Ultherapy Prime vs Oligio โปรแกรมหน้าเรียวกระชับที่มาแรงในปีนี้ เลือกอะไรดี?
ในยุคที่เทรนด์ความงามก้าวหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง การมีใบหน้าเรียวกระชับได้รูป กลายเป็นเป้าหมายสำคัญของคนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเพื่อเสริมความมั่นใจ เพิ่มเสน่ห์ให้กับบุคลิก หรือแม้กระทั่งช่วยเสริมโหงวเฮ้งในด้านของการงานและความรัก จึงไม่น่าแปลกใจที่เทคโนโลยียกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสองโปรแกรมที่กำลังมาแรงในปีนี้ ได้แก่ Ultherapy Prime และ Oligio
ทั้ง Ulthera Prime และ Oligio ต่างมีจุดเด่นในเรื่องการช่วยให้ใบหน้าเรียวกระชับ ลดเลือนริ้วรอย และฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แน่นกระชับอย่างดูเป็นธรรมชาติ แต่ด้วยเทคโนโลยี วิธีการทำงาน และผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ทำให้หลายคนเกิดคำถามว่า ควรเลือกโปรแกรมไหนให้เหมาะกับตัวเอง?
บทความนี้ จะพาคุณไปเจาะลึกถึงคุณสมบัติ ข้อดี ข้อจำกัด และเปรียบเทียบแบบละเอียดระหว่าง Ultherapy Prime กับ Oligio เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่า โปรแกรมไหนตอบโจทย์ความต้องการของคุณ ในการสร้างใบหน้าเรียวกระชับที่ดูอ่อนเยาว์และดูเป็นธรรมชาติในปี 2025 นี้
Ultherapy Prime vs Oligio เลือกโปรแกรมหน้าเรียวกระชับให้เหมาะกับตัวคุณ?
การตัดสินใจเลือกระหว่าง Ultherapy Prime และ Oligio ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ปัญหาที่ต้องการแก้ไข ความต้องการเฉพาะบุคคล รวมถึงงบประมาณที่มี โดยแต่ละโปรแกรมมีจุดเด่นที่ตอบโจทย์ต่างกัน ดังนี้
หากมีปัญหาความหย่อนคล้อยระดับปานกลางถึงมาก ต้องการยกกระชับในระดับลึกถึงชั้น SMAS พร้อมผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงการดึงหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด และสามารถรอผลลัพธ์ที่ค่อย ๆ พัฒนาใน 2–3 เดือน
Ultherapy Prime คือตัวเลือกที่เหมาะ โดยเฉพาะกรณีที่ต้องการความแม่นยำสูงและผลลัพธ์ที่ยาวนาน
หากมีเวลาจำกัด ต้องการความรวดเร็ว ไม่ชอบความเจ็บ และต้องการการเปลี่ยนแปลงที่ดูเป็นธรรมชาติ พร้อมฟื้นฟูผิวและลดไขมันสะสมไปพร้อมกัน Oligio คือคำตอบที่ลงตัว ด้วยระยะเวลาทำที่สั้นกว่า ไม่ต้องพักฟื้น และเหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มต้นดูแลผิวหรือยังไม่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยรุนแรง
ทำความรู้จักกับ Ultherapy Prime
Ultherapy Prime คือเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้ารุ่นล่าสุด จากบริษัท Merz Aesthetics ซึ่งพัฒนาต่อยอดมาจาก Ulthera SPT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผิวได้อย่างล้ำลึกยิ่งขึ้น จุดเด่นสำคัญของ Ultherapy Prime คือการยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องอาศัยการผ่าตัด ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์แบบโฟกัส (Microfocused Ultrasound) ในการส่งพลังงานลงสู่ชั้นผิวลึกที่เรียกว่า SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ศัลยกรรมใช้ในการดึงหน้า ช่วยแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อย และริ้วรอยได้อย่างตรงจุด
หลักการทำงานของ Ultherapy Prime
การทำงานของ Ultherapy Prime อาศัยพลังงานคลื่นอัลตราซาวนด์ที่มีความถี่สูง ยิงลึกลงไปยังชั้น SMAS เพื่อสร้างจุดความร้อนขนาดเล็ก (Thermal Coagulation Points: TCPs) ที่อุณหภูมิประมาณ 60–70 องศาเซลเซียส จุดความร้อนนี้จะทำให้เส้นใยคอลลาเจนหดตัวทันที และยังเป็นการกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผิวมีความตึงกระชับตั้งแต่หลังทำบางส่วน และผลลัพธ์จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องภายในระยะเวลา 2–3 เดือนหลังการรักษา
จุดเด่นของ Ultherapy Prime
หน้าจอใหญ่ขึ้น 35% พัฒนาการที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นโครงสร้างชั้นผิวได้อย่างชัดเจนและละเอียดมากขึ้น ส่งผลให้การวางแผนการรักษามีความแม่นยำยิ่งขึ้น
ระบบประมวลผลรวดเร็วขึ้น 20% เพิ่มความคล่องตัวในการทำหัตถการ ช่วยลดระยะเวลาในการรักษา อำนวยความสะดวกให้ทั้งแพทย์และผู้เข้ารับบริการ
ดีไซน์เครื่องทันสมัย รูปทรงตัวเครื่องออกแบบให้สะดวกต่อการใช้งานและการเคลื่อนย้าย เหมาะกับการใช้งานในคลินิกความงามยุคใหม่
Visualization แบบ Real-Time จุดเด่นสำคัญที่ช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นสภาพชั้นผิวจริงในขณะทำการรักษา ทำให้สามารถปล่อยพลังงานได้อย่างตรงจุด เพิ่มความแม่นยำและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
ทำความรู้จักกับ Oligio
Oligio เป็นเทคโนโลยียกกระชับปรับรูปหน้าเรียว ที่พัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีคลื่นวิทยุแบบ Monopolar RF (Radio Frequency) ความถี่ 6.78 MHz รุ่นใหม่ล่าสุด จุดเด่นของ Oligio คือการส่งพลังงานความร้อนลงลึกถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมันใต้ผิว (Subcutaneous Fat) เพื่อแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ รวมถึงช่วยลดไขมันสะสมในบริเวณที่ต้องการ ทำให้ใบหน้าดูยกกระชับ กรอบหน้าชัด และผิวแน่นเฟิร์มขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งการฉีดสารเติมเต็มหรือการผ่าตัดแต่อย่างใด
หลักการทำงานของ Oligio
- การทำงานของ Oligio เริ่มจากการปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุแบบ Monopolar RF ลงสู่ชั้นหนังแท้และไขมันใต้ผิว พลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นจะมีผลในสองด้านหลัก ได้แก่
- การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน อุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิว ทำให้เนื้อผิวมีความกระชับ เรียบเนียน และลดเลือนริ้วรอย
- การลดไขมันเฉพาะจุด คลื่นวิทยุยังช่วยลดไขมันสะสมในบริเวณใบหน้า เช่น แก้มและเหนียง ส่งผลให้โครงหน้าดูเรียวคมชัดขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ
- เครื่อง Oligio ยังติดตั้งระบบ Cooling System ที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิผิวให้เย็นสบายขณะทำ พร้อมกับเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิผิวแบบเรียลไทม์ (Skin Temperature Tracking Sensor) ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอาการระคายเคืองหรือผิวไหม้
จุดเด่นของ Oligio
- Oligio มีระบบสั่น (Vibration) และ Cooling System ช่วยลดความเจ็บและปกป้องผิวชั้นนอกจากความร้อนของคลื่น Monopolar RF พลังงานถูกส่งลึกถึงชั้นผิวโดยไม่ทำร้ายผิวชั้นนอก ทำให้หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้น
- ด้วย Auto Mode และหัวทิปขนาดใหญ่ 4 ซม. Oligio ช่วยลดระยะเวลาในการทำหัตถการได้อย่างมาก โดยหัว 600 Shots ใช้เวลาประมาณ 20–30 นาที และหัว 300 Shots ใช้เวลาเพียง 10–15 นาที แต่ยังคงให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
- พลังงาน Monopolar RF ของ Oligio ช่วยกระชับผิว ฟื้นฟูความยืดหยุ่น และลดไขมันสะสมบริเวณแก้มและเหนียง ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- Oligio ติดตั้ง Real-Time Temperature Monitoring และ Pressure Sensing ช่วยควบคุมอุณหภูมิและแรงกดระหว่างทำหัตถการ หากอุณหภูมิสูงเกิน 43°C เครื่องจะหยุดทำงานทันที ลดความเสี่ยงต่อผิวไหม้
- Oligio มี 3 โหมดให้เลือกใช้งาน ได้แก่ Single, Double และ Auto Mode ช่วยให้แพทย์สามารถปรับเทคนิคให้เหมาะสมกับสภาพผิวและเป้าหมายการรักษาแต่ละคนได้อย่างยืดหยุ่น
- การกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินด้วย Oligio ช่วยให้ผลลัพธ์ด้านความกระชับและความเรียวของใบหน้าอยู่ได้นานถึง 6 เดือน – 1 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวของแต่ละบุคคล
เปรียบเทียบโปรแกรม Ultherapy Prime vs Oligio หน้าเรียวกระชับ
เมื่อพูดถึงเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ในปัจจุบัน Ulthera Prime และ Oligio ถือเป็นสองโปรแกรมที่ได้รับความนิยมอย่างสูง แต่ถึงแม้ทั้งสองเทคโนโลยีจะมีเป้าหมายเดียวกันคือการสร้างใบหน้าเรียวกระชับและฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์ แต่ลักษณะการทำงาน เทคนิคที่ใช้ รวมถึงผลลัพธ์และประสบการณ์ขณะทำมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย Ultherapy Prime และ Oligio แตกต่างกัน ดังนี้
หลักการทำงาน
- Ultherapy Prime ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์แบบโฟกัส (Microfocused Ultrasound) ยิงพลังงานลึกลงไปถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นโครงสร้างผิวชั้นลึกที่ศัลยแพทย์ใช้ในการดึงหน้า จึงสามารถยกกระชับผิวได้จากภายใน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับปานกลางถึงมาก และต้องการผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับการทำศัลยกรรม ทั้งยังมีระบบ Visualization แบบ Real-Time ช่วยให้แพทย์มองเห็นชั้นผิวจริง เพิ่มความแม่นยำและไม่เสี่ยงอันตรายในการรักษา
- Oligio ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ Monopolar RF ส่งความร้อนลงสู่ชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิว ความร้อนที่กระจายอย่างสม่ำเสมอช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูผิว และสลายไขมันสะสมบริเวณแก้มและเหนียง เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนเล็กน้อยหรือไขมันสะสมเฉพาะจุด โดยมีระบบ Cooling System และ Skin Temperature Tracking Sensor ที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิผิวตลอดการทำหัตถการ
ความรู้สึกขณะทำ
- Ultherapy Prime ระหว่างทำจะรู้สึกอุ่น ๆ หรือแสบจี๊ดเล็กน้อยบริเวณที่ยิงพลังงาน ความรู้สึกนี้อยู่ในระดับที่สามารถทนได้ โดยส่วนใหญ่จะมีการทายาชาก่อนทำ เพื่อช่วยลดความรู้สึกไม่สบาย ทั้งนี้ด้วยการพัฒนาระบบใหม่ของ Ultherapy Prime ที่มีความแม่นยำมากขึ้นและใช้เวลาทำน้อยลง ทำให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกเจ็บน้อยกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจน
- Oligio ระหว่างทำจะรู้สึกร้อนเล็กน้อยบริเวณผิวหน้า แต่จะสลับกับความเย็นจากหัวทิปที่มีระบบทำความเย็นในตัว จึงช่วยลดอาการร้อนและป้องกันไม่ให้เกิดความร้อนสะสมที่ผิวหนัง โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องทายาชาก่อนทำ
ระยะเวลาในการทำ
- Ultherapy Prime ใช้เวลาทำหัตถการประมาณ 30–60 นาที ต่อครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนไลน์และบริเวณที่ต้องการรักษา เนื่องจากต้องยิงพลังงานอย่างแม่นยำในแต่ละจุดลึกถึงชั้น SMAS
- Oligio ใช้เวลาน้อยกว่ามาก โดยปกติจะใช้เวลาเพียง 20–30 นาที ต่อครั้ง เพราะเป็นการส่งพลังงาน RF ลงสู่ชั้นหนังแท้และไขมันใต้ผิวแบบรวดเร็วและสม่ำเสมอ
ผลลัพธ์หลังทำ
- ผลลัพธ์หลังทำ Ultherapy Prime จะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีประมาณ 20–30% เนื่องจากการหดตัวของเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้น SMAS ส่งผลให้ผิวดูตึงกระชับขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น กรอบหน้าคมชัด ริ้วรอยลดเลือน และผิวแลดูอ่อนเยาว์อย่างดูเป็นธรรมชาติ
- ผลลัพธ์หลังทำ Oligio สามารถสังเกตเห็นความกระชับของผิวได้ทันที และผลลัพธ์จะพัฒนาต่อเนื่องในช่วง 3–6 เดือน โดยเทคโนโลยีของ Oligio ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นหนังแท้ ช่วยลดเลือนริ้วรอย กระชับรูขุมขน และฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมข้อดีของโปรแกรม Ultherapy Prime vs Oligio หน้าเรียวกระชับ
ข้อดีของการทำ Ultherapy Prime
- การทำ Ultherapy Prime ยกกระชับลึกถึงชั้น SMAS ชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการดึงหน้า
- การทำ Ultherapy Prime ใช้เทคโนโลยี Microfocused Ultrasound ที่แม่นยำสูง
- การทำ Ultherapy Prime มีระบบ Visualization แบบ Real-Time มองเห็นชั้นผิวขณะทำ
- การทำ Ultherapy Prime ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้หน้าตึงแข็ง
- การทำ Ultherapy Prime กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง
- การทำ Ultherapy Prime เริ่มเห็นผลบางส่วนทันทีหลังทำประมาณ 20–30%
- การทำ Ultherapy Prime ผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ในช่วง 2–3 เดือนหลังทำ
- การทำ Ultherapy Prime ผลลัพธ์สามารถคงอยู่นานถึง 1–2 ปี
- การทำ Ultherapy Prime ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
- การทำ Ultherapy Prime ยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น กรอบหน้าชัดขึ้น
- การทำ Ultherapy Prime ช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย เช่น ร่องแก้ม มุมปาก แนวกราม
- การทำ Ultherapy Prime เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับกลางถึงมาก
- การทำ Ultherapy Prime เทคโนโลยีใหม่ ใช้เวลาทำน้อยลงกว่ารุ่นก่อน
- การทำ Ultherapy Prime รู้สึกเจ็บน้อยลงกว่าเดิม
- การทำ Ultherapy Prime สามารถทำได้ทั้งบริเวณใบหน้า คอ ใต้คาง และเนินอก
ข้อดีของการทำ Oligio
- การทำ Oligio ใช้คลื่นวิทยุ Monopolar RF ที่ปล่อยพลังงานลงชั้นหนังแท้และไขมัน
- การทำ Oligio ยกกระชับผิวและลดไขมันในเครื่องเดียว
- การทำ Oligio ลดไขมันสะสมในบริเวณแก้ม เหนียง และกรอบหน้า
- การทำ Oligio กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวแน่นขึ้น
- การทำ Oligio ผลลัพธ์เริ่มเห็นได้ตั้งแต่หลังทำครั้งแรก
- การทำ Oligio พัฒนาผิวให้ดีขึ้นต่อเนื่องใน 3–6 เดือนหลังทำ
- การทำ Oligio ไม่จำเป็นต้องทายาชา
- การทำ Oligio มีระบบ Cooling System ปล่อยความเย็นปกป้องผิวขณะทำ
- การทำ Oligio มี Real-Time Temperature Monitoring ตรวจวัดอุณหภูมิตลอดเวลา
- การทำ Oligio ลดความเสี่ยงต่อการเกิดผิวไหม้หรือระคายเคือง
- การทำ Oligio ระบบ Pressure Sensing ควบคุมแรงกดหัวทิปให้อยู่ในระดับไม่อันตราย
- การทำ Oligio ใช้เวลาทำสั้นเพียง 20–30 นาทีเท่านั้น
- การทำ Oligio ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที
- การทำ Oligio ช่วยลดเลือนริ้วรอยและกระชับรูขุมขน
- การทำ Oligio เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ผิวบางหรือผิวแพ้ง่าย
- การทำ Oligio มีโหมดการทำงานให้เลือกใช้อย่างเหมาะสมและปรับได้ตามสภาพผิว
โปรแกรม Ultherapy Prime vs Oligio หน้าเรียวกระชับ ช่วยอะไรบ้าง?
โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ยกกระชับโครงสร้างผิวลึกถึงชั้น SMAS โดยไม่ต้องผ่าตัด
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น กรอบหน้าคมชัดยิ่งขึ้น
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ลดความหย่อนคล้อยบริเวณแก้ม กราม และใต้คาง
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ยกหางตาและหนังตาตกได้อย่างดูเป็นธรรมชาติ
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime กระชับแนวขากรรไกรให้เด่นชัด
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ฟื้นฟูความแน่นของผิว ช่วยให้ผิวดูตึงและกระชับขึ้น
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ลดเลือนริ้วรอยลึก เช่น ร่องแก้ม รอยใต้ตา
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่องในระยะยาว
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime เสริมความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าโดยไม่ทำให้ผิวแข็งหรือตึงเกินไป
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ช่วยเสริมโครงสร้างผิวให้แข็งแรงมากขึ้นในระยะยาว
โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio ยกกระชับผิวหนังบริเวณแก้ม ใต้คาง และกรอบหน้า
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio ลดไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น ไขมันแก้มและเหนียง
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio ยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูเรียวเล็กและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio ช่วยกระชับแนวกรอบหน้า (Jawline) ให้ได้รูปชัดขึ้น
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นหนังแท้
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio ทำให้ผิวแน่นกระชับ เรียบเนียน และรูขุมขนเล็กลง
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio ลดริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา ปาก และลำคอ
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio ฟื้นฟูสภาพผิวให้แข็งแรง ลดความหย่อนคล้อยในระยะเริ่มต้น
โปรแกรม Ultherapy Prime vs Oligio หน้าเรียวกระชับ เหมาะกับใครบ้าง?
โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime เหมาะกับใครบ้าง?
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับปานกลางถึงมาก
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับลึกถึงชั้น SMAS โดยไม่ผ่าตัด
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับกรอบหน้าให้ชัดขึ้นและรูปหน้าเรียวขึ้น
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime เหมาะสำหรับผู้ที่มีแนวกรามหย่อนคล้อยและต้องการยกกระชับแนวขากรรไกร
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยบริเวณแก้ม มุมปาก หรือใต้คางที่ต้องการลดเลือน
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ยาวนาน 1–2 ปี
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้นหลังทำหัตถการ
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องและดูเป็นธรรมชาติ
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับทั่วทั้งใบหน้า คอ หรือเนินอก
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป และเริ่มมีสัญญาณผิวหย่อนคล้อยชัดเจน
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวแบบโครงสร้าง
โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio เหมาะกับใครบ้าง?
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณแก้ม เหนียง หรือกรอบหน้า
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหน้าเรียวกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำหัตถการที่ใช้เวลาไม่นาน
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดขนาดรูขุมขนและฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป ดูเป็นธรรมชาติ
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัด ไม่ต้องการพักฟื้นหลังทำ
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินอย่างต่อเนื่อง
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง หรือมีประวัติแพ้ง่าย
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มดูแลตัวเองในช่วงอายุ 25 ปีขึ้นไป
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวให้กระชับและเรียวขึ้นโดยไม่ต้องลงมือผ่าตัด
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำหัตถการระหว่างพักกลางวัน หรือมีเวลาน้อย
หมายเหตุ
ทั้งโปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ulthera Prime และ Oligio เป็นเทคโนโลยียกกระชับที่มีจุดเด่นเฉพาะตัว การเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมควรพิจารณาจากสภาพผิว ระดับปัญหา ความต้องการผลลัพธ์ และไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล เพื่อผลลัพธ์ที่ดี แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจทำหัตถการ
โปรแกรม Ultherapy Prime vs Oligio หน้าเรียวกระชับ ไม่เหมาะใครบ้าง?
โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ไม่เหมาะกับใครบ้าง?
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหนังติดเชื้อ บาดแผลเปิด หรือโรคผิวหนังเฉพาะที่ในบริเวณที่ทำหัตถการ
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคลมชัก
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีการฝังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ Pacemaker
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่าย หรือรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดโดยไม่สามารถหยุดยาได้
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีประวัติการรักษาใบหน้าด้วยไหมละลาย หรือวัสดุเสริมภายในระยะเวลาไม่นาน
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวบางมากหรือสูญเสียเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังมากผิดปกติ
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความคาดหวังสูงเกินจริง ต้องการผลลัพธ์เหมือนการทำศัลยกรรมในครั้งเดียว
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งทำเลเซอร์ลงไปในชั้นผิวมาก่อนในระยะเวลาไม่นาน
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรืออยู่ระหว่างการรักษามะเร็ง
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีประวัติแผลเป็นคีลอยด์ง่าย
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโลหะฝังอยู่ในบริเวณใบหน้า เช่น สกรู เหล็ก ดามกระดูก
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะอักเสบเรื้อรังในชั้นผิวหรือเนื้อเยื่อใต้ผิว
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีแผลเป็นนูน (Hypertrophic Scarring) บริเวณใบหน้า
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีแนวโน้มเกิดภาวะเส้นประสาทอักเสบ หรือปลายประสาทไวผิดปกติ
โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio ไม่เหมาะกับใครบ้าง?
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีแผลเปิด ติดเชื้อ หรือผื่นแพ้ในบริเวณที่ต้องการทำหัตถการ
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีการฝังอุปกรณ์ไฟฟ้าในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) หรือเครื่องกระตุ้นเส้นประสาท
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทรับความรู้สึก เช่น มีอาการชา หรือเส้นประสาทอักเสบ
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคเรื้อรังที่ควบคุมไม่ได้ เช่น โรคเบาหวานชนิดที่มีภาวะแทรกซ้อน หรือโรคหัวใจรุนแรง
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด หรือใช้ยาต้านเกล็ดเลือดอยู่
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวบอบบางผิดปกติ
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีประวัติคีลอยด์ง่าย
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหนังที่ไวต่อความร้อนอย่างผิดปกติ เช่น โรคผิวหนังอักเสบเฉียบพลัน
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันใบหน้าน้อยมากอยู่แล้ว
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความสมดุลของระบบประสาทอัตโนมัติ
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวแห้งลอก แตก หรือระคายเคืองง่ายในบริเวณที่จะทำการรักษา
คำแนะนำ
แม้ Ulthera Prime และ Oligio จะไม่อันตรายและได้ผลลัพธ์ดี แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่มีแผลเปิด ผิวติดเชื้อ อุปกรณ์ไฟฟ้าฝังในร่างกาย ตั้งครรภ์ หรือมีโรครุนแรง รวมถึงผู้ที่คาดหวังผลทันทีหรือมีผิวไวต่อความร้อน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ เพื่อผลลัพธ์ที่เหมาะสม
โปรแกรม Ultherapy Prime vs Oligio หน้าเรียวกระชับ สามารถทำได้ในบริเวณไหนบ้าง?
โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime สามารถทำได้ในบริเวณไหนบ้าง?
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime สามารถทำบริเวณหน้าผาก ช่วยยกคิ้ว
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime สามารถทำบริเวณรอบดวงตา ช่วยลดริ้วรอยและยกกระชับหนังตาตก
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime สามารถทำบริเวณโหนกแก้ม ยกกระชับให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime สามารถทำบริเวณแก้ม ช่วยยกกระชับและลดร่องแก้ม
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime สามารถทำบริเวณแนวกราม เก็บกรอบหน้าให้คมชัด
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime สามารถทำบริเวณใต้คาง ลดเหนียงและกระชับคางสองชั้น
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime สามารถทำบริเวณลำคอ ยกกระชับผิวหนังบริเวณคอที่หย่อนคล้อย
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime สามารถทำบริเวณเนินอก กระชับผิวบริเวณอกที่เริ่มหย่อน
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Ultherapy Prime สามารถทำบริเวณกรอบหน้า ช่วยเก็บกรอบหน้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio สามารถทำได้ในบริเวณไหนบ้าง?
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio สามารถทำบริเวณแก้ม ลดไขมันสะสม กระชับผิว
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio สามารถทำบริเวณแนวกรอบหน้า ช่วยลดความหย่อนและทำให้หน้าเรียวขึ้น
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio สามารถทำบริเวณใต้คาง ลดไขมันใต้คาง ลดเหนียง กระชับแนวคอ
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio สามารถทำบริเวณลำคอ ช่วยยกกระชับผิวคอและลดรอยย่น
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio สามารถทำบริเวณรอบดวงตา ลดความหย่อนคล้อยและริ้วรอยเล็ก ๆ
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio สามารถทำบริเวณหน้าผาก ช่วยตึงกระชับเล็กน้อย และลดริ้วรอยตื้น
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio สามารถทำบริเวณแก้ม ลดความหย่อนบริเวณแก้ม
- โปรแกรมหน้าเรียวกระชับ Oligio สามารถทำบริเวณกรอบหน้า ช่วยเสริมโครงหน้าให้เรียวดูเป็นธรรมชาติ
Ultherapy Prime vs Oligio หน้าเรียวกระชับ โปรแกรมไหนเห็นผลเร็วกว่ากัน?
- โดยทั่วไป Ultherapy Prime จะเริ่มเห็นผลหน้าเรียวกระชับบางส่วนได้ทันทีหลังทำ ประมาณ 20–30% จากการหดตัวของคอลลาเจนในชั้น SMAS แต่ผลลัพธ์ที่ชัดเจนจะต้องใช้เวลา 2–3 เดือน เพื่อให้กระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่สมบูรณ์ และเห็นการยกกระชับที่ชัดเจนเต็มที่
- ขณะที่ Oligio ก็สามารถเห็นผลหน้าเรียวกระชับได้ทันทีในระดับหนึ่งหลังทำเช่นกัน โดยเฉพาะความเฟิร์มของผิวและความรู้สึกแน่นตึง แต่การเปลี่ยนแปลงที่สมบูรณ์แบบ เช่น ผิวเรียบเนียน กระชับขึ้น รูขุมขนเล็กลง จะพัฒนาเรื่อย ๆ ในช่วง 3–6 เดือน หลังการรักษา
โปรแกรม Ultherapy Prime vs Oligio หน้าเรียวกระชับ ทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม?
- สามารถทำ Ultherapy Prime และ Oligio หน้าเรียวกระชับ ร่วมกับหัตถการอื่น เช่น โปรแกรมเลเซอร์, โปรแกรมฉีดโบ, โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ได้ แต่ต้องปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนให้เหมาะสม ป้องกันการกระทบผลลัพธ์ของแต่ละโปรแกรม
สามารถเลือกทำ Ultherapy Prime หรือ Oligio หน้าเรียวกระชับ เฉพาะบางจุดได้ไหม?
- ทั้ง Ultherapy Prime และ Oligio หน้าเรียวกระชับ สามารถเลือกทำเฉพาะจุดที่มีปัญหาได้ การเลือกทำเฉพาะจุดช่วยตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาเฉพาะเจาะจง สามารถลดระยะเวลา และค่าใช้จ่ายในการทำได้อีกด้วย ทั้งนี้แพทย์จะประเมินสภาพผิวและความเหมาะสมก่อนทำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม
สามารถทำ Ultherapy Prime หรือ Oligio หน้าเรียวกระชับ พร้อมกันในวันเดียวได้ไหม?
- โดยทั่วไป ไม่แนะนำให้ทำทั้งสองโปรแกรมหน้าเรียวกระชับพร้อมกันในวันเดียวกัน เพราะการยิงพลังงานหลายรูปแบบซ้อนกันในวันเดียว อาจเพิ่มความเสี่ยงเรื่องผิวระคายเคือง อักเสบ หรือเกิดความร้อนสะสมมากเกินไป ควรทำเว้นช่วงเวลาและให้แพทย์วางแผนการรักษาเป็นรายบุคคล เพื่อป้องกันผลข้างเคียงและให้ได้ผลลัพธ์ดีอย่างเหมาะสม
สามารถทำ Ultherapy Prime หรือ Oligio หน้าเรียวกระชับ บ่อยแค่ไหน?
- สำหรับ Ultherapy Prime โดยปกติแนะนำทำปีละ 1 ครั้งก็เพียงพอ เนื่องจากพลังงาน HIFU ของ Ulthera ยิงลึกถึงชั้น SMAS ทำให้หน้าเรียวกระชับและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ต่อเนื่องยาวนาน
- สำหรับ Oligio ซึ่งใช้พลังงาน RF เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและสลายไขมันในชั้นตื้น สามารถทำซ้ำได้ ปีละ 1–2 ครั้ง เพื่อรักษาความกระชับและรูปหน้าให้คงที่
โปรแกรม Ultherapy Prime และ Oligio หน้าเรียวกระชับ เหมาะกับคนอายุเท่าไหร่?
- Ultherapy Prime เหมาะกับผู้ที่มีอายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะกลุ่มที่เริ่มมีสัญญาณของความหย่อนคล้อยอย่างเห็นได้ชัด เช่น แนวกรามไม่ชัด ร่องแก้มลึก หนังตาตก หรือมีปัญหาเหนียง
- Oligio เหมาะกับผู้ที่มีอายุประมาณ 25 ปีขึ้นไป เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีสัญญาณผิวไม่กระชับเล็กน้อย เช่น ผิวหน้าดูหย่อนคล้อยบาง ๆ กรอบหน้าไม่ชัด มีไขมันสะสมเล็กน้อยที่แก้มและเหนียง
การดูแลผิวหน้าเรียวกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัดในปัจจุบันมีทางเลือกที่น่าสนใจอย่าง Ultherapy Prime และ Oligio ซึ่งต่างมีจุดเด่นและเทคโนโลยีเฉพาะตัวที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน
Ultherapy Prime เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับโครงสร้างผิวในระดับลึกถึงชั้น SMAS พร้อมผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับการดึงหน้า แต่ไม่ต้องเจ็บตัวหรือพักฟื้นนาน ส่วน Oligio เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการกระชับผิว ฟื้นฟูความยืดหยุ่น และลดไขมันสะสมเฉพาะจุดได้อย่างอ่อนโยน เห็นผลลัพธ์อย่างค่อยเป็นค่อยไปและรู้สึกสบายขณะทำ
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของการทำ Ultherapy Prime และ Oligio อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพผิว อายุ ปริมาณคอลลาเจนที่มีอยู่เดิม พฤติกรรมการดูแลผิวหลังทำ รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การเผชิญแสงแดด การสูบบุหรี่ หรือการพักผ่อน การได้รับการประเมินโดยแพทย์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้สามารถวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิว และความต้องการเฉพาะบุคคลได้ดี
สุดท้าย ไม่ว่าจะเลือก Ultherapy Prime หรือ Oligio การลงทุนในโปรแกรมดูแลผิวอย่างเหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ คือการเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเอง และช่วยคงความอ่อนเยาว์ได้อย่างยาวนานอย่างแท้จริง