ร่องแก้มลึก ปัญหาที่ใครหลายคนรู้สึกไม่มั่นใจ เพราะจะทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า แก่กว่าวัย และเสียความสดใสอย่างเห็นได้ชัด แม้จะพยายามดูแลผิวให้ดีแค่ไหน แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้น คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวก็ลดลงตามธรรมชาติ ทำให้ร่องแก้ปรากฏชัดขึ้นเรื่อย ๆ นี่จึงเป็นเหตุผลที่หลายคนเริ่มมองหาวิธีแก้ไขอย่างจริงจัง
ในปัจจุบันมีหลากหลายเทคนิคที่ช่วยลดร่องแก้มและฟื้นฟูความอ่อนวัยให้ใบหน้า ซึ่งสองวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก คือ เครื่องยกกระชับร่องแก้ม และ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ทั้งสองวิธีนี้ต่างมีข้อดี ข้อจำกัด และกลุ่มคนที่เหมาะสมแตกต่างกัน บางคนอาจเหมาะกับการใช้เทคโนโลยีเครื่องมือที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ขณะที่บางคนอาจต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วจากการฉีดฟิลเลอร์
บทความนี้ จะพาคุณไปเปรียบเทียบข้อแตกต่างของเครื่องยกกระชับร่องแก้มและฟิลเลอร์ร่องแก้มอย่างละเอียด ตั้งแต่หลักการทำงาน ผลลัพธ์ ความคงทน ผลข้างเคียง ไปจนถึงคำแนะนำว่าคุณเหมาะกับวิธีไหน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
เครื่องยกกระชับร่องแก้มกับฟิลเลอร์ร่องแก้มต่างกันอย่างไร?
เครื่องยกกระชับร่องแก้มเป็นการใช้เทคโนโลยีพลังงาน เช่น คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง (HIFU), คลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ยิงลงสู่ชั้นผิวลึก เช่น ชั้น SMAS เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้ผิวค่อย ๆ กระชับและร่องแก้มตื้นขึ้นตามธรรมชาติ ใช้เวลา 1–3 เดือนจึงเห็นผลชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการฉีดสารเข้าไปในผิว
ในทางกลับกัน ฟิลเลอร์ร่องแก้มคือการฉีดสารเติมเต็ม เช่น Hyaluronic Acid (HA) หรือ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) เข้าไปใต้ผิวบริเวณร่องแก้ม เพื่อเพิ่มปริมาตรและยกผิวให้ตื้นขึ้น เห็นผลหลังทำ เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ร่องลึกอย่างเร่งด่วน
ร่องแก้มเกิดจากอะไร?
ร่องแก้ม หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า Nasolabial Fold คือเส้นหรือรอยพับที่เกิดขึ้นบริเวณด้านข้างของแก้ม โดยเริ่มจากปีกจมูกลงมาจนถึงมุมปาก ลักษณะนี้จะมองเห็นได้ชัดเมื่อเราแสดงสีหน้า เช่น การยิ้ม หัวเราะ หรือขมวดคิ้ว แต่เมื่อผิวเริ่มเสื่อมสภาพและสูญเสียความยืดหยุ่น ร่องแก้มอาจปรากฏชัดเจนแม้ในขณะใบหน้าเรียบเฉย ทำให้ดูมีอายุและเหนื่อยล้ากว่าความเป็นจริง
ลักษณะของร่องแก้ม
- เป็นรอยพับหรือเส้นเฉียงที่เริ่มจากบริเวณปีกจมูกและต่อเนื่องลงมาถึงมุมปาก
- เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง ชั้นไขมัน และกล้ามเนื้อใบหน้า
- เมื่ออายุมากขึ้น เนื้อแก้มส่วนบนจะค่อย ๆ เคลื่อนตัวลงมาทับเหนือร่องแก้ม ทำให้ร่องลึกขึ้น
- ใต้ร่องแก้มมีพังผืดที่ยึดผิวหนังกับกระดูก เมื่อผิวหย่อนตัว พังผืดนี้จะทำให้ร่องยิ่งเด่นชัด
สาเหตุหลักของการเกิดร่องแก้ม
- อายุที่เพิ่มขึ้น
เมื่อเข้าสู่วัย 30 ปีขึ้นไป ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินลดลง ผิวจึงขาดความยืดหยุ่น เกิดการหย่อนคล้อยและริ้วรอย ซึ่งรวมถึงร่องแก้มที่ลึกขึ้นตามเวลา
- การเสื่อมของคอลลาเจนและอีลาสติน
โครงสร้างผิวที่อ่อนแอจากการสูญเสียโปรตีนสำคัญเหล่านี้ ทำให้ผิวไม่กระชับ ส่งผลให้เกิดร่องลุกและริ้วรอยได้ง่าย
- แรงโน้มถ่วงของโลก
เป็นปัจจัยธรรมชาติที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเนื้อแก้มและผิวหนังสูญเสียความกระชับ แรงโน้มถ่วงจะดึงให้ผิวหย่อนลง ส่งผลให้ร่องแก้มชัดขึ้น
- พฤติกรรมการใช้กล้ามเนื้อใบหน้า
การยิ้ม หัวเราะ หรือขมวดคิ้วซ้ำ ๆ จะทำให้ผิวถูกพับในตำแหน่งเดิมอยู่บ่อยครั้งจนเกิดร่องลึกขึ้น รวมถึงพฤติกรรมอย่างนอนตะแคงด้านเดิมเป็นเวลานานก็มีส่วนทำให้ร่องแก้มลึกขึ้น
- พันธุกรรม
โครงหน้าและสภาพผิวที่สืบทอดทางพันธุกรรมอาจทำให้บางคนมีร่องแก้มเด่นชัดตั้งแต่อายุยังน้อย
- ปัจจัยอื่น ๆ
ปัจจัยเสริมอื่น ๆ ที่ทำให้ร่องแก้มลึกขึ้น ได้แก่ การสัมผัสแสงแดดและรังสี UV ซึ่งสามารถทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นเร็วกว่าปกติ นอกจากนี้ พฤติกรรมอย่างการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือพักผ่อนไม่เพียงพอก็มีส่วนเร่งให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น
ระดับความลึกของร่องแก้ม
แม้ร่องแก้มลึกจะเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ความชัดเจนและความลึกของร่องแก้มจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ ดังนี้
- ร่องแก้มตื้น
ร่องแก้มในระดับนี้มักจะเห็นได้ชัดเฉพาะเวลาที่มีการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อใบหน้า เช่น การยิ้ม หัวเราะ หรือแสดงสีหน้าอื่น ๆ เมื่อใบหน้าเรียบเฉย ไม่ได้ขยับ ร่องแก้มจะจางหรือแทบสังเกตไม่เห็น สาเหตุหลักมักเกิดจากการเริ่มต้นสูญเสียคอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิวเล็กน้อย รวมถึงการพับของผิวจากการแสดงสีหน้าเป็นประจำ
ลักษณะเด่น คือ ผิวโดยรวมยังตึงและกระชับดี ร่องตื้นและไม่รบกวนโครงหน้าโดยรวม แก้ไขได้ง่ายด้วยการบำรุงผิว ฟื้นฟูคอลลาเจน หรือใช้ เครื่องยกกระชับร่องแก้ม เหมาะกับการดูแลเชิงป้องกันก่อนที่ร่องจะลึกมากขึ้น
- ร่องแก้มลึกระดับปานกลาง
ในระดับนี้ ร่องแก้มจะเริ่มปรากฏชัดแม้ขณะใบหน้านิ่งเฉย ผิวมีการหย่อนคล้อยของแก้มและข้างจมูกมากขึ้น เกิดจากการเสื่อมสภาพของโครงสร้างผิวและแรงโน้มถ่วงที่ดึงให้เนื้อแก้มตกลงมา บางครั้งยังมีการสูญเสียไขมันใต้ผิวร่วมด้วย
ลักษณะเด่น คือ สังเกตได้ชัดขึ้นแม้ไม่แสดงสีหน้า ผิวบริเวณร่องแก้มและแก้มข้างบนเริ่มหย่อนและขาดความกระชับ อาจทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยหรือมีอายุมากกว่าความเป็นจริง การแก้ไขอาจต้องใช้วิธีผสมผสาน เช่น เครื่องยกกระชับร่องแก้ม ร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ปริมาณเล็กน้อยเพื่อเติมเต็มร่อง
- ร่องแก้มลึก
ร่องแก้มลึกถือเป็นระดับที่ร่องเห็นชัดตลอดเวลา ไม่ว่าจะแสดงสีหน้าหรือใบหน้าเรียบเฉย มักเกิดจากการเสื่อมของคอลลาเจนและอีลาสตินอย่างรุนแรง ร่วมกับการยุบตัวของกระดูกและไขมันใต้ผิว จนทำให้โครงสร้างใบหน้าส่วนกลางตรงลงมาทับร่องแก้มโดยตรง
ลักษณะเด่นคือ เห็นร่องลึกอย่างชัดเจนแม้ใบหน้าอยู่เฉย ๆ ผิวรอบร่องแก้มและแก้มส่วนบนหย่อนคล้อยมาก มีการยุบตัวของเนื้อเยื่อและกระดูกใต้ผิว ทำให้หน้าดูตอบและขาดความสดใส มักต้องใช้การรักษาหลายวิธีร่วมกัน เช่น ฟิลเลอร์ร่องแก้มเพื่อเติมเต็มร่อง และเครื่องยกกระชับผิวเพื่อฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้กลับมาตึงกระชับ
เครื่องยกกระชับร่องแก้ม คืออะไร? มีอะไรบ้าง?
เครื่องยกกระชับร่องแก้ม คืออุปกรณ์หรือเทคโนโลยีด้านความงามที่ใช้พลังงานในรูปแบบต่าง ๆ เช่น คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ (Ultrasound), คลื่นวิทยุ (Radio Frequency: RF) เพื่อช่วยฟื้นฟูและกระชับผิวในชั้นลึก ลดความหย่อนคล้อย และปรับร่องแก้มให้ดูตื้นขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นนาน
เครื่องยกกระชับเหล่านี้มักถูกใช้แทนหรือร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูกลมกลืนกับใบหน้าและอยู่ได้นานขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดอายุใบหน้าโดยหลีกเลี่ยงการผ่าตัดดึงหน้า
ประเภทของเครื่องยกกระชับร่องแก้มที่นิยมใช้ในปัจจุบัน
ใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง (High‑Intensity Focused Ultrasound: HIFU) สามารถลงลึกได้ถึงผิวหนังชั้น SMAS มีความพิเศษตรงระบบหน้าจอความละเอียดสูงแบบ Full HD ยิงพลังงานได้อย่างแม่นยำ เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่องแก้มลึก ร่องมุมปากตก ยกกระชับร่องแก้ม หรือผิวหย่อนคล้อยบริเวณกรอบหน้าและลำคอ เห็นผลหลังทำประมาณ 30% และคงอยู่ได้นาน 1-2 ปี
เทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าที่ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์แบบโฟกัส ปล่อยพลังงานในระดับ Micro & Macro Focused Ultrasound ยิงพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS โดยมีหัวยิงพลังงานหลายขนาดเพื่อแก้ปัญหาได้ในแต่ละชั้นผิวอย่างเฉพาะเจาะจง เห็นผลหลังทำรวดเร็วประมาณ 20-30% และจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 1-3 เดือน หลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้โดยที่ไม่ต้องพักฟื้นนาน
ใช้เทคโนโลยีพลังงานคลื่นวิทยุ Monopolar RF ส่งพลังงานความร้อน ลงลึกถึงชั้นหนังแท้และไขมันใต้ผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ยกกระชับร่องแก้ม และช่วยลดไขมันบางส่วน ผลลัพธ์คือผิวตึงขึ้น กรอบหน้าชัด ลดเลือนริ้วรอย และกระชับรูขุมขน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวแน่นและกระชับทั่วใบหน้า
เทคโนโลยี Monopolar RF ที่เน้นแก้ปัญหาริ้วรอย กระชับรูขุมขน และยกกระชับร่องแก้มให้ดูตื้นขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังตาตก คิ้วตก หรือมุมปากตก และต้องการยกกระชับกรอบหน้าให้ชัดเจน
เทคโนโลยีที่ผสาน HIFES (High-Intensity Facial Electrical Stimulation) และ Synchronized RF เพื่อยกกระชับทั้งกล้ามเนื้อและผิวหนังในเวลาเดียวกัน สามารถช่วยยกกระชับร่องแก้ม ลดเหนียง ยกใบหน้า และลดริ้วรอย โดยไม่ต้องพักฟื้น
ใช้เทคโนโลยีผสมผสานระหว่าง Microneedling และ RF ยิงผ่านหัวเข็มขนาดเล็กลงสู่ผิวลึก เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน ลดริ้วรอย และยกกระชับร่องแก้ม เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ร่องแก้มเด่น และรูขุมขนกว้าง
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คืออะไร?
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ การฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ผิวหนังบริเวณร่องแก้มเพื่อแก้ปัญหาร่องลึกและผิวหย่อนคล้อย ให้ผิวดูตึงขึ้นและใบหน้าดูอ่อนวัยลงหลังทำอย่างรวดเร็ว โดยฟิลเลอร์จะทำหน้าที่เติมปริมาตรให้กับผิวในตำแหน่งที่เกิดการยุบตัวหรือสูญเสียไขมันและคอลลาเจนตามวัย
หลักการทำงานของฟิลเลอร์ร่องแก้ม
เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไปใต้ผิวหนัง สารฟิลเลอร์จะเข้าไปเติมเต็มช่องว่างระหว่างชั้นผิวและชั้นไขมัน ช่วยยกผิวขึ้นจากด้านใน ทำให้ร่องแก้มที่เคยลึกดูตื้นขึ้นทันที นอกจากนี้ฟิลเลอร์บางชนิดยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับและเรียบเนียนมากขึ้นในระยะยาว
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ เห็นผลรวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น และสามารถปรับปริมาณการฉีดให้เหมาะสมกับความลึกของร่องแก้มในแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ
ประเภทของฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- Hyaluronic Acid (HA)
ฟิลเลอร์ประเภทนี้เป็นตัวเลือกยอดนิยมในการแก้ปัญหาร่องแก้ม เพราะไม่เป็นอันตราย สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และหากต้องการแก้ไขก็สามารถฉีดสารสลายได้ ยี่ห้อที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น Juvederm, Restylane, Belotero, Neuramis เป็นต้น จุดเด่นคือช่วยเติมเต็มร่องลึกได้อย่างกลมกลืนกับใบหน้า พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้กับผิว
- Calcium Hydroxylapatite (CaHA)
ฟิลเลอร์ชนิดนี้มีความหนาแน่นและความหนืดสูงกว่า HA จึงสามารถช่วยยกและเติมเต็มร่องลึกได้ดี พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์คงทนนานกว่า แต่เนื่องจากเนื้อสารค่อนข้างเข้มข้น จึงไม่ค่อยถูกเลือกใช้กับร่องแก้มที่ลึกมากเหมือน HA
อย่างไรก็ตาม สำหรับการเติมร่องแก้มโดยทั่วไป ฟิลเลอร์ HA ยังคงเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีคุณสมบัติที่เหมาะกับผิวในบริเวณนี้ สามารถยกกระชับปรับรูปหน้าและลดร่องลึกได้อย่างกลมกลืนกับผิวเดิม
เปรียบเทียบเครื่องยกกระชับร่องแก้ม กับ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
การเลือกแก้ปัญหาร่องแก้มสามารถทำได้ทั้งการใช้เครื่องยกกระชับร่องแก้มและการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ซึ่งทั้งสองวิธีมีหลักการทำงานแตกต่างกัน เครื่องยกกระชับร่องแก้มจะใช้พลังงานจากคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ (Ultrasound) หรือคลื่นวิทยุ (RF) ยิงลงสู่ชั้นผิวลึก เช่น ชั้น SMAS หรือชั้นหนังแท้ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวบริเวณร่องแก้มและใบหน้ายกกระชับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวโดยไม่ต้องฉีดสารเติมเต็มและสามารถรอผลลัพธ์ในระยะเวลา 1–3 เดือนหลังทำได้
ในขณะที่ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ทำงานโดยการฉีดสารเติมเต็ม เช่น Hyaluronic Acid หรือ Calcium Hydroxylapatite ลงในชั้นผิว เพื่อเพิ่มปริมาตรและยกผิวในบริเวณที่ยุบตัว ทำให้ร่องแก้มตื้นขึ้นหลังทำ เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลรวดเร็วหรือมีร่องลึกที่ชัดเจน ทั้งนี้ ฟิลเลอร์ให้ผลลัพธ์ที่คงอยู่ชั่วคราวตามชนิดของสารที่ใช้ และอาจต้องฉีดซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์
โดยสรุปเครื่องยกกระชับร่องแก้ม เหมาะกับการฟื้นฟูโครงสร้างผิวและชะลอความหย่อนคล้อย ส่วนฟิลเลอร์ร่องแก้มเหมาะกับการแก้ร่องลึกอย่างรวดเร็วและเพิ่มความเต็มอิ่มให้ผิว การเลือกใช้วิธีใดขึ้นอยู่กับสภาพผิว ความลึกของร่องแก้ม และความต้องการผลลัพธ์ของแต่ละบุคคล
เครื่องยกกระชับร่องแก้ม vs ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยอะไรบ้าง?
เครื่องยกกระชับร่องแก้ม ช่วยอะไรบ้าง
- ยกผิวบริเวณร่องแก้มให้ตึงขึ้น ลดความลึกของร่องแก้ม
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว
- ฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิวที่สูญเสียไปตามวัย
- ลดความหย่อนคล้อยของแก้ม เหนียง และกรอบหน้า
- ยกกระชับปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนและดูเรียวขึ้น
- ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ รอบร่องแก้มและมุมปาก
- กระชับผิวในชั้นลึกโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและกระจ่างใสมากขึ้น
- ลดขนาดรูขุมขนในบริเวณที่ทำ
- เป็นการดูแลเชิงป้องกันไม่ให้ร่องแก้มลึกขึ้นในอนาคต
- ให้ผลฟื้นฟูผิวทั่วใบหน้า ไม่เฉพาะร่องแก้ม เช่น คอและกรอบหน้า
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยอะไรบ้าง
- เติมเต็มร่องแก้มให้ตื้นขึ้นอย่างรวดเร็ว
- เพิ่มปริมาตรในบริเวณที่สูญเสียไขมันหรือกระดูกใต้ผิว
- ช่วยยกพยุงเนื้อแก้มส่วนบนที่ตกลงมาทับร่องแก้ม
- ปรับสัดส่วนใบหน้าให้ดูสมดุลมากขึ้น
- ทำให้ใบหน้าดูอ่อนวัยและสดใสหลังทำ
- ลดเงาหรือรอยพับที่ทำให้หน้าดูเหนื่อยล้า
- ปรับผิวให้ดูเรียบเนียนในบริเวณร่องแก้ม
- ใช้ร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์จุดอื่นเพื่อยกกระชับปรับรูปหน้าโดยรวม
- เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาแบบเร่งด่วนก่อนงานหรือโอกาสสำคัญ
เครื่องยกกระชับร่องแก้ม vs ฟิลเลอร์ร่องแก้ม เหมาะกับใครบ้าง?
เครื่องยกกระชับร่องแก้ม เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีร่องแก้มตื้นถึงปานกลาง
- ผู้ที่ผิวเริ่มหย่อนคล้อยแต่ยังไม่ลึกมาก
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวและกระตุ้นคอลลาเจน
- ผู้ที่ไม่อยากฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ผิว
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ค่อย ๆ ดีขึ้น
- ผู้ที่สามารถรอผลลัพธ์ได้ 1–3 เดือนหลังทำ
- ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาหย่อนคล้อยบริเวณอื่นร่วมด้วย เช่น กรอบหน้า เหนียง หรือคอ
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับปรับรูปหน้าให้กระชับขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้นหลังทำ
- ผู้ที่ต้องการลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงจากการฉีดสารเข้าสู่ร่างกาย
- ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวเชิงป้องกันก่อนร่องแก้มลึกมากขึ้น
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีร่องแก้มปานกลางถึงลึกมาก
- ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ชัดเจนหลังทำ
- ผู้ที่ร่องแก้มเกิดจากการยุบตัวของไขมันและกระดูกใต้ผิว
- ผู้ที่ต้องการเติมเต็มผิวให้ตื้นขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ผู้ที่สามารถดูแลและฉีดซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์ในอนาคต
- ผู้ที่ต้องการปรับปริมาตรผิวเฉพาะจุดอย่างแม่นยำ
- ผู้ที่ไม่มีปัญหากับการฉีดสารเข้าสู่ร่างกาย
- ผู้ที่ต้องการแก้ไขร่องแก้มเพื่อใช้ในโอกาสเร่งด่วน เช่น ก่อนงานสำคัญ
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มความอิ่มฟูให้ใบหน้าโดยรวม
- ผู้ที่มีผิวบางและต้องการผลที่ช่วยให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นหลังทำ
เครื่องยกกระชับร่องแก้ม vs ฟิลเลอร์ร่องแก้ม มีข้อดีอะไรบ้าง?
รวมข้อดีของเครื่องยกกระชับร่องแก้ม
- ไม่ต้องผ่าตัด ลดความเสี่ยงจากการทำศัลยกรรม
- ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เลย
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินตามธรรมชาติ
- ผลลัพธ์ค่อย ๆ ดีขึ้นใน 1–3 เดือน และอยู่ได้นานหลายเดือนถึงเป็นปี
- แก้ปัญหาหย่อนคล้อยได้ทั้งร่องแก้ม กรอบหน้า และเหนียง
- ช่วยยกกระชับปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนและดูยกกระชับขึ้น
- ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และรูขุมขนกว้าง
- สามารถทำซ้ำได้โดยไม่ทำลายผิว
- เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ร่างกาย
- ใช้ได้กับหลายช่วงวัย ทั้งเพื่อฟื้นฟูและป้องกันปัญหาผิวในอนาคต
- มีหลายเทคโนโลยีให้เลือกตามงบประมาณและสภาพผิว
รวมข้อดีของฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- เห็นผลรวดเร็วหลังทำ
- เติมเต็มร่องลึกได้อย่างรวดเร็ว
- ปรับปริมาตรและโครงสร้างผิวเฉพาะจุดได้อย่างแม่นยำ
- ให้ผลลัพธ์ที่ปรับแต่งตามความลึกของร่องแก้มในแต่ละคนได้
- ไม่ต้องพักฟื้นนาน สามารถกลับไปทำกิจกรรมได้เกือบทันที
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาแบบเร่งด่วนก่อนงานสำคัญ
- สามารถใช้ร่วมกับการยกกระชับเพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น
- ฟิลเลอร์บางชนิดสามารถกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาวได้
- ปรับสัดส่วนใบหน้าให้สมดุลและดูอ่อนวัยมากขึ้น
- มีหลายสูตรและหลายยี่ห้อให้เลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและงบประมาณ
- หากต้องการแก้ไขหรือปรับลดปริมาณ สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้
การดูแลผิวหลังทำเครื่องยกกระชับร่องแก้ม vs ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
การดูแลผิวหลังทำเครื่องยกกระชับร่องแก้ม
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือถูผิวแรง ๆ บริเวณที่ทำใน 24 ชั่วโมงแรก
- หลีกเลี่ยงการใช้สครับหรือกรดผลไม้บริเวณใบหน้า อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ร้อนจัด เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ หรือแช่น้ำร้อน ประมาณ 1–2 สัปดาห์
- งดออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก 24 ชั่วโมงแรก
- ทาครีมบำรุงผิวและครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้เร็ว
- หากมีอาการบวม แดง หรือระบมเล็กน้อย สามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการได้
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้ และโปรตีน เพื่อช่วยซ่อมแซมผิว
- เข้ารับการทำซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อคงผลลัพธ์ให้ยาวนาน
การดูแลผิวหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- หลีกเลี่ยงการจับ นวด หรือกดบริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ 24 ชั่วโมงแรก เพราะอาจทำให้บวมช้ำมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือนอนตะแคงด้านที่ฉีด ในช่วง 2–3 วันแรก
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ร้อนจัด เช่น ซาวน่า หรืออบไอน้ำ อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดออกกำลังกายหนัก ว่ายน้ำ หรือทำกิจกรรมที่ต้องก้มศีรษะนาน ๆ ประมาณ 1–2 วัน
- งดการทำทรีตเมนต์หรือเลเซอร์บริเวณที่ฉีดใน 2 สัปดาห์แรก
- หากมีรอยช้ำ สามารถประคบเย็นเบา ๆ ใน 24 ชั่วโมงแรก และประคบอุ่นในวันถัดไปเพื่อลดรอย
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำและคงรูปได้ดี
- ควรใช้ครีมกันแดดและหลีกเลี่ยงแสงแดดตรง ๆ
- เข้าพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจเช็กและปรับแต่งปริมาณฟิลเลอร์หากจำเป็น
การผสมผสาน 2 วิธีเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
การเลือกใช้เครื่องยกกระชับร่องแก้มและฟิลเลอร์ร่องแก้มร่วมกัน ถือเป็นแนวทางที่แพทย์ด้านความงามหลายท่านแนะนำ เพราะทั้งสองวิธีมีจุดเด่นที่แตกต่างกันและสามารถเสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกันได้อย่างลงตัว
การเริ่มต้นด้วยเครื่องยกกระชับ จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและยกเนื้อแก้มที่หย่อนคล้อยให้สูงขึ้น เมื่อโครงสร้างผิวและชั้นเนื้อเยื่อถูกยกขึ้นแล้ว จะทำให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้นในระดับหนึ่ง และยังช่วยให้ตำแหน่งการฉีดฟิลเลอร์แม่นยำมากขึ้น เนื่องจากปริมาณที่ต้องใช้เติมเต็มจะลดลง
หลังจากนั้น การฉีดฟิลเลอร์ในขั้นตอนต่อมา จะช่วยเติมเต็มปริมาตรผิวที่ยังขาดอยู่ ทำให้ร่องแก้มเรียบเนียนขึ้นทันที ผลลัพธ์จึงทั้งดูอ่อนวัยและมีความกลมกลืนกับใบหน้า อีกทั้งยังช่วยยืดระยะเวลาความสวยของผิว เพราะเครื่องยกกระชับดูแลโครงสร้างผิวระยะยาว ในขณะที่ฟิลเลอร์ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว
ข้อดีของการทำเครื่องยกกระชับร่องแก้มก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- ใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณน้อยลง ประหยัดงบประมาณ
- ได้โครงสร้างผิวที่กระชับก่อนฉีด ทำให้รูปหน้าดูยกขึ้นและไม่บวมเกินไป
- ยืดอายุผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ เพราะผิวได้รับการกระตุ้นและฟื้นฟูจากภายใน
- ลดความเสี่ยงจากการฉีดฟิลเลอร์ในผิวที่หย่อนมากเกินไป
- ให้ผลลัพธ์ที่ดูกลมกลืนกับใบหน้า
โดยทั่วไป การทำเครื่องยกกระชับร่องแก้มก่อนแล้วฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรเว้นระยะประมาณ 1–2 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวมีเวลาปรับตัวและฟื้นฟู จากนั้นจึงเติมเต็มร่องแก้มด้วยฟิลเลอร์ในปริมาณที่เหมาะสม
คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับ เครื่องยกกระชับร่องแก้ม vs ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ยกกระชับร่องแก้ม vs ฟิลเลอร์ร่องแก้ม วิธีไหนเห็นผลเร็วกว่า?
- ถ้าต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว ฟิลเลอร์ร่องแก้มตอบโจทย์มากกว่า เพราะหลังฉีดสามารถเห็นร่องตื้นขึ้นได้หลังทำและผลเต็มที่ใน 1–2 สัปดาห์ ขณะที่เครื่องยกกระชับร่องแก้มจะต้องรอให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ จึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในช่วง 1–3 เดือน และจะคงผลได้นานหลายเดือน
ยกกระชับร่องแก้ม vs ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?
- เครื่องยกกระชับร่องแก้มสามารถคงผลได้ประมาณ 6–18 เดือน ขึ้นกับเทคโนโลยีที่ใช้ ความลึกของการยิงพลังงาน และการดูแลผิวหลังทำ ส่วนฟิลเลอร์ร่องแก้มจะอยู่ได้นาน 6–18 เดือนเช่นกัน ขึ้นกับชนิดของฟิลเลอร์ ยี่ห้อที่เลือก และการดูแลหลังฉีด
ยกกระชับร่องแก้ม vs ฟิลเลอร์ร่องแก้ม วิธีไหนเหมาะกับร่องแก้มลึกมาก?
- ฟิลเลอร์ร่องแก้มเหมาะกับร่องลึกมากเพราะสามารถเติมเต็มปริมาตรได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ร่องดูตื้นขึ้นอย่างชัดเจน ในบางกรณี แพทย์อาจแนะนำให้ทำเครื่องยกกระชับร่องแก้มก่อน เพื่อยกผิวและปรับโครงสร้างหน้า จากนั้นค่อยฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ผลลัพธ์สวยและอยู่ได้นานขึ้น
ยกกระชับร่องแก้ม vs ฟิลเลอร์ร่องแก้ม มีผลข้างเคียงหรือความเสี่ยงอะไรบ้าง?
- เครื่องยกกระชับร่องแก้มอาจทำให้รู้สึกเจ็บเล็กน้อยระหว่างทำหรือมีรอยแดงชั่วคราว ส่วนฟิลเลอร์ร่องแก้มมีความเสี่ยงบวม ช้ำ หรือหากฉีดไม่ถูกตำแหน่งอาจเกิดการอุดตันของเส้นเลือด ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้ ดังนั้นทั้งสองวิธีควรทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น
ยกกระชับร่องแก้ม vs ฟิลเลอร์ร่องแก้ม อายุน้อยสามารถทำได้ไหม?
- สามารถทำยกกระชับร่องแก้มและฟิลเลอร์ร่องแก้มได้ ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป หากมีร่องแก้มหรือปัญหาผิวหย่อนคล้อย แต่ควรได้รับการประเมินจากแพทย์ก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะในวัยนี้มักเน้นการป้องกันมากกว่าการแก้ไขร่องแก้มลึก
ยกกระชับร่องแก้ม vs ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ค่าใช้จ่ายต่างกันเท่าไหร่?
- ค่าใช้จ่ายของเครื่องยกกระชับร่องแก้มขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีและพื้นที่ที่ทำ โดยทั่วไปอยู่ที่ 10,000–50,000 บาทต่อครั้ง ส่วนฟิลเลอร์ร่องแก้มคิดราคาตามปริมาณและยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 8,000–20,000 บาทต่อ CC
ทำเครื่องยกกระชับร่องแก้มแล้วผิวบางลงไหม?
- โดยทั่วไป การทำเครื่องยกกระชับร่องแก้มไม่ทำให้ผิวบางลง เนื่องจากกลไกของเครื่องจะยิงพลังงานลงสู่ชั้นผิวลึก เช่น ชั้น SMAS หรือหนังแท้ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ กระบวนการนี้เป็นการฟื้นฟูผิวจากภายในให้หนาและแข็งแรงขึ้น ไม่ใช่การกรอหรือลอกผิวที่ทำให้ผิวบาง อย่างไรก็ตาม หลังทำอาจมีอาการผิวตึงหรือรู้สึกไวต่อการสัมผัสเล็กน้อย แต่จะหายไปภายในไม่กี่วัน
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ถ้าไม่พอใจผลลัพธ์สามารถแก้ไขได้ไหม?
- สามารถแก้ไขฟิลเลอร์ร่องแก้มได้ในกรณีที่ใช้ฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid (HA) เพราะสามารถฉีดเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) เพื่อสลายฟิลเลอร์ได้อย่างรวดเร็ว และปรับแก้รูปทรงใหม่ตามต้องการ แต่ถ้าเป็นฟิลเลอร์ชนิดอื่น เช่น CaHA, PLLA หรือ PMMA การแก้ไขจะทำได้ยากกว่าและอาจต้องใช้วิธีอื่น เช่น การผ่าตัดหรือรอให้สารค่อย ๆ สลายไปเอง ดังนั้นก่อนทำควรเลือกชนิดฟิลเลอร์ที่สามารถปรับแก้ได้ง่ายและให้แพทย์ประเมินอย่างรอบคอบ
ยกกระชับร่องแก้ม vs ฟิลเลอร์ร่องแก้ม เหมาะกับคนอายุเท่าไหร่?
- ยกกระชับร่องแก้ม เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือร่องแก้มเริ่มชัด ซึ่งมักพบได้ตั้งแต่อายุประมาณ 25–30 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะในคนที่เริ่มสูญเสียคอลลาเจนหรือมีผิวไม่กระชับจากพฤติกรรม เช่น การนอนตะแคงบ่อย หรือการแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ การยกกระชับร่องแก้มในช่วงอายุน้อยจะช่วยชะลอการลึกของร่องและป้องกันผิวหย่อนในอนาคต
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม เหมาะกับผู้ที่มีร่องแก้มลึกชัดเจนแล้ว ไม่ว่าจะเกิดจากอายุที่มากขึ้น การสูญเสียไขมันใต้ผิว หรือโครงสร้างกระดูกใบหน้า โดยสามารถทำได้ตั้งแต่อายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป เพื่อเติมเต็มร่องให้ตื้นขึ้นและคืนความอ่อนวัยให้ใบหน้า
ทำยกกระชับร่องแก้ม vs ฟิลเลอร์ร่องแก้ม กี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
- ยกกระชับร่องแก้ม ส่วนใหญ่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงประมาณ 20–30% หลังทำ และจะค่อย ๆ เห็นผลชัดขึ้นในช่วง 1–3 เดือน เพราะร่างกายต้องใช้เวลาสร้างคอลลาเจนใหม่ โดยปกติทำเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอ และสามารถทำซ้ำปีละ 1–2 ครั้งเพื่อคงผลลัพธ์
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ให้ผลลัพธ์รวดเร็วหลังฉีด และจะเห็นผลเต็มที่ภายใน 1–2 สัปดาห์ ขึ้นกับการยุบตัวของฟิลเลอร์ในช่วงแรก โดยปกติฉีดเพียงครั้งเดียวก็เห็นความแตกต่างชัด แต่เมื่อสารเริ่มสลายอาจต้องฉีดซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์
การเลือกแก้ปัญหาร่องแก้ม ไม่ว่าจะด้วยการยกกระชับร่องแก้ม หรือ การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ต่างก็มีจุดเด่นและข้อพิจารณาที่แตกต่างกัน เครื่องยกกระชับร่องแก้มเหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวจากภายใน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และยกผิวให้กระชับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่ต้องพึ่งการฉีดสารเติมเต็ม ในขณะที่ฟิลเลอร์ร่องแก้มจะตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว เติมเต็มร่องลึกให้ตื้นขึ้นและทำให้ใบหน้าดูอ่อนวัยภายในเวลาไม่นาน
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเลือกวิธีใด ควรได้รับการประเมินจากแพทย์เพื่อออกแบบการรักษาให้เหมาะสมกับสภาพผิว อายุ ปัญหาของแต่ละคน และงบประมาณที่ตั้งไว้ ในบางกรณี การผสมผสานทั้งสองวิธีเข้าด้วยกัน เช่น การทำยกกระชับร่องแก้มก่อน แล้วจึงฉีดฟิลเลอร์เสริมในปริมาณที่พอเหมาะ อาจให้ผลลัพธ์ที่ดูสวยเนียนและคงอยู่ได้นานกว่า
สุดท้ายแล้ว เคล็ดลับสำคัญในการคงผลลัพธ์ให้สวยและยาวนาน คือการดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ ปกป้องผิวจากแสงแดด รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำลายคอลลาเจน เพียงเท่านี้ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีใด ร่องแก้มก็จะดูตื้นลง ใบหน้าดูสดใส และแลดูอ่อนกว่าวัยได้อย่างมั่นใจ