ปากหนาแก้อย่างไร? มีวิธีไหนบ้าง? ทำอย่างไรให้ปากทรงสวย?

ปากหนาแก้อย่างไร? เจาะลึกวิธีแก้ไขปากหนา ปากใหญ่ ดูไม่สมส่วน

ริมฝีปากเป็นหนึ่งในจุดเด่นสำคัญบนใบหน้าที่ส่งผลต่อความสวยงาม และสัดส่วนโดยรวมของใบหน้าอย่างชัดเจน แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาเนื้อปากเยอะ ปากหนา และปากใหญ่อาจรู้สึกไม่มั่นใจเวลายิ้ม หรือถ่ายรูป เนื่องจากใบหน้าดูไม่สมดุล และริมฝีปากดูเด่นชัดเกินไป บทความนี้ รมย์รวินท์จะพาทุกคนมาเจาะลึกเกี่ยวกับปากหนาว่า ปากหนามีลักษณะอย่างไร? ปากหนาเกิดจากสาเหุตอะไร? พร้อมแนะนำทางเลือกในการแก้ไขปากหนา และอัปเดตทรงปากยอดฮิตในปี 2025 ค่ะ 

 

ปากหนามีลักษณะอย่างไร?

ปากหนา เป็นลักษณะของริมฝีปากที่มีความอวบอิ่ม ดูมีวอลลุ่ม และมีเนื้อปากมากกว่าปกติ ซึ่งโดยทั่วไปลักษณะเด่นของปากหนา มีดังนี้

  • ริมฝีปากบนและล่างมีความหนา

ลักษณะของปากหนา สามารถสังเกตได้จากริมฝีปากบนและล่างที่มีความอวบอิ่ม เนื้อปากดูเต็มแน่น และมีวอลลุ่มมากกว่าปกติอย่างชัดเจน

  • ริมฝีปากมีขนาดใหญ่

ลักษณะของปากหนา สามารถสังเกตได้จากริมฝีปากที่มีขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับสัดส่วนของใบหน้าโดยรวม ซึ่งทำให้ริมฝีปากดูเด่นชัด ไม่สมดุล และไม่กลมกลืนกับใบหน้า

  • ริมฝีปากมีความกว้าง

ลักษณะของปากหนา สามารถสังเกตได้จากมุมปากซ้าย จนถึงมุมปากขวามีความยาวมากกว่าปกติ ทำให้ริมฝีปากดูกว้าง และใหญ่ เมื่อเทียบกับสัดส่วนของใบหน้าโดยรวม 

 

สาเหตุที่ทำให้ปากหนา
สาเหตุที่ทำให้ปากหนา

 

สาเหตุที่ทำให้ปากหนา

ปากหนา ปากใหญ่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งโดยส่วนใหญ่สาเหตุที่ทำให้ปากหนา มีดังนี้

  • กรรมพันธุ์

การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ปากหนา หากพบว่ามีบุคคลในครอบครัวมีลักษณะปากหนา หรือปากใหญ่ อาจมีแนวโน้มสูงที่จะเกิดการส่งต่อทางพันธุกรรมตั้งแต่กำเนิดได้เช่นเดียว

  • เกิดอุบัติเหตุ

การเกิดอุบัติเหตุเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ปากหนา เช่น การล้ม การกระแทก หรืออุบัติเหตุอื่น ๆ ที่รุนแรง ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณริมฝีปากเกิดการบาดเจ็บ เกิดอาการบวม หรือเกิดพังผืดสะสม จนส่งผลให้ปากหนา ปากใหญ่ และปากไม่เท่ากันได้

  • เกิดปัญหาหลังทำศัลยกรรม

การเกิดปัญหาหลังทำศัลยกรรมเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ปากหนา โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดพังผืดสะสม หรือเกิดแผลหดรั้ง จนเนื้อเยื่อบริเวณริมฝีปากดูหนากว่าปกติ 

 

ปากหนาส่งผลอย่างไร?

แม้ริมฝีปากจะเป็นองค์ประกอบหนึ่งของใบหน้า แต่หากมีปัญหาปากหนา หรือปากใหญ่อาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมใบหน้า และการใช้ชีวิตได้ ดังนี้

  • ใบหน้าดูไม่สมดุล 

หากมีปัญหาปากหนา อาจส่งผลให้ใบหน้าดูไม่สมดุล หรือสัดส่วนของใบหน้าดูผิดเพี้ยน โดยเฉพาะใบหน้าส่วนล่างอาจดูหนัก และริมฝีปากดูเด่นชัดมากเกินไป

  • สูญเสียความมั่นใจ

หากมีปัญหาปากหนา อาจส่งผลให้สูญเสียความมั่นใจ และกระทบต่อบุคลิกภาพโดยรวม โดยเฉพาะเวลายิ้ม ถ่ายรูป หรือพูดคุยกับคนอื่น 

  • ขัดกับหลักโหราศาสตร์จีน

หากมีปัญหาปากหนา อาจส่งผลให้ขัดกับลักษณะของริมฝีปากที่ดีตามหลักโหราศาสตร์จีน ซึ่งในความเชื่อนี้อาจสะท้อนให้เห็นถึงลักษณะนิสัย ภาพลักษณ์ ความสัมพันธ์ บุคลิกภาพ หรือทักษะการเจรจาอีกด้วย 

 

ปากหนาแก้อย่างไร?
ปากหนาแก้อย่างไร?

 

ปากหนาแก้อย่างไร?

ปัญหาปากหนาสามารถแก้ไขได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุ ลักษณะริมฝีปากเดิม และความต้องการของแต่ละบุคคล ซึ่งโดยหลัก ๆ จะมีวิธีแก้ไขอยู่ 2 วิธี ดังนี้

  • ศัลยกรรมปาก

ปัญหาปากหนาสามารถแก้ไขได้ด้วยการทำศัลยกรรมปาก ซึ่งเป็นการใช้วิธีการผ่าตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินบริเวณริมฝีปากออก พร้อมปรับรูปทรงปากให้สวยงาม เรียวบาง และได้สัดส่วนตามที่ต้องการ เพื่อแก้ไขปัญหาปากหนา ปากใหญ่ ปากห้อย หรือปากไม่เท่ากันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างถาวร และให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่วิธีการนี้อาจมีบาดแผล มีอาการบวมช้ำ และรู้สึกระบมได้ในช่วงแรก จึงต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนาน และมีค่าใช้จ่ายที่สูงเมื่อเทียบกับการฉีดฟิลเลอร์

  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก

ปัญหาปากหนาสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก ซึ่งเป็นการใช้วิธีการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) เข้าไปยังริมฝีปาก เพื่อเพิ่มความคมชัดให้ขอบปาก ยกมุมปากขึ้น และปรับรูปทรงปากให้มีสัดส่วนที่สมดุลตามต้องการ เพื่อแก้ไขปัญหาปากหนา ปากบาง ปากใหญ่ ปากเบี้ยว มุมปากตก หรือปากไม่เท่ากันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว และแก้ไขง่ายหากผลลัพธ์ที่ได้ไม่น่าพึงพอใจ โดยไม่ต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นนาน และหลังฉีดเสร็จสามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ

 

ปากหนา VS ปากบาง ต่างกันอย่างไร?

ลักษณะของปากหนา และปากบางจะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนี้

  • ปากหนา

ปากหนา จะมีลักษณะริมฝีปากมีความหนาใหญ่ เต็มแน่น เนื้อปากเยอะ และมีความอวบอิ่มอย่างชัดเจน จนทำให้ใบหน้าโดยรวมมีสัดส่วนที่ไม่ได้มาตรฐาน และไม่สมดุล

  • ปางบาง

ปากบาง จะมีลักษณะริมฝีปากที่มีความบาง ดูแบนราบ เนื้อปากน้อย ไม่มีวอลลุ่ม และขาดความอวบอิ่ม ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูขาดมิติ ไม่ได้มาตรฐาน และมีสัดส่วนที่ไม่สมดุล

 

ลักษณะทรงปากที่ดีเป็นแบบไหน?

ลักษณะทรงปากที่ดีตามหลักโหราศาสตร์จีน สามารถสะท้อนให้เห็นถึงบุคลิกภาพ ลักษณะนิสัย โชคลาภ ความสัมพันธ์ และทักษะการสื่อสาร โดยลักษณะทรงปากที่ดี ได้แก่

  • ทรงปากที่ดี 

ทรงปากที่ดีจะต้องมีอัตราส่วนระหว่างริมฝีปากบน และล่างที่ได้มาตรฐาน โดยมีสัดส่วนประมาณ 1:1.6 หรือที่เรียกว่า “Golden Ratio” รวมถึงมีเส้นขอบปากคมชัด ไม่เบลอ หรือเลือนลาง มุมปากทั้งสองข้างยกขึ้นเล็กน้อย เส้น Cupid’s Bow ตรงกลางริมฝีปากบนมีความโค้งเว้ากำลังดี ไม่แหลม หรือแบนเกินไป สีริมฝีปากดูอมชมพู ชุ่มชื้น เรียบเนียน และไม่แห้งลอก

  • ทรงปากที่ไม่ดี 

ทรงปากที่ไม่ดีจะมีสัดส่วนของริมฝีปากที่ไม่ได้มาตรฐาน ปากหนาเกินไป ปากใหญ่เกินไป ปากบางเกินไป หรือริมฝีปากดูไม่สมดุล มุมปากทั้งสองข้างคว่ำลง ขอบปากเบลอ ไม่คมชัด สีริมฝีปากซีด ม่วงคล้ำ รวมทั้งริมฝีปากแห้งกร้าน แตกลอก และไม่เรียบเนียน 

 

รวมทรงปากยอดฮิต
รวมทรงปากยอดฮิต

 

รวมทรงปากยอดฮิต

ปัจจุบันทรงยอดฮิตมีให้เลือกหลากหลายทรง เพื่อแนวทางสำหรับผู้ที่กำลังแก้ไขปัญหาริมฝีปาก โดยทรงปากที่ได้รับความนิยม มีดังนี้

  • ทรงปากธรรมชาติ 

ทรงปากธรรมชาติ หรือ Classy Kysse มีลักษณะริมฝีปากที่อวบอิ่มกำลังดี ไม่หนา และไม่บางจนเกินไป ริมฝีปากดูสมดุล รับกับใบหน้า โดยไม่ได้เน้นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ ริมฝีปากดูอ่อนกว่าวัย และดูสุขภาพดี

  • ทรงปากเชอร์รี่

ทรงปากเชอร์รี่ หรือ Cherry Kysse มีลักษณะริมฝีปากที่อวบอิ่ม และมีวอลลุ่มคล้ายผลเชอร์รี่ประกบกัน ริมฝีปากบนมีความโค้งเว้า และเป็นทรงกระจับ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าโดยรวมมีความละมุน อ่อนหวาน เซ็กซี่ และมีเสน่ห์มากขึ้น

  • ทรงปากแมว 

ทรงปากแมว หรือ Cat Lips มีลักษณะริมฝีปากที่มีความอวบอิ่ม และโค้งเว้ากำลังดี มุมปากทั้งสองข้างยกขึ้นเล็กน้อยคล้ายริมฝีปากแมว ขอบปากคมชัด มีมิติ แต่ยังคงผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติอยู่ ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนโยน มีเสน่ห์ และเซ็กซี่ในเวลาเดียวกัน

  • ทรงปากกระจับ

ทรงปากกระจับ มีลักษณะริมฝีปากบนมีความโค้งเว้าคล้ายผลกระจับอย่างเห็นได้ชัด และมีติ่งตรงกลางเล็กน้อย มุมปากยกขึ้น ริมฝีปากล่างมีความอวบอิ่มกว่าริมฝีปากบน ทำให้ใบหน้าดูอ่อนหวาน ละมุน เซ็กซี่ และมีเสน่ห์มากขึ้น

  • ทรงปากปีกนก 

ทรงปากปีกนก มีลักษณะมุมปากทั้งสองข้างยกขึ้นคล้ายปีกนก ทำให้เหมือนกำลังยิ้มอยู่ตลอดเวลา ริมฝีปากเรียวบาง และมีความโค้งเว้าอย่างชัดเจน ขอบปากคมชัด ไม่เบลอ และเลือนลาง ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูสดใส อ่อนโยน และเป็นมิตรมากขึ้น

  • ทรงปากอวบอิ่ม

ทรงปากอวบอิ่ม หรือ Sexy Lips มีลักษณะริมฝีปากหนา และอวบอิ่ม ทั้งริมฝีปากบน และล่าง รวมถึงเส้นขอบปากที่มีความคมชัด ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูมีเสน่ห์ เซ็กซี่ และน่าดึงดูดมากขึ้น

  • ทรงปากคิวปิด

ทรงปากคิวปิด หรือ Cupid’s Bow มีลักษณะริมฝีปากบนที่มีความโค้งเว้าตรงกลางเป็นรูปหัวใจ คล้ายส่วนโค้งของคันธนูคิวปิด ริมฝีปากล่างมีความอวบอิ่ม และเห็นร่องกลางปากที่ชัดเจน มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนโยน หวานละมุน และมีเสน่ห์มากขึ้น

  • ทรงปาก Full Lips

ทรงปาก Full Lips มีลักษณะริมฝีปากที่มีความอวบอิ่ม เต่งตึง และดูเต็มสวย ริมฝีปากบน และล่างมีสัดส่วนประมาณ 1:1 เท่ากัน เส้นขอบปากคมชัด ไม่เบลอ หรือเลือนลาง ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูมีมิติ มีเสน่ห์ และน่าดึงดูดมากขึ้น

  • ทรงปาก Heavy Upper Lips 

ทรงปาก Heavy Upper Lips มีลักษณะริมฝีปากบนมีความอวบอิ่ม และดูหนากว่าริมฝีปากล่างอย่างชัดเจน ขอบปากคมชัด ริมฝีปากล่างมีสัดส่วนกำลังดี ไม่หนาเกินไป ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูมีเสน่ห์ เซ็กซี่ และน่าค้นหามากขึ้น

  • ทรงปาก Heavy Lower Lips

ทรงปาก Heavy Lower Lips มีลักษณะริมฝีปากล่างมีความอวบอิ่ม และดูหนากว่าริมฝีปากบนอย่างชัดเจน เส้นขอบปากคมชัด ริมฝีปากบนมีสัดส่วนกำลังดี ไม่หนาเกินไป ทำให้ใบหน้าดูเซ็กซี่ มีเสน่ห์ และน่าดึงดูดแบบสายฝอ

  • ทรงปาก Wide Lips 

ทรงปาก Wide Lips มีลักษณะริมฝีปากที่มีความกว้างกว่าทรงอื่น โดยไม่จำเป็นต้องหนา หรือบาง แต่เน้นขอบปากเรียวยาว และขยายออกอย่างชัดเจน ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูสดใส รอยยิ้มกว้าง และดูเป็นมิตร

 

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถแก้ปัญหาปากหนา ปากใหญ่ ปากบาง มุมปากตก ขอบปากไม่ชัด และปากไม่เท่ากันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถปรับรูปทรงปากให้มีสัดส่วนที่สมดุล และดูรับกับใบหน้ามากขึ้น
  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว และแลดูเป็นธรรมชาติ
  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่มีบาดแผล และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานหลังทำ
  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงต่ำในการเกิดผลข้างเคียง เช่น บวมแดง ปวดตึง หรือฟกช้ำ
  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถปรับแก้ไขได้ หากผลลัพธ์หลังฉีดไม่เป็นไปตามที่ต้องการ หรือเกิดข้อผิดพลาดหลังฉีดฟิลเลอร์

 

ฉีดฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใคร?
ฉีดฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใคร?

 

ฉีดฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใคร?

  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากหนาเล็กน้อยถึงปานกลาง
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากไม่เท่ากัน รูปทรงปากไม่สมส่วน
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากแบน และขาดมิติ
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย และร่องลึกบริเวณริมฝีปาก
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาขอบปากไม่ชัด ต้องการเพิ่มความคมชัดให้ขอบปาก
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหามุมปากตก มุมปากคว่ำ ต้องการยกมุมปาก
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากไม่เรียบเนียน ทาลิปแล้วตกร่องง่าย
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากแห้งลอก ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงปากให้เข้ากับใบหน้า
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วตั้งแต่ครั้งแรก
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมดวงชะตาตามหลักโหราศาสตร์จีน
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเจ็บตัว และไม่ต้องการทำศัลยกรรมปาก

หมายเหตุ ก่อนใช้บริการควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์ และแจ้งข้อมูลสุขภาพอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ ประวัติการรักษา และยาที่รับประทานอยู่

 

ฉีดฟิลเลอร์ปากไม่เหมาะกับใคร?

  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีแพ้สาร Hyaluronic Acid (HA) หรือสารอื่น ๆ ในฟิลเลอร์
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่การอักเสบ ติดเชื้อ หรือเป็นแผลเปิดบริเวณริมฝีปาก
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้หญิงที่อยู่ในช่วงของการตั้งครรภ์ 
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้หญิงที่อยู่ในช่วงของการให้นมบุตร
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือด
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือภูมิคุ้มกันผิดปกติ
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ในระยะยาวแบบถาวร

หมายเหตุ ก่อนใช้บริการควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์ และแจ้งข้อมูลสุขภาพอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ ประวัติการรักษา และยาที่รับประทานอยู่

 

ฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยเรื่องอะไร?
ฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยเรื่องอะไร?

 

ฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยเรื่องอะไร?

  • ช่วยลดความหนาใหญ่ของริมฝีปาก แก้ปัญหาปากหนา
  • ช่วยปรับแต่งริมฝีปากให้เรียวเล็ก และสวยงาม
  • ช่วยปรับรูปทรงปากให้มีสัดส่วนที่สมดุล
  • ช่วยลดเลือนริ้วรอย และร่องลึกบริเวณริมฝีปาก
  • ช่วยเพิ่มความอิ่มฟู และเสริมวอลลุ่มให้ริมฝีปาก
  • ช่วยเพิ่มความคมชัดให้กับเส้นขอบปาก
  • ช่วยยกมุมปากขึ้น เพิ่มความสดใสให้ใบหน้า
  • ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก 
  • ช่วยปรับริมฝีปากให้เรียบเนียน ทาลิปแล้วไม่ตก

 

ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับบริการ

ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับบริการ โดยแพทย์จะตรวจประเมินปัญหา และลักษณะริมฝีปากเดิม ทั้งความหนา ความกว้าง และสัดส่วนของริมฝีปาก เพื่อวางแผนการฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างเหมาะสม 

  • งดรับประทานยาบางประเภท

ควรงดรับประทานยา และอาหารเสริมบางประเภท ทั้งยาต้านการอักเสบ และยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย โสม หรือกระเทียม

  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่

ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่ เนื่องจากอาจส่งผลต่อการไหลเวียนเลือด รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการบวม ช้ำ และอักเสบ

  • งดการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว

ควรงดการสครับปาก ขัดปาก และใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว เนื่องจากอาจทำให้ริมฝีปากระคายเคือง และเสี่ยงต่อการอักเสบได้

  • งดทำหัตถการ ทรีตเมนต์ และเลเซอร์

ควรงดการทำหัตถการ ทรีตเมนต์ และเลเซอร์บริเวณริมฝีปาก เนื่องจากอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคือง อักเสบ และบวมช้ำหลังฉีด

  • ควรดื่มน้ำ และพักผ่อนให้เพียงพอ

ควรดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมอย่างน้อย 1.5 – 2 ลิตรต่อวัน และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีความพร้อมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปาก

 

ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสริมฝีปาก

ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส นวด และกดบริเวณริมฝีปากอย่างรุนแรง เนื่องจากเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่ฟิลเลอร์จะเคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้

  • หลีกเลี่ยงการทาลิปสติกสี

ควรหลีกเลี่ยงการทาลิปสติกสีในช่วง 12 – 24 ชั่วโมงแรก โดยเฉพาะลิปสติกเนื้อแมตต์ที่มี Pigment เข้มข้น เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหลังฉีดได้

  • งดการสัมผัสความร้อน

ควรงดการสัมผัส หรือโดนความร้อนบริเวณริมฝีปาก เช่น ดื่มเครื่องดื่มที่ร้อนจัด หรือรับประทานอาหารที่มีความร้อนสูง เนื่องจากอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ และสลายตัวเร็วได้

  • งดการออกกำลังกายหนัก

ควรงดการออกกำลังกายหนัก หรือทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการบวมช้ำ และทำให้ฟิลเลอร์เสียรูปทรงได้

  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่

ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่ เนื่องจากอาจส่งผลต่อการไหลเวียนเลือด รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการบวม ช้ำ และอักเสบ

  • งดรับประทานอาหารดิบ ของหมักดอง

ควรงดรับประทานอาหารดิบ อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ และของหมักดอง เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และอักเสบหลังฉีดได้

  • งดการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว

ควรงดการสครับปาก ขัดปาก และใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว เนื่องจากอาจทำให้ริมฝีปากระคายเคือง และเสี่ยงต่อการอักเสบได้

  • งดทำหัตถการ ทรีตเมนต์ และเลเซอร์

ควรงดการทำหัตถการ ทรีตเมนต์ และเลเซอร์บริเวณริมฝีปาก เนื่องจากอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคือง อักเสบ และบวมช้ำ

  • ควรรีบพบแพทย์หากมีอาการผิดปกติ

ควรรีบเข้าพบแพทย์โดยด่วน หากมีอาการผิดปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เช่น บวมแดงรุนแรง รู้สึกปวดผิดปกติ ริมฝีปากเปลี่ยนสี หรือมีตุ่มหนอง 

 

เลือกฉีดฟิลเลอร์ปาก แก้ปากหนาที่ไหนดี?

  • เลือกคลินิกที่ได้รับมาตรฐาน

ควรเลือกคลินิกความงามที่ได้รับมาตรฐาน และมีใบอนุญาตประกอบกิจการจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งภายในคลินิกควรมีความสะอาด ปลอดโปร่ง และมีเครื่องมือแพทย์ที่ครบถ้วน

  • เลือกฉีดฟิลเลอร์ปากโดยแพทย์

ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ปากโดยแพทย์ที่มีความรู้ และความเข้าใจ รวมถึงมีใบประกอบวิชาชีพจากทางแพทยสภา ซึ่งแพทย์จะต้องสามารถตรวจประเมินโครงสร้างใบหน้า ลักษณะริมฝีปากเดิม และวางแผนการฉีดอย่างเหมาะสม

  • เลือกใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น

ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่ผ่านการรับรองจาก อย. เท่านั้น ซึ่งตรวจสอบได้จากเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย รวมถึงเลข Lot. การผลิตจะต้องตรงกันทุกจุด 

  • เลือกคลินิกที่นัดติดตามผลหลังฉีด 

ควรเลือกคลินิกที่นัดติดตามผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อตรวจประเมินรูปทรงปากว่า เป็นไปตามที่ต้องการหรือไม่ หากเกิดปัญหาสามารถปรับแก้ได้อย่างรวดเร็ว

  • เลือกคลินิกที่มีรีวิวการฉีดฟิลเลอร์ปาก

ควรเลือกคลินิกที่มีรีวิวรูปภาพก่อน และหลังฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ได้หลัง 

 

ปัญหาปากหนา ปากใหญ่ หรือปากไม่เท่ากันสามารถแก้ไขได้หลายวิธี ทั้งการศัลยกรรมปาก และการฉีดฟิลเลอร์ปาก แต่สำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพักฟื้นนาน และไม่มีบาดแผลหลังทำ การฉีดฟิลเลอร์ปากก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ เนื่องจากเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน และสามารถแก้ไขรูปทรงปากได้อย่างหลากหลาย รวมถึงสามารถปรับแก้ง่ายหากผลลัพธ์ที่ได้ไม่น่าพึงพอใจ ทำให้ริมฝีปากมีรูปทรงที่สวยงาม ดูสมดุล และรับกับใบหน้าอย่างแลดูเป็นธรรมชาติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แนะนำให้เข้ารับการปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ เพื่อให้แพทย์ประเมินโครงสร้างใบหน้า ลักษณะของริมฝีปากเดิม ทั้งความหนา ความกว้าง และสัดส่วนของริมฝีปาก พร้อมแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหาปากหนาที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงาม และเป็นไปตามที่ต้องการอย่างแท้จริง

 

*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด