ฉีดฟิลเลอร์งานผิว คืออะไร? ดีจริงไหม? เหมาะกับใคร?
หากพูดถึงการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) หลายคนคงนึกถึงการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก ปรับรูปหน้า หรือเสริมจุดต่าง ๆ ให้ได้สัดส่วน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้มีดีแค่การเติมเต็มเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีฟิลเลอร์งานผิวที่เน้นปรับปรุงคุณภาพผิว บำรุงผิวอย่างล้ำลึก และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวโดยตรง อีกทั้ง การฉีดฟิลเลอร์งานผิวนั้น ยังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน และมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ วันนี้ รมย์รวินท์คลินิกจะพาไปทำความรู้จักกับการฉีดฟิลเลอร์งานผิวแบบเจาะลึก พร้อมแนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์งานผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคลค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์งานผิว คืออะไร? เคล็ดลับเติมความชุ่มชื้น ทวงคืนผิวสุขภาพดี
รู้จัก ฟิลเลอร์งานผิว
ฟิลเลอร์งานผิว คือ การฉีดสารเติมเต็มที่มีส่วนประกอบหลักของ Hyaluronic Acid (HA) เข้าไปยังผิวหนังชั้นตื้น เพื่อช่วยปรับสภาพผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้านจากภายใน ให้ผิวกลับมาฉ่ำวาว อิ่มน้ำ และดูสุขภาพดีมากขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้ว ฟิลเลอร์งานผิวจะมีลักษณะเป็นเนื้อเหลว ไปจนถึงเนื้อละเอียด ซึ่งใช้โมเลกุลขนาดเล็ก สามารถกระจายตัวได้ดี โดยที่ไม่เน้นการคงรูป หรือทำให้โครงสร้างใบหน้าเปลี่ยนแปลง
หลักการทำงานของฟิลเลอร์งานผิว
โดยทั่วไปแล้ว เมื่อทำการฉีดฟิลเลอร์งานผิวเข้าไปยังผิวหนังชั้นตื้น สาร HA จะกระจายตัวได้อย่างทั่วถึงในบริเวณที่ฉีด จากนั้นจะดึงโมเลกุลของน้ำเข้ามาเก็บไว้ในเซลล์ผิว ทำให้ผิวสามารถคงความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน โดยไม่ทำให้รูปหน้าเปลี่ยน หรือเกิดก้อนแข็งได้ง่าย อีกทั้ง สาร HA ยังสามารถเติมเต็มริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ และแก้ปัญหารูขุมขนกว้าง หรือหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ก่อให้เกิดอาการบวมหลังฉีด
ฉีดฟิลเลอร์งานผิว แก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง?
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย ดังนี้
- ฉีดฟิลเลอร์งานผิว แก้ไขปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว สามารถแก้ไขปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ลอกเป็นขุย และแต่งหน้าไม่ติดทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ฉีดฟิลเลอร์งานผิว แก้ไขปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ และร่องตื้นบนใบหน้า
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว สามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ และร่องตื้นบนใบหน้าเช่น ริ้วรอยรอบดวงตา ริ้วรอยรอบริมฝีปาก หรือริ้วรอยหน้าผาก
- ฉีดฟิลเลอร์งานผิว แก้ไขปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว สามารถแก้ไขปัญหารูขุมขนกว้าง รูขุมขนไม่กระชับ และผิวหน้าไม่เรียบเนียนได้เป็นอย่างดี
- ฉีดฟิลเลอร์งานผิว แก้ไขปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวหมองคล้ำ
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว สามารถแก้ไขปัญหาใบหน้าหมองคล้ำ ผิวไม่กระจ่างใส สีผิวไม่สม่ำเสมอ และจุดด่างดำ
- ฉีดฟิลเลอร์งานผิว แก้ไขปัญหารอยคล้ำใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว สามารถแก้ไขปัญหาใต้ตาหมองคล้ำ ใต้ตาดำ และใต้ตาไม่สดใสจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือจากพันธุกรรมได้อย่างตรงจุด
- ฉีดฟิลเลอร์งานผิว แก้ไขปัญหาผิวโทรมจากแสงแดด และมลภาวะ
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว สามารถแก้ไขปัญหาผิวโทรม ผิวเสื่อมสภาพจากการโดนทำร้ายของแสงแดด และมลภาวะต่าง ๆ เช่น ฝุ่น ควัน หรือสารอนุมูลอิสระ
- ฉีดฟิลเลอร์งานผิว แก้ไขปัญหาหลุมสิว ผิวขรุขระ
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว สามารถแก้ไขปัญหาหลุมสิวตื้น ๆ หรือผิวขรุขระได้ในบางกรณี ขึ้นอยู่กับประเภทของหลุมสิว และความรุนแรงของปัญหา
ฉีดฟิลเลอร์งานผิว ใช้ได้กับบริเวณไหน?
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว สามารถทำได้ในหลายบริเวณทั้งใบหน้า และจุดอื่น ๆ ของร่างกาย โดยบริเวณที่นิยมฉีดฟิลเลอร์งานผิว ได้แก่
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว นิยมนำมาฉีดบริเวณทั่วใบหน้า
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว นิยมนำมาฉีดบริเวณหน้าผาก
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว นิยมนำมาฉีดบริเวณใต้ตา
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว นิยมนำมาฉีดบริเวณรอบดวงตา
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว นิยมนำมาฉีดบริเวณหน้าแก้ม
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว นิยมนำมาฉีดบริเวณรอบริมฝีปาก
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว นิยมนำมาฉีดบริเวณลำคอ
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว นิยมนำมาฉีดบริเวณหลังมือ
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว นิยมนำมาฉีดบริเวณเนินอก
คุณสมบัติเด่นของการฉีดฟิลเลอร์งานผิว
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว มีคุณสมบัติเด่นอยู่หลายประการ ดังนี้
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิว และเพิ่ม Skin Quality
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ ให้ดูตื้นขึ้น
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ช่วยให้ผิวโกลว์ ฉ่ำวาว อิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ดูสว่างกระจ่างใส
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้รูขุมขนเล็กลง ผิวมีความเรียบเนียน
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ช่วยเติมเต็มหลุมสิวตื้น ๆ ให้ดูตื้นขึ้น
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น แข็งแรง และกระชับมากขึ้น
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ช่วยลดความหมองคล้ำบริเวณใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูสดใสมากขึ้น
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งเสียจากแสงแดด และมลภาวะต่าง ๆ
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวจากสารเคมี และมลภาวะต่าง ๆ
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ช่วยลดความเหี่ยวย่นบริเวณหลังมือ และลำคอ
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว เหมาะกับใคร?
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว เหมาะกับ ผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว เหมาะกับ ผู้ที่มีผิวแห้ง ขาดน้ำ แต่งหน้าไม่ติด
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการมีผิวฉ่ำวาว อิ่มน้ำ ดูสุขภาพดีแบบ Glass Skin
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว เหมาะกับ ผู้ที่เริ่มมีปัญหาริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ บนใบหน้า
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว เหมาะกับ ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว เหมาะกับ ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว เหมาะกับ ผู้ที่มีผิวขาดความยืดหยุ่น เริ่มมีความหย่อนคล้อยเล็กน้อย
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการปรับสีผิวบริเวณใต้ตา มีปัญหาใต้ตาคล้ำ
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวตื้น ๆ บนใบหน้า
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวที่คล้ำเสียจากรังสี UV และมลภาวะ
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว เหมาะกับ ผู้ที่มีผิวโทรม ต้องการปรับสภาพผิวให้ดูสดใส เปล่งปลั่ง
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม
ทั้งนี้ ควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์ และแจ้งประวัติสุขภาพให้แพทย์ทราบ ตั้งแต่ประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา หรือประวัติการรักษาก่อนทำการฉีด
ข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์งานผิว
แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์งานผิว จะมีคุณสมบัติเด่นมากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์งานผิว ดังนี้
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ไม่เหมาะกับ การเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึกที่เห็นได้ชัด
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ไม่เหมาะกับ การปรับรูปทรง หรือปรับแต่งโครงสร้างใบหน้า
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยแบบรุนแรง
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีประวัติแพ้สาร Hyaluronic Acid (HA) หรือแพ้สารประกอบอื่น ๆ ในฟิลเลอร์งานผิว
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ไม่เหมาะกับ ผู้ที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือด
ทั้งนี้ ควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์ และแจ้งประวัติสุขภาพให้แพทย์ทราบ ตั้งแต่ประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา หรือประวัติการรักษาก่อนทำการฉีด
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์งานผิว
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีติ เนื่องจากเน้นการปรับปรุงคุณภาพผิว และเพิ่มความชุ่มชื้นจากภายใน ทำให้ใบหน้าดูไม่แข็งทื่อ และเปลี่ยนแปลงรูปทรงไปจากเดิม
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปยังผิวหนังชั้นตื้นโดยตรง ทำให้เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วกว่าการทาครีมบำรุง
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว สามารถกระจายตัว และแทรกซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้ดี โดยไม่เสี่ยงเป็นก้อนง่าย
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นหลังฉีด สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงหลังฉีด
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวผสม
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ต่างจากการฉีดฟิลเลอร์ปกติอย่างไร?
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว และการฉีดฟิลเลอร์ปกติ มีความแตกต่างกันในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้
- การฉีดฟิลเลอร์งานผิว
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว จะเน้นการปรับปรุงคุณภาพผิว และฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพ เช่น เติมเต็มความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ พร้อมกระชับรูขุมขน และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ซึ่งฟิลเลอร์งานผิว มักจะใช้สารเติมเต็มที่มีลักษณะโมเลกุลขนาดเล็ก เนื้อมีความเหลว ไปจนถึงเนื้อละเอียด โดยจะฉีดเข้าไปยังผิวหนังชั้นตื้น เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุด ซึ่งสามารถกระจายตัวได้ดี และสม่ำเสมอในชั้นผิวหนัง โดยไม่ทำให้รูปหน้าเปลี่ยนแปลงจนเกินไป
- การฉีดฟิลเลอร์ปกติ
การฉีดฟิลเลอร์ปกติ จะเน้นการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก หรือปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน เช่น เติมเต็มร่องแก้ม เติมเต็มขมับที่ยุบตัว หรือปรับรูปทรงปาก ซึ่งฟิลเลอร์ปกติ มักจะใช้สารเติมเต็มที่มีลักษณะโมเลกุลขนาดใหญ่ มีความหนาแน่น และสามารถคงรูปได้ดี โดยจะฉีดเข้าไปยังผิวหนังชั้นลึก หรือชั้นกระดูก เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุด และป้องกันการเกิดก้อนหลังฉีด ซึ่งจะทำให้ใบหน้ามีความอิ่มฟู ดูอ่อนเยาว์ และเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน
ฉีดฟิลเลอร์งานผิว ยี่ห้อไหนดี?
ในปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์งานผิว มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ดังนี้
- ฉีดฟิลเลอร์งานผิว Belotero Revive
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว Belotero Revive เป็นสารเติมเต็มจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีส่วนประกอบของ Hyaluronic Acid (HA) และ Glycerol ซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิตพิเศษอย่าง CPM Technology (Cohesive Polydensified Matrix) ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความเรียบเนียน และกลมกลืนเข้ากับผิวเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีผิวสวยฉ่ำวาวแบบ Glass Skin และผู้ที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า โดยสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน ประมาณ 9 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- ฉีดฟิลเลอร์งานผิว Restylane Vital Light
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว Restylane Vital Light เป็นสารเติมเต็มจากประเทศสวีเดน ที่มีส่วนประกอบของ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิตพิเศษอย่าง NASHA Technology (Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid) ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความละเอียด และสามารถกักเก็บน้ำได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมความชุ่มชื้น มีปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ และผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย โดยสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน ประมาณ 6 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- ฉีดฟิลเลอร์งานผิว Juvederm Volite
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว Juvederm Volite เป็นสารเติมเต็มจากประเทศอเมริกา ที่มีส่วนประกอบของ Hyaluronic Acid (HA) และ Aquaporin-3 (APQ3) ซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิตพิเศษอย่าง Vycross Technology ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความละเอียด บางเบา แต่ยังสามารถยึดเกาะได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ มีริ้วรอยรอบดวงตา โดยสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน ประมาณ 8 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- ฉีดฟิลเลอร์งานผิว Dorothy Dewy
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว Dorothy Dewy เป็นสารเติมเต็มจากประเทศเกาหลีใต้ ที่มีส่วนประกอบของ Hyaluronic Acid (HA) เข้มข้นสูงถึง 20 mg/ml ซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิตพิเศษอย่าง IFRHA Technology (Innovative Filler with Reinforced Hyaluronic Acid) ทำให้ได้เนื้อเจลที่บางเบา และสามารถกระจายตัวได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระชับรูขุมขน และเติมน้ำให้ผิว โดยสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน ประมาณ 6 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- ฉีดฟิลเลอร์งานผิว Neauvia Hydro Deluxe
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว Neauvia Hydro Deluxe เป็นสารเติมเต็มจากประเทศอิตาลี ที่มีส่วนประกอบของ Hyaluronic Acid (HA), Calcium Hydroxylapatite (CaHA), L-Proline และ Glycine ซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิตพิเศษอย่าง SXT Technology (SMART XROSS LINK Technology) ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความเหลว และสามารถกลมกลืนเข้ากับผิวได้อย่างเรียบเนียน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น กระตุ้นคอลลาเจน และผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง โดยสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน ประมาณ 6 – 9 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
การเตรียมพร้อมก่อนฉีดฟิลเลอร์งานผิว
- ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์งานผิว ควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติ และยี่ห้อที่จะต้องการใช้ก่อนฉีด
- ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์งานผิว งดอาหารเสริม หรือยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์งานผิว งดการสูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์งานผิว งดการออกกำลังกายที่ทำให้เลือดสูบฉีด
- ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์งานผิว งดใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มผลัดเซลล์ผิว
- ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์งานผิว ควรดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นก่อนฉีด
- ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์งานผิว ควรพักผ่อนให้มาก ๆ เพื่อให้ร่างกายมีความพร้อมก่อนฉีด
การปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์งานผิว
การปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์งานผิว
- หลังทำการฉีดฟิลเลอร์งานผิว งดแต่งหน้าในวันแรกที่ฉีด
- หลังทำการฉีดฟิลเลอร์งานผิว หลีกเลี่ยงการนวด กด หรือถูบริเวณผิวหน้าแรง ๆ
- หลังทำการฉีดฟิลเลอร์งานผิว งดการอยู่ท่ามกลางแสงแดดจัดโดยตรง
- หลังทำการฉีดฟิลเลอร์งานผิว งดทำกิจกรรมที่มีความร้อน หรืออุณหภูมิสูง
- หลังทำการฉีดฟิลเลอร์งานผิว งดการออกกำลังกายที่ทำให้เลือดสูบฉีด
- หลังทำการฉีดฟิลเลอร์งานผิว งดการสูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- หลังทำการฉีดฟิลเลอร์งานผิว งดใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มผลัดเซลล์ผิว
- หลังทำการฉีดฟิลเลอร์งานผิว ควรนอนหงาย และยกศีรษะสูง
- หลังทำการฉีดฟิลเลอร์งานผิว ควรดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสารเติมเต็ม
ฉีดฟิลเลอร์งานผิว ควรใช้กี่ CC?
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว โดยทั่วไปจะใช้ปริมาณสารเติมเต็ม ประมาณ 1 – 2 CC ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และบริเวณที่จะทำการฉีด โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน และให้คำแนะนำเกี่ยวกับปริมาณสารเติมเต็มที่ควรใช้ได้อย่างเหมาะสม
ฉีดฟิลเลอร์งานผิว กี่วันเห็นผล?
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว โดยทั่วไปจะสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้หลังฉีด จากนั้นจะค่อย ๆ เห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่ ภายใน 1 – 2 สัปดาห์ เมื่อสารเติมเต็มเซตตัวเข้ากับผิวอย่างสมบูรณ์ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และการปฏิบัติตัวหลังฉีด
ฉีดฟิลเลอร์งานผิว อยู่ได้นานแค่ไหน?
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว โดยทั่วไปจะสามารถคงประสิทธิภาพของผลลัพธ์ได้นาน ประมาณ 6 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้ สภาพผิวของแต่ละบุคคล และการปฏิบัติตัวหลังฉีด ซึ่งหากต้องการคงประสิทธิภาพของผลลัพธ์ให้ดูดีอย่างต่อเนื่อง แนะนำให้กลับมาฉีดซ้ำเมื่อครบกำหนด เพื่อให้ผิวฉ่ำวาว ใสเด้ง และดูสุขภาพอย่างยาวนาน
ฉีดฟิลเลอร์งานผิว อันตรายไหม?
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ไม่เป็นอันตราย หากทำการฉีดโดยแพทย์ที่มีความรู้ และประสบการณ์ ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับเทคนิคการฉีดมาเป็นอย่างดี และสามารถฉีดเข้าไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม ที่สำคัญคือ ควรใช้ฟิลเลอร์งานผิวของแท้ที่ได้รับการอนุมัติจาก อย. เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงอันตราย
การฉีดฟิลเลอร์งานผิว ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิว และอยากมีผิวสวย ฉ่ำวาว ดูสุขภาพดี โดยไม่ทำให้โครงสร้างใบหน้าเปลี่ยน ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์งานผิวนั้น จะให้ผลลัพธ์ที่ดี ดูไม่ปลอม และใช้ได้กับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม หรือผิวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถฉีดฟิลเลอร์งานผิวได้
สำหรับใครที่กำลังสนใจฉีดฟิลเลอร์งานผิวอยู่ สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้ที่ รมย์รวินท์คลินิก ทุกสาขา เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพผิวเบื้องต้น พร้อมรับคำแนะนำเกี่ยวกับยี่ห้อที่ควรใช้ และปริมาณที่ควรฉีดอย่างเหมาะสมค่ะ
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด