เหนียงใต้คาง ไม่ใช่แค่ปัญหาเรื่องความสวยงาม แต่ยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รูปหน้าดูไม่ชัด ไม่กระชับ และทำให้หลายคนขาดความมั่นใจเวลาถ่ายรูปหรือหันหน้าด้านข้าง แม้จะพยายามควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย หรือใช้วิธีธรรมชาติแค่ไหน ก็ยังไม่สามารถจัดการกับไขมันบริเวณนี้ได้อย่างแม่นยำ
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยยกระดับการดูแลรูปหน้าให้กระชับได้แบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลจริง นั่นก็คือ EMFACE Submentum เทคโนโลยีล้ำสมัยที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับการยกกระชับเหนียงใต้คางโดยเฉพาะ เหมาะกับคนที่ต้องการหน้าเรียวแบบไม่อันตราย ไม่ต้องเจ็บตัว และได้ผลลัพธ์ในระยะเวลาสั้น
บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ EMFACE Submentum ยกกระชับเหนียงใต้คางว่าทำงานอย่างไร เหมาะกับใคร เห็นผลแค่ไหน และทำไมถึงถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกยกกระชับเหนียงใต้คางที่คุ้มค่าสำหรับคนที่อยากมีหน้าเรียวแบบไม่ต้องเสี่ยงกับการผ่าตัดหรือดูดไขมัน
EMFACE Submentum ยกกระชับเหนียงราคาเท่าไร?
- ราคาของ EMFACE Submentum จะขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก รวมถึงโปรโมชันหรือแพ็กเกจที่เลือก ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 8,000 – 15,000 บาทต่อครั้ง ทั้งนี้ราคาดังกล่าวอาจมีการปรับเปลี่ยนตามอุปกรณ์ที่ใช้และระดับของบริการภายในคลินิกนั้น ๆ
- หากเลือกซื้อเป็นคอร์ส เช่น คอร์ส 4 ครั้ง ส่วนใหญ่จะมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 30,000 – 50,000 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่ากว่าการซื้อแยกครั้งต่อครั้ง และในบางคลินิกอาจมีการจัดแพ็กเกจแบบรวม EMFACE บริเวณใบหน้าและ Submentum ใต้คาง ในราคาพิเศษ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมทั้งใบหน้าและกรอบหน้า
รู้จัก EMFACE Submentum ยกกระชับเหนียง
EMFACE คืออะไร
EMFACE คือเทคโนโลยีด้านความงามรูปแบบใหม่ที่ผสานพลังงาน HIFES (High-Intensity Facial Electrical Stimulation) และ Synchronize RF เข้าด้วยกัน เพื่อช่วยยกกระชับผิวหน้าและฟื้นฟูกล้ามเนื้อใบหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องฉีดสารใด ๆ เข้าสู่ร่างกาย และไม่ต้องพักฟื้น แตกต่างจากเทคโนโลยียกกระชับทั่วไปที่มุ่งเน้นแค่ผิวชั้นบน EMFACE ทำงานลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ (muscle tone) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความหย่อนคล้อย ช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้มีกลมกลืนบนใบหน้า โดยไม่แข็งตึงหรือดูหลอกตา
EMFACE Submentum คืออะไร
EMFACE Submentum เป็นหัวอุปกรณ์เฉพาะรุ่นที่ต่อยอดจากเทคโนโลยี EMFACE โดยออกแบบมาให้ทำงานเฉพาะกับบริเวณ ใต้คาง (submental area) ซึ่งเป็นจุดที่เกิดการสะสมไขมันได้ง่ายและมีผลอย่างมากต่อรูปหน้าโดยรวม การทำ EMFACE Submentum จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับเหนียง ปรับรูปทรงใบหน้าให้ชัด และลดเหนียงโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือฉีดสารใด ๆ เข้าสู่ร่างกาย
หลักการทำงานเบื้องหลังของ EMFACE Submentum ยกกระชับเหนียง
การทำงานของ EMFACE Submentum อาศัยพลังของ 2 เทคโนโลยีหลักที่ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว
- HIFES (High-Intensity Facial Electrical Stimulation)
HIFES คือการกระตุ้นกล้ามเนื้อใบหน้าด้วยคลื่นไฟฟ้าความเข้มข้นสูง ช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณใต้คางเกิดการหดเกร็งและกระชับคล้ายการออกกำลังกายของกล้ามเนื้อ (Facial Muscle Toning) ทำให้เกิดการยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อให้แข็งแรงและกระชับขึ้น ฟื้นฟูรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น ส่งผลให้กรอบหน้าคมชัด โดยเฉพาะบริเวณคางและกราม
- Synchronize RF
คลื่นความถี่วิทยุช่วยให้ความร้อนพลังงานลึกลงไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้ไขมันใต้คางค่อย ๆ สลายตัว และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยลดไขมันเฉพาะจุด กระตุ้นการไหลเวียนเลือดและการซ่อมแซมผิว
ความแตกต่างระหว่าง EMFACE และ EMFACE Submentum ยกกระชับเหนียง
แม้ว่า EMFACE และ EMFACE Submentum จะใช้เทคโนโลยีเดียวกันคือการผสานคลื่น HIFES (High-Intensity Facial Electrical Stimulation) และ Synchronize RF ในการยกกระชับเหนียง ยกกระชับผิวหน้า แต่ทั้งสองมีความแตกต่างอย่างชัดเจนในเรื่องของบริเวณที่รักษาและวัตถุประสงค์ในการใช้งาน
- EMFACE ออกแบบมาเพื่อยกกระชับใบหน้าโดยรวม ครอบคลุมตั้งแต่หน้าผาก แก้ม ไปจนถึงแนวกราม โดยช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย และยกกล้ามเนื้อให้เต่งตึง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าทั้งหมดให้ดูอ่อนวัยและกระชับขึ้น
- EMFACE Submentum เป็นหัวอุปกรณ์ที่เน้นการรักษาเฉพาะบริเวณใต้คางหรือเหนียงโดยเฉพาะ จุดเด่นอยู่ที่การลดไขมันสะสมใต้คาง พร้อมยกกระชับเหนียง กล้ามเนื้อช่วงลำคอ และกรอบหน้าให้ชัดขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเหนียงหรือแนวกรามไม่ชัด และต้องการยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูเรียวโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือดูดไขมัน
จุดเด่นของ EMFACE Submentum ยกกระชับเหนียงที่คุณต้องรู้
- เทคโนโลยี 2 ชนิดในเครื่องเดียว
ผสานเทคโนโลยี Synchronized RF + HIFES ไว้ในเครื่องเดียว ทำงานร่วมกันอย่างแม่นยำและทรงพลัง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทั้งด้านการลดไขมันและยกกระชับเหนียงนคราวเดียว
- เจาะลึกทุกชั้นผิว
สามารถลงลึกได้ตั้งแต่ชั้นผิวหนัง ไปจนถึงชั้นไขมันและกล้ามเนื้อ ส่งผลให้สามารถจัดการกับปัญหาเหนียงได้ครอบคลุม ทั้งไขมันหย่อน กล้ามเนื้ออ่อนแรง และผิวไม่กระชับ
- เสริมสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ให้ผิวแน่นกระชับจากภายใน
ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวในระดับลึกอย่างเห็นได้ชัด โดยสามารถกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ได้สูงถึง 27% และเสริมสร้างอีลาสตินได้มากกว่า 129% ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ผิวดูแน่น อิ่มฟู และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
- เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อใต้คาง กรอบหน้าคมชัดขึ้น
ช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณใต้คางแข็งแรงขึ้น โดยสามารถเพิ่มความหนาแน่นของเส้นใยกล้ามเนื้อเฉพาะจุดได้เฉลี่ยถึง 19.2% ส่งผลให้โครงสร้างแนวกรอบหน้าชัดเจนขึ้น ริ้วรอยเล็ก ๆ ลดลง และใบหน้าโดยรวมดูกระชับเรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ออกแบบมาเฉพาะเพื่อใต้คางโดยตรง
หัวอุปกรณ์ (Applicator) ถูกออกแบบให้โค้งรับกับสรีระใต้คางได้อย่างพอดี ช่วยให้พลังงานถูกส่งลงสู่ชั้นผิวอย่างแม่นยำ ลดไขมันและยกกระชับเหนียงไปพร้อมกันในทุกจุดที่ต้องการ จึงได้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพสูง
- ไม่อันตราย ไม่ต้องพักฟื้น
เป็นการยกกระชับเหนียงแบบไม่ใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้
เปรียบเทียบ EMFACE Submentum กับ วิธียกกระชับเหนียงอื่น ๆ
การลดเหนียงมีได้หลายวิธี ทั้งแบบไม่ต้องผ่าตัดและศัลยกรรม ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันออก สำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนแต่ไม่อยากเจ็บตัวหรือพักฟื้น EMFACE Submentum จึงเป็นอีกทางเลือกยกกระชับเหนียงที่น่าสนใจ ซึ่งแต่ละวิธีมีความแตกต่างกันดังนี้
- EMFACE Submentum vs ดูดไขมันเหนียง
EMFACE Submentum ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือเกิดแผลเป็นเหมือนการดูดไขมัน แม้จะเห็นผลชัดเจนในระดับที่เหมาะสม แต่ไม่อันตราย เหมาะสำหรับผู้ที่มีเหนียงไม่มากและต้องการความกลมกลืนกับใบหน้า ขณะที่การดูดไขมันให้ผลลัพธ์รวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมจำนวนมากและต้องการการเปลี่ยนแปลงแบบรวดเร็ว
- EMFACE Submentum vs Ultherapy
ทั้ง EMFACE Submentum และ Ultherapy ต่างก็เป็นวิธีที่ไม่ผ่าตัด แต่ EMFACE Submentum ใช้เทคโนโลยีแบบผสานทั้ง 2 พลังงาน ลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ ช่วยกระชับผิวและกล้ามเนื้อพร้อมกันพร้อมกัน ขณะที่ Ultherapy เน้นส่งพลังงานไปที่ชั้น SMAS เพื่อยกกระชับผิวโดยตรง แต่ไม่มีการกระตุ้นกล้ามเนื้อโดยตรงแบบ EMFACE Submentum
- EMFACE Submentum vs Thermage FLX
Thermage FLX ใช้พลังงาน Monopolar RF เน้นไปที่การกระตุ้นคอลลาเจนชั้นหนังแท้และชั้นไขมันเท่านั้น ไม่ได้กระตุ้นกล้ามเนื้อเหมือน EMFACE Submentum และไม่ได้เจาะจงบริเวณใต้คางโดยเฉพาะ จึงเหมาะกับยกกระชับใบหน้าโดยรวมมากกว่า
- EMFACE Submentum vs การออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร
แม้การควบคุมอาหารและออกกำลังกายจะช่วยลดไขมันทั่วหน้า แต่เหนียงมักเป็นจุดที่ลดได้ยาก เพราะเกิดจากทั้งไขมันและกล้ามเนื้อที่หย่อนคล้อย EMFACE Submentum จึงเป็นตัวช่วยเสริมที่ทำงานได้ดีกว่า และให้ผลที่ชัดเจนโดยไม่ต้องรอเป็นเดือน
สรุป EMFACE Submentum เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดเหนียงและยกกระชับเหนียงแบบไม่ผ่าตัด และเห็นผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ต้องการผลลัพธ์แบบกลมกลืนกับใบหน้า โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มมีเหนียงจากอายุ หรือแนวกรอบหน้าเริ่มไม่ชัดเจน
EMFACE Submentum ยกกระชับเหนียงใต้คาง ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง?
- ลดไขมันสะสมบริเวณใต้คาง
- ยกกระชับผิวบริเวณใต้คางและลำคอที่หย่อนคล้อย
- ฟื้นฟูกล้ามเนื้อใต้คางให้แข็งแรงและกระชับมากขึ้น
- ปรับแนวกรอบหน้า (jawline) ให้คมชัดยิ่งขึ้น
- แก้ปัญหาใบหน้าดูใหญ่ อวบ หรือไม่เป็นทรงจากเหนียง
- ลดรูปทรงของคางสองชั้น (Double Chin)
- ฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิวโดยเพิ่มคอลลาเจนและอีลาสติน
- ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวและได้รูปมากขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
- แก้ปัญหาผิวใต้คางหย่อนแม้จะผอมลงแล้วแต่ยังมีเหนียง
- ช่วยให้ริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณใต้คางลดลง
- ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนวัยและกระชับขึ้น
- ฟื้นฟูผิวที่หย่อนคล้อยจากอายุที่เพิ่มขึ้นหรือหลังลดน้ำหนักเร็ว
- แก้ปัญหาผิวใต้คางที่ดูไม่แน่นหรือไม่เรียบเนียน
- เหมาะสำหรับผู้ที่เคยทำหัตถการอื่นแล้ว ยังเหลือปัญหาเหนียงบางส่วน
- ช่วยเสริมความมั่นใจในการถ่ายรูปหรือเซลฟี่
EMFACE Submentum ยกกระชับเหนียงใต้คาง เหมาะกับใครบ้าง?
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ที่เริ่มมีสัญญาณของความหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีเหนียงไม่ว่าจะเล็กหรือปานกลาง และต้องการลดโดยไม่ผ่าตัด
- ผู้ที่มีแนวกรามไม่ชัด และต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาผิวใต้คางหย่อนคล้อย จากอายุที่เพิ่มขึ้นหรือการลดน้ำหนัก
- ผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณใต้คาง แต่ไม่ต้องการดูดไขมันหรือทำศัลยกรรม
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับกล้ามเนื้อใต้คาง และบริเวณลำคอให้ตึงขึ้น
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวและกล้ามเนื้อพร้อมกัน แบบไม่เจ็บตัว
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบไม่แข็งตึง ไม่หลอกตาจนเกินไป
- ผู้ที่มองหาวิธีลดเหนียงแบบไม่ผ่าตัด ไม่ฉีด ไม่ใช้เข็ม
- ผู้ที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ ไม่มีเวลาพักฟื้นหลังทำหัตถการ
- ผู้ที่มีใบหน้าอวบ หรือมีไขมันบริเวณกรอบหน้าที่บดบังรูปหน้า
- ผู้ที่ต้องการดูดีขึ้นในภาพรวม ก่อนแต่งงาน งานสำคัญ
- ผู้ที่ใส่ใจรูปลักษณ์ แต่หลีกเลี่ยงการทำศัลยกรรมถาวร
หมายเหตุ
ผลลัพธ์ของการรักษาด้วย EMFACE Submentum ยกกระชับเหนียงอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพผิว โครงสร้างใบหน้า อายุ และพฤติกรรมการดูแลตัวเองหลังทำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง เพื่อประเมินความเหมาะสมและวางแผนการรักษาให้แม่นยำ
EMFACE Submentum ยกกระชับเหนียง ไม่เหมาะกับใครบ้าง?
- ผู้ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่มีไขมันใต้คางจำนวนมากหรือเหนียงขนาดใหญ่ ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว
- ผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อยมากเกินไป จากอายุหรือการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนหลังทำเพียงครั้งเดียว โดยไม่ต้องการทำต่อเนื่องเป็นคอร์ส
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคหัวใจ, โรคลมชัก หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาท
- ผู้ที่มีอุปกรณ์ฝังในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) หรือโลหะฝังในบริเวณที่รักษา
- ผู้ที่เคยมีประวัติเกิด แผลเป็นนูน (Keloid) ได้ง่ายจากการรักษาทางผิวหนัง
- ผู้ที่มีแผลเปิด ผิวหนังอักเสบ หรือโรคผิวหนังบริเวณใต้คาง
- ผู้ที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดหรือหัตถการบริเวณใต้คาง
- ผู้ที่มีอาการไวต่อความร้อนหรือไฟฟ้ากระตุ้น
- ผู้ที่มีความคาดหวัง สูงเกินจริง หรือหวังผลเทียบเท่าการศัลยกรรม
- ผู้ที่มีประวัติแพ้คลื่น RF หรือการรักษาด้วยคลื่นไฟฟ้า
- ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากจนเกิดไขมันสะสมทั่วใบหน้า
หมายเหตุ
ก่อนเข้ารับการรักษา ควรแจ้งประวัติสุขภาพและโรคประจำตัวกับแพทย์อย่างละเอียด เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของการทำ EMFACE Submentum ยกกระชับเหนียงใต้คาง
การเตรียมตัวก่อนทำ EMFACE Submentum ยกกระชับเหนียง
- แจ้งประวัติสุขภาพกับแพทย์โดยละเอียดก่อนทำ
- นัดหมายปรึกษาแพทย์ล่วงหน้า เพื่อประเมินสภาพผิวและโครงสร้างใต้คาง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอในช่วง 1-2 วันก่อนทำ เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและตอบสนองต่อพลังงานได้ดี
- พักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนวันทำ เพื่อให้ร่างกายและผิวพร้อมรับการกระตุ้น
- ทำความสะอาดผิวหน้าและใต้คางให้หมดจดก่อนเข้ารับบริการ
- หลีกเลี่ยงการแวกซ์ ถอนขน หรือโกนขนใต้คาง ก่อนทำ 1-2 วัน เพื่อลดการระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์หรือหัตถการอื่น ๆ บริเวณใบหน้าและลำคอ อย่างน้อย 7 วันก่อนทำ
- งดใช้สกินแคร์หรือยาที่มีส่วนผสมของกรดวิตามิน A, Retinol หรือ AHA-BHA บริเวณใต้คาง ก่อนทำ 1-3 วัน
- งดใช้ยาหรืออาหารเสริมบางชนิด ที่อาจทำให้ผิวบางหรือไวต่อความร้อน เช่น วิตามิน E, fish oil
- งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเข้ารับบริการ
ขั้นตอนการทำ EMFACE Submentum ยกกระชับเหนียงใต้คาง
- ปรึกษาและประเมินโดยแพทย์
แพทย์จะทำการประเมินรูปหน้า โครงสร้างใต้คาง และสภาพผิว ซักประวัติสุขภาพเพื่อดูความเหมาะสมกับการทำ EMFACE Submentum เพื่อวางแผนจำนวนครั้งและความถี่ในการทำตามเป้าหมายของแต่ละคน
- ทำความสะอาดบริเวณใต้คางและลำคอ
เจ้าหน้าที่จะเช็ดทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะทำ เพื่อขจัดคราบเครื่องสำอาง, ครีม, เหงื่อ หรือสิ่งสกปรก ช่วยให้พลังงานจากเครื่องสามารถส่งผ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ติดตั้งแผ่นนำพลังงาน (Applicator)
แพทย์จะวางแผ่น Applicator ของ EMFACE Submentum เฉพาะบริเวณใต้คาง แผ่นนี้ถูกออกแบบมาให้พอดีกับสรีระใต้คางโดยเฉพาะ
- เริ่มการรักษาด้วย EMFACE Submentum
เครื่องจะปล่อยพลังงานคลื่น Synchronized RF เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดไขมันสะสม พร้อมกันนั้นคลื่น HIFES จะกระตุ้นกล้ามเนื้อใต้คางให้หดเกร็งแบบเป็นจังหวะ เสมือนออกกำลังกาย ผู้เข้ารับบริการจะรู้สึกตึง ๆ หรือกระตุกเล็กน้อยบริเวณใต้คาง
- แนะนำวิธีการดูแลตัวเอง
หลังทำเสร็จ เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดอีกครั้ง และให้คำแนะนำการดูแลตัวเองหลังทำ EMFACE Submentum
วิธีดูแลตัวเองหลังทำ EMFACE Submentum ยกกระชับเหนียง
- ดื่มน้ำให้มากเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในผิว และส่งเสริมการสร้างคอลลาเจน
- ทาครีมบำรุงหรือมอยส์เจอไรเซอร์สูตรอ่อนโยนตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อบำรุงผิวบริเวณที่ทำ
- นอนหนุนหมอนสูงเล็กน้อยในคืนแรก หากรู้สึกบวมหรือระคายเคืองเล็กน้อย
- หลีกเลี่ยงการโดนแดดโดยตรง และควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก หรือทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก ใน 24 ชั่วโมงแรก
- หลีกเลี่ยงการอบซาวน่า, อบไอน้ำ, แช่น้ำร้อน หลังทำอย่างน้อย 3–5 วัน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดบริเวณใต้คางอย่างแรง ใน 24–48 ชั่วโมงแรก
- หลีกเลี่ยงการใช้ ครีม แป้ง หรือเครื่องสำอางบริเวณใต้คาง ในวันแรกหลังทำ
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ 2–3 วัน เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดีขึ้น
- งดการทำหัตถการอื่นบริเวณใบหน้าและลำคอ เป็นเวลาอย่างน้อย 1–2 สัปดาห์
- งดใช้สกินแคร์ที่มีกรดผลไม้, AHA, BHA, Retinol หรือวิตามิน A บริเวณใต้คาง 3–5 วัน
EMFACE Submentum ยกกระชับเหนียง ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
- โดยทั่วไปแล้ว แนะนำให้ทำ EMFACE Submentum จำนวน 4 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างกันสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อให้กล้ามเนื้อใต้คางและคอลลาเจนในผิวมีการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง ผู้เข้ารับบริการส่วนใหญ่มักจะเริ่มรู้สึกถึงความกระชับและแนวกรอบหน้าที่ชัดขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนยิ่งขึ้นภายใน 1-3 เดือนหลังจากทำจบคอร์ส
EMFACE Submentum ยกกระชับเหนียงตอนทำรู้สึกเจ็บไหม?
- ขณะทำ EMFACE Submentum อาจรู้สึกตึง ๆ หรือกระตุกเบา ๆ ใต้คาง คล้ายการกระตุกของกล้ามเนื้อเวลาออกกำลังกาย ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเครื่อง EMFACE Submentum กำลังส่งพลังงาน HIFES เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้ออย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนพลังงาน Synchronized RF จะให้ความรู้สึกอุ่น ๆ บริเวณผิวเท่านั้น โดยรวมถือว่าเป็นหัตถการที่สบาย
EMFACE Submentum ยกกระชับเหนียงมีผลข้างเคียงอะไรไหม?
- โดยทั่วไป EMFACE Submentum เป็นเทคโนโลยีที่ไม่อันตรายและไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง อาการที่อาจเกิดขึ้นได้หลังทำ เช่น ความรู้สึกอุ่นหรือรู้สึกตึงบริเวณใต้คางเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมง หรืออาจมีรอยแดงเล็กน้อยที่ผิวหนัง แต่ไม่มีบวมช้ำ ไม่มีแผล และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
EMFACE Submentum ยกกระชับเหนียง ทำร่วมกับ EMFACE ได้ไหม?
- สามารถใช้ร่วมกันได้อย่างไม่อันตราย และยังให้ผลลัพธ์ที่ครอบคุลมมากขึ้นอีกด้วย โดย EMFACE จะช่วยยกกระชับใบหน้าบริเวณหน้าผาก แก้ม และแนวกราม ส่วน EMFACE Submentum จะเน้นเฉพาะจุดใต้คาง ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้คือใบหน้าที่ยกกระชับทั้งด้านบนและด้านล่าง รวมถึงมีกรอบหน้าที่คมชัดและดูเรียวขึ้นกว่าเดิม
ควรเลือกทำ EMFACE Submentum ยกกระชับ ที่ไหนดี?
- ควรเลือกทำ EMFACE Submentum กับคลินิกความงามที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย และใช้ เครื่องแท้ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล รวมถึงมีแพทย์เป็นผู้ดูแลโดยตรง ที่สำคัญคือควรตรวจสอบรีวิวจากผู้ใช้จริง เพื่อความมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและไม่อันตราย
EMFACE Submentum ยกกระชับทางเลือกใหม่เพื่อหน้าเรียว ไร้เหนียง อย่างมั่นใจ
เหนียงใต้คางอาจดูเป็นปัญหาเล็ก ๆ แต่กลับส่งผลต่อภาพรวมของรูปหน้าและความมั่นใจมากกว่าที่คิด โชคดีที่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีอย่าง EMFACE Submentum เข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น
ด้วยการผสานพลังงาน Synchronized RF และ HIFES ในเครื่องเดียว EMFACE Submentum ไม่เพียงแค่ลดไขมันสะสมใต้คาง แต่ยังช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อและคอลลาเจนในผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์คือใบหน้าที่ดูเรียวขึ้น กรอบหน้าชัด ผิวตึงกระชับ และดูอ่อนวัยขึ้น
สำหรับใครที่เคยลองวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล หรือไม่อยากเจ็บตัวกับการดูดไขมัน EMFACE Submentum คือคำตอบที่คุ้มค่าและตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่ใส่ใจในทั้งรูปลักษณ์และสุขภาพผิวในระยะยาว
หากคุณกำลังมองหาวิธีลดเหนียงที่เห็นผลจริงและไม่เสียเวลาในการพักฟื้น EMFACE Submentum อาจเป็นก้าวแรกที่เปลี่ยนความมั่นใจของคุณให้กลับมาได้อีกครั้ง