ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน? แต่ละยี่ห้ออยู่ได้นานต่างกันไหม? ขึ้นอยู่กับอะไร?

ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน

การฉีดฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่ช่วยเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก ยกกระชับปรับรูปหน้า และเพิ่มวอลลุ่มให้ผิว ซึ่งในปัจจุบันฟิลเลอร์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลาย ๆ คนมักเกิดความสงสัยว่า ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน? แล้วระยะเวลาขึ้นอยู่กับอะไร? ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้ออยู่ได้นานแตกต่างกันไหม? บทความนี้ รมย์รวินท์คลินิกรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาคงอยู่ของฟิลเลอร์มาไว้ให้แล้ว พร้อมแนะนำวิธีที่ช่วยให้ฟิลเลอร์คงอยู่ได้นานขึ้น

 

ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน?
ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน?

 

ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน?

โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่ได้มาตรฐาน และได้รับการรับรองจาก อย. จะสามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 6 – 24 เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ ตำแหน่งที่ฉีด สภาพผิวแต่ละบุคคล และการดูแลตัวเองหลังฉีด โดยฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อจะมีความแข็ง ความยืดหยุ่น ค่าการอุ้มน้ำ การกระจายตัว จำนวนการเชื่อมพันธะ และขนาดอนุภาคที่แตกต่างกัน ซึ่งล้วนส่งผลให้ระยะเวลาคงอยู่ และลักษณะการใช้งานของฟิลเลอร์แต่ละชนิดแตกต่างกันออกไปด้วย

 

ฉีดฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานขึ้นอยู่กับอะไร?
ฉีดฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานขึ้นอยู่กับอะไร?

 

ฉีดฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานขึ้นอยู่กับอะไร?

โดยทั่วไปฟิลเลอร์จะคงอยู่ได้นาน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งปัจจัยหลัก ๆ ที่มีผลต่อระยะเวลาคงอยู่ของฟิลเลอร์ มีดังนี้

  • ยี่ห้อของฟิลเลอร์

โดยทั่วไปแล้วฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อจะมีเทคโนโลยี และกระบวนการผลิตที่แตกต่างกัน ทำให้ได้คุณสมบัติ และลักษณะเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกัน ทั้งในเรื่องมีความแข็ง ความยืดหยุ่น ค่าการอุ้มน้ำ การกระจายตัว จำนวนการเชื่อมพันธะ และขนาดอนุภาคของฟิลเลอร์ ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ล้วนส่งผลโดยตรงต่อระยะเวลาคงอยู่ของฟิลเลอร์ รวมไปถึงลักษณะการใช้งานของฟิลเลอร์ในแต่ละบริเวณของใบหน้า

  • ตำแหน่งที่ฉีด 

โดยทั่วไปแล้วตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์ จะมีผลต่อระยะเวลาคงอยู่ของฟิลเลอร์โดยตรง โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการขยับ หรือเคลื่อนไหวบ่อย เช่น ริมฝีปาก หรือร่องแก้ม ฟิลเลอร์มักจะสลายตัวได้เร็วกว่าบริเวณอื่น ๆ  เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีการสัมผัสกับความร้อนโดยตรง และมีการขยับกล้ามเนื้ออยู่ตลอดเวลา ส่งผฃให้เกิดแรงกดทับ และกระตุ้นให้เอนไซม์ในร่างกายย่อยสลายฟิลเลอร์ได้เร็วขึ้น ในขณะที่บริเวณที่มีการเคลื่อนไหวน้อย เช่น ขมับ แก้มตอบ หรือคาง ฟิลเลอร์จะสามารถคงอยู่ได้นานกว่า เนื่องจากเนื้อเยื่อมีความคงที่ และไม่ถูกกดทับบ่อย นอกจากนี้ระดับความลึกของชั้นผิวที่ฉีดฟิลเลอร์ก็มีผลเช่นเดียวกัน โดยฟิลเลอร์ที่ฉีดผิวชั้นลึก หรือฉีดชั้นกระดูกมักจะคงอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดผิวชั้นตื้น

  • การดูแลตัวเองหลังฉีด 

โดยทั่วไปแล้วการดูแลตัวเองหลังฉีด มีผลอย่างมากต่อระยะเวลาคงอยู่ของฟิลเลอร์ เนื่องจากฟิลเลอร์ประเภท HA เป็นสารเติมเต็มที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ หากใช้ชีวิต หรือปฏิบัติตัวไม่เหมาะสม ก็จะยิ่งทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วขึ้น โดยในช่วงแรกแพทย์มักจะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัส นวด หรือกดทับบริเวณที่ฉีด พร้อมทั้งงดการออกกำลังกายหนัก งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด งดการโดนแสงแดด และความร้อนสูง รวมไปถึงงดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งการปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ไม่สลายตัวเร็ว และทำให้ผลลัพธ์คงอยู่นานขึ้นได้

  • เทคนิคการฉีดของแพทย์

โดยทั่วไปแล้วเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ของแพทย์ ก็มีผลต่อระยะเวลาคงอยู่ของฟิลเลอร์เช่นเดียวกัน หากเลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างใบหน้า แพทย์จะสามารถเลือกชนิดของฟิลเลอร์ วางตำแหน่งที่ฉีด และความลึกของชั้นผิวได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะช่วยให้ฟิลเลอร์กระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอ เรียบเนียนไปกับผิว และคงอยู่ได้นานขึ้นได้ ในขณะที่หากฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง ฉีดผิดชั้นผิว และใช้เทคนิคในการฉีดที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วกว่าปกติ และเกิดผลข้างเคียงตามมาได้

  • ระดับการเผาผลาญของร่างกาย

โดยทั่วไปแล้วระดับการเผาผลาญของร่างกาย ก็มีผลต่อระยะเวลาคงอยู่ของฟิลเลอร์เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่มีอัตราการเผาผลาญสูง จะทำให้ฟิลเลอร์มักจะสลายตัวได้เร็วกว่าปกติ ในขณะที่ผู้ที่มีการเผาผลาญช้ากว่า จะทำให้ฟิลเลอร์จะสามารถคงอยู่ได้นานขึ้น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยร่วมกัน

 

ฉีดฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้ออยู่ได้นานไหม?
ฉีดฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานขึ้นอยู่กับอะไร?

 

ฉีดฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้ออยู่ได้นานไหม?

โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ และแต่ละรุ่นจะมีระยะเวลาคงอยู่ไม่เท่ากัน ดังนี้

 

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm อยู่ได้นานแค่ไหน?

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm เป็นฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกาที่มีจุดเด่นเรื่องเทคโนโลยีการผลิตถึง 2 แบบ ได้แก่ เทคโนโลยี HYLACROSS ช่วยให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น อุ้มน้ำสูง ฉีดแล้วฟูได้ดี และเทคโนโลยี VYCROSS ช่วยให้ฟิลเลอร์ยึดเกาะได้ดี บวมน้ำน้อย เรียบเนียนไปกับผิว ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วผลลัพธ์จะสามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 8 – 24 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ ดังนี้

  • Juvederm Ultra คงอยู่นานประมาณ 8 – 12 เดือน
  • Juvederm Ultra Plus คงอยู่นานประมาณ 12 เดือน
  • Juvederm Volite คงอยู่นานประมาณ 8 – 12 เดือน
  • Juvederm Volift คงอยู่นานประมาณ 12 เดือน
  • Juvederm Volbella คงอยู่นานประมาณ 12 เดือน
  • Juvederm Voluma คงอยู่นานประมาณ 18 เดือน
  • Juvederm Volux คงอยู่นานประมาณ 18 – 24 เดือน

 

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane อยู่ได้นานแค่ไหน?

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane เป็นฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดนที่มีจุดเด่นเรื่องเทคโนโลยีการผลิตถึง 2 แบบ ได้แก่ เทคโนโลยี NASHA ช่วยให้ฟิลเลอร์คงตัว ขึ้นรูปได้ดี ไม่ไหลไปยังบริเวณอื่นง่าย และเทคโนโลยี OBT ช่วยให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง กลมกลืนไปกับผิว ให้ผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วผลลัพธ์จะสามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 6 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ ดังนี้

  • Restylane Vital Light คงอยู่นานประมาณ 6 – 12 เดือน
  • Restylane Vital คงอยู่นานประมาณ 12 เดือน
  • Restylane Classic คงอยู่นานประมาณ 12 เดือน
  • Restylane Perlane Lyft คงอยู่นานประมาณ 12 เดือน
  • Restylane Refyne คงอยู่นานประมาณ 12 เดือน
  • Restylane Kysse คงอยู่นานประมาณ 12 เดือน
  • Restylane Defyne คงอยู่นานประมาณ 18 เดือน
  • Restylane Volyme คงอยู่นานประมาณ 18 เดือน

 

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero อยู่ได้นานแค่ไหน?

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero เป็นฟิลเลอร์สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ที่มีจุดเด่นเรื่องเทคโนโลยีการผลิตที่ชื่อว่า CPM ซึ่งมาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษถึง 3 ประการ ได้แก่ Cohesivity ช่วยให้ฟิลเลอร์คงตัวได้ดี, Elasticity ช่วยให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง และ Plasticity ช่วยให้ฟิลเลอร์ปรับรูปทรงง่าย ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วผลลัพธ์จะสามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 6 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ ดังนี้

  • Belotero Intense คงอยู่นานประมาณ 18 เดือน
  • Belotero Volume คงอยู่นานประมาณ 18 เดือน
  • Belotero Balance คงอยู่นานประมาณ 6 – 12 เดือน
  • Belotero Revive คงอยู่นานประมาณ 6 – 9 เดือน
  • Belotero Lips – Shape คงอยู่นานประมาณ 9 – 12 เดือน
  • Belotero Lips – Contour คงอยู่นานประมาณ 9 – 12 เดือน

 

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Definisse อยู่ได้นานแค่ไหน?

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Definisse เป็นฟิลเลอร์สัญชาติอิตาลีที่มีจุดเด่นเรื่องเทคโนโลยีการผลิตที่ชื่อว่า XTR™ ซึ่งเป็นการผสานโมเลกุล HA ให้กลายเป็นร่างแห ทำให้สามารถนำมายกพยุง และปรับปรุงโครงสร้างใบหน้าได้อย่างแลดูเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังผ่านกระบวนการกำจัดสารเชื่อมพันธะอย่าง BDDE ทำให้ได้ HA ที่มีความบริสุทธิ์สูง และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ โดยเฉลี่ยแล้วผลลัพธ์จะสามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 12 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ ดังนี้

  • Definisse Core คงอยู่นานประมาณ 18 เดือน
  • Definisse Restore คงอยู่นานประมาณ 12 เดือน
  • Definisse Touch คงอยู่นานประมาณ 12 เดือน

 

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Neauvia อยู่ได้นานแค่ไหน?

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Neauvia เป็นฟิลเลอร์สัญชาติอิตาลีที่มีจุดเด่นเรื่องเทคโนโลยีการผลิตที่ชื่อว่า SXT ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคงตัวของฟิลเลอร์ ทำให้สามารถขึ้นรูป และปรับรูปทรงได้ดี นอกจากนี้ยังมีการใช้สาร PEG ในกระบวนการเชื่อมพันธะ แทนการใช้สาร BDDE ทำให้ได้ HA มีความยืดหยุ่น สามารถทนต่อความร้อนได้ดี และช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการแพ้ ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วผลลัพธ์จะสามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 6 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ ดังนี้

  • Neauvia Intense คงอยู่นานประมาณ 12 เดือน
  • Neauvia Stimulate คงอยู่นานประมาณ 12 เดือน
  • Neauvia Hydro Deluxe คงอยู่นานประมาณ 6 – 9 เดือน

 

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Ultra V Hyal อยู่ได้นานแค่ไหน?

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Ultra V Hyal เป็นฟิลเลอร์สัญชาติเกาหลีใต้ที่มีจุดเด่นเรื่องเทคโนโลยีการผลิตที่ชื่อว่า R Square ซึ่งเป็นการใช้กรรมวิธี Rotation และ Revolution ช่วยผสาน HA ทั้ง 2 ส่วนเข้าด้วยกัน ได้แก่ Monophasic และ Biphasic ทำให้ได้เนื้อเจลแบบ Multi-Layered ที่สามารถฉีดง่าย เจ็บน้อย และคงอยู่ได้ยาวนาน นอกจากนี้ยังมีค่า MOD ต่ำ จึงช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการแพ้ และไม่ก่อให้เกิดก้อนหลังฉีด ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วผลลัพธ์จะสามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 6 – 24 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ ดังนี้

  • Ultra V Hyal Hard คงอยู่นานประมาณ 16 – 24 เดือน 
  • Ultra V Hyal Medium คงอยู่นานประมาณ 8 – 16 เดือน 
  • Ultra V Hyal Fine คงอยู่นานประมาณ 6 – 8 เดือน 

 

เลือกฉีดฟิลเลอร์อย่างไรให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน?
เลือกฉีดฟิลเลอร์อย่างไรให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน?

 

เลือกฉีดฟิลเลอร์อย่างไรให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน?

  • เลือกฉีดฟิลเลอร์แท้ประเภท HA ที่มีคุณภาพ และเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก องค์การอาหารและยา (อย.)
  • เลือกชนิดฟิลเลอร์ให้เหมาะกับบริเวณที่ฉีด เช่น ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มมักจะเหมาะสำหรับฉีดในบริเวณที่มีการขยับบ่อย ส่วนฟิลเลอร์เนื้อแข็งมักจะเหมาะสำหรับฉีดเพื่อยกกระชับปรับรูปหน้า ในขณะที่ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดมักจะเหมาะสำหรับฉีดผิวชั้นตื้น หรือเก็บรายละเอียดงานผิว
  • เลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับฟิลเลอร์ เพื่อให้แพทย์สามารถใช้เทคนิคในการฉีดที่เหมาะสม และวางตำแหน่งที่ฉีดได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้ฟิลเลอร์กระจายตัวได้ดี แนบสนิทกับผิว และผลลัพธ์คงอยู่ยาวนาน
  • เลือกฉีดฟิลเลอร์ภายในคลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน และมีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

 

หลังฉีดฟิลเลอร์ดูแลตัวเองอย่างไรให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน?
หลังฉีดฟิลเลอร์ดูแลตัวเองอย่างไรให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน?

 

หลังฉีดฟิลเลอร์ดูแลตัวเองอย่างไรให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน?

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ หลีกเลี่ยงการสัมผัส นวด หรือกดทับบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง หรือสลายตัวเร็ว
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ งดโดนความร้อนจัด และแสงแดดโดยตรง รวมถึงงดอยู่ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูงมาก ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วกว่าเดิม
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันผลข้างเคียง และไม่ให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วกว่าเดิม
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ งดออกกำลังกายหนัก หรือทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เนื่องจากการออกกำลังกายจะเป็นการเร่งการเผาผลาญ ทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วขึ้นกว่าเดิม
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ งดทำทรีตเมนต์ และเลเซอร์ที่ใช้ความร้อนสูง เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วกว่าเดิม
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ งดรับประทานอาหารรสจัด ของหมักดอง และอาหารดิบ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เกิดอาการบวม อักเสบ และติดเชื้อ รวมถึงผลลัพธ์ไม่คงทนเท่าที่ควร
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ ประมาณ 1.5 – 2 ลิตรต่อวัน เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ หากดื่มน้ำสม่ำเสมอจะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูอย่างเต็มที่ และทำให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานขึ้น
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 7 – 8 ชั่วโมงต่อวัน รวมถึงเลือกหนุนหมอนที่สามารถรองรับศีรษะ และลำคอได้ดี เพื่อลดแรงกดทัดในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรปกป้องผิวจากแสงแดด โดยการใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงทุกวัน แม้ในวันที่อยู่บ้าน เพื่อป้องกันผิวจากรังสี UV ซึ่งเป็นตัวการที่เร่งให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็ว

 

ความร้อนส่งผลต่อฟิลเลอร์อย่างไร?

ความร้อน ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็ว ซึ่งแพทย์มักจะแนะนำให้งดโดนความร้อน หรือแสงแดดจัด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นช่วงที่ฟิลเลอร์ยังไม่เซตตัวอย่างเต็มที่ โดยความร้อนส่งผลต่อฟิลเลอร์ ดังนี้

  • เร่งการสลายตัวของฟิลเลอร์

โดยทั่วไปฟิลเลอร์ประเภท HA เป็นสารเติมเต็มที่สามารถย่อยสลายได้เอง ด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase ที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ แต่เมื่อร่างกายมีการสัมผัสกับความร้อน แสงแดด หรืออยู่ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน เช่น เข้าซาวน่า อบไอน้ำ ทำเลเซอร์ หรือแม้แต่การออกกำลังกายหนัก ก็จะยิ่งกระตุ้นให้เอนไซม์นี้ทำงานเร็วขึ้นกว่าปกติ ส่งผลให้ฟิลเลอร์ถูกย่อยสลายเร็วขึ้น และมีอายุการใช้งานสั้นลง

  • โครงสร้างฟิลเลอร์เปลี่ยนแปลง

โดยทั่วไปในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดฟิลเลอร์ จะเป็นช่วงเวลาที่ฟิลเลอร์ยังไม่เซตตัวเข้ากับผิวอย่างสมบูรณ์ หากร่างกายได้รับความร้อนสูงเกินไป ก็จะยิ่งทำให้ฟิลเลอร์กระจายตัวไม่สม่ำเสมอ และเคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้ง่าย ส่งผลให้ผลลัพธ์ไม่เรียบเนียน และฟิลเลอร์เสียรูปทรงได้

  • ลดประสิทธิภาพของฟิลเลอร์

โดยทั่วไปฟิลเลอร์ประเภท HA เป็นสารเติมเต็มที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ เพื่อช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น และดูอิ่มฟู แต่เมื่อร่างกายได้รับความร้อนสูงเกินไป ไม่ว่าจะเป็นจากแสงแดด ออกกำลังกายหนัก หรืออยู่ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูง ก็จะทำให้พันธะที่เชื่อมโมเลกุล HA ถูกทำลาย และอ่อนตัวลง จนฟิลเลอร์สูญเสียความสามารถในการกักเก็บน้ำ ส่งผลให้ผิวบริเวณที่ฉีดมีความแห้ง ยุบตัว และไม่แน่นฟูเหมือนเดิม

 

ฉีดฟิลเลอร์ตำแหน่งไหนสลายเร็ว?

โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งที่มีการเคลื่อนไหว หรือขยับบ่อย มักจะทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวได้เร็วกว่าตำแหน่งที่มีการเคลื่อนไหวน้อย ดังนี้

  • ริมฝีปาก

การฉีดฟิลเลอร์บริเวณริมฝีปาก เป็นตำแหน่งที่ฟิลเลอร์มักสลายตัวเร็วกว่าบริเวณอื่น ๆ เนื่องจากเป็นจุดที่มีการขยับ และเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ทั้งการพูด การยิ้ม การรับประทานอาหาร หรือแม้แต่การดื่มน้ำ นอกจากนี้บริเวณริมฝีปาก ยังเป็นจุดที่มักสัมผัสกับความร้อนโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นจากการรับประทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มที่ร้อนจัด ส่งผลให้ฟิลเลอร์สลายตัวได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังฉีด ซึ่งเป็นช่วงที่ฟิลเลอร์ยังไม่เซตตัวเข้ากับผิวอย่างสมบูรณ์

  • ร่องแก้ม

การฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้ม เป็นตำแหน่งที่ฟิลเลอร์มักสลายตัวเร็วเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นจุดที่มีการแสดงสีหน้า และเคลื่อนไหวเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นจากการพูด การยิ้ม หรือหัวเราะ ทำให้ฟิลเลอร์ถูกกดทับ และบีบอัดอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้ฟิลเลอร์สลายตัวได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังฉีด ซึ่งเป็นช่วงที่ฟิลเลอร์ยังไม่เซตตัวเข้ากับผิวอย่างสมบูรณ์

  • รอบดวงตา

การฉีดฟิลเลอร์บริเวณรอบดวงตา เป็นตำแหน่งที่ฟิลเลอร์มักสลายตัวเร็วเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นจุดที่มีการแสดงสีหน้า และเคลื่อนไหวเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นจากการยิ้ม หัวเราะหรี่ตา หรือกะพริบตา ทำให้ฟิลเลอร์ถูกกดทับ และขยับซ้ำ ๆ นอกจากนี้ผิวบริเวณรอบดวงตา มักมีความบอบบางกว่าบริเวณอื่น ๆ ทำให้ฟิลเลอร์ทนต่อแรงกดทับได้น้อยกว่า ส่งผลให้ฟิลเลอร์สลายตัวได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังฉีด ซึ่งเป็นช่วงที่ฟิลเลอร์ยังไม่เซตตัวเข้ากับผิวอย่างสมบูรณ์

 

ฉีดฟิลเลอร์แล้วสลายเร็วอันตรายไหม?

โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์แล้วสลายเร็วถือว่าไม่อันตรายต่อร่างกาย แต่ก็ส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ และทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายโดยสิ้นเปลือง เพื่อฉีดฟิลเลอร์บ่อยขึ้น เนื่องจากฟิลเลอร์ประเภท HA เป็นสารเติมเต็มที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติอยู่แล้ว หากฟิลเลอร์สลายตัวเร็ว ก็จะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่คงที่ ผิวดูไม่เรียบเนียน และไม่อิ่มฟูเหมือนในช่วงที่ฉีดแรก ๆ รวมทั้งยังทำให้ใบหน้าจะกลับคืนสู่สภาพเดิมเร็วขึ้น จนส่งผลให้รู้สึกไม่พึงพอใจในผลลัพธ์ได้

 

ฉีดฟิลเลอร์ได้บ่อยแค่ไหน?

โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์สามารถฉีดซ้ำได้เรื่อย ๆ เมื่อรู้สึกว่าฟิลเลอร์เดิมเริ่มสลาย หรือในกรณีที่ฉีดไปแล้วยังไม่พึงพอใจในผลลัพธ์ เช่น ต้องการเพิ่มวอลลุ่มมากขึ้น แต่แนะนำให้เว้นระยะเวลา ประมาณ 2 – 4 สัปดาห์หลังจากฉีดครั้งแรก จึงค่อยกลับมาฉีดเพิ่ม เพื่อรอให้ฟิลเลอร์เซตตัวเข้ากับผิวอย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ และไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ซ้ำบ่อยจนเกินไป เนื่องจากอาจทำให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน และเกิดภาวะ Overfilled Syndrome ได้

 

จะเห็นได้ว่า ระยะเวลาคงอยู่ของฟิลเลอร์นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ ตำแหน่งที่ฉีด เทคนิคของแพทย์ สภาพผิวแต่ละบุคคล และการดูแลตัวเองหลังฉีด ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วฟิลเลอร์จะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 – 24 เดือน หากต้องการให้ผลลัพธ์ยาวนานมากขึ้น แนะนำให้ศึกษาหาข้อมูลก่อนฉีด และปฏิบัติตัวตามแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งการหลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณที่ฉีด งดโดนความร้อน งดออกกำลังกายหนัก งดทำเลเซอร์ งดสูบบุหรี่ และงดดื่มแอลกอฮอล์ รวมไปถึงควรดื่มน้ำให้มาก ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และทาครีมกันแดดทุกวัน ซึ่งการปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างเต็มที่ และทำให้ฟิลเลอร์คงอยู่ได้นานขึ้นได้

 

*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด