Thermage FLX และ CPT เลือกรุ่นไหนดี? ตัวช่วยสำหรับมือใหม่
การยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมของผู้ที่ต้องการดูแลผิวหน้าให้เรียบเนียนและกระชับขึ้น โดยไม่ต้องพักฟื้นหรือเจ็บตัว Thermage FLX คือเทคโนโลยียกกระชับที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานยุคใหม่ และได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในวงการความงาม ด้วยการพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Thermage CPT โดยมีการปรับปรุงทั้งด้านความแม่นยำ ประสิทธิภาพ และความสบายขณะทำ
ปัจจุบัน Thermage มีให้เลือกใช้งานอยู่ 2 รุ่นหลักที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ได้แก่ Thermage CPT และ Thermage FLX โดย FLX เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการพัฒนาให้มีความแม่นยำ และให้ความรู้สึกขณะทำที่สบายขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม หลายคนที่เริ่มสนใจ Thermage อาจยังลังเลว่าจะเลือกรุ่นไหนดี? รุ่นเดิมอย่าง CPT ยังเหมาะสมอยู่หรือไม่? และรุ่น FLX มีข้อได้เปรียบอย่างไร?
บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจความแตกต่างของ Thermage ทั้งสองรุ่นอย่างละเอียด ทั้งในแง่ของเทคโนโลยี การทำงาน ผลลัพธ์ ความเหมาะสมกับสภาพผิว และความคุ้มค่า เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ ก่อนเริ่มต้นดูแลผิวด้วยวิธีที่ตอบโจทย์สำหรับตัวเอง
Thermage FLX และ CPT เลือกรุ่นไหนดี?
หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น เห็นผลไวขึ้น และรู้สึกสบายขณะทำมากกว่า Thermage FLX เป็นตัวเลือกที่เหมาะกว่า CPT อย่างชัดเจน ด้วยเทคโนโลยี AccuREP™ ที่ช่วยปรับพลังงานให้แม่นยำในทุกจุด หัวทิปรุ่นใหม่ที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้น ส่วนระบบสั่นและระบบความเย็นที่พัฒนาให้รู้สึกผ่อนคลายยิ่งขึ้นขณะทำ
แม้ Thermage CPT จะยังให้ผลลัพธ์ที่ดีในระดับพื้นฐาน แต่หากมองหาความคุ้มค่าระยะยาว และเทคโนโลยีที่ครบกว่าในทุกด้าน Thermage FLX คือคำตอบที่น่าสนใจกว่า
Thermage FLX คืออะไร?
Thermage FLX เป็นรุ่นล่าสุดของเครื่องมือยกกระชับผิวด้วยพลังงานคลื่นวิทยุ Monopolar RF ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Thermage CPT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกระตุ้นคอลลาเจน ให้สามารถยกกระชับได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยใช้เวลาน้อยลง และรู้สึกสบายผิวมากขึ้นขณะทำหัตถการ
จุดเด่นของ Thermage FLX คือการเพิ่มระบบอัจฉริยะ AccuREP™ ที่สามารถปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพผิวแต่ละตำแหน่งแบบอัตโนมัติในทุกช็อต รวมถึงการออกแบบหัวทิปใหม่ Total Tip 4.0 ที่ช่วยให้พลังงานกระจายได้ทั่วถึงและครอบคลุมผิวบริเวณกว้าง ช่วยลดระยะเวลาในการทำและเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา
จุดเด่นของ Thermage FLX
- ระบบ AccuREP™ ปรับพลังงานแบบเรียลไทม์
Thermage FLX มาพร้อมกับเทคโนโลยี AccuREP™ ที่สามารถวิเคราะห์และปรับระดับพลังงานให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละบุคคลแบบอัตโนมัติในทุกช็อตที่ยิง ช่วยให้การส่งพลังงานมีความแม่นยำ สม่ำเสมอ และลดความเสี่ยงจากการใช้พลังงานไม่เหมาะสมในบางจุด
- หัวทิปรุ่นใหม่ Total Tip 4.0 ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น
หัวทิปรุ่น Total Tip 4.0 มีขนาดใหญ่ขึ้น ช่วยให้พลังงานครอบคลุมพื้นที่ผิวกว้างขึ้นในแต่ละช็อต ลดระยะเวลาที่ใช้ในการทำหัตถการได้เฉลี่ย 25% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ช่วยให้การรักษาเสร็จเร็วขึ้น และมีความแม่นยำยิ่งขึ้น
- รู้สึกสบายมากขึ้นขณะทำ
ระบบสั่น (Vibration) และระบบความเย็น (Cooling Effect) ที่ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความรู้สึกไม่สบายผิวขณะทำให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยให้ความรู้สึกเย็นสลับอุ่น ทำให้ผู้เข้ารับบริการสามารถรู้สึกผ่อนคลายตลอดกระบวนการรักษา
- ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและคงอยู่ยาวนาน
Thermage FLX ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่องภายในผิว ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นได้ตั้งแต่หลังทำ และจะชัดเจนขึ้นภายใน 1–2 เดือน โดยสามารถคงผลลัพธ์ไว้ได้นานถึง 12–24 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังทำ
- ใช้ได้หลากหลายบริเวณทั้งใบหน้าและร่างกาย
นอกจากการยกกระชับผิวหน้าแล้ว Thermage FLX ยังสามารถใช้ยกกระชับผิวในบริเวณอื่นได้อย่างหลากหลาย เช่น ลำคอ ใต้คาง รอบดวงตา หน้าท้อง ต้นแขน และต้นขา โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น
Thermage CPT คืออะไร?
Thermage CPT หรือชื่อเต็มว่า “Comfort Pulse Technology” เป็นรุ่นที่สามของเครื่อง Thermage ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นจากเวอร์ชันก่อนหน้า โดยมุ่งเน้นให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายผิวมากขึ้นระหว่างการรักษา
จุดเด่นของ Thermage CPT คือการเพิ่มระบบสั่นขณะทำหัตถการ ซึ่งช่วยลดความรู้สึกเจ็บหรือแสบที่อาจเกิดจากพลังงานความร้อน นอกจากนี้ยังคงใช้หลักการทำงานเดียวกันกับรุ่น Thermage FLX คือการส่งพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar RF) ลงสู่ชั้นผิวหนังแท้เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
เจาะลึกความแตกต่าง Thermage FLX และ CPT
ด้านเทคโนโลยี
- Thermage FLX มีเทคโนโลยี AccuREP™ เข้ามา ซึ่งเป็นระบบประมวลผลอัจฉริยะที่สามารถวัดสภาพผิวและปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละจุดแบบเรียลไทม์ ทำให้พลังงานถูกส่งลงสู่ผิวอย่างสม่ำเสมอ ลดความเสี่ยงจากการเผาไหม้ และช่วยให้ผลการยกกระชับมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- Thermage CPT ใช้เทคโนโลยี Monopolar RF โดยมีการตั้งค่าพลังงานแบบคงที่ ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีในระดับมาตรฐาน แต่การกระจายพลังงานอาจไม่สม่ำเสมอเท่ากับระบบที่ปรับอัตโนมัติ ทำให้บางบริเวณได้รับพลังงานไม่เท่ากัน
ด้านความรู้สึกขณะทำ
- Thermage FLX ระบบสั่น (Vibration) ถูกพัฒนาให้ทำงานอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งระบบความเย็น (Cooling Effect) ได้รับการปรับให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม จึงช่วยลดความรู้สึกไม่สบายผิวระหว่างทำได้ดียิ่งขึ้น ผู้รับบริการส่วนใหญ่มักรู้สึกผ่อนคลายมากกว่าเดิม
- Thermage CPT เป็นรุ่นแรกที่มีการเพิ่มระบบสั่น (Vibration) เพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บจากพลังงานความร้อน และมีระบบปล่อยความเย็นเพื่อปกป้องผิวชั้นบน แต่ยังคงมีบางจุดที่อาจรู้สึกร้อนใต้ผิว โดยเฉพาะบริเวณที่ผิวบาง
ด้านประสิทธิภาพและระยะเวลาในการรักษา
- Thermage FLX หัวทิปรุ่นใหม่ Total Tip 4.0 มีขนาดใหญ่ขึ้น สามารถครอบคลุมพื้นที่ผิวได้มากขึ้นในแต่ละช็อต ส่งผลให้ใช้เวลาน้อยลงประมาณ 25% โดยทั่วไปการทำทั่วหน้าใช้เวลาเพียง 60-90 นาที ทั้งยังเพิ่มความแม่นยำและลดความเมื่อยล้าในการรักษา
- Thermage CPT ให้ผลลัพธ์ที่ดีในการกระชับผิว แต่การรักษาใช้เวลานานกว่า โดยเฉลี่ยประมาณ 90–120 นาที สำหรับการทำทั่วหน้า ขึ้นอยู่กับพื้นที่และความชำนาญของแพทย์
ด้านผลลัพธ์หลังทำ
- Thermage FLX เริ่มเห็นผลเบื้องต้นได้เร็วขึ้น และมีแนวโน้มให้ผลลัพธ์ชัดเจนมากขึ้นภายใน 1–2 เดือน โดยสามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 12–24 เดือน ซึ่งถือว่าเป็นการยืดอายุของผลลัพธ์ให้ยาวนานกว่ารุ่นก่อน
- Thermage CPT หลังทำอาจเริ่มเห็นผลในระดับหนึ่งภายในไม่กี่สัปดาห์ และผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดขึ้นในช่วง 2–3 เดือน โดยทั่วไปสามารถคงผลได้นานประมาณ 12–18 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวและสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Thermage FLX
- ยกกระชับผิวบริเวณใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิวลึก
- ฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิวให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ผิวแน่น เรียบเนียนขึ้น แลดูสดใสขึ้น
- ยกหางตา ลดปัญหาหนังตาตก
- ผิวดูอ่อนวัยขึ้น ไม่ดูแข็งตึงจนเกินไป
- ช่วยให้เปลือกตาดูยกขึ้น ดวงตาดูกลมโตมากขึ้น
- รูขุมขนกระชับขึ้น ผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ
- ลดไขมันบางส่วนบริเวณใต้คาง หรือแนวกรอบหน้า
- ฟื้นฟูผิวที่เริ่มขาดความชุ่มชื้นและตึงตัว
- ช่วยให้กรอบหน้าชัดขึ้น ลดไขมันใต้คางสองชั้นหรือเหนียง
- ลดความหย่อนคล้อยบริเวณแก้ม มุมปาก คาง และแนวกรอบหน้า
- ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณหน้าผาก หางตา และร่องแก้ม
- ยกกระชับผิวรอบดวงตา ลดถุงใต้ตา และร่องใต้ตาหย่อนคล้อย
- ปรับผิวให้ดูเรียบเนียนแม้ในจุดที่บอบบาง เช่น รอบตา
Thermage FLX เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ผู้ที่เริ่มมีริ้วรอยเล็ก ๆ และผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย
- ผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยระดับปานกลาง เช่น แก้มตก มุมปากตก
- ผู้ที่มีกรอบหน้าไม่ชัด คางสองชั้น หรือเหนียงเริ่มเห็นชัด
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้แน่น เรียบเนียน และแลดูอ่อนวัย
- ผู้ที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวโดยไม่ใช้เข็ม
- ผู้ที่ไม่สะดวกพักฟื้น หรือไม่ต้องการแผลหลังทำหัตถการ
- ผู้ที่เคยทำหัตถการอื่นมาแล้ว เช่น ร้อยไหม ฟิลเลอร์ และต้องการผลยกกระชับเพิ่มเติม
- ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น
- ผู้ที่มีหนังตาตกหรือหางตาตกเล็กน้อย ต้องการให้ตาดูยกขึ้น
- ผู้ที่มีผิวใต้ตาหย่อนคล้อย ดูอ่อนล้า
- ผู้ที่เริ่มสูญเสียความยืดหยุ่นของผิวจากอายุที่เพิ่มขึ้น
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวในบริเวณอื่น ๆ เช่น ลำคอ ต้นแขน หน้าท้อง หรือต้นขา
- ผู้ที่ต้องการเทคโนโลยียกกระชับที่ทันสมัย แม่นยำ และใช้เวลาน้อย
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนและอยู่ได้นาน 1–2 ปี
- ผู้ที่ต้องการดูแลผิวเพื่อชะลอสัญญาณแห่งวัยแบบต่อเนื่อง
หมายเหตุ
แม้ Thermage FLX จะเหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ระดับความหย่อนคล้อย สภาพผิว และเป้าหมายของแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกัน การเข้ารับการประเมินจากแพทย์ก่อนทำ จึงเป็นขั้นตอนสำคัญ เพื่อให้สามารถเลือกบริเวณที่เหมาะสม ปรับจำนวนช็อต และวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
ใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงการทำ Thermage FLX
- ผู้ที่มีเครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฝังในร่างกาย
- ผู้ที่มีความผิดปกติของระบบไฟฟ้าหัวใจหรือระบบประสาท
- ผู้ที่มีแผลเปิด แผลติดเชื้อ หรือผิวหนังอักเสบเฉพาะจุดในบริเวณที่จะทำ
- ผู้ที่มีโรคทางผิวหนังในบริเวณที่ต้องการทำ เช่น สะเก็ดเงิน ลมพิษเรื้อรัง หรือมะเร็งผิวหนัง
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบแข็งตัวของเลือด หรือใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ผู้ที่เพิ่งทำเลเซอร์ ทรีตเมนต์ หรือหัตถการที่ทำให้ผิวบอบบางมาก่อนหน้านี้ไม่นาน
- ผู้ที่มีประวัติแพ้หรือระคายเคืองจากคลื่นความร้อน
- ผู้ที่มีผิวไวต่อการอักเสบ แพ้ง่าย หรือผิวเบิร์นจากความร้อนได้ง่าย
- ผู้ที่มีแนวโน้มเกิดแผลเป็นนูน (คีลอยด์) หรือแผลหายยาก
- ผู้ที่มีความหย่อนคล้อยของผิวในระดับรุนแรงมาก ซึ่งอาจเหมาะกับการศัลยกรรมมากกว่า
- ผู้ที่มีไขมันสะสมในชั้นผิวปริมาณมาก ซึ่งอาจต้องใช้วิธีอื่นร่วม
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังที่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ เช่น โรคแพ้ภูมิตนเอง โรคผิวหนังเรื้อรัง
- ผู้ที่ใช้ยาบางชนิดที่ส่งผลต่อการฟื้นตัวของผิว เช่น สเตียรอยด์ หรือยากดภูมิคุ้มกัน
- ผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์แบบถาวร หรือผลลัพธ์เทียบเท่าการผ่าตัดดึงหน้า
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนภายในวันเดียว
- ผู้ที่มีความกังวลหรือภาวะทางจิตใจเกี่ยวกับรูปลักษณ์ ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อน
หมายเหตุ
แม้ Thermage FLX จะเป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาให้ใช้ได้กับผิวหลากหลายประเภท แต่ก็ไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะสุขภาพบางอย่าง หรือมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจกระทบต่อกระบวนการรักษา เพื่อความมั่นใจก่อนเข้ารับบริการ แนะนำให้แจ้งประวัติสุขภาพ ยาที่ใช้อยู่ ให้แพทย์ทราบโดยละเอียดทุกครั้ง เพื่อประเมินความเหมาะสมและวางแผนการดูแลอย่างรอบคอบในทุกขั้นตอน
Thermage FLX สามารถทำบริเวณใดของร่างกายได้บ้าง?
ใบหน้า
- กรอบหน้า – ยกกระชับแนวกรามและขอบใบหน้าให้ชัดขึ้น
- แก้ม – ลดความหย่อนคล้อยบริเวณแก้มช่วงล่าง
- มุมปาก – ยกมุมปากที่ตก ให้รูปหน้าดูสดใส
- ร่องแก้ม – ลดความลึกของร่องแก้ม
- หน้าผาก – ลดริ้วรอยหน้าผาก และปรับผิวให้เรียบตึง
- ใต้คาง – กระชับผิวใต้คาง ลดคางสองชั้นหรือเหนียง
- หางตา – ยกหางตาให้ดูเปิดและลดปัญหาตาตก
- เปลือกตา – ช่วยให้เปลือกตายกขึ้น ดวงตาดูสดใสกว่าเดิม
- ถุงใต้ตา – กระชับผิวใต้ตา ลดความบวมและหย่อนคล้อย
- รอบดวงตา – ปรับผิวรอบตาให้เรียบเนียน กระชับ และลดริ้วรอย
- โหนกแก้ม – ยกผิวช่วงกลางใบหน้าให้ผิวแน่นกระชับขึ้น
ร่างกาย
- ลำคอ – ลดริ้วรอย และยกกระชับผิวบริเวณลำคอที่หย่อน
- เนินอกส่วนบน – ช่วยให้ผิวเนียนและดูแน่นขึ้น
- ต้นแขน – ยกกระชับผิวบริเวณต้นแขนที่หย่อนคล้อย
- หน้าท้อง – เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยหลังคลอดหรือลดน้ำหนัก
- ต้นขา – ปรับผิวให้แน่นขึ้น ลดความหย่อนของผิว
- เหนือเข่า – กระชับผิวบริเวณเข่าที่เริ่มหย่อน
- สะโพก – กระชับและปรับผิวให้เรียบเนียน
Thermage FLX ควรใช้กี่ Shot ในแต่ละบริเวณ?
- ทั่วใบหน้า ประมาณ 600-900 shots
- หน้าผาก ประมาณ 100-200 shots
- เปลือกตาบน + หางตา ประมาณ 200-300 shots
- ถุงใต้ตา + ใต้ตาหย่อนคล้อย ประมาณ 100-200 shots
- รอบดวงตา ประมาณ 300-450 shots
- ใบหน้าส่วนล่าง + กรอบหน้า ประมาณ 400-600 shots
- แก้ม + เหนียง ประมาณ 400-600 shots
- กรอบหน้า + คาง ประมาณ 200-400 shots
- ลำคอ ประมาณ 200-400 shots
- ต้นแขน ประมาณ 600-900 shots
- หน้าท้อง ประมาณ 900-1200 shots
- ต้นขา ประมาณ 800-1000 shots
- เหนือเข่า 400-600 shots
- สะโพก ประมาณ 800-1200 shots
การเตรียมตัวก่อนทำ Thermage FLX
- เข้ารับการประเมินสภาพผิวและปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- แจ้งประวัติโรคประจำตัวหรือการใช้ยาอย่างละเอียด รวมถึงยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- ดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อย 1–2 ลิตร/วัน ล่วงหน้า 2–3 วัน เพื่อเตรียมความชุ่มชื้นให้ผิว
- พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6–8 ชั่วโมง/คืน ก่อนวันทำ
- งดการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA, Retinol อย่างน้อย 3–5 วัน ก่อนทำ
- หลีกเลี่ยงเลเซอร์ ทรีตเมนต์ หรือหัตถการที่ทำให้ผิวไวต่อแสงและความร้อน อย่างน้อย 7–14 วัน
- งดกิจกรรมกลางแจ้งหรือตากแดดจัดก่อนทำ อย่างน้อย 2–3 วัน
- งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนทำ
- งดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1–2 วัน เพื่อไม่รบกวนกระบวนการฟื้นฟูของผิว
- งดแว็กซ์ โกนขน หรือทำความสะอาดผิวด้วยวิธีรุนแรงบริเวณที่ต้องการทำ อย่างน้อย 2 วัน
- งดการนวดหน้า กดหน้าแรง ๆ หรือใช้ลูกกลิ้งนวดผิว อย่างน้อย 2–3 วัน ก่อนทำ
- งดอบไอน้ำ ซาวน่า หรือทรีตเมนต์ร้อนทุกชนิดก่อนทำ
- งดรับประทานวิตามิน E, น้ำมันปลา และแปะก๊วย อย่างน้อย 3–5 วัน
การดูแลตัวเองหลังทำ Thermage FLX
- ควรดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อย 1.5–2 ลิตร/วัน เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- ควรใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อ่อนโยน หลีกเลี่ยงสารระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือกรดผลไม้
- ควรทาครีมบำรุงและครีมกันแดด SPF 30+ เป็นประจำทุกเช้า แม้ไม่ออกแดด
- ควรเว้นระยะหัตถการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผิวหน้าประมาณ 2 สัปดาห์
- ควรพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7–8 ชั่วโมง/คืน เพื่อส่งเสริมกระบวนการฟื้นฟูผิว
- งดอบไอน้ำ ซาวน่า หรือแช่น้ำร้อน อย่างน้อย 3–5 วัน หลังทำ
- งดเลเซอร์ ทรีตเมนต์ร้อน หรือหัตถการที่กระตุ้นผิวเพิ่มเติม อย่างน้อย 1–2 สัปดาห์
- งดใช้ Retinol, AHA, BHA หรือผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว อย่างน้อย 5–7 วัน
- หลีกเลี่ยงการออกแดดจัดในช่วง 48 ชั่วโมงแรก หลังทำ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวแรง ๆ เช่น การถูหน้า ขยี้หน้า หรือเช็ดแรง ๆ
- หลีกเลี่ยงการนวดหน้าหนัก ๆ หรือใช้ลูกกลิ้งนวดผิว ในช่วง 1 สัปดาห์แรก
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าจัดในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพื่อให้ผิวฟื้นตัว
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพื่อไม่รบกวนกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่
Thermage FLX เหมาะกับคนที่เคยทำ Thermage CPT มาก่อนไหม?
- Thermage FLX เหมาะสำหรับผู้ที่เคยพึงพอใจกับผลลัพธ์ของ Thermage CPT มาก่อน แต่ต้องการประสบการณ์การรักษาที่แม่นยำขึ้น รู้สึกสบายขึ้น และเห็นผลเร็วขึ้น Thermage FLX ถือเป็นการอัปเกรดที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านเทคโนโลยีและประสิทธิภาพ
- ผู้ที่เคยทำ CPT มาแล้วจะสามารถเปรียบเทียบความแตกต่างได้ชัดเจน เช่น ความรู้สึกขณะทำที่เจ็บน้อยกว่า ด้วยระบบ AccuREP™ ที่ช่วยให้พลังงานลงลึกได้อย่างสม่ำเสมอ และหัวทิปรุ่นใหม่ที่ใช้เวลาน้อยลงในการทำแต่ละครั้ง
Thermage FLX คุ้มค่าไหมในระยะยาว?
- Thermage FLX ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว สำหรับผู้ที่มองหาการดูแลผิวอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว ทำให้ผลลัพธ์ได้นานถึง 12-24 เดือน
- การพัฒนาทั้งด้านประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และการลดระยะเวลารักษา ทำให้หลายคนเลือก Thermage FLX เป็นทางเลือกหลักในการยกกระชับผิวแบบไม่ต้องพักฟื้น อีกทั้งยังช่วยชะลอสัญญาณแห่งวัยในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับ Thermage FLX และ CPT
- Thermage FLX และ CPT ใช้เวลาทำนานแค่ไหน?
ระยะเวลาในการทำ Thermage ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำและจำนวนช็อตที่ใช้ โดย Thermage FLX ใช้เวลาประมาณ 60-90 นาที/ครั้ง ส่วน Thermage CPT จะใช้เวลานานกว่า ประมาณ 90-120 นาที เนื่องจากหัวทิปของรุ่น Thermage CPT มีขนาดเล็กกว่า ทำให้ใช้เวลาครอบคลุมพื้นที่ได้นานขึ้น
- Thermage FLX และ CPT ทำแล้วบวมไหม?
โดยทั่วไปแล้วการทำ Thermage FLX และ CPT ไม่ก่อให้เกิดอาการบวมอย่างชัดเจน ผู้รับบริการบางรายอาจรู้สึกอุ่น ๆ หรือมีผิวแดงเล็กน้อยในบางจุดที่ทำ และมักจะหายได้เองในไม่กี่ชั่วโมง และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้น
- Thermage FLX ต้องทำซ้ำบ่อยแค่ไหน?
Thermage FLX เป็นหัตถการที่ไม่จำเป็นต้องทำบ่อย หากมีการดูแลผิวอย่างเหมาะสม ผลลัพธ์ของ Thermage FLX สามารถอยู่ได้นานประมาณ 12-24 เดือน ทั้งนี้ระยะเวลาการคงผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิว อายุ การดูแลหลังทำ และพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล
- Thermage FLX เจ็บไหม?
ระดับความรู้สึกขณะทำ Thermage FLX จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ ซึ่ง Thermage FLX ได้รับการออกแบบให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ด้วยการผสานระบบสั่น (Vibration) และระบบทำความเย็น (Cooling Effect) ที่ทำงานร่วมกันเพื่อลดความรู้สึกระคายเคืองในระหว่างการปล่อยพลังงาน ผู้รับบริการส่วนใหญ่จะรู้สึกถึงความอุ่นหรือรู้สึกตึงเล็กน้อยเท่านั้น
ทั้ง Thermage FLX และ CPT ต่างก็มีประสิทธิภาพในการยกกระชับที่น่าพึงพอใจ แต่หากพิจารณาในด้านความทันสมัย ความแม่นยำ และประสบการณ์ขณะทำ Thermage FLX ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้มากกว่าหลายด้าน
ด้วยเทคโนโลยี AccuREP™ ที่ช่วยปรับพลังงานให้เหมาะกับผิวในแต่ละจุด หัวทิป Total Tip 4.0 ช่วยลดระยะเวลาในการทำ พร้อมทั้งระบบสั่นและระบบความเย็นที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายระหว่างทำมากขึ้น ทำให้ Thermage FLX เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มองหาผลลัพธ์ที่ชัดเจนในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ควรเข้ารับการประเมินจากแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อเลือกแนวทางการดูแลที่เหมาะสม และวางแผนการรักษาได้อย่างมั่นใจในทุกขั้นตอน