ยกกระชับหน้า Ultra Lift แนวทางใหม่ในการยกกระชับฟื้นฟูผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ริ้วรอยแห่งวัย ความหย่อนคล้อยของผิว และโครงสร้างใบหน้าที่เปลี่ยนแปลง กลายเป็นสิ่งที่หลายคนเผชิญโดยไม่ทันตั้งตัว แม้การดูแลผิวในชีวิตประจำวันจะช่วยชะลอปัญหาเหล่านี้ได้บางส่วน แต่ยังไม่เพียงพอต่อการฟื้นฟูความกระชับในระดับโครงสร้างของผิว ทำให้หลายคนเริ่มมองหาเทคโนโลยีที่สามารถยกกระชับผิวได้จริง โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นนาน
หนึ่งในทางเลือกที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก ในวงการความงามเชิงการแพทย์ในปัจจุบัน คือ Ultra Lift เทคโนโลยีพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวอย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องพักฟื้น และไม่ต้องเจ็บตัว ยกกระชับหน้า Ultra Lift ได้กลายเป็นคำตอบของคนยุคใหม่ที่ต้องการฟื้นฟูความอ่อนวัยของผิวหน้า
บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมของยกกระชับหน้า Ultra Lift ไม่ว่าจะเป็นหลักการทำงาน ข้อดี จุดเด่น ความแตกต่างจากเทคโนโลยีอื่น ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้ รวมถึงคำแนะนำในการเลือกทำยกกระชับหน้า Ultra Lift อย่างเหมาะสม เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
ยกกระชับหน้า Ultra Lift คืออะไร?
ยกกระชับหน้า Ultra Lift เป็นเทคโนโลยียกกระชับหน้าโดยใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ที่มีความเข้มข้นสูง (High-Intensity Focused Ultrasound หรือ HIFU) ซึ่งสามารถส่งพลังงานลงลึกถึง ชั้น SMAS ชั้นเนื้อเยื่อที่อยู่ลึกใต้ผิวหนัง และเป็นชั้นเดียวกับที่ใช้ในการดึงหน้าในกระบวนการผ่าตัดศัลยกรรม ความพิเศษของเทคโนโลยีนี้คือช่วยให้เกิดการยกกระชับได้จริง โดยไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องเจ็บตัว และไม่ต้องหยุดพักฟื้นหลังทำ
หนึ่งในจุดเด่นของ Ultra Lift คือ หัวทิปที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อยิงพลังงานเป็นจุดเล็ก ๆ (Dot) พร้อมสามารถเจาะลึกได้ถึงระดับ 4.5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นระดับความลึกที่สามารถจัดการกับโครงสร้างของผิวที่หย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะบริเวณที่มักมีปัญหา เช่น แนวกรอบหน้า แก้ม และใต้คาง ทั้งยังช่วยเสริมให้รูปหน้าแลดูกระชับ ชัดเจน และสมดุลยิ่งขึ้น
ยกกระชับหน้า Ultra Lift ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงยกผิวให้ตึง แต่ยังมีผลต่อกระบวนการฟื้นฟูภายในผิว ด้วยการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของผิวที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแน่นกระชับให้กับใบหน้า ผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่ได้เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงทันที แต่ยังคงพัฒนาดีขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลายสัปดาห์หลังทำ
ยกกระชับหน้า Ultra Lift ทำงานอย่างไร?
ส่งพลังงานกระตุ้นการฟื้นฟูจากภายใน
ยกกระชับหน้า Ultra Lift ทำงานโดยการปล่อยพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง ลงสู่ชั้นผิว SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นที่ศัลยแพทย์ใช้ในการดึงหน้าแบบผ่าตัด โดยพลังงานคลื่นที่ปล่อยออกมาจะกลายเป็นความร้อนในระดับประมาณ 60–70 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่มีเพียงพอในการกระตุ้นให้เซลล์ผิวทำงานในการฟื้นฟูตนเอง โดยไม่สร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อบริเวณรอบข้าง
สร้างคอลลาเจนใหม่ คืนความยืดหยุ่นให้ผิว
เมื่อชั้นผิวได้รับพลังงานความร้อนในระดับที่ควบคุมได้ ร่างกายจะตอบสนองโดยการเริ่มสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักที่ทำให้ผิวแข็งแรง กระชับ และยืดหยุ่น การฟื้นฟูนี้จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผิวที่เคยหย่อนคล้อยกลับมากระชับแน่นขึ้น ใบหน้าดูเต่งตึงเรียบเนียน และดูสดใสขึ้นอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องใช้สารเติมเต็มหรือศัลยกรรม
ทำงานลึกหลายระดับ ปรับผิวให้สวยครบมิติ
ยกกระชับ Ultra Lift ไม่ได้ทำงานเพียงผิวชั้นตื้น แต่ยังสามารถส่งพลังงานได้หลายระดับลึก เพื่อดูแลปัญหาผิวในแต่ละชั้นได้อย่างเหมาะสม ดังนี้
- ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) ช่วยทำให้ผิวเรียบลื่นขึ้น ลดความไม่สม่ำเสมอของพื้นผิว
- ชั้นหนังแท้ (Dermis) กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยบาง ๆ ให้จางลง
- ชั้น SMAS เสริมความแข็งแรงให้โครงสร้างผิว และยกกระชับผิวในระดับลึกที่มีผลต่อโครงหน้าทั้งหมด
เปรียบเทียบจุดเด่นยกกระชับหน้า Ultra Lift กับเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าอื่น ๆ
ยกกระชับหน้า Ultra Lift vs Ultherapy
- ยกกระชับหน้า Ultra Lift เน้นการส่งคลื่นเสียงแบบโฟกัสลงลึกไปยังชั้น SMAS เพื่อยกกระชับผิวโดยตรง จุดเด่นคือสามารถปรับพลังงานและความลึกให้เหมาะกับแต่ละจุดได้ดี มีการกระจายพลังงานที่เสถียร และเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ไม่แข็งตึงเกินไปและรู้สึกสบายขณะทำ
- Ultherapy มีความโดดเด่นตรงที่สามารถดูภาพชั้นผิวแบบ Real-time ทำให้แพทย์สามารถมองเห็นและเลือกชั้นผิวที่จะปล่อยพลังงานได้ เพิ่มประสิทธิภาพในการกำหนดตำแหน่ง และระดับความลึก
ยกกระชับหน้า Ultra Lift vs Thermage FLX
- ยกกระชับหน้า Ultra Lift ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงที่เจาะลึกไปถึงชั้นกล้ามเนื้อ SMAS ซึ่งเหมาะสำหรับยกโครงหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม จุดแข็งคือการยกกระชับปรับรูปหน้าให้ชัดเจน และผลลัพธ์ของผิวที่กระชับมากขึ้น
- Thermage FLX ทำงานโดยใช้คลื่นวิทยุ Monopolar RF ซึ่งจะส่งพลังงานไปยังชั้นไขมันใต้ผิวเพื่อลดไขมันส่วนเกิน และกระชับผิวจากระดับผิวหนังแท้ขึ้นมา เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือไขมันสะสมในบางจุด พร้อมช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
ยกกระชับหน้า Ultra Lift vs Super HIFU
- ยกกระชับหน้า Ultra Lift ถูกพัฒนาให้ตอบโจทย์ผิวหน้า ด้วยหัวทิปที่ควบคุมพลังงานได้อย่างสม่ำเสมอ พร้อมออกแบบให้เข้าถึงชั้นผิวในระดับต่าง ๆ อย่างเหมาะสม จึงลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวไหม้หรือแสบร้อน พร้อมให้ประสบการณ์การรักษาที่รู้สึกสบายกว่า
- Super HIFU เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับปรับผิวให้ตึงกระชับในระดับพื้นฐาน โดยอาศัยการปล่อยพลังงานเข้าสู่ชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นลึกที่ช่วยพยุงโครงหน้า แต่การควบคุมพลังงานอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นของเครื่อง และต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์เป็นหลัก หากทำโดยแพทย์ก็สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีได้
ข้อดีของการยกกระชับหน้า Ultra Lift
- ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้ตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
- ปรับโครงหน้าให้ได้รูปชัดเจนขึ้น เช่น กรอบหน้า คาง แก้ม
- ผิวดูเรียบเนียน เต่งตึง และอ่อนวัยมากขึ้น
- ริ้วรอยเล็ก ๆ ลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
- สีผิวดูสม่ำเสมอมากขึ้น ผิวดูกระจ่างใสขึ้น
- ผิวมีความยืดหยุ่นและแน่นฟูจากภายใน
- เห็นผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่หลอกตา
- ผิวดูสุขภาพดีจากการฟื้นฟูอย่างลึกในระดับโครงสร้าง
- ควบคุมระดับพลังงานและความลึกได้ตามสภาพผิวแต่ละจุด
- พลังงานส่งผ่านแบบไม่ทำลายผิวชั้นนอกหรือเนื้อเยื่อข้างเคียง
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่ต้องใช้เข็ม
- ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที
- ไม่เสี่ยงอันตรายสำหรับทุกสีผิวและหลายช่วงวัย
- สามารถทำได้หลายจุด เช่น ใบหน้า ลำคอ ใต้คาง รอบดวงตา
- ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยในอนาคต
- ใช้ควบคู่กับหัตถการอื่นได้ เช่น โปรแกรมฉีดโบ หรือเลเซอร์
ยกกระชับหน้า Ultra Lift ช่วยอะไรบ้าง?
- ช่วยยกกระชับกรอบหน้าให้คมชัดขึ้น
- ลดความหย่อนคล้อยของผิวบริเวณแก้มและแนวขากรรไกร
- กระชับผิวใต้คาง ลดเหนียงให้ดูเรียวมากขึ้น
- ยกหางตาและหนังตาที่ตก ให้ดวงตาดูสดใส
- ยกกระชับปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน เรียวและเข้ารูปโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ยกผิวลำคอให้ดูเรียบ ไม่ย่น ไม่เหี่ยวย่น
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว
- เพิ่มความแน่น อิ่มฟูของผิวจากภายใน
- ลดเลือนริ้วรอยตื้น เช่น รอยรอบดวงตา มุมปาก หน้าผาก
- ช่วยให้ผิวดูอ่อนวัยขึ้นแบบต่อเนื่อง
ยกกระชับหน้า Ultra Lift เหมาะกับใครบ้าง?
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 30–60 ปี ที่เริ่มมีสัญญาณแห่งวัย
- เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีผิวหน้าหย่อนคล้อยตามวัย
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีแก้มตกหรือแนวกรอบหน้าไม่ชัด
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวใต้ตา หนังตาตก หรือร่องน้ำตาลึก
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีลำคอไม่กระชับหรือมีริ้วรอยที่คอ
- เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวการผ่าตัดหรือไม่ต้องการมีแผล
- เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่อยากใช้เข็มหรือสารเติมเต็มบนใบหน้า
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต
- เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มสังเกตว่าใบหน้าเริ่มหย่อนคล้อย ไม่กระชับเหมือนเดิม
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้คางหรือเหนียงที่ส่งผลต่อรูปหน้า
- เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า แต่ยังต้องการผลลัพธ์แบบยกกระชับ
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผลลัพธ์ไม่แข็ง ไม่หลอกตา ไม่ดูเปลี่ยนแปลงจนเกินไป
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวมัน ผิวแห้ง หรือแม้แต่ผิวบอบบางแพ้ง่าย
- เหมาะสำหรับผู้ที่รู้สึกว่าใบหน้าสูญเสียความแน่นและโครงสร้างเริ่มเปลี่ยน
- เหมาะสำหรับผู้ที่เคยลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว จนเกิดความหย่อนคล้อยของผิว
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าหรือยกเฉพาะจุด เช่น บริเวณแนวกรอบหน้า ใต้คาง หรือหางตา
หมายเหตุ
แม้ยกกระชับหน้า Ultra Lift จะเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสำหรับหลายกลุ่มเป้าหมาย แต่ก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ ควรได้รับการประเมินสภาพผิวและโครงหน้าโดยแพทย์ผู้ให้บริการ เพื่อให้สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสมกับแต่ละบุคคล ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพผิว อายุ และการดูแลตนเองหลังทำในแต่ละราย
ยกกระชับหน้า Ultra Lift ไม่เหมาะกับใครบ้าง?
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอุปกรณ์โลหะฝังในร่างกาย เช่น pacemaker, implant โลหะใกล้บริเวณที่จะทำ
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะโรคลมชัก หรือมีประวัติชักจากการกระตุ้นด้วยพลังงานไฟฟ้า
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีแผลเปิด แผลติดเชื้อ หรือการอักเสบเฉียบพลัน บนใบหน้าหรือลำคอ
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังเป็นโรคผิวหนังชนิดรุนแรง เช่น SLE, โรคสะเก็ดเงิน หรือผื่นเรื้อรัง
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้องอกหรือก้อนเนื้อผิดปกติบริเวณใบหน้าโดยไม่ผ่านการตรวจวินิจฉัย
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด หรือรับประทานยาต้านการแข็งตัว
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งได้รับการผ่าตัดใบหน้า หรือลำคอ และยังไม่หายสนิท
- ไม่เหมาะสำหรับหญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งรับบริการเลเซอร์, โปรแกรมฉีดโบ, โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ หรือหัตถการอื่นภายใน 2 สัปดาห์
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้พลังงานความร้อน หรือมีอาการบวมแดงง่ายมาก
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบางเกินไป จนไม่สามารถรับพลังงานคลื่นได้
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านระบบประสาทส่วนกลาง เช่น เส้นประสาทใบหน้าบาดเจ็บ
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการไวต่อความร้อน หรือความรู้สึกเจ็บมากผิดปกติ
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับรุนแรง
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมจำนวนมากใต้ผิวหน้า
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์เปลี่ยนแปลงชัดเจนเหมือนการผ่าตัดดึงหน้า
หมายเหตุ
แม้ว่า Ultra Lift จะเป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็ยังมีข้อจำกัดสำหรับบางกลุ่มที่อาจไม่เหมาะสมหรือควรได้รับการประเมินอย่างละเอียดก่อนเข้ารับบริการ ผู้รับบริการควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง โดยเฉพาะหากมีประวัติสุขภาพที่ซับซ้อน หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ
ยกกระชับหน้า Ultra Lift สามารถทำบริเวณใดบ้าง?
- สามารถทำบริเวณหน้าผาก ช่วยยกผิวให้ดูเรียบเนียน ลดรอยพับ
- สามารถทำบริเวณบริเวณหว่างคิ้ว ลดรอยขมวดคิ้วหรือร่องลึก
- สามารถทำบริเวณหางคิ้ว ช่วยยกคิ้วที่ตกให้ดูสดใส
- สามารถทำบริเวณรอบดวงตา ลดริ้วรอยเล็ก ๆ และหนังตาหย่อน
- สามารถทำบริเวณแก้ม ยกกระชับปรับรูปหน้า ลดแก้มป่อง
- สามารถทำบริเวณร่องแก้ม ลดความลึกของร่องให้ดูตื้นขึ้น
- สามารถทำบริเวณกรอบหน้า ช่วยให้รูปหน้าชัดขึ้น ลดความหย่อนคล้อย
- สามารถทำบริเวณคาง ลดไขมันสะสมใต้คางและยกกระชับแนวคาง
- สามารถทำบริเวณใต้คาง ลดปัญหาไขมันสะสมและผิวหย่อน
- สามารถทำบริเวณมุมปาก ยกมุมปากตกให้กลับมาดูสดใส
- สามารถทำบริเวณลำคอ ลดรอยย่นแนวตั้ง กระชับผิวให้ตึง
ก่อนทำยกกระชับหน้า Ultra Lift ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
- ก่อนทำยกกระชับหน้า Ultra Lift ควรล้างหน้าให้สะอาดก่อนเข้ารับบริการ เพื่อขจัดคราบเครื่องสำอางและสิ่งตกค้าง
- ก่อนทำยกกระชับหน้า Ultra Lift ควรแจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ
- ก่อนทำยกกระชับหน้า Ultra Lift ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีแพทย์ประจำคลินิก
- ก่อนทำยกกระชับหน้า Ultra Lift ควรดื่มน้ำให้เพียงพอในช่วงวันก่อนหน้า เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
- ก่อนทำยกกระชับหน้า Ultra Lift งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดผลไม้, AHA, BHA หรือ Retinol อย่างน้อย 3–5 วัน
- ก่อนทำยกกระชับหน้า Ultra Lift งดสูบบุหรี่ เพราะอาจรบกวนกระบวนการฟื้นฟูผิว
- ก่อนทำยกกระชับหน้า Ultra Lift งดยาในกลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน หรือวิตามินอี อย่างน้อย 3–5 วัน
- ก่อนทำยกกระชับหน้า Ultra Lift งดอาหารเสริมที่อาจทำให้ผิวไวแสง เช่น น้ำมันปลา หรือสมุนไพรบางชนิด
- ก่อนทำยกกระชับหน้า Ultra Lift หลีกเลี่ยงการแว็กซ์ ขัดผิว บริเวณใบหน้า อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- ก่อนทำยกกระชับหน้า Ultra Lift หลีกเลี่ยงการออกแดดจัด และทาครีมกันแดดเป็นประจำในช่วง 3–5 วัน
- ก่อนทำยกกระชับหน้า Ultra Lift หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าจัดในวันเข้ารับบริการ เพื่อให้สะดวกต่อการประเมินผิว
- ก่อนทำยกกระชับหน้า Ultra Lift หลีกเลี่ยงการออกแดดจัด และทาครีมกันแดดเป็นประจำในช่วง 3–5 วัน
ขั้นตอนการทำ Ultra Lift ยกกระชับผิวหน้า
- ก่อนเริ่มการรักษา แพทย์จะทำการวิเคราะห์สภาพผิว โครงหน้า และระดับความหย่อนคล้อยของแต่ละจุด พร้อมวางแผนอย่างเหมาะสมในเชิงลึก
- แพทย์จะเลือกใช้หัวเครื่องมือและตั้งค่าระดับความลึกของคลื่นให้เหมาะกับปัญหาผิว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
- ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างละเอียด เพื่อขจัดคราบเครื่องสำอาง ความมัน และสิ่งสกปรกที่อาจรบกวนการส่งพลังงานของเครื่อง
- ในบางกรณี โดยเฉพาะจุดที่ผิวบอบบาง เช่น รอบดวงตาหรือแนวกรอบหน้า แพทย์อาจพิจารณาทายาชาเพื่อลดความรู้สึกไม่สบายขณะทำ
- ทาเจลนำคลื่นเสียงบนบริเวณที่ทำการรักษา เพื่อช่วยนำพลังงานลงสู่ผิวได้ดีขึ้น และลดแรงเสียดสีระหว่างหัวเครื่องมือกับผิวหน้า
- เริ่มทำยกกระชับ Ultra Lift โดยแพทย์จะนำหัวเครื่องมือแตะลงบนผิวในจุดที่กำหนดไว้ และปล่อยพลังงานคลื่นเสียงให้ลงลึกถึงชั้นผิวที่ต้องการ
- ผู้รับบริการอาจรู้สึกอุ่น ๆ ใต้ผิว ซึ่งเป็นสัญญาณว่าคลื่นพลังงานกำลังลงลึก และเริ่มกระบวนการฟื้นฟูผิว ใช้เวลาทำประมาณ 30–60 นาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ที่รักษา
- เมื่อทำครบทุกจุด แพทย์จะตรวจสอบความเรียบร้อยของผิว และอาจทำการปรับพลังงานเพิ่มเติมบางจุด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสมบูรณ์
- หลังจากทำเสร็จ แพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลผิว เช่น การหลีกเลี่ยงความร้อน การทาครีมบำรุง และแนวทางการปฏิบัติตัวเพื่อคงผลลัพธ์ได้นาน
หลังทำยกกระชับหน้า Ultra Lift ต้องดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง?
- หลังทำยกกระชับหน้า Ultra Lift ควรทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวทุกวัน
- หลังทำยกกระชับหน้า Ultra Lift ควรดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยในการสร้างคอลลาเจน
- หลังทำยกกระชับหน้า Ultra Lift ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยให้การฟื้นฟูผิวเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- หลังทำยกกระชับหน้า Ultra Lift ควรทาครีมกันแดดทุกวันแม้อยู่ในที่ร่ม
- หลังทำยกกระชับหน้า Ultra Lift งดใช้น้ำร้อนล้างหน้าในช่วง 24–48 ชั่วโมงแรก
- หลังทำยกกระชับหน้า Ultra Lift งดกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องเผชิญแสงแดดนาน ๆ เช่น เล่นกีฬา วิ่ง กลางแจ้ง
- หลังทำยกกระชับหน้า Ultra Lift งดการใช้มาส์กหน้าที่มีกรดผลไม้ หรือเนื้อครีมเข้มข้นในช่วงแรก
- หลังทำยกกระชับหน้า Ultra Lift งดสูบบุหรี่ เพราะจะลดประสิทธิภาพของการสร้างคอลลาเจน
- หลังทำยกกระชับหน้า Ultra Lift งดออกกำลังกายหนักที่ทำให้หน้าแดงหรือร้อนจัด อย่างน้อย 1–2 วัน
- หลังทำยกกระชับหน้า Ultra Lift หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวหน้าบ่อย ๆ ในวันแรกหลังทำ
- หลังทำยกกระชับหน้า Ultra Lift หลีกเลี่ยงการขัด ถู หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเม็ดสครับ
- หลังทำยกกระชับหน้า Ultra Lift หลีกเลี่ยงการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของกรด AHA, BHA, เรตินอล ในช่วง 5–7 วันแรก
- หลังทำยกกระชับหน้า Ultra Lift หลีกเลี่ยงการออกแดดจัดโดยตรงในช่วง 3–7 วันแรก
- หลังทำยกกระชับหน้า Ultra Lift หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ใน 24–48 ชั่วโมงแรก
- หลังทำยกกระชับหน้า Ultra Lift หลีกเลี่ยงซาวน่า อบไอน้ำ หรือการแช่น้ำร้อนในช่วง 5 วันแรก
ในยุคที่ความงามสามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด ยกกระชับหน้า Ultra Lift ได้กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหน้าให้ดูเต่งตึง รูปหน้าคมชัด และฟื้นคืนความอ่อนวัย ด้วยเทคโนโลยีคลื่นเสียงความถี่สูงที่สามารถลงลึกถึงชั้น SMAS พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ยกกระชับหน้า Ultra Lift จึงตอบโจทย์ทั้งในด้านผลลัพธ์ ความสบายขณะทำ และการใช้ชีวิตหลังการรักษา
ไม่ว่าคุณจะเริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเพียงเล็กน้อย หรือต้องการยกกระชับปรับรูปหน้าให้คมชัดมากขึ้นโดยไม่ใช้เข็ม ยกกระชับหน้า Ultra Lift ก็สามารถเป็นตัวช่วยที่ดีได้ ทั้งนี้ผลลัพธ์ของการรักษาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับโครงสร้างผิว อายุ พฤติกรรมการใช้ชีวิต และการดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังทำ
ดังนั้น การเลือกเข้ารับบริการในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน พร้อมได้รับการประเมินจากแพทย์จึงถือเป็นขั้นตอนสำคัญ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าการยกกระชับใบหน้าที่คุณเลือกนั้นเหมาะสม และให้ผลลัพธ์ที่ตรงใจในแบบของคุณเอง