไปตามเส้นขนคิ้ว ให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด และเขียนอย่างอ่อนๆ เบามือๆ เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ใช้แปรงปัดคิ้ว ขึ้นมาปัดเพื่อเก็บรายละเอียดอีกรอบนึง เพียงเท่านี้ คิ้วของคุณก็ดูเป๊ะขึ้นได้แล้วค่ะ

2. สักสีเนื้อกลบรอยสักคิ้ว

โดยการสักสีเนื้อลงไปทับบริเวณสีคิ้วที่เกินออกมา หากสีเดิมไม่เข้มมากก็อาจลบรอยสักเพียงครั้งเดียว แต่หากสีเดิมเข้มมากก็ต้องสักกลบหลายครั้ง และแต่ละครั้งต้องทิ้งระยะห่างประมาณ 1 เดือนขึ้นไปค่ะ เพื่อรอผิวให้มีความแข็งแรงขึ้น แต่สีเดิมที่คุณทำมามันไม่ได้หายไปไหนแต่มันโดนสีเนื้อปกปิดเอาไว้เท่านั้นเองค่ะ วิธีการลบรอยสักนี้เหมาะสำหรับใช้กับลบรอยสักเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนะคะ ไม่เหมาะที่จะใช้ลบรอยสักออกทั้งหมดเพราะจะเห็นเป็นรอยด่างชัดเจนมาก  ซึ่งวิธีนี้จะช่วยกลบโครงคิ้วให้ดูสวยเป็นธรรมชาติขึ้นได้ และที่สำคัญที่สุดต้องเลือกช่างสักที่มีความชำนาญสูงเท่านั้นนะคะ เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะกลายเป็นไม่สวย และทำให้มีปัญหาหนักขึ้นกว่าเดิมได้ค่ะ

3. ลบรอยสักคิ้วยด้วยเซรั่มหรือน้ำยาลบรอยสัก

เป็นวิธีลบรอยสักที่ค่อนข้างนิยมกันมากในการแก้ปัญหารอยสักคิ้วพลาดๆ หรือสักออกมาแล้วไม่สวยดั่งใจ โดยการใช้น้ำยาหรือเซรั่มเข้าไปเร่งการผลัดเซลล์ผิวบริเวณรอยสักให้หลุดลอกออกมา ทำให้รอยสักจางลง แต่ข้อเสียของวิธีการนี้คือ เห็นผลค่อนข้างช้า และต้องทำหลายครั้ง ขึ้นอยู่กับความเข้มของสีคิ้วของแต่ละคน แต่ว่าเป็นวิธีลบรอยสักคิ้วที่ปลอดภัย และไม่ทำให้คิ้วเป็นแผล หรือเกิดรอยแผลเป็นตามมา

4. ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์

นวัตกรรมเลเซอร์ลบรอยสักคิ้ว NU-PICO un-tattoo ที่รมย์รวินท์คลินิก ได้รับการรับรองจาก FDA ประเทศสหรัฐอเมริกา และ อย.ประเทศไทย ถือเป็นมิติใหม่แห่งวงการนวัตกรรมลบรอยสักคิ้วเลเซอร์ที่ไม่ทิ้งร่องรอยแผลเป็นบนใบหน้าให้ปวดใจอีกต่อไปค่ะ แถมยังมีขั้นตอนการรักษาที่ไม่ยุ่งยากอีกด้วย

โดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์สูงที่รมย์รวินท์คลินิก จะทำการลบรอยสักด้วยเลเซอร์ NU-PICO un-tattoo ด้วยการใช้แสงเลเซอร์เข้าไปแตกตัวเม็ดสีที่มีอยู่ใต้ผิวหนังให้มีขนาดเล็กลง โดยไม่เกิดรอยแผลเป็นในบริเวณที่ลบรอยสักออกไป สามารถลบรอยสักได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจุดเด่นที่สำคัญของ NU-PICO un-tattoo คือ เจ็บน้อย เห็นผลการรักษาตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำจึงช่วยลดจำนวนครั้งในการรักษาให้น้อยลงกว่าการรักษาด้วยเลเซอร์แบบเดิมๆ ได้ค่ะ

ข้อดีของการลบรอยสักด้วยเลเซอร์ NU-PICO un-tattoo ที่รมย์รวินท์คลินิก

  • ลบรอยสักอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ลดจำนวนครั้งในการรักษา
  • ไม่ทำให้เกิดแผลเป็น
  • ได้รับการรับรองจาก US FDA และ อย.ไทย
  • ทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์

ดูแลคิ้วหลังลบรอยสักอย่างถูกวิธี

  1. ถ้ามีอาการบวมให้ประคบด้วยความเย็น (โดยใช้เจลประคบเย็น) อาการบวมจะหายไปเองใน 2-3 วัน
  2. ไม่ควรให้บริเวณที่ทำโดนน้ำอย่างน้อย 1-2 วัน หรือจนกว่าแผลจะแห้ง
  3. ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดบริเวณที่ยิงเลเซอร์ และทาครีมกันแดดทุกครั้ง  เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงเป็นรอยดำจากการทำเลเซอร์
  4. ควรทาครีมที่แผลจนสะเก็ดหลุดหรือแผลหาย

สักผิดชีวิตมีทางออก… รวมวิธีลบรอยสักแบบเนียนๆ เหมือนไม่เคยสัก

69

ในยุคที่รอยสักกำลังเป็นกระแสฟีเว่อร์ในหมู่วัยรุ่นและวัยทำงาน จะหันไปไหนจะทางซ้ายหรือทางขวา ทั้งหญิงและชายก็มีรอยสักกันทั้งนั้น บางคนสักเพื่อความเชื่อ ความสวยงาม แฟชั่น ความเท่ หรือสักเพื่อบ่งบอกความเป็นตัวตน ในเมื่อยอมเจ็บตัวสักมาแล้วก็ต้องอวดรอยสักกันหน่อย ของแบบนี้มันต้องโพสต์ต้องแชร์รอยสักสวยๆ ให้สายเม้นต์สายแชร์ เข้าไปกระหน่ำไลค์กระหน่ำเม้นต์กันรัวๆ

แต่ในโลกของศิลปะรอยสักนั้นก็ใช่ว่าจะสักออกมาแล้วจะสวยงามกันไปซะทุกราย บางคนเลือกช่างผิดชีวิตเปลี่ยน… เช่น สักลายเพี้ยน สีเพี้ยน สะกดตัวอักษรผิด ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาสามารถเรียกเสียงฮาจากผู้ชม แต่เรียกน้ำตาจากเจ้าของรอยสักไปเป็นปี๊ป 555 แน่นอนล่ะว่า เมื่อลายที่สักเกิดความผิดพลาดมหันต์ จะเก็บเอาไว้ก็คงลำบากใจแย่เลยจริงไหมคะ… แต่อย่างเพิ่งซีเรียสไปนะคะทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอ เพราะเราได้หาวิธีลบรอยสักแบบเนียนๆ มาฝาก เมื่อคุณรู้วิธีการสักก็ควรรู้วิธีการลบรอยสักด้วยเช่นกันค่ะ

1. เมคอัพลบรอยสัก

วิธีแรกนี้ใช้สำหรับแก้ปัญหาการลบรอยสักแบบชั่วคราวนะคะ ในกรณีที่ต้องออกงานสุภาพแล้วต้องการลบรอยสักไม่ให้ใครสังเกตุเห็นด้วยวิธีเมคอัพ มีขั้นตอนดังนี้ค่ะ

  1. ลงเบสบริเวณที่มีรอยสัก ควรเลือกเบสชนิดที่เหมาะกับสภาพผิวของเราเอง โดยเฉพาะคนที่มีผิวมันขั้นตอนนี้ข้ามไม่ได้เลยนะคะ การลงเบสในขั้นตอนแรกเพื่อเพิ่มความแน่นปึ้กค่ะ
  2. ปรับโทนสีด้วยการลงเมคอัพโทนส้มเป็นรองพื้น จะเป็นครีมบลัชสีส้ม หรืออายแชโดว์ก็ได้ค่ะ พยายามเกลี่ยทับรอยสักให้หมดแต่อย่าให้เกินจากรอยสักมากไปนะคะ
  3. ลงแป้งฝุ่นโปร่งแสงทับ ลงเพื่อเซ็ตให้ทุกอย่างอยู่ตัวค่ะ จะได้ไม่ไหลเยิ้ม ควรเป็นแป้งโปร่งแสงที่ไม่ผสมรองพื้นใดๆจะดีกว่านะคะ
  4. ลงคอนซีลเลอร์ทับอีกชั้น ในกรณีนี้คอนซีลเลอร์แบบสติกจะดีที่สุดค่ะ เลือกที่โทนสีเดียวกันกับสีผิวของเรา ที่สำคัญคือต้องลงเฉพาะส่วนที่จะลบรอยสักเท่านั้นนะคะ
  5. ปิดด้วยคอนซีลเลอร์หรือรองพื้นเนื้อครีม ลงทับอีกสักรอบเพื่อความชัวร์ค่ะ รอบนี้ต้องใช้โทนสีที่เนียนกับผิวสุดๆ เลยค่ะ
  6. โปะแป้งพัฟ ใช้แป้งพัฟผสมรองพื้นเฉดสีผิวลงทับอีกชั้นเพื่อเช็ครองพื้นและคอนซีลเลอร์ค่ะ
  7. ปิดท้ายด้วย Setting Spray เพื่อความติดทน ทำให้ลบรอยสักได้เนียนขึ้นค่ะ

2. ยางเม็ดมะม่วงหิมพานต์ลบรอยสัก

shutterstock 614760452

โดยใช้ยางของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ดิบทาบริเวณผิวที่เป็นรอยสักค่ะ ฤทธิ์ของยางเม็ดมะม่วงหิมพานต์จะทำให้ผิวหนังลอกออก เป็นวิธีลบรอยสักที่แสบผิวหนังอยู่พอสมควร และเพื่อความปลอดภัยต้องล้างแผลทุกวันนะคะ

3. ยางของมะละกอลบรอยสัก

วิธีการลบรอยสักนี้เหมาะสำหรับลบรอยหมึกสักที่อยู่ไม่ลึกจนเกินไป โดยนำยางของก้านมะละกอทาตามรอยสักที่ต้องการจะลบ ยางมะละกอจะทำให้ผิวหนังอ่อนตัว และภายในไม่กี่วันผิวหนังบริเวณรอยสักจะหลุดออกมาเป็นแผ่นๆ ค่ะ ระหว่างการลบรอยสักนี้ต้องดูแลเรื่องความสะอาดให้ดี และควรล้างรอยแผลอย่างสม่ำเสมอจนกว่าแผลจะแห้งสนิทค่ะ

4. ด่างทับทิมลบรอยสัก

โดยนำเข็มสะอาดไปทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อนด้วยแอลกอฮอล์ และหลังจากนั้นให้นำเข็มที่เราทำความสะอาดแล้วมาจิ้มตามรอยสักที่เราต้องการจะลบเพื่อเป็นการเปิดผิวหนังแล้วใช้ด่างทับทิมทาลงไปบนรอยสักโดยมันจะลอกออกและจางลงและหายไป แต่ต้องขอบอกเลยว่าวิธีลบรอยสักนี้จะแสบผิวมากๆ

5. ปูนแดงลบรอยสัก

วิธีลบรอยสักแบบนี้ คือนำเข็มสะอาดไปทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อนด้วยแอลกอฮอล์ และหลังจากนั้นให้นำเข็มที่เราทำความสะอาดแล้วมาจิ้มตามรอยสักที่เราต้องการจะลบเพื่อเป็นการเปิดผิวหนัง หลังจากนั้นให้นำปูนแดงมาผสมกับน้ำเปล่า และนำมาทารอยสักที่เราจิ้มด้วยเข็ม หลังจากนั้นใช้สำลีพันก้านถูบริเวณนั้นเรื่อยๆ รอยสักนั้นจะจางลงเรื่อยๆ หลังจากที่เราทำทุกวัน โดยธรรมชาติแล้วปูนแดงก็ไม่ปนเปื้อนอะไร (ทำมาจากปูนขาว+ขมิ้น) การจะติดเชื้อก็มีโอกาสจากความสะอาดของปูนขาว ความสะอาดของขมิ้น ปริมาณและชนิดของจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในขมิ้น และความสะอาดของการเตรียมปูนแดง (รวมถึงน้ำที่ใช้เตรียมด้วย) นอกจากนั้น โอกาสติดเชื้อก็เกิดได้จากขั้นตอนการลบรอยสัก ทั้งก่อนทำการลบ ระหว่าง และหลังทำการลบรอยสักด้วยค่ะ

6. ปูนแดงและสบู่ลายลบรอยสัก

โดยเริ่มจากการนำเข็มสะอาดไปทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อนด้วยแอลกอฮอล์ และหลังจากนั้นให้นำเข็มที่เราทำความสะอาดแล้วมาจิ้มตามรอยสักที่เราต้องการจะลบเพื่อเป็นการเปิดผิวหนัง หลังจากนั้น ให้นำปูนแดงและสบู่ลายมาผสมกันแล้วทาลงบนบริเวณทีต้องการ หลังจากนั้น ทิ้งเอาไว้ 10 นาที ทำการลบรอยสักทุกวัน ผิวหนังที่เราต้องการจะลอกออกและจางลงเรื่อยๆ ค่ะ

7. ใช้ครีมลบรอยสัก

เป็นวิธีหลีกเลี่ยงการเจ็บตัวจากการลบรอยสัก โดยคุณสมบัติของครีมลบรอยสักจะซึมซับเข้าไปทำให้รอยสักดูจางลง  ซึ่งคนที่ใช้วิธีนี้อาจจะต้องใช้เงินพอสมควรเพราะใช้ระยะเวลานาน และเห็นผลค่อนข้างช้า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วยค่ะ

shutterstock 655533988

8. เลเซอร์ลบรอยสัก

ถ้าคุณอยากลบรอยสักให้หายเกลี้ยง แบบปลอดภัยไร้กังวล การใช้เลเซอร์เพื่อลบรอยสักเป็นวิธีที่เวิร์กที่สุดค่ะ โดยในปัจจุบันมีนวัตกรรมเลเซอร์ NU-PICO un-tattoo ที่รมย์รวินท์คลินิก สามารถลบรอยสักทุกสีได้ในขั้นตอนเดียว โดยใช้พลังงานแสงความถี่สูงเข้าไปทำลายเม็ดสีได้ทุกเฉดสีในชั้นผิวหนังลึก แถมยังไม่ก่อให้เกิดความร้อนที่ทำให้ผิวไหม้ ไม่เกิดรอยแผลเป็นในบริเวณที่ลบรอยสักออกไป เห็นผลได้ตั้งแต่การรักษาในครั้งแรกโดยไม่มีผลข้างเคียงเหมือนการรักษาด้วยเลเซอร์แบบเดิมๆ ค่ะ

สิ่งที่ควรรู้ ควรทำ หากคิดจะลบรอยสัก

57

การลบรอยสักด้วยเลเซอร์เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากเพราะเพราะรอยสักนั้นสร้างความเสียหายให้ผิวหนังจะมากหรือน้อยขึ้นกับลักษณะ และขนาดของรอยสัก ผลจากการที่เรากำจัด ลบรอยสักนั้นอาจยังไม่สมบูรณ์นักถ้าผู้รับบริการไม่ดูแลผิวบริเวณที่กำจัดรอยสักตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด วันนี้เราจึงมีวิธีการดูแลผิวบริเวณที่ลบรอยสักที่ถูกวิธีมาบอกกันดังต่อไปนี้

  1. หลังทำการลบรอยสักด้วยเลเซอร์ครบ 24 ชั่วโมง ให้แกะพลาสเตอร์ปิดแผลออก นอกจากนี้ในช่วง 2-3 วันแรก อย่าให้บริเวณแผลถูกน้ำเด็ดขาด
  2. ให้ล้างแผลด้วยน้ำเกลือหรือน้ำสะอาด โดยใช้ไม้พันสำลีเช็ดแผลเบาๆ วันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น หลังจากนั้นรอให้แห้ง แล้วทายาที่แพทย์สั่ง
  3. หลังจากลบรอยสักด้วยเลเซอร์ผ่านไป 48 – 72 ชั่วโมง แผลสามารถโดนน้ำได้ตามปกติ ให้ทายาที่แพทย์สั่งอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งสะเก็ดหลุด
  4. หากมีอาการปวดแผล สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ ครั้งละ 1-2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง
  5. ถ้ามีอาการอักแสบ บวมแดง ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจดูอาการ และหาสาเหตุของการอักแสบ
  6. แผลจะแห้งตกสะเก็ด และหลุดออก ภายใน 1-2 สัปดาห์ ห้ามแกะสะเก็ดออกเองเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดแผลเป็นได้
  7. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางหรือครีมบำรุงทุกชนิด ทาลงบนแผลลบรอยสัก และหลังสะเก็ดหลุดออกมา จึงสามารถกลับมาทาครีมบำรุงได้ตามปกติ
  8. เมื่อแผลหายแล้ว แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงแสงแดด และควรใช้ครีมกันแดดอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อย 2-3 เดือน
  9. มารับการตรวจตามที่แพทย์ได้นัดหมายไว้

หลังจากลบรอยสักด้วยเลเซอร์แล้ว คุณควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ         

ถ้าเกิดแผลเป็นจากการลบรอยสักควรทำอย่างไร

ในกรณีไปลบรอยสักมาแล้วเกิดเป็นแผลเป็นนูน หรือ คีลอยด์ ให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งการรักษาสามารถทำได้หลายวิธี อาทิ การฉีดยาเพื่อให้ยุบ การใช้เลเซอร์รักษา เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การรักษาไม่สามารถทำให้ผิวหนังกลับมาเรียบหรือสีเหมือนปกติดังเดิมได้ 100% ดังนั้น ท่านที่คิดจะไปลบรอยสักด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง อย่างเช่น การใช้น้ำยาลอกลายที่เป็นกรด ควรจะต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนเพราะมีโอกาสเกิดผลแทรกซ้อนอย่างแผลเป็นนูน หรือ คีลอยด์ ตามมา

ใช้เวลาการลบนานแค่ไหน รอยสักถึงจะหายไป

การลบรอยสักจะใช้เวลานานเท่าใดขึ้นอยู่กับปริมาณสี ชนิดของสีที่สัก ความลึกของการสัก และปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายคุณเอง บางคนยิงเลเซอร์เพียงครั้งเดียวก็จางได้ เช่น คนที่สักด้วยสีดำสีเดียว จะลบได้ง่ายที่สุดเพราะสีดำจะดูดซึมแสงเลเซอร์ได้เกือบทุกชนิดและดูดได้มากที่สุด แต่สำหรับบางคนอาจต้องกลับมาทำซ้ำๆ หลายครั้งจึงจะเห็นผล เช่น รอยสักที่มีสีหลากหลายก็อาจต้องยิงเลเซอร์หลายครั้ง อาจต้องกลับมาทำซ้ำประมาณ 5 – 6 ครั้งกว่าจะจางหมด โดยทำห่างกันทุก 1-2 เดือน ซึ่งจำนวนครั้งในการทำเลเซอร์ลบรอยสัก ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ประเมินให้ทราบ ส่วนเลเซอร์จะสามารถลบรอยสักออกได้ 100% หรือไม่ ก็ขึ้นกับปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น แต่ถ้ารักษาให้ครบตามแผนการรักษาของแพทย์ รอยสักมักจะจางลงเรื่อยๆ ได้มากถึง 95%

เราสามารถใช้น้ำยาลบรอยสักที่มีขายในท้องตลาดลบได้หรือไม่

ไม่แนะนำเป็นอย่างยิ่ง โดยปกติน้ำยาลอกลายไม่อนุญาตให้มีการนำมาใช้ เนื่องจากทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้มาก ซึ่งส่วนใหญ่น้ำยาลอกลายจะเป็นกรดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนแรง กัดผิวจนถึงขั้นหนังแท้ลงไปค่อนข้างลึก ทำให้เกิดแผลเป็นถาวรได้ โดยเฉพาะการลบรอยสักในบางตำแหน่งมีโอกาสเป็นแผลเป็นได้ง่าย เช่น บริเวณหน้าอก หัวไหล่ และกลางหลัง ที่มีโอกาสเป็นแผลเป็นนูนได้ง่ายกว่าบริเวณอื่น ทางที่ดีที่สุดควรมาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อลบรอยสักด้วยวิธีมาตรฐานอย่างการลบรอยสักด้วยเลเซอร์ดีกว่าทั้งปลอดภัยและประหยัดเวลากว่าหลายเท่าตัว

สักผิดแล้วไง อย่าได้แคร์ กับการลบรอยสักด้วยเลเซอร์

56

ปัจจุบันนี้ ‘การสัก’ ถือเป็นเรื่องธรรมดาของหนุ่มสาว  เพื่อเพิ่มดีกรีให้ลุคคุณเท่ และเผ็ดเบอร์แรง โดยปัจจุบันมีรอยสักออกมาให้เลือกหลากหลาย ถ้ารอยสักที่คุณต้องการออกมาเพอร์เฟคก็ดีไป แต่ถ้าสักผิดก็แล้วไงคะ อย่าได้แคร์ ลบรอยสักด้วยเลเซอร์สิ เพราะทั้งปลอดภัยและให้ผลที่ดีเยี่ยมนั่นเอง

การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ต้องเข้ารับการปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ

ปัจจุบัน…การลบรอยสักไม่จำเป็นต้องใช้ปูนแดงให้ปวดแสบปวดร้อนอีกต่อไป เพราะแค่คุณเข้าไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่รมย์รวินท์คลินิก จะพบว่าเรื่องลบรอยสักเป็นเรื่องง่ายกว่าที่คุณคิด

โดยผู้เชี่ยวชาญตรวจดูว่ารอยสักของผู้ที่จะมาลบนั้นเป็นสีอะไร เพราะรอยสักแต่ละสีก็ต้องใช้เลเซอร์ต่างเครื่องกันในการลบรอยสัก นั่นคือเลเซอร์เครื่องหนึ่งจะไม่สามารถลบรอยสักได้ทุกสี ฉะนั้นคนไข้ที่สักหลายๆ สีจำเป็นต้องใช้หลายๆ เครื่องมาลบด้วยเช่นกัน การสักสีเดียวลบง่ายกว่าเพราะใช้เพียงเครื่องเดียวในการลบ สีที่ลบง่ายจะเป็นพวกสีดำ สีเขียว แต่ที่ลบยากจะเป็นพวกสีแดง สีเหลือง สีส้ม และหลังๆ เริ่มมีความนิยมในการสักเป็นสีเนื้อหรือสีออกขาวซึ่งจะลบรอยสักยากมากขึ้นไปอีก เนื่องจากเวลายิงเลเซอร์ไปนั้นมันจะเปลี่ยนเป็นสีดำ พอเปลี่ยนสีแล้วจะทำให้จำนวนในการลบรอยสักแต่ละครั้งเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง 

แต่ปัจจุบันนวัตกรรมการลบรอยสักมีการพัฒนามากขึ้นโดยมีการนำเข้าเครื่องที่ชื่อว่า Nu Pico Tattoo ซึ่งเป็นเลเซอร์ลบรอยสักคุณภาพดี โดยรมย์รวินท์คลินิก ความดีงามของเจ้าเครื่องนี้ก็คือสามารถลบรอยสักทุกสีได้ในขั้นตอนเดียว ไม่ต้องทนเจ็บจุกจิกหลายครั้ง

ความถี่ในการยิงเลเซอร์สำคัญไฉน

  • ในการลบรอยสักนั้นจะมีการพูดคุยทำความเข้าใจกับผู้รับบริการก่อนว่าลบครั้งเดียวไม่หายหมดส่วนใหญ่แล้วจะนัดมาทำทุก 1-2เดือน
  • บริเวณที่ทำก็ต้องหลบแดดเพราะว่าถ้าให้บริเวณที่ทำนั้นโดนแดดอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงในการทำเลเซอร์ได้ประสิทธิภาพในการลบอาจต่ำลง และเกิดผลข้างเคียงตามมา อย่างเช่นรอยดำจากการทำเลเซอร์
  • การลบรอยสักนั้นใช้เวลาเป็นปีโดยเฉลี่ยในการลบแค่สีเดียว 5-8ครั้งกว่าจะจาง โดยทำทุก 1-2 เดือนการทำเลเซอร์อาจมีผลทำให้เกิดแผลซึ่งการหายนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี
  • อาจจะมีความไม่สม่ำเสมอของสีผิวบริเวณที่เราลบเกิดขึ้นได้เพราะเลเซอร์จะไปโดนสีผิวจริงๆ ของเรานั่นเอง

ปัจจัยที่มีผลต่อการลบรอยสัก

  1. ขนาดของรอยสักจะเล็กหรือใหญ่อาจไม่ได้มีผลเท่ากับสี เพราะอย่างที่บอกไปว่าแต่ละสีจะมีความยากง่ายในการลบรอยสักต่างกัน
  2. ตำแหน่งของร่างกายที่สักจะมีผลในเรื่องการเกิดแผลเป็นหลังจากการลบรอยสัก อย่างเช่นบริเวณหลัง หน้าอก บริเวณนี้จะเป็นตำแหน่งที่ไม่ว่าจะทำอะไรเราก็เกิดแผลเป็นง่ายกว่าปกติอยู่แล้ว อาจจะต้องมีข้อควรระวังเพิ่มขึ้น แต่มีบางตำแหน่งอย่างที่ลบรอยสักยากจะเป็นพวกสักอายไลน์เนอร์เป็นตำแหน่งใกล้ตา ซึ่งเลเซอร์ที่ใช้ในการลบพวกนี้จะเป็นอันตรายกับจอประสาทตา ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่จะทำให้ตาสูญเสียการมองเห็นได้
  3. เรื่องของระดับความลึก ถ้าสักเป็นลักษณะ Professional Tattoo หรือใช้เครื่องสักจะลบไม่ยาก เพราะระดับของการสักนั้นอยู่ในระดับเดียวกัน แต่ในขณะเดียวกันถ้าสักแบบพวกมือสมัครเล่น การสักจะอยู่คนละระดับกัน ทำให้ยิ่งลบรอยสักยาก พวกนี้จะค่อนข้างซับซ้อน

อย่างไรก็ตามการลบรอยสัก ด้วยเลเซอร์มักมีหลายคนสงสัย ลบรอยสักแล้ว จะหายเกลี้ยงเลยหรือไม่ การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ ไม่ได้หมายความว่าเลเซอร์จะสามารถลบรอยสักออกได้ 100% ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สีที่ใช้ในการสัก ความลึกของการสัก เป็นต้น แต่รอยสักจะจางลงเรื่อยๆ ได้มากถึง 95% หลังเลเซอร์ประมาณ 5-6 ครั้ง ซึ่งควรพบแพทย์ตามนัด ติดตามและทำอย่างต่อเนื่อง ก็จะเห็นผลดี

ข้อดีของการ”ลบรอยสัก”ที่คนชอบสักต้องรู้

55

รอยสักเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง ที่ทำโดยให้ช่างลงน้ำหมึกบนผิวหนังของมนุษย์เพื่อสร้างรูปร่าง สีสัน ภาพต่างๆที่ปรากฏขึ้นล้วนงดงาม ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นรสนิยมส่วนบุคคล  แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าภายนอกมักจะมองคนที่มีรอยสักต่างๆนานา รอยสักมีทั้งผลกระทบและข้อดีตามมาเมื่อคุณเลือกจะสัก หลายคนจึงมีเหตุผลที่อยากกำจัด ลบรอยสักให้หมดไป แต่รอยสักนั้นเป็นสิ่งที่คุณรักมันมากและชั่งใจอยู่ว่าจะลบดีหรือไม่ วันนี้เราจะชวนทุกคนมาดูกันค่ะว่าข้อดีของการลบรอยสักมีอะไรบ้าง

  1. คุณจะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
    เจ้านายจะคิดอย่างไรเมื่อพบว่าพนักงานที่ตนจ้างมีรอยสักเต็มตัว และเมื่อต้องคัดเลือกให้ประสานงานคุณอาจจะชวดการสร้างผลงานก็เป็นไปได้เพราะเจ้ารอยสักสุดรักสุดหวง แต่พอตัดสินใจลบรอยสักออกไปแล้วคุณจะกลายเป็นบุคลากรที่เหมาะสมแก่การทำงานและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้องค์กรทันที ถึงจะดูไม่แฟร์หน่อย เมื่อเราต้องการจะโฟกัสที่การทำงานเป็นหลัก แต่ก็ต้องยอมรับกันจริง ๆ ว่าทัศนคติของคนทั่วไปในบ้านเราไม่ว่าจะเป็นคนมีสังกัดหรือคนทั่วไป ส่วนใหญ่ก็ชอบคนแต่งตัวดีมีความสุภาพเรียบร้อยทั้งนั้น
  2. คุณจะดูสะอาดน่าคบหา
    เมื่อปราศจากลวดลายบนผิวหนังแล้ว คุณจะดูสะอาดสะอ้าน ไร้มลทิน บดบังผิวจริง ทำให้มองแล้วสบายตา น่าพบปะพูดคุย ไม่น่ากลัวอีกต่อไป
  3. สมัครงานง่ายขึ้น
    หลายอาชีพยังต้องการภาพลักษณ์ที่ดูดีที่สุด น่าร่วมงานด้วยเป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่เฉพาะหน่วยงานราชการเท่านั้นที่ไม่ต้องการให้คนที่มีรอยสักอย่างเปิดเผยชัดเจนเข้าทำงาน แม้แต่องค์กรเอกชน รัฐวิสาหกิจก็ยังติดค่านิยมว่าคนที่ภายนอกแต่งตัวสุภาพ และยิ่งเป็นการเข้าไปสมัครงานภาพลักษณ์คุณจะดีขึ้นเมื่อไม่มีรอยสักแล้ว เพราะความนิยมของสังคมนั่นเอง ลองนึกภาพเวลาคนมาสมัครงานกับคุณแล้วรอยเต็มตัวคุณกล้ารับไหม แม้เขาคนนั้นจะทำงานดีมากก็เถอะ กลัวแต่ว่าอาจตกสัมภาษณ์ตั้งแต่ยังไม่เริ่มงานเลยด้วยซ้ำ ดังนั้น ลบรอยสักเป็นสิ่งที่คุณควรทำถ้าอยากทำงาน
  4. เพื่อนร่วมโลกมองมาอย่างไม่ตัดสิน
    เมื่อคุณลบรอยสัก ไม่มีรอยสัก ทุกคนจะมองว่าคุณคือมนุษย์เดินดินธรรมดา ต่างจากตอนที่คุณมีรอยสักแน่นอน เพราะถ้าใครที่มีรอยสัก ผู้คนมักตัดสินจากการมองแล้วว่ามักให้ความรู้สึกน่ากลัว นิสัยเสีย เสเพล มีเวทมนต์ของขลังอะไรสักอย่าง ที่ไม่น่าเข้าใกล้เป็นอย่างยิ่ง เพราะสังคมมักตัดสินจากภายนอกเป็นส่วนใหญ่ น้อยคนนักจะเข้าใจว่ารอยสักเป็นเพียงศิลปะธรรมดา
  5. ผู้คนเป็นมิตรกับคุณมากขึ้น
    ไม่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้นจะออกแนวเกรงกลัวคนที่มีรอยสัก ถ้าคุณมีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศอย่างเช่น ญี่ปุ่น คุณจะพบว่าคนญี่ปุ่นแทบจะเบือนหน้าหนีให้ไกลคุณเลยก็ว่าได้ เพราะเขากลัวรอยสัก เนื่องจากในประเทศญี่ปุ่นนั้นจะเป็นพวกยากุซ่าหรือมาเฟียร์นั่นเอง แต่ถ้าคุณลบรอยสักจะไปประเทศไหนก็ไม่มีปัญหานั่นเอง ผู้คนจะยิ้มให้คุณอย่างเป็นมิตร เด็กๆกล้าเข้าใกล้คุณมากขึ้น ไม่กลัวเหมือนตอนที่คุณมีรอยสักไม่เชื่อลองลบรอยสักดูสิ
  6. คุณสบายใจ สบายกาย..กับการดำเนินชีวิตมากขึ้น
    สมมุติว่าคุณสักชื่อแฟน หรืออาจจะเป็นรูปคู่แทนใจ พอวันหนึ่งเกิดเลิกรากันไป รอยสักที่เคยเป็นพยานรักกลับกลายเป็นพยานร้าง คุณจะรู้สึกจี๊ดใจอย่างยิ่งเมื่อตื่นขึ้นมาส่องกระจกทุกครั้ง พบว่ารอยสักของอดีตคนรักยังคงหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา ต่อเมื่อคุณตัดสินใจลบรอยสักแล้ว คุณก็จะเหมือนลบเธอและเขาเหล่านั้นออกจากชีวิตไปด้วยนั่นเอง

วิธีการเตรียมตัวก่อนตัดสินใจ”ลบรอยสัก”

54

รอยสักเป็นอีกหนึ่งเทรนด์แฟชั่นยอดฮิตของวัยรุ่นขาโจ๋ทั้งหลาย ศิลปินนักร้อง เป็นรสนิยมความชอบ โดยการสักของแต่ละบุคคลย่อมมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน เมื่อวันหนึ่งความนิยมชมชอบนั้นเปลี่ยนแปลง คุณไม่ต้องการที่จะมีรอยสักนั้นอีกต่อไป  จึงอยากลบรอยสักขึ้นมา บางคนอาจจะยังไม่ทราบว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร หาหมอไหนดี คลินิกไหนเอ่ย แต่ก่อนอื่นเรามาดูกันดีกว่าว่า การเตรียมตัวก่อนลบรอยสักนั้นต้องทำอย่างไรบ้าง

  1. เตรียมพร้อมด้านทัศนคติ
    ก่อนอื่นคุณต้องถามตัวเองให้ได้ว่าตัดสินใจจะลบรอยสักเพื่ออะไร คุณต้องการทำแบบนั้นจริงๆหรือไม่ ชั่งน้ำหนักระหว่างข้อดีกับข้อเสียเมื่อลบรอยสักไปแล้ว สอบถามคนรอบข้างว่าชอบหรือไม่ที่คุณจะไปลบรอยสัก
  2. เช็คเงินในกระเป๋า
    การลบเลือนรอยสักไม่ว่าจะวิธีใดก็ตามจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยกันทั้งสิ้น คุณควรสำรวจเงินในกระเป๋าว่ามีเพียงพอต่อการเข้ารับบริการลบรอยสักหรือไม่ อีกทั้งขนาดของรอยสักย่อมมีผลต่อราคาที่ต้องจ่ายเช่นกัน และถ้าทุกองค์ประกอบลงตัวมีไฟเขียวกะพริบปริบๆก็เชิญคุณไปขั้นตอนต่อไปทันที
  3. ศึกษาวิธีการลบรอยสัก
    การลบรอยสักนั้นมีหลากหลายวิธี เช่น ลบรอยสักด้วยปูนแดง สักทับรอยเก่า ลบรอยสักด้วยครีมลบรอยสัก ลบรอยสักด้วยเลเซอร์ เป็นต้น บางวิธีที่ใช้ลบรอยสักนั้นทำให้คุณเจ็บชนิดที่ต้องกัดฟันทน แต่ปัจจุบันวิธีที่นิยมได้รับการยอมรับและได้ผลดีมากสุดคือ การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่มาช่วยแก้ปัญหารอยสักได้อย่างดี เห็นผลรวดเร็ว ผิวของผู้รับบริการจะเกลี้ยงเกลา สวยงาม กลับมามั่นใจได้อีกครั้ง เนื่องจากการลบรอยสักแบบใช้เลเซอร์ สร้างความเสียหายให้ผิวหนังน้อยที่สุดก็ว่าได้
  4. สถานที่ให้บริการลบรอยสัก
    สถานที่ให้บริการลบเลือนรอยสัก ต้องน่าเชื่อถือ สะอาดตาน่าเข้ารับบริการ รีวิวจากผู้รับบริการเป็นอย่างไรบ้าง เครื่องมือที่ใช้จะต้องมีความทันสมัย ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก กระทำการลบรอยสักโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการลบรอยสักจนทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้
  5. เข้ารับการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
    การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนการลบรอยสักนั้นสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้คุณรู้ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไร ทั้งก่อนและหลังการลบเลือนรอยสักอย่างมืออาชีพ เพื่อไม่ให้เกิดรอยแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ ตามมาทีหลัง อีกทั้งรอยสักของคุณใช้สีอะไรบ้างในการสัก ผู้เชี่ยวชาญสามารถวิเคราะห์ว่าควรเลือกใช้คลื่นความถี่ของเลเซอร์แบบใดถึงเหมาะสมต่อการลบรอยสักนั้น เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพอใจของผู้รับบริการ

5 เหตุผลหลักที่คนชอบสักควร “ลบรอยสัก”

53

รอยสัก หลายคนคงเข้าใจว่าคือ ศิลปะบนเรือนร่างอันงดงามของมนุษย์ แฝงทั้งความน่าเกรงขาม หลากสีสัน หลายรูปแบบ แต่เมื่อเวลาผ่านไปคุณๆทั้งหลายที่นิยมชมชอบในการบันจงลงเข็มเหล่านั้น เบื่อหรืออาจจะด้วยเหตุผลบางประการที่ทำให้คุณอยู่ในภาวะจำยอม เพราะสภาวะแวดล้อมต่างๆกำหนด วันนี้เราจึงรวบรวมเหตุผลหลัก ที่ทำให้เขาเหล่านั้นยอมสละความชอบส่วนบุคคลเพื่อลบรอยสักอันหวงแหนมานาน ดังนี้

  1. เมื่อสักไปแล้วไม่ถูกใจ
    ขึ้นชื่อว่างานศิลปะและยิ่งเป็นศิลปะบนเรือนร่างของเราเสียด้วย ความผิดพลาดนั้นก็ถือว่า 50/50 เลยทีเดียว ลุ้นสุดใจขาดดิ้น ถ้าพบเจอช่างสักฝีมือเยี่ยมงานสวยก็ดีไป แต่ถ้ารอยสักที่ได้ออกมาผิดพลาด เช่น สีของลวดลายผิดเพี้ยน รูปบิดเบี้ยวไม่สวยเหมือนตัวอย่าง ขนาดของรอยสักใหญ่เกินความต้องการ นอกจากนี้ระหว่างการสักคุณอาจจะเจ็บจนทนให้เข็มจิ้มจึกๆไม่ไหว และเกิดอยากหยุดกลางคันอีก ทำให้รอยสักที่ได้ไม่สมบูรณ์ ใดๆต่างๆเหล่านี้จึงเป็นที่มาของความต้องการลบรอยสักที่ไม่พึงประสงค์นั่นเอง
  2. อยากเข้ารับราชการ
    เราทุกคนล้วนผ่านช่วงคึก คะนองตอนวัยรุ่น ในช่วงที่ย่างเข้าวัยผู้ใหญ่ คุณๆที่ชื่นชอบความเฮฟวี่เมทัล ไม่ว่าจะสักตามรสนิยมความชอบส่วนตัว สักตามเพื่อน ศิลปิน สักเพื่ออวดความแข็งแกร่งทนเข็ม ทนเจ็บ แต่เมื่อคุณเข้าสู่วัยทำงาน จำต้องมีอาชีพเพื่อเลี้ยงตัวเองและครอบครัว การรับข้าราชการคือทางเลือกที่คุณจะก้าวเดินต่อไป รอยสักที่คุณรักนักรักหนาดันเป็นปัญหาซะงั้น เพราะการเข้ารับราชการในหลายๆกระทรวง มีข้อบังคับเรื่องรอยสักเอาไว้ชัดเจน แม้จะแสนเสียดายแต่นี่ก็เป็นเหตุผลที่ต้องทนลบรอยสักทิ้ง
  3. ลบรอยรัก สักเป็นคู่
    มาถึงเรื่องรอยสักที่คู่รักนิยมไปสักกันยามหวานชื่น ส่วนใหญ่อาจจะสักชื่อกันและกัน หรือไม่ก็สักเป็นรูปคู่ บังเอิญอย่างแรงเมื่อเวลาเปลี่ยนไปใจคนก็เปลี่ยนตาม เรื่องราวความรักกลับขมซะอย่างนั้นบางคู่จบสวย แต่บางคู่จบไม่สวยเมื่อตัดสินใจเลิกกัน แล้วรอยสักที่ไปสักมาด้วยกันจะทำยังไงล่ะ บางคนอาจจะเก็บมันไว้เตือนใจ แต่หลายคนทำใจไม่ได้ที่จะเห็นรอยสักนั้น ออกแนวยิ่งเห็นยิ่งช้ำ ทรมานใจเหลือเกินเวลาเห็น เธอทำกับเราได้ลงคอ! จึงจบปัญหาด้วยการลบรอยสักในที่สุด
  4. คู่สมรสของคุณไม่ปลื้มกับลวดลายเหล่านั้น
    เมื่อรอยสักเริ่มเป็นประเด็นเขย่าความสัมพันธ์ให้สั่นคลอน เนื่องมาจากสามีหรือภรรยาของคุณไม่ชื่นชมในลวดลายเต็มตัวที่คุณเพียรสักมาตั้งแต่สมัยยังเอ๊าะๆก่อนจะพบกับเธอและเขา ที่มีรสนิยมแตกต่างจากคุณชัดเจน แฟนของคุณอาจยื่นคำขาดให้ไปลบรอยสักออกเพราะไม่โอเคกับการที่คุณมีรอยสักที่บังเบียดผิวจริงจนไม่รู้ว่า สีผิวคุณสีอะไรกันแน่ คนรักจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีโอกาสลบรอยสักเช่นกัน ประมาณว่า ขาดเธอเหมือนขาดใจ ขาดรอยสักไปคงไม่เป็นไรหรอกมั๊ง
  5. เมื่อรสนิยมเปลี่ยน
    รอยสักในวัยเยาว์ช่วงที่คุณยังค้นหาตัวตน อาจจะเผลอไปสักมาเพื่อความสะใจหรือเพื่อความสวยงามก็ตาม หรือเพราะความชื่นชอบศิลปิน อยากเลียนแบบ ต่อเมื่อคุณโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีความคิดความอ่าน มีวุฒิภาวะมากกว่าเดิม คิดอะไรรอบคอบขึ้น ไลฟ์สไตล์เปลี่ยนไป จึงรู้สึกว่ารอยสักที่ตัวเองแอบแม่ไปสักมานั้น ช่างไม่เข้ากับตัวเองในตอนนี้เอาเสียเลย จึงเป็นเหตุให้ตัดสินใจลบรอยสักซะ เพื่อความสบายใจของตัวเอง