Ultra V Hyal Filler คืออะไร ดีอย่างไร อันตรายไหม

ในยุคที่ใครๆก็รู้จักการฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากเป็นทางเลือกยอดนิยมในการเติมเต็ม ยกกระชับ และสร้างงานผิว มากกว่านั้นฟิลเลอร์ยังสามารถใช้ในการปรับแต่งใบหน้าที่มีความไม่สมดุล ให้เกิดความสมดุลขึ้นได้โดยไม่ต้องศัลยกรรม จึงทำให้ฟิลเลอร์กลายเป็นปัจจัยที่ผู้ที่ดูแลตัวเองรู้จักเป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันท้องตลาดก็มีฟิลเลอร์แบรนด์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย เพื่อเป็นตัวเลือกให้ผู้ที่สนใจได้เลือกสรรสำหรับใช้ในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับใบหน้าได้อย่างเต็มที่และตรงตามความต้องการในการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ

เช่นเดียวกันกับ Ultra V Hyal Filler ที่นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลใบหน้าในทุกมิติ เพราะถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาต่างๆบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี

Ultra V Hyal Filler คืออะไร

Ultra V Hyal Filler ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยบริษัท CGBIO ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Daewoong Group ที่เป็นบริษัทชั้นนำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยบริษัทได้มีการพัฒนาและวิจัยด้านการแพทย์อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้รับการรับรอง (Accreditation) และสิทธิบัตร (Patent) มากมายจากหลายสาขาในวงการแพทย์

Ultra V Hyal Filler  ใช้ระบบการผลิตในรูปแบบ อัตโนมัติเต็มรูปแบบ (Full Automation) จึงทำให้การผลิต Ultra V Hyal Filler นั้นมีประสิทธิภาพสูงและสามารถคงคุณภาพมาตรฐานของได้อย่างสม่ำเสมอ
อีกทั้ง Ultra V Hyal Filler ยังใช้ Sterile Water for Injection ในการผลิต จึงทำให้ไม่ปนเปื้อนสารต่างๆ หรือสิ่งสกปรกเนื่องจากไม่ใช่น้ำบริสุทธิ์ทั่วไป (Tertiary Purified Water)

Ultra V Hyal Filler ผลิตด้วยเทคโนโลยี R Square ที่ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีโครงสร้างแบบ Multi-layered ส่งผลให้ Ultra V Hyal Filler คงอยู่ได้นานและยังมีประสิทธิภาพมากกว่าฟิลเลอร์ทั่วไปด้วย

Multi-phasic filler ของ Ultra V Hyal Filler คืออะไร?

Multi-phasic filler เป็นการใช้เทคโนโลยี​ที่ผสมผสานระหว่าง Monophasic และ Biphasic โดยมีการนำเนื้อฟิลเลอร์ที่เป็น Monophasic มาล้อมรอบฟิลเลอร์ที่เป็นเนื้อ Biphasic ก่อนจะผ่านกระบวนการ R Square Technology จึงทำให้ผิวสัมผัสรอบนอกของ Ultra V Hyal Filler  มีความเนียนละเอียดแบบ Monophasic แต่ยังคงมีความคงรูปและความแข็งแรงในรูปแบบเนื้อ Biphasic

ข้อแตกต่างของ HA Fillers

เพื่อทำให้เนื้อฟิลเลอร์สามารถคงสภาพอยู่ใต้ผิวหนังได้นานมากขึ้น วิธีการคือฟิลเลอร์จะถูกนำไปผ่านกระบวนการพันธะเคมี (Chemical Bonding) ที่ทำให้โมเลกุลของ HA เกิดการเชื่อมต่อกันและเปลี่ยนรูปเป็นเนื้อเจล

โดยการเชื่อมของ HA มี 2 วิธีคือ

Mono-phasic (Gel Type) – การเชื่อมโยงแบบเจล

• มีความหนืดของเนื้อที่ดี (Good viscosity)
• มีความเป็นเนื้อเจลที่เหนียวแน่น (Good cohesiveness)
• เกลี่ยง่าย ฉีดแล้วให้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียน แลดูเป็นธรรมชาติ

การขึ้นรูปได้ไม่ดีเท่ากับฟิลเลอร์แบบ Biphasic

Bi-phasic (Particle Type) – การเชื่อมโยงแบบอนุภาค

• ความยืดหยุ่นสูง (Good resilience)
• สามารถขึ้นรูปได้ดี
• คงตัวได้ดีกว่าและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า
• อาจมีความไม่เรียบเนียน
• มีโอกาสที่ฟิลเลอร์จะเคลื่อนที่หรือเกิดการเคลื่อนตัวมากกว่าแบบ Monophasic

R² Technology คืออะไร?

R² Technology เป็นกระบวนการผลิต ที่ใช้หลักการคือ Revolution และ Rotation ในการผสมผสาน Hyaluronic Acid (HA) ทั้ง 2 ชนิด (Gel และ Particle) ให้เข้าด้วยกันอย่างลงตัว

ความ Safety ของผลิตภัณฑ์ 

• BDDE เป็นสารเชื่อมขวาง (cross-linker) ที่ใช้ในการเชื่อมโครงสร้างของ Hyaluronic Acid (HA)
• ค่า MoD (Modified Degree) เป็นสิ่งสำคัญที่สามารถสะท้อนถึงแนวโน้มในการกระตุ้นปฏิกิริยาภูมิคุ้มกัน เนื่องจากหากค่า MoD สูง อาจทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้มากกว่า
• การผลิตฟิลเลอร์ทั่วไปจะประกอบไปด้วยหลายขั้นตอน และมีการหยุดในระหว่างขั้นตอนการผลิตบ่อยครั้ง ซึ่งทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการปนเปื้อนของฟิลเลอร์หรือทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่คาดคิดในการผลิตได้
• กระบวนการผลิตแบบดั้งเดิมที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน จึงทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้นในการผลิต
• Ultra V Hyal Filler  ใช้กรรมวิธีการผลิตที่ฟิลเลอร์ที่ลดความยุ่งยากและลดการหยุดระหว่างขั้นตอนการผลิตลงได้มากถึง 70% เมื่อเทียบกับวิธีการทั่วไป ส่งผลให้ลดโอกาสในการเกิดความเสี่ยงต่าง ๆ 

การสลายตัวของฟิลเลอร์ (Filler Dissolution)

• จุดเด่นสำคัญของ Ultra V Hyal Filler คือสามารถทำการแก้ไขหรือนำออกได้ง่ายเมื่อต้องการแก้ไขผลการรักษา
• จากงานวิจัยข้อมูลการทดลองแสดงให้เห็นว่า Ultra V Hyal Filler  ต้องการปริมาณเอนไซม์ที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ชนิดอื่น
• นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ Hyal Filler ไม่เสี่ยงอันตรายเมื่อฉีดลงสู่ใต้ผิว เนื่องจาก Ultra V Hyal Filler สามารถควบคุมและแก้ไขได้ง่าย ลดความกังวลต่างๆของทั้งแพทย์และผู้เข้ารับการรักษา

ข้อดีของการฉีด Ultra V Hyal Filler

• Ultra V Hyal Filler  ช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้ผลิตภัณฑ์และการรักษาที่ไม่ได้มาตรฐาน
• Ultra V Hyal Filler ลดอาการบวมหลังทำ ทำให้แพทย์สามารถประเมินและปรับแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำ
• Ultra V Hyal Filler ช่วยมอบความชุ่มชื้นสูง เนื่องจากตัวผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี
• Ultra V Hyal Filler เจ็บน้อยลง เนื่องจากผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของยาชาช่วยลดความรู้สึกเจ็บระหว่างฉีด
• Ultra V Hyal Filler ลดการบาดเจ็บของผิว ด้วยการใช้เข็มพิเศษที่ออกแบบมาเฉพาะ
• Ultra V Hyal Fille ตรวจสอบความแท้ได้ ผู้เข้ารับบริการสามารถสแกนดูชื่อคลินิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้เพื่อความมั่นใจและไม่เสี่ยงอันตราย
• Ultra V Hyal Filler มีการขึ้นรูปและคงตัวที่สูง
• Ultra V Hyal Filler ปราศจากสารก่อภูมิแพ้ 
• Ultra V Hyal Filler มีความบริสุทธิ์สูง ไม่เสี่ยงอันตราย

Ultra V Hyal Filler  ประกอบไปด้วย 3 รุ่นคือ

Ultra V Hyal Filler ถูกพัฒนาออกมา 3 รุ่น ทุกรุ่นเป็น Cross-linked Hyaluronic Acid (HA) เพื่อให้ใช้ในการเติมเต็มรวมทั้งแก้ไขปัญหาผิวที่เกิดขึ้น ในแต่ละบริเวณได้อย่างถูกต้องและครอบคลุม โดยทุกสูตรจะมีส่วนผสมของ ยาชา 0.3% เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บ  มีความเข้มข้น 20 mg/ml

• Ultra V Hyal Filler รุ่น HYAL FINE
• Ultra V Hyal Filler รุ่น HYAL MEDIUM
• Ultra V Hyal Filler รุ่น HYAL HARD

Ultra V Hyal Filler รุ่น HYAL FINE

Ultra V Hyal Filler รุ่น HYAL FINE เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อบางเบาอย่างมาก เมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ Ultra V Hyal Filler ขนาดอนุภาคเล็กเพียง 80 µm มีค่า G’ 200–250 Pa  MOD: 2.14% ถูกออกแบบมาเพื่อให้ฉีดเติมเต็มในชั้น mid-dermis หรือผิวชั้นแท้ชั้นกลาง เหมาะสำหรับการลดเลือนริ้วรอยขนาดเล็ก หรือตื้น ๆ ทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว อย่างแลดูเป็นธรรมชาติ เรียบเนียน ไม่เป็นก้อนแข็ง 

สามารถใช้ได้ทั้งบริเวณใต้ตา หางตา ร่องแก้ม และริมฝีปาก คงผลลัพธ์อยู่ใต้ผิวได้นาน 6–8 เดือน

มีความใกล้เคียงกับฟิลเลอร์เหล่านี้

• Restylane Vital
• Yvoire Classic Plus
• Juvederm Volite
• Definisse Touch
• Belotero Soft

Ultra V Hyal Filler รุ่น HYAL MEDIUM

Ultra V Hyal Filler รุ่น HYAL MEDIUM เป็นฟิลเลอร์ที่มีความหนาแน่นและคงตัวมากขึ้นกว่ารุ่น Fine โดยมีความแข็งของเนื้อฟิลเลอร์ในระดับปานกลาง มีค่า G’ อยู่ที่ 600–700 Pa ขนาดอนุภาค 300 µm MOD: 2.44% เหมาะสำหรับการฉีดเพื่อเติมเต็มในชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมัน ช่วยลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มวอลลุ่มให้ผิว

สามารถใช้ได้ในบริเวณหน้าผาก ร่องแก้ม และหน้าแก้ม คงผลลัพธ์อยู่ใต้ผิวได้นาน 8–16 เดือน

มีความใกล้เคียงกับฟิลเลอร์เหล่านี้

• Restylane Classic
• Yvoire Volume Plus
• Juvederm Volift
• Definisse Restore
• Belotero Balance

Ultra V Hyal Filler รุ่น HYAL HARD

Ultra V Hyal Filler รุ่น HYAL HARD เป็นฟิลเลอร์ที่มีความหนาแน่นและแข็งอย่างมาก เมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ มีค่า G’ สูงถึง 700–800 Pa และขนาดอนุภาคใหญ่ 800 µm MOD: 2.45% แต่การผลิตด้วยเทคโนโลยีการผลิต R Square ทำให้เนื้อฟิลเลอร์ Ultra V Hyal Filler รุ่น HYAL HARD  ยังคงความยืดหยุ่น เรียบเนียน และสามารถเข้ากับชั้นผิวได้อย่างแลดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการฉีดเติมเต็มในชั้นผิวลึก ใช้ปรับโครงสร้างและรูปหน้าให้ได้สัดส่วนสวยงาม 

สามารถใช้ได้กับบริเวณขมับ หน้าผาก แก้ม กรอบหน้า และคาง คงผลลัพธ์ใต้ผิวได้นาน 16–24 เดือน

มีความใกล้เคียงกับฟิลเลอร์เหล่านี้

• Restylane Lyft
• Yvoire Contour
• Juvederm Volux
• Definisse Core
• Belotero Volume

วิธีตรวจสอบ Ultra V Hyal Filler แท้

เพื่อไม่ให้การใช้ Ultra V Hyal Filler ไม่ส่งผลที่เกิดอันตราย จึงควรใช้ Ultra V Hyal Filler ที่สามารถตรวจสอบสินค้าแท้ได้โดยวิธีการตรวจสอบสามารถทำได้ดังนี้

• ใช้ QR Code ข้างกล่องสำหรับสแกนเพื่อตรวจสอบความเป็นของแท้ พร้อมแสดงชื่อคลินิก (รมย์รวินท์คลินิก) ที่สั่งซื้ออย่างชัดเจน
• แสดงข้อมูลของผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด ครบถ้วน รวมถึงมีคำแนะนำการดูแลหลังการฉีดอย่างถูกต้อง
• ต้องสามารถตรวจสอบได้ทั้ง เลขที่ใบอนุญาต เลขที่ Lot วันผลิต และวันหมดอายุ
• มีฉลากภาษาไทย และเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ที่ถูกต้องตามมาตรฐาน 

Ultra V Hyal Filler แตกต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร

 Ultra V Hyal Filler ใช้เทคโนโลยีการผลิต R Square

โดยการผสานจุดเด่นของฟิลเลอร์แบบ Monophasic และ Biphasic เข้าด้วยกัน ทำให้ได้ฟิลเลอร์ที่ เนียนละเอียด  ส่งผลให้ฉีดได้ง่าย ตัวยากระจายตัวดีกระจายตัวดี เนื้อฟิลเลอร์มีความ ยืดหยุ่นสูง คงรูปได้ดี จึงทำให้ลดโอกาสเกิดอาการบวมและช้ำ

ค่า MoD ต่ำ ไม่เสี่ยงอันตราย ไม่ตกค้าง

ฟิลเลอร์ที่มีค่า MoD ต่ำ จะสามารถสลายตัวได้ตามธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดการตกค้างหรือผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายโดย Ultra V Hyal Filler แต่ละรุ่นมีค่า MOD ดังนี้

• Fine : 2.14%
• Medium : 2.44%
• Hard : 2.45%

ใช้เข็มพิเศษจากบริษัท TSK

• Ultra V Hyal Filler  ผลิตด้วย TSKiDTM Technology ที่มีปลายเข็มบาง คมเป็นพิเศษ ช่วยลดการบาดเจ็บ ปวด และบวมหลังฉีด

Filler Ultra V Hyal เหมาะสำหรับใคร?

• Ultra V Hyal Filler เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยทั้งริ้วรอยหน้าผาก ร่องระหว่างคิ้ว ริ้วรอยรอบดวงตา รอยตีนกา ร่องแก้ม หรือร่องมุมปาก
  
• Ultra V Hyal Filler เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน ปรับรูปหน้าให้ได้รูปทรงมากขึ้น หรือผู้ที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มที่ปากเพื่อความอวบอิ่มและรูปทรงที่สวยงาม
  
• Ultra V Hyal Filler เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มและเติมเต็มใบหน้าจากอายุที่เพิ่มขึ้น กระดูกทรุดตัว รวมทั้งการฝ่อของไขมันใต้ผิว
  
• Ultra V Hyal Filler เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยและรูขุมขนกว้าง หรือผู้ที่มีรอยหลุมสิว ต้องการให้ผิวกลับมากระชับและเรียบเนียนขึ้น
  
• Ultra V Hyal Filler เหมาะกับผู้ที่ต้องการคืนความอ่อนวัย  ช่วยให้ผิวหน้าดูสดใส เด็กลง โดยไม่จำเป็นต้องพักฟื้นนาน

การเตรียมตัวก่อนฉีด Ultra V Hyal Filler

• ก่อนฉีด Ultra V Hyal Filler งดการรับประทานยาแก้ปวด หรือยาที่มีส่วนผสมของ NSAIDs ยังรวมทั้งอาหารเสริม เช่น วิตามินอี รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแปะก๊วย เนื่องจากยาเหล่านี้ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดไหลเยอะในขณะทำการฉีด
• ก่อนฉีด Ultra V Hyal Filler ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
• ก่อนฉีด Ultra V Hyal Filler ควรงดการสูบบุหรี่เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
• ก่อนฉีด Ultra V Hyal Filler ควรเลือกคลินิกและแพทย์ที่มีความเข้าใจในระดับโครงสร้างผิว และมีความน่าเชื่อถือ
• ก่อนฉีด Ultra V Hyal Filler ควรทำกิจกรรมที่จะส่งผลต่อการทำให้เกิดการสูบฉีดของเลือด เพื่อป้องกันเลือดไหลมากในขณะทำการฉีด Ultra V Hyal Filler 

การดูแลหลังฉีด Ultra V Hyal Filler 

• หลังฉีด Ultra V Hyal Filler ไม่ควรขยี้ นวด หรือกดแรงบริเวณที่ฉีด Ultra V Hyal Filler  เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์ออกจากตำแหน่ง
  
• หลังฉีด Ultra V Hyal Filler ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนและแสงแดดจัดอย่างน้อย 2 วัน
  
• หลังฉีด Ultra V Hyal Filler ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมาก  เพื่อลดโอกาสในการบวมและเพื่อลดรอยช้ำ
  
• หลังฉีด Ultra V Hyal Filler ควรงดยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 7 วัน หลังการฉีด เพื่อป้องกันการช้ำและเลือดออกง่าย
  
• หลังฉีด Ultra V Hyal Filler ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำและคงผลลัพธ์ได้ดียิ่งขึ้น

Ultra V Hyal Filler 1 กล่อง มีกี่ CC?

• Ultra V Hyal Filler หนึ่งกล่องจะบรรจุ 1 ไซริงค์ ปริมาณ 1 CC

ฉีดฟิลเลอร์ Ultra V Hyal Filler กี่วันเห็นผล

การฉีด Ultra V Hyal Filler จะสามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงตั้งแต่หลังฉีด โดยในช่วง 2-3 ชั่วโมงแรกหลังจากการฉีดอาจจะมีรอยแดงของเข็ม หรือรอยบวมช้ำจากเข็มได้

แต่อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายโดยใช้ระยะเวลาไม่เกิน  3-7 วัน หลังจากนั้นจะค่อยๆเข้าที่และเห็นผลชัดเจนขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์หลังฉีด

ฉีดฟิลเลอร์ Ultra V Hyal Filler ที่รมย์รวินท์คลินิกดียังไง

• รมย์รวินท์คลินิกมีสาขาให้บริการทั่วประเทศคนไข้ผู้เข้ารับบริการสามารถเลือกสาขาเข้ารับบริการรมย์รวินท์คลินิกมีแพทย์ที่ความรู้ความสามารถ และมีความเข้าใจเกี่ยวกับชั้นผิดและโครงสร้างใบหน้าเป็นอย่างดี
• รมย์รวินท์คลินิกมีสถานที่ที่มีความสะอาด ได้รับมาตรฐานสาธารณสุข
• รมย์รวินท์คลินิกใช้ยาจากบริษัทเชื่อถือได้
• รมย์รวินท์คลินิกมีการให้คำปรึกษาก่อนทำจริงทุกเคสเพื่อประเมินความเหมาะสมของใบหน้ากับผลิตภัณฑ์และปริมาณ