ฉีดสารเติมเต็ม (Filler) คืออะไร? ก่อนและหลังฉีดควรรู้อะไรบ้าง?
ในปี 2025 การฉีดสารเติมเต็ม หรือฟิลเลอร์ (Filler) ยังคงได้รับความนิยม และเป็นกระแสอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นตัวช่วยที่สามารถปรับปรุง และแก้ไขปัญหารูปหน้าได้ตามความต้องการ ทำให้ผิวมีความอิ่มฟู เรียบเนียน กระชับ และใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น โดยไม่ต้องเสี่ยงกับการผ่าตัด หรือพักฟื้นนาน สำหรับใครที่กำลังเป็นมือใหม่ และสนใจการฉีดสารเติมเต็ม บทความนี้ จะมาพามาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการฉีดสารเติมเต็มว่า สารเติมเต็มคืออะไร? สารเติมเต็มทำงานอย่างไร? สารเติมเต็มช่วยเรื่องอะไร? ก่อนและหลังฉีดสารเติมเต็มควรรู้อะไรบ้าง? เพื่อเตรียมพร้อมก่อนฉีดกันค่ะ
ฉีดสารเติมเต็ม (Filler) ฉบับมือใหม่ รู้ลึกทุกเรื่องก่อนและหลังฉีด
สารเติมเต็ม (Filler) มีกี่ประเภท?
การฉีดสารเติมเต็ม (Filler) สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
- สารเติมเต็มแบบชั่วคราว (Temporary Filler)
สารเติมเต็มแบบชั่วคราว (Temporary Filler) เป็นสารเติมเต็มที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และถูกนำมาใช้กันอย่างกว้างขวางในวงการความงาม ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะผลิตจาก Hyaluronic Acid (HA) ที่สามารถพบได้ตามธรรมชาติของร่างกาย และสามารถย่อยสลายได้เอง โดยไม่ก่อให้เกิดการตกค้างในชั้นผิว จึงช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการแพ้ และเกิดอันตรายหลังฉีด
- สารเติมเต็มแบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler)
สารเติมเต็มแบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler) เป็นสารเติมเต็มที่ถูกสังเคราะห์ขึ้น เพื่อให้สามารถเข้ากันได้ดีกับร่างกาย ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะผลิตจาก Calcium Hydroxylapatite (CaHA), Poly-L-lactic Acid (PLLA) หรือสารชนิดอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ฉีด รวมทั้ง ยังสามารถคงอยู่ได้อย่างยาวนาน เมื่อเทียบกับสารเติมเต็มแบบชั่วคราว และสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
- สารเติมเต็มแบบถาวร (Permanent Filler)
สารเติมเต็มแบบถาวร (Permanent Filler) เป็นสารเติมเต็มที่ไม่สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ และจะคงอยู่ในร่างกายอย่างถาวร อีกทั้ง ยังเป็นสารที่ไม่ได้รับการรับรองจาก อย. เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดผลข้างเคียงอันตราย เช่น อักเสบเรื้อรัง ติดเชื้อ เป็นก้อนแข็ง หรือไหลย้อย ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะผลิตจากซิลิโคนเหลว หรือพาราฟิน
สารเติมเต็ม (Filler) คืออะไร?
สารเติมเต็ม (Filler) คือ สารประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่นิยมนำมาใช้ฉีดเข้าสู่ใต้ผิวหนัง เพื่อเติมเต็มปริมาตรในส่วนที่มีริ้วรอย ร่องลึก หรือผิวที่ยุบตัวลง เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา หรือขมับ อีกทั้ง ยังสามารถนำมายกกระชับ พยุงโครงสร้างผิว และสร้างมิติให้กับใบหน้าได้หลายบริเวณ เช่น หน้าผาก คาง หรือหน้าแก้ม เพื่อให้ผิวดูเต่งตึง อิ่มฟู เรียบเนียน และมีสัดส่วนที่สวยงามมากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วหลังฉีด
สารเติมเต็ม (Filler) ทำงานอย่างไร?
การฉีดสารเติมเต็ม (Filler) จะทำงานโดยการเข้าไปเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก และช่องว่างใต้ผิวหนัง เพื่อให้ผิวดูอิ่มฟู กระชับ และเต่งตึงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในบริเวณที่สูญเสียคอลลาเจน ไขมัน และกระดูกที่ทรุดตัวตามวัย นอกจากนี้ ยังสามารถเข้าไปพยุงโครงสร้างผิว และปรับโครงสร้างใบหน้า เพื่อให้รูปหน้ามีความสมดุล คมชัด และดูมีมิติมากขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะแลดูเป็นธรรมชาติ และกลมกลืนเข้ากับผิวอย่างเรียบเนียน โดยไม่แข็งทื่อ หรือเป็นก้อนแข็งหลังฉีด
ฉีดสารเติมเต็ม (Filler) ใช้กับจุดไหนได้บ้าง?
การฉีดสารเติมเต็ม (Filler) สามารถใช้ได้กับหลายจุดบนใบหน้า และลำตัว ซึ่งโดยส่วนใหญ่จุดที่นิยมในการฉีดสารเติมเต็ม มีดังนี้
- หน้าผาก
การฉีดสารเติมเต็มบริเวณหน้าผาก สามารถเติมเต็มหน้าผากให้โหนกนูนสวย โค้งมน ดูมีมิติ และมีสัดส่วนที่รับกับใบหน้ามากขึ้น
- ขมับ
การฉีดสารเติมเต็มบริเวณขมับ สามารถเติมเต็มขมับให้มีความอิ่มฟู สมส่วน ดูมีวอลลุ่ม และรูปหน้ามีความละมุนมาขึ้น รวมถึง ยังสามารถลดปัญหาโหนกแก้มชัด และใบหน้าดูแก่กว่าวัยได้อีกด้วย
- ใต้ตา
การฉีดสารเติมเต็มบริเวณใต้ตา สามารถเติมเต็มใต้ตาให้มีความอิ่มฟู อ่อนกว่าวัย และดูสดใสเหมือนนอนเต็มอิ่ม รวมถึง ยังสามารถลดความคล้ำของใต้ตา และลดริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตาได้อีกด้วย
- แก้มส้ม
การฉีดสารเติมเต็มบริเวณแก้มส้ม สามารถเติมเต็มหน้าแก้มให้มีความอวบอิ่ม ดูมีวอลลุ่ม และอ่อนกว่าวัยมากขึ้น รวมถึง ยังสามารถลดความหย่อนคล้อยบริเวณใบหน้าส่วนบนได้อีกด้วย
- แก้มตอบ
การฉีดสารเติมเต็มบริเวณแก้มตอบ สามารถเติมเต็มข้างแก้มให้มีความอิ่มฟู ดูมีวอลลุ่ม และมีสัดส่วนที่รับกับใบหน้ามากขึ้น รวมถึง ยังสามารถลดความหย่อนคล้อยของผิวได้อีกด้วย
- ร่องแก้ม
การฉีดสารเติมเต็มบริเวณร่องแก้ม สามารถเติมเต็มร่องแก้มให้มีความอิ่มฟู เรียบเนียน และดูอ่อนกว่าวัยมากขึ้น รวมถึง ยังสามารถลดความหย่อนคล้อย และลดความเหนื่อยล้าของใบหน้าได้อีกด้วย
- ริมฝีปาก
การฉีดสารเติมเต็มบริเวณริมฝีปาก สามารถเติมเต็มริมฝีปากให้มีความอวบอิ่ม เต่งตึง และมีรูปทรงที่สวยงามมากขึ้น รวมถึง ยังสามารถเพิ่มความชุ่มชื้น และเพิ่มความคมชัดให้ขอบปากได้อีกด้วย
- กรอบหน้า
การฉีดสารเติมเต็มบริเวณกรอบหน้า สามารถเติมเต็มกรอบหน้าให้มีความคมชัด และดูมีมิติมากขึ้น รวมถึง ยังสามารถลดความหย่อนคล้อย และสร้างความสมดุลให้กับใบหน้าได้อีกด้วย
- คาง
การฉีดสารเติมเต็มบริเวณคาง สามารถเติมเต็มคางให้มีความเรียวยาว คมชัด ดูมีมิติ และมีสัดส่วนที่สวยงามมากขึ้น
- ลำคอ
การฉีดสารเติมเต็มบริเวณลำคอ สามารถเติมเต็มริ้วรอย รอยพับ และรอยเหี่ยวย่นบริเวณลำคอ รวมถึง ยังสามารถเพิ่มความชุ่มชื้น และลดความหย่อนคล้อยบริเวณลำคอได้อีกด้วย
- หลังมือ
การฉีดสารเติมเต็มบริเวณหลังมือ สามารถเติมเต็มริ้วรอย และรอยเหี่ยวย่นบริเวณหลังมือ รวมถึง ยังสามารถเพิ่มความชุ่มชื้น และลดความหยาบกร้านของผิวบริเวณหลังมือได้อีกด้วย
ฉีดสารเติมเต็ม (Filler) มีข้อดีอย่างไร?
- การฉีดสารเติมเต็ม สามารถปรับปรุง และแก้ไขปัญหาได้อย่างแม่นยำ
- การฉีดสารเติมเต็ม สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
- การฉีดสารเติมเต็ม ให้ผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ กลมกลืนไปกับผิว และไม่แข็งทื่อจนเกินไป
- การฉีดสารเติมเต็ม ไม่ใช่ศัลยกรรม จึงไม่มีรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นนาน
- การฉีดสารเติมเต็ม สามารถใช้ได้กับหลายจุดบนใบหน้า และลำตัว เช่น ใต้ตา หน้าผาก ร่องแก้ม ริมฝีปาก คาง หรือหลังมือ
- การฉีดสารเติมเต็ม ไม่เสี่ยงอันตราย เนื่องจากย่อยสลายได้เอง และไม่มีสารตกค้างในชั้นผิว
ฉีดสารเติมเต็ม (Filler) ยี่ห้อไหนดี? แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร?
การฉีดสารเติมเต็ม (Filler) มีให้เลือกหลายยี่ห้อ ซึ่งยี่ห้อที่ได้รับการอนุมัติ และขึ้นทะเบียนจาก อย. มีดังนี้
- ฉีดสารเติมเต็มยี่ห้อ Juvederm สัญชาติอเมริกา
การฉีดสารเติมเต็มยี่ห้อ Juvederm เป็นสารเติมเต็มสัญชาติอเมริกาที่ใช้กระบวนการผลิตที่เรียกว่า Hylacross Technology และ Vycross Technology ทำให้ Juvederm มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการยกกระชับผิว โมเลกุลของฟิลเลอร์สามารถยึดเกาะได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง และบวมน้ำน้อย โดยมีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ ขึ้นอยู่กับจุดที่ฉีด และลักษณะของปัญหา ซึ่งผลลัพธ์หลังฉีด Juvederm สามารถอยู่ได้นาน 12 – 24 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้
- ฉีดสารเติมเต็มยี่ห้อ Restylane สัญชาติสวีเดน
การฉีดสารเติมเต็มยี่ห้อ Restylane เป็นสารเติมเต็มสัญชาติสวีเดนที่ใช้กระบวนการผลิตที่เรียกว่า NASHA Technology และ OBT Technology ทำให้ Restylane มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการยกพยุงผิว และปรับรูปทรงได้อย่างหลากหลาย เนื่องจากโมเลกุลของฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น และคงตัวสูง โดยมีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ ขึ้นอยู่กับจุดที่ฉีด และลักษณะของปัญหา ซึ่งผลลัพธ์หลังฉีด Restylane สามารถอยู่ได้นาน 12 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้
- ฉีดสารเติมเต็มยี่ห้อ Belotero สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์
การฉีดสารเติมเต็มยี่ห้อ Belotero เป็นสารเติมเต็มสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ที่ใช้กระบวนการผลิตที่เรียกว่า CPM Technology ทำให้ Belotero มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการปั้นทรง และขึ้นรูปได้อย่างหลากหลาย เนื่องจากโมเลกุลของฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น หนาแน่น และคงตัวสูง โดยมีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ ขึ้นอยู่กับจุดที่ฉีด และลักษณะของปัญหา ซึ่งผลลัพธ์หลังฉีด Belotero สามารถอยู่ได้นาน 6 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้
- ฉีดสารเติมเต็มยี่ห้อ Neauvia สัญชาติอิตาลี
การฉีดสารเติมเต็มยี่ห้อ Neauvia เป็นสารเติมเต็มสัญชาติอิตาลีที่ใช้กระบวนการผลิตที่เรียกว่า SXT Technology รวมถึง ใช้ Polyethylene Glycol (PEG) ในการเชื่อมพันธะฟิลเลอร์ ทำให้ Neauvia มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการทนความร้อน และมีความยืดหยุ่นสูง โดยไม่เสี่ยงต่อการแพ้ และอักเสบ ซึ่งผลลัพธ์หลังฉีด Neauvia สามารถอยู่ได้นาน 6 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้
- ฉีดสารเติมเต็มยี่ห้อ Definisse สัญชาติอิตาลี
การฉีดสารเติมเต็มยี่ห้อ Definisse เป็นสารเติมเต็มสัญชาติอิตาลีที่ใช้กระบวนการผลิตที่เรียกว่า XTR™ Technology ทำให้ Definisse มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการยกพยุงผิว และปรับโครงสร้างใบหน้าได้ดี เนื่องจากโมเลกุลของฟิลเลอร์ที่ผสานกันจนเป็นร่างแห จึงส่งผลให้เนื้อเจลมีความยืดหยุ่นสูง สามารถคงรูปได้ดี และบวมน้ำน้อย โดยผลลัพธ์หลังฉีด Definisse สามารถอยู่ได้นาน 12 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้
- ฉีดสารเติมเต็มยี่ห้อ Art Filler สัญชาติฝรั่งเศส
การฉีดสารเติมเต็มยี่ห้อ Art Filler เป็นสารเติมเต็มสัญชาติฝรั่งเศสที่ใช้กระบวนการผลิตที่เรียกว่า TRI-HYAL Technology ทำให้ Art Filler มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการกักเก็บน้ำ และเติมเต็มผิวได้ดี เนื่องจากเป็นการรวมโมเลกุลของฟิลเลอร์ทั้ง 3 รูปแบบไว้ในหนึ่งเดียว จึงส่งผลให้เนื้อเจลมีความเนียนละเอียด ยืดหยุ่นสูง และกระจายตัวได้ดี โดยผลลัพธ์หลังฉีด Art Filler สามารถอยู่ได้นาน 6 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้
- ฉีดสารเติมเต็มยี่ห้อ Volifil สัญชาติเกาหลีใต้
การฉีดสารเติมเต็มยี่ห้อ Volifil เป็นสารเติมเต็มสัญชาติเกาหลีใต้ที่ใช้กระบวนการผลิตที่เรียกว่า HCCL Technology และ PP Process ทำให้ Volifil มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการปั้นทรงง่าย และเติมเต็มผิวได้ดี เนื่องจากโมเลกุลของฟิลเลอร์ที่มีความเนียนละเอียด ยืดหยุ่น และคงตัวสูง โดยไม่เสี่ยงต่อการบวม หรือเป็นก้อนหลังฉีด ซึ่งผลลัพธ์ของ Volifil สามารถอยู่ได้นาน 9 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้
ฉีดสารเติมเต็ม (Filler) เหมาะกับใครบ้าง?
- การฉีดสารเติมเต็ม เหมาะกับ ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป
- การฉีดสารเติมเต็ม เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย รอยย่น รอยพับ และร่องลึก
- การฉีดสารเติมเต็ม เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย แก้มห้อย ต้องการยกกระชับผิว
- การฉีดสารเติมเต็ม เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหาโครงหน้าไม่ชัด ต้องการเพิ่มมิติให้ใบหน้า
- การฉีดสารเติมเต็ม เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหาโครงหน้าไม่สมดุล ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน
- การฉีดสารเติมเต็ม เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง หยาบกร้าน และขาดน้ำ
- การฉีดสารเติมเต็ม เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าโทรม อ่อนล้า ดูแก่กว่าวัย
- การฉีดสารเติมเต็ม เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าตอบ โหนกแก้มชัด
- การฉีดสารเติมเต็ม เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหากระดูกทรุด หรือผิวยุบตัวตามวัย
- การฉีดสารเติมเต็ม เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการเติมเต็ม และเพิ่มวอลลุ่มให้ผิว
- การฉีดสารเติมเต็ม เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการให้ใบหน้ามีความละมุน ดูเด็กลง
- การฉีดสารเติมเต็ม เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการปรับแก้ปัญหาเฉพาะจุด โดยไม่ต้องศัลยกรรม
ทั้งนี้ ก่อนฉีดสารเติมเต็ม ควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์ และแจ้งข้อมูลสุขภาพให้แพทย์ทราบ ไม่ว่าจะเป็นประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ ประวัติการรักษา และยาที่ใช้เป็นประจำ
ฉีดสารเติมเต็ม (Filler) ไม่เหมาะกับใครบ้าง?
- การฉีดสารเติมเต็ม ไม่เหมาะกับ ผู้ที่อยู่ในช่วงของการตั้งครรภ์
- การฉีดสารเติมเต็ม ไม่เหมาะกับ ผู้ที่อยู่ในช่วงของการให้นมบุตร
- การฉีดสารเติมเต็ม ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีประวัติแพ้สารเติมเต็ม หรือสาร Hyaluronic Acid (HA)
- การฉีดสารเติมเต็ม ไม่เหมาะกับ ผู้ที่อยู่ในภาวะเลือดไหลออกง่าย
- การฉีดสารเติมเต็ม ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีอาการผิวติดเชื้อ อักเสบ หรือเป็นสิวในบริเวณที่ฉีด
- การฉีดสารเติมเต็ม ไม่เหมาะกับ ผู้ที่อยู่ในภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- การฉีดสารเติมเต็ม ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา หรือ Lidocaine
ทั้งนี้ ก่อนฉีดสารเติมเต็ม ควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์ และแจ้งข้อมูลสุขภาพให้แพทย์ทราบ ไม่ว่าจะเป็นประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ ประวัติการรักษา และยาที่ใช้เป็นประจำ
ก่อนฉีดสารเติมเต็ม (Filler) ควรรู้อะไรบ้าง?
- ก่อนฉีดสารเติมเต็ม ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และแพทย์ที่มีความชำนาญ
- ก่อนฉีดสารเติมเต็ม ควรเลือกใช้สารเติมเต็มแท้ที่ผ่านการอนุมัติจาก อย.
- ก่อนฉีดสารเติมเต็ม งดใช้ยาที่ต้านการอักเสบ และยาที่ส่งผลให้เลือดออกง่าย
- ก่อนฉีดสารเติมเต็ม งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่
- ก่อนฉีดสารเติมเต็ม งดทำเลเซอร์ หรือทรีตเมนต์ร้อนที่ทำให้ผิวอักเสบ
- ก่อนฉีดสารเติมเต็ม งดใช้สกินแคร์ หรือครีมที่ผลัดเซลล์ผิว
- ก่อนฉีดสารเติมเต็ม ควรนอนหลับ และพักผ่อนให้เต็มที่
หลังฉีดสารเติมเต็ม (Filler) ควรปฏิบัติตัวอย่างไร?
- หลังฉีดสารเติมเต็ม ควรประคบเย็นอย่างเบามือ เพื่อลดอาการบวม
- หลังฉีดสารเติมเต็ม หลีกเลี่ยงการบีบ กด นวด หรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด
- หลังฉีดสารเติมเต็ม ควรนอนหงาย โดยใช้หมอนหนุนสูงกว่าระดับหน้าอกเล็กน้อย
- หลังฉีดสารเติมเต็ม งดการตากแดด และโดนความร้อนบริเวณที่ฉีด
- หลังฉีดสารเติมเต็ม งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่
- หลังฉีดสารเติมเต็ม งดทำกิจกรรมที่หนักเกินไป หรือออกกำลังกายแบบหักโหม
- หลังฉีดสารเติมเต็ม งดใช้สกินแคร์ หรือครีมที่ผลัดเซลล์ผิว
- หลังฉีดสารเติมเต็ม งดทำเลเซอร์ หรือทรีตเมนต์ร้อนที่ทำให้ผิวอักเสบ
- หลังฉีดสารเติมเต็ม ควรทาครีมกันแดด และมอยส์เจอไรเซอร์อย่างสม่ำเสมอ
- หลังฉีดสารเติมเต็ม ควรจิบน้ำบ่อย ๆ อย่างน้อย 1.5 – 2 ลิตรต่อวัน
ฉีดสารเติมเต็ม (Filler) ช่วยเรื่องอะไร?
- การฉีดสารเติมเต็ม ช่วยในเรื่องของการเติมเต็มริ้วรอย รอยย่น รอยพับ และร่องลึกบนใบหน้า
- การฉีดสารเติมเต็ม ช่วยในเรื่องของการปรับโครงสร้างใบหน้าให้สมดุล และดูมีมิติ
- การฉีดสารเติมเต็ม ช่วยในเรื่องของการเติมเต็มปริมาตรให้ผิวในบริเวณที่เกิดช่องว่าง
- การฉีดสารเติมเต็ม ช่วยในเรื่องของการยกกระชับ และพยุงโครงสร้างผิวให้มีความเต่งตึง
- การฉีดสารเติมเต็ม ช่วยในเรื่องของการปรับแต่งรูปทรงตามจุดต่าง ๆ ให้มีความสวยงาม
- การฉีดสารเติมเต็ม ช่วยในเรื่องของการเพิ่มวอลลุ่ม และเพิ่มความอวบอิ่มให้ผิว
- การฉีดสารเติมเต็ม ช่วยในเรื่องของการปรับกรอบหน้าให้ชัดเจน และมีความคมชัด
- การฉีดสารเติมเต็ม ช่วยในเรื่องของการเพิ่มความชุ่มชื้น และลดความหยาบกร้านของผิว
- การฉีดสารเติมเต็ม ช่วยในเรื่องของการเติมเต็มรูขุมขน และหลุมสิวให้มีความเรียบเนียน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดสารเติมเต็ม (Filler)
ฉีดสารเติมเต็ม ควรใช้ปริมาณกี่ CC?
- โดยทั่วไป การฉีดสารเติมเต็มในแต่ละบุคคลจะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่แตกต่างกัน ซึ่งเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ ประมาณ 1 – 2 CC ต่อจุด ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน แต่ในกรณีที่มีปัญหาใบหน้าค่อนข้างมาก หรือต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน อาจต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากกว่า 2 CC ขึ้นไปค่ะ
ฉีดสารเติมเต็ม เจ็บไหม?
- โดยทั่วไป การฉีดสารเติมเต็มจะมีความรู้สึกตึง ๆ หรือเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากผู้ช่วยแพทย์จะมีการทายาชาให้ก่อนฉีด อีกทั้ง สารเติมเต็มในบางยี่ห้อยังมีส่วนผสมของยาชาร่วมด้วย เพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บขณะฉีด
ฉีดสารเติมเต็ม ต้องฉีดบ่อยแค่ไหน?
- โดยทั่วไป การฉีดสารเติมเต็มสามารถฉีดซ้ำได้เรื่อย ๆ หากยังไม่พอใจในผลลัพธ์ ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว ผลลัพธ์ของสารเติมเต็มจะคงอยู่ได้นาน ประมาณ 6 – 18 เดือน ขี้oอยู่กับยี่ห้อที่ใช้ บริเวณที่ฉีด และสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ฉีดสารเติมเต็ม มีอาการข้างเคียงอะไรบ้าง?
- โดยทั่วไป หลังฉีดสารเติมเต็มอาจพบอาการบวม ฟกช้ำ ปวดตึง หรือคันเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้ จะเกิดขึ้นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ และไม่เป็นอันตรายใด ๆ ต่อร่างกาย โดยสามารถหายได้เอง ภายใน 1 สัปดาห์หลังฉีด
ฉีดสารเติมเต็ม สามารถฉีดสลายได้ไหม?
- โดยทั่วไป การฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) สามารถฉีดสลายได้ โดยไม่เป็นอันตรายใด ๆ ซึ่งจะใช้เอนไซม์ที่เรียกว่า Hyaluronidase ในการเข้าไปสลายโมเลกุลของฟิลเลอร์ ทำให้บริเวณที่ฉีดค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาพเดิมใกล้เคียงกับก่อนฉีด ทั้งนี้ การฉีดสลายฟิลเลอร์ควรอยู่ภายใต้การดูแลจากแพทย์ที่มีความชำนาญ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนค่ะ
ฉีดสารเติมเต็มแท้ กับ สารเติมเต็มปลอม มีวิธีเช็กอย่างไร?
- โดยทั่วไป ก่อนฉีดสารเติมเต็มสามารถขอให้แพทย์เปิดกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า จากนั้นให้ตรวจสอบเลข Lot., เลขทะเบียน อย., วันหมดอายุ และเอกสารกำกับภาษาไทยก่อนฉีด เพื่อยืนยันว่าสารเติมเต็มที่ใช้เป็นของแท้ และมีการนำเข้ามาโดยบริษัทผู้จัดจำหน่ายอย่างถูกต้อง
การฉีดสารเติมเต็ม ถือเป็นอีกหนึ่งหัตถการด้านความงามที่ไม่อันตราย และมีประสิทธิภาพแก้ไขปัญหารูปหน้าได้หลายแบบ โดยเฉพาะการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก และยกกระชับปรับรูปหน้าเฉพาะจุด ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ และกลมกลืนเข้ากับผิวอย่างเรียบเนียน ทำให้การฉีดสารเติมเต็มสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันได้ลงตัว ดังนั้น ก่อนตัดสินใจฉีดสารเติมเต็ม แนะนำให้เลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ แพทย์ที่มีความชำนาญ และใช้สารเติมเต็มแท้ที่ผ่านการอนุมัติจาก อย. รวมถึง ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดสารเติมเต็มเบื้องต้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจ และป้องกันการเกิดผลข้างเคียงอันตรายหลังฉีด
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด