เปรียบเทียบ Thermage Eye และ โบหางตา หัตถการรอบดวงตายอดฮิต
ในยุคที่ใบหน้าอ่อนวัยไม่ใช่แค่เรื่องความงาม แต่คือเสน่ห์และความมั่นใจ การดูแลผิวรอบดวงตาจึงได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะดวงตาคือจุดแรกที่สะท้อนอายุ ความเหนื่อยล้า หรือแม้แต่ความหย่อนคล้อยของผิว ไม่ว่าจะเป็นหนังตาตก ริ้วรอยหางตา หรือถุงใต้ตา ล้วนเป็นปัญหาที่หลายคนอยากแก้ไขแบบไม่ต้องผ่าตัด
เทรนด์ความงามยังคงมุ่งเน้นไปที่หัตถการแบบไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งให้ผลลัพธ์ชัดเจนแบบไม่หลอกตา โดยเฉพาะสองทางเลือกยอดนิยมอย่าง Thermage Eye และ โบหางตา ที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านการยกกระชับ ลดริ้วรอย และฟื้นฟูผิวรอบดวงตาอย่างเห็นผล
บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกและเปรียบเทียบข้อดี หลักการทำงาน รวมไปถึงผลลัพธ์ของทั้งสองหัตถการ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่าแบบไหนใช่สำหรับปัญหาและเป้าหมายของคุณ
Thermage Eye และ โบหางตา แตกต่างกันอย่างไร?
Thermage Eye และโบหางตาแตกต่างกันทั้งในด้านหลักการทำงาน ผลลัพธ์ ระยะเวลาคงผล และกลุ่มเป้าหมาย
- Thermage Eye ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Monopolar RF) ยิงพลังงานลงลึกเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและหดไขมัน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหารอบดวงตาหลายจุด เช่น หนังตาตก ถุงใต้ตา หรือคิ้วตก และต้องการฟื้นฟูผิวอย่างครอบคลุมโดยไม่ต้องฉีดสารหรือผ่าตัด ผลลัพธ์ค่อยเป็นค่อยไปแต่คงอยู่นาน 1–2 ปี
- โบหางตาเป็นการฉีดสารออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อเฉพาะจุด ช่วยลดริ้วรอยหางตาและยกหางตาขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบเร่งด่วนในงบประมาณที่ย่อมเยา แต่ผลจะอยู่ได้ประมาณ 3–6 เดือน และต้องฉีดซ้ำเป็นระยะ
โดยสรุป Thermage Eye เหมาะกับการแก้ปัญหารอบดวงตาแบบองค์รวมและยาวนาน ส่วนโบหางตาเหมาะกับการเก็บรายละเอียดเฉพาะจุดในระยะสั้น
ทำความรู้จักกับ Thermage Eye และ โบหางตา
Thermage Eye คืออะไร?
Thermage Eye เป็นเทคโนโลยีการฟื้นฟูผิวบริเวณรอบดวงตาด้วยคลื่นความร้อนที่พัฒนาเฉพาะเพื่อดูแลผิวบริเวณที่บอบบาง เช่น เปลือกตา หางตา และใต้ตา โดยใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar RF) ที่สามารถส่งพลังงานลงสู่ชั้นผิวได้อย่างลึก
กลไกการทำงานของ Thermage Eye
เมื่อปล่อยพลังงาน Monopolar RF ลงไปในผิวหนัง พลังงานความร้อนจะทำให้เส้นใยคอลลาเจนที่เสื่อมสภาพเกิดการหดตัวทันที ส่งผลให้ผิวกระชับแน่นขึ้นในทันที พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและยืดหยุ่นยิ่งขึ้นในระยะยาว อีกทั้งยังสามารถลดไขมันสะสมบริเวณเปลือกตาและใต้ตาได้ดี ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของถุงใต้ตาและหนังตาตก
จุดเด่นของ Thermage Eye
- Thermage Eye ออกแบบมาเพื่อใช้กับผิวรอบดวงตาโดยเฉพาะ สามารถทำงานบนบริเวณที่บอบบาง เช่น เปลือกตาบน
- Thermage Eye ใช้ Eye Shield เพื่อป้องกันดวงตาระหว่างทำ ช่วยให้กระบวนการทำไม่เสี่ยงอันตราย
- Thernage Eye เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล
- ผลลัพธ์ของ Thernage Eye เริ่มสังเกตได้ทันทีหลังทำ และจะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วง 2-3 เดือนถัดไป
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องหยุดงานหรือพักฟื้น
โบหางตา คืออะไร?
โบหางตา เป็นหัตถการที่ใช้การฉีดสารออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ไปยังกล้ามเนื้อบริเวณหางตา เพื่อคลายแรงเกร็งของกล้ามเนื้อที่เป็นต้นเหตุของริ้วรอย เช่น ริ้วรอยหางตา และภาวะหางตาตก ซึ่งส่งผลให้ดวงตาดูเหนื่อยล้า
โดยสารออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ จะทำหน้าที่ยับยั้งการส่งสัญญาณประสาทไปยังกล้ามเนื้อเป้าหมาย ส่งผลให้กล้ามเนื้อคลายตัว ลดการหดเกร็งของผิวหนังบริเวณนั้น และช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังช่วยให้หางตายกขึ้น ทำให้ดวงตาดูสดใสและอ่อนวัย
การฉีดโบหางตา มักใช้เทคนิคการฉีดในปริมาณพอเหมาะเฉพาะกล้ามเนื้อรอบหางตา เพื่อปรับระดับการยกของหางตาให้ดูดีขึ้น ลดริ้วรอยบริเวณหางตา โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการแสดงอารมณ์หรือความสามารถในการขยับกล้ามเนื้อบริเวณอื่น
จุดเด่นของการฉีดโบหางตา
- เห็นผลลัพธ์ได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยปกติจะเริ่มเห็นภายใน 3–5 วัน และเห็นผลเต็มที่ในช่วง 1–2 สัปดาห์
- ช่วยให้ใบหน้าดูสดชื่นขึ้น ดวงตาดูเปิดกว้าง โดยไม่ต้องอาศัยการผ่าตัด
- เป็นหัตถการที่ไม่มีระยะพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- ไม่เสี่ยงอันตรายเมื่อทำโดยแพทย์ประจำคลินิก
- ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 3–6 เดือน ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละบุคคล
เปรียบเทียบความแตกต่าง Thermage Eye และ โบหางตา
หลักการทำงาน
- Thermage Eye ทำงานโดยใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar RF) ส่งลงไปสู่ผิวหนังชั้นลึกเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และช่วยลดไขมันสะสมบริเวณเปลือกตาและใต้ตา ทำให้ผิวรอบดวงตากระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ส่วนโบหางตาใช้สารออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ เข้าไปที่กล้ามเนื้อบริเวณหางตา ซึ่งมีผลให้กล้ามเนื้อคลายตัว ลดรอยย่นที่เกิดจากการขยับใบหน้า และทำให้หางตาดูยกขึ้น
ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้
- Thermage Eye เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก ผิวรอบดวงตาหย่อนคล้อย ริ้วรอยลึก ถุงใต้ตา หรือแม้แต่คิ้วตกและชั้นตาที่ดูหลบใน เพราะสามารถฟื้นฟูได้ในหลายจุดพร้อมกัน
- ในทางกลับกัน โบหางตาจะเน้นแก้ปัญหาเฉพาะจุด เช่น รอยตีนกา หางตาตก และภาวะที่ดวงตาดูอ่อนล้า โดยมุ่งเป้าไปที่การยกหางตาให้ดูสดใสขึ้นในระยะสั้น
ผลลัพธ์ได้
- หลังทำ Thermage Eye ผิวบริเวณรอบดวงตาจะค่อย ๆ ดูกระชับขึ้น ริ้วรอยลดลง ถุงใต้ตาและไขมันส่วนเกินบริเวณเปลือกตาจะดูจางลง ดวงตาดูโตขึ้นและสว่างสดใสยิ่งขึ้น
- สำหรับโบหางตา ผู้รับบริการจะเห็นผลลัพธ์เรื่องการยกหางตาและลดริ้วรอย ใบหน้าดูอ่อนวัยลง และดวงตาดูเปิดขึ้นโดยไม่ต้องใช้เวลานาน
ระยะเวลาผลลัพธ์
- การทำ Thermage Eye ให้ผลที่ยาวนานประมาณ 1–2 ปี โดยผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นในช่วง 2–3 เดือนหลังทำ
- ขณะที่โบหางตาจะให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้ประมาณ 3–6 เดือน ขึ้นกับการดูแลและสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ระยะเวลาทำหัตถการ
- Thermage Eye ใช้เวลาทำประมาณ 30–60 นาทีต่อครั้ง และสามารถเริ่มเห็นผลบางส่วนได้ทันที โดยผลจะชัดเจนขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
- ส่วนโบหางตาจะใช้เวลาน้อยกว่า โดยมักทำเสร็จภายใน 10–20 นาที และเห็นผลเต็มที่ภายใน 1–2 สัปดาห์
การพักฟื้นหลังทำ
- ทั้งสองหัตถการไม่จำเป็นต้องหยุดพักฟื้น แต่สำหรับ Thermage Eye ผู้รับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติทันทีหลังทำ ส่วนโบหางตาอาจมีรอยเข็มเล็กน้อย ซึ่งมักหายได้เองภายใน 1–2 วัน
Thermage Eye และ โบหางตา ช่วยอะไรบ้าง?
Thermage Eye ช่วยอะไรบ้าง?
- ยกหนังตาที่เริ่มหย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น
- ลดอาการคิ้วตก ทำให้คิ้วยกขึ้น
- ช่วยยกหางตาโดยไม่ต้องผ่าตัด
- แก้ปัญหาชั้นตาหลบในจากความหย่อนคล้อย
- ปรับรูปตาให้ดูโค้งและชัดเจนขึ้น
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่รอบดวงตา
- เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวเปลือกตาและใต้ตา
- ลดเลือนริ้วรอยรอบตา เช่น รอยย่นใต้ตา รอยยับที่เปลือกตา
- ผิวรอบดวงตาดูเรียบเนียนขึ้น
- ลดความหมองคล้ำรอบดวงตาได้บางส่วน
- ลดขนาดของถุงใต้ตา
- ลดไขมันสะสมที่เปลือกตาบนหรือเปลือกตาล่าง
โบหางตา ช่วยอะไรบ้าง?
- ยกหางตาที่ตกจากอายุหรือความเหนื่อยล้า
- ยกแนวคิ้วบริเวณหางให้ดูโก่งขึ้น
- ปรับมุมหางตาให้ดูสดใสขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ลดรอยหางตาอย่างเห็นผล
- ลดริ้วรอยที่เกิดจากการขยับกล้ามเนื้อรอบหางตา
- ทำให้ผิวบริเวณหางตาเรียบขึ้น
- ดวงตาดูเปิดกว้างขึ้น แม้จะไม่มีการผ่าตัด
รวมข้อดีของ Thermage Eye และ โบหางตา
รวมข้อดีของ Thermage Eye
- ยกกระชับผิวรอบดวงตาได้แบบองค์รวม ทั้งหนังตา หางตา ใต้ตา และคิ้ว
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ในระยะยาว
- ลดความหย่อนคล้อยของผิวรอบดวงตาโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ช่วยลดถุงใต้ตาและไขมันสะสมรอบดวงตา
- ปรับชั้นตาที่หลบในจากอายุให้ดูชัดเจนขึ้น
- ดวงตาดูโตขึ้น สดใส และใบหน้าโดยรวมดูอ่อนวัย
- เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรก และจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ใน 2–3 เดือน
- ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1–2 ปี
- ไม่มีแผล ไม่มีการฉีดสารเข้าสู่ร่างกาย
- ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที
- ใช้ได้กับผิวบริเวณที่บอบบาง เช่น เปลือกตาบน ได้โดยไม่เสี่ยงต่อดวงตา
- ไม่ต้องทำบ่อยครั้ง ลดภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว
- ให้ผลลัพธ์ที่ไม่แข็งหรือดูหลอกตา
รวมข้อดีของโบหางตา
- ช่วยยกหางตาตกให้ดูยกขึ้นอย่างชัดเจน
- ลดรอยตีนกาและริ้วรอยหางตาได้รวดเร็ว
- เห็นผลภายใน 7–14 วันหลังฉีด
- ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปทำงานหรือกิจกรรมได้ทันที
- ขั้นตอนใช้เวลาเพียง 10–20 นาทีต่อครั้ง
- มีราคาย่อมเยากว่าเทคโนโลยีอื่น
- เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดหรือใช้อุปกรณ์ใด ๆ
- สามารถทำเฉพาะจุดได้แบบตรงกับปัญหาแต่ละราย
- ช่วยให้ใบหน้าดูสดชื่นขึ้น ดวงตาเปิดกว้าง ไม่ดูเหนื่อยล้า
- ไม่อันตราย เมื่อทำโดยแพทย์ประจำคลินิก
- สามารถทำซ้ำได้เป็นระยะโดยไม่มีผลสะสมถาวร
- ร่างกายสามารถกำจัดสารออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อได้เองตามธรรมชาติ
ข้อจำกัดของ Thermage Eye และ โบหางตา
ข้อจำกัดของ Thermage Eye
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหัตถการอื่น
- ผลลัพธ์ไม่ได้ชัดเจนทันทีภายในวันเดียว ต้องรอเวลา 2–3 เดือน
- ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบเร่งด่วน
- ต้องใช้เครื่องที่มีคุณภาพ และทำโดยแพทย์เท่านั้น
- บางรายอาจรู้สึกอุ่นหรือเจ็บเล็กน้อยขณะทำ
- ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยขั้นรุนแรงได้เท่าการผ่าตัด
- ไม่สามารถยกหางตาเฉพาะจุดได้แบบการฉีดโบ
- อาจต้องทำซ้ำเมื่อครบระยะเวลา 1–2 ปี
ข้อจำกัดของโบหางตา
- ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน เพียง 3–6 เดือน ต้องฉีดซ้ำเป็นประจำ
- หากฉีดผิดตำแหน่งอาจเกิดภาวะตาปรือ คิ้วตก หรือหน้าผิดสมดุล
- ไม่สามารถแก้ปัญหาหย่อนคล้อยระดับลึกหรือไขมันสะสมได้
- แก้ปัญหาเฉพาะจุดเท่านั้น ไม่ฟื้นฟูภาพรวมรอบดวงตา
- ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะดูแข็งจนเกินไป หากฉีดมากเกินไป
- ไม่สามารถยกชั้นตาหรือปรับหนังตาบนที่หย่อนลงได้ดีเท่าเทคโนโลยีอื่น
- อาจมีรอยเข็มเล็กน้อยหลังทำ ต้องหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าทันที
- ผู้ที่ดื้อโบหรือมีภูมิคุ้มกันสูงอาจไม่เห็นผลชัดเจน
- ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อหลีกเลี่ยงโบปลอม
- ไม่เหมาะกับผู้ที่กลัวเข็มหรือไม่ต้องการสารเข้าสู่ร่างกาย
Thermage Eye และ โบหางตา เหมาะกับใคร?
Thermage Eye เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป และเริ่มมีสัญญาณความหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีหนังตาบนหย่อนคล้อย จากอายุหรือพฤติกรรมการใช้สายตา
- ผู้ที่มีถุงใต้ตาชัด และไม่ต้องการผ่าตัดเอาไขมันออก
- ผู้ที่มีริ้วรอยรอบดวงตา ทั้งหางตา ใต้ตา หรือเปลือกตา
- ผู้ที่มีคิ้วตก ส่งผลให้ใบหน้าดูเศร้าหมอง
- ผู้ที่มีชั้นตาหลบใน จากผิวหย่อนคล้อย ไม่ได้เกิดจากกรรมพันธุ์
- ผู้ที่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนรอบดวงตา เพื่อฟื้นฟูผิวให้ตึงขึ้น
- ผู้ที่กลัวการฉีด ไม่อยากให้มีสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย
- ผู้ที่ไม่ต้องการหยุดงาน ต้องการหัตถการที่ไม่ต้องพักฟื้น
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไปแต่ยาวนาน
- ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาหลายจุดรอบดวงตาแบบองค์รวม
- ผู้ที่ไม่อยากทำหัตถการบ่อย ต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน 1–2 ปี
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปตาให้ดูสดใส อ่อนวัยกว่าเดิม
โบหางตา เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีริ้วรอยหางตาอย่างชัดเจนเมื่อยิ้ม
- ผู้ที่มีหางตาตก ทำให้หน้าดูเหนื่อยหรือเศร้า
- ผู้ที่ต้องการให้แนวคิ้วยกขึ้นเฉพาะจุด โดยไม่ต้องทำทั่วหน้า
- ผู้ที่อยากให้ดวงตาดูเปิดกว้างขึ้นแบบเร่งด่วน
- ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น และต้องการเห็นผลเร็วใน 1–2 สัปดาห์
- ผู้ที่อยากรีเฟรชใบหน้าให้ดูสดใสขึ้นแบบไม่เปลี่ยนโครงสร้าง
- ผู้ที่ต้องการทำหัตถการเป็นจุดเฉพาะ ไม่ทั่วทั้งรอบดวงตา
หมายเหตุ
การเลือกหัตถการรอบดวงตาที่เหมาะสม ควรพิจารณาจากลักษณะปัญหาเฉพาะบุคคล ความต้องการผลลัพธ์ งบประมาณ และความสะดวกในการดูแลหลังทำ ไม่ว่าจะเลือกวิธีใด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับตามความต้องการ
Thermage Eye และ โบหางตา ไม่เหมาะกับใคร?
Thermage Eye ไม่เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนในทันที
- ผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์เทียบเท่าการผ่าตัดดึงตา
- ผู้ที่มีผิวรอบดวงตาบางมากผิดปกติ หรือมีปัญหาเนื้อเยื่อบางระดับลึก
- ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับผิวหนังรอบดวงตาเรื้อรัง เช่น ผื่นภูมิแพ้ ผิวหนังอักเสบ
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรังควบคุมไม่ได้ เช่น เบาหวานขั้นรุนแรง หรือโรคหัวใจที่ไม่คงที่
- ผู้ที่มี เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าในร่างกาย
- ผู้ที่เคยผ่าตัดรอบดวงตาหรือดึงหน้า แล้วมีพังผืดจำนวนมาก
- ผู้ที่มีปัญหาเส้นประสาทรอบตา หรือประวัติการบาดเจ็บทางระบบประสาทใบหน้า
- ผู้ที่มีภาวะติดเชื้อบริเวณรอบดวงตา หรือมีแผลอักเสบอยู่ในขณะนั้น
- ผู้ที่มีไขมันรอบดวงตาน้อยหรือไม่มีไขมันเลย เพราะอาจทำให้ยิ่งดูตอบ
- ผู้ที่มีความไวต่อความร้อนหรือเคยมีปฏิกิริยาแพ้จากหัตถการด้วยคลื่นพลังงาน
- ผู้ที่มีประวัติแผลคีลอยด์ง่าย เพราะแม้ไม่มีแผล แต่บางรายผิวอาจระคายเคือง
โบหางตา ไม่เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ผู้ที่ดื้อโบหรือมีภูมิคุ้มกันที่ต่อต้านสารออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ
- ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบกล้ามเนื้อและระบบประสาท เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ผู้ที่มีการติดเชื้อผิวหนังรอบดวงตา หรือมีสิวอักเสบในตำแหน่งที่จะฉีด
- ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือมีประวัติแพ้สารออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบถาวร เพราะโบหางตาอยู่ได้เพียง 3–6 เดือน
- ผู้ที่กล้ามเนื้อรอบดวงตาอ่อนแรงแต่กำเนิด หรือมีปัญหาตาปรือ
- ผู้ที่คาดหวังให้โบช่วยยกหนังตาแบบลึกหรือแก้ชั้นตาหลบใน
- ผู้ที่มีอาการตาแห้งเรื้อรังหรือหนังตาบางมากจนเกินไป
- ผู้ที่ฉีดโบบ่อยเกินไปแล้วเริ่มมีอาการกล้ามเนื้อชินยา หรือหน้าแข็ง
Thermage Eye กับโบหางตา ต่างกันอย่างไร?
- Thermage Eye เป็นเทคโนโลยียกกระชับที่ใช้คลื่นวิทยุ Monopolar RF ส่งความร้อนลึกลงไปในชั้นผิว เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและหดไขมัน เหมาะกับการแก้ปัญหาหนังตาตก ถุงใต้ตา คิ้วตก และริ้วรอยรอบดวงตา
- ส่วนโบหางตา คือการฉีดออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อหางตาที่ทำให้เกิดรอยหางตาและหางตาตก เหมาะสำหรับการเก็บรายละเอียดเฉพาะจุด และให้ผลลัพธ์รวดเร็ว
ทำ Thermage Eye และ โบหางตา ร่วมกันได้ไหม?
- สามารถทำร่วมกันได้ ในบางกรณีแพทย์อาจแนะนำให้ใช้ Thermage Eye เพื่อยกกระชับรอบดวงตาโดยรวม แล้วเสริมด้วยโบหางตาเพื่อเก็บริ้วรอยเฉพาะจุด จะช่วยให้ผลลัพธ์ ทั้งคงทนและดูชัดขึ้นเร็ว
ดวงตาเป็นจุดสำคัญที่สะท้อนถึงความสดใสและอ่อนวัยของใบหน้า การเลือกหัตถการที่เหมาะสมจึงไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังเกี่ยวข้องกับความมั่นใจในทุกมิติของชีวิต
Thermage Eye เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหลายจุดรอบดวงตา เช่น หนังตาตก ริ้วรอยลึก ถุงใต้ตา หรือคิ้วตก และต้องการฟื้นฟูผิวโดยไม่ต้องฉีดสารหรือผ่าตัด ด้วยผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน ในขณะที่โบหางตาตอบโจทย์ผู้ที่มีเวลาจำกัด ต้องการผลลัพธ์เฉพาะจุด เช่น ริ้วรอยหางตา หางตาตก หรืออยากให้ดวงตาดูเปิดขึ้นอย่างเร่งด่วน โดยใช้เวลาไม่นานและไม่ต้องพักฟื้น
ไม่ว่าจะเลือกวิธีใด การประเมินกับแพทย์ก่อนทำคือขั้นตอนสำคัญที่สุด เพื่อให้เข้าใจถึงปัญหาที่แท้จริง ความเหมาะสมของแต่ละวิธี และการได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับปัญหาผิว