ปัญหาคางสองชั้น เป็นหนึ่งในปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งผู้ชาย และผู้หญิง ทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกไม่มั่นใจ ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็ต้องพยายามปกปิด และแต่งรูปจนเหนื่อย สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาคางสองชั้นอยู่ ยังไม่ต้องกังวลไป วันนี้ รมย์รวินท์คลินิกจะพามาเจาะลึกทุกเรื่องเกี่ยวกับคางสองชั้นว่า คืออะไร? เกิดจากสาเหตุอะไร? มีวิธีลดคางสองชั้นอย่างไร? แล้วสามารถป้องกันอย่างไรได้บ้าง? บทความนี้รวมข้อมูลทั้งหมดมาไว้ให้แล้ว

คางสองชั้นคืออะไร?
คางสองชั้น (Double Chin) คือ ลักษณะของก้อนนิ่ม ๆ บริเวณใต้คางที่เกิดจากการสะสมของไขมันส่วนเกิน หรือผิวหนังที่หย่อนคล้อยตามวัย ทำให้มองเห็นเป็นคางที่ซ้อนกันเป็นชั้น ๆ อย่างชัดเจน จนส่งผลให้กรอบหน้าดูไม่คมชัด ใบหน้าดูอวบ และใหญ่กว่าความเป็นจริง ซึ่งสามารถพบได้ทั้งผู้ชาย และผู้หญิง โดยไม่จำเป็นต้องมีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานเสมอไป แม้คนผู้ที่มีรูปร่างผอมก็สามารถมีคางสองชั้นได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่สามารถทำให้เกิดคางสองชั้นได้ ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม หรือพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น ก้มหน้านานเกินไป นอนหมอนสูงเกินไป พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนส่งผลให้เกิดคางสองชั้นได้ง่ายกว่าปกติ

คางสองชั้นเกิดจากสาเหตุอะไร?
คางสองชั้น เป็นปัญหาที่สามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุที่ได้พบบ่อย มีดังนี้
- ไขมันสะสมใต้คาง
ไขมันสะสมใต้คาง เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดคางสองชั้นที่พบได้บ่อย ซึ่งโดยทั่วไปมักมาจากการรับประทานอาหารที่มีแคลอรีสูง เช่น อาหารที่มีไขมัน น้ำตาล หรือโซเดียมในปริมาณมาก โดยเฉพาะอาหารประเภทของมัน ของทอด ของหวาน หรืออาหารแปรรูป ซึ่งอาหารเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ร่างกายได้รับพลังงานมากเกินความจำเป็น เมื่อร่างกายเผาผลาญพลังงานไม่หมด ไขมันส่วนเกินเหล่านั้นก็จะไปสะสมอยู่ตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย รวมไปถึงบริเวณใต้คาง จนทำให้เกิดคางสองชั้นได้ง่าย
- ผิวหนังหย่อนคล้อย
ผิวหนังหย่อนคล้อย เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดคางสองชั้นที่พบได้บ่อย ซึ่งโดยทั่วไปมักมาจากอายุที่มากขึ้น ปริมาณคอลลาเจน และอีลาสตินในผิวจะค่อย ๆ ลดน้อยลง ทำให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น และความกระชับ จนผิวเกิดการหย่อนคล้อย และห้อยลงตามแรงโน้มถ่วง จากนั้นผิวจะซ้อนกันเป็นรอยพับบริเวณใต้คาง ส่งผลให้เห็นเป็นคางสองชั้นได้อย่างชัดเจน
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
กล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดคางสองชั้นที่พบได้บ่อย ซึ่งโดยทั่วไปมักมาจากกล้ามเนื้อ Platysma ที่อยู่ตั้งแต่บริเวณใต้คางจนถึงลำคอเกิดการอ่อนแรง ทำให้ผิวหนัง และไขมันที่อยู่รอบ ๆ ขาดแรงพยุง จึงถูกดึงรั้งให้ตกลง และหย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วง ส่งผลให้เห็นเป็นคางสองชั้นได้อย่างชัดเจน
- พันธุกรรม
พันธุกรรม เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดคางสองชั้นที่พบได้บ่อย ซึ่งโดยทั่วไปมักเกี่ยวข้องกับโครงสร้างกระดูกใบหน้าที่มีมาตั้งแต่กำเนิด โดยเฉพาะผู้ที่มีลักษณะคางสั้น หรือคางถอย จะทำให้ผิวหนังบริเวณใต้คางขาดแรงพยุง และยิ่งทำให้มองเห็นเป็นคางสองชั้นได้อย่างชัดเจน เนื่องจากมุมระหว่างคาง และลำคอมีความแคบ ทำให้คาง และลำคอดูต่อเนื่องกัน จนเหมือนมีคางสองชั้นอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะมีรูปร่างผอมก็ตาม

พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดคางสองชั้น
พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดคางสองชั้นโดยไม่รู้ตัว โดยพฤติกรรมที่พบได้บ่อย มีดังนี้
- ก้มหน้านานเกินไป
การก้มหน้าติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณใต้คาง และลำคอเกิดการอ่อนแรง รวมถึงทำให้ผิวหนังถูกพับ และกดทับซ้ำ ๆ เมื่อทำต่อเนื่องทุกวัน จะยิ่งส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อย และเกิดคางสองชั้นได้ง่าย
- นั่งในท่าทางไม่ถูกต้อง
การนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการนั่งหลังค่อม ไหล่ห่อ และยื่นคอไปข้างหน้าเป็นเวลานาน จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณใต้คาง และลำคอเกิดการอ่อนแรง ส่งผลให้ผิวหนังหย่อนคล้อย จนเกิดคางสองชั้นได้ง่าย
- นอนหมอนสูงเกินไป
การนอนหมอนสูงเกินไป จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณใต้คาง และลำคอถูกกดทับเป็นเวลานานในทิศทางที่ผิดธรรมชาติ ส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดการอ่อนแรง และผิวหนังเกิดการหย่อนคล้อยในระยะยาว จนทำให้เห็นเป็นคางสองชั้นได้ง่าย
- รับประทานอาหารไม่มีประโยชน์
การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารประเภทของทอด ของมัน ของหวาน และอาหารแปรรูปที่มีปริมาณไขมัน น้ำตาล และโซเดียมสูง จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานมากเกินความจำเป็น จนส่งผลให้เกิดการสะสมของไขมันบริเวณใต้คางได้ง่าย
- ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
การดื่มแอลกอฮอล์ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน จะทำให้ร่างกายเกิดอาการบวมน้ำ ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้ชัดในบริเวณใบหน้า และใต้คาง นอกจากนี้แอลกอฮอล์ยังไปรบกวนการทำงานของระบบเผาผลาญ ทำให้ไขมันสะสมง่ายขึ้น จนส่งผลให้เกิดคางสองชั้นได้อย่างชัดเจน
คางสองชั้นจากไขมัน กับ คางสองชั้นจากผิวหย่อนคล้อย ต่างกันอย่างไร?
คางสองชั้นจากไขมัน และคางสองชั้นจากผิวหย่อนคล้อยมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้
- คางสองชั้นจากไขมัน
คางสองชั้นจากไขมัน เกิดจากการมีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่บริเวณใต้คาง และลำคอ ซึ่งจะมีลักษณะเป็นก้อนเนื้อนุ่ม ๆ ที่มีความยืดหยุ่น โดยสามารถเห็นได้ชัดเมื่อมีการก้มหน้า เมื่อลองจับบริเวณใต้คางจะรู้สึกว่าผิวนุ่มนิ่ม และสามารถบีบติดกันได้ ซึ่งจะพบได้บ่อยในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือมีพันธุกรรมที่สะสมไขมันเฉพาะจุด แม้ว่าจะมีรูปร่างผอมแล้วก็ตาม
- คางสองชั้นจากผิวหย่อนคล้อย
คางสองชั้นจากผิวหย่อนคล้อย เกิดจากการเสื่อมสภาพของคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนัง รวมทั้งกล้ามเนื้อ Platysma อ่อนแรง และพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การก้มหน้าเป็นเวลานาน หรือหนอนหมอนสูงเกินไป ซึ่งคางสองชั้นประเภทนี้ จะมีลักษณะเป็นผิวบาง ๆ หรือรอยพับห้อยย้อยลงมา เมื่อลองจับบริเวณใต้คางจะรู้สึกว่าผิวมีความหย่อนคล้อย ไม่แน่น และไม่ยืดหยุ่น โดยจะพบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุมาก หรือผู้ที่มีน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว

คางสองชั้นมีวิธีลดได้อย่างไร?
ปัญหาคางสองชั้นสามารถลดได้หลายวิธี โดยแบ่งออกเป็นวิธีลดคางสองชั้นแบบธรรมชาติ และหัตถการ ดังนี้
วิธีลดคางสองชั้นแบบธรรมชาติ
- ควบคุมอาหาร และน้ำหนัก
การควบคุมอาหาร และน้ำหนัก เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดคางสองชั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการรับประทานอาหารที่เหมาะสม โดยเฉพาะอาหารมีไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย และโซเดียมต่ำ จะช่วยให้ร่างกายไม่สะสมพลังงานมากเกินความจำเป็น ส่งผลให้ไขมันส่วนเกินบริเวณใต้คางลดลง ซึ่งจะแนะนำให้เปลี่ยนมารับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง และไขมันดี รวมถึงผัก และผลไม้ที่มีใยอาหารสูง เพื่อส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร และการเผาผลาญ ทำให้ลดการเกิดคางสองชั้นได้
- ออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อ
การออกกำลังบริหารกล้ามเนื้อเฉพาะจุด เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดคางสองชั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อนั้น จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เพิ่มความกระชับให้ผิวบริเวณใต้คาง และลำคอ รวมถึงช่วยลดความหย่อนคล้อย ลดอาการบวมน้ำ และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ซึ่งจะแนะนำให้ทำท่าบริหารกล้ามเนื้อบริเวณใต้คาง และลำคอเป็นประจำทุกวัน โดยทำซ้ำแต่ละท่าวันละ 10 – 20 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ซึ่งท่าที่นิยมบริหารกล้ามเนื้อลดคางสองชั้น ได้แก่ ท่ายกคาง ท่าจูบเพดาน ท่าดันลิ้น ท่าตบใต้คาง และท่าเปล่งสี E
- ปรับท่านั่งให้ถูกต้อง
การปรับท่านั่งให้ถูกต้อง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดคางสองชั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการนั่งในท่าทางที่เหมาะสม จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ลดความหย่อนคล้อย และลดโอกาสเกิดคางสองชั้นเพิ่มขึ้นในระยะยาว ซึ่งจะแนะนำให้นั่งหลังตรง เก็บคางเล็กน้อย ไม่ยื่นลำคอไปข้างหน้า และไม่ห่อไหล่ รวมถึงควรปรับหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตา เพื่อลดการก้มหน้าบ่อย ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง และผิวหนังหย่อนคล้อย นอกจากนี้การปรับท่านั่งไม่ได้ช่วยแค่เรื่องคางสองชั้นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดอาการปวดคอ บ่า ไหล่ และทำให้บุคลิกภาพโดยรวมดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- เคี้ยวหมากฝรั่ง
การเคี้ยวหมากฝรั่ง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดคางสองชั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการเคี้ยวหมากฝรั่ง จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อบริเวณใต้คาง และลำคอ ทำให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรง และกระชับมากขึ้น ซึ่งจะแนะนำให้เคี้ยวหมากฝรั่งเป็นประจำ วันละ 1 – 2 ครั้ง โดยแต่ละครั้งควรเคี้ยวประมาณ 10 – 15 นาที ไม่ควรเคี้ยวนานจนเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อกรามใหญ่แทน นอกจากนี้ควรเลือกหมากฝรั่งสูตรที่ไม่มีน้ำตาล เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพช่องปาก และหลีกเลี่ยงการได้รับพลังงานมากเกินความจำเป็น
- ปรับท่านอนให้เหมาะสม
การปรับท่านอนให้เหมาะสม เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดคางสองชั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการนอนในท่าทางที่ถูกต้อง จะช่วยลดการสะสมของของเหลวใต้คาง ลดความหย่อนคล้อยของผิว และป้องกันการเกิดคางสองชั้นเพิ่มขึ้นในระยะยาว ซึ่งจะแนะนำให้นอนหมอนพอดี ไม่สูงจนเกินไป เพื่อให้ลำคออยู่แนวเดียวกับลำตัว อีกทั้งควรนอนหงายเป็นหลัก และหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ เพื่อลดแรงกดทับของผิวหนังใต้คาง ทำให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างสมดุล
วิธีลดคางสองชั้นด้วยหัตถการ
- ฉีดโบลิฟต์กรอบหน้า
การฉีดโบลิฟต์กรอบหน้า เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดคางสองชั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นการฉีดสารชนิดหนึ่งเข้าไปยังกล้ามเนื้อ Platysma บริเวณใต้คาง และคอ เพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว และไม่ดึงผิวให้ตกลง ส่งผลให้ผิวบริเวณที่ฉีดเรียบตึง กระชับ กรอบหน้าดูคมชัด คางสองชั้นลดลง และใบหน้าเรียวเล็กมากขึ้น
การฉีดโบลิฟต์กรอบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคางสองชั้นที่เกิดจากผิวหนังหย่อนคล้อย หรือกล้ามเนื้อ Platysma อ่อนแรง รวมถึงผู้ที่ต้องการยกกระชับปรับรูปหน้า และลดคางสองชั้น โดยไม่ต้องการผ่าตัด และไม่ต้องการพักฟื้นนาน หลังฉีดเสร็จสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- Thermage FLX
Thermage FLX เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดคางสองชั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นการส่งพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (Monopolar RF) เข้าไปยังชั้นผิวหนัง ตั้งแต่ชั้นหนังแท้ (Dermis) จนถึงชั้นไขมัน (Subcutaneous Fat) เพื่อแยกโมเลกุลน้ำออกจากเส้นใยคอลลาเจน ทำให้คอลลาเจนเดิมที่หย่อนคล้อยหดตัว และจัดเรียงตัวได้ดีมากขึ้น พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และลดไขมันสะสม ส่งผลให้ปริมาณไขมันในบริเวณที่ทำลดลง ใบหน้าเรียวเล็ก ผิวเรียบเนียน แน่นกระชับ และกรอบหน้าดูคมชัดมากขึ้น
การทำ Thermage FLX เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมบริเวณใต้คาง มีคางสองชั้นเล็กน้อยถึงปานกลาง มีผิวหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น ริ้วรอย ร่องลึก และรูขุมขนกว้าง รวมถึงผู้ที่ต้องการลดไขมัน พร้อมยกกระชับผิวหน้า โดยไม่ต้องการผ่าตัด และไม่ต้องการพักฟื้นนาน หลังทำเสร็จสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- Ultherapy Prime
Ultherapy Prime เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดคางสองชั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นการส่งพลังงานคลื่นอัลตราซาวนด์ความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง (Micro-Focused Ultrasound with Visualization) เข้าไปยังชั้นผิวหนังในระดับต่าง ๆ ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ทำศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า เพื่อให้คอลลาเจนเดิมที่หย่อนคล้อยหดตัว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ พร้อมทั้งยกกระชับผิว ลดเลือนริ้วรอย และปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม ส่งผลให้ผิวยืดหยุ่น แน่นกระชับ เต่งตึง เรียบเนียน ใบหน้าเรียวเล็ก คางสองชั้นลดลง และกรอบหน้าดูคมชัดอย่างแลดูเป็นธรรมชาติ
การทำ Ultherapy Prime เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคางสองชั้นที่เกิดจากผิวหนังหย่อนคล้อย ผิวเหี่ยวย่น มีริ้วรอย ร่องลึก กรอบหน้าไม่คมชัด รูขุมขนกว้าง และผิวไม่เรียบเนียน รวมถึงผู้ที่ต้องยกกระชับปรับรูปหน้า และลดคางสองชั้น โดยไม่ต้องการผ่าตัด และไม่ต้องการพักฟื้นนาน หลังทำเสร็จสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- ฉีดลดไขมัน
การฉีดลดไขมัน เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดคางสองชั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นการฉีดสารชนิดหนึ่งเข้าไปยังบริเวณใต้คาง เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน ทำให้ไขมันเกิดการแตกตัว และมีขนาดเล็กลง จากนั้นร่างกายจะขับไขมันส่วนเกินเหล่านี้ออกไปตามธรรมชาติ ส่งผลให้ปริมาณไขมันในบริเวณที่ฉีดลดลง ใบหน้าเรียวเล็ก มีสัดส่วนที่สมดุล และกรอบหน้าดูคมชัดมากขึ้น
การฉีดลดไขมัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมบริเวณใต้คาง มีคางสองชั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือมีรูปร่างผอม รวมถึงผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด โดยไม่ต้องการผ่าตัด และไม่ต้องการพักฟื้นนาน หลังฉีดเสร็จสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- ดูดไขมันคางสองชั้น
การดูดไขมัน เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดคางสองชั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นการใช้ท่อดูดไขมันขนาดเล็กสอดเข้าไปยังบริเวณใต้คาง เพื่อดูดไขมันส่วนเกินออกมาโดยตรง ส่งผลให้ปริมาณไขมันในบริเวณที่ทำลดลง ใบหน้าเรียวเล็ก และกรอบหน้าดูคมชัดมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การดูดไขมันอาจมีความเสี่ยงในเรื่องของผลข้างเคียง หรือภาวะแทรกซ้อนหลังทำ ดังนั้นจึงควรทำกับแพทย์ที่มีความรู้ และความเข้าใจ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และไม่เสี่ยงอันตราย
การดูดไขมัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมบริเวณใต้คาง หรือมีคางสองชั้นที่เห็นได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือมีรูปร่างผอม รวมถึงผู้ที่ต้องการลดไขมัน โดยไม่ต้องการผ่าตัดใหญ่ และต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วหลังทำ
- ผ่าตัดลดคางสองชั้น
การผ่าตัดลดคางสองชั้น เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดคางสองชั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินในบริเวณใต้คาง พร้อมยกกระชับผิวหนัง และกล้ามเนื้อที่หย่อนคล้อย ส่งผลให้ปริมาณไขมันในบริเวณที่ทำลดลง ใบหน้าเรียวเล็ก ผิวเรียบตึง กระชับ และกรอบหน้าดูคมชัดมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดลดคางสองชั้นอาจมีความเสี่ยงในเรื่องของผลข้างเคียง หรือภาวะแทรกซ้อนหลังทำ ดังนั้นจึงควรทำกับแพทย์ที่มีความรู้ และความเข้าใจ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และไม่เสี่ยงอันตราย
การผ่าตัดลดคางสองชั้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมบริเวณใต้คาง หรือมีคางสองชั้นที่เห็นได้อย่างชัดเจน ร่วมกับมีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง รวมถึงผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ทั้งในด้านการลดไขมัน และยกกระชับผิวไปพร้อมกัน

เคล็ดลับการป้องกันคางสองชั้น
ปัญหาคางสองชั้น สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแล และปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันให้เหมมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของไขมัน หรือผิวหย่อนคล้อยในบริเวณใต้คาง โดยสามารถทำได้ ดังนี้
- ลดอาหารที่มีไขมันสูง และน้ำตาลสูง
การลดการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง และน้ำตาลสูง เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยป้องกันการเกิดคางสองชั้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการรับประทานของหวาน ของทอด ของมัน และอาหารแปรรูป เช่น ชานมไข่มุก น้ำอัดลม เค้ก เบคอน ไส้กรอก หรือขนมสำเร็จรูป รวมถึงควรควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อป้องกันการสะสมของไขมันในบริเวณใต้คาง
- ดื่มน้ำให้พอเหมาะ
การดื่มน้ำให้พอเหมาะ เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยป้องกันการเกิดคางสองชั้นได้ โดยควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 7 – 8 แก้ว เพื่อรักษาความชุ่มชื้น และความยืดหยุ่นของผิว รวมถึงช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และลดความอยากอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ป้องกันการสะสมของไขมันในบริเวณใต้คาง
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายสม่ำเสมอ เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยป้องกันการเกิดคางสองชั้นได้ โดยควรเน้นการบริหารกล้ามเนื้อบริเวณใต้คาง และลำคอ ร่วมกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เพื่อช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และเพิ่มความกระชับให้กับผิว ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น และลดโอกาสเกิดคางสองชั้นในระยะยาว
- พักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยป้องกันการเกิดคางสองชั้นได้ โดยควรนอนหลับอย่างมีคุณภาพวันละ 7 – 8 ชั่วโมง เพื่อให้โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) หลั่งออกมาอย่างเต็มที่ ซึ่งมีความสำคัญต่อกระบวนการฟื้นฟูเซลล์ผิว และกระบวนการสร้างคอลลาเจน อีกทั้งยังช่วยรักษาสมดุลของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความอยากอาหาร ทำให้ป้องกันการสะสมของไขมันบริเวณใต้คางได้
- บำรุงผิวเป็นประจำ
การบำรุงผิวเป็นประจำ เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยป้องกันการเกิดคางสองชั้นได้ โดยควรเน้นสกินแคร์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมกระตุ้นคอลลาเจน และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรง กระชับ ยืดหยุ่น และดูอิ่มน้ำจากภายใน นอกจากนี้ควรทาครีมกันแดดทุกวัน เพื่อป้องกันไม่ให้คอลลาเจนถูกทำลาย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยได้ง่าย
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมบางประเภท
การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมบางประเภท เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยป้องกันการเกิดคางสองชั้นได้ โดยเฉพาะการนั่งในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง การนอนหนุนหมอนสูงเกินไป การก้มหน้าเป็นเวลานาน หรือการดื่มแอลกอฮอล์บ่อย ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดคางสองชั้นได้ง่าย
จะเห็นได้ว่า ปัญหาคางสองชั้นสามารถเกิดจากได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม การสะสมของไขมันส่วนเกิน ผิวหนังหย่อนคล้อย กล้ามเนื้ออ่อนแรง รวมไปถึงพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การก้มหน้านานเกินไป นอนหมอนสูงเกินไป รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง นั่งในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ซึ่งการมีคางสองชั้น แม้จะเป็นปัญหาที่ดูเล็กน้อย แต่ก็สามารถส่งผลกระทบต่อความมั่นใจ และบุคลิกภาพโดยรวมอย่างมาก
ในปัจจุบันการแก้ไขปัญหาคางสองชั้นสามารถทำได้หลายวิธี ตั้งแต่การควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย ปรับเปลี่ยนท่าทางการนั่ง และการนอน ไปจนถึงการทำหัตถการทางการแพทย์ ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดี ข้อเสีย และให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหา และสภาพผิวแต่ละบุคคล ดังนั้น สำหรับใครที่มีปัญหาคางสองชั้นอยู่ แนะนำให้เข้ารับการปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินปัญหา พร้อมเลือกแนวทางการรักษาที่ตอบโจทย์ ช่วยให้ใบหน้ากลับมาเรียวเล็ก กรอบหน้าคมชัด และคืนความมั่นใจอีกครั้ง
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด

