เปรียบเทียบ Ultra Lift กับ Bar Lift ยกกระชับแบบไหนเห็นผลมากกว่ากัน?
ความหย่อนคล้อยของผิวไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่มักค่อย ๆ แสดงตัวออกมาอย่างช้า ๆ ตามวัย ตามพฤติกรรมการใช้ชีวิต รวมถึงปัจจัยภายในที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น การเสื่อมถอยของคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว โดยเฉพาะบริเวณกรอบหน้า ใต้คาง หรือร่องแก้ม ที่เริ่มสูญเสียความกระชับอย่างชัดเจน
แม้ในอดีต การยกกระชับใบหน้าอาจต้องพึ่งการผ่าตัดดึงผิวที่เจ็บตัวและใช้เวลาฟื้นฟูยาวนาน แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านความงามได้พัฒนาไปไกลมาก จนมีทางเลือกใหม่ที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลลัพธ์ได้โดยไม่กระทบการใช้ชีวิต หนึ่งในทางเลือกยอดนิยมก็คือการใช้เครื่องยกกระชับ ด้วยพลังงานที่ส่งลงลึกถึงชั้นผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแบบไม่อันตราย
บทความนี้ จะพาคุณไปรู้จักและเปรียบเทียบทั้งสองเทคโนโลยีแบบเจาะลึก ทั้งหลักการทำงาน จุดเด่นเฉพาะของแต่ละโปรแกรม ระยะเวลาเห็นผล ระยะเวลาที่ผลลัพธ์คงอยู่ ไปจนถึงความรู้สึกระหว่างทำ ราคา และข้อพิจารณาต่าง ๆ ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกได้อย่างมั่นใจ และเหมาะสมกับผิวหน้าของคุณ
Ultra Lift คืออะไร?
Ultra Lift คือเทคโนโลยีการยกกระชับผิวหน้าที่ได้รับความนิยมในวงการความงาม ด้วยความสามารถในการคืนความกระชับ และลดความหย่อนคล้อยของผิวหน้า โดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอหรือพักฟื้น เทคโนโลยีนี้อาศัยพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะจุด (High-Intensity Focused Ultrasound – HIFU) ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถส่งพลังงานลงลึกถึง ชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อที่อยู่ลึกใต้ผิวหนัง และมีบทบาทสำคัญในการพยุงโครงสร้างใบหน้า
จุดเด่นของ Ultra Lift คือความสามารถในการยิงพลังงานรูปแบบจุด (Dot) ด้วยหัวเครื่องที่ออกแบบเฉพาะ สามารถปล่อยพลังงานลงสู่ผิวลึกประมาณ 4.5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นระดับความลึกเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในกระบวนการดึงหน้า การกระตุ้นด้วยพลังงานในระดับนี้ จะช่วยให้ผิวเกิดการยกตัวจากโครงสร้างภายใน พร้อมเสริมการจัดรูปหน้าให้ดูได้สัดส่วนมากขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณที่มักเกิดปัญหา เช่น แก้มล่าง คางสองชั้น และแนวกรอบหน้า
หลักการทำงานของ Ultra Lift
Ultra Lift ทำงานโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงแบบโฟกัส (High-Intensity Focused Ultrasound – HIFU) ปล่อยพลังงานลงลึกถึง ชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นโครงสร้างผิวที่มีบทบาทในการพยุงใบหน้า โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน พลังงานจะเปลี่ยนเป็นความร้อนในระดับประมาณ 60–70 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมในการกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมตัวเองของเซลล์ผิว
เมื่อเนื้อเยื่อได้รับพลังงานความร้อน จะเกิดการหดตัวของชั้น SMAS ทันที ทำให้รู้สึกตึงกระชับตั้งแต่หลังทำ และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผิวแน่น เรียบเนียน และยืดหยุ่นมากขึ้นในระยะยาว โดยไม่ต้องพึ่งฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มใด ๆ
จุดเด่นของ Ultra Lift อยู่ที่การทำงาน แบบลงลึกหลายระดับชั้นผิว ทำให้สามารถดูแลปัญหาได้อย่างครอบคลุม ดังนี้
- ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน ลดความไม่สม่ำเสมอของพื้นผิว
- ชั้นหนังแท้ (Dermis) กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยตื้น
- ชั้น SMAS ยกกระชับในระดับโครงสร้าง เสริมความแข็งแรงให้ใบหน้าอย่างลึกถึงแกน
Bar Lift คืออะไร?
Bar Lift คือเทคโนโลยีการยกกระชับผิวหน้า ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยปรับโครงหน้าให้ดูเรียวชัด ลดความหย่อนคล้อย และเสริมความกระชับให้กับผิว โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ใช้เข็ม และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น ด้วยการใช้พลังงานจากคลื่นเสียงความถี่สูงแบบโฟกัส (HIFU – High Intensity Focused Ultrasound) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
พลังงาน HIFU จาก Bar Lift จะส่งผ่านลงไปยังชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นลึกใต้ผิวหนังที่มีหน้าที่รองรับโครงสร้างใบหน้า คลื่นพลังงานนี้จะกระตุ้นให้เนื้อเยื่อในชั้นดังกล่าวเกิดการหดตัว และในขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวดูแน่น ยกขึ้น และเรียบเนียนมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
หลักการทำงานของ Bar Lift
เทคโนโลยี Bar Lift ใช้การปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูง ลงไปยังชั้นผิวหนังโดยเจาะจงไปที่ชั้น SMAS ซึ่งอยู่ลึกลงไปใต้ผิวชั้นบน คลื่นเหล่านี้จะเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานความร้อนขนาดเล็กในจุดเฉพาะเจาะจง ที่เรียงตัวต่อเนื่องกันเป็นแนวเส้นตรง (Linear) ความร้อนในระดับนี้ ส่งผลให้เนื้อเยื่อเกิดการหดตัวทันที พร้อมทั้งกระตุ้นให้ร่างกายเริ่มผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญที่ช่วยค้ำยันและเสริมความยืดหยุ่นให้ผิวในระยะยาว
ด้วยการกระจายพลังงานในแนวเส้นที่สม่ำเสมอ ทำให้ Bar Lift สามารถสร้างแรงยกบริเวณแนวกรอบหน้า แก้มล่าง และใต้คางได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสมือนยกผิวขึ้น อีกทั้งยังสามารถลดไขมันใต้ผิวได้ดี โดยเฉพาะบริเวณแก้ม เหนียง และคอ ทำให้ผลลัพธ์ชัดเจนโดยไม่ทิ้งรอยแผล หรือความเสียหายบนผิวหนังชั้นบน
เปรียบเทียบ Ultra Lift กับ Bar Lift แบบเจาะลึก
- เทคโนโลยีและหลักการทำงาน
Ultra Lift และ Bar Lift ต่างใช้พลังงานจากคลื่นเสียงความถี่สูง (HIFU) ในการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่จุดต่างอยู่ที่ลักษณะการปล่อยพลังงาน โดย Ultra Lift จะเน้นการปล่อยพลังงานแบบจุด (Dot) ลงลึกสู่ชั้น SMAS เพื่อเน้นย้ำแรงกระชับเฉพาะจุด สามารถโฟกัสพลังงานได้ดีในแต่ละตำแหน่ง ขณะที่ Bar Lift จะปล่อยพลังงานแบบต่อเนื่องเป็นแนวเส้น (Linear) ซึ่งช่วยกระชับพื้นที่กว้างและสม่ำเสมอ พร้อมทั้งช่วยลดไขมันใต้ผิวไปพร้อมกัน
- จุดเด่นของแต่ละโปรแกรม
Ultra Lift เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับปรับรูปหน้าอย่างละเอียด เช่น ยกหางตา แก้ร่องแก้มลึก หรือยกมุมปาก ในขณะที่ Bar Lift เหมาะกับผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด หรือมีเหนียง ต้องการยกแนวขากรรไกรให้คมชัดยิ่งขึ้น เพราะมีการกระจายพลังงานในพื้นที่กว้างได้ดี
- ระดับความลึกของพลังงาน
ทั้ง Ultra Lift และ Bar Lift สามารถส่งพลังงานได้ลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวที่ใช้ในการดึงหน้าด้วยศัลยกรรม โดย Ultra Lift และ BarLift จะมีหัวหลายขนาด สามารถเลือกปรับความลึกได้ทั้งสองแบบ
- ความรู้สึกระหว่างทำ
ในขณะที่ทำ Ultra Lift ผู้เข้ารับบริการจะรู้สึกจี๊ด ๆ ในจุดที่พลังงานลงไป แต่ไม่ใช่ความเจ็บที่รุนแรง ส่วน Bar Lift จะให้ความรู้สึกอุ่น ๆ ลึกลงไปในผิว โดยรวมแล้วทั้งสองแบบไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา เว้นแต่ผิวบางบริเวณจะไวต่อความรู้สึกเป็นพิเศษ
- ระยะเวลาของผลลัพธ์
หลังทำ Ultra Lift และ Bar Lift สามารถเห็นผลเบื้องต้นได้เป็นอย่างดีในบางส่วน โดยเฉพาะความรู้สึกผิวเฟิร์ม แน่นกระชับ แต่ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมักจะชัดเจนภายใน 4–8 สัปดาห์ และอยู่ได้นานประมาณ 6–12 เดือน โดย Ultra Lift จะให้ผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป
Ultra Lift กับ Bar Lift ช่วยอะไรบ้าง?
- Ultra Lift และ Bar Lift ยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อยให้ดูตึงขึ้น
- Ultra Lift และ Bar Lift ปรับรูปหน้าให้เรียวและได้สัดส่วนมากขึ้น
- Ultra Lift และ Bar Lift กระชับแนวกรอบหน้าให้ชัดเจนขึ้น
- Ultra Lift และ Bar Lift ลดความหย่อนคล้อยบริเวณแก้มล่างและเหนียง
- Ultra Lift และ Bar Lift กระชับผิวบริเวณใต้คาง ลดคางสองชั้น
- Ultra Lift และ Bar Lift ช่วยให้กรอบหน้าดูคมชัดยิ่งขึ้น
- Ultra Lift และ Bar Lift ลดความหย่อนคล้อยของลำคอ
- Ultra Lift และ Bar Lift ยกมุมปากให้ดูสดใส
- Ultra Lift และ Bar Lift ฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายในโดยไม่ต้องผ่าตัด
- Ultra Lift และ Bar Lift กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว
- Ultra Lift และ Bar Lift ลดเลือนริ้วรอยตื้น ๆ บนใบหน้า
- Ultra Lift และ Bar Lift ปรับผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้น
- Ultra Lift และ Bar Lift ช่วยให้ผิวหน้าโดยรวมดูสดใส
- Ultra Lift และ Bar Lift คืนความกระชับให้กับผิวในช่วงวัย 30+ ขึ้นไป
- Ultra Lift และ Bar Lift ดูแลปัญหาผิวหน้าแบบเฉพาะจุดหรือทั่วใบหน้าได้ตามต้องการ
- Ultra Lift และ Bar Lift ลดความไม่สมดุลของรูปหน้าจากพฤติกรรมหรืออายุที่มากขึ้น
- Ultra Lift และ Bar Lift ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่เริ่มอ่อนล้าจากแสงแดดและมลภาวะ
Ultra Lift กับ Bar Lift มีข้อดีอะไรบ้าง?
ข้อดีของ Ultra Lift
- Ultra Lift ไม่ใช้เข็ม ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น
- Ultra Lift ใช้พลังงาน HIFU ที่ไม่อันตรายและได้รับการยอมรับ
- Ultra Lift ปล่อยพลังงานแบบจุด (Dot)
- Ultra Lift เจาะลึกได้หลายระดับ เช่น 1.5 / 3.0 / 4.5 มม.
- Ultra Lift เหมาะกับการเก็บรายละเอียดเฉพาะจุด เช่น ใต้ตา มุมปาก ร่องแก้ม
- Ultra Lift ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
- Ultra Lift ให้ผลลัพธ์ไม่แข็งตึงเกินไป
- Ultra Lift เริ่มเห็นผลตั้งแต่หลังทำ และชัดขึ้นใน 1–2 เดือน
- Ultra Lift สามารถทำซ้ำได้โดยไม่ทำลายผิว
- Ultra Lift ไม่อันตรายกับทุกสีผิว ไม่ทำให้ผิวบางหรือไวแสง
- Ultra Lift เหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะช่วง 30–45 ปี
- Ultra Lift ใช้ร่วมกับหัตถการอื่นได้
- Ultra Lift ไม่มีแผลหรือรอยแดงหลังทำ
- Ultra Lift ใช้เวลาในการทำน้อย ประมาณ 30–60 นาที
- Ultra Lift ช่วยชะลอสัญญาณริ้วรอยก่อนวัยได้ดี
ข้อดีของ Bar Lift
- Bar Lift ยกแนวกรอบหน้าได้ชัดเจน เห็นผลเร็ว
- Bar Lift ใช้พลังงาน HIFU แบบ Linear ยิงเป็นเส้นกว้าง กระจายแรงยกทั่วพื้นที่
- Bar Lift ให้ความรู้สึกแน่นตึงลึกลงไปถึงชั้นโครงสร้างผิว
- Bar Lift เหมาะกับการฟื้นฟูบริเวณกว้าง เช่น กรอบหน้า คอ และเหนียง
- Bar Lift เห็นผลได้ดีในบางส่วน
- Bar Lift เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาโครงหน้าเบลอ แก้มตก
- Bar Lift ลดไขมันสะสมบางส่วนในบริเวณลึกได้เล็กน้อย
- Bar Lift ไม่มีรอยแผลหรือบวมแดงหลังทำ
- Bar Lift ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดและกระตุ้นระบบใต้ผิว
- Bar Lift ให้ผลลัพธ์ต่อเนื่องยาวนาน 6–12 เดือน
- Bar Lift ทำเพียงครั้งเดียวก็เห็นผล ไม่จำเป็นต้องทำหลายรอบ
- Bar Lift ใช้เวลาทำไม่นาน เหมาะกับคนมีเวลาน้อย
- Bar Lift ทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
- Bar Lift ช่วยให้โครงหน้าดูสมมาตรและได้สัดส่วนมากขึ้น
- Bar Lift สามารถใช้ร่วมกับการดูแลผิวอื่น ๆ เพื่อเสริมประสิทธิภาพ
Ultra Lift กับ Bar Lift เหมาะกับใครบ้าง?
Ultra Lift เหมาะกับใครบ้าง?
- Ultra Lift เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีสัญญาณผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง
- Ultra Lift เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวโดยไม่เปลี่ยนรูปหน้าชัดเจน
- Ultra Lift เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30–45 ปี ที่ต้องการชะลอความร่วงโรยของผิว
- Ultra Lift เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บรายละเอียดเฉพาะจุด เช่น หางตา ร่องแก้ม มุมปาก
- Ultra Lift เหมาะสำหรับผู้ที่อยากกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว
- Ultra Lift เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น และต้องการกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที
- Ultra Lift เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวหน้าเชิงป้องกันก่อนเกิดปัญหาผิว
- Ultra Lift เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผิวเปลี่ยนแปลงรวดเร็วแบบเห็นได้ชัดหลังทำ
- Ultra Lift เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นความยืดหยุ่นและความกระชับของผิวโดยรวม
- Ultra Lift เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่เปลี่ยนโครงหน้าชัด
- Ultra Lift เหมาะสำหรับผู้ที่มีโครงหน้าชัดอยู่แล้ว แต่อยากกระชับเฉพาะบางจุด
Bar Lift เหมาะกับใครบ้าง?
- Bar Lift เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัดหรือเริ่มเบลอ
- Bar Lift เหมาะสำหรับผู้ที่มีคางสองชั้น เหนียง หรือแนวขากรรไกรหย่อนคล้อย
- Bar Lift เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกทั้งแนวหน้าอย่างเห็นผลชัดเจน
- Bar Lift เหมาะสำหรับผู้ที่อายุ 35 ปีขึ้นไป และมีปัญหาผิวหย่อนชัดในหลายจุด
- Bar Lift เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลเร็วขึ้นหลังทำ
- Bar Lift เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกทำโปรแกรมหลายครั้ง อยากให้เห็นผลไวในการทำครั้งเดียว
- Bar Lift เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดหรือร้อยไหม แต่ยังอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน
- Bar Lift เหมาะสำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยระดับปานกลางถึงมาก
- Bar Lift เหมาะสำหรับผู้ที่ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วจนใบหน้าหย่อนคล้อย
- Bar Lift เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้าแบบกลม หรือหน้าใหญ่ และต้องการลดมุมให้เรียวลง
- Bar Lift เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาแก้มหย่อนแต่ไม่อยากเติมสารเติมเต็ม
หมายเหตุ
แม้ทั้ง Ultra Lift และ Bar Lift จะใช้เทคโนโลยีที่ไม่อันตรายและไม่ต้องผ่าตัด แต่ผลลัพธ์และความเหมาะสมจะแตกต่างกันไปตาม โครงสร้างผิว ปัญหาของแต่ละบุคคล และเป้าหมายของการรักษา ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเลือกทำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการ
Ultra Lift กับ Bar Lift ไม่เหมาะกับใครบ้าง?
- ผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคหัวใจที่ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker)
- ผู้ที่มีโลหะฝังอยู่ในร่างกายบริเวณใบหน้า เช่น แผ่นเหล็ก รากฟันเทียม หรือวัสดุที่เป็นตัวนำไฟฟ้า
- ผู้ที่มีแผลเปิด แผลติดเชื้อ หรือผื่นผิวหนังในบริเวณที่ต้องการทำหัตถการ
- ผู้ที่มีผิวอักเสบเรื้อรัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน หรือโรคผิวหนังภูมิแพ้ในบริเวณใบหน้า
- ผู้ที่เพิ่งผ่านการศัลยกรรมใบหน้าหรือร้อยไหมในระยะเวลาไม่เกิน 1–3 เดือน
- ผู้ที่เพิ่งฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์หรือโปรแกรมฉีดโบในบริเวณที่จะทำ และยังไม่ครบกำหนดเว้นระยะ
- ผู้ที่มีประวัติแพ้คลื่นความร้อนหรือผิวไวต่อพลังงานสูง
- ผู้ที่มีคอลลาเจนในผิวลดลงอย่างมาก จนไม่สามารถตอบสนองต่อการกระตุ้นได้ดี
- ผู้ที่มีอายุน้อยเกินไป (ต่ำกว่า 25 ปี) โดยไม่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยชัดเจน
- ผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์แบบเทียบเท่าการผ่าตัดดึงหน้า
- ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนโครงหน้าทั้งหมดในระยะเวลาอันสั้น
- ผู้ที่มีไขมันสะสมปริมาณมากเกินไปในใบหน้า
- ผู้ที่มีภาวะกลัวความเจ็บอย่างรุนแรง และไม่สามารถทนต่อแรงกระตุ้นบนใบหน้าได้
- ผู้ที่มีพฤติกรรมดูแลตัวเองไม่สม่ำเสมอ
- ผู้ที่มีผิวไวต่อแสงหรืออยู่ระหว่างรับการรักษาด้วยเรตินอยด์หรือสารผลัดเซลล์ผิวเข้มข้น
- ผู้ที่เคยมีประวัติเกิดพังผืดหรือแผลคีลอยด์ง่าย
หมายเหตุ
Ultra Lift และ Bar Lift เป็นเทคโนโลยีที่เห็นผลได้จริงในกลุ่มที่เหมาะสม แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเข้ารับการทำได้ทันที การประเมินโดยแพทย์ก่อนเข้ารับบริการจึงเป็นขั้นตอนสำคัญมาก เพราะจะช่วยตรวจสอบปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ และเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับผิวของแต่ละคน ทั้งในแง่ประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในระยะยาว
Ultra Lift กับ Bar Lift สามารถทำบริเวณใดได้บ้าง?
- สามารถทำบริเวณหน้าผาก ช่วยยกกระชับและลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า
- สามารถทำบริเวณใต้ตา กระชับผิวบางบริเวณใต้ตา ลดความหมองคล้ำและริ้วรอย
- สามารถทำบริเวณแก้มล่าง จัดการความหย่อนคล้อย บริเวณที่เริ่มย้อยตามวัย
- สามารถทำบริเวณร่องแก้ม ช่วยให้ร่องลึกดูตื้นขึ้น โดยไม่ต้องใช้สารเติมเต็ม
- สามารถทำบริเวณมุมปาก ยกกระชับบริเวณที่ทำให้ใบหน้าดูเศร้า
- สามารถทำบริเวณกรอบหน้า ทำให้แนวกรอบหน้าดูคมชัดยิ่งขึ้น
- สามารถทำบริเวณใต้คาง ลดเหนียง กระชับแนวคางและลดความหย่อนคล้อย
- สามารถทำบริเวณลำคอ ลดริ้วรอยคอ และความหย่อนของผิวคอ
- สามารถทำบริเวณคาง ยกกระชับคางให้ได้รูป ลดคางสองชั้น
- สามารถทำบริเวณเนินอก ฟื้นฟูผิวบริเวณช่วงอก ให้เรียบเนียน ดูกระชับ
Ultra Lift กับ Bar Lift ก่อนทำต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
- ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวและร่างกายพร้อมรับการกระตุ้น
- ควรดื่มน้ำให้มากขึ้นในช่วง 1–2 วัน เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้น
- ควรแจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัว หรือกำลังใช้ยาบางชนิดที่อาจส่งผลต่อการฟื้นฟูผิว
- งดการใช้สกินแคร์ที่มีกรดผลัดเซลล์ อย่างน้อย 3–5 วัน
- งดการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์หรือโปรแกรมโบบริเวณใบหน้า ในช่วง 2 สัปดาห์
- งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ล่วงหน้า อย่างน้อย 24–48 ชั่วโมง
- งดการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายอ่อนล้า
- งดขัดผิวหรือมาสก์หน้าหนัก ๆ
- ทานยาแก้อักเสบหรือยาละลายลิ่มเลือด เช่น แอสไพริน
- หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ หรือการผลัดเซลล์ผิว 7 วัน
- หลีกเลี่ยงการทำร่วมกับเครื่องมือที่ปล่อยพลังงานใกล้เคียงภายใน 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในวันที่ทำ
Ultra Lift กับ Bar Lift หลังทำควรดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง?
- ควรดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมและกระตุ้นการฟื้นฟูผิว
- ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่อ่อนโยน ช่วยปลอบประโลมผิวในช่วงฟื้นฟู
- ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 PA+++ ทุกครั้ง
- งดใช้สกินแคร์ที่มีกรดผลัดเซลล์แรง ๆ เช่น AHA, BHA, Retinol อย่างน้อย 3–5 วัน
- งดการนวดหน้า กดหน้า หรือสัมผัสผิวแรง ๆ ในช่วง 3 วันแรก
- งดการทำหัตถการอื่น เช่น เลเซอร์ โปรแกรมฉีดโบ หรือโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ในช่วง 1–2 สัปดาห์
- งดเกา แกะ หรือบีบบริเวณที่มีรอยแดง
- หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงอย่างน้อย 7 วัน
- หลีกเลี่ยงการอบไอน้ำ ซาวน่า ออนเซ็น หรือออกกำลังกายหนัก อย่างน้อย 3 วัน
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่ อย่างน้อย 3–7 วัน
- หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ หรือนอนตะแคงกดหน้าแรง ๆ ในคืนแรก
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้งหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากใน 2–3 วันแรก
- หลีกเลี่ยงครีมบำรุงที่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือพาราเบนสูง
รวมคำถามเกี่ยวกับ Ultra Lift และ Bar Lift
Ultra Lift กับ Bar Lift ยกกระชับแบบไหนเห็นผลมากกว่ากัน ต่างกันอย่างไร?
- Ultra Lift และ Bar Lift แม้จะใช้เทคโนโลยีพื้นฐานแบบเดียวกัน คือคลื่นเสียงความถี่สูง แต่มีความแตกต่างกันในด้านการปล่อยพลังงานและผลลัพธ์ที่เน้น โดย Ultra Lift จะปล่อยพลังงานเป็นจุด (Dot) เจาะลึกเฉพาะจุด เหมาะกับการเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ บนใบหน้า เช่น ใต้ตา มุมปาก หรือร่องแก้ม ขณะที่ Bar Lift ปล่อยพลังงานในแนวเส้น (Linear) เพื่อยกกระชับพื้นที่กว้าง เช่น กรอบหน้า คาง และลำคอ เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกทั้งแนวใบหน้าให้ชัดเจนขึ้น
ผลลัพธ์ของ Ultra Lift กับ Bar Lift ใกล้เคียงกับการร้อยไหม ไหม?
- ผลลัพธ์ของ Ultra Lift และ Bar Lift สามารถให้ความกระชับและปรับรูปหน้าได้ใกล้เคียงกับการร้อยไหมในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง อย่างไรก็ตาม การร้อยไหมจะให้ผลชัดเจนและทันทีมากกว่า ขณะที่ Ultra Lift และ BarLift จะค่อย ๆ เห็นผลภายใน 1–2 เดือน โดยไม่ต้องมีรอยแผลหรือการพักฟื้น
สามารถทำ Ultra Lift และ Bar Lift พร้อมกันได้ไหม?
- สามารถทำ Ultra Lift และ Bar Lift พร้อมกันได้ในบางกรณี โดยแพทย์จะประเมินว่าสภาพผิวของคนไข้เหมาะสมกับการผสมเทคนิคหรือไม่ ซึ่งการทำทั้งสองร่วมกันอาจให้ผลลัพธ์ที่สมดุลขึ้น เช่น ใช้ Ultra Lift เก็บรายละเอียดเฉพาะจุด และใช้ BarLift ยกทั้งแนวกรอบหน้าเพื่อเสริมกัน แต่ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
Ultra Lift และ Bar Lift สามารถเสริมผลลัพธ์ด้วยหัตถการอื่นร่วมได้ไหม?
- สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ เช่น โปรแกรมฉีดโบ, โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์, เลเซอร์ หรือทรีตเมนต์บำรุงผิว แต่ควรเว้นระยะเวลาที่เหมาะสม และอยู่ภายใต้การวางแผนจากแพทย์ เพื่อไม่ให้การกระตุ้นผิวซ้อนทับหรือรบกวนผลลัพธ์ของกันและกัน
อายุน้อยกว่า 30 ทำ Ultra Lift และ Bar Lift ได้ไหม?
- คนที่อายุน้อยกว่า 30 ปีสามารถทำ Ultra Lift และ Bar Lift ได้ หากมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย หรือมีโครงหน้าที่ต้องการยกกระชับ ทั้งนี้การปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินระดับปัญหา จึงเป็นสิ่งที่ควรทำก่อนตัดสินใจ
Ultra Lift กับ Bar Lift อะไรคุ้มค่ามากกว่ากัน?
- ความคุ้มค่าของ Ultra Lift กับ BarLift ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของผู้เข้ารับบริการ หากต้องการปรับผิวให้เรียบ ตึง ยกแบบนุ่มนวล Ultra Lift จะตอบโจทย์ได้ดี แต่หากต้องการเห็นผิวยกกระชับแบบชัดเจน ยกกรอบหน้าเด่น และมีปัญหาหย่อนคล้อยระดับปานกลางถึงมาก Bar Lift จะให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากว่า ทั้งนี้ การเลือกโปรแกรมที่คุ้มค่าควรอิงจากปัญหาเฉพาะของแต่ละบุคคลมากกว่า
Ultra Lift และ Bar Lift ต่างก็เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อตอบโจทย์การยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด และต่างก็มีจุดเด่นที่น่าสนใจในแบบของตัวเอง Ultra Lift เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับผิวให้เรียบตึง เก็บรายละเอียดเฉพาะจุดอย่างนุ่มนวล โดยไม่กระทบโครงสร้างใบหน้าเดิม ขณะที่ Bar Lift เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูกรอบหน้าให้กลับมาคมชัด ยกผิวอย่างเห็นผลรวดเร็ว และชัดเจนโดยไม่ต้องเจ็บตัว
ไม่ว่าคุณจะเลือกเทคโนโลยีใด สิ่งสำคัญคือ การเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว ปัญหาที่ต้องการแก้ และเป้าหมายของคุณเอง เพราะในความเป็นจริงผลลัพธ์ของการทำ Ultra Lift หรือ Bar Lift อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น โครงสร้างผิว อายุ การดูแลหลังทำ รวมถึงวินัยในการใช้ชีวิต
เพราะฉะนั้น การปรึกษากับแพทย์ก่อนตัดสินใจ จึงเป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยวิเคราะห์ปัญหาได้แล้ว ยังสามารถวางแผนการดูแลที่เหมาะสม เพื่อให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ชัดเจนและสวยงาม