เตือนภัย! ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมผิดปกติ อันตรายจริงไหม?

เตือนภัย! ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมผิดปกติ อันตรายจริงไหม?

ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมผิดปกติ อันตรายจริงไหม?

เกิดเรื่องราวสุดสะเทือนใจในวงการความงาม! เมื่อมีผู้เสียหายรายหนึ่งได้ออกแชร์ประสบการณ์ผ่านโลกออนไลน์ว่า หลังเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์เมื่อหลายปีก่อน แต่จู่ ๆ กลับเกิดอาการอักเสบอย่างรุนแรง ใบหน้าบวม ๆ ยุบ ๆ ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นใจ และการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก โดยในกรณีนี้ นับเป็นอุทาหรณ์ครั้งใหญ่ที่ตอกย้ำถึงความสำคัญ ในการเลือกคลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ไปจนถึงการปฏิบัติตัวหลังฉีดตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ในบทความนี้ เราจะพามาเจาะลึก และไขข้อสงสัยเกี่ยวกับ การฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมผิดปกติว่า เกิดจากสาเหตุอะไร? อันตรายไหม? มีวิธีแก้ไขอย่างไร? พร้อมแนะนำแนวทางในการปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงอันตรายในระยะยาว

 

ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมผิดปกติ เกิดจากสาเหตุอะไร? อันตรายไหม? มีวิธีแก้อย่างไร?

 

ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมผิดปกติ เกิดจากสาเหตุอะไร?
ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมผิดปกติ เกิดจากสาเหตุอะไร?

ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม แบ่งออกเป็นกี่ประเภท?

อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ขึ้นอยู่กับสาเหตุ และลักษณะของอาการ ดังนี้

  • ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมปกติ

การฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมปกติ ส่วนใหญ่จะมาจากการบวมเข็ม บวมยาชา หรือบวมจากตัวฟิลเลอร์ ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังฉีดในทันที และจะค่อย ๆ ยุบลงเองภายใน 1 สัปดาห์หลังฉีด โดยสามารถดูแลตัวเองได้ด้วยการประคบเย็นเบา ๆ หรือปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

  • ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมผิดปกติ

การฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมผิดปกติ สามารถสังเกตได้จากอาการบวม ๆ ยุบ ๆ ผิวเปลี่ยนสี ปวดรุนแรง กดเจ็บหรือมีหนองร่วมด้วย โดยส่วนใหญ่จะมาจากการติดเชื้อ อักเสบ หรือร่างกายเกิดปฏิกิริยาต่อต้านสารในฟิลเลอร์ ซึ่งในกรณีนี้อาจเกิดขึ้นหลังฉีดในทันที หรือเกิดขึ้นหลังฉีดไปแล้วหลายปี โดยสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ หรือขูดฟิลเลอร์ออก ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์

 

ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมผิดปกติ อันตรายไหม?

โดยปกติแล้ว หลังฉีดฟิลเลอร์จะมีอาการบวมแดงเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด ซึ่งถือเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยจะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง ภายใน 1 สัปดาห์หลังฉีด แต่หากอาการบวมที่เกิดขึ้นนั้น มีลักษณะบวม ๆ ยุบ ๆ แบบผิดปกติสลับกันไป หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดรุนแรง ผิวเปลี่ยนสี มีหนอง กดเจ็บ หรือเป็นไข้ อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะแทรกซ้อนอันตราย ซึ่งต้องได้รับการรักษาจากแพทย์โดยด่วน

ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมผิดปกติ เกิดจากสาเหตุอะไร?

การฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมผิดปกติ สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

  • ใช้ฟิลเลอร์ปลอมไม่มีคุณภาพ

การฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมผิดปกติเกิดจาก การใช้ฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ผ่านการรับรอง อย. หรือใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งอาจมีสารปนเปื้อนที่ก่อให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรง จนทำให้เกิดอาการบวม ๆ ยุบ ๆ ผิดปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ได้

  • ร่างกายเกิดปฏิกิริยาต่อต้านฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมผิดปกติเกิดจาก ร่างกายเกิดปฏิกิริยาต่อต้านสารในฟิลเลอร์ ถึงแม้ว่าฟิลเลอร์ที่ใช้จะเป็นฟิลเลอร์แท้ แต่ในบางกรณีร่างกายอาจมองว่าฟิลเลอร์เป็นสารแปลกปลอม และพยายามกำจัด จนสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาต่อต้านสารในฟิลเลอร์ ทำให้เกิดอาการอักเสบ หรือบวมผิดปกติหลังฉีดได้ 

  • แพทย์ขาดความชำนาญ

การฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมผิดปกติเกิดจาก แพทย์ที่ฉีดขาดความรู้ และความชำนาญ ซึ่งแพทย์อาจพลาดฉีดผิดชั้นผิว หรือใช้เทคนิคในการฉีดที่ไม่ถูกต้อง จนทำให้เกิดอาการบวม เป็นก้อน หรือผิวไม่เรียบเนียนหลังฉีดได้

  • ขั้นตอนการฉีดไม่สะอาด

การฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมผิดปกติเกิดจาก การใช้อุปกรณ์ที่ไม่ปลอดเชื้อ หรือขั้นตอนการฉีดที่ไม่สะอาด ซึ่งอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค หรือสิ่งสกปรกขณะฉีด จนส่งผลให้เกิดการอักเสบ หรือบวมผิดปกติหลังฉีดได้

  • ปฏิบัติตัวผิดวิธีหลังฉีด

การฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมผิดปกติเกิดจาก การปฏิบัติตัวผิดวิธีหลังฉีด ซึ่งอาจเป็นการกระตุ้นให้เกิดอาการอักเสบ หรือบวมผิดปกติได้ เช่น การกดใบหน้าแรงเกินไป การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ หรือแม้แต่การรับประทานอาหารหมักดอง 

  • ฟิลเลอร์กระตุ้นการอักเสบในระยะยาว

การฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมผิดปกติเกิดจาก ฟิลเลอร์กระตุ้นการอักเสบในระยะยาว แม้จะเป็นกรณีที่พบได้ไม่บ่อยนัก แต่บางครั้งร่างกายอาจเกิดปฏิกิริยาอักเสบต่อฟิลเลอร์หลังฉีดไปแล้วหลายเดือน หรือหลายปี ซึ่งทำให้มีอาการบวม ๆ ยุบ ๆ ผิดปกติร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น ผิวเปลี่ยนสี ปวดรุนแรง หรือมีหนองหลังฉีดได้

 

ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมผิดปกติ แก้ไขได้อย่างไร?

แนวทางการรักษา หรือแก้ไขหลังฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดอาการบวมผิดปกติ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งการประเมินของแพทย์ ลักษณะของอาการ และระดับความรุนแรงของปัญหา ซึ่งโดยส่วนใหญ่ แนวทางในการแก้ไขฟิลเลอร์ มีดังนี้

  • ฉีดสลายฟิลเลอร์

การฉีดสลายฟิลเลอร์ จะสามารถใช้ได้ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) เท่านั้น โดยจะใช้เอนไซม์ที่มีชื่อว่า Hyaluronidase ในการเข้าไปทำลายโครงสร้างโมเลกุลของ HA ในบริเวณที่มีปัญหา ทำให้ฟิลเลอร์บริเวณที่ฉีดค่อย ๆ แตกตัว และยุบลงภายใน 1 สัปดาห์หลังฉีด ซึ่งอาจต้องมีการฉีดซ้ำอย่างน้อย 1 – 3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของปัญหา

  • เจาะ หรือดูดฟิลเลอร์ออก

การเจาะ หรือดูดฟิลเลอร์ออก จะสามารถใช้ได้ในกรณีที่ฟิลเลอร์ยังเป็นของเหลว มีอาการบวมอักเสบ และไม่สามารถสลายได้ด้วย Hyaluronidase จึงจำเป็นต้องใช้เข็มดูด หรือเจาะในบริเวณที่มีปัญหา เพื่อนำฟิลเลอร์ออก ซึ่งวิธีการนี้จะไม่สามารถนำฟิลเลอร์ออกมาได้ทั้งหมด 

  • ผ่าตัด หรือขูดฟิลเลอร์ออก

การผ่าตัด หรือขูดฟิลเลอร์ออก จะสามารถใช้ได้ในกรณีที่ฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็งขนาดใหญ่ มีพังผืดล้อมรอบ และไม่สามารถสลายได้ด้วย Hyaluronidase โดยจะผ่าตัดเปิดแผลในบริเวณที่มีปัญหา เพื่อนำฟิลเลอร์ออกมาโดยตรง ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน และไม่สามารถนำฟิลเลอร์ออกมาได้ทั้งหมด 

 

ข้อควรปฏิบัติหลังทำการฉีดฟิลเลอร์
ข้อควรปฏิบัติหลังทำการฉีดฟิลเลอร์

 

ข้อควรปฏิบัติหลังทำการฉีดฟิลเลอร์

  • หลังทำการฉีดฟิลเลอร์ หลีกเลี่ยงการจับ นวด หรือกดแรงบริเวณที่ฉีด
  • หลังทำการฉีดฟิลเลอร์ งดการแต่งหน้าในบริเวณที่ฉีดช่วง 12 – 24 ชั่วโมงแรก
  • หลังทำการฉีดฟิลเลอร์ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่
  • หลังทำการฉีดฟิลเลอร์ งดออกกำลังกายหนักที่ต้องใช้แรงมาก
  • หลังทำการฉีดฟิลเลอร์ งดโดนแสงแดด ความร้อน หรืออยู่ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูง
  • หลังทำการฉีดฟิลเลอร์ งดรับประทานของหมักดอง อาหารดิบ และอาหารรสจัด
  • หลังทำการฉีดฟิลเลอร์ งดใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทผลัดเซลล์ผิวที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
  • หลังทำการฉีดฟิลเลอร์ ควรดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ
  • หลังทำการฉีดฟิลเลอร์ สังเกตอาการผิดปกติ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

 

อาการฟิลเลอร์แล้วบวมผิดปกติ ถือเป็นที่สัญญาณเตือนไม่ควรมองข้าม หากเกิดขึ้นควรรีบทำการพบแพทย์โดยด่วน เพื่อตรวจประเมิน และทำการรักษาอย่างเหมาะสม ดังนั้น การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ที่มีความชำนาญ และใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วน รวมทั้งหลังฉีดควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอันตรายในระยะยาว

 

*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด