ฉีดฟิลเลอร์ดีไหม? ทำไมถึงต้องฉีดฟิลเลอร์ ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

ฉีดฟิลเลอร์ดีไหม

ฉีดฟิลเลอร์ดีไหม? คืออะไร? แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง? 

การฉีดฟิลเลอร์ เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการเติมเต็มความอ่อนเยาว์ และแก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถเห็นผลลัพธ์ได้หลังทำ และย่อยสลายได้เองตามกระบวนการของร่างกาย จึงทำให้การฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นตัวช่วยอันดับแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึง เมื่อต้องการยกกระชับปรับรูปหน้า หรือเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก 

แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ หลายคนอาจมีความลังเล และเกิดความกังวลใจมากมาย บทความนี้ จะพาไปไขข้อสงสัยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ว่า ฉีดฟิลเลอร์ดีไหม? ฉีดฟิลเลอร์เหมาะกับใคร? และฉีดฟิลเลอร์แก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง? พร้อมตอบทุกคำถามที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์ดีไหม? ไขข้อสงสัยก่อนฉีด พร้อมตอบคำถามเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์

 

ฉีดฟิลเลอร์ ดีไหม?
ฉีดฟิลเลอร์ ดีไหม?

 

ฉีดฟิลเลอร์ ดีไหม?

ฉีดฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่สามารถแก้ไขปัญหาผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น ซึ่งเป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปยังชั้นผิว เพื่อเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก เพิ่มปริมาตรให้ผิว และยกกระชับปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนที่ต้องการ ทำให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียน เต่งตึง และอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งสามารถเห็นผลลัพธ์ได้หลังทำ และไม่เสี่ยงอันตราย เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์สามารถย่อยสลายได้ตามกระบวนการของร่างกาย จึงไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในชั้นผิว และลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ได้ นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์ ยังสามารถนำปรับแต่งรูปหน้าได้หลากหลายบริเวณ ไม่ว่าจะเป็นขมับ ใต้ตา หน้าแก้ม ริมฝีปาก หรือคาง เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ และเพิ่มมิติให้กับใบหน้าได้อย่างลงตัว

 

ไขข้อสงสัย ฉีดฟิลเลอร์ คืออะไร?

การฉีดฟิลเลอร์  คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) เข้าไปในชั้นผิวหนัง เพื่อเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก หรือเพิ่มปริมาตรในบริเวณที่เกิดการยุบตัวลงตามวัย ซึ่ง HA เป็นสารสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกาย มีคุณสมบัติหลักในการกักเก็บความชุ่มชื้นเข้าสู่ผิว ทำให้เมื่อทำการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปแล้ว ผิวจะดูชุ่มชื้น อิ่มฟู และเต่งตึงขึ้นหลังฉีด  

 

ฉีดฟิลเลอร์ แก้ปัญหาอะไรบ้าง?
ฉีดฟิลเลอร์ แก้ปัญหาอะไรบ้าง?

 

ฉีดฟิลเลอร์ แก้ปัญหาอะไรบ้าง?

การฉีดฟิลเลอร์ สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้หลากหลายรูปแบบ ดังนี้

  • แก้ปัญหาริ้วรอย และร่องลึก 

การฉีดฟิลเลอร์ สามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอย และร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้าได้ เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา หรือร่องแก้ม เพื่อลดเลือนริ้วรอย และร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น ทำให้ผิวหน้าอ่อนเยาว์อย่างดูเป็นธรรมชาติ

  • แก้ปัญหาโครงสร้างใบหน้าไม่ได้สัดส่วน

การฉีดฟิลเลอร์ สามารถแก้ไขปัญหาโครงสร้างใบหน้าไม่ได้สัดส่วน หรือใบหน้าไม่สมดุลได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่น บริเวณคาง หรือกรอบหน้า เพื่อปรับโครงหน้าให้มีความสมดุล และดูเรียวเล็กมากขึ้น

  • แก้ปัญหาใบหน้าตอบ

การฉีดฟิลเลอร์ สามารถแก้ไขปัญหาใบหน้าตอบ หรือกระดูกทรุดตัวลงตามอายุได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ขมับ หรือแก้มตอบ เพื่อเติมเต็มใบหน้าในบริเวณที่ยุบตัวให้ดูเต็มมากขึ้น ลดความเด่นของโหนกแก้ม ทำให้ใบหน้าดูเด็กลงอย่างเห็นได้ชัด

  • แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย

การฉีดฟิลเลอร์  สามารถแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับได้อย่างเป็นดี ซึ่งสามารถฉีดได้หลายบริเวณ ขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการแก้ไข เช่น บริเวณกรอบหน้า ขมับ หรือโหนกแก้ม เพื่อยกกระชับผิวหน้า ให้กลับมาเต่งตึง และดูอ่อนกว่าวัยอีกครั้ง

  • แก้ปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น

การฉีดฟิลเลอร์  สามารถแก้ไขปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ จึงช่วยในการปรับสภาพผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น ฉ่ำวาว และรูขุมขนเล็กลงอย่างดูเป็นธรรมชาติ

  • แก้ปัญหาผิวขาดวอลลุ่ม

การฉีดฟิลเลอร์  สามารถแก้ไขปัญหาผิวหน้าขาดวอลลุ่ม ดูแก่กว่าวัยได้ เช่น บริเวณใต้ตา หน้าแก้ม หรือริมฝีปาก เพื่อเติมเต็ม และเพิ่มวอลลุ่มในบริเวณที่ฉีด ทำให้กลับมาอิ่มฟู สดใส และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

 

รวมจุดที่นิยมในการฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์ สามารถฉีดได้หลายจุดบนใบหน้า ซึ่งการฉีดแต่ละจุดก็สามารถแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกัน โดยจุดที่นิยมในการฉีดฟิลเลอร์ มีดังนี้

  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก สามารถแก้ไขหน้าผากยุบ หน้าผากบุ๋ม หน้าผากแบน หน้าผากเป็นแอ่ง ทำให้ผิวบริเวณหน้าผากนูนสวย รับกับใบหน้า และตรงตามหลักโหงวเฮ้ง

  • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถเติมเต็มใต้ตาคล้ำ เบ้าตาลึก ใต้ตาโหล ถุงใต้ตา และริ้วรอยรอบดวงตา ทำให้ผิวบริเวณใต้ตามีความอิ่มฟู เรียบเนียน สดใส และดูไม่โทรม

  • ฉีดฟิลเลอร์ขมับ 

การฉีดฟิลเลอร์ขมับ สามารถเติมเต็มขมับตอบ ขมับยุบที่เกิดจากกระดูกทรุดตัวลง หรือไขมันใต้ผิวลดลง ทำให้ผิวบริเวณขมับดูเต็มขึ้น ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย และลดความเด่นของโหนกแก้มลงได้

  • ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ 

การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ สามารถเติมเต็มแก้มที่ตอบจากกระดูกที่ทรุดตัวลง ไขมันใต้ผิวลดลง หรือเกิดจากการลดน้ำหนัก ที่ส่งผลให้ใบหน้าซูบผอม ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดดูอิ่มฟู และอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ ลดความเด่นของโหนกแก้ม

  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม สามารถเติมเต็มร่องแก้มลึก ร่องน้ำหมากจากอายุที่มากขึ้น หรือกระดูกทรุดตัวลง ทำให้ผิวบริเวณร่องแก้มดูตื้นขึ้น มีความอิ่มฟู และดูเต่งตึง

  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก

การฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถเติมเต็มริมฝีปากบาง แก้ไขริมฝีปากคว่ำ ริมฝีปากไม่เท่ากัน หรือริมฝีปากแห้ง ทำให้ริมฝีปากอวบอิ่ม ฉ่ำวาว มีวอลลุ่ม และรูปทรงปากมีความสวยงามมากขึ้น

  • ฉีดฟิลเลอร์คาง 

การฉีดฟิลเลอร์คาง สามารถแก้ไขคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม คางเบี้ยว คางถอย หรือคางไม่เท่ากัน ทำให้งคางมีสัดส่วนที่สมดุลตามต้องการ และมีความยาวมากขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าเรียวเล็ก ดูมีมิติ

 

ฉีดฟิลเลอร์ มีข้อดีอย่างไร?

  • เห็นผลลัพธ์หลังทำ การฉีดฟิลเลอร์ สามารถเห็นผลลัพธ์ได้หลังฉีด เช่น ร่องลึกดูตื้นขึ้น ผิวเต่งตึง ใบหน้าดูสมดุล 
  • แก้ไขปัญหาผิวได้หลายแบบ การฉีดฟิลเลอร์สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้หลายแบบ เช่น เติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก ยกกระชับปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน และเพิ่มปริมาตรให้ผิวในบริเวณที่ยุบตัว
  • ไปเสี่ยงอันตราย เนื่องจากสาร Hyaluronic Acid (HA) ที่ใช้ เป็นสารที่เลียนแบบสารในร่างกาย ทำให้ไม่เสี่ยงอันตราย และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงไม่ก่อให้เกิดอันตราย
  • ไม่ต้องพักฟื้นนาน หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จ สามารถใช้ชีวิต หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่การผ่าตัด จึงไม่เสี่ยงต่อการเกิดรอยแผล และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานหลังฉีด
  • ปรับแก้ง่าย การฉีดฟิลเลอร์สามารถฉีดเพิ่มใหม่ได้เรื่อย ๆ หากผลลัพธ์ที่ได้ยังไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง หรือสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ออกได้ หากไม่พอใจในผลลัพธ์ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ

 

ใครที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์?

  • การฉีดฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอย และร่องลึก ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย
  • การฉีดฟิลเลอร์  เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับปรับรูปหน้า
  • การฉีดฟิลเลอร์  เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยตามอายุ
  • การฉีดฟิลเลอร์  เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มบริเวณที่กระดูกทรุดตัวลง
  • การฉีดฟิลเลอร์  เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้าตอบ เช่น แก้มตอบ ขมับตอบ
  • การฉีดฟิลเลอร์  เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มให้ผิว
  • การฉีดฟิลเลอร์  เหมาะสำหรับผู้ที่ิมีผิวขาดน้ำ ไม่ชุ่มชื้น แต่งหน้าไม่ติด
  • การฉีดฟิลเลอร์  เหมาะสำหรับผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง และหลุมสิว
  • การฉีดฟิลเลอร์  เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์หลังทำ

ทั้งนี้ ควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ และแจ้งประวัติสุขภาพให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด ทั้งประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา หรือประวัติการรักษาก่อนเข้ารับบริการ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงอันตราย

 

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรเตรียมตัวอย่างไร? 

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรปรึกษาแพทย์ที่มีความรู้ และประสบการณ์โดยตรง เพื่อให้แพทย์ประเมินใบหน้า พร้อมให้คำแนะนำที่เหมาะสมสำหรับปัญหาที่ต้องการแก้ไข

  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์  งดใช้ยาที่ส่งผลให้เลือดออกง่าย

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ งดรับประทานยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด หรือทำให้เลือดออกง่าย เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน หรือยาที่สกัดจากโสม ขิง กระเทียม อย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ก่อนฉีด

  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ งดดื่มแอลกอฮอล์

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ เพื่อไม่ให้เกิดอาการบวม หรือรอยช้ำ อย่างน้อย 24 – 48 ชั่วโมงก่อนฉีด

  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์  งดออกกำลังกายหนัก

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ งดออกกำลังกายอย่างหนัก หรือออกกำลังกายแบบหักโหม เพื่อไม่ให้เกิดอาการบวมช้ำ อย่างน้อย 24 – 48 ชั่วโมงก่อนฉีด

  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์  งดทำเลเซอร์บนใบหน้า

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ งดการทำเลเซอร์ ทรีตเมนต์ สครับ หรือผลัดเซลล์ผิว เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองบริเวณผิวหน้า อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนฉีด 

 

หลังการฉีดฟิลเลอร์ ควรดูแลตัวเองอย่างไร?
หลังการฉีดฟิลเลอร์ ควรดูแลตัวเองอย่างไร?

 

หลังการฉีดฟิลเลอร์ ควรดูแลตัวเองอย่างไร?

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ หลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้า

หลังการฉีดฟิลเลอร์ หลีกเลี่ยงการสัมผัส จับ นวด แกะ หรือกดทับในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพื่อไม่ให้สาร Hyaluronic Acid (HA) เคลื่อนตัว หรือเสียรูปทรง อย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์หลังฉีด

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรนอนยกศีรษะสูง

หลังการฉีดฟิลเลอร์ ควรนอนยกศีรษะสูงกว่าระดับหน้าอก เพื่อไม่ให้เกิดอาการบวม และไม่ให้ สาร Hyaluronic Acid (HA) เกิดการเคลื่อนตัว อย่างน้อย 24 – 48 วันหลังฉีด

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ งดดื่มแอลกอฮอล์

หลังการฉีดฟิลเลอร์ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ เพื่อไม่ให้เกิดอาการบวม หรือรอยช้ำ อย่างน้อย 24 – 48 ชั่วโมงหลังฉีด

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ งดออกกำลังกายหนัก

หลังการฉีดฟิลเลอร์ งดออกกำลังกายอย่างหนัก หรือออกกำลังกายแบบหักโหม เพื่อไม่ให้เกิดอาการบวมช้ำ หรืออักเสบ อย่างน้อย 24 – 48 ชั่วโมงหลังฉีด

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ งดอาหารหมักดอง

หลังการฉีดฟิลเลอร์ งดการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารรสจัด หรืออาหารดิบ เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อ หรืออักเสบ อย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังฉีด

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ งดโดนความร้อน

หลังการฉีดฟิลเลอร์ งดกิจกรรมที่โดนความร้อน หรือแสงแดดจัดโดยตรง เพื่อไม่ให้สาร Hyaluronic Acid (HA) สลายตัวเร็ว อย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์หลังฉีด

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรดื่มน้ำให้มากๆ

หลังการฉีดฟิลเลอร์ ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ เนื่องจากสาร Hyaluronic Acid (HA) ในฟิลเลอร์ มีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้น หากดื่มน้ำให้เพียงพอ สาร HA จะยิ่งอุ้มน้ำได้ดีขึ้น ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดฟิลเลอร์
ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดฟิลเลอร์

 

ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดฟิลเลอร์

  • การฉีดฟิลเลอร์ ช่วยลดเลือนริ้วรอย ร่องลึกบนใบหน้า
  • การฉีดฟิลเลอร์ ช่วยให้รูปหน้ามีสัดส่วนที่สมดุล
  • การฉีดฟิลเลอร์ ช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึงมากขึ้น
  • การฉีดฟิลเลอร์ ช่วยให้ผิวอิ่มฟู ดูมีวอลลุ่ม
  • การฉีดฟิลเลอร์ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ฉ่ำวาว
  • การฉีดฟิลเลอร์ ช่วยให้รูขุมขนเล็กลง ผิวเรียบเนียน
  • การฉีดฟิลเลอร์ ช่วยให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ ดูเด็กลง
  • การฉีดฟิลเลอร์ ช่วยให้ริมฝีปากอวบอิ่ม มีความโดดเด่น
  • การฉีดฟิลเลอร์ ช่วยให้ใต้ตาสดใส ลดความหมองคล้ำ

 

ผลข้างเคียงทั่วไปจากการฉีดฟิลเลอร์
ผลข้างเคียงทั่วไปจากการฉีดฟิลเลอร์

 

ผลข้างเคียงทั่วไปจากการฉีดฟิลเลอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์ อาจเกิดผลข้างเคียงในบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย โดยผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นบ่อย มีดังนี้

  • เกิดอาการบวมแดง หลังฉีดฟิลเลอร์อาจเกิดอาการบวมแดงในบริเวณที่ฉีด ซึ่งอาการบวมเหล่านี้ จะค่อย ๆ ยุบลง และดีขึ้น ภายใน 2 – 3 วันหลังฉีด สามารถประคบเย็นเบาๆ เพื่อลดอาการบวมลงได้
  • เกิดอาการเขียวช้ำ หลังฉีดฟิลเลอร์อาจเกิดอาการเขียวช้ำ หรือรอยฟกช้ำในบริเวณที่ฉีด ซึ่งอาการเขียวช้ำนี้ จะค่อย ๆ จางลง และดีขึ้น ภายใน 1 – 2 สัปดาห์หลังฉีด
  • เกิดอาการปวดตึง หลังฉีดฟิลเลอร์อาจเกิดอาการปวดตึง หรือปวดระบมในบริเวณที่ฉีด ซึ่งอาการปวดนี้ จะค่อย ๆ ลดลง และดีขึ้น ภายใน 2 – 3 วันหลังฉีด

 

ผลข้างเคียงอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์

ผลข้างเคียงอันตรายของการฉีดฟิลเลอร์ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม หรือฉีดฟิลเลอร์กับหมอเถื่อน ภายในคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เกิดผลข้างเคียงอันตราย ดังนี้

  • เกิดอาการบวมรุนแรง การฉีดฟิลเลอร์ปลอม หรือการฉีดฟิลเลอร์กับหมอเถื่อน อาจเกิดการบวมแดงรุนแรง หรือปวดมากผิดปกติ แนะนำให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน
  • เกิดอาการใบหน้าผิดรูป การฉีดฟิลเลอร์ปลอม หรือการฉีดฟิลเลอร์กับหมอเถื่อน อาจเกิดการไหลย้อย และเป็นก้อน ทำให้ใบหน้าบิดเบี้ยว หรือใบหน้าผิดรูปได้ แนะนำให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน
  • เกิดอาการอุดตันเส้นเลือด การฉีดฟิลเลอร์ปลอม หรือการฉีดฟิลเลอร์กับหมอเถื่อน อาจเกิดการเข้าไปอุดตันในเส้นเลือด ทำให้ผิวบริเวณนั้นขาดเลือด จนผิวเปลี่ยนสี และเกิดเป็นเนื้อตาย หากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาโดยด่วน
  • เกิดอาการติดเชื้อ การฉีดฟิลเลอร์ปลอม หรือการฉีดฟิลเลอร์กับหมอเถื่อน อาจเกิดการติดเชื้อ เช่น บวมแดง ปวด หรือมีหนองในบริเวณที่ฉีด ซึ่งมาจากการฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน และมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค ทำให้ผิวหนังบริเวณที่ฉีดติดเชื้อ แนะนำให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน
  • เกิดอาการแพ้รุนแรง การฉีดฟิลเลอร์ปลอม หรือการฉีดฟิลเลอร์กับหมอเถื่อน อาจเกิดการแพ้รุนแรง เช่น ผื่นแดง คัน บวม หายใจติดขัด หรือหัวใจเต้นผิดปกติ ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบทำการรักษาโดยด่วน 

 

ฉีดฟิลเลอร์ อันตรายไหม?

การฉีดฟิลเลอร์ ไม่เสี่ยงอันตราย หากใช้สารเติมเต็มแท้ประเภท Hyaluronic Acid (HA) เนื่องจากสาร HA เป็นสารที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่คงอยู่ถาวร จึงไม่เกิดการตกค้างในชั้นผิว ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เสี่ยงอันตราย และที่สำคัญหากฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีความรู้ และประสบการณ์ ยิ่งจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงอันตราย

 

Q&A เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์ อยู่ได้นานไหม?

  • ระยะเวลาในการคงอยู่หลังการฉีดฟิลเลอร์ โดยเฉลี่ยแล้ว สามารถอยู่ได้นาน ประมาณ 6 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งยี่ห้อที่ใช้ ประเภทของฟิลเลอร์ บริเวณที่ต้องการฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีด เป็นต้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจฉีด

 

ฉีดฟิลเลอร์ กี่วันถึงจะเห็นผล?

  • หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จ จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้หลังฉีด แต่จะมีอาการบวมอยู่เล็กน้อยในช่วงแรก ต้องรอให้อาการบวมค่อย ๆ ลดลง และสาร Hyaluronic Acid (HA) เริ่มเข้าที่ สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มที่ ภายใน 2 – 4 สัปดาห์ เมื่อสาร HA เซตตัวเข้ากับผิวอย่างสมบูรณ์ 

 

ฉีดฟิลเลอร์ ควรฉีดกี่ CC?

  • ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ โดยส่วนใหญ่ จะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด และปัญหาที่ต้องการแก้ไข ซึ่งในแต่ละบริเวณก็จะใช้ปริมาณสารที่แตกต่างกันออกไป เช่น บริเวณใต้ตาจะใช้ปริมาณ ประมาณ 1 – 2 CC หรือบริเวณร่องแก้มจะใช้ปริมาณ ประมาณ 1 – 3 CC ทั้งนี้ แนะนำให้แพทย์ประเมินผิวหน้าก่อนตัดสินใจ เพื่อคำนวณปริมาณที่เหมาะสมกับบริเวณที่ต้องการฉีด

 

ใครที่ไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์?

  • การฉีดฟิลเลอร์ ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้สารประกอบในฟิลเลอร์
  • การฉีดฟิลเลอร์ ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเลือดไหลออกง่าย
  • การฉีดฟิลเลอร์ ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
  • การฉีดฟิลเลอร์ ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการติดเชื้อในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ 
  • การฉีดฟิลเลอร์ ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางภูมิคุ้มกัน
  • การฉีดฟิลเลอร์ ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหนังอักเสบในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ 

ทั้งนี้ ควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ และแจ้งประวัติสุขภาพให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด ทั้งประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา หรือประวัติการรักษาก่อนเข้ารับบริการ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงอันตราย

 

ฉีดสลายฟิลเลอร์ คืออะไร?

  • การฉีดสลายฟิลเลอร์ คือ การฉีดสารเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) เข้าไปยังบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพื่อแก้ไขปัญหาฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ฉีดฟิลเลอร์แล้วผิวไม่เรียบเนียน หรือฉีดฟิเลอร์แล้วไม่พอใจในผลลัพธ์ ซึ่งเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดสนี้ สามารถย่อยสลายฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ได้เท่านั้น ไม่สามารถย่อยสลายฟิลเลอร์ปลอมประเภทซิลิโคนเหลว หรือพาราฟินได้ โดยสารเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดสนี้ จะทำปฏิริยากับโมเลกุลของ HA ทำให้สารค่อย ๆ สลายตัว จนผิวกลับมาเรียบเนียน ใกล้เคียงกับก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์

 

จะเห็นได้ชัดเลยว่า การฉีดฟิลเลอร์ ถือเป็นตัวช่วยที่ดี และมีประสิทธิภาพสำหรับการแก้ไขปัญหาผิว ทั้งการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก ยกกระชับปรับรูปหน้า และเพิ่มปริมาตรให้ผิว เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ไม่เสี่ยงอันตราย สามารถสลายได้เองตามกระบวนการของร่างกาย และขั้นตอนในการฉีดไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนาน ที่สำคัญคือ ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และดูเป็นธรรมชาติหลังฉีด โดยที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย แต่อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ เพื่อสอบถามทุกข้อสงสัย และประเมินปัญหาผิวหน้า พร้อมวางแผนการฉีดฟิลเลอร์อย่างเหมาะสม ตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง