เปรียบเทียบยกกระชับผิว Oligio และ Volnewmer แบบไหนตอบโจทย์คุณ?
การมีผิวหน้าเต่งตึง เรียบเนียน และดูอ่อนวัยอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย และไขมันสะสมบนใบหน้ากลายเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก เทคโนโลยีความงามในปัจจุบันจึงพัฒนาแนวทางใหม่ในการยกกระชับผิวแบบไม่ผ่าตัด โดยเฉพาะสองโปรแกรมยอดนิยมอย่าง Oligio และ Volnewmer ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การฟื้นฟูสภาพผิวอย่างล้ำลึก
ทั้ง Oligio และ Volnewmer ใช้พลังงาน Monopolar RF เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิวในระดับชั้นหนังแท้ ซึ่งแต่ละโปรแกรมมีจุดเด่นเฉพาะตัว ทั้งในเรื่องของระบบการทำงาน หัวทิปที่ใช้ ความรู้สึกขณะทำ และผลลัพธ์ที่ได้รับ
บทความนี้ จะพาคุณไปเจาะลึกข้อมูลของเทคโนโลยีทั้งสองอย่างละเอียด เพื่อเปรียบเทียบข้อดี ข้อจำกัด และความเหมาะสมกับสภาพผิวในแต่ละแบบ หากคุณกำลังลังเลว่าจะเลือกเทคโนโลยีแบบใดเพื่อยกกระชับผิวหน้าให้กลับมาตึงกระชับอีกครั้ง บทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
Oligio และ Volnewmer เลือกยกกระชับผิวแบบไหนดี?
- ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและผลลัพธ์ที่ต้องการ หากมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยร่วมกับไขมันสะสม เช่น เหนียง แก้ม คาง Oligio เหมาะกว่า เพราะช่วยยกกระชับพร้อมลดไขมันเฉพาะจุด แต่ในกรณีที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้กระชับ เรียบเนียน และดูอ่อนวัยขึ้นโดยไม่มีไขมันสะสมมาก Volnewmer จะตอบโจทย์กว่า เพราะเน้นกระตุ้นคอลลาเจนลึกและผิวแน่นหลังทำ ซึ่งทั้งสองเทคโนโลยีไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลใน 1–3 เดือน และคงผลลัพธ์ได้นานถึง 6–12 เดือน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวก่อนตัดสินใจ
รู้จัก Oligio ทางเลือกใหม่ของการยกกระชับผิวหน้า
Oligio คือเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ใช้คลื่นพลังงานความถี่สูงแบบ Monopolar RF ความถี่ 6.78 MHz พลังงานจะถูกส่งเข้าสู่ชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) เพื่อกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูผิวจากภายในสู่ภายนอก
หลักการทำงานของ Oligio
Oligio จะปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุชนิดขั้วเดียว (Monopolar RF) ผ่านหัวทิปขนาด F4.0 ที่สามารถส่งพลังงานลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมัน ความร้อนที่เกิดขึ้นจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว ส่งผลให้ผิวมีความกระชับ แน่นเฟิร์ม และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
นอกจากนี้ ระบบการทำงานแบบอัตโนมัติยังช่วยเสริมความแม่นยำในการรักษา โดยสามารถปรับระดับพลังงานให้สอดคล้องกับสภาพผิวของแต่ละบุคคลได้แบบเรียลไทม์ และให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพในระยะยาว ทั้งในด้านการยกกระชับผิวและลดไขมันเฉพาะจุดอย่างมีประสิทธิผล
จุดเด่นของ Oligio ที่ควรรู้
- โปรแกรม Oligio ถูกออกแบบให้สามารถเลือกโหมดการทำงานได้ถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมดเดี่ยว, โหมดคู่ และโหมดอัตโนมัติ
- ระบบ Auto Mode ของ Oligio มีจุดเด่นเรื่องความแม่นยำในการปล่อยพลังงาน และออกแบบมาให้ลดความเสี่ยงระหว่างการรักษา
- หัวทิปของเครื่องมีขนาดใหญ่ถึง 4 ตารางเซนติเมตร ช่วยให้ครอบคลุมพื้นที่ผิวได้กว้างในแต่ละครั้ง ใช้เวลายกกระชับเพียง 20–30 นาทีต่อครั้ง ทำให้สะดวกรวดเร็วและประหยัดเวลา
- Oligio มาพร้อมระบบ Cooling และ Vibration ที่ทำหน้าที่คลายความร้อนและลดความรู้สึกเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- มีระบบวัดอุณหภูมิและตรวจจับแรงต้านของผิวแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่ช่วยควบคุมการปล่อยพลังงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อผิวแต่ละประเภท
Volnewmer ยกกระชับผิว พร้อมฟื้นฟูผิวจากภายใน
Volnewmer เป็นเทคโนโลยีเพื่อการยกกระชับผิวที่ออกแบบมาโดยใช้พลังงานคลื่นวิทยุชนิดขั้วเดียว หรือ Monopolar RF ที่ความถี่ 6.78 MHz พลังงานความร้อนที่ส่งผ่านหัวทิปชนิดพิเศษเคลือบทอง (Gold Continuous RF Technology) จะถูกนำเข้าสู่ชั้นหนังแท้ (Dermis) อย่างแม่นยำ เพื่อกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินจากภายใน ส่งผลให้ผิวมีความยืดหยุ่นดีขึ้น กระชับแน่น และแลดูอ่อนวัย
หลักการทำงานของ Volnewmer
Volnewmer ทำงานโดยใช้คลื่นวิทยุขั้วเดียว (Monopolar RF) เพื่อส่งพลังงานความร้อนลึกถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) ซึ่งเป็นบริเวณที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาโครงสร้างผิวให้แข็งแรงและยืดหยุ่น ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแน่นขึ้น ดูเรียบเนียน และมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น
จุดเด่นของ Vonewmer อยู่ที่หัวทิปซึ่งเคลือบทองคำ และสามารถนำส่งพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าหัวทิปทั่วไปถึง 4 เท่า หัวทิปนี้ยังถูกออกแบบมาให้มีทั้งหมด 4 รูปแบบ เพื่อรองรับการใช้งานในพื้นผิวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณเล็กที่ต้องการความแม่นยำอย่างรอบดวงตา หรือบริเวณกว้าง เช่น โหนกแก้ม และกรอบหน้า
จุดเด่นของ Volnewmer ที่ทำให้แตกต่าง
- Volnewmer มีระบบความเย็นแบบไฮโดร (Hydro Cooling System) ที่ปล่อยพลังงานความเย็นอย่างต่อเนื่องในระหว่างทำหัตถการ ช่วยลดความร้อนสะสมบริเวณผิวชั้นนอกและป้องกันการระคายเคือง
- ระบบสั่นสะเทือน (Vibration System) ที่ช่วยลดความรู้สึกไม่สบาย ทำให้ประสบการณ์ขณะทำรู้สึกผ่อนคลายและเจ็บน้อยกว่าวิธียกกระชับอื่น ๆ
- หัวทิปของ Volnewmer ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยมีขอบโค้งมนและสามารถกระจายพลังงานได้อย่างสม่ำเสมอทั่วพื้นที่ผิวที่ทำการรักษา
- หัวทิปเคลือบด้วยทองคำ ซึ่งเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติในการนำพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าวัสดุทั่วไปถึง 4 เท่า ช่วยให้พลังงานลงลึกได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
เปรียบเทียบความแตกต่างของ Oligio และ Volnewmer
เปรียบเทียบความแตกต่างของ Oligio และ Volnewmer
แม้ว่า Oligio และ Volnewmer จะใช้เทคโนโลยีเดียวกัน คือคลื่นวิทยุ Monopolar RF ความถี่ 6.78 MHz ในการยกกระชับผิว แต่ทั้งสองโปรแกรมกลับมีรายละเอียดการทำงาน และผลลัพธ์ที่แตกต่างกันในหลายจุด ซึ่งเหมาะกับความต้องการของผู้รับบริการที่หลากหลาย
ระบบการควบคุมพลังงาน
- Oligio มาพร้อมระบบ Cooling System ที่ช่วยลดอุณหภูมิผิว พร้อมฟังก์ชัน Vibration เพื่อลดความรู้สึกไม่สบายขณะทำ และมี Real-Time Temperature Monitoring ที่ช่วยวัดอุณหภูมิผิวระหว่างรักษา
- Volnewmer ใช้ Hydro Cooling System ที่ปล่อยความเย็นสม่ำเสมอมากขึ้น และมีระบบ Real-Time Impedance Detection ซึ่งสามารถวัดค่าความต้านทานผิวเพื่อปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้อย่างแม่นยำ
หัวทิปและการส่งพลังงาน
- หัวทิปของ Oligio มีขนาด F4.0 แบบ Flat Tip ช่วยให้ทำงานในพื้นที่กว้างได้อย่างรวดเร็ว
- Volnewmer ใช้หัวทิปเคลือบทอง (Gold RF Tip) ที่มีขอบโค้งมน และมีให้เลือกหลายขนาด เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละจุดของใบหน้า เช่น รอบดวงตา โหนกแก้ม หรือกรอบหน้า สามารถส่งพลังงานได้ลึกและมีประสิทธิภาพมากกว่าหัวทั่วไปถึง 4 เท่า
จุดเด่นเฉพาะ
- Oligio สามารถปรับรูปแบบการทำงานได้ 3 โหมด ได้แก่ โหมดเดี่ยว โหมดคู่ และโหมดอัตโนมัติ ช่วยให้แพทย์ควบคุมพลังงานให้เหมาะกับแต่ละเคสได้ดี โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการ ยกกระชับควบคู่กับการลดไขมันเฉพาะจุด
- Volnewmer เน้นการส่งพลังงานลงลึกอย่างแม่นยำเพื่อ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวและลดเลือนริ้วรอย โดยไม่เน้นการลดไขมัน
ความลึกของพลังงานและผลลัพธ์ที่ได้
- ทั้งสองเทคโนโลยีสามารถยิงพลังงานลงลึกประมาณ 2–4 มิลลิเมตร ถึงชั้นหนังแท้ ซึ่งเป็นชั้นโครงสร้างผิวที่รับผิดชอบความกระชับ
- แต่ Oligio เหมาะกับการยกกระชับ ยกกระชับปรับรูปหน้า และลดไขมัน ส่วน Volnewmer จะโดดเด่นในด้านการ เติมวอลลุ่มผิว ลดริ้วรอย และทำให้ผิวแน่นเรียบเนียนขึ้นทั่วทั้งใบหน้า
ระยะเวลาในการทำและผลลัพธ์ระยะยาว
- Oligio ใช้เวลาทำประมาณ 20–30 นาที เหมาะกับผู้ที่ต้องการความรวดเร็ว ส่วน Volnewmer ใช้เวลารักษานานกว่าเล็กน้อย ประมาณ 30–60 นาที
- ผลลัพธ์ของทั้งสองโปรแกรมจะเริ่มเห็นได้ภายใน 1–3 เดือน และสามารถคงอยู่ได้นาน 6–12 เดือนเช่นกัน
Oligio และ Volnewmer ช่วยอะไรบ้าง?
Oligio ช่วยอะไรบ้าง?
- ยกกระชับผิวหน้าให้เต่งตึงขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ลดความหย่อนคล้อยของผิวบริเวณกรอบหน้า แก้ม คาง และลำคอ
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ในชั้นผิว
- ยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวและเข้ารูปมากขึ้น
- ลดไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น เหนียงและแก้ม
- กระชับรูขุมขน ให้ผิวดูเรียบเนียน
- ลดริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณหน้าผาก หางตา และร่องแก้ม
- ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
- ฟื้นฟูผิวที่ดูเหนื่อยล้า ให้กลับมาสดใส
- ปรับสีผิวให้ดูเรียบเนียนและสม่ำเสมอ
- ลดความหมองคล้ำของใบหน้า
Volnewmer ช่วยอะไรบ้าง?
- ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้ตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายในสู่ภายนอก
- กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินอย่างต่อเนื่อง
- ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ เช่น รอยย่นที่หางตา และใต้ตา
- เติมวอลลุ่มให้ผิวหน้าอิ่มฟู ไม่แบนหรือโทรม
- ช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง ผิวหน้าเนียนละเอียด
- ลดความหมองคล้ำ ผิวดูสดใสมีชีวิตชีวามากขึ้น
- ช่วยกระชับผิวรอบดวงตาและลดถุงใต้ตา
- ลดไขมันใต้คางหรือกรอบหน้า
- ปรับสภาพผิวให้ดูแน่น เต่งตึง ดูสุขภาพดีโดยรวม
Oligio และ Volnewmer เหมาะกับใครบ้าง?
Oligio เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไปและเริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณใบหน้า เช่น แก้ม คาง และเหนียง
- ผู้ที่มีรูขุมขนกว้างและต้องการให้ผิวหน้าเรียบเนียน
- ผู้ที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณหน้าผาก หางตา หรือร่องแก้ม
- ผู้ที่มีแนวกรอบหน้าไม่ชัด ต้องการให้หน้าดูคมชัดขึ้น
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าควบคู่กับการลดไขมันเฉพาะจุด
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับปรับรูปหน้าให้เข้ารูปและได้สัดส่วนมากขึ้น
- ผู้ที่ต้องการลดเหนียงแบบไม่ต้องดูดไขมัน
- ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด หรือฉีดสารเติมเต็ม
Volnewmer เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมใต้คาง หรือบริเวณกรอบหน้า
- ผู้ที่กังวลเรื่องริ้วรอยเล็ก ๆ และผิวไม่กระชับทั่วใบหน้า
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แน่นขึ้นจากภายใน
- ผู้ที่ต้องการกระชับรูขุมขนและเพิ่มความเรียบเนียนของผิว
- ผู้ที่อยากให้ผิวดูอิ่มฟู มีวอลลุ่ม และแลดูสุขภาพดี
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ในการลดถุงใต้ตาและกระชับรอบดวงตา
- ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยโดยไม่ใช้วิธีฉีดสารเติมเต็ม
- ผู้ที่อยากยกระดับคุณภาพผิวโดยรวม ทั้งความตึง แน่น และสว่างใส
- ผู้ที่ต้องการปรับผิวให้เรียบเนียน โดยไม่กระทบต่อเม็ดสีหรือผิวบอบบาง
หมายเหตุ
การเลือกใช้เทคโนโลยี ควรอิงตามสภาพผิว ปัญหาเฉพาะตัว และเป้าหมายของผลลัพธ์ที่ต้องการเป็นสำคัญ การเข้ารับการประเมินจากแพทย์ก่อนทำหัตถการ จะช่วยให้สามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมได้ดี ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการเห็นผลลัพธ์ที่ตรงใจ
Oligio และ Volnewmer ไม่เหมาะกับใครบ้าง?
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ผู้ที่มีอุปกรณ์ฝังในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker)
- ผู้ที่มีรากฟันเทียมหรือหมุดโลหะฝังอยู่บริเวณใบหน้าและลำคอ
- ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคลมชัก หรือระบบประสาททำงานผิดปกติ
- ผู้ที่มีแผลติดเชื้อหรือผิวอักเสบในบริเวณที่จะทำการรักษา
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด หรือใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ที่มีแผลเป็นคีลอยด์ หรือมีประวัติแผลหายยาก
- ผู้ที่มีโรคผิวหนังเฉพาะที่ เช่น โรคสะเก็ดเงิน หรือโรคผิวหนังอักเสบ
- ผู้ที่มีผิวไวต่อการเกิดรอยไหม้หรือบวมแดงง่าย
- ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือกำลังใช้ยากดภูมิ
- ผู้ที่เพิ่งได้รับการทำเลเซอร์ ขัดผิว หรือผลัดเซลล์ผิวมาในช่วง 1–2 สัปดาห์
- ผู้ที่เคยมีปฏิกิริยาแพ้รุนแรงต่อการรักษาด้วยคลื่นพลังงาน
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรังที่ควบคุมไม่ได้ เช่น เบาหวานรุนแรง ความดันสูง
- ผู้ที่มีแผลเปิดหรือแผลสดในบริเวณที่จะรักษา
- ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคเรื้อรังทางผิวหนัง เช่น เริม
- ผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงบนใบหน้า เช่น Bell’s Palsy
- ผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มในพื้นที่เดียวกับจุดที่ต้องการรักษาในช่วง 1 เดือนก่อนหน้า
- ผู้ที่มีปัญหาการไหลเวียนเลือด เช่น โรคหลอดเลือดส่วนปลายอุดตัน
หมายเหตุ
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีทั้งสองจะไม่อันตรายและไม่ต้องพักฟื้น แต่เพื่อความมั่นใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง แพทย์อาจขอเลื่อนหรือยกเลิกการทำหัตถการ หากประเมินแล้วว่ามีความเสี่ยงเกินระดับมาตรฐาน
Oligio และ Volnewmer ควรเตรียมตัวก่อนทำอย่างไร?
- ควรนัดปรึกษาแพทย์ล่วงหน้า เพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม
- ควรแจ้งประวัติสุขภาพโดยละเอียด เช่น โรคประจำตัว ยาที่ใช้อยู่ อาการแพ้ หรือเคยมีประวัติผิวอักเสบ
- ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6–8 ชั่วโมงในคืนก่อนวันทำ
- ควรดื่มน้ำมาก ๆ ในวันก่อนและวันทำ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน
- งดอาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา โสม ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนทำ
- งดการทำเลเซอร์ ผลัดเซลล์ ขัดผิว หรือนวดหน้ารุนแรง อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 3–5 วันก่อนทำ
- หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัดหรือการอาบแดด อย่างน้อย 5–7 วันก่อนทำ
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักก่อนทำ 24 ชั่วโมง เพื่อลดความร้อนสะสมในร่างกาย
- หลีกเลี่ยงการใช้ยากลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน หรือยากลุ่ม NSAIDs อย่างน้อย 5–7 วัน
Oligio และ Volnewmer ดูแลตัวเองหลังทำอย่างไร?
- ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ โดยเลือกกันแดด SPF50 PA+++
- ควรดื่มน้ำมาก ๆ วันละ 8–10 แก้ว เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
- ควรพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6–8 ชั่วโมง
- ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นสูง
- หลีกเลี่ยงการอบซาวน่า ห้องอบไอน้ำ หรือการอาบน้ำอุ่นจัด ภายใน 5–7 วัน
- งดโดนแดดจัด อย่างน้อย 1–2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการระคายเคือง
- งดการขัดหน้า หรือสครับหน้า ในช่วงสัปดาห์แรก
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้หรือสารผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA, Retinol หรือ Vitamin C เข้มข้น อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดนวดหน้า หรือทำหัตถการอื่นเพิ่มเติม เช่น เลเซอร์ ร้อยไหม หรือฉีดสารต่าง ๆ ภายใน 2 สัปดาห์หลังทำ
รวมทุกคำถามของ Oligio และ Volnewmer ที่ควรรู้
ทำ Oligio และ Volnewmer เจ็บไหม?
- ขณะทำจะรู้สึกอุ่นหรือร้อนเล็กน้อยใต้ผิวหนัง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าพลังงานกำลังทำงานในชั้นผิวลึก แต่ทั้ง Oligio และ Volnewmer มีระบบลดความรู้สึกไม่สบาย เช่น Cooling และ Vibration ทำให้รู้สึกเจ็บน้อยมาก และส่วนใหญ่สามารถทนได้โดยไม่ต้องใช้ยาชา
Oligio และ Volnewmer ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
- โดยทั่วไป จะเริ่มเห็นผลบางส่วนหลังทำ และผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นภายใน 1–3 เดือนหลังจากร่างกายเริ่มสร้างคอลลาเจนใหม่เต็มที่ หากต้องการผลลัพธ์ที่ต่อเนื่อง ควรทำประมาณ 2–3 ครั้งต่อปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังทำ
Oligio และ Volnewmer สามารถทำพร้อมกันได้ไหม?
- ไม่แนะนำให้ทำพร้อมกันในวันเดียวกัน เพราะทั้งสองเครื่องใช้พลังงาน Monopolar RF ที่เหมือนกันและมีความเข้มข้นสูง อาจทำให้ผิวได้รับพลังงานสะสมมากเกินไป และเพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคือง ควรเว้นระยะห่างตามคำแนะนำของแพทย์หากต้องการทำทั้งสองโปรแกรม
Oligio และ Volnewmer มีผลข้างเคียงไหม?
- อาจมีอาการรอยแดงหรือผิวอุ่นหลังทำเล็กน้อย ซึ่งเป็นปกติและจะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมง หรือ 1–2 วัน โดยทั่วไปไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงหากทำโดยแพทย์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน
Oligio และ Volnewmer อันตรายไหม?
- เทคโนโลยีทั้ง Oligio และ Volnewmer ผ่านการรับรองจากหน่วยงานมาตรฐานทั้งในระดับสากล ถือว่าเป็นหัตถการที่ไม่อันตราย ไม่ทำลายผิวชั้นบน และไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง ทั้งนี้ การรักษาควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อให้การปล่อยพลังงานลงสู่ผิวเป็นไปอย่างเหมาะสมและแม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพ พร้อมลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการรักษา
สรุปความแตกต่าง Oligio และ Volnewmer เพื่อการเลือกที่ใช่สำหรับผิวหน้า
Oligio และ Volnewmer ต่างเป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่มีจุดเด่นเฉพาะตัว ใช้พลังงาน Monopolar RF ในการฟื้นฟูความตึงกระชับของผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด ทั้งสองเครื่องผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล และให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจเมื่อใช้อย่างเหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน
หากต้องการยกกระชับพร้อมลดไขมัน ยกกระชับปรับรูปหน้าให้คมชัด Oligio คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ แต่หากต้องการฟื้นฟูความยืดหยุ่น ลดริ้วรอย และเสริมโครงสร้างผิว Volnewmer จะเป็นคำตอบที่น่าสนใจยิ่งกว่า
สุดท้าย การตัดสินใจที่ดีคือการได้รับคำแนะนำจากแพทย์ โดยประเมินจากสภาพผิว เป้าหมายที่ต้องการ และความเหมาะสมในเชิงเทคนิค เพราะการดูแลผิวที่ดีควรเลือกให้ดีอย่างเหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีสำหรับตนเอง