ฟิลเลอร์ 1 CC ฉีดตรงไหนได้บ้าง? เห็นผลจริงไหม? มีปริมาณแค่ไหน?
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในการเติมเต็ม และเพิ่มปริมาตรให้ผิวในบริเวณที่เกิดช่องว่าง ซึ่งหนึ่งในคำถามยอดฮิต สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ คือ “ฉีดฟิลเลอร์ 1 CC สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้จริงไหม? แล้วฟิลเลอร์ 1 CC ฉีดตรงไหนได้บ้าง?” บทความนี้ จะพามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ 1 CC อย่างละเอียด พร้อมแนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์ที่มีมาตรฐาน รวมถึง ข้อควรรู้ก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
ฟิลเลอร์ 1 CC ฉีดตรงไหนได้บ้าง? เพียงพอไหม? รวมจุดที่นิยมฉีดฟิลเลอร์ 1 CC
รู้จัก ฟิลเลอร์ คืออะไร?
ฟิลเลอร์ (Filler) หรือสารเติมเต็ม คือ สารสังเคราะห์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่มีอยู่ในร่างกาย ซึ่งมีคุณสมบัติในการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก และเพิ่มวอลลุ่มให้ผิวในบริเวณที่มีการยุบตัวลง เพื่อทดแทน และพยุงโครงสร้างผิวให้กลับเต่งตึง โดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จ สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และค่อย ๆ ย่อยสลายไปเองตามธรรมชาติ โดยสามารถใช้ฉีดได้หลากหลายบริเวณบนใบหน้า เช่น ขมับ หน้าแก้ม ใต้ตา ริมฝีปาก คาง หรือกรอบหน้า ทำให้ฟิลเลอร์กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวเสื่อมสภาพตามวัย
ฟิลเลอร์ 1 CC มีปริมาณแค่ไหน?
การฉีดฟิลเลอร์ 1 CC เมื่อฉีดออกจากไซริงค์ (Syringe) และเกลี่ยเนื้อฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเป็นเจลใสออก เนื้อฟิลเลอร์จะมีขนาดเทียบเท่ากับเหรียญบาท 1 เหรียญ ซึ่งถือเป็นปริมาณที่พอเหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาผิวเฉพาะจุด โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวไม่มาก หรือต้องการเติมเต็มเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์
ฟิลเลอร์ 1 ไซริงค์ มีกี่ CC?
โดยส่วนใหญ่แล้ว การฉีดฟิลเลอร์ 1 กล่อง จะมีฟิลเลอร์บรรจุอยู่ในไซริงค์ จำนวน 1 – 2 หลอด ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ฉีด โดยใน 1 ไซริงค์นั้น จะมีปริมาณเนื้อฟิลเลอร์ทั้งหมด 1 CC หรือ 1 ml ซึ่งถือเป็นขนาดมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไปในวงการแพทย์ความงาม เหมาะสำหรับการเติมเต็มเฉพาะจุด ตั้งแต่ปัญหาเล็กน้อยถึงปานกลาง
ฟิลเลอร์ 1 CC ฉีดตรงไหนได้บ้าง?
การฉีดฟิลเลอร์ 1 CC สามารถเติมเต็ม หรือแก้ไขปัญหาผิวได้หลายจุด ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และการประเมินของแพทย์ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ ฟิลเลอร์ 1 CC จะเหมาะสำหรับบริเวณที่มีปัญหาผิวเพียงเล็กน้อย หรือต้องการเติมเต็มเฉพาะจุด ดังนี้
- ฟิลเลอร์หน้าผาก
การฉีดฟิลเลอร์ 1 CC บริเวณหน้าผาก สามารถแก้ไขปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากแบน หรือหน้าผากเป็นแอ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับในกรณีที่มีปัญหาบริเวณหน้าผากเพียงเล็กน้อย หรือต้องการผลลัพธ์ที่ดี แต่หากคาดหวังผลลัพธ์ที่ชัดเจน หรือมีปัญหาค่อนข้างมาก แนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์เริ่มต้นที่ 2 CC ขึ้นไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุม และสวยงามตามต้องการ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์
- ฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ 1 CC บริเวณใต้ตา สามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา เบ้าตาลึก ใต้ตาคล้ำ หรือถุงใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับในกรณีที่มีปัญหาใต้ตาเพียงเล็กน้อย หรือต้องการผลลัพธ์ที่แลดูเข้ากับใบกน้าแต่หากคาดหวังผลลัพธ์ที่ชัดเจน หรือมีปัญหาใต้ตาค่อนข้างมาก แนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์เริ่มต้นที่ 2 CC ขึ้นไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุม และสวยงามตามต้องการ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์
- ฟิลเลอร์ขมับ
การฉีดฟิลเลอร์ 1 CC บริเวณขมับ สามารถแก้ไขปัญหาขมับตอบ ขมับยุบ หรือขมับเว้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับในกรณีที่มีปัญหาบริเวณขมับเพียงเล็กน้อย หรือต้องการผลลัพธ์ที่แลดูเข้ากับใบหน้า แต่หากคาดหวังผลลัพธ์ที่ชัดเจน หรือมีปัญหาขมับตอบค่อนข้างมาก แนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์เริ่มต้นที่ 2 CC ขึ้นไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุม และสวยงามตามต้องการ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์
- ฟิลเลอร์แก้มส้ม
การฉีดฟิลเลอร์ 1 CC บริเวณแก้มส้ม สามารถแก้ไขปัญหาหน้าแก้มแบน หน้าแก้มยุบ หรือหน้าแก้มหย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับในกรณีที่มีปัญหาบริเวณหน้าแก้มเพียงเล็กน้อย หรือต้องการผลลัพธ์ที่แลดูเข้ากับใบหน้า แต่หากคาดหวังผลลัพธ์ที่ชัดเจน หรือมีปัญหาค่อนข้างมาก แนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์เริ่มต้นที่ 2 CC ขึ้นไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุม และสวยงามตามต้องการ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
การฉีดฟิลเลอร์ 1 CC บริเวณร่องแก้ม สามารถแก้ไขปัญหาร่องแก้มลึก หรือกระดูกร่องแก้มทรุดตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับในกรณีที่มีปัญหาร่องแก้มเพียงเล็กน้อย หรือต้องการผลลัพธ์ที่แลดูเข้ากับใบหน้า แต่หากคาดหวังผลลัพธ์ที่ชัดเจน หรือมีปัญหาร่องแก้มค่อนข้างมาก แนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์เริ่มต้นที่ 2 CC ขึ้นไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุม และสวยงามตามต้องการ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์
- ฟิลเลอร์แก้มตอบ
การฉีดฟิลเลอร์ 1 CC บริเวณแก้มตอบ สามารถแก้ไขปัญหาใบหน้าซูบจากแก้มยุบ โหนกแก้มสูง หรือกระดูกทรุดตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับในกรณีที่มีปัญหาแก้มตอบเพียงเล็กน้อย หรือต้องการผลลัพธ์ที่แลดูเข้ากับใบกน้า แต่หากคาดหวังผลลัพธ์ที่ชัดเจน หรือมีปัญหาแก้มตอบค่อนข้างมาก แนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์เริ่มต้นที่ 2 CC ขึ้นไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุม และสวยงามตามต้องการ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์
- ฟิลเลอร์ปาก
การฉีดฟิลเลอร์ 1 CC บริเวณริมฝีปาก สามารถแก้ไขปัญหาริมฝีปากบาง ริมฝีปากแห้ง ริมฝีปากไม่เท่ากัน หรือมุมปากตกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับในกรณีที่มีปัญหาริมฝีปากเพียงเล็กน้อย หรือต้องการผลลัพธ์ที่แลดูเข้ากับใบหน้า แต่หากคาดหวังผลลัพธ์ที่ชัดเจน หรือมีปัญหาค่อนข้างมาก แนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์เริ่มต้นที่ 1 CC ขึ้นไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุม และสวยงามตามต้องการ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์
- ฟิลเลอร์คาง
การฉีดฟิลเลอร์ 1 CC บริเวณคาง สามารถแก้ไขปัญหาคางสั้น คางบุ๋ม คางตัด คางถอย หรือคางไม่เท่ากันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับในกรณีที่มีปัญหาบริเวณคางเพียงเล็กน้อย หรือต้องการผลลัพธ์ที่แลดูเข้ากับใบหน้า แต่หากคาดหวังผลลัพธ์ที่ชัดเจน หรือมีปัญหาค่อนข้างมาก แนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์เริ่มต้นที่ 1 CC ขึ้นไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุม และสวยงามตามต้องการ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์
ฉีดฟิลเลอร์ 1 CC เห็นผลไหม?
การฉีดฟิลเลอร์ 1 CC สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้จริง โดยเฉพาะในบริเวณที่มีปัญหาเพียงเล็กน้อย หรือต้องการแก้ไขปัญหาแบบเฉพาะจุด เช่น บริเวณแก้มส้ม ริมฝีปาก หรือคาง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และการประเมินของแพทย์ หากมีปัญหาค่อนข้างมาก และต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากกว่า 1 CC ขึ้นไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพ
ฉีดฟิลเลอร์ 1 CC อยู่ได้นานแค่ไหน?
การฉีดฟิลเลอร์ 1 CC สามารถให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน ประมาณ 6 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และยี่ห้อที่ฉีด โดยเฉพาะหากเลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ฉีดบริเวณที่ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวบ่อย เช่น คาง กรอบหน้า หรือขมับ ก็จะทำให้ฟิลเลอร์สามารถคงผลลัพธ์ได้นานกว่า เมื่อเทียบกับบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย เช่น ริมฝีปาก หรือใต้ตา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างเหมาะสม ก็มีผลต่อความคงทนของฟิลเลอร์เช่นกัน ซึ่งควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ของเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการงดโดนความร้อน งดออกกำลังกายหนัก งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด ไปจนถึงงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่
ฉีดฟิลเลอร์ 1 CC ยี่ห้อไหนดี?
การฉีดฟิลเลอร์ 1 CC มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ดังนี้
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm
ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นฟิลเลอร์ของบริษัท Allergan จากประเทศอเมริกาที่ได้รับความนิยมระดับโลก ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีการผลิตที่มีชื่อว่า Hylacross Technology และ Vycross Technology ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง ทนต่อการขยับได้ดี และสามารถนำมายกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง ฟิลเลอร์ Juvederm ยังมีให้เลือกหลากหลายรุ่น เพื่อให้ครอบคลุมในแต่ละปัญหา ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว ผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นานถึง 12 – 24 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และรุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane
ฟิลเลอร์ Restylane เป็นฟิลเลอร์ของบริษัท Galderma จากประเทศสวีเดนที่ได้รับความนิยมระดับโลก ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีการผลิตที่มีชื่อว่า NASHA Technology และ OBT Technology ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับได้ดี และสามารถนำมายกพยุงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง ฟิลเลอร์ Restylane ยังมีให้เลือกหลากหลายรุ่น เพื่อให้ครอบคลุมในแต่ละปัญหา ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว ผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นานถึง 12 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และรุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero
ฟิลเลอร์ Belotero เป็นฟิลเลอร์ของบริษัท Merz Aesthetics จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับความนิยมระดับโลก ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีการผลิตที่มีชื่อว่า CPM Technology ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง ยึดเกาะกับผิวได้ดี และสามารถนำมาปั้นทรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง ฟิลเลอร์ Belotero ยังมีให้เลือกหลากหลายรุ่น เพื่อให้ครอบคลุมในแต่ละปัญหา ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว ผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นานถึง 6 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และรุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Neauvia
ฟิลเลอร์ Neauvia เป็นฟิลเลอร์ของบริษัท Matex Lab Group จากประเทศอิตาลี ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีการผลิตที่มีชื่อว่า SXT Technology และใช้สาร PEG ในกระบวนการ Crosslink แทนการใช้ BDDE ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่มีความคงตัว ยืดหยุ่น ทนความร้อนได้ดี และสามารถนำมาเติมเต็มได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว ผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นานถึง 6 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และรุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Definisse
ฟิลเลอร์ Definisse เป็นฟิลเลอร์ของบริษัท Relife Company จากประเทศอิตาลี ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีการผลิตที่มีชื่อว่า XTR™ Technology เพื่อให้โมเลกุลของ HA ผสานกันเป็นร่างแห ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง คงตัวได้ดี และสามารถนำมายกพยุงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว ผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นานถึง 12 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และรุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Art Filler
ฟิลเลอร์ Art Filler เป็นฟิลเลอร์ของบริษัท FILLMED Laboratories จากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีการผลิตที่มีชื่อว่า TRI-HYAL Technology เพื่อผสานโมเลกุลของ HA ทั้ง 3 แบบเข้าด้วยกัน ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง กลืนกับผิวได้ดี และสามารถนำมาเติมเต็มได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว ผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นานถึง 6 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และรุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้
ใครที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ 1 CC?
- ผู้ที่มีปัญหาโครงสร้างใบหน้าไม่ได้สัดส่วน
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย และขาดความกระชับไม่มาก
- ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน และผิวขาดน้ำ
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับ ปรับรูปหน้าเล็กน้อย
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่ม หรือเพิ่มปริมาตรให้ผิวเล็กน้อย
- ผู้ที่มีปัญหาผิวไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าโทรม ดูแก่กว่าวัย
- ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นฉีดฟิลเลอร์เป็นครั้งแรก
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่แลดูเข้ากับใบหน้า
ทั้งนี้ ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ ควรปรึกษาแพทย์ และแจ้งประวัติสุขภาพอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ ประวัติการรักษา และยาที่รับประทานเป็นประจำ
ใครที่ไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ 1 CC?
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย และร่องลึกที่เห็นได้อย่างชัดเจน
- ผู้ที่ต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าอย่างชัดเจน
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย และขาดความกระชับมาก
- ผู้มีปัญหาผิวยุบตัว และขาดวอลลุ่มมาก
- การผู้หญิงที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์
- ผู้หญิงที่อยู่ในระหว่างการให้นมบุตร
- ผู้ที่แพ้สาร Hyaluronic Acid (HA) ในฟิลเลอร์
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
ทั้งนี้ ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ ควรปรึกษาแพทย์ และแจ้งประวัติสุขภาพอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ ประวัติการรักษา และยาที่รับประทานเป็นประจำ
ฉีดฟิลเลอร์ 1 CC ช่วยเรื่องอะไร?
- ช่วยให้ริ้วรอยเล็ก ๆ และร่องลึกดูตื้นขึ้น
- ช่วยให้โครงสร้างใบหน้าสมดุล มีสัดส่วนที่รับกันมากขึ้น
- ช่วยให้ผิวดูยกกระชับ ลดความหย่อนคล้อยลง
- ช่วยให้ผิวดูมีวอลลุ่ม อิ่มฟู และยืดหยุ่น
- ช่วยให้ผิวมีความเรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง
- ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ มีความชุ่มชื้นมากขึ้น
- ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติ และรูปหน้าเรียวเล็ก
- ช่วยให้ใบหน้าสดใส เปล่งปลั่ง และดูอ่อนเยาว์
- ช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม มีรูปทรงที่สวยงาม
- ช่วยให้รอยคล้ำใต้ตาจางลง ใต้ตาดูเต็มอิ่มมากขึ้น
ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 1 CC
- ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
- ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์ประเมินปัญหา และวางแผนจำนวน CC ที่เหมาะสม
- งดวิตามิน หรืออาหารเสริมที่ทำให้เลือดออกง่าย รวมถึง งดยากลุ่มต้านการอักเสบ
- งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- งดการใช้สกินแคร์ที่ระคายเคืองผิว เช่น AHA หรือ BHA
- งดการทำทรีตเมนต์ ขัดผิว หรือสครับผิว
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ 1 CC
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส นวด หรือกดทับบริเวณที่ฉีดแรง ๆ
- งดสัมผัสความร้อนบริเวณที่ฉีดโดยตรง
- งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- งดออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงมาก หรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
- งดการทำทรีตเมนต์ เลเซอร์ ขัดผิว หรือสครับผิว
- งดการใช้สกินแคร์ที่ระคายเคืองผิว เช่น AHA หรือ BHA
- งดการรับประทานอาหารที่มีรสจัด และของหมักดอง
- ควรติดตามอาการหลังฉีด หากรู้สึกว่า ผิวบริเวณที่ฉีดเปลี่ยนสี เป็นก้อน หรือบวมแดงผิดปกติ ให้รีบพบแพทย์โดยด่วน
ฉีดฟิลเลอร์ 1 CC อันตรายไหม?
การฉีดฟิลเลอร์ 1 CC โดยทั่วไปแล้ว เป็นหัตถการที่ไม่อันตราย และไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย หากดำเนินการฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญในเรื่องของกายวิภาคศาสตร์ใบหน้า สามารถใช้เทคนิคในการฉีดที่ถูกต้อง และเหมาะสม รวมถึง ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์แท้ที่มีมาตรฐาน และได้รับการอนุมัติจาก อย. เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน อีกทั้ง สาร HA ในฟิลเลอร์ยังเป็นสารที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงไม่ก่อให้เกิดการตกค้างใต้ผิวหนังอีกด้วย
การฉีดฟิลเลอร์ 1 CC ถือเป็นปริมาณเริ่มต้นที่ดีในการแก้ไขปัญหาผิว ซึ่งจะเพียงพอหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยทั่วไป การฉีดฟิลเลอร์ 1 CC จะเหมาะสำหรับการเติมเต็มเฉพาะจุด หรือบริเวณที่มีปัญหาไม่มาก แต่ในกรณีที่มีปัญหาค่อนข้างมาก มีร่องลึกอย่างชัดเจน ต้องการยกกระชับปรับรูปหน้า หรือเติมเต็มในบริเวณกว้าง อาจจำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์มากกว่า 1 CC ขึ้นไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ เพื่อให้แพทย์ประเมินปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหา และตอบโจทย์การรักษาอย่างแท้จริง
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด