ผิวสวย ดูสุขภาพดีมีวิธีดูแลอย่างไร? รวมเคล็ดลับเพื่อผิวสวย

ผิวสวย

การมีผิวสวย ถือเป็นความใฝ่ฝันของใครหลาย ๆ คน เนื่องจากผิวที่ดูสุขภาพดี เรียบเนียน ชุ่มชื้น และกระจ่างใสนั้นไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ และเสริมความมั่นใจ แต่ยังบ่งบอกถึงการเอาใจใส่ และดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอในหลาย ๆ ด้าน บทความนี้ จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับผิวสวยว่า ผิวสวยคืออะไร? มีลักษณะอย่างไร? แล้วสาเหตุที่ทำให้ผิวไม่สวยมีอะไรบ้าง? ไปจนถึงรวมเคล็ดลับในการดูแลผิวสวยอย่างยั่งยืน และแชร์หัตถการผิวสวยฉบับรมย์รวินท์คลินิก

 

รู้จักกับผิวสวย
รู้จักกับผิวสวย

 

รู้จักกับผิวสวย

ผิวสวย คือ ผิวที่มีสุขภาพดี เรียบเนียน ยืดหยุ่น ชุ่มชื้น กระจ่างใส และดูเปล่งปลั่งจากภายในสู่ภายนอก โดยปราศจากปัญหาผิวที่สังเกตเห็นได้ชัด เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ สิว และรอยสิว ซึ่งการมีผิวสวยนั้นสะท้อนให้เห็นถึงผิวที่แข็งแรง และมีความสมดุลจากภายใน โดยทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลลัพธ์จากการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดี และการบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งผิวสวยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นผิวขาวเสมอไป ไม่ว่าจะมีโทนสีผิวแบบไหนก็สามารถมีผิวสวยได้ หากใส่ใจดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม

 

ผิวสวยมีลักษณะแบบไหน?
ผิวสวยมีลักษณะแบบไหน?

 

ผิวสวยมีลักษณะแบบไหน?

ผิวสวยบ่งบอกถึงผิวที่มีความแข็งแรง และสมดุลจากภายใน ซึ่งสามารถสังเกตได้จากลักษณะเด่น ดังนี้

  • ผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ พื้นผิวสม่ำเสมอ ปราศจากหลุมสิว รอยแผลเป็น หรือความขรุขระที่เห็นได้ชัด
  • ผิวยืดหยุ่น เต่งตึง นุ่มเด้ง แน่นกระชับ ปราศจากริ้วรอย ร่องลึก หรือความหย่อนคล้อยที่เห็นได้ชัด
  • ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ดูฉ่ำโกลว์ ไม่แห้งตึง ไม่ลอกเป็นขุย และไม่มันเยิ้มจนเกินไป
  • ผิวกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ ปราศจากฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือรอยสิวที่เห็นได้ชัด
  • ผิวสุขภาพดี แข็งแรง มีความสมดุล ดูสดใส และเปล่งปลั่ง 

 

สาเหตุที่ทำให้ผิวไม่สวย
สาเหตุที่ทำให้ผิวไม่สวย

 

สาเหตุที่ทำให้ผิวไม่สวย

ผิวที่ไม่สวยมักเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งปัจจัยภายในร่างกาย และสิ่งแวดล้อมภายนอก โดยสาเหตุหลัก ๆ มีดังนี้

  • ใช้สกินแคร์ไม่เหมาะกับสภาพผิว

การใช้สกินแคร์ไม่เหมาะกับสภาพผิว เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผิวไม่สวยได้ เนื่องจากสกินแคร์แต่ละประเภทมีคุณสมบัติ และลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น สกินแคร์เนื้อครีม หรือบาล์มเข้มข้นจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง ในขณะที่สกินแคร์เนื้อเจล หรือโลชั่นจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมัน ซึ่งหากเลือกใช้ผิดประเภทอาจทำให้เกิดปัญหาผิวตามมาได้ นอกจากนี้การใช้สกินแคร์ที่มีสารออกฤทธิ์แรง ๆ พร้อมกัน อาจทำให้ผิวยิ่งบอบบาง ระคายเคือง และสูญเสียความสมดุลได้

  • ทำความสะอาดผิวไม่ถูกต้อง

การทำความสะอาดผิวไม่ถูกต้อง เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผิวไม่สวยได้ เนื่องจากการทำความสะอาดผิวบ่อยเกินไป หรือทำความสะอาดผิวรุนแรงเกินไป อาจทำให้ผิวแห้งตึง และเกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาได้ นอกจากการนี้การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีสารออกฤทธิ์แรง ๆ เช่น SLS, น้ำหอม, พาราเบน หรือแอลกอฮอล์ อาจทำให้ผิวยิ่งบอบบาง ระคายเคือง และเกราะป้องกันผิวถูกทำลายได้

  • ผลัดเซลล์ผิวรุนแรงเกินไป

การผลัดเซลล์ผิวรุนแรงเกินไป เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผิวไม่สวยได้ เนื่องจากการขัดผิวแรง ๆ หรือใช้สครับที่มีเนื้อหยาบ อาจทำให้ผิวเกิดการอักเสบ แห้งตึง และนำไปสู่ปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาได้ นอกจากนี้การใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่มีความเข้มข้นสูงบ่อยจนเกินไป เช่น AHA หรือ BHA อาจทำให้ผิวยิ่งสูญเสียความสมดุล และเกราะป้องกันผิวถูกทำลาย จนส่งผลให้ผิวอ่อนแอ และไวต่อการระคายเคืองมากขึ้น

  • แสงแดด และรังสี UV

แสงแดด และรังสี UV เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผิวไม่สวยได้ เนื่องจากการโดนแสงแดดต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยไม่ได้รับการปกป้องที่เพียงพอ อาจทำให้คอลลาเจน และอีลาสตินในผิวถูกทำลาย อีกทั้งยังกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานิน และกระตุ้นการสร้างนอุมูลอิสระเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผิวอักเสบ คล้ำเสีย แห้งกร้าน ไวต่อการระคายเคือง และนำไปสู่ปัญหาผิวอื่น ๆ ได้

  • มลภาวะในชีวิตประจำวัน

มลภาวะในชีวิตประจำวัน เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผิวไม่สวยได้ เนื่องจากอนุภาคของมลภาวะ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 มักมีขนาดเล็กมาก จนสามารถเข้าไปสะสมอยู่ในรูขุมขน และต่อมไขมัน ทำให้เกิดการอุดตัน และกระตุ้นการอักเสบของผิว นอกจากนี้ยังกระตุ้นกระบวนการสร้างอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถทำลายคอลลาเจน และอีลาสตินได้โดยตรง รวมทั้งยังทำให้ผิวเสียสมดุลจากการที่เกราะป้องกันผิวถูกทำลาย ส่งผลให้ผิวหมองคล้ำ แห้งกร้าน ขาดความยืดหยุ่น และระคายเคืองได้ง่าย

  • ดื่มน้ำน้อย

การดื่มน้ำน้อย เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผิวไม่สวยได้ เนื่องจากน้ำมีความสำคัญอย่างมากต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะผิวหนัง หากร่างกายมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอก็จะทำให้ผิวสูญเสียความสมดุล และทำให้เกราะป้องกันผิวถูกทำลายได้ จนส่งผลให้ผิวแห้งตึง หยาบกร้าน ไม่ชุ่มชื้น และระคายเคืองได้ง่าย รวมไปถึงผิวจะดูหมองคล้ำ ขาดความยืดหยุ่น และดูแก่กว่าวัยอย่างชัดเจน

  • นอนหลับไม่เพียงพอ

การนอนหลับไม่เพียงพอ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผิวไม่สวยได้ เนื่องจากการนอนหลับมีความสำคัญอย่างมากต่อการฟื้นฟูระบบต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะผิวหนัง หากร่างกายพักผ่อนไม่เต็มที่ก็จะทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานน้อยลง และกระบวนการผลิตคอลลาเจนทำงานช้าลง อีกทั้งยังเพิ่มระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลมากขึ้น ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดที่ทำให้ผิวเสียสมดุล และทำลายเกราะป้องกันผิว ส่งผลให้ผิวดูหมองโทรม ไม่สดใส และนำไปสู่ปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาได้

  • มีความเครียดเรื้อรัง

การมีความเครียดเรื้อรัง เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผิวไม่สวยได้ เนื่องจากเมื่อมีความเครียด ร่างกายจะเพิ่มการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงขึ้น และกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน และเกิดสิวได้ง่าย อีกทั้งยังยับยั้งกระบวนการผลิตคอลลาเจน และอีลาสตินในผิว รวมถึงทำให้เกราะป้องกันผิวอ่อนแอ และถูกทำลาย จนส่งผลให้ผิวดูหมองโทรม หยาบกร้าน ไม่สดใส และนำไปสู่ปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาได้

  • รับประทานอาหารไม่มีประโยชน์

การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผิวไม่สวยได้ เนื่องจากอาหารบางประเภท เช่น อาหารที่มีน้ำตาลสูง และอาหารที่มีไขมันสูงสามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ทำให้ผิวสูญเสียสมดุล และมีแนวโน้มเป็นสิวได้ง่าย รวมถึงยังทำลายกระบวนการผลิตคอลลาเจน และอีลาสตินในผิว ทำให้ผิวหมองโทรม ขาดความยืดหยุ่น และนำไปสู่ปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาได้                                                                              

  • ดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่

การดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่บ่อยเกินไป เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผิวไม่สวยได้ เนื่องจากแอลกอฮอล์มีฤทธิ์กระตุ้นการขับปัสสาวะ ทำให้ผิวสูญเสียน้ำได้ง่าย ในขณะที่บุหรี่เต็มไปด้วยสารพิษจำนวนมากที่ทำลายคอลลาเจน และอีลาสตินในผิว รวมถึงยังกระตุ้นกระบวนการอักเสบ และทำลายเกราะป้องกันผิว ส่งผลให้ผิวหมองโทรม หยาบกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ไม่สดใส และนำไปสู่ปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาได้

 

รวมเคล็ดลับผิวสวย
รวมเคล็ดลับผิวสวย

 

รวมเคล็ดลับผิวสวย

การมีผิวสวยไม่ใช่เรื่องยาก หากรู้จักใส่ใจดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ทั้งจากภายใน และภายนอก ดังนี้

  • ใช้สกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพผิว

การใช้สกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพผิว เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ผิวสวย โดยสำหรับผู้ที่มีผิวมันจะแนะนำให้เลือกสกินแคร์ สูตรเนื้อเจลบางเบาที่ไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-Comedogenic) ส่วนผู้ที่มีผิวแห้งจะแนะนำให้เลือกสกินแคร์ สูตรเนื้อครีมเข้มข้นที่มีส่วนผสมของสารเพิ่มความชุ่มชื้น และผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายจะแนะนำให้เลือกสกินแคร์สูตรอ่อนโยนพิเศษ ไม่มีส่วนผสมของสารที่ระคายเคืองผิว เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือพาราเบน นอกจากนี้แนะนำให้ทาสกินแคร์ภายใน 3 นาทีหลังทำความสะอาดผิว ในขณะที่ผิวยังคงมีความชื้นอยู่ เพื่อให้สกินแคร์สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 

  • ทำความสะอาดผิวอย่างถูกต้อง

การทำความสะอาดผิวอย่างถูกต้อง เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ผิวสวย โดยสำหรับผู้ที่มีผิวมันจะแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว สูตรควบคุมความมันที่ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงจนเกินไป ส่วนผู้ที่มีผิวแห้งจะแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว สูตรเพิ่มความชุ่มชื้นที่ไม่มีฟองมากจนเกินไป และผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายจะแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว สูตรอ่อนโยนพิเศษที่มีค่า pH ใกล้เคียงกับผิว ปราศจากสารก่อการระคายเคือง เช่น ซัลเฟต แอลกอฮอล์ หรือน้ำหอม นอกจากนี้แนะนำให้ทำความสะอาดผิวด้วยน้ำอุณหภูมิห้องวันละ 2 ครั้ง ทั้งเช้า และเย็น เพื่อชะล้างสิ่งสกปรก และน้ำมันส่วนเกินที่ตกค้างอยู่บนผิว 

  • ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ

การใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ผิวสวย โดยสำหรับผู้ที่มีผิวมันจะแนะนำให้เลือกครีมกันแดดเนื้อเจลบางเบา ซึมไว สูตร Non-Comedogenic ส่วนผู้ที่มีผิวแห้งจะแนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่มีสารบำรุงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายจะแนะนำให้เลือกครีมกันแดดประเภท Physical Sunscreen ที่ปราศจากสารก่อการระคายเคือง เช่น น้ำหอม ซิลิโคน พาราเบน หรือแอลกอฮอล์ นอกจากนี้แนะนำให้ทาครีมกันแดดเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงผิว ทั้งก่อนแต่งหน้า และก่อนออกแดดอย่างน้อย 15 – 30 นาที รวมถึงทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะเมื่อมีเหงื่อออกมาก หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพื่อให้การปกป้องผิวมีประสิทธิภาพสูง

  • ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน

การผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ผิวสวย โดยสำหรับผู้ที่มีผิวมันจะแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวประเภท BHA หรือ AHA ที่สามารถควบคุมความมันได้ดี ส่วนผู้ที่มีผิวแห้งจะแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวประเภท AHA ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว และผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายจะแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวประเภท PHA ที่มีโมเลกุลใหญ่ ซึ่งจะออกฤทธิ์ช้ากว่า AHA จึงมีความอ่อนโยน และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง นอกจากนี้แนะนำให้ผลัดเซลล์ผิวเป็นประจำสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพผิว โดยหลีกเลี่ยงการใช้สครับที่มีเนื้อหยาบ หรือขัดผิวแรงจนเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเกิดการอักเสบ

  • มาสก์หน้าอย่างต่อเนื่อง

การมาสก์หน้าอย่างต่อเนื่อง เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ผิวสวย โดยสำหรับผู้ที่มีผิวมันจะแนะนำให้เลือกมาสก์ประเภท Clay Mask หรือ Charcoal Mask ที่ช่วยดูดซับความมันออกจากผิว ส่วนผู้ที่มีผิวแห้งจะแนะนำให้เลือกมาสก์ประเภท Sheet Mark หรือ Gel Mark ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว และผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายจะแนะนำให้เลือกมาสก์ที่มีส่วนผสมอ่อนโยนอย่าง Ceramide, Centella Asiatica หรือ Aloe Vera ที่ช่วยปลอบประโลมผิว ปราศจากสารก่อการระคายเคือง เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือพาราเบน นอกจากนี้แนะนำให้มาสก์หน้าอย่างสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพผิว โดยหลีกเลี่ยงการมาสก์หน้านานจนเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้งตึง

  • ดื่มน้ำตลอดทั้งวัน

การดื่มน้ำตลอดทั้งวัน เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ผิวสวย โดยสำหรับในวัยผู้ใหญ่ ปริมาณน้ำที่แนะนำให้ดื่มในแต่ละวันประมาณ 1.5 – 2 ลิตร หรือ 7 – 8 แก้ว ซึ่งอาจมีการดื่มมากขึ้นในวันที่มีสภาพอากาศร้อนจัด หรือออกกำลังกายหนัก เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ นอกจากนี้จะแนะนำให้เฉลี่ยการดื่มน้ำเป็นระยะ ๆ ตลอดวัน แทนการดื่มทีเดียวมาก ๆ เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมน้ำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ 

  • ออกกำลังกายเป็นประจำ

การออกกำลังกายเป็นประจำ เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ผิวสวย โดยสำหรับในวัยผู้ใหญ่ สามารถเลือกออกกำลังกายได้หลากหลายประเภท เช่น Cardio, Weight Training, Yoga หรือ Pilates ขึ้นอยู่กับเป้าหมาย และความต้องการของแต่ละคน ซึ่งจะแนะนำให้ออกกำลังกายโดยเฉลี่ยสัปดาห์ละ 3 – 4 ครั้ง ครั้งละประมาณ 30 นาที เพื่อลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใส และดูสุขภาพดีจากภายใน

  • นอนหลับให้เพียงพอ

การนอนหลับให้เพียงพอ เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ผิวสวย โดยสำหรับในวัยผู้ใหญ่ ระยะเวลาที่แนะนำให้พักผ่อนในแต่ละวันประมาณ 7 – 8 ชั่วโมง รวมทั้งควรเข้านอน และตื่นนอนในเวลาใกล้เคียงเดิมทุกวัน เพื่อให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้แนะนำให้สร้างสภาพแวดล้อมภายในห้องนอนให้เหมาะสมต่อการนอน เช่น อุณหภูมิห้องเย็นสบาย ห้องมืด และไม่มีเสียงรบกวน เพื่อให้การนอนหลับมีคุณภาพอย่างแท้จริง

  • รับประทานอาหารที่ดีต่อผิว

การรับประทานอาหารที่ดีต่อผิว เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ผิวสวย โดยเน้นการรับประทานอาหารที่หลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่แตกต่างกันอย่างครบถ้วน ซึ่งโดยทั่วไปสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อผิวจะประกอบไปด้วย Vitamin C, Beta Carotene, Zinc หรือ Omega 3 ที่สามารถพบได้ในส้ม ฝรั่ง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี แคร์รอต มันหวาน ผักใบเขียว ปลาทะเล หอยนางรม ถั่ว และธัญพืชไม่ขัดสี

 

รวมหัตถการผิวสวย
รวมหัตถการผิวสวย

 

รวมหัตถการผิวสวย

ในปัจจุบันการทำหัตถการผิวสวยมีให้เลือกอย่างหลากหลาย ซึ่งแต่ละหัตถการก็มีคุณสมบัติ และเหมาะกับสภาพผิวที่แตกต่างกัน โดยหัตถการผิวสวยที่นิยม มีดังนี้

Revive

  • ส่วนประกอบ : Revive เป็นหัตถการผิวสวยที่ประกอบไปด้วย Hyaluronic Acid (HA) และ Glycerol 
  • คุณสมบัติ : Revive เป็นหัตถการผิวสวยที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูสภาพผิว เติมความชุ่มชื้น และปลอบประโลมผิว รวมทั้งลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ ปรับผิวให้เรียบเนียน และปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอก
  • เหมาะสำหรับ : Revive เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหมองโทรม ไม่กระชับ หยาบกร้าน และขาดความชุ่มชื้น รวมถึงผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง หลุมสิว และริ้วรอยเล็ก ๆ 
  • บริเวณที่นิยมฉีด : Revive จะนิยมนำมาฉีดบริเวณรอบดวงตา หน้าแก้ม ข้างจมูก รอบริมฝีปาก และลำคอ
  • ระยะเวลาคงอยู่ : Revive เป็นหัตถการผิวสวยที่สามารถคงอยู่ได้นานเฉลี่ย 6 – 9 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละคน

 

Rejuran

  • ส่วนประกอบ : Rejuran เป็นหัตถการผิวสวยที่ประกอบไปด้วย Polynucleotide (PN) จากปลาแซลมอน 
  • คุณสมบัติ : Rejuran เป็นหัตถการผิวสวยที่มีคุณสมบัติในการปรับปรุงคุณภาพผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน รวมทั้งฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพ เพิ่มความชุ่มชื้น ปรับโทนสีผิว และลดการอักเสบ 
  • เหมาะสำหรับ : Rejuran เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย ผิวเสื่อมโทรม หยาบกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ผิวคล้ำเสียจากแสงแดด และมลภาวะ รวมถึงผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง หลุมสิว จุดด่างดำ และริ้วรอยเล็ก ๆ
  • บริเวณที่นิยมฉีด : Rejuran จะนิยมนำมาฉีดบริเวณใต้ตา หน้าแก้ม ร่องแก้ม รอบริมฝีปาก และลำคอ
  • ระยะเวลาคงอยู่ : Rejuran เป็นหัตถการผิวสวยที่สามารถคงอยู่ได้นานเฉลี่ย 3 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละคน

 

Plinest

  • ส่วนประกอบ : Plinest เป็นหัตถการผิวสวยที่ประกอบไปด้วย Polynucleotide (PN) จากปลาเทราต์
  • คุณสมบัติ : Plinest เป็นหัตถการผิวสวยที่มีคุณสมบัติในการเติมเต็ม และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน รวมทั้งเพิ่มความชุ่มชื้น ซ่อมแซมผิวที่เสียหาย ลดการระคายเคือง และต้านอนุมูลอิสระ
  • เหมาะสำหรับ : Plinest เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวอ่อนแอ แพ้ง่าย ผิวเสื่อมโทรม ขาดการบำรุง ผิวแห้ง หยาบกร้าน และดูหมองคล้ำ รวมถึงผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง รอยแผลเป็นจากสิว หลุมสิว และริ้วรอยเล็ก ๆ 
  • บริเวณที่นิยมฉีด : Plinest จะนิยมนำมาฉีดบริเวณรอบดวงตา หน้าผาก หน้าแก้ม รอบริมฝีปาก และลำคอ
  • ระยะเวลาคงอยู่ : Plinest เป็นหัตถการผิวสวยที่สามารถคงอยู่ได้นานเฉลี่ย 6 – 9 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละคน

 

Profhilo

  • ส่วนประกอบ : Profhilo เป็นหัตถการผิวสวยที่ประกอบไปด้วย Hyaluronic Acid (HA) แบบ Non-crosslinked
  • คุณสมบัติ : Profhilo เป็นหัตถการผิวสวยที่มีคุณสมบัติในการปรับโครงสร้างผิวแบบ Bio-Remodeling และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว รวมทั้งปรับสมดุลผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินเพิ่มขึ้น
  • เหมาะสำหรับ : Profhilo เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหลวม สูญเสียคอลลาเจน ผิวเริ่มหย่อนคล้อย เริ่มมีริ้วรอยเล็ก ๆ รวมถึงผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน หมองโทรม ไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง รอยแผลเป็นจากสิว และหลุมสิว
  • บริเวณที่นิยมฉีด : Profhilo จะนิยมนำมาฉีดบริเวณรอบดวงตา หน้าแก้ม แนวกราม รอบริมฝีปาก และลำคอ
  • ระยะเวลาคงอยู่ : Profhilo เป็นหัตถการผิวสวยที่สามารถคงอยู่ได้นานเฉลี่ย 6 – 9 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละคน

 

Karisma Rh Collagen

  • ส่วนประกอบ : Karisma Rh Collagen เป็นหัตถการผิวสวยที่ประกอบไปด้วย Collagen Polypeptide a1 Chain R (Rh Collagen) และ High Molecular Weight Hyaluronic Acid (HMW – HA) รวมถึง Carboxymethylcellulose (CMC) 
  • คุณสมบัติ : Karisma Rh Collagen เป็นหัตถการผิวสวยที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูผิว เติมเต็ม และกักเก็บความชุ่มชื้น รวมทั้งเพิ่มความยืดหยุ่น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินเพิ่มขึ้น
  • เหมาะสำหรับ : Karisma Rh Collagen เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหลวม สูญเสียคอลลาเจน ผิวเริ่มหย่อนคล้อย ใบหน้าตก และเริ่มมีริ้วรอยเล็ก ๆ รวมถึงผู้ที่มีผิวแห้ง หยาบกร้าน หมองคล้ำ ไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง และหลุมสิว
  • บริเวณที่นิยมฉีด : Karisma Rh Collagen จะนิยมนำมาฉีดบริเวณรอบดวงตา หน้าผาก หน้าแก้ม ร่องแก้ม และลำคอ
  • ระยะเวลาคงอยู่ : Karisma Rh Collagen เป็นหัตถการผิวสวยที่สามารถคงอยู่ได้นานเฉลี่ย 6 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละคน

 

การมีผิวสวยต้องอาศัยการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากภายใน และภายนอกควบคู่กัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้สกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพผิว ทำความสะอาดผิวอย่างถูกต้อง ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ มาสก์หน้าอย่างต่อเนื่อง ดื่มน้ำตลอดทั้งวัน นอนหลับให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารที่ดีต่อผิว นอกจากนี้การทำหัตถการผิวสวย เช่น Revive, Rejuran, Plinest, Profhilo หรือ Karisma Rh Collagen ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้ผิวสวยอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ดังนั้นสำหรับใครที่อยากมีผิวสวยอย่างมั่นใจ สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้ที่ รมย์รวินท์คลินิก เพื่อให้แพทย์ตรวจประเมินสภาพผิว พร้อมแนะนำหัตถการที่ตอบโจทย์กับสภาพผิวอย่างแท้จริง 

 

*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด