สลายฟิลเลอร์ มีกี่วิธี? รวมวิธีสลายฟิลเลอร์ที่ต้องรู้
หลายคนอาจกำลังเผชิญปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อน ใบหน้าดูบวม แลดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือผลลัพธ์ที่ได้ไม่ตรงตามความต้องการ “การสลายฟิลเลอร์” จึงเป็นอีกหนึ่งทางออกในการแก้ไขปัญหา และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน ในปัจจุบันวิธีการสลายฟิลเลอร์มีให้เลือกหลากหลายวิธี ซึ่งโดยส่วนใหญ่ วิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ไขปัญหาคือ การใช้เอนไซม์ Hyaluronidase ฉีดเข้าไปยังผิวหนัง เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ ในบทความนี้ จะพามาเจาะลึกทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการสลายฟิลเลอร์ว่า มีกี่วิธี? มีวิธีไหนที่ช่วยสลายฟิลเลอร์ได้บ้าง? วันนี้รมย์รวินท์มีคำตอบค่ะ
สลายฟิลเลอร์ วิธีไหนได้บ้าง? อันตรายไหม? เปรียบเทียบวิธีสลายฟิลเลอร์
สลายฟิลเลอร์ คืออะไร?
สลายฟิลเลอร์ คือ กระบวนการทางการแพทย์ที่ใช้ในการย่อยสลาย หรือกำจัดฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปในผิวหนัง ซึ่งโดยปกติแล้วฟิลเลอร์จะสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ภายใน 6 – 18 เดือน แต่ในกรณีที่เกิดปัญหา ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ไหลย้อย ฟิลเลอร์บวม ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ ฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็ง หรือฉีดแล้วไม่พึงพอใจในผลลัพธ์ โดยแพทย์อาจพิจารณาให้ฉีดสลายด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase เพื่อย่อยสลายโครงสร้างโมเลกุลของฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ออกจากผิวหนัง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยม และไม่เสี่ยงอันตราย รวมถึงสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดแผลเป็น หรือภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว
ทำไมถึงต้องสลายฟิลเลอร์?
โดยทั่วไปแล้วการสลายฟิลเลอร์ไม่ได้หมายความว่า ฉีดฟิลเลอร์แล้วผิดพลาดเสมอไป แต่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ใช้แก้ไข หรือปรับปรุงผลลัพธ์ที่ไม่น่าพึงพอใจ รวมถึงผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นจากการฉีด โดยสาเหตุที่พบได้บ่อยในการสลายฟิลเลอร์ มีดังนี้
- ฟิลเลอร์เป็นก้อน
- ฟิลเลอร์ไหลย้อย
- ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ ผิดตำแหน่ง
- ฟิลเลอร์บวม
- ใบหน้าผิดรูป
- ผิวไม่เรียบเนียน
- ผลลัพธ์แลดูไม่เป็นธรรมชาติ
- ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
ซึ่งปัญหาเหล่านี้ ส่วนใหญ่มักเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่ขาดความรู้ ความเข้าใจ หรือใช้เทคนิคในการฉีดที่ไม่เหมาะสมกับปัญหาผิว ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดได้ง่าย และผลลัพธ์ที่ได้ไม่ตรงตามความต้องการ
การสลายฟิลเลอร์ มีกี่วิธี?
โดยทั่วไป การสลายฟิลเลอร์จะแบ่งออกได้เป็น 3 วิธีหลัก ๆ ขึ้นอยู่กับประเภทฟิลเลอร์ และปัญหาที่เกิดขึ้นหลังฉีด ดังนี้
ฉีดสลายฟิลเลอร์
การฉีดสลายฟิลเลอร์ เป็นวิธีที่ใช้สลายฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) เท่านั้น โดยการใช้เอนไซม์ Hyaluronidase ช่วยเร่งกระบวนการย่อยสลายฟิลเลอร์ออกจากผิวหนัง ซึ่งเอนไซม์ชนิดนี้จะเข้าไปทำปฏิกิริยากับโมเลกุลของฟิลเลอร์ให้แตกตัวกลายเป็นของเหลว และถูกขับออกจากร่างกายตามธรรมชาติ โดยสามารถย่อยสลายฟิลเลอร์ได้ทั้งหมด และเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอให้ฟิลเลอร์สลายเอง แต่วิธีนี้จะไม่สามารถใช้ย่อยสลายฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์ประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ใช่สาร HA ได้
ขูดฟิลเลอร์
การขูดฟิลเลอร์ เป็นวิธีที่ใช้สลายฟิลเลอร์ปลอมประเภทซิลิโคนเหลว พาราฟิน หรือฟิลเลอร์ประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ใช่สาร HA โดยการใช้เครื่องมือแพทย์ขูด เพื่อนำฟิลเลอร์ที่เกาะติดกับเนื้อเยื่อออกจากผิวหนัง ซึ่งสามารถนำออกมาได้เพียง 60 – 70% เท่านั้น ไม่สามารถนำฟิลเลอร์ออกมาได้ทั้งหมด โดยส่วนใหญ่วิธีนี้จะใช้แก้ไขปัญหา เมื่อฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนแข็ง บวม เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ และแพ้ฟิลเลอร์ ซึ่งหลังทำการรักษาอาจเกิดแผลเป็น และเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ
ผ่าตัดฟิลเลอร์
การผ่าตัดฟิลเลอร์ เป็นวิธีที่ใช้สลายฟิลเลอร์ปลอมประเภทซิลิโคนเหลว พาราฟิน หรือฟิลเลอร์ประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ใช่สาร HA โดยการผ่าตัดเปิดแผลขนาดใหญ่ เพื่อนำฟิลเลอร์ออกจากผิวหนังโดยตรงด้วยเครื่องมือแพทย์ ซึ่งสามารถนำฟิลเลอร์ออกมาได้มากกว่าการขูด แต่ก็ไม่สามารถนำออกมาได้ทั้งหมด อีกทั้งยังมีความเสี่ยงสูงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน และแผลเป็นหลังทำ โดยส่วนใหญ่วิธีนี้จะใช้แก้ไขปัญหา เมื่อฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็งขนาดใหญ่ หรือฟิลเลอร์ฝังลึกจนเกิดพังผืด ไม่สามารถใช้วิธีขูดออกได้ ซึ่งการผ่าตัดจึงเป็นทางเลือกสุดท้ายในการแก้ไขปัญหา
วิธีอื่น ๆ ที่ช่วยให้ฟิลเลอร์สลายเร็ว มีอะไรบ้าง?
โดยทั่วไปแล้วผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ประเภท HA จะไม่คงอยู่ถาวร แต่หากต้องการเร่งการสลายฟิลเลอร์นอกเหนือจากการใช้เอนไซม์ Hyaluronidase สามารถใช้วิธีอื่น ๆ ที่ช่วยเร่งกระบวนการสลายตัวตามธรรมชาติได้ โดยเฉพาะในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังฉีด ซึ่งเป็นช่วงที่ฟิลเลอร์ยังไม่เซตตัวอย่างสมบูรณ์ ดังนี้
- การโดนแสงแดดจัด หรืออยู่ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูง เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ
- การออกกำลังกายอย่างหนัก และสม่ำเสมอ
- การทำกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายได้รับความร้อนสูง
- การทำเลเซอร์ หรือเครื่องยกกระชับด้วยคลื่นความร้อน
- การรับประทานอาหารที่มีความร้อนสูง เช่น หมูกระทะ ชาบู หรือปิ้งย่าง
การฉีดสลายฟิลเลอร์ มีข้อดีอย่างไร?
- สามารถแก้ไขผลลัพธ์ที่ผิดพลาด จากการฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหลย้อย ใบหน้าบวมผิดปกติ หรือเกิดการอักเสบ
- สามารถทำให้ผิวบริเวณที่เคยฉีดฟิลเลอร์กลับคืนสู่สภาพปกติ มีความเรียบเนียนใกล้เคียงกับก่อนฉีด
- สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยจะเริ่มเห็นผลภายใน 24 – 48 ชั่วโมง จากนั้นจะเห็นผลชัดเจนขึ้นภายใน 5 – 7 วัน
- ไม่เสี่ยงอันตราย เนื่องจากใช้เอนไซม์ Hyaluronidase ฉีดเข้าสู่ผิวหนัง ซึ่งจะไม่ทิ้งสารตกค้าง และไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงในระยะยาวเมื่อเทียบกับการผ่าตัด หรือขูดฟิลเลอร์ออก
- ไม่มีบาดแผล และไม่มีรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด ทำให้ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน หลังฉีดเสร็จสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- สามารถป้องกันความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายได้ เช่น การอุดตันในเส้นเลือด
- ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิต และลดความกังวลจากผลลัพธ์ที่ผิดพลาดหลังฉีดฟิลเลอร์
ใครที่ควรฉีดสลายฟิลเลอร์?
- ผู้ที่ฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็ง หรือเวลาคลำแล้วรู้สึกว่าผิวนูนผิดปกติ
- ผู้ที่ใบหน้าดูใหญ่ บวมผิดปกติ และไม่แลดูเป็นธรรมชาติ
- ผู้ที่ใบหน้าผิดรูป บิดเบี้ยว และไม่สมส่วน
- ผู้ที่ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ และไหลย้อยลงมาผิดตำแหน่ง
- ผู้ที่ไม่พึงพอใจในผลลัพธ์หลังจากฉีดฟิลเลอร์
- ผู้ที่ต้องการแก้ไข หรือปรับปรุงรูปหน้าหลังจากฉีดฟิลเลอร์
- ผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ใหม่ และไม่ต้องการคงสภาพของฟิลเลอร์เดิมไว้
หมายเหตุ ก่อนตัดสินใจสลายฟิลเลอร์ ควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด พร้อมแจ้งข้อมูลสุขภาพให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ ประวัติการรักษา และยาที่รับประทานอยู่
การเตรียมตัวก่อนฉีดสลายฟิลเลอร์
- ควรศึกษา และค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับการสลายฟิลเลอร์เบื้องต้น
- ควรแจ้งข้อมูลสุขภาพ และประวัติการฉีดฟิลเลอร์เดิมให้แพทย์ทราบอย่างครบถ้วน
- สำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้เหล็กในผึ้ง ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนฉีด เพื่อป้องกันการเกิดอาการแพ้
- ควรนอนหลับ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีความพร้อมก่อนฉีด
- งดรับประทานยากลุ่มต้านการอักเสบ หรือยาที่ทำให้เลือดไหลออกง่าย ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนฉีด
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่ เพื่อป้องกันรอยฟกช้ำ
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในวันที่เข้ารับบริการ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
การฉีดสลายฟิลเลอร์ มีขั้นตอนอะไร?
- ปรึกษาแพทย์ และสอบถามข้อมูล
ก่อนสลายฟิลเลอร์ ควรสอบถามข้อมูล และข้อสงสัยเกี่ยวกับการสลายฟิลเลอร์กับแพทย์ ทั้งในเรื่องของผลลัพธ์ ผลข้างเคียง และวิธีการดูแลตัวเองหลังทำการรักษา รวมถึงแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์เดิมที่เคยฉีดให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด
- แพทย์ตรวจประเมิน และวิเคราะห์ปัญหา
แพทย์จะทำการตรวจสอบ ประเมิน และวิเคราะห์ปัญหาในบริเวณที่เคยฉีดฟิลเลอร์ พร้อมวางแผนการรักษาอย่างถูกต้อง และคำนวณปริมาณยาที่ใช้อย่างเหมาะสม
- ทำความสะอาดผิวบริเวณที่ฉีด
ผู้ช่วยแพทย์จะทำความสะอาดผิวในบริเวณที่ฉีดสลาย เพื่อฆ่าเชื้อ และเตรียมผิวให้พร้อมก่อนเริ่มฉีด ซึ่งจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อหลังฉีด
- ฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase
แพทย์จะทำการฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase เข้าไปยังบริเวณที่มีฟิลเลอร์เดิมอยู่ ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหา หรือข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ติดตามผล และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
เมื่อสลายฟิลเลอร์เสร็จ แพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างเหมาะสม พร้อมนัดติดตามผลหลังทำการรักษา เพื่อประเมิน และพิจารณาว่าจำเป็นต้องฉีดสลายเพิ่มหรือไม่
การฉีดสลายฟิลเลอร์ ใช้ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง?
การฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase สามารถฉีดได้ทุกตำแหน่งบนใบหน้าที่มีฟิลเลอร์ประเภท HA อยู่ โดยตำแหน่งที่นิยมสลายฟิลเลอร์ และมักเกิดปัญหาบ่อย มีดังนี้
- ใต้ตา เป็นบริเวณที่พบปัญหาบ่อยเมื่อเทียบกับบริเวณอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดปัญหาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน เป็นลำ ใต้ตาดูบวม และย้อยผิดปกติ เนื่องจากผิวบริเวณใต้ตามีความบาง และละเอียดอ่อนมาก จึงเสี่ยงต่อการผิดพลาดได้ง่าย
- หน้าผาก เป็นอีกหนึ่งบริเวณที่พบปัญหาบ่อย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดปัญหาฟิลเลอร์นูน ปูด เป็นก้อน เป็นคลื่น และหน้าผากดูไม่เรียบเนียน เนื่องจากผิวบริเวณหน้าผากมีความบาง และละเอียดอ่อนมาก จึงเสี่ยงต่อการผิดพลาดได้ง่าย
- ร่องแก้ม เป็นอีกหนึ่งบริเวณที่พบปัญหาบ่อย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนนูน บวม แลดูไม่เป็นธรรมชาติ และผิวดูไม่เรียบเนียน โดยจะเห็นได้ชัดเวลายิ้ม หรือหัวเราะ
- ปาก เป็นอีกหนึ่งบริเวณที่พบปัญหาบ่อย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน บวม หรือฉีดแล้วไม่พึงพอใจในผลลัพธ์ เช่น ปากหนาเกินไป ปากใหญ่เกินไป ไม่ได้รูปทรงตามที่ต้องการ หรือผลลัพธ์แลดูไม่เป็นธรรมชาติ
- คาง เป็นอีกหนึ่งบริเวณที่พบปัญหาบ่อย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็ง บวม ย้อยผิดปกติ หรือฉีดแล้วไม่พึงพอใจในผลลัพธ์ เช่น คางยาวเกินไป คางแหลมเกินไปคล้ายแม่มด หรือผลลัพธ์แลดูไม่เป็นธรรมชาติ
การฉีดสลายฟิลเลอร์ กี่วันถึงเห็นผล?
โดยทั่วไปหลังจากสลายฟิลเลอร์ด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase ตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 24 – 48 ชั่วโมงแรกหลังฉีด ซึ่งจะสังเกตเห็นได้ว่า เนื้อฟิลเลอร์ค่อย ๆ นิ่ม และยุบตัวลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นตัวยาจะออกฤทธิ์เรื่อย ๆ จนถึงจุดที่สลายฟิลเลอร์ได้อย่างเต็มที่ และร่างกายจะดูดซึมฟิลเลอร์ในส่วนที่สลายออกไป ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความชัดเจนมากขึ้นภายใน 5 – 7 วัน โดยแพทย์อาจนัดติดตามผลการรักษาอีกครั้ง เพื่อประเมินว่า ฟิลเลอร์ยังคงหลงเหลืออยู่หรือไม่ หากยังมีฟิลเลอร์หลงเหลืออยู่ แพทย์อาจพิจารณาให้ฉีดสลายฟิลเลอร์เพิ่มเติม เพื่อความสมบูรณ์ของผลลัพธ์
ฉีดสลายฟิลเลอร์ เจ็บไหม?
โดยทั่วไปการฉีดสลายฟิลเลอร์ อาจให้ความรู้สึกเจ็บเล็กน้อยในระหว่างที่ทำการรักษา ซึ่งเป็นความเจ็บที่ไม่รุนแรง และอยู่ในระดับที่สามารถทนได้ ให้ความรู้สึกคล้ายกับการฉีดฟิลเลอร์ทั่วไป โดยจะรู้สึกเมื่อแพทย์ใช้เข็มจิ้มลงไปยังผิวหนัง จากนั้นตัวยา Hyaluronidase จะทำปฏิกิริยากับฟิลเลอร์ และเนื้อเยื่อบริเวณที่ฉีด ทำให้อาจรู้สึกเจ็บแสบ และตึงผิวเล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติ
หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ เติมใหม่ได้เลยไหม?
หลังทำการฉีดสลายฟิลเลอร์ไม่ควรเติมฟิลเลอร์ใหม่เลย เนื่องจากเอนไซม์ Hyaluronidase ยังคงออกฤทธิ์ และทำงานอยู่ หากฉีดฟิลเลอร์ใหม่เข้าไป อาจทำให้ตัวยาทำปฏิกิริยากับฟิลเลอร์ใหม่จนสลายตัวเร็วได้ อีกทั้งหลังจากฉีดสลายอาจมีอาการบวมแดง อักเสบ รอยช้ำ หรือรู้สึกปวดตึงผิวเล็กน้อย เนื่องจากผิวยังเข้าที่ไม่สมบูรณ์ จึงต้องให้เวลาผิวได้พัก และฟื้นตัวกลับสู่สภาพเดิม
โดยส่วนใหญ่หลังฉีดสลาย แพทย์มักจะแนะนำให้เว้นระยะเวลาประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ จึงจะสามารถกลับมาฉีดฟิลเลอร์ใหม่ได้ ซึ่งการให้เวลาผิวได้พัก และฟื้นตัวอย่างเหมาะสมนั้น จะช่วยให้แพทย์สามารถประเมินรูปหน้าได้ชัดเจน และวางแผนการรักษาครั้งต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความสวยงาม ดูกลมกลืนกับผิว และตรงตามความต้องการอย่างแท้จริง
ฉีดสลายฟิลเลอร์ มีผลข้างเคียงไหม?
การสลายฟิลเลอร์ด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase แม้จะเป็นวิธีที่ไม่อันตราย และนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ในบริเวณที่ฉีด ซึ่งถือเป็นอาการที่ไม่รุนแรง และสามารถพบได้ทั่วไป ดังนี้
- บวมแดง ฟกช้ำ
หลังสลายฟิลเลอร์อาจมีอาการบวมแดง หรือฟกช้ำเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ทั่วไปจากการฉีดเข็มลงไปที่ผิวหนัง และเป็นปฏิกิริยาของร่างกายต่อตัวยาที่ฉีดเข้าไป โดยอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 1 – 3 วัน
- เจ็บ ปวดระบม
หลังสลายฟิลเลอร์อาจรู้สึกเจ็บ ปวดระบม หรือตึงผิวเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ทั่วไปจากการฉีดเข็มลงไปที่ผิวหนัง และเป็นปฏิกิริยาของร่างกายต่อตัวยาที่ฉีดเข้าไป โดยอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 1 – 2 วัน
การฉีดสลายฟิลเลอร์ มีข้อจำกัดไหม?
- การฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase จะออกฤทธิ์เฉพาะกับฟิลเลอร์ประเภท HA เท่านั้น หากเป็นฟิลเลอร์ประเภทอื่น เช่น ซิลิโคน พาราฟิน หรือฟิลเลอร์ปลอม ตัวยาจะไม่สามารถสลายได้ ต้องใช้วิธีขูด หรือผ่าตัดออกแทน
- การฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase อาจไม่สามารถสลายฟิลเลอร์เดิมหมดได้ในครั้งเดียว ขึ้นอยู่กับปัญหา และปริมาณฟิลเลอร์เดิมที่ฉีด หากมีฟิลเลอร์เดิมคงเหลืออยู่ในปริมาณมาก แพทย์อาจแนะนำให้ฉีดเพิ่มหลายครั้ง เพื่อให้ผลลัพธ์มีความสมบูรณ์
- การฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase ต้องอยู่ภายใต้การดูแลจากแพทย์ที่มีความรู้เท่านั้น เนื่องจากหากพลาดฉีดผิดตำแหน่ง หรือคำนวณปริมาณเอนไซม์ที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เสี่ยงผิวไม่เรียบเนียน ผิวยุบตัว หรือคอลลาเจนในชั้นผิวถูกทำลายได้
สาเหตุที่เกิดปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ มีอะไรบ้าง?
สาเหตุที่เกิดปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย โดยสามารถแบ่งออกได้ ดังนี้
- ใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่มีคุณภาพ การใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่ได้รับการรับรองจาก อย. อาจทำให้เสี่ยงเกิดอาการแพ้ อักเสบ ติดเชื้อ หรือจับตัวเป็นก้อนแข็งใต้ผิวหนังได้
- แพทย์ขาดความรู้ การฉีดฟิลเลอร์หากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ อาจทำให้เสี่ยงฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง หรือใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้อง จนส่งผลให้ผลลัพธ์ไม่เรียบเนียน เป็นก้อนแข็ง และเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย
- ฉีดฟิลเลอร์ปริมาณมากเกินไป การฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่ไม่เหมาะสม หรือใช้ฟิลเลอร์มากจนเกินไป อาจทำให้เสี่ยงฟิลเลอร์เป็นก้อน ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ หรือใบหน้าบวม ผิดรูปได้
- ฉีดฟิลเลอร์ซ้ำบ่อยเกินไป การฉีดฟิลเลอร์ถี่โดยไม่เว้นระยะเวลาให้ฟิลเลอร์เก่าสลายก่อน อาจทำให้เสี่ยงเกิดการสะสมฟิลเลอร์ใต้ผิวหนัง จนส่งผลให้ใบหน้าผิดรูปได้
- ร่างกายตอบสนองผิดปกติ ในบางกรณีร่างกายอาจเกิดอาการแพ้ หรือเกิดปฏิกิริยาต่อต้านสาร HA ในฟิลเลอร์ แม้จะมีโอกาสพบได้น้อยมากสำหรับฟิลเลอร์แท้ แต่ก็มีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงรุนแรงได้ เช่น บวมแดง ผื่นคัน หรือเป็นก้อนแข็ง
ฉีดสลายฟิลเลอร์ที่ รมย์รวินท์คลินิก ดีอย่างไร?
- รมย์รวินท์มีแพทย์ที่มีความรู้ และความเข้าใจ โดยสามารถประเมินปัญหา และคำนวณปริมาณยาได้อย่างเหมาะสม พร้อมใช้เทคนิคการฉีดที่มีความเฉพาะ เพื่อให้ฟิลเลอร์สลายอย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง
- รมย์รวินท์เป็นคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน และได้รับการยอมรับในวงการความงามมาอย่างยาวนาน ด้วยบริการที่มีคุณภาพ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมดูแลความสะอาด และสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด
- รมย์รวินท์มีการดูแล และติดตามผลอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การดูแลระหว่างทำ ไปจนถึงการนัดหมาย เพื่อติดตามผลหลังการสลายฟิลเลอร์ เพื่อให้มั่นใจว่าฟิลเลอร์สลายหมดตามที่ต้องการ และหากเกิดปัญหาก็สามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว
- รมย์รวินท์พร้อมให้บริการในหลากหลายสาขา ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ทำให้สามารถเข้าถึงการบริการได้ง่าย และมีความสะดวกสบายในการเข้ารับบริการ
การสลายฟิลเลอร์ ถือเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดหลังฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งวิธีที่ได้รับความนิยม และไม่เสี่ยงอันตรายในการแก้ไขปัญหา คงหนีไม่พ้นการฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase โดยสามารถออกฤทธิ์ได้กับฟิลเลอร์ประเภท HA เท่านั้น ไม่สามารถออกฤทธิ์กับฟิลเลอร์ปลอม หรือสารอื่น ๆ ได้ อีกทั้งยังสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว และไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงในระยะยาว สำหรับใครที่มีกำลังปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ และสนใจการฉีดสลาย สามารถนัดหมายเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้ที่ รมย์รวินท์คลินิก
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด