Ulthera SPT ยกกระชับ คืออะไร? เหมาะกับใครบ้าง อยู่ได้นานแค่ไหน

Ulthera SPT

Program

ULTHERAPY 1 FREE 1


ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




    วันที่สะดวกในการติดต่อ








    BEFORE & AFTER

    Ulthera
    Ulthera
    BF AT 01 1
    BF AT Ulthera 01

    Ulthera SPT คืออะไร ?

    โปรแกรมที่โด่งดังจนกลายเป็นโปรแกรมแรกที่ใครหลายๆคนนึกถึงหากต้องการทำหัตถการเป็นอย่างแรก อย่าง Ulthera SPT หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อว่า Ultherapy เป็นโปรแกรมยกกระชับผิว (Tissue lifting) อย่างแม่นยำเป็นโปรแกรมแรก โดยการใช้ คลื่น Focused Ultrasound หรือคลื่นเสียงที่มีความถี่สูงและจำเพาะเจาะจงมาใช้ในการยกกระชับ หรือทำความเข้าใจกันอย่างง่ายว่าเป็นคลื่นที่ใช้ในการตรวจครรภ์เพื่อดูเพศเด็กนั่นเอง โดย Ulthera  SPT ทำงานอย่างแม่นยำสูงเนื่องจากมีจอมอนิเตอร์ที่แสดงภาพภายใต้ชั้นผิวในขณะทำการรักษาอย่าง Real Time จึงทำให้แพทย์สามารถมองเห็นได้ว่ายิงตรงชั้นผิวที่ต้องการทำการรักษาหรือไม่

    Ulthera ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยแพทย์ผิวหนังระดับต้นๆของโลกทั้งยังเป็น ผู้อำนวยการสถาบัน Wellman Center for Photomedicine, Boston, MA, USA ที่มีชื่อว่า DR. Rox Anderson โดย Ulthera ได้ถูกคิดค้นขึ้นในปี 1994  และยังถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นเครื่องยกกระชับผิวเครื่องแรกของโลกที่โด่งดังและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเท่านั้น Ulthera ยังเป็นโปรแกรมยกกระชับเพียงเครื่องเดียวที่ได้รับการรับรองจาก US FDA ในด้านการยกกระชับ ยกคิ้ว ยกใบหน้า รวมทั้งลำคออีกด้วย

    หลังจากทำการวิจัยและคิดค้นมาอย่างดีแล้ว Ulthera จึงได้ออกสู่ท้องตลาดอย่างเป็นทางการในปี 2004 ในนามเครื่องยกกระชับต้นแบบ Original  ที่ทำให้ผิวมีความกระชับ ลดริ้วรอยด้วยการยิงคลื่นพลังงานความร้อนอย่างมีความแม่นยำจากตัวเครื่องลงสู่ผิวหนังชั้นลึก อย่างชั้น Superfical Muscular Aponeurotic System (SMAS) หรือชั้นเนื้อเยื่อชั้นใน โดยในชั้นนี้เป็นชั้นเดียวกับชั้นที่ศัลยแพทย์ทำการผ่าตัดศัลยกรรมยกกระชับ หรือดึงใบหน้า Ulthera จะทำงานโดยการใช้ความร้อนพลังงาน  60-70°C ที่มีจุดพลังงานขนาดเพียง 1 mm. ที่มีลักษณะขณะยิง เป็นเหมือนจุดไข่ปลาขนาดเล็กๆ ที่เรียงตัวกันเป็นเส้นตรงอยู่ใต้ผิว และแพทย์จะสามารถมองเห็นชั้นผิวในขณะที่ยิงคลื่นได้ผ่านหน้าจอได้ จึงสามารถทำให้มั่นใจได้ว่าทุกพลังงานที่ยิงลงผิวหนังเป็นการยิงอย่างแม่นยำ ลงสู่ชั้นผิวที่ตรงชั้นที่สุด อีกทั้งแพทย์ยังสามารถปรับระดับคลื่นตามความเหมาะสมในการรักษาได้ตามสภาพผิวและปัญหาของผู้เข้ารับการรักษาได้ ปัจจุบัน Ulthera ถูกนำมาใช้ในการรักษาในด้านการแพทย์มาแล้วนานกว่า 50 ปี

    เติ้ล ตะวัน Ultherapy Prime
    ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

    โดยตอนนี้ Ulthera พัฒนาในรูปโฉมใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม เป็น “ Ulthera  SPT” ด้วยโฉมใหม่ที่ดีกว่าเดิมทำให้รับความนิยมไปอีกขั้นทั่วทุกมุมโลก เนื่องจากความดีงามของผลลัพธ์ในการรักษาที่ Ulthera  SPT ได้เข้าไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์ Fibroblast (ไฟโบรบลาสต์)

    โดยคลื่นพลังงานจาก Ulthera  SPT จะเข้าไปกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ทำให้เกิดการหดตัวของเนื้อเยื่อ จนกระทั่งมีรูปแบบคล้ายคลึงกับการเย็บเนื้อเยื่อให้ตึงขึ้น จึงทำให้เกิดการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ จึงช่วยแก้ไขปัญหาผิวหน้าที่หย่อนคล้อย มีริ้วรอย ปรับให้ผิวยกกระชับผิวหรือทำให้ผิวเต่งตึงขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ทั้งยังไม่ก่อให้เกิดผลกระทบกับผิวบริเวณข้างเคียง ไม่แสบ ไม่ร้อน ไม่เบิร์น และยังมีความปลอดภัยสูงอีกด้วยเนื่องจากมีการศึกษาและวิจัยมาว่าเป็นโปรแกรมที่มีความปลอดภัยสูงและมีผลลัพธ์ที่เป็นที่น่าพึงพอใจจากผู้ใช้งานจริง

    Ulthera  SPT มีความพิเศษที่นอกจากการเห็นหน้าจอแสดงผลในขณะการรักษาแบบ Real Time แล้วยังสามารถเปลี่ยนหัวในการรักษาได้  โดยแต่ละหัวจะใช้สำหรับความลึกของชั้นผิวที่แตกต่างกัน จึงเหมาะกับบริเวณและการรักษาในชั้นผิวที่แตกต่างกันตามความเหมาะสมและความต้องการแก้ปัญหาของแต่ละบุคคล

     

    หน้าเรียวกระชับ
    ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

    หัวของ Ulthera SPT ในการยกกระชับทั้ง 3 หัวใช้อย่างไร ?

    สามารถแบ่งลำดับความลึกของพลังคลื่นพลังงานอัลตร้าซาวด์จากหัว Ulthera SPT ได้ดังนี้

      • หัวสีส้มของ Ulthera  SPT มีขนาดความลึกของพลังงานอัลตร้าซาวด์  1.5 mm มีความเหมาะสมในการใช้เพื่อยิงริ้วรอยที่อยู่บนผิวหนังชั้นบน ผิวหนังชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) รวมทั้งผิวหนังชั้นผิวหนังแท้ (Dermis)

    หัวสีส้มของ Ulthera  SPT  ในขนาด 1.5 mm  จึงมีความเหมาะสมในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับ รูขุมขนที่มีขนาดกว้าง ไม่กระชับ รวมทั้งแก้ปัญหาริ้วรอยที่มีขนาดเล็ก ตื้น ในบริเวณรอบดวงตา

      • หัวสีเขียวของ Ulthera  SPT มีขนาดความลึกของพลังงานอัลตร้าซาวด์ 3.0 mm. มีความเหมาะสมในการยิงเพื่อกระชับผิวในชั้นไขมัน (Subcutis) ทั้งนี้ชั้นไขมันที่อยู่ใต้ผิวของคนเราจะมีลักษณะคอลลาเจนเป็นแนวตั้งเมื่อใช้คลื่นพลังงาน 3.0 mm. ยิงลงไป จะช่วยหดขนาดปริมาณไขมันได้ 

    หัวสีเขียวของ Ulthera  SPT ในขนาด 3.0 mm. จึงมีความเหมาะสมในการแก้ปัญหาด้านความหย่อนคล้อยที่เกิดขึ้นของผิว อาทิในบริเวณกรอบหน้า บริเวณรอบดวงตา รวมทั้งบริเวณหน้าผาก นอกจากนี้ยังสามารถใช้หัวขนาด 3.0 mm ยิงในผิวหนังชั้น SMAS ในบริเวณผิวที่มีความบางมาก หรือในบุคคลที่มีผิวบางได้ด้วย

      • หัวสีฟ้าของ Ulthera  SPT ในขนาด 4.5 mm. จึงมีความเหมาะสมในการแก้ปัญหาในด้านชั้นเนื้อเยื่อ บนกล้ามเนื้อ หรือชั้น SMAS โดยผิวหนังชั้นนี้จะมีคอลลาเจนในลักษณะเป็นแนวนอน การใช้หัวสีฟ้าที่มีความลึกในขนาด 4.5 mm. จะทำการยกกระชับได้เป็นอย่างดี

    หัวสีฟ้าของ Ulthera  SPT ในขนาด 4.5 mm. จึงมีความเหมาะสมสำหรับการนำมายกกระชับในบริเวณแก้ม กรอบหน้าที่หย่อนคล้อย บริเวณเหนียง รวมทั้งบริเวณลำคอ 

     

    Ultherapy Prime หน้าเด็ก
    ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับบุคคล

     

    ข้อดีของการทำ Ulthera SPT

      • การทำ Ulthera  SPT จัดเป็นการยกกระชับผิวที่ได้ผมเทียบเท่าการผ่าตัดทำศัลยกรรม
      • การทำ Ulthera  SPT สามารถยกกระชับได้โดยไม่เจ็บตัว
      • การทำ Ulthera  SPT สามารถเห็นผลหลังทำได้ทันทีประมาณ 30%
      • การทำ Ulthera  SPT สามารถใช้หน้าได้ทันทีหลังทำ เนื่องจาก ไม่มีรอย ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
      • การทำ Ulthera  SPT สามารถคงผลลัพธ์บนใบหน้าได้นานกว่า 1 ปี
      • การทำ Ulthera  SPT สามารถกระตุ้นผิวให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ในบริเวณใต้ผิวได้ ทำให้ผิวมีความอ่อนเยาว์ได้ด้วย
      • การทำ Ulthera  SPT เป็นโปรแกรมที่มีความแม่นยำ โดยสามารถดูได้ผ่านหน้าจอระหว่างทำจึงทำให้ทุกจุดที่ยิงเป็นการยิงอย่างตรงจุด
      • การทำ Ulthera  SPT เป็นการเพิ่มความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า
      • การทำ Ulthera  SPT  ช่วยให้รูขุมขนเล็กลง ผิวถูกยกกระชับ ปรับความเรียบเนียนให้กับผิวได้ทั่วทั้งบริเวณหน้า
      • การทำ Ulthera  SPT มีความปลอดภัยมีได้มาตรฐาน ทั้งยังสามารถตรวจสอบได้
      • การทำ Ulthera  SPT สามารถทำได้หลายส่วนในร่างกาย

     

    Ultherapy
    ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับบุคคล

     

    ข้อเสียของการทำ Ulthera SPT

      • Ulthera  SPT จะมีอาการเจ็บเล็กน้อย รู้สึกเหมือนโดนดูด รู้สึกอุ่น ๆ ใต้ผิวหนัง รวมทั้งอาจรู้สึกเหมือนมีหนามเล็ก ๆมาแทง ในขณะทำบริเวณใบหน้า ขณะที่ทำการปล่อยคลื่นพลังงานเพื่อรักษา เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีกระดูกและชั้นผิวหนังไม่หนา
      • Ulthera  SPT เป็นโปรแกรมที่หลังทำในบางคนอาจมีรอยแดงในบริเวณที่ทำ แต่รอยที่เกิดขึ้นนี้สามารถหายเป็นปกติได้ภายใน 1 ชั่วโมง
      • ในบางคนที่ทำการรักษา Ulthera  SPT อาจมีรอยเขียวหรือเกิดความบวมแต่จะสามารถหายได้เองในเวลาประมาณ 1 สัปดาห์
      • ในบางคนหลังทำ การรักษาด้วย Ulthera  SPT จะมีความรู้สึกร้อนหรืออุ่นในบริเวณกราม เนื่องจากเป็นบริเวณที่โดนกระดูกโดยตรง

    Ulthera SPT เหมาะกับใคร ?

      • Ulthera  SPT เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยคล้อย และมีความไม่กระชับ
      • Ulthera  SPT เหมาะกับผู้ที่คิ้วตก หางตาตก รวมทั้งมีริ้วรอยรอบดวงตา ทำให้ดูแก่กว่าอายุจริง
      • Ulthera  SPT เหมาะกับผู้ที่มีกรอบหน้าไม่ชัดเจน
      • Ulthera  SPT เหมาะกับผู้ที่มีแก้มห้อยมีกระเปาะแก้ม
      • Ulthera  SPT เหมาะกับผู้ที่มีคางสองชั้น มีเหนียง ลำคอย่น มีรอยสร้อยคอ
      • Ulthera  SPT เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับและไม่ต้องการผ่าตัดศัลยกรรม
      • Ulthera  SPT เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาในการพักฟื้น
      • Ulthera  SPT เหมาะกับผู้ที่กลัวเข็มและเลือด
      • Ulthera  SPT เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวหน้าให้มีความเรียบเนียน กระชับรูขุมขน
      • Ulthera  SPT เหมาะกับผู้ที่ต้องการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง

     

    Ultherapy PRIME ยกกระชับผิว
    ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

     

    Ulthera SPT สามารถทำได้ตั้งแต่มีอายุเท่าไร?

    สามารถแบ่งช่วงวัยในการทำ Ulthera  SPT โดยแต่ละช่วงอายุจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันดังนี้ ?

    ในช่วงอายุ 25-30 ปี 

    ช่วงอายุนี้จะเป็นช่วงอายุที่การทำ Ulthera  SPT เปรียบเสมือนการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนให้กับบริเวณใต้ผิวหนัง ถึงแม้ในช่วงวัยนี้ จะเป็นช่วงวัยที่ ผิวหนังจะยังไม่เกิดปัญหามากแต่คอลลาเจนใต้ชั้นผิวก็จะเริ่มลดลงบ้างแล้ว แต่การทำ Ulthera SPT ในช่วงอายุนี้จะเป็นการกระตุ้นให้ผิวหนังเกิดการสร้างคอลลาเจน เพื่อทดแทนในจำนวนที่ลดลง

    ในช่วงอายุเท่านี้แนะนำให้ทำ Ulthera SPT เพื่อให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ในปริมาณช๊อตที่ไม่มากโดยสามารถปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์อันเป็นที่น่าพึงพอใจก่อนได้

    ในช่วงอายุ  35-45 ปี

    ในช่วงอายุนี้จะเป็นช่วงอายุที่ใบหน้าจะเริ่มมีความหย่อนคล้อย มีริ้วรอย และรอยเหี่ยวย่นแล้ว โดย อาทิ มีร่องแก้ม  กรอบหน้าไม่ชัด เริ่มมีกระเปาะแก้ม มีร่องน้ำหมาก มีร่องมุมปาก หางตาตก หรือมีถุงใต้ตา ซึ่งการทำ Ulthera  SPT ในช่วงอายุเท่านี้จะเปรียบเสมือนการรักษาอาการต่าง ๆ รวมถึงยกกระชับใบหน้าและผิว ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นคอลลาเจน  ทำให้ผิวหนังของคนเราที่เริ่มมีการเสื่อมสภาพ อันเนื่องมาจากวัยที่เพิ่มมากขึ้น นั้นกลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

    ในช่วงอายุ 45-50 ปี

    ในช่วงอายุนี้จะเป็นวัยที่เริ่มมีปัญหาในบริเวณต่าง ๆ บนใบหน้า นอกเหนือจากบริเวณใบหน้า ไม่ว่าจะเป็น บริเวณ ใต้คาง ลำคอ รวมถึงหนังตาบน จะเริ่มหย่อนคล้อยลงมาตามวัย อาจเป็นความหย่อนคล้อยที่มีความรุนแรงที่มากขึ้น หากไม่ได้รับการรักษา ทั้งนี้ในช่วงอายุนี้จะต้องดูแล และรักษาสภาพผิวหน้าให้มากขึ้น เพื่อเป็นการลดปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวหน้า โดยการกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวที่หลวมลงจนเกิดช่องว่างในผิว อันเกิดจากคอลลาเจนที่ลดลง และเริ่มหยุดสร้างตามวัย

    ในช่วงอายุวัย 60 ปีขึ้นไป

    ในช่วงอายุนี้ใบหน้าของคนเราจะมีปัญหาอื่น ๆ ตามวัยร่วมอยู่ด้วย ดังนั้นการทำ Ulthera  SPT แพทย์จึงต้องทำร่วมกับโปรแกรมอื่น เพื่อเสริมกำลังการยกกระชับและรักษา รวมทั้งเป็นการป้องกันการเกิดปัญหาเดิมอีกด้วย ทั้งนี้ยังเป็นการทำให้ผิวหนังในบริเวณที่ไม่มีปัญหาได้รับผลกระทบไปด้วยนั่นเอง

    Ulthera SPT

     

    Ulthera SPT สามารถทำบริเวณใดได้บ้าง ?

    สามารถทำ Ulthera  SPT ได้ทั้งบริเวณใบหน้าและลำตัวโดยแต่ละบริเวณที่ทำ Ulthera  SPT  จะส่งผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปดังนี้

      • เมื่อทำ Ulthera  SPT ที่บริเวณใบหน้าจะส่งผลให้กรอบหน้าชัดขึ้น ใบหน้ามีความยกกระชับมากขึ้น ลดปัญหาหย่อนคล้อยของผิว  ทั้งยังช่วยสร้างคอลลาเจนให้กับบริเวณใต้ชั้นผิวด้วย
      • เมื่อทำ Ulthera  SPT ที่บริเวณรอบดวงตา หรือเรียกว่า Ulthera  SPTใต้ตาจะส่งผลให้หางคิ้วถูกยกขึ้น หางตาถูกยกขึ้น  ดวงตาดูโตขึ้น ตาที่เคยตกจะดูเปิดมากขึ้น ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูสดใสขึ้น
      • เมื่อทำ Ulthera  SPT ที่บริเวณใต้คาง ลำคอ และเหนียง จะส่งผลให้ผิวถูกฟื้นฟู และยังช่วยแก้ปัญหาเหนียงห้อยและไขมันใต้คาง  ลดคาง 2 ชั้นเพิ่มความตึงกระชับ
      • เมื่อทำ Ulthera  SPT ที่บริเวณหน้าอก จะส่งผลให้ผิวบริเวณเนินอกที่เกิดการหย่อนคล้อย กลับกลายเป็นให้เต่งตึงมากขึ้น
      • เมื่อทำ Ulthera  SPT ที่บริเวณหลังมือ ส่งผลให้ริ้วรอยรวมทั้งรอยเหี่ยวย่นบริเวณหลังมือลดลง มือดูอ่อนเยาว์ และสาวขึ้น
      • เมื่อทำ Ulthera  SPT ที่บริเวณท้องแขน รวมทั้ง หน้าท้อง จะส่งผลให้เกิดความกระชับมากขึ้น ทำให้หน้าท้องและท้องไม่ย้วย
      • เมื่อทำ Ulthera  SPT ที่บริเวณหน้าอกส่งผลให้คอลลาเจนบนที่ผิวชั้นบนมีความกระชับมากขึ้น ส่งผลให้ผิวบริเวณหน้าอกเกิดความหย่อนคล้อยมีความกระชับและเต่งตึงมากขึ้น คืนความอ่อนเยาว์และความสาวให้อีกครั้ง

     

    มิ้นท์ ณัฐวรา โปรแกรม Ultherapy Prime
    ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

    ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนทำ Ulthera SPT

      • ก่อนทำ Ulthera  SPT ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
      • ก่อนทำ Ulthera  SPT ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ เตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการยกกระชับ
      • ก่อนทำ Ulthera  SPT ควรปรึกษาแพทย์รวมทั้งแจ้งประวัติการรักษา อาการแพ้ แก่แพทย์โดยละเอียด

    ขั้นตอนในการทำ Ulthera SPT

      1. แพทย์ทำการประเมินรูปหน้าก่อนทำการรักษา
      2. ผู้ช่วยแพทย์ทำการทายาชา และพักทิ้งไว้จนยาชาออกฤทธิ์ เพื่อบรรเทาความเจ็บระหว่างทำ Ulthera  SPT
      3. แพทย์ออกแบบรูปหน้า และวางแผนการรักษาเกี่ยวกับปัญหาที่มีความกังวลในจุดต่าง ๆ
      4. ทำการยิง Ulthera  SPT ตามแผนการรักษาที่ได้ทำการประเมินเอาไว้ในเบื้องต้น
      5. ทำความสะอาดใบหน้า

    การดูแลรักษาตัวหลังทำ Ulthera SPT

      • หลังทำ Ulthera  SPT ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด แสงจัด ๆ และการโดนความร้อนโดยตรงที่ผิว อาทิ  การอบซาวน่า การแช่ออนเซ็น เป็นต้น
      • หลังทำ Ulthera  SP ควรทาครีมบำรุงผิว และครีมกันแดดที่มีค่าSPF 50 ++ ทั้งก่อนออกแดด และระหว่างเจอแดด
      • หลังทำ Ulthera  SPT หากเกิดอาการบวมควรนอนหนุนหมอนที่สูงกว่าระดับที่นอน เพื่อให้อาการบวมลดลง  อาการเหล่านี้เป็นอาการปกติสามารถหายได้เอง
      • หลังทำ Ulthera  SP หากเกิดอาการบวม หรือ แดงมาก สามารถใช้การประคบเย็นร่วมด้วยได้
      • หลังทำ Ulthera  SPT หากเกิดอาการผิวแห้งอัน เนื่องมาจากการทายาชา สามารถบำรุงผิวด้วยมอยเจอไรซ์เซอร์ หรือครีมบำรุงผิวได้
      • หลังทำ Ulthera  SPT ควรงดการทาบำรุงประเภทไวท์เทนนิง รวมทั้งครีมที่มีการผลัดเซลล์ผิวประมาณ 1 สัปดาห์ เนื่องจากผิวยังมีความบอบบางอยู่มาก
      • หลังทำ Ulthera  SPT ไม่ควรสัมผัสผิวหน้าแรง เนื่องจากอาจมีความระบมอยู่ในผิว สามารถรับประทานยาแก้ปวด เพื่อระงับอาการปวดได้ อาการระบมดังกล่าวจะสามารถหายได้เองใน 1 สัปดาห์ โดยไม่ต้องกังวล
      • หลังทำ Ulthera  SPT ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อผลลัพธ์ในการรักษาที่ดีที่สุด

    ในการทำ Ulthera SPT ใช้เวลากี่นาที ?

    การทำ Ulthera  SPT แต่ละครั้งจะใช้เวลาในการรักษาตามแต่ปัญหาที่กังวลประมาณ 45-60 นาทีต่อครั้ง  ทั้งนี้เวลาอาจมีเหลื่อมล้ำตามปัญหาที่เกิดขึ้นของแต่ละบุคคล

    ในบางกรณีที่คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บก็ไม่ผิดปกติ หากเจ็บหรือร้อนเกินกว่าการทนไหว สามารถแจ้งแพทย์ได้เพื่อให้แพทย์ปรับแผนการรักษา หรือปรับระดับตามสมควร

    ผลลัพธ์หลังจากทำ Ulthera SPT

    Ulthera  SPT จะสามารถเห็นผลลัพธ์หลังการรักษาได้ทันทีหลังทำ ตั้งแต่ครั้งแรกประมาณ 20-30% โดยผลลัพธ์หลังการรักษาจะสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อครบ 3 เดือน

    Ulthera SPT สามารถคงผลลัพธ์ได้นานเท่าไร ?

    Ulthera SPT สามารถคงสภาพผลลัพธ์ได้นานประมาณ 1–2 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแล และสภาพผิวของของแต่ละบุคคล อีกทั้งหากทำ Ulthera SPT เป็นประจำต่อเนื่องในเวลาทุก ๆ 1-2 ปี จะทำให้คงความอ่อนเยาว์ใบหน้าให้ดูอ่อนกว่าวัยได้ถึง 10 ปี

    Ulthera SPT มีอันตรายหรือมีผลข้างเคียงในการรักษาหรือไม่?

    Ulthera SPT เป็นโปรแกรมที่ใช้พลังงานอัลตราซาวนด์ ชนิดเดียวกับที่วงการแพทย์ใช้ในการอัลตร้าซาวด์ทารกในครรภ์ ยังเป็นโปรแกรมที่ได้รับการคิดค้น วิจัยและประเมินระดับของพลังงานอัลตราซาวน์ที่ใช้ในการรักษา มาให้เหมาะสมในการยกกระชับให้กับทุกสภาพผิว อีกทั้ง Ulthera SPT ยังเป็นโปรแกรมที่ได้รับมาตรฐานการรองรับในระดับสากลจากประเทศสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA ) ได้รับการยอมรับในผลการรักษาจากหลากหลายประเทศในทั่วทุกมุมโลก และยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา หรืออย. จากประเทศไทย Ulthera  SPT จึงเป็นโปรแกรมที่มีความปลอดภัยในขั้นสูง มีความเชื่อถือได้ในความปลอดภัยจึงทำให้ผู้เข้ารับบริการไม่ต้องกังวลในผลข้างเคียงในการรักษา

    Ulthera SPT ผู้ชายทำได้หรือไม่?

    ในยุคที่ผู้ชายก็ดูแลใส่ใจในตัวเอง และรักตัวเองมากขึ้น Ulthera SPT ก็เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่แนะนำให้กับคุณผู้ชาย เนื่องจากเป็นโปรแกรมที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของคุณผู้ชายในทุกรูปแบบ ที่ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายที่สมบุกสมบัน หรือบุกป่าฝ่าดงแค่ไหนก็สามารถทำ Ulthera SPT ได้ เนื่องจากเป็นโปรแกรมที่ก่อนทำไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก และหลังทำยังไม่ต้องดูแลอะไรมากอีกด้วย ไม่เจ็บ ไม่ช้ำ ไม่มีรอยเข็ม โดย Ulthera SPT ตอบโจทย์คุณผู้ชายครบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น การซ่อมแซม และฟื้นฟูผิวหน้า ช่วยยกกระชับ เพิ่มความอ่อนเยาว์ และยังให้ผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติเหมาะกับคุณผู้ชายเป็นอย่างมาก จนกระทั่งปัจจุนคุณผู้ชายหลาย ๆ ท่านจึงรู้จักกันในชื่อ Ulthera For Men อีกด้วย

     

    Ultherapy ยกหน้า
    ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

    ทำ Ulthera SPT ที่รมย์รวินท์คลินิก ดียังไง?

    Ulthera SPT เป็นโปรแกรมที่โด่งดังและได้รับความสนใจ จากผู้ใช้บริการอย่างหลากหลาย แต่หลายคนที่ใช้บริการอาจยังไม่รู้ว่ามี Ulthera SPT อยู่มากมายตามท้องตลาด โดยรมย์รวินท์คลินิก เป็นคลินิกเสริมความงามที่สามารถการันตีได้ว่าใช้ Ulthera SPT เครื่องแท้ทุกสาขา สามารถตรวจสอบได้ที่ www.merzclubthailand.com  จากบริษัทผู้นำเข้าโดยตรง ทั้งยังมีสติกเกอร์ และโล่จากบริษัทเป็นเครื่องการันตี

    รมย์รวินท์คลินิก เป็นคลินิกเสริมความงามที่เปิดให้บริการมาอย่างยาวนาน มีชื่อเสียงโด่งดัง มีเคสรีวิวมากมายเป็นการการันตีผลลัพธ์หลังการรักษา

    รมย์รวินท์คลินิก มีแพทย์ผู้มีประสบการณ์ประจำอยู่ทุกสาขา เพื่อความสะดวกสบายในการให้บริการทุกท่าน

    รมย์รวินท์คลินิก มีพนักงานที่ผ่านการฝึกอบรมในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้ทุกการบริการมีประสิทธิภาพที่สุด

    สามารถเข้ารับบริการ Ulthera  SPT ที่รมย์รวินท์คลินิกได้แล้วทุกสาขาทั้ง 28 สาขาทั่วประเทศ พร้อมรับโปรโมชั่นดี ๆ เพียงปรึกษาพนักงานหน้าสาขา

    ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




      วันที่สะดวกในการติดต่อ








      รมย์รวินท์ คลินิก เชียร์สุด ติดขอบรอบสุดท้าย เวที MR GAY WORLD THAILAND 2024

      MR GAY WORLD THAILAND 2024

      รมย์รวินท์ คลินิก เชียร์สุด ติดขอบรอบสุดท้าย เวที MR GAY WORLD THAILAND 2024

      รมย์รวินท์ คลินิก สนับสนุนความแตกต่างและหลากหลายของ LGBQ ร่วมเชียร์ คุณมิกซ์เซอร์ พงศกร เอี่ยมปฐม วัย 22 ปี ผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 8 ในรายการประกวดระดับประเทศ MR GAY THAILAND 2024 ซึ่งเป็นจัดต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 โดยการประกวด MR GAY THAILAND 2024 จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2567 ที่ Ultra Arena ชั้น 6 Bravo BKK งานนี้ คุณหมอบีบี พญ.ช่ออัญชัญ ปัญญาเอกะวิทู เป็นตัวแทนรมย์รวินท์ คลินิก เชียร์สุดใจ

      MR GAY

      สำหรับ การประกวด MR GAY WORLD THAILAND 2024 มีผู้เข้าประกวด MR GAY WORLD รอบสุดท้าย จำนวนทั้งสิ้น 29 คน ก่อนเริ่มงาน คุณหมอบีบี พญ.ช่ออัญชัญ ปัญญาเอกะวิทู ตัวแทน รมย์รวินท์ คลินิก ได้ไปร่วมงาน สนับสนุนและให้กำลังใจกับคุณมิกซ์เซอร์แบบใกล้ชิด

      คุณมิกซ์เซอร์ กล่าวกับคุณหมอบีบีว่า “ตื่นเต้นมากเลยครับ เป็นครั้งแรกของมิกซ์ที่เข้าประกวด MR GAY WORLD THAILAND 2024 รอบนี้ได้หมายเลข 8 ด้วย แล้วก็อยากจะฝากตัวเป็นลูกรักของรมย์รวินท์ คลินิกและคุณหมอบีบีด้วยนะครับ”

      MR GAY

      สำหรับการประกวด MR GAY THAILAND 2024 จะแบ่งเป็น 3 รอบ เพื่อเดินอวดโฉมต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงวุฒิ โดยผู้เข้าร่วมประกวดประกอบไปด้วย ชุดประจำชาติ, ชุดว่ายน้ำ และ ชุดสูท

      ซึ่งไฮไลต์ของานประกวดคือ ชุดประจำชาติ ถือเป็นไฮไลต์สำคัญของการจัดงานในทุกๆ ครั้ง ซึ่งในปีนี้กองประกวดได้ให้อิสระกับผู้ประกวดทุกคนในการนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ใหม่อย่างเต็มที่ ผ่านธีม “Thailand Soft Power” เพื่อบอกเล่าความแข็งแกร่งของวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของคนไทย ไม่ว่าจะเป็น การเล่นน้ำสงกรานต์, การแสดงการละเล่นระดับชุมชม ตำบล จังหวัด จากภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ

      MR GAY WORLD THAILAND 2024

      สำหรับ คุณมิกซ์เซอร์ พงศกร เอี่ยมปฐม มาในชุด Koh Chang Trat Thailand Soft Power “เมืองเกาะครึ่งร้อย” หนึ่งในคำขวัญจังหวัดตราด โดยเฉพาะ “เกาะช้าง” สถานที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วมุมทุกโลก มาสัมผัสความงามทางธรรมชาติ ทั้งบนเกาะและใต้ทะเล

      การออกแบบได้ใช้แนวคิดการเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย ด้วยการนำเสนอผ่านลีลาการพายเรือ ดำน้ำชมปะการัง อีกทั้งการตกแต่งยังใช้เศษขยะจากใต้ท้องทะเลในการตกแต่งชุด เพื่อสร้างจิตสำนึกให้แก่นักท่องเที่ยวในการอนุรักษ์สถานที่แหล่งนี้

      “เกาะสวรรค์ ทะเลวันออก เกาะช้าง จังหวัดตราด ไทยแลนด์ซอฟต์พาวเวอร์ คือ ไอเดียที่อยากนำเสนอแนวคิดของคนเจนฯ ใหม่ อย่างพวกเรา และนอกจากชุดประจำชาติ มิกซ์ยังร่วมออกแบบชุดว่ายน้ำและชุดสูทภายใต้แนวคิดใหม่ๆ ซึ่งมิกซ์ก็สนุกกับมันมาก” คุณมิกซ์เซอร์ กล่าวสั้นๆ และกล่าวเสริมด้วยว่า “ต้องขอขอบคุณ รมย์รวินท์ คลินิก ด้วยนะครับ ที่สนับสนุนชุดแต่งกายประจำชาติ”

      MR GAY WORLD THAILAND 2024

      หลังพลาดเข้ารอบลึกๆ พญ.ช่ออัญชัญ ปัญญาเอกะวิทู มารอ คุณมิกซ์เซอร์ ที่หน้าแบคดรอป บริเวณด้านหน้าอีกครั้ง คุณมิกซ์เซอร์แอบกระซิบขอบคุณกับคุณหมอบีบี สำหรับการให้วิตามินผิว ของทางรมย์รวินท์คลินิกที่มอบให้ เพราะมีส่วนช่วยทำให้ผิวของคุณมิกซ์เซอร์ ดูดีและเสริมความมั่นใจให้คุณมิกซ์เซอร์บนเวทีการประกวด MR GAY WORD THAILAND 2024

      “เอนจอยมากเลยครับ บอกได้เต็มปากเลยครับ เต็มที่ทุกรอบที่ออกไปเพราะเราเป็นส่วนหนึ่งในโชว์และอยากให้โชว์มีความเพอร์เฟกต์ แม้วันนี้มิกซ์พกความมั่นใจมาเต็มร้อยแต่ไม่พอ ฝากทุกคนนะครับ ติดตามผลงานได้นะครับ มิกซ์เองต้องมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นแน่นอนเพราะได้เป็นลูกรักของรมย์รวินท์ คลินิก และ คุณหมอบีบี” คุณมิกซ์เซอร์กล่าวทิ้งท้าย

      gallery

      MR GAY
      MR GAY WORLD THAILAND 2024
      MR GAY WORLD THAILAND 2024
      MR GAY WORLD THAILAND 2024
      MR GAY WORLD THAILAND 2024
      MR GAY WORLD THAILAND 2024
      MR GAY WORLD THAILAND 2024
      MR GAY WORLD THAILAND 2024

      ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




        วันที่สะดวกในการติดต่อ








        กู้หุ่นพัง ให้ปังให้จึ้ง ด้วย Coolsculpting

        Promotion Coolsculpting 

        กู้หุ่นพัง ให้ปังให้จึ้ง เหมา Coolsculpting เผยร่างแซ่บ อวดหุ่นสับแบบไม่สนใจใคร

        ประกาศข่าวดี !! รมย์รวินท์คลินิกออกโปรเอาใจสาวเอวโอ ที่ฝันอยากจะมีเอวเอสให้ได้สวยสมใจแล้ว  ทำใจนิ่งๆ อ่านดีๆ เพราะเค้ามีสิทธิประโยชน์มากมายให้ใจฟู ไปร่วมดูกันเลยค่ะคุณน้า สิทธิพิเศษสำหรับสาวๆ ที่กดเข้าร่วมแคมเปญกับรมย์รวินท์คลินิก

         จะได้รับส่วนลดแบบจุกๆ ทันที 5,000 บาท แต่อย่ารอช้าน๊าา เพราะเค้าจำกัดสิทธิ์จำนวน 30 สิทธิ์เท่านั้นนะคะคุณน้า

        จากราคาปกติ 10 Cycle อยู่ที่ 69,000 บาท ตอนนี้ลดเหลือเพียง 64,000 บาทเท่านั้นเองค่ะคุ๊ณ!!

        สามารถเข้ารับโปรได้ที่หน้าร้านตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2567 ถึง 30 มิถุนายน 2567  เท่านั้น

        Coolsculpting สามารถทำบริเวณไหนได้บ้างไปดูกัน

          • ท้องแขน
          • นมน้อย
          • หน้าท้อง
          • เอว
          • ต้นขาด้านใน

        ท่านใดอยากเปรี้ยว อยากหุ่นเพรียว ก็ให้เลี้ยวเข้ามาที่คลินิก เราจะมีกติกาง่ายๆ ในการรับสิทธิ์นะคะ ไปดูกันเลย

        อ่านกติกาเข้าร่วมเพื่อรับโปรโมชั่นเพียงแค่ทำตามนี้ เริ่ม!

        สำหรับพี่สาวท่านใดที่สนใจโปรโมชัน Coolsculpting สามารถเปิดกระเป๋าหยิบมือถือ เพื่อรับสิทธิ์พิเศษดังกล่าว เพียงแค่ทำตามขั้นตอน กติกาง่ายๆ มีทั้งหมด 4 ข้อด้วยกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูพร้อมกันเลยค่ะคุณน้า

          1. อย่างแรกเลยลูกค้าหยิบโทรศัพท์มือถือ เพื่อสแกน QR Code ที่คลินิกหลังการซื้อ-ขาย
          2. จากนั้น แนะนำให้ลูกค้า Register เพื่อรับบัตรกำนัลได้เลย
          3. ลูกค้าได้รับลิงค์ของรหัสบัตรกำนัลเพื่อมาใช้บริการในครั้งถัดไป
          4. ลูกค้าคลิกลิงค์เพื่อใช้รหัสบัตรกำนัลที่คลินิก

        เห็นไหมคะ กติกาการเข้าร่วมรับ Promotion ง่ายนิดเดียวเองถูกไหมคะ เพียงแค่ทำตามง่ายๆ หุ่นในฝันก็จะเป็นของเรา จากนี้ใครกล่าวหาว่าป้าหุ่นพัง อดฟังไม่ไหว ก็อวดหุ่นสับ ให้ชาวบ้านสับสนไปเลยค่ะคุณน้า

        Coolsculpting คืออะไร?

        Coolsculpting เทคโนโลยีความเย็นกำจัดเซลล์ไขมันชื่อดัง  ที่เป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานความเย็นในการกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่บนร่างกายของเราตามจุดต่างๆ ทำงานโดยการฆ่าและสลายเซลล์ไขมันจากนั้นจะถูกขับออกจากร่างกาย โดยกระบวนการเมตาบอลิซึมตามธรรมชาติ Coolsculpting เป็นโปรแกรมกำจัดไขมัน ที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่พึ่งมีดหมอ ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะมากกับคนไม่มีเวลา ขั้นตอนการทำหัตถการก็ใช้เวลาน้อย แต่ให้ผลลัพธ์แบบสับ แบบจึ้ง ทำอึ้งไปหลายคน ที่สำคัญ Coolsculpting  ยังเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่ยกระดับความปลอดภัย ได้รับการรับรองจาก FDA ประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วยแหละ

        เหตุผลดีๆ ที่สาวๆ ควรเลือก Coolsculpting ที่รมย์รวินท์คลินิก

        รมย์รวินท์คลินิกเป็นคลินิกความงามที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของประเทศ มั่นใจได้เลยว่า Coolsculpting ที่รมย์รวินท์นำมาบริการนั้น สามารถเนรมิตหุ่นสวยราวกับหลุดมาจากฝันให้คุณได้ สำหรับในหัวข้อนี้ไปดูกันเลยนะคะว่า มีเหตุลอะไรบ้าง ที่คุณควรเลือกรมย์วินท์ แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง

          1. เทคโนโลยีที่ทันสมัยและเปลี่ยมล้นประสิทธิภาพ

        ที่รมย์รวินท์คลินิก เราใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ชื่อว่า Coolsculpting ซึ่งนับว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่ใช้ความเย็นในการกำจัดเซลล์ไขมันส่วนเกินในร่างกายได้อย่างทั่วถึงและตรงจุด เทคโนโลยีนี้ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก FDA ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีประสิทธิภาพสูงและให้ผลลัพธ์ที่ดี ตอบโจทย์ต่อความต้องการ ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับสัดส่วนรูปร่างที่ดีขึ้น เฟิร์มขึ้น กระชับมากยิ่งขึ้น จากเครื่องมือที่ทันสมัยที่สุดในยุคนี้อย่างแน่นอน

          1. ที่รมย์รวินท์นำทีมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมากประสบการณ์

        ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญที่รมย์รวินท์คลินิกมีประสบการณ์และความชำนาญในการทำ Coolsculpting โดยเฉพาะ แพทย์ทุกท่านได้รับการฝึกอบรมและได้รับการรับรองจากบริษัทผู้ผลิตเครื่อง Coolsculpting ลูกค้าจึงมั่นใจได้เลยว่าจะได้รับคำแนะนำที่ละเอียด ไขทุกปัญหาข้องใจแบบมืออาชีพ รวมถึงการบริการดุจญาติมิตรอีกด้วย

          1. บริการเป็นเลิศทุกระดับ และครอบคลุมถึงการดูแลหลังการรักษาที่รมย์รวินท์

        ที่รมย์รวินท์คลินิก เราใส่ใจในการให้บริการที่เป็นเลิศและการดูแลลูกค้าอย่างอบอุ่น ทีมงานของเราพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณทั้งก่อนและหลังการรักษา เพื่อให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เรามีการติดตามผลหลังการรักษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเองเพื่อรักษาผลลัพธ์ในระยะยาว

          1. สถานพยาบาลที่สะอาด เครื่องมือปลอดเชื้อ บรรยากาศผ่อนคลาย

        คลินิกของเรามีสถานที่ที่สะอาด ห้องทำหัตถการรวมถึงเครื่องมือต่าง ๆ ปลอดเชื้อ แถมยังมีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เพื่อให้คุณรู้สึกสบายกายสบายใจ และได้รับความผ่อนคลายระหว่างการรักษา เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสวยควบคู่ไปกับความปลอดภัย และประสบการณ์ความงามที่ดี ตราตึงใจนั่นเอง

          1. อัดแน่นไปด้วยรีวิวและความพึงพอใจจากลูกค้าที่เข้ารับบริการจริงทุกเคส

        ที่รมย์รวินท์เราเป็นสถานบันความงาม ที่มีลูกค้ามากมายที่ได้รับผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจจากการทำ Coolsculpting จากที่เราได้ทำการสำรวจความคิดเห็นและรีวิวจากลูกค้าที่เคยใช้บริการจริง ช่วยยืนยันถึงคุณภาพและประสิทธิภาพของการรักษาของเรา คุณสามารถดูรีวิวจากลูกค้าของเราเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจเลือกใช้บริการได้ค่ะ

          1. โปรโมชั่นสุดพิเศษพร้อมข้อเสนอที่คุ้มค่า คุ้มราคา

        ที่รมย์รวินท์คลินิก เรามีโปรโมชั่นพิเศษและข้อเสนอที่คุ้มค่าสำหรับการทำ Coolsculpting เพื่อให้คุณสามารถปรับรูปร่างได้ในราคาที่เหมาะสม เราเชื่อว่าความงามและสุขภาพควรเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

        อย่างไรก็ตาม ที่รมย์รวินท์คลินิก เค้ามีโปรโมชันเอาใจหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่ต้องการอัพร่างทอง เผยหุ่นแซ่บตลอดทั้งปี ด้วยหัตถการที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งมีดหมอ แถมราคาสบายกระเป๋า ที่ใคร ๆ ก็สามารถเอื้อมถึงได้กับ โปรโมชั่น Coolsculpting สุดพิเศษที่มาพร้อมกับราคาส่วนลด สุดแสนตื่นตาตื่นใจ

        *โปรนี้เริ่มตั้งแต่ 17 มิถุนายน 2567 ถึง 30 มิถุนายน 2567  เท่านั้น 

        *ทำโดยผู้เชี่ยวชาญ 

        *ราคาโปรโมชัน สำหรับ 1 ท่านต่อ 1 สิทธิ์เท่านั้น 

        *จำนวนจำกัด 30 สิทธิ์เท่านั้น 

        *ผลลัพธ์ในการรักษาอาจแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล 

        *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด โปรดตรวจสอบรายละเอียด และเงื่อนไขเพิ่มเติมกับทางเจ้าหน้าที่ 

        *โปรโมชันสำหรับสำหรับสาขามาร์เช่ทองหล่อเท่านั้น

        ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




          วันที่สะดวกในการติดต่อ








          วัยทำงานกับความเครียด ผลกระทบต่อผิวและสุขภาพ

          ความเครียด

          ชีวิตวัยทำงานกับความเครียด รู้เท่าทันก่อนสายเกินแก้ !

          “เช้ามาต้องไปทำงานอีกแล้ว” “ฝนตกรถติด กว่าจะถึงบ้านแทบไม่มีเวลาพักเลย” “แปป ๆ วันหยุดก็หมดแล้ว ไม่อยากไปทำงานเลย” สถานการณ์เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิตวัยทำงานที่เป็นบ่อเกิดของความเครียดสะสม ซึ่งยังไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ การบริหารการเงินที่ฝืดเคืองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความเครียดสะสม สุดท้ายความเครียดที่เกิดขึ้นก็ได้สร้างผลกระทบเชิงลบให้กับร่างกายและจิตใจของเราไปเสียแล้ว

          หากสามารถจัดการความเครียดที่เกิดขึ้นได้ก็นับว่าเป็นข้อดีของตัวเอง แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่สามารถจัดการกับความเครียดได้ อีกทั้งยังเก็บไปคิดมากและค่อย ๆ บั่นทอนสุขภาพกายสุขภาพใจของตัวเองไปทีละนิด ทีละนิด .. จะดีกว่ามั้ย ? ถ้าเราเปลี่ยนจากการนั่งเครียดคิดมากมาหาวิธีรับมือกับมัน และเริ่มหันมาสนใจสุขภาพกายสุขภาพใจของตัวเอง ลองมาสำรวจกันว่าความเครียดทำอะไรกับเราบ้าง ?

          Skin

          “ความเครียด” ภาวะทางอารมณ์ที่ทำร้ายเรามากที่สุด

          ความเครียด เป็นภาวะทางอารมณ์ต่อเหตุการณ์หนึ่งที่อาจก่อให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ เป็นกังวล กระวนกระวาย เมื่อความเครียดอยู่ในระดับที่มากเกินไป ในทางกลับกันหากมีความเครียดอย่างพอดีก็สามารถช่วยให้คนเราเกิดความกระตือรือร้นมากกว่าปกติ ซึ่งจะเห็นได้จากการทำงานภายใต้ความเครียด หากเราสามารถบาลานซ์สิ่งที่เกิดขึ้นได้เราก็จะรู้สึกตื่นตัวกับการทำงานในแต่ละวันมากขึ้น ไม่เหนื่อยไม่ล้า ไม่เครียด แต่ถ้าบาลานซ์ของเราพังเนื่องจาก มีความเครียดสะสมมากจนเกินไปก็จะทำให้เกิดการไม่สบายใจ จนไม่สามารถทำงานให้ลุล่วงได้ ความเครียดจึงเป็นสิ่งที่ควรบริหารให้มีความพอดี นั่นหมายความว่าเครียดได้แต่อย่ามากจนเกินไป

          Skin

          ยิ่งเครียดยิ่งพัง มาดูกันว่าความเครียดส่งผลอะไรกับเราบ้าง ?

          ความเครียดที่สะสมไว้มากจนเกินไปอาจกลายเป็นหายนะทางอารมณ์ ซึ่งหลายท่านอาจจะยังไม่ทราบเกี่ยวกับผลกระทบของความเครียดที่มากไปในระยะยาว โดยนอกจากสภาพอารมณ์ที่มีแต่ความสบายใจแล้วยังมีเรื่องของสุขภาพร่างกายที่ได้รับผลกระทบด้วย ซึ่งสามารถเรียบเรียงเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้

          1. ความเครียดส่งผลต่อสุขภาพกาย – ร่างกายของคนเราสามารถได้รับผลกระทบจากความเครียดโดยตรง ซึ่งจะมีตั้งแต่อาการที่พบได้ทั่วไปจนถึงกรณีที่ค่อนข้างร้ายแรง เช่น ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ ไปจนถึงอาการของโรคต่าง ๆ อย่างความผิดปกติของหัวใจ ความดันโลหิตสูง ไมเกรน บางรายยังมีอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศมาเกี่ยวข้องด้วย
          2. ความเครียดส่งผลต่อสุขภาพจิต – แน่นอนว่าความเครียดเป็นสภาวะทางอารมณ์ที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจของเราเป็นอย่างมาก โดยมีโอกาสที่ความเครียดระยะยาวจะนำไปสู่สภาวะซึมเศร้า โรควิตกกังวล ย้ำคิดย้ำทำ (OCD) เป็นต้น
          3. ความเครียดส่งผลต่อการทำงาน – เป็นผลพวงมาจากสุขภาพจิตที่เกิดจากความเครียด ยิ่งเรามีความเครียดมากประสิทธิภาพการทำงาน การเรียนรู้ และ การปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างก็จะแย่ลง
          4. ความเครียดส่งผลต่อผิวและความงาม – ส่วนสุดท้ายเป็นเรื่องที่คนรักสวยรักงามไม่ควรพลาด ! เพราะความเครียดส่งผลกระทบต่อผิวและความงามด้วย ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยต่าง ๆ หรือผิวที่หมองคล้ำจากการอดหลับอดนอน ล้วนมีปัจจัยมาจากความเครียดที่สะสมเอาไว้ รวมถึงอาการผิวเครียดที่เราจะมาเน้นย้ำกันชัด
          ผิวเครียด

          อัพเดทโรคของคนทำงาน “ผิวเครียด” ผิวเสียสมดุลจากความเครียด

          อาการเครียดลงผิว หรือผิวเครียด แวบแรกอ่านแล้วคล้ายกับอาการเครียดลงกระเพาะ แต่จริง ๆ แล้วอาการเครียดลงผิวเป็นโรคที่เกี่ยวกับจิตวิทยาผิวหนัง ‘Psychodermatology’ เป็นภาวะที่ความเครียดไปกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนมากกว่าปกติจนร่างกายเกิดการเสียสมดุล ซึ่งส่งผลกระทบต่อผิวของเราด้วยนั่นเอง

          โดยอาการของโรคผิวเครียดที่มักพบได้ทั่วไปก็จะมีดังนี้

          1. ผิวหนังเกิดการระคายเคือง : เนื่องจากความเครียดส่งผลต่อระบบการย่อยอาหารจนเกิดอาการอักเสบบริเวณลำไส้ ส่งผลให้ผิวหนังเกิดการอักเสบตามมา อาการของผิวเครียดแบบนี้เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวด้วย
          2. ผิวหน้าหมองคล้ำ : ความเครียดส่งผลต่อการลำเลียงเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ด้วยสถานการณ์ที่เกิดจากความเครียดส่งผลให้เลือดถูกส่งไปที่อวัยวะสำคัญก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนผิวพรรณของเราจะมีเลือดมาเลี้ยงน้อยลง จนทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ ขาดความสดใส
          3. ผิวขาดความชุ่มชื้น : อาการผิวเครียดส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมน ‘Cortisol’ ซึ่งส่งผลต่อการกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวหนัง ทำให้ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น
          4. หนังศีรษะและเส้นผม : หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่าเวลาเครียดมาก ๆ ผมจะเกิดอาการร่วงอย่างผิดปกติ รวมถึงมีการสะสมของรังแคมากขึ้น

          บรรเทาความเครียด จัดการความไม่สบายใจด้วยตัวเองวันละนิด

          หากไม่ต้องการให้ผิวพรรณที่สวยงามของคุณได้รับผลกระทบจากความเครียด สิ่งสำคัญเลย คือ การหาวิธีจัดการกับความเครียดที่เหมาะสมกับตัวเอง ถึงแม้ความเครียดจะไม่หายไปทันที แต่การพยายามบรรเทาความไม่สบายใจของตัวเองไปเรื่อย ๆ คุณก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะฉะนั้นมาดูวิธีบรรเทาความเครียดจากรมย์รวินท์คลินิกกัน

          1. มองหางานอดิเรกที่ชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง การอ่านหนังสือ หรืองานอดิเรกแบบอื่น ๆ ถ้าเรารู้สึกสนุกไปกับมัน ความเครียดก็จะค่อย ๆ เบาลงจนหายไป
          2. เปลี่ยนจากการนั่งคิดมากเฉย ๆ ไปออกกำลังกาย หากิจกรรมที่ได้ขยับร่างกาย เพราะนอกจากจะช่วยเปลี่ยนจุดโฟกัสมาที่กิจกรรมตรงหน้าแล้วยังดีต่อสุขภาพด้วย
          3. การทานอาหารก็ช่วยลดความเครียดได้ หลาย ๆ คนมักบอกว่าการได้ทานอาหารอร่อย ๆ คือ การเติมความสุขให้กับตัวเอง แต่จริง ๆ แล้วก็มีอาหารหลาย ๆ อย่างที่ทานแล้วช่วยบรรเทาความเครียดได้ เช่น ชาเขียว ส้ม ฝรั่ง ไข่ เนื้อสัตว์ และ ดาร์กช็อตโกแลต เป็นต้น
          4. จัดการกับต้นเหตุของความเครียด บางครั้งวิธีการนี้ก็เป็นอะไรที่ยากมาก เพราะความเครียดสำหรับบางคนก็มีสาเหตุมาจากสิ่งที่ไม่เป็นรูปธรรม เช่น ภาระหนี้สิน หน้าที่การงานที่เป็นอยู่ แต่สำหรับบาง อย่างเราสามารถจัดการหรือมองข้ามมันไปได้ เช่น ปัญหาการถูกนินทา การถูกต่อว่าด่าทอแรง ๆ บางครั้งเราก็เผลอเก็บคำเหล่านั้นมาใส่ใจมากเกินไป ลองปล่อยวางเพื่อลดความเครียดที่รับมา
          หัตถการรักษาผิวจากความเครียด

          เครียดแล้วมีแต่เสีย มาเสริมความสวยให้หายเครียดดีกว่า

          พอเครียดมาก ๆ เข้าไปนอกจากผลกระทบต่อผิวพรรณสวย ๆ แล้ว เรามักจะละเลยการดูแลตัวเองอีก บอกเลยว่าปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้แล้ว ! ต้องลองมาที่รมย์รวินท์คลินิกเพื่อค้นหาคำตอบของความงามที่แม้แต่ความเครียดยังต้องยอมสยบ ด้วยเทคนิควิเคราะห์ใบหน้า Lifting Select ที่จะช่วยค้นหาหัตถการที่เหมาะสมกับคุณ โดยที่รมย์รวินท์มีโปรแกรมช่วยเรื่องผิวและสัดส่วนรูปร่างมากมาย และตัวที่เหมาะสำหรับช่วยเรื่องการผ่อนคลายมากที่สุดคือโปรแกรมยกกระชับกล้ามเนื้ออย่าง Emface   เป็นโปรแกรมยกกระชับตัวแรกและตัวเดียวในโลกที่สามารถทำได้  ระหว่างการทำงานผู้เข้ารับบริการจะมีความรู้สึกเหมือนได้นวดใบหน้า ในส่วนหน้าผาก และแก้ม จัดเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้ทำการผ่อนคลาย บำบัดความเครียด ที่ได้ผลลัพธ์หลังการทำคือใบหน้าที่ยกกระชับใบหน้าถึงชั้นกล้ามเนื้อ  ทำให้ได้ใบหน้าที่ยกกระชับ ไร้ริ้วรอย และร่องลึกต่างๆด้วย โดยใช้เวลาทำเพียง 20 นาที ทำให้ได้ผลลัพธ์ถึงสองต่อ สามารถปรึกษากับแพทย์ที่รมย์รวินท์คลินิกได้แล้วตั้งแต่วันนี้ แล้วพบกันได้ที่รมย์รวินท์ 28 สาขาใกล้บ้านคุณ

          ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




            วันที่สะดวกในการติดต่อ








            รมย์รวินท์คลินิก ก้าวเข้าปี 21 ร่วมกับ เมิร์ซ เอสเธติกส์สร้างโลกที่น่าอยู่

            รมย์รวินท์คลินิก Set Zero Waste

            เก็บกลับ ปรับโฉม ส่งคืน Make the world better For the better you.

            Set Zero Waste / รมย์รวินท์ Set Zero Waste

            รมย์รวินท์คลินิกร่วมผนึกกำลัง เมิร์ซ เอสเธติกส์ยืนหยัดในการช่วยเหลือสังคมในโครงการ ” Merz Aesthetics Set Zero Waste” พร้อมเปิดเผยแผน CSR ในอนาคต

            Set Zero Waste / รมย์รวินท์ Set Zero Waste

            ก้าวเข้าสู้ปีที่ 21 อย่างยิ่งใหญ่ด้วยการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใหม่ๆ พร้อมใส่ใจสิ่งแวดล้อมและโลกอย่างมากขึ้นเตรียมขึ้นแท่นองค์กรสีเขียวอย่างเต็มรูปแบบ เพราะทุกๆ การแยกขยะ 6 กิโลกรัม เท่ากับการปลูกต้นไม้ 1 ต้น ภายใต้แนวคิดของรมย์รวินท์คลินิก Make the world better For the better you กับการทำสวยแบบรักษ์โลก เพื่อความยั่งยืนของโลกของพวกเราทุกคน ตาม Concept ของ Merz Aesthetic เก็บกลับ ปรับโฉม ส่งคืน ในโครงการ “Romrawin x Merz Aesthetic Set Zero Waste”

            Set Zero Waste / รมย์รวินท์ Set Zero Waste

            โดยเริ่มต้นงานแรกด้วยการมีส่วนร่วมกับบริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย ในการเข้าร่วมโครงการ Merz Aesthetics Set Zero Waste เป็นโครงการที่จัดขึ้นเพื่อรณรงค์ให้เกิดการแยกกขยะที่มาจากอุตสาหกรรมความงามหรือ Aesthetics Waste ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำการเสริมความงามที่ไม่ว่าจะเป็นกล่องของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์ เช่น Belotero กล่องโบ Xeomin กล่อง Radiesse และกล่อง Radiesse+

            Set Zero Waste / รมย์รวินท์ Set Zero Waste

            เพื่อนำไปใช้รีไซเคิลให้เกิดประโยชน์มากขึ้น ลดปัญหาในการทำลายและย่อยสลาย รวมทั้งยังมีหัว Ulthera ที่นำมารีไซเคิลให้เกิดสิ่งใหม่และสามารถใช้ประโยชน์ได้ ให้ชื่อว่า

            Set Zero Waste

            “น้องมานะ”เพื่อทำเป็นกระถางต้นไม้โดยสามารถนำมาใช้เป็นกระถางต้นไม้ หรือกล่องใส่กระดาษชำระได้ด้วย ภายใต้แนวคิด เก็บกลับ ปรับโฉม ส่งคืน Make the world better For the better you

            Set Zero Waste / รมย์รวินท์ Set Zero Waste

            งานนี้ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย อย่าง ภ.ญ.กิตติวรรณ รัตนจันทร์ มาร่วมงานด้วยตัวเอง พร้อมทั้ง และคุณ กฤษดา มงคลธารณ์ Marketing Director ร่วมรับมอบหัว Ulthera และกล่องผลิตภัณฑ์ต่างๆด้วยตัวเองนับเป็นการผนึกกำลังอย่างยิ่งใหญ่สำหรับรมย์รวินท์คลินิกและบริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย

            Set Zero Waste / รมย์รวินท์ Set Zero Waste

            โดยงานนี้ได้รับความสนใจต่อสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสิ่งแปลกใหม่ในแวดวงธุรกิจความงามที่ 2 ยักษ์ใหญ่จับมือร่วมพันธมิตรกัน

            Set Zero Waste / รมย์รวินท์ Set Zero Waste

            ไม่เพียงเท่านั้นผู้บริหารรมย์รวินท์คลินิกยังมีการเผยแผน CSR ของรมย์รวินท์คลินิกที่จะเกิดขึ้นในอนาคตว่า ได้เล็งเห็นถึงปัญหาต่างๆในโลกและสัมคมไทยที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นภาวะโลกร้อน ภาวะเรือนกระจก หรือปัญหาความเป็นอยู่ในสังคมรมย์รวินท์คลินิกจึงมีความต้องการที่จะแก้ปัญหาโดยเริ่มจากภายในองค์กรเป็นอันดับแรก

            Set Zero Waste / รมย์รวินท์ Set Zero Waste

            ทั้งนี้การเริ่มต้นภายในองค์กรได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากพนักงาน อาทิการแยกขยะ การลดปริมาณการใช้กระดาษ โฟม และพลาสติก การประหยัดพลังงานไฟฟ้า ควบคุมอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ ประหยัดน้ำประปา รวมไปจนถึงการนำวัสดุอุปกรณ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์ได้อีกครั้ง

            Set Zero Waste / รมย์รวินท์ Set Zero Waste

            นอกจากนี้ในส่วนของคลินิกยังมีการจัดด้านขยะการแพทย์อย่างรัดกุมเพื่อสะดวกต่อการแยกและการนำไปจัดการต่อ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

            Set Zero Waste / รมย์รวินท์ Set Zero Waste

            หลังจากนี้จะเริ่มเดินหน้าสู่การตอบแทนโลกและสังคมมากขึ้น ลำดับถัดไปจะเป็นการร่วมมือกับผู้เข้ารับบริการในการสร้างประโยชน์ต่อสังคมร่วมกัน เพื่อให้เกิดสัมพันธ์อันดีระหว่างรมย์รวินท์คลินิกและผู้เข้ารับบริการ และยังได้สร้างประโยชน์ให้กับสังคมอีกด้วย

            Set Zero Waste / รมย์รวินท์ Set Zero Waste

            ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




              วันที่สะดวกในการติดต่อ








              OBAGI MEDICAL EXCLUSIVE PREMIERE NIGHT

              OBAGI MEDICAL EXCLUSIVE PREMIERE NIGHT

              ทีมแพทย์จากรมย์รวินท์คลินิกเข้าร่วมงาน OBAGI MEDICAL EXCLUSIVE PREMIERE NIGHT

              บริษัทเวชภัณฑ์ระดับโลกชื่อดังที่ดำเนินการพัฒนาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับโลกภายใต้ชื่อแบรนด์ OBAGI Medical Thailand โดยในครั้งนี้มีการจัดงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่

              OBAGI Medical Premiere

              รมย์รวินท์คลินิกได้รับเกียรติได้เข้าร่วมง่านโดย พญ.ฐานิสร ธรรมลิขิตกุล  (คุณหมอฐา) แพทย์ผู้อำนวยการรมย์รวินท์คลินิกแพทย์ผู้มีประสบการณ์ประจำรมย์รวินท์คลินิก และคุณณหมอแพร พญ.ธิรดา จิตตการ แพทย์ผู้มีประสบการณ์ประจำรมย์รวินท์คลินิก ได้เข้าร่วมภายในงานเปิดตัวครั้งนี้

              OBAGI Medical Premiere

              งานเปิดตัวครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ชื่อ “OBAGI MEDICAL EXCLUSIVE PREMIERE NIGHT” โดยทางรมย์รวินท์คลินิกได้รับเกียรติให้ร่วมงานพร้อมสัมผัสประสบการณ์ Feel It Working Experience และรับชมการ ถ่ายทอดสดสุดพิเศษจาก Dr.Suzan Obagi หัวหน้าผู้อำนวยการด้านการแพทย์คนล่าสุดของ OBAGI Medical เข้าให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเองผ่านทางวีดีโอ

              OBAGI Medical Premiere

               โดยงานครั้งนี้จัดขึ้นที่ โรงแรงคิมป์ตันมาลัย บางกอกสตูดิโอ (Kimpton MaaLai Bangkok Studio 4, 6TH Floor) ในวันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567

              OBAGI Medical Premiere

              งานนี้  Dr.Suzan Obagi หัวหน้าผู้อำนวยการด้านการแพทย์คนล่าสุดของ OBAGI Medical ทั้งยังเป็นแพทย์ผิวหนังและศัลยแพทย์ตกแต่งความงามที่มีผลงานที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ศัลยกรรมความงาม และด้านผิวหนังทั้งยังบทบาทสำคัญในการค้นคว้าวิจัยและกำหนดผลิตภัณฑ์ของ OBAGI Medical และแพทย์จากรมย์รวินท์คลินิกก็ได้เข้าชมการถ่ายทอดสดจาก Dr.Suzan Obagi โดยตรง ในครั้งนี้ด้วย นับว่าเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากและเป็นสิ่งดี ๆ ที่รมย์รวินท์คลินิกได้รับจาก งานครั้งนี้ 

              OBAGI Medical Premiere

              นอกจากการบรรยายและถ่ายทอดสดสุดพิเศษแล้ว ทางรมย์รวินท์คลินิกยังมีโอกาสได้ชื่นชมและทดลองผลงานผลิตภัณฑ์จากทางบริษัท OBAGI Medical ที่นำมาเปิดตัวภายในงาน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ยกตัวอย่างเช่น OBAGI MEDICAL Professional – C® Serum 20% ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เป็นการผสมผสานระหว่าง L-Ascorbic Acid 20% กับ Hyaluronic Acid ช่วยเรื่องผิวเปล่งประกายสุขภาพดี

              OBAGI Medical Premiere

              ทั้งนี้ยังได้ร่วมรับประทานอาหารร่วมกับแขกผู้มีเกียรติหลายท่านภายในงานแบบ 4 Course Dinner สุดพิเศษ และดื่มด่ำไปกับบรรยากาศการเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่ของแบรนด์ระดับโลกที่มีผลงานผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานระดับโลก นับว่าเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยาก 

              ทางรมย์รวินท์คลินิกรู้สึกเป็นเกียรติและได้รับข้อมูลที่เป็นอรรถประโยชน์จากงาน OBAGI MEDICAL EXCLUSIVE PREMIERE NIGHT และหวังว่าทางรมย์รวินท์คลินิกจะมีโอกาสนำข้อมูลที่ได้รับมาต่อยอดด้านการดูแลผิวพรรณรวมทั้งความงามของทางรมย์รวินท์คลินิก

              ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                วันที่สะดวกในการติดต่อ








                ทำไม? เจ้า “สิวตัวร้าย” ต้องมาในวันสำคัญด้วยนะ!

                acne

                ทำไม? เจ้า “สิวตัวร้าย” ต้องมาในวันสำคัญด้วยนะ!

                วันอาทิตย์นี้มีนัดเดทกับหนุ่ม ชุดพร้อม ทรงผมพร้อม เทคนิคแต่งหน้าพร้อม จะเช็กความสวยให้พร้อมอีกที! ก็ต้องกรี๊ดดดบ้านแตก เพราะเจ้า “สิวตัวร้าย” ดันโผล่ขึ้นมาทักทาย! ทำไมนะทำไม วันสำคัญทีไร เจ้าสิวพวกนี้ต้องขึ้นมาบนหน้าทุกที

                เคยสงสัยกันบ้างมั้ย? ว่าทำไมนะ ทำไม ใกล้วันสำคัญทีไร เจ้า “สิวตัวร้าย” ชอบโผล่มา.. เหมือนรู้ว่าจะต้องใช้หน้า แถมขึ้นมาทียังมาแบบเม็ดใหญ่ให้รู้กันไปเลยว่าเป็นสิว!

                ยัง..ยังไม่พอ ยังเรียกเพื่อนมารุมอีก ขึ้นมาที 3-4 เม็ด จนหมดความมั่นใจ ก็รู้นะว่าสิวอ่ะเรื่องธรรมชาติ แต่ไม่มีจะดีกว่ามั้ย..ทำยังไงดีเนี่ย!

                “สิว” เรื่องวุ่นๆ ของคนทุกวัย ไม่ว่าจะวัยเด็ก วัยหนุ่มสาว หรือวัยผู้ใหญ่ก็เป็นสิวกันได้ทั้งนั้น เพราะสิวเกิดจากการจับตัวกันของสิ่งสกปรก เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และความมันในรูขุมขน ก่อให้เกิดเป็นสิวอุดตัน โดยมีลักษณะเป็นตุ่มนูนบริเวณปากรูขุมขน และหากมีตัวกระตุ้นอย่างเชื้อแบคทีเรีย P.acnes ก็จะทำให้ลุกลามจนกลายเป็นสิวอักเสบได้!

                และที่หลายๆ คนเป็นสิวกันบ่อยๆ ในวันสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นวันนัดเดท วันรับปริญญา วันงานแต่ง สาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากความเครียด หรือความตื่นเต้นจนอาจทำให้นอนไม่หลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ

                ยิ่งใกล้วันสำคัญก็ยิ่งเครียด ยิ่งเครียดก็ยิ่งเป็น “สิว” จริงมั้ย?

                รู้มั้ยว่าความเครียดก็ส่งผลต่อการเกิดสิวได้เป็นเรื่องจริง! เพราะความเครียดทำให้เกิดการหลั่งฮอร์โมน Cortisol (คอร์ติซอล) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเสตียรอย์ชนิดหนึ่งที่ร่างกายผลิตขึ้น หากเกิดความเครียดสูง ร่างกายก็จะผลิตฮอร์โมนชนิดนี้ขึ้นมามากเกินความจำเป็น และเป็นตัวกระตุ้นฮอร์โมน Androgen (แอนโดรเจน) หรือฮอร์โมนเพศชาย ทำให้เกิดการผลิตน้ำมันในชั้นผิวมากยิ่งขึ้น จนเกิดเป็นความมันส่วนเกิน และเมื่อความมันส่วนเกินนี้ไปผสมกับเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ และแบคทีเรียที่ผิวหนังทำให้เกิดการอุดตัน จนนำไปสู่การเกิดสิวในที่สุด นอกจากนั้นความเครียดยังเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ปัญหาสิวแย่ลงอีกด้วย เรียกได้ว่ายิ่งเครียด สิวยิ่งขึ้น!

                ยิ่งใกล้วันสำคัญยิ่ง “ตื่นเต้น” ทำให้ยิ่งนอนดึก “สิว” ก็ยิ่งขึ้น!

                เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงต้องเคยเป็น เมื่อใกล้ถึงวันสำคัญทีไร ก็ยิ่งตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ และกว่าจะหลับได้ก็ดึกซะแล้ว! รู้มั้ยว่าการนอนดึกก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวตัวร้าย! เมื่อร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอกระบวนการซ่อมแซมร่างกาย หรือ Growth Hormone (โกรทฮอร์โมน) ก็ทำงานได้ไม่เต็มที่  ระบบการหมุนเวียนเลือด และต่อมน้ำเหลืองก็จะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน

                แล้วเวลาไหนล่ะ ที่เรียกว่านอนหลับเพียงพอ..จริงๆแล้วควรนอนให้ครบ 6-8 ชั่วโมง โดยเวลานอนที่ดีที่สุดคือ ควรนอนก่อนเวลา 22:00 เพราะเป็นช่วงเวลาที่ Growth Hormone ทำหน้าที่ซ่อมแซม และฟื้นฟูร่างกาย

                แต่ถ้า “ความเครียด” และ “ความตื่นเต้น” มันห้ามกันไม่ได้จริงๆ ก็ต้องมีวิธีจัดการ!

                  • หากิจกรรมทำเพื่อผ่อนคลายตัวเอง เช่น ดูหนังตลก ฟังเพลง ไปเที่ยวกับเพื่อน
                  • ฝึกนั่งสมาธิ เล่นโยคะ หรือคิดบวกให้จิตใจสงบ และยังสร้างทัศนคติที่ดีให้แก่ตัวเอง
                  • เล่นกีฬา หรือ ออกกำลังกาย เมื่อเราได้ออกแรงร่างกายจะหลั่ง Endorphin (เอ็นดอร์ฟิน) หรือฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา ยิ่งทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
                acne

                หรือหาวิธีจัดการกับเจ้า “สิวตัวร้าย” ก่อนวันสำคัญ

                วันสำคัญทั้งทีก็อดไม่ได้ที่จะเครียดหรือตื่นเต้น ในเมื่อจัดการกับความเครียดไม่ได้ ก็ต้องจัดการเจ้าสิวตัวร้ายให้อยู่หมัด อย่าให้โผล่มาทักทายในวันสำคัญ

                ยารักษาสิว ซึ่งมีอยู่มากมายในท้องตลาด หรือแพทย์สั่งจ่ายยาเพื่อรักษาอาการโดยเฉพาะ ซึ่งมีทั้งแบบที่เป็นยาปฏิชีวนะ  ยาที่มีอนุพันธ์ของวิตามินเอ หรือยารักษาสิวที่มีสารสกัดมาจากธรรมชาติ มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ลดอาการอักเสบของสิว ป้องกันการเกิดสิวใหม่ หรือช่วยในการรักษารอยแผลหลังสิวหาย

                การรักษาโดยการกด หรือฉีดสิว เป็นการรักษาสิวอีกวิธีหนึ่งซึ่งต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญ การกดสิวเหมาะกับการกำจัดสิวอุดตัน ทั้งหัวขาวและหัวดำ และอาจใช้ยาละลายหัวสิวร่วมกับการกดสิวด้วย ส่วนการฉีดสิวเหมาะกับการรักษาสิวอักเสบ ทั้งแบบไม่มีหัว สิวหนอง สิวหัวช้าง เพื่อลดอาการอักเสบและบวมแดง ทำให้สิวยุบตัวได้

                การรักษาสิวด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีที่นิยมกันอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้เวลาน้อย และเห็นผลลัพธ์ชัดเจน และนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาสิวแล้ว ยังช่วยในการรักษาร่องรอยจากสิวด้วย

                acne

                วิธีป้องกัน “สิวตัวร้าย” แบบง่ายๆ ต้องทำให้ได้นะ

                  1. ล้างหน้าให้สะอาด เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน หรือเหมาะกับผู้ที่เป็นสิว
                  2. อย่าใช้มือสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ และงดการ แคะแกะ หรือบีบสิวเอง จะทำให้สิวยิ่งอักเสบมากขึ้น
                  3. หาวิธีผ่อนคลาย ไม่ให้เกิดความเครียด เพราะเมื่อยิ่งเครียดจะยิ่งเป็นการกระตุ้นสิว
                  4. หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหากไม่จำเป็น เพื่อให้ผิวหน้าได้พัก
                  5. ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยทำให้ผิวสดใสมากขึ้น
                  6. เลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ และหลีกเลี่ยงอาหารที่ยิ่งกระตุ้นให้ผิวอักเสบ หรือผลิตน้ำมันมาก

                หรือมาให้รมย์รวินท์คลินิกช่วยจัดการด้วย Ac Clear ที่ช่วยเคลียร์ปัญหาสิวบนใบหน้า ให้หน้าใสด้วย 5 ขั้นตอนการรักษาดูแล

                  • กดสิว เริ่มต้นเคลียร์ใบหน้าด้วยการกด ทั้งสิวอุดตัน สิวหัวดำ สิวหัวขาว
                  • ฉีดสิว ลดการอักเสบของสิว และลดโอกาสการเกิดสิวใหม่
                  • ทรีตเมนต์ ผลักตัวยาสิวลงสู่ผิว ลดการอักเสบของสิว และบำรุงผิวให้กระจ่างใส
                  • มาสก์หน้า เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยให้ผิวผ่อนคลาย หน้ากระจ่างใส
                  • เลเซอร์ ช่วยลดความันบนใบหน้า กระชับรูขุมขน ลดรอยที่เกิดจากการกดสิว

                ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีของรมย์รวินท์คลินิก พร้อมดูแลความสวยให้คุณทั้ง 28 สาขาทั่วประเทศ ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด สวยได้ใกล้บ้านคุณ 

                ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                  วันที่สะดวกในการติดต่อ








                  สวยจึ้งแบบ “จิงจิง ยู” มีอยู่จริง!

                  จิงจิง

                  สวยจึ้งแบบ “จิงจิง ยู” มีอยู่จริง!

                  นับวันจะยิ่งสวยเปล่งออร่ามากๆ กับนางแบบสาวหน้าเฟียส หุ่นดี ที่เรียกได้ว่าสวยสับตั้งแต่หัวจรดเท้า  “จิงจิง ยู” บิวตี้ไอคอนนิคแห่งยุค ที่ตอนนี้งานรุมตอมสุดๆ ไม่เว้นแต่ละวัน แทบจะหาเวลาว่างไม่ได้ หลังจากที่สงสัยจนต้องตามไปหาข้อมูลเคล็ดลับความสวยของสาวคนนี้ ก็แอบไปเจอมาว่า เพราะสาว “จิงจิง ยู” ให้รมย์รวินท์คลินิกดูแลความสวย แบบทั่วทั้งร่างกาย ไม่เพียงแค่นั้น ยังเลิฟรมย์รวินท์คลินิกมากๆ จนเป็นพรีเซนเตอร์ให้รมย์รวินท์คลินิกอีกด้วย งานนี้การันตีได้เลยว่า ดีจริง เพราะเป็นผู้ใช้บริการจริงทุกโปรแกรม

                  ทั้งโปรแกรมหน้าใส โปรแกรมยกกระชับ และอีกหลากหลายโปรแกรมที่สาวจิงจิง ยู ต้องยกนิ้วให้เลยว่าดีจริง เห็นผลจริง

                  ใครอยากมีโครงหน้าสวย เฉี่ยว ยกกระชับ  ผิวดีแบบจิงจิง ยู ต้อง โปรแกรม Lifting Select ที่ช่วยวิเคราะห์ใบหน้าของผู้มาเข้ารับบริการ เพื่อค้นหาปัญหาผิวของแต่ละบุคคล พร้อมเลือกโปรแกรมที่เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด ด้วย 3 เฟรมเวิร์ก 

                  • FRAME SELECTION  ยกกระชับ ปรับโครงหน้า ให้ยกสวย  และมีผิวอ่อนวัยแบบไม่ต้องพึ่งแอปฯ 
                  • LIGHT & SHADOW สร้างมิติใบหน้า ให้เล่นแสงเงา สร้างกรอบหน้าชัดสวย แบบไม่มีที่ติ 
                  • CONCEAL SELECTION เก็บรายละเอียดงานผิวให้สวยเนียนกริบ  ต่อให้ซูมแค่ไหนก็มั่นใจไม่มีโป๊ะ

                  แต่ถ้าใครอยากรู้ว่ามีโปรแกรมไหนที่ตอบโจทย์แบบจึ้งๆ บ้าง เลื่อนลงไปดูคำตอบข้างล่างที่สาวจิงจิง ยู คอนเฟิร์มว่าดีกันเลยค่า..

                  หน้าไม่ยกกระชับ หย่อนคล้อย เหนียงโผล่ก็ต้องจัดการ

                  Jing Jing U Lifestyle

                  อย่าปล่อยให้ผิวหน้าเป็นไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก จัดการหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับด้วยโปรแกรมยกกระชับตัวดังจากรมย์รวินท์ คลินิก ไม่ได้มุสาว่า..ปึ้ง แต่ต้องมาลองเองแล้วจะรู้!

                  Oligio นวัตกรรมยกหน้าอันดับ 1 ใหม่ล่าสุดในขณะนี้ เจ็บน้อย แต่ได้ผลนาน

                  โปรแกรมยกกระชับที่ช่วยในการสร้าง  Skin quality ไปพร้อมๆกัน  ทำงานโดยการปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุแบบ Monopolar RF ลงลึกสู่ใต้ชั้นผิวไปยังชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และทำให้คอลลาเจนเกิดการเรียงตัวกันแน่น ปรับรูปหน้าให้ยกกระชับ ลดปัญหาความหย่อนคล้อย ทั้งยังลดไขมันส่วนเกินบนใบหน้า ลดหนียง เห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และไม่ต้องผ่าตัด หรือพักฟื้น

                  ULTHERA SPT หน้ายกได้ไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม

                  โปรแกรมยกกระชับ ปรับรูปหน้าให้สวยมีมิติ ยิงพลังงาน Focused Ultrasound ลงลึกถึงผิวชั้น SMAS ชั้นเดียวกับการผ่าตัดทำศัลยกรรม อย่างแม่นยำทุกช็อต ทำให้ผิวเกิดการหดตัวและกลับมาเรียงตัวกันแน่นกระชับเข้าหากันมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาริ้วรอยร่องแก้ม ผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ และเหมาะมากสำหรับคนที่อยากยกกระชับผิว แต่ไม่อยากผ่าตัดศัลยกรรม

                  NEW ULTRAFORMER MPT 4D LIFT ยกกระชับปรับรูปหน้า เก็บงานผิวได้ใน 1 เดียว  

                  Jing Jing U Lifestyle

                  โปรแกรมยกกระชับ ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหน้าด้วย Micro Pulsed Technology ปล่อยพลังงาน 417 จุดใน 1 ช็อต ช่วยกกระชับผิวหน้าได้ดีและไม่รู้สึกเจ็บ Ultra-booster หัวปากกาที่ปล่อยพลังงานเป็นวงกลม ช่วยเก็บงานผิวให้เนียนละเอียดมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการยกกระชับ ปรับรูปหน้าให้ชัดขึ้น และเพิ่มมิติให้ใบหน้าสวยทุกมุมมอง เหมาะมากสำหรับคนที่กลัวเจ็บ

                  Bar Lift Eat จนเหนียงออก แก้มบวมต้องลอง!

                  โปรแกรมยกกระชับ ปล่อยพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูง  (High Intensity Focused Ultrasound) ในรูปแบบ Linear Firm ส่งพลังงานลงสู่ชั้นใต้ผิวในพื้นที่ได้ลึก ครอบคลุม และแม่นยำ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสติน และยังช่วยลดไขมัน ตอบโจทย์ทั้งเรื่องการยกกระชับ และปรับรูปหน้าให้เรียว ช่วยเก็บรายละเอียดผิวให้เนียนเรียบ กระจ่างใส

                  ปรับหน้าให้ใสได้แบบ “จิงจิง ยู” มีอยู่จริง

                  Jing Jing U Lifestyle

                  ใครที่หน้ามีสิวซ้ำๆ ไม่กระจ่างใส อย่าปล่อยให้สิวมาบดบังความสวย เพราะรมย์รวินท์มีโปรแกรมให้หน้าใสปิ๊ง เลือกโปรแกรมให้เหมาะกับปัญหาสิว

                  AC Clear ยืนหนึ่งเรื่องสิว เพื่อผิวใส

                  โปรแกรมหน้าใส เคลียร์ทุกปัญหาสิวที่จัดการได้ถึงต้นตอ ป้องกันและลดโอกาสการเกิดสิวใหม่ในอนาคต ด้วย 5 ขั้นตอนการดูและรักษา

                    • กด : สิวอุดตัน สิวหัวดำ สิวหัวขาว เคลียร์สิวถึงต้นตอ สาเหตุของสิวอักเสบ 
                    • ฉีด : สิวอักเสบ สิวไม่มีหัว ตัดวงจรสิว ลดโอกาสการเกิดสิวใหม่ 
                    • ทรีตเมนต์ : ผลักตัวยา ลดการอักเสบและบำรุงผิว ฟื้นฟูผิวใส 
                    • มาสก์หน้า : เพิ่มความชุ่มชื้น ผ่อนคลายใบหน้า หน้ากระจ่างใส 
                    • เลเซอร์ : ลดรอยสิว ผิวกระจ่างใส

                  Color Ice โปรแกรมหน้าใส ผ่อนคลายผิว

                  โปรแกรมหน้าใส ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก ด้วยการใช้พลังงานความเย็น และ แสง LED 3 สี ที่มีคุณสมบัติช่วยจัดการปัญหาผิวที่แตกต่างกันไป

                    • Red Light : ลำแสงสีแดงช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้แก่ผิว ฟื้นฟูและปรับสภาพเซลล์ผิวที่เสื่อมให้กลับมาเรียบเนียน กระชับพร้อมช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือด ให้ผิวเปล่งปลั่ง กระจ่างใส
                    • Blue Light : ลำแสงสีฟ้าออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาสิวโดยเฉพาะ ทั้งช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในรูขุมขน พร้อมทั้งลดการอักเสบและการอุดตันของสิว
                    • Yellow Light : ลำแสงสีเหลืองช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นใยเซลล์ผิวให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ลดการอักเสบ บวม แตงของสิว ลดความหมองคล้ำ รวมถึงรอยดำจากฝ้า กระ ก็จะค่อยๆลดลง ปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส
                  Jing Jing U Lifestyle

                  NuPico Bright เคลียร์หน้าใส ไร้สิวฝ้า

                  โปรแกรมหน้าใส ยิงพลังงานเลเซอร์ลงสู่ใต้ชั้นผิว ตรงเข้าไปกำจัดเม็ดสีเมลานินที่เป็นส่วนเกิน สาเหตุของการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ เปลี่ยนให้ผิวกลับมาเรียบเนียน กระจ่างใส ไม่มีความเจ็บระหว่างทำ ไม่ทำให้เลือดออก หลังทำไม่ต้องพักหน้า

                  หรืออยากเสริมให้หน้าสวยจึ้งกว่าเดิมก็ต้อง Skin Booster ให้หน้าสวยใสแบบสาวจิงจิง ยู

                  Rejurun งานผิวฉ่ำ หน้าเด็ก

                  โปรแกรม Skin Booster ตัวช่วยเติมน้ำให้ผิวชุ่มชื้น ดูฉ่ำโกลว์ อิ่มน้ำ เสมือนบำรุงผิวมาอย่างดี พักผ่อนมาอย่างเต็มที่ และให้งานผิวเนียนละเอียด รูขุมขนกระชับ รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงว่าผิวดูมีสุขภาพดีขึ้น

                  Radiesse งานผิวอ่อนเยาว์ หน้าเด็กต้องยกให้

                  โปรแกรม Skin Booster ที่มีสารประกอบของ Calcium Hydroxyapatite หรือ CaHA สารที่มีอยู่ภายในร่างกายตามธรรมชาติ มีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง ฟื้นฟูผิวด้วยคุณประโยชน์ 5 ประการ ในหนึ่งเดียว ให้หน้าอ่อนเยาว์ แถมยังสร้างผิวให้ฉ่ำ อิ่มน้ำ มอบผลลัพธ์นานถึง 2 ปี

                  หน้าสวยยกกระชับ ได้รูปแล้ว แต่ยังอยากเสริมให้ดูจึ้งไม่จกตา

                  Jing Jing U Lifestyle

                  Body Firm by Emsculpt  ปั้นหุ่นสวย สั่งได้

                  โปรแกรมปั้นหุ่นให้เฟิร์ม สร้างซิกแพคได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเสียเหงื่อ เพียงแค่ทำ Body Firm by Emsculpt  ที่ปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเข้าไปกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหดเกร็งแบบเดียวกับการออกกำลังกาย ใช้เวลาแค่เพียง 30 นาที เทียบเท่ากับการซิทอัพได้ถึง 20,000 ครั้ง เหมาะสำหรับคนที่ต้องทำงานแล้วไม่มีเวลาออกกำลังกายแบบสุดๆ

                  Double Freeze by coolsculpting หนีบตรงไหน ก็หายวับ

                  โปรแกรมกำจัดส่วนเกิน ที่ไม่ทำให้เจ็บตัว ไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องทรมานตัวเอง ต้อง Double Freeze by coolsculpting ช่วยลดไขมัน และฆ่าไขมันด้วยความเย็น -11 องศา โดยใช้เวลาในการทำเพียง 35 นาที เท่านั้น สามารถลดไขมันได้ทุกจุด ทำได้ทุกส่วนของร่างกาย โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด หรือโปรแกรมดูดไขมัน ที่สำคัญรมย์รวินท์คลินิกมีการเพิ่มกำลังหนีบโดยการใช้สองหัวหนีบ เพื่อเพิ่มกำลังการฆ่าเซลล์ไขมัน แบบคูณ 2 จึงสามารถทำการลดไขมันได้เร็วกว่าและมากกว่า

                  Jing Jing U Lifestyle

                  สาวๆ คนไหนที่อยากต้องการดูแลตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ยังไม่มั่นใจว่าตัวเองเหมาะกับโปรแกรมไหน สามารถเข้ามาวิเคราะห์ปัญหา หรือปรึกษาคุณหมอก่อนได้ที่รมย์รวินท์คลินิกนะคะ

                  ใกล้ชิดกับ ROWOON แบบ EXCLUSIVE ในงาน OLIGIO SUMMER NIGHT

                  Rowoon

                  ใกล้ชิดกับ ROWOON แบบ Exclusive ในงาน Oligio Summer Night

                  หลังจากเปิดตัวไปอย่างเป็นทางการในประเทศไทยกับ “Oligio” นวัตกรรมยกกระชับใบหน้าตัวใหม่ล่าสุดที่ช่วยในการ “ปรับรูปหน้า” ยังช่วยในการสร้าง  Skin quality ให้ผิวสวยฉ่ำแบบสาวเกาหลีไปพร้อมๆ กับมีรูปหน้าสวยเรียวยกกระชับ เรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมยกกระชับที่สะเทือนวงการความงามอย่างสุดๆ

                  ไม่เพียงแค่นั้นเพราะ งานนี้ Oligio ใจดี ทำถึง ทำดี ทำได้มากกว่านั้น! ด้วยการเปิดตัวพรีเซนเตอร์ชื่อดังจากประเทศเกาหลี  หนุ่มหล่อสุดฮอตพ่วงดีกรีอดีตไอดอล ขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ทั่วโลกจากเกาหลีอย่างหนุ่ม “Rowoon” พร้อมทั้งพาบินลัดฟ้ามาพบปะแฟนคลับชาวไทยถึงที่ให้ได้ฟินสุดๆแบบฉุดไม่อยู่ไปเลย

                  เตรียมเคลียร์คิวให้ว่าง ใครมีนัดเตรียมยกเลิกนัดให้หมด เพราะ Rowoon มาจริงๆไม่ได้โกหกในงาน “Oligio Summer Night”  มาเปลี่ยนค่ำคืนของคุณให้แสนพิเศษไปกับ Rowoon

                  “Rowoon in Your area” First Come First Serve 

                  งานนี้รมย์รวินท์คลินิกก็ยังใจดี๊ใจดี มีรางวัลมาแจกให้แก่ผู้โชคดี จำนวน 4 ท่าน ได้เข้าร่วมภายในงาน “Oligio Summer Night” ให้มีความสุขกับค่ำคืนที่มีหนุ่ม Rowoon ร่วมด้วยในครั้งนี้ ให้ได้ไปฟินให้เต็มปอด กรี๊ดให้สุดเสียงไปเลย

                  เตรียมตัวให้พร้อม และอ่านกฎกติกาในการเป็นผู้โชคดีกันให้ละเอียด เพราะงานนี้พลาดแล้วพลาดเลยไม่มีแก้ตัวน้าาา

                  สำหรับผู้โชคดี 4 ท่านแรกที่มียอดซื้อโปรแกรม หรือหัตถการใดๆ ก็ได้ของรมย์รวินท์คลินิก ผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น โดยกำหนดตั้งแต่ยอดซื้อ 15,000 บาทขึ้นไป และต้องชำระเต็มจำนวน ในวันที่ 7 มิ.ย.67 ถึงวันที่ 14  มิ.ย.67 โดยยึดจากลำดับการลงทะเบียนพร้อมอัปโหลดหลักฐานการชำระเงิน และตรวจสอบจาก

                    1. ลำดับการลงทะเบียนที่อัปโหลดหลักฐานชำระเงิน   
                    2. สลิป วัน-เวลา ที่ชำระเงินผ่านบัตร หรือโอนเงินที่ปรากฏในสลิปทางออนไลน์เท่านั้น  
                    3. ผู้ที่ทำถูกต้องตามกติกาที่ทางรมย์รวินท์คลินิกกำหนด และตรวจสอบแล้วว่าถูกต้อง 
                    4. ทางรมย์รวินท์คลินิก จะอัปเดตรายชื่อผู้โชคดีให้ทราบ ในทุกๆ 3 วัน จนกว่าจะครบจำนวนที่กำหนด 
                    5. ประกาศรายชื่อผู้โชคดี 4 ท่านแรก ในวันที่ 15 มิ.ย. 67 (หากได้รายชื่อผู้โชคดีครบก่อนวันที่กำหนด จะประกาศรายชื่อให้ทราบก่อนวันที่ 15 มิ.ย. 67) 

                  Link สำหรับส่งหลักฐาน https://forms.gle/TQXd4zpzeWAVfo5p7

                  โดยทางรมย์รวินท์คลินิกจะประกาศรายชื่อผู้โชคดี 4 ท่านแรกที่ได้รับสิทธิ์ใกล้ชิดกับหนุ่ม Rowoon ในงาน “Oligio Summer Night” ในวันที่ 15 มิถุนายน 2567 ผ่านช่องทาง Facebook Fanpage RomrawinClinic  หรือคลิก https://www.facebook.com/RomrawinClinic   (หากได้รายชื่อผู้โชคดีครบก่อนวันที่กำหนด จะประกาศรายชื่อให้ทราบก่อนวันที่ 15 มิถุนายน 2567) 

                    

                  หมายเหตุ  

                  *จำกัดสิทธิ์ผู้โชคดีในการร่วมกิจกรรมที่ได้รับรางวัล 1 ท่าน ต่อ 1 สิทธิ์ 

                  *สิทธิ์รางวัลนี้ไม่สามารถคืนเงิน หรือเปลี่ยนของรางวัลเป็นเงินสดได้ 

                  *ผู้โชคดีไม่สามารถโอนสิทธิ์รางวัลที่ได้รับให้ผู้อื่นทุกกรณี 

                  *งานจัดในวันที่ 18 มิถุนายน 2567 สถานที่ Park Nai Lert Summer House & The Glass House ตั้งแต่ 17.00 น. เป็นต้นไป 

                  *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัท Wontech Asia และหรือผู้จัดงานกำหนด โปรดตรวจสอบรายละเอียด และเงื่อนไขเพิ่มเติมกับทางเจ้าหน้าที่หน้างานอีกครั้ง   

                  *งานนี้ไม่มีการขายบัตร โปรดระวังมิจฉาชีพ

                  ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                    วันที่สะดวกในการติดต่อ








                    รมย์รวินท์เข้าร่วมงาน Radiesse PLUS Exclusive Training Workshop

                    Radiesse Plus Workshop

                    ทีมแพทย์จากรมย์รวินท์คลินิกเข้าร่วมงาน Radiesse PLUS Exclusive Training Workshop ของ Merz Aesthetics

                    Merz Aesthetics บริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกี่ยวกับความงามได้จัดงาน Training Workshop เพื่ออบรมและถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับ Radiesse+ ที่เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันอังคาร ที่ 4 มิถุนายน 2567 โดยเป็นการนำเสนอเทคนิคการฉีด Radiesse+ สำหรับยกกระชับกรอบหน้า นอกจากงานอบรมแล้วยังมีการสาธิตขั้นตอนการฉีด Radiesse+ อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

                    Radiesse Workshop

                    ทางรมย์รวินท์คลินิกนำทีมโดย พญ.ฐานิสร ธรรมลิขิตกุล  (คุณหมอฐา) แพทย์ผู้อำนวยการรมย์รวินท์คลินิก พญ.อรุณี ทองอัครนิโรจน์ (หมอออย) แพทย์ผู้มีประสบการณ์ประจำรมย์รวินท์คลินิก รวมทั้งทีมแพทย์ประจำรมย์รวินท์คลินิกเข้าร่วมงานครั้งนี้

                    Radiesse Workshop

                    งานนี้จัดขึ้นภายใต้ชื่อRadiesse PLUS Exclusive Training Workshop”  โดยได้รับเกียรติจาก Dr.Luiz Perez แพทย์ผิวหนังผู้มีชื่อเสียงจากประเทศบราซิล มาเป็น Master Trainer งานครั้งนี้ได้จัดขึ้นที่ สถาบันสุขภาพและความงามตรัยญา ชั้น 4  (TRIA – Medical Wellness Center Jubilee Hall, 4th Floor ) ในวันพุธ ที่ 5 มิถุนายน 2567 เวลา 8:30 – 16:00 น.

                    Radiesse Workshop

                    ภายในงานแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงเช้าเป็นส่วนของการบรรยายเนื้อหาและการอบรมเป็นหลัก รวมถึงการสาธิตตัวอย่างการฉีด Radiesse+ และ ช่วงบ่ายเป็นส่วนของการเข้าร่วม Workshop และ การลงมือปฏิบัติกับเคสจริงของการฉีด Radiesse+

                    โดยหัวข้อสำคัญภายในงาน Radiesse PLUS Exclusive Training Workshop ประกอบด้วย

                    • RADIESSE+ FOR FACIAL LIFTING AND CONTOURING (ฉีด RADIESSE+ สำหรับยกกระชับใบหน้า) 
                      • เป็นการบรรยายและอบรมเกี่ยวกับ Radiesse+ รวมถึงเทคนิคต่าง ๆ สำหรับการฉีด Radiesse+ ยกกระชับบริเวณใบหน้า 
                    Radiesse Workshop
                    • KEY BENEFITS FOR POWERFUL LIFTING AND CONTOURING WITH PROGRAM RADIESSE PLUS (ประโยชน์สำคัญของการยกกระชับหน้าอย่างทรงพลังด้วยการฉีด Radiesse+)
                      • เป็นช่วงการบรรยายถึงประโยชน์ของการฉีด Radiesse+ ที่มีประสิทธิภาพด้านการยกกระชับอย่างเหนือชั้น
                    • Live Demonstration (การสาธิตการฉีด Radiesse+)
                    • Hands-on Workshop (ช่วงลงมือปฏิบัติกับเคสจริง)

                    โดยแพทย์ทุกท่านจากทางรมย์รวินท์คลินิกสามารถนำความรู้ที่ได้รับการอัปเดตจากงานนี้ มาพัฒนาต่อยอด และปรับใช้สำหรับการดูแลผู้เข้ารับบริการฉีด Radiesse+ ที่รมย์รวินท์เพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด

                    เคสตัวอย่างในวันนี้เป็นเพศหญิง ประสบปัญหาในเรื่องกรอบหน้าไม่ชัด ใบหน้าไม่มีมิติ ที่มีความต้องการปรับรูปหน้า เพิ่มแสงเงาให้ใบหน้ามีมิติ

                    หลังจากฉีด Radiesse+  จะทำให้ใบหน้ามีความคมขึ้นชัดขึ้น มีมิติมากขึ้น ทำให้ภาพรวมใบหน้าดูมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น

                    Radiesse Workshop

                    Radiesse+ กรอบหน้าชัดกับนวัตกรรมยกกระชับโฉมใหม่

                    Radiesse+ พัฒนามาจาก Radiesse ของ Merz Aesthetics โดยเน้นไปที่การปรับรูปหน้า ยกกระชับ เพิ่มกรอบหน้า ให้มีความคมชัด ด้วยส่วนประกอบของ CaHA (Calcium Hydroxylapatite) ที่มีส่วนช่วยเรื่องการกระตุ้นคอลลาเจนให้กับผิวบริเวณที่ฉีด และ  Lidocaine ยาชาที่ออกฤทธิ์ช่วยระงับประสาทสัมผัสบริเวณผิวที่ฉีด Radiesse+ ช่วยให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกผ่อนคลาย สัมผัสความเจ็บปวดน้อยลง นวัตกรรม Radiesse+ จึงเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่กรอบหน้าไม่ชัดด้วยผลลัพธ์ที่นานถึง 2 ปี

                    ใครสามารถฉีด Radiesse+ ได้บ้าง?

                      • เพศชายหรือหญิงที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป (แต่ไม่เกินอายุ 50 ปี) 
                      • มีความต้องการปรับรูปหน้า เพิ่มความคม ชัด ของโครงหน้าในส่วนกราม และโหนกแก้ม 
                      • ผู้ที่ไม่มีประวัติการแพ้ยาชา Lidocaine และมีการแจ้งประวัติการแพ้ยาอื่น ๆ เพื่อคัดกรองความปลอดภัย 
                      • ไม่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร 

                    วิธีการดูแลตัวเองหลังเข้ารับการฉีด Radiesse+

                      1. หลังจากเข้ารับบริการฉีด Radiesse+ ควรงดจากการแต่งหน้าอย่างน้อย 12 ชั่วโมง
                      2. หลีกเลี่ยงการนำมือไปสัมผัสบริเวณที่ฉีด ไม่ว่าจะมีอาการบวมหรือผิวบริเวณนั้นจับตัวเป็นก้อน
                      3. กรณีที่มีรอยช้ำบริเวณผิวที่เข้ารับการฉีด Radiesse+ แนะนำให้ทำการประคบเย็นวันแรก หลังจากนั้นเปลี่ยนมาประคบอุ่นเป็นประจำ โดยระหว่างนั้นสามารถทาหรือรับประทานยาแก้ปวดได้
                      4. หากพบอาการผิดปกติใด ๆ ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน

                    หากมีปัญหาเรื่องกรอบหน้าไม่ชัดใบหน้าไม่มีมิติสามารถแก้ปัญหาได้ด้วย Radiesse+ โดย สามารถเข้าปรึกษาปัญหาต่างๆเกี่ยวกับการปรับรูปหน้า และผิวพรรณ ได้รมย์รวินท์คลินิก อีกทั้ง รมย์รวินท์คลินิกยังมีบริการฉีด Radiesse ครบทั้งสองรุ่น และหัตถการอื่น ๆ พร้อมสำหรับการให้บริการ ซึ่งสามารถจัดการกับปัญหาผิวได้ครบถ้วนครอบคลุม สามารถมาติดต่อด้วยตัวเองได้ที่รมย์รวินท์คลินิกหรือช่องทางออนไลน์ทุกช่องทาง 

                    ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                      วันที่สะดวกในการติดต่อ








                      ทีมแพทย์รมย์รวินท์คลินิกเข้าอัปเดทความรู้ ในงาน Radiesse Plus Grand Launch Symposium

                      Program Radiesse +

                      Radiesse+ Lift & Contour ผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อมแก้ปัญหาหน้าไม่มีมิติ

                      ผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมความงามได้ปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นการพัฒนามาจาก Radiesse ที่มีชื่อคล้ายคลึงกันคือ Radiesse+ (Radiesse Plus) และได้มีการจัดงานเปิดตัวสำหรับ Radiesse+ Lift & Contour ขึ้น ภายใต้ชื่องาน Radiesse+ Grand Launch Symposium

                      Program Radiesse +

                      รมย์รวินท์คลินิกนำทีมโดย พญ.ฐานิสร ธรรมลิขิตกุล  (คุณหมอฐา) ผู้อำนวยการรมย์รวินท์คลินิก และทีมแพทย์ประจำรมย์รวินท์คลินิก เข้าร่วมภายในงาน งานนี้ถูกจัดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 4 มิถุนายน 2567 ในเวลา 9:00 – 12:00 น. ที่ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ ห้องบอลลูม ชั้น 2 (Siam Kempinski Hotel Bangkok Grand Ballroom, 2th Floor ) นับเป็นการจัดงานเปิดตัวที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งยังมีการให้ความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาโดยการฉีด Radiesse+ แลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการทำหัตถการ และแบ่งปันเทคนิคในการฉีด Radiesse+ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการรักษา

                      Program Radiesse +

                      ในงานครั้ง Luiz Perez,M.D DERMATOLOGIST ,BRAZIL  แพทย์ผิวหนังผู้มีชื่อเสียงจากประเทศบราซิล ได้ทำการให้ความรู้แก่แพทย์ผู้ร่วมงานด้วยตัวเอง ซึ่งการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ได้รับความรู้และความสนใจเป็นอย่างมาก

                      Program Radiesse +

                      โดยแพทย์ทุกท่านจากรมย์รวินท์คลินิกสามารถนำความรู้ที่ได้อัปเดตในงานนี้มาพัฒนาต่อยอด ปรับใช้และดูแล ผู้เข้ารับบริการ Radiesse+ กับทางรมย์รวินท์คลินิกต่อไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

                      จัดการกับปัญหากรอบหน้าไม่ชัดด้วย Radiesse+ ที่รมย์รวินท์คลินิก

                      Program Radiesse +

                      Radiesse+ ทำงานอย่างไร?

                      Radiesse+ มีส่วนประกอบของ CaHA + CMC gel และ Lidocaine ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Radiesse แบบเดิม โดยแพทย์จะทำการฉีด Radiesse+ ลงไปบริเวณกราม กรอบหน้า และโหนกแก้ม เพื่อปรับโครงหน้าบริเวณที่ฉีดลงไปเพื่อให้เกิดความคมชัดและมีมิติของใบหน้าที่เพิ่มมากขึ้น

                      Program Radiesse +

                      โดย CaHA เป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เติมเต็มผิว  ซึ่งหลังจากฉีด Radiesse+ ไปกรอบหน้าก็จะเริ่มมีความชัดเจน และใบหน้าจะมีมิติ คมชัดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

                      Program Radiesse +

                      Radiesse+ แตกต่างจาก Radiesse อย่างไร ?

                      • Lidocaine : เป็นยาชาที่ผสมรวมเข้ากับตัวยา Radiesse+ จึงมีความตอบโจทย์ต่อผู้เข้ารับบริการในด้านการลดความเจ็บระหว่างทำหัตถการ
                      • ผลลัพธ์ของหัตถการ : Radiesse+ เป็นโปรแกรมที่เน้นผลลัพธ์ด้านการยกกระชับกรอบหน้า ปรับโครงหน้าบริเวณกราม คาง และโหนกแก้ม ให้มีความคมชัด ดูมีมิติ ในขณะที่ Radiesse ช่วยเรื่องริ้วรอย เติมความอิ่มฟูให้กับผิว
                      • ตำแหน่งที่ฉีด : Radiesse+ จะเน้นฉีดบริเวณกราม คาง และโหนกแก้ม และเป็นการฉีดลงไปที่ผิวหนังชั้นลึกหรือชั้นใต้ผิวหนัง ส่วน Radiesse เน้นฉีดที่ผิวหน้าบริเวณชั้นหนังแท้
                      Program Radiesse +

                      ที่รมย์รวินท์คลินิกมีให้บริการทุกท่านทั้ง Radiesse และ Radiesse+ โดยสามารถเข้ามาปรึกษาปัญหาที่มีความกังวลได้ทุกสาขา สามารถจองผ่านช่องทางออนไลน์หรือเข้ามาสอบถามได้ที่หน้าสาขาพร้อมรับโปรโมชันดีได้ทุกสาขา

                      ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                        วันที่สะดวกในการติดต่อ








                        รมย์รวินท์ร่วมงาน Train the Trainer Masterclass & Workshop

                        Radiesse Training

                        “คุณหมอริว”เข้าร่วมงาน Merz KOL Train the Trainer Masterclass ที่จัดขึ้นสำหรับแพทย์ Trainer ของ Merz เท่านั้น

                        บริษัท Merz Aesthetics ผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมความงามได้จัดงาน Training & Workshop Program Radiesse+ เพื่อเป็นการอบรมความรู้เกี่ยวกับ Radiesse+ ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด นำเสนอเทคนิคการฉีดบริเวณโครงหน้าและลำคอ เพื่อให้การใช้ Radiesse+ ได้รับผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย

                        โดยงานจัดภายใต้ชื่อ “Merz KOL Train the Trainer Masterclass” ได้มีการเชิญ Dr.Luiz Perez แพทย์ผิวหนังผู้มีชื่อเสียงจากประเทศบราซิล มาเป็น Master Trainer     สำหรับงานในครั้งนี้ จัดขึ้นที่ สถาบันสุขภาพและความงามตรัยญา ชั้น 4  (TRIA – Medical Wellness Center Jubilee Hall, 4th Floor ) ในวันจันทร์ ที่ 3 มิถุนายน 2567

                        Radiesse Training

                        นพ. อัครวินท์ ดำรงวัฒนโภคิน (คุณหมอริว) เป็นตัวแทนจากทางรมย์รวินท์คลินิก เข้าร่วมงานในฐานะ “Radiesse Trainer”  ของประเทศไทย ภายในงานยังมีการ Workshop ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และเทคนิคอย่างละเอียด สามารถนำมาปรับใช้ในการรักษาคนไข้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

                        โดยหัวข้อสำคัญในงาน Merz KOL Train the Trainer Masterclass ครั้งนี้ ประกอบด้วย

                        • Radiesse+ for Facial Lifting and Contouring (Radiesse+ สำหรับยกกระชับโครงหน้าปรับรูปร่าง)
                          • เป็นการแนะนำเกี่ยวกับ Radiesse+ ให้กับทางคลินิก และนำเสนอเทคนิคการฉีดโครงหน้าบริเวณแก้มและกราม
                        • Program Radiesse Classic for Body Biostimulation (Radiesse สำหรับกระตุ้นชีวภาพร่างกาย)
                          • แนะนำเกี่ยวกับการเจือจางของ CaHA และนำเสนอเทคนิคการฉีด Radiesse สำหรับส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้กับทางคลินิก
                        • Live Demonstration (การสาธิตการฉีด Radiesse+ และ Radiesse Classic )
                        • Hands-on Workshop (ช่วงลงมือปฏิบัติด้วยเคสจริง)

                        Radiesse ประกอบไปด้วย  2 รุ่นได้แก่ Radiesse+ เหมาะสำหรับการฉีดเพื่อ ยกกระชับปรับโครงหน้า เพิ่มมิติ ความคมชัดให้กับบริเวณกรอบหน้า โหนกแก้ม และกราม ,Radiesse Classic สำหรับ การสร้างงานผิว เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ลดริ้วรอย ยกกระชับบริเวณลำคอ ช่วยลดรอยย่น รอบพับ บริเวณลำคอ

                        เคสตัวอย่าง เพศชาย มีรูปหน้าหวาน ที่ต้องการเพิ่มความคมชัดของสันกรามและโหนกแก้ม

                        Radiesse Training
                        Radiesse plus

                        คุณหมอริวเลือกใช้การฉีด  Radiesse+ ในการแก้ปัญหา โดยการฉีดเน้นบริเวณโหนกแก้ม และสันกราม เพื่อให้ใบหน้าดูมีความคมชัด เพิ่มความ Masculine ได้มากขึ้น

                        Radiesse Training

                        เคสตัวอย่าง เพศชาย มีลำคอยาว แต่มีรอยยับ รอบพับ และแห่งเหี่ยวกว่าวัย

                        Radiesse Training
                        Radiesse Training

                        คุณหมอริวเลือกใช้การฉีด Radiesse Classic ในการเพิ่มความชุ่ม เติมเต็มบริเวณรอยพับ รอบลำคอให้เต็มขึ้น เพิ่มความมั่นใจในเวลาแต่งตัวได้มากขึ้น

                        Radiesse Training

                        ทำความรู้จักกับ ‘Radiesse +’ นวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน

                        Radiesse+ คือ นวัตกรรมปรับรูปร่างโครงหน้าและเพิ่มมิติให้ใบหน้าด้วย CaHA (Calcium Hydroxylapatite) ที่พัฒนาจาก Radiesse Classic โดยเพิ่มส่วนประกอบของ  Lidocaine ทำหน้าที่เป็นยาชาช่วยลดอาการเจ็บ เวลาฉีด Radiesse+ จะรู้สึกสบายมากกว่าเดิม โดยภาพรวมแล้วการฉีด Radiesse+ จะช่วยยกกรอบหน้า เติมเต็มร่องลึก หน้าออกมาเป็นทรงสวยชัดเจน ผลลัพธ์อยู่นานถึง 2 ปี

                        Radiesse+ มีประโยชน์มากแค่ไหน ?

                        • สร้างกรอบหน้า V Shape จากเดิมที่เวลาอายุมากขึ้นผิวจะเริ่มขาดคอลลาเจน และเกิดการยุบตัวจนกรอบหน้าค่อย ๆ หายไป ผิวจากเดิมที่แน่นตึงก็เริ่มหย่อนคล้อย สังเกตเห็นริ้วรอยชัดเจน 
                        • โครงหน้าสวย จาก CaHA ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยจะเริ่มเห็นผลหลังจากผ่านไป 3 – 4 สัปดาห์ ช่วยเติมเต็มผิวหน้าบริเวณโครงหน้าและกราม ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนระยะยาว ผลลัพธ์จึงอยู่ยาวนานถึง 2 ปี 
                        • ด้วยส่วนประกอบของ Lidocaine จึงเป็นจุดที่คนเข้ารับบริการเกิดความพึงพอใจมากขึ้น เนื่องจาก Lidocaine ทำหน้าที่เป็นยาชาช่วยลดความเจ็บปวด ผลลัพธ์ของโครงหน้าสวยมีมิติเหมือนเดิม แต่ผ่อนคลายสบายยิ่งกว่าเดิม 

                        ระหว่าง Radiesse+ กับ Radiesse Classic ต่างกันอย่างไร ?

                        1. Program Radiesse+ กับ Radiesse มีความแตกต่างกันตั้งแต่เรื่องของส่วนประกอบ โดย Program Radiesse+ จะมี Lidocaine +0.3% ทำหน้าที่เป็นยาชา ลดความเจ็บปวด
                        2. Program Radiesse+ สามารถฉีดลงผิวหนังชั้นลึกหรือชั้นใต้ผิว ส่วน Program Radiesse จะฉีดลงที่ชั้นหนังแท้เท่านั้น
                        3. Program Radiesse จะมีผลลัพธ์ช่วยเรื่องกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ยกกระชับผิวให้เรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอย ส่วน Program Radiesse+ เน้นที่การปรับโครงหน้า กระชับกรอบหน้าให้ออกมาคมชัด นิยมฉีดไปที่บริเวณคาง ลำคอ และกราม
                        4. Program Radiesse จะเหมาะกับคนที่ต้องการกระชับผิว ต้องการผลลัพธ์งานผิวคุณภาพดี ส่วน Program Radiesse+ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับโครงหน้า มีกรอบหน้าไม่ชัด หรือผิวหย่อนคล้อยเพราะอายุที่มากขึ้น จึงอยากยกกระชับโครงหน้า

                        ทางรมย์รวินท์คลินิกมีบริการทุกสาขาสำหรับ Radiesse+ รวมถึงโปรแกรมอื่น ๆ ไม่ว่าปัญหาสภาพผิวแบบไหนก็สามารถจัดการได้ อีกทั้งที่รมย์รวินท์คลินิกยังมีแพทย์ที่เป็น Trainer ของ Radiesse โดยตรง ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกการรักษาเป็นการรักษาที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

                        เพียงเข้ามาที่รมย์รวินท์คลินิก เข้าปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ หากมีปัญหากรอบหน้าไม่ชัดมีรอยเหี่ยวย่นบริเวณลำคอให้ Program Radiesse+ แก้ปัญหา หรือถ้ามีปัญหาผิวอื่น ๆ ก็สามารถจัดการด้วย Program Radiesse และหัตถการอื่น ๆ ได้ที่รมย์รวินท์คลินิก

                        ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                          วันที่สะดวกในการติดต่อ








                          มองทางไหนก็เจอ PM 2.5 แล้วผิวเราจะเป็นอย่างไร ?

                          PM 2.5

                          ‘PM 2.5’ มลพิษตัวร้ายบ่อนทำลายผิวสวยที่เรารัก !

                          ตื่นขึ้นมายามเช้ามองออกไปนอกหน้าต่างนึกว่าหมอกลง แต่ที่ไหนได้กลายเป็นฝุ่น ‘PM 2.5’ ล้วน ๆ ! จากช่วงที่ผ่าน ๆ มาประเทศไทยก็ยังคงประสบกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ปะปนอยู่ในอากาศและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนเรา ไม่เพียงเท่านั้นนอกจากเรื่องของสุขภาพแล้วฝุ่น PM 2.5 ยังสะเทือนไปถึงด้วยความสวยของเราด้วย !

                          จากงานวิจัยของทางคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้มีการอธิบายถึงผลกระทบของ PM 2.5 ที่มีต่อผิวพรรณ โดยฝุ่นละออง PM 2.5 มีความสามารถในการทำลายเซลล์ผิวหนังกำพร้าของคนเรา และทำลายโปรตีน Filaggrin ที่มีหน้าที่ช่วยป้องกันผิวหนัง จนทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ อันเป็นสาเหตุทำให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมา ยิ่งเป็นคนผิวแพ้ง่ายยิ่งลำบากเข้าไปใหญ่ ! ฝุ่น PM 2.5 นี่มันแสบจริง ๆ !

                          PM 2.5 ทำร้ายผิวของเราไปแค่ไหนแล้ว

                          PM 2.5 ทำร้ายผิว

                          ละอองฝุ่นขนาดเล็กกก.. เพียง 2.5 ไมครอน กลับกลายเป็นภัยร้ายที่สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพกายและผิวพรรณ งานนี้จะเรียกว่าเล็กพริกขี้หนูก็คงไม่ผิดนัก เพราะนอกจากการสูดเข้าไปผ่านระบบหายใจจะทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งปอดแล้ว การสัมผัสฝุ่นละออง PM 2.5 ในอากาศเป็นประจำยังส่งผลกระทบต่อผิวระยะยาว

                          หากเราต้องเจอกับฝุ่น PM 2.5 เป็นประจำ ผลเสียที่เกิดขึ้นกับผิวของเราจะออกมาเป็นแบบไหนบ้าง มาดูกัน !

                            1. ผิวหนังเกิดการอักเสบ : อ้างอิงจากงานวิจัยของประเทศเนเธอร์แลนด์ได้ระบุไว้ว่า ‘ฝุ่น PM 2.5 เพียง 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรมาสัมผัสกับผิวหนังก็สามารถเกิดการอักเสบได้แล้ว’ ยิ่งเป็นคนผิวแพ้ง่ายยิ่งมีโอกาสอักเสบง่าย
                            2. สิวเห่อ สิวขึ้นไม่พัก ! : สมการผิวหน้ามัน + ฝุ่น PM 2.5 = พัง คือไม่เกินจริงเลย เพราะฝุ่น PM 2.5 จะยิ่งกระตุ้นให้ผิวที่มันอยู่แล้วเสี่ยงต่อการอุดตัน จนเกิดเป็นสิวเห่อลามไปทั่วใบหน้า
                            3. กระตุ้นการทำงานของเม็ดสีเมลานิน : PM 2.5 ส่งผลให้เม็ดสีทำงานมากกว่าปกติ จนเกิดเป็นรอยฝ้า กระ และจุดด่างดำต่าง ๆ
                            4. ผิวสูญเสียคอลลาเจน : PM 2.5 ยังคอยทำลายโครงสร้างผิวและคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิว ทำให้ผิวเกิดการหมองคล้ำ เกิดริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย

                          แชร์เคล็ดลับสวยท้าฝุ่น PM 2.5 ! จะกี่ไมครอนก็ไม่แคร์ !

                          ผิวแพ้ฝุ่น PM 2.5

                          เพราะความสวยมักมีอุปสรรค์อยู่เสมอ รมย์รวินท์จึงขอมาแชร์ทริคการดูแลตัวเอง ยกระดับความงาม ไม่ว่าสภาพอากาศจะแดงเดือดขนาดไหน เราจะจับมือสวยไปด้วยกัน ! บอกเลยว่าเคล็ดลับที่นำมาฝากในวันนี้ทำถึงแน่นอน เพราะเป็นเคล็ดลับการดูแลผิวในช่วง PM 2.5 ที่สามารถทำตามได้เลยไม่ยาก ถ้าพร้อมแล้วมาดูทริคแต่ละข้อไปพร้อม ๆ กันเลย !

                            1. ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนเป็นประจำ วิธีนี้จะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรก และฝุ่น PM 2.5 ที่ติดอยู่บนผิวออกไปจนหมด โดยอาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท Cleansing oil ร่วมด้วยเพื่อผิวที่สะอาดหมดจด
                            2. คอยบำรุงผิวด้วยครีมบำรุงและมอยเจอไรเซอร์ยู่เสมอ โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว และทาครีมกันแดดที่ช่วยป้องกันผิวจากแดดและมลภาวะต่าง ๆ อยู่เสมอ
                            3. เลือกสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดผิวมิดชิด ก็จะช่วยป้องกันให้ผิวของเราไม่สัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 โดยตรง อาจเลือกเป็นผ้าคลุมบาง ๆ มาปกปิดผิว จะได้ไม่ร้อนจนเกินไปเวลาเจอกับสภาพอากาศประเทศไทย
                            4. รักษาสุขภาพและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผิว โดยการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย  ดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้เพียงพอกับความต้องการอย่างน้อย 8 แก้ว เป็นประจำ ก็จะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาสุขภาพดี ชุ่มชื้น และลดอาการอักเสบลง อีกทั้งยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายด้วย

                          นอกจากดูแลผิวเองแล้ว หัตถการก็ช่วยกู้ผิวเสียจาก PM 2.5 ได้ !

                          หากเคล็ดลับการดูแลตัวเองรับฝุ่นยังไม่พออ… รมย์รวินท์คลินิกจัดให้ ! ด้วยสูตรลับต้นตำรับจากชาวรมย์รวินท์ โดยทางรมย์รวินท์ คลินิกมาพร้อมกับหัตถการทางเลือกมากมายที่ครอบคลุมทุกปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวหย่อนคล้อย หรือผิวแห้งเสียมีริ้วรอย ก็สามารถรักษาได้ โดยทางคลินิกมีประสบการณ์คอยกำกับดูแลเคสต่าง ๆ รวมถึงเทคโนโลยีเครื่องมือหัตถการที่มีความทันสมัย

                          การมาพบแพทย์ที่รมย์รวินท์คลินิกจึงเหมาะสำหรับคนที่เจอฝุ่น PM 2.5 ทำร้ายผิวมาตลอด และต้องการวิธีบำรุงผิวให้กลับมาสุขภาพดีอย่างรวดเร็ว

                          หลังจากนี้แนะนำให้จดโพยเลยนะ ! เพราะรมย์รวินท์จะมาแนะนำหัตถการที่ช่วยจบปัญหาผิวจาก PM 2.5 ส่วนหัตถการที่แนะนำจะปังจริงหรือเปล่า ก็ต้องมาทดสอบผลลัพธ์ที่รมย์รวินท์คลินิกแล้วแหละ !

                          Radiesse Biostimulator ที่มีส่วนประกอบของ CaHA (Calcium Hydroxylapatite) ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวด้วยการเติมความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย บอกลาปัญหาสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ อันมีสาเหตุมาจากแสงแดดและมลภาวะฝุ่น PM 2.5 ทำให้ผิวกลับมาสวยดังเดิม

                          Rejuran : เติมสารสกัดที่เป็นประโยชน์ต่อผิวพรรณด้วย Program Rejuran ช่วยเติมความชุ่มชื้น บำรุงผิวออกมาเรียบเนียน สวย สุขภาพดี ไม่ว่าจะเจอ PM 2.5 ทำร้ายมามากแค่ไหนก็กลับมามีผิวที่ดีด้วย Rejuran

                          P-White : ทรีตเมนต์ทางเลือกช่วยเติมวิตามิน ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส หน้าไบร์ท ลดรอยความหม่นหมอง อันมีสาเหตุมาจากฝุ่น PM 2.5 และมลภาวะต่าง ๆ ที่มาสัมผัสกับผิว

                          AC CLEAR II : ถึงคราวบอกลาสิวเห่อจาก PM 2.5 แล้วกับ 4 ขั้นตอนรักษาสิว เพียง กด – ฉีด – ทรีตเมนต์ – เลเซอร์ สิวที่เคยอุดตันจากมลภาวะและรอยสิวต่าง ๆ ก็จะเริ่มจางจนหายไป

                          และแน่นอนว่าที่รมย์รวินท์ คลินิก ยังมีหัตถการอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น EMFACE, Sylfirm x Plus, หรือ Oligio หากสนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและขอคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาผิวได้ที่รมย์รวินท์ คลินิก ทั้ง 28 สาขาใกล้บ้าน

                          ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                            วันที่สะดวกในการติดต่อ








                            Radiesse สารกระตุ้นคอลลาเจน ตัวใหม่ล่าสุดคืออะไร?

                            Radiesse


                            ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                              วันที่สะดวกในการติดต่อ








                              BEFORE & AFTER

                              Radieese
                              Radieese

                              Radiesse biostimulator งานผิวกระตุ้นคอลลาเจนผิวฉ่ำโกลด์

                              เทรนด์งานผิวที่เป็นที่สุดในช่วงนี้ที่ใคร ๆ ก็พูดถึง และเป็นกระแสดีไม่มีตกก็คงต้องยกให้งานผิว ไม่ว่าจะเป็น การดูแลผิวชั้นใน ผิวชั้นนอก หรือสร้างคอลลาเจนให้กับผิวเพื่อเสริม ทดแทน  และแทนที่คอลลาเจนบนใบหน้าที่เกิดการสูญเสียไปตามวัย โดยคอลลาเจนใต้ผิวของคนเราเมื่ออายุมากขึ้นจะไม่สามารถสร้างขึ้นได้เอง หากไม่มีสิ่งใดเข้าไปทดแทนหรือกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวให้เกิดการสร้างใหม่  ผิวหนังจะเกิดการหย่อนคล้อย หลวม ไม่แน่น พร้อมกันกับปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ ความแห้งกร้าน เหี่ยวหย่อนที่จะเกิดขึ้นเมื่อผิวของเราขาดคอลลาเจน

                              อีกทั้งด้วยสภาวะ มลพิษและปัจจัยต่าง ๆ ภายนอก เพียงแค่การดื่มน้ำให้มาก ๆ พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง คงไม่พอที่จะช่วยในเรื่องของการสร้างความชุ่มชื้นให้กับผิว เนื่องจากปัจจัยภายนอกไม่เหมือนกันกับเมื่อก่อน ดังนั้นการมีตัวช่วยที่ดี และทำควบคู่ไปกับการดูแลตัวเอง ก็นับเป็นสิ่งที่ดีที่จะช่วยฟื้นฟูผิว ให้ดีมากขึ้นไปอีกขั้นนั่นเอง

                              Radiesse biostimulator งานผิวกระตุ้นคอลลาเจนคือ ?

                              ตัวช่วยที่เป็นที่สุดแห่งยุคฟื้นฟูผิวจากภายในส่งผลให้ผิวสวยสู่ภายนอก โดยให้ผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติที่สุดในตอนนี้ คือ Radiesse biostimulator ตัวงานผิวกระตุ้นคอลลาเจนฟื้นฟูผิวถึงระดับโครงสร้าง ที่มีความแตกต่างจากงานผิวชนิดอื่น ๆ เนื่องจากไม่ได้มีส่วนประกอบหลักเป็น HA หรือ Hyaluronic acid เหมือนตัวฟิลเลอร์งานผิว และไม่ได้มีส่วนประกอบหลักที่ใช้ผลิตไหมสำหรับทำการเย็บแผลอย่าง PDO PCL PLLA หรือ PDLLA แต่ Radiesse เป็น biostimulator ที่ผลิตมาจากแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทด์ หรือ Calcium Hydroxylapatite microsphere เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเยื่อกระดูกที่ตอนนี้ใครๆก็เรียกกันว่า CaHA “คาฮ่าไมโครสเฟียร์” กันจนกลายเป็นคำติดปาก

                              CaHA Microspheres“คาฮ่า ไมโครสเฟียร์” เป็นสารที่ใช้มานานกว่า 25 ปีในวงการแพทย์ โดยเป็นสารที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้เองสามารถพบ CaHA “คาห้าไมโครสเฟียร์” ได้ที่บริเวณเนื้อเยื่อกระดูกรวมถึงในบริเวณฟัน แต่ Radiesse เป็น biostimulator ที่เกิดจากการสังเคราะห์จึงทำให้มีสารที่มีขนาดสม่ำเสมอเท่า ๆ กันในขนาด 25-45 ไมครอน สามารถ เข้ากันได้ดีกับร่างกายของมนุษย์ ไม่ก่อให้เกิดการกระตุ้นให้แพ้ เป็นสารที่ร่างกายไม่ต่อต้าน มีข้อมูลตีพิมพ์ทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนมากกว่า 250 ฉบับ จึงสามารถมั่นใจได้ในความปลอดภัย สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ รวมทั้งยังเป็นสารที่ได้รับการอนุมัติและรับรองจากยุโรป CE  US FDA หรือองค์การอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริกา และ THFDA องค์กรอาหารและยาของประเทศไทยใช้ฉีดที่หน้าและมือด้วย

                              เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังและใบหน้าจะเกิดการผลิตตัวที่น้อยลง และที่มีอยู่เดิมก็จะเริ่มเสื่อมสภาพ ความยืดหยุ่น ความแข็งแรงก็จะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ การใช้สารที่เป็นตัวกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวที่ดี ก็จะทำให้ผิวมีการฟื้นฟูที่ดี มีส่วนในการลดริ้วรอย ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดนั่นเอง

                              โดย Radiesse biostimulator มี Concept ส่วนตัวที่บ่งบอกถึงภาพรวมของผลิตภัณฑ์อยู่ว่า

                              “The One of a Kind Regenerative Biostimulator”

                              การทำงานของ Radiesse biostimulator

                               Radiesse biostimulator จะทำงานโดยการกระตุ้น Fibroblasts (ไฟโบรบลาส) โดย Fibroblasts จัดเป็นเซลล์ต้นกำเนิดในการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว และเป็นสิ่งที่ทำให้คอลลาเจนใต้ผิวมีจำนวนมากขึ้นเนื่องจาก CaHA ก็เป็นสารที่ก่อตัวเป็นโครงสร้าง จึงทำให้เกิดการกระตุ้นเซลล์ในร่างกายให้เกิดการผลิตคอลลาเจนหรือเส้นใยตาข่าย 3 มิติ (3D Matrix)โดยรอบโครงสร้าง  หลังจากนั้นจึงเกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ที่บริเวณใต้ชั้นผิว เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงลึกไปจนถึงขนาดโครงสร้าง จึงทำให้หลังทำการฉีด Radiesse biostimulator ผิวจึงได้รับการฟื้นฟูมากขึ้น ทั้งสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งสร้างได้มากถึง 250% ผิวจึงมีการเติมเต็ม อิ่มฟู มีการคืนตัวได้ดีได้ในทันทีหลังทำการฉีด Radiesse biostimulator

                              รวมทั้ง Radiesse ยังเป็นโปรแกรมที่ช่วยเติมเต็ม และทำให้ลดปัญหาเกี่ยวกับการสูญเสียไขมันบนใบหน้า ในผู้ที่มีโรคประจำตัวต่าง ๆ รวมไปจนถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว อันเนื่องมากจากไขมัน อาทิ โรค HIV Lipoatrophy ทั้งนี้หากมีโรคประจำตัวดังกล่าวที่ต้องการใช้ Radiesse ในการรักษาควรแจ้งให้แพทย์ทราบโดยละเอียด เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างปลอดภัย และเกิดผลลัพธ์ที่ดี

                              โดย Radiesse biostimulator มี สโลแกนที่ทำให้คนจำผลิตภัณฑ์ได้ง่ายว่าผิว YOUNG ดี ดู HEALTHY ได้กว่านี้ไปอีกนานเพื่อเป็นสิ่งบ่งบอกว่าหากได้ฉีด Radiesse ไม่ว่าจะเป็นใครก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีทุกคน

                              Radiesse biostimulator สามารถคงสภาพอยู่ใต้ชั้นผิวได้นานเท่าไร ?

                              Radiesse สามารถคงสภาพใต้ชั้นผิวได้นานถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละบุคคล


                              ระยะเวลาในการเห็นผลของ Radiesse biostimulator

                               Radiesse biostimulator จะสามารถแจกแจงผลลัพธ์โดยละเอียดได้ 3 ระยะหลังทำการรักษาดังนี้

                              1. ผลลัพธ์ทันทีหลังจากฉีด Radiesse

                              Radiesse จะเป็นสารที่สามารถเข้าไปเติมเต็มใต้ชั้นผิวได้ทันที โดยสามารถเปรียบเทียบได้กับการฉีดฟิลเลอร์ ที่สามารถช่วยในการเติมเต็มหรือทดแทนคอลลาเจนที่สูญเสียไปบริเวณใต้ชั้นผิวได้ ทั้งนี้ยังสามารถลดเลือนริ้วรอยได้อีกด้วย

                              2. ผลลัพธ์ระยะสั้น 1 สัปดาห์ – 1 เดือน หลังจากฉีด Radiesse

                              เมื่อทำฉีด Radiesse ไปในระยะ 1 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน CaHA ที่เป็นส่วนประกอบหลัก จะเกิดการทำงานโดยการเริ่มเข้าไปกระตุ้น Fibroblast ในบริเวณใต้ชั้นผิวให้เกิดการสร้างเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินเพิ่ม ซึ่งคอลลาเจนและอิลาสตินดังกล่าวจะเข้ามาแทนที Radiesse ที่ทำการฉีดเข้าไปในตอนแรก และค่อย ๆ สลายตัวไปจนหมดในที่สุด หลังจากนั้นก็จะได้ผิวที่มีความหนาแน่น นุ่มเด้ง อิ่มฟู และกระชับที่มากขึ้น

                              3. ผลลัพธ์ผลระยะยาว 6-24 เดือนหลังจากทำฉีด Radiesse

                              เมื่อทำฉีด Radiesse ไปในระยะ 6-24 เดือน เส้นใยคอลลาเจนและอิลาสติน จะถูกสร้างขึ้นมาอย่างเต็มที่ และเริ่มทำงาน ส่งผลให้ใบหน้ามีความแน่นขึ้น รวมทั้งยังได้สุขภาพผิวที่ดีขึ้นในระยะยาว ผิวที่หลวมก็จะดีขึ้น และแข็งแรงขึ้น 

                              ข้อมูลผลิตภัณฑ์

                              ขนาดบรรจุ Radiesse biostimulator

                              Radiesseกล่อง บรรจุด้วยกัน 1 ไซริงค์ 1 ไซริงค์ บรรจุ 1.5 cc และยังมีเข็มฉีดยาขนาด 27 บรรจุมาด้วยในกล่องพร้อมฉีด เพื่อความสะดวกสบายในการใช้บริการของแพทย์

                              Radiesse สามารถเก็บไว้โดย ไม่จำเป็นต้องนำเข้าตู้เย็น และเก็บในอุณหภูมิห้องได้นาน 2 ปี Storage temp 15-25 Celsius degree

                              รมรวินท์คลินิกเป็นคลินิกที่มีแพทย์ที่เป็น KOLs ของ Radiesse biostimulator อย่างคุณหมอออย พญ.อรุณี ทองอัครนิโรจน์ แพทย์ผู้มีประสบการณ์เป็นผู้ทำการรักษา และทำการเทรนด์ทีมแพทย์ในคลินิกอย่างใกล้ชิด จึงทำให้ทีมแพทย์ทุกท่านในรมย์รวินท์คลินิก มีความแม่นยำในการรักษาฉีด Radiesse biostimulator อีกทั้งยังสามารถฉีดให้ได้ผลลัพธ์ของโปรแกรมที่ดีที่สุด เชื่อถือได้ และปลอดภัยที่สุด

                              Radiesse biostimulator

                              ประโยชน์ของ Radiesse biostimulator 5 ประการ CaHA

                              1. Radiesse biostimulator ช่วยในการกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการสร้างคอลลาเจน type 1 ได้สูงสุดถึง 150%
                              2. Radiesse biostimulator ช่วยในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน type 3 ให้กับใต้ชั้นผิวสูงสุดถึง 130% โดยคอลลาเจน type 3 เป็นคอลลาเจนที่พบในผิวเด็ก และยังเป็นคอลลาเจนที่ทำงานร่วมกันกับคอลลาเจน Type1
                              3. Radiesse biostimulator ช่วยในการกระตุ้นอิลาสตินในบริเวณใต้ชั้นผิวสูงสุดถึง 250% โดยอิลาสตินนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น คืนตัวง่าย และเมื่อผิวมีอิลาสตินมากก็จะทำให้ผิวไม่มีริ้วรอย และทำให้ภาพรวมดูอ่อนกว่าวัย
                              4. Radiesse biostimulator ช่วยในการกระตุ้น Proteoglycan ที่เปรียบเสมือนตัวกักเก็บน้ำของผิว ยิ่งผิวมี Proteoglycan มากเท่าไร ยิ่งทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น อิ่มน้ำ มากเท่านั้น
                              5. Radiesse biostimulator ช่วยในการกระตุ้น Angiogenesis ที่เป็นเหมือนรากแก้ว ที่ช่วยสร้างเส้นเลือดที่ร่างกายใช้ในการหล่อเลี้ยงผิว ทำให้ผิวมีสารอาหารและมีการสูบฉีดเลือดอย่างทั่วถึง ทำให้เลือดสูบฉีดดี ผิวสวย มีเลือดฝาด ดูแดงอมชมพู

                              ประสิทธิภาพ 5 ประการส่งผลให้ Radiesse biostimulator ทำให้เกิผลลัพธ์ที่เหนือกว่าถึง 3 ประการ โดยสรุปได้ดังนี้

                              1. Healthier ทำให้ผิวมีสุขภาพดีมากขึ้นในทุกมิติ 
                              2. Younger ช่วยให้ใบหน้าภาพรวมดูอ่อนเยาว์ลง สัมผัสไปรู้สึกเหมือนผิวเด็กอีกครั้ง 
                              3. Longer ช่วยยืดอายุของผิวให้ดูดี ผิวดูเด็กได้ยาวนานขึ้น 

                              ลักษณะเด่นของ Radiesse biostimulator

                              • ลักษณะเด่นของ Radiesse คือ Strong Structural Skin ทำให้ผิวมีความแข็งแรงมากขึ้น โดยเป็นการเสริมสร้างให้ผิวมีความแข็งแรงลงลึกในระดับโครงสร้าง
                              • ลักษณะเด่นของ Radiesse คือ Profound Rejuvenation ฟื้นฟูผิวในระดับล้ำลึกอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ภาพรวมของผิวดูดีและแข็งแรงมากขึ้น
                              • ลักษณะเด่นของ Radiesse คือ Cell Regenerative Stimulation ช่วยให้เกิดการสร้างเซลล์ใหม่ เพื่อมาทดแทนเซลล์เดิมที่เกิดการสูญเสียไป และเพิ่มความหนาแน่นในผิวที่เริ่มหย่อนคล้อยและหลวม
                              Radiesse biostimulator

                              ข้อดีของ Radiesse biostimulator

                              •  Radiesse ช่วยในการเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ทั้งยังช่วยทำให้ผิวมีความแน่นกระชับมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
                              •  Radiesse ช่วยในการลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ ทั่วทุกบริเวณ
                              •  Radiesse ช่วยในการเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกดูตื้นขึ้น
                              • Radiesse ช่วยในการกระตุ้นให้เกิดกระบวนการผลิตคอลลาเจนของผิวตามธรรมชาติ
                              • Radiesse ช่วยในการฟื้นฟูทั้งยังช่วยเสริมสร้างให้ผิวมีคุณภาพมากขึ้นทุกประการ
                              • Radiesse มีความปลอดภัย เป็นการใช้สารที่มีในร่างกายในการฟื้นฟูผิว ไม่แปลกปลอม สลายได้เองตามธรรมชาติ จึงไม่ตกค้าง และไม่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบของผิว
                              • Radiesse ใช้ระยะเวลาในการทำสั้นมาก เพียง 30-60 นาที และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานถึง 1 ปี (ทั้งนี้เป็นผลลัพธ์เฉพาะบุคคล)

                              Radiesse biostimulator ใช้ฉีดบริเวณใดได้บ้าง

                              • Radiesse ใช้ฉีดบริเวณใบหน้าส่วนกลาง หรือ middle face”
                              • Radiesse ใช้ฉีดบริเวณใบหน้าส่วนล่าง หรือ lower face”
                              • Radiesse ใช้ฉีดบริเวณลำคอ
                              • Radiesse ใช้ฉีดบริเวณหลังมือ
                              Radiesse biostimulator

                              Radiesse biostimulator เหมาะกับใคร ?

                              • Radiesse เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป 
                              • Radiesse เหมาะกับผู้ที่มีผิวเหี่ยว มีริ้วรอย ร่องลึกที่ต้องการเติมเต็ม 
                              • Radiesse เหมาะกับผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับที่ต้องการฟื้นฟู 
                              • Radiesse เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ในการรักษาที่รวดเร็ว 
                              • Radiesse เหมาะกับผู้ที่มีคอและหลังมือเหี่ยว ที่ต้องการแก้ปัญหา 
                              • Radiesse เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยที่ต้องการแก้ปัญหาในระยะยาว 

                              Radiesse biostimulator ไม่เหมาะกับใคร ?

                              • Radiesse ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคที่เกี่ยวกับอาการเลือดออกง่าย
                              • Radiesse ไม่เหมาะกับสตรีที่ตั้งครรภ์ และสตรีที่อยู่ในระยะให้นมบุตร
                              • Radiesse ไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติการแพ้ส่วนประกอบในตัวยา

                              ระยะเวลาในการฉีด Radiesse biostimulator ในแต่ละครั้ง

                              Radiesse biostimulator ใช้ระยะเวลาในการทำเพียง 30 นาทีถึง 60 นาทีเท่านั้น


                              การเตรียมตัวก่อนฉีด Radiesse biostimulator

                              1. Radiesse ก่อนทำให้งดการรับประทานยาที่ทำให้เลือดแข็งตัว อาทิ ยาจำพวกแอสไพริน น้ำมันตับปลา วิตามินอี โสม กระเทียม กิงโกะ เป็นต้น เพื่อป้องกันการเลือดออกมาก 
                              2. Radiesse ก่อนทำให้งดการทำสครับผิว หรือการผลัดเซลล์ผิวด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อป้องกันการอักเสบของผิว
                              3. Radiesse ก่อนทำควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวพร้อมกับการบำรุง 

                              ขั้นตอนการทำการฉีด Radiesse biostimulator

                              1. ผู้ช่วยแพทย์เก็บผมให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมความพร้อมในการฉีด Radiesse 
                              2. ผู้ช่วยแพทย์ทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ 
                              3. ทา หรือ ฉีดยาชา เพื่อบรรเทาความเจ็บระหว่างการรักษา 
                              4. ทำการฉีด Radiess บนใบหน้า หรือบริเวณที่ต้องการทำการรักษา 
                              5. ผู้ช่วยแพทย์กดห้ามเลือด 

                              การดูแลตัวเองหลังฉีด Radiesse biostimulator

                              1. หลังฉีด Radiesse ให้งดกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก
                              2. หลังฉีด Radiesse ให้งดการโดนแสงแดด หรือทำกิจกรรมที่โดนความร้อนมากๆ
                              3. หลังฉีด Radiesse ไม่เอามือไปสัมผัสบริเวณที่ทำการรักษา เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

                              ผู้ที่ต้องปรึกษาแพทย์และแจ้งข้อมูลโดยละเอียดก่อนทำการรักษาด้วย Radiesse biostimulator

                              • ผู้ที่มีอาการผิวหนังมีการติดเชื้อ 
                              • ผู้ที่มีอาการเป็นสิวเรื้อรัง  
                              • ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคเริม 
                              • ผู้ที่มีประวัติการใช้ยาละลายลิ่มเลือด หรือยาที่ก่อให้เกิดการแข็งตัวของเลือด 
                              • ผู้ที่มีประวัติมีแผลแล้วกลายเป็นคีลอยด์ 
                              Radiesse biostimulator
                              Radeisse

                              ผลข้างเคียงของการฉีด Radiesse biostimulator

                              1. สามารถเกิดรอยแดงรอย จ้ำ หรือรอยเขียวช้ำหลังจากทำการฉีด Radiesse โดยอาการนี้เป็นอาการปกติ ที่สามารถเกิดขึ้นในเวลาชั่วคราว และสามารถหายได้เอง
                              2. อาจเกิดอาการคันได้ที่บริเวณที่ฉีด Radiesse โดยอาการคันที่เกิดขึ้นสามารถหายได้เอง
                              3. อาจเกิดการปวด หรือเจ็บบริเวณรอยเข็มที่ทำการฉีด Radiesse หากมีสิ่งสกปรกไปโดนอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
                              4. อาการดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น อาการคัน เจ็บ ปวด หรือรอยแดง สามารถหายได้เองใน 1-2 วัน หากเป็นนานมากกว่า 1-2 วัน ควรปรึกษาคลินิกหรือแพทย์ที่ให้บริการ
                              5. อาจมีการเปลี่ยนสีของผิวในบริเวณที่ทำ อาทิ ผิวซีดซึ่งหากเกิดอาการดังกล่าวให้ปรึกษาแพทย์
                              Radeisse

                              Radiesse biostimulator ต่างกับ Sculptra อย่างไร ?

                              • Radiesse ผลิตโดยการใช้สาร CaHA Microspheres เป็นสารสังเคราะห์ที่มีลักษณะเนื้อสารเป็นเจลมาในไซริงค์ ใช้ในการสร้างคอลลาเจนไทป์ 1 และไทป์ 3 ใช้สำหรับการฉีด เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ฟื้นฟูผิวในระดับโครงสร้าง  ยกกระชับความหย่อนคล้อย และเติมเต็มผิวในบริเวณที่มีความบกพร่อง โดยเห็นผลทันทีในการทำ อันเนื่องมาจากเนื้อเจลของตัวยา คงผลลัพธ์ยาวนาน 2 ปี
                              • Sculptra ผลิตโดยการใช้สาร PLLA (Poly-L-Lactic Acid) เป็นสารที่ใช้ในการผลิตไหมเย็บแผลใช้ในการสร้างคอลลาเจนไทป์ 1 ถึง 66.5% ใช้ในการฉีดเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยในการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว ฟื้นฟูผิวจากภายในให้ส่งผลสู่ภายนอก  คืนความอ่อนเยาว์ หลังการฉีดจำเป็นต้องทำการนวด 5 วัน เพื่อเป็นการกระจายตัวยาและเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด จะเห็นผลหลังการฉีด Sculptra ประมาณ 5 วัน เนื่องจากจะต้องรอสาร PLLA จะออกฤทธิ์ และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้นหลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน มีผลลัพธ์ที่ยาวนาน 2 ปี
                              • จะเห็นได้ว่าทั้งสองโปรแกรมใช้สารในการผลิตที่แตกต่างกัน จึงทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกัน 100%  อีกทั้งลักษณะของเนื้อสารยังไม่เหมือนกัน ทำให้ผลลัพธ์หลังจากการฉีดทันที่จะเห็นผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกัน สามารถทำทั้งสองชนิดควบคู่กันได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการฟื้นฟูโครงสร้างผิวที่ดีที่สุด
                              Radeisse

                              Radiesse biostimulator ต่างกับ Gouri อย่างไร ?

                              • Radiesse ผลิตโดยการใช้สาร CaHA Microspheres เป็นสารสังเคราะห์ที่มีลักษณะเนื้อสารเป็นเจล มาในไซริงค์  ใช้ในการสร้างคอลลาเจนไทป์ 1 และไทป์ 3 ใช้สำหรับการฉีดเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ให้เกิดการสร้างในระยะยาว ฟื้นฟูผิวในระดับโครงสร้าง ยกกระชับความหย่อนคล้อย และเติมเต็มผิวในบริเวณที่มีความบกพร่อง โดยเห็นผลทันทีในการทำ อันเนื่องมาจากเนื้อเจลของตัวยา คงผลลัพธ์ยาวนาน 2 ปี
                              • Gouri ผลิตโดยการใช้สาร PCL (Polycaprolactone) มีลักษณะเป็นของเหลวมาในไซริงค์ (Fully Liquid) ช่วยในการป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคต เติมเต็มผิวทำให้ผิวอิ่มฟู คงผลลัพธ์ในผิวได้ 1 ปี
                              • จะเห็นได้ว่าทั้งสองโปรแกรมให้ผลลัพธ์ในการรักษาที่มีความคล้ายคลึงกัน และ Gouri มีอายุการคงผลลัพธ์ที่สั้นกว่า Radiesse 
                              Radeisse

                              Radiesse biostimulator ต่างกับ Rejuran อย่างไร ?

                              • Radiesse ผลิตโดยการใช้สาร CaHA Microspheres เป็นสารสังเคราะห์ที่มีลักษณะเนื้อสารเป็นเจล มาในไซริงค์ ใช้ในการสร้างคอลลาเจนไทป์ 1 และไทป์ 3 ใช้สำหรับการฉีดเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้เกิดการสร้างในระยะยาว ฟื้นฟูผิวในระดับโครงสร้าง  ยกกระชับความหย่อนคล้อย และเติมเต็มผิวในบริเวณที่มีความบกพร่องโดยเห็นผลทันทีในการทำ อันเนื่องมาจากเนื้อเจลของตัวยา คงผลลัพธ์ยาวนาน 2 ปี
                              • Rejuran เป็นโปรแกรมฉีดในกลุ่ม Skin Booster ผลิตโดยการใช้ Polyneucleotide (พอลินิวคลิโอไทด์) หรือ PN จากปลาแซลมอน ช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวกระจ่างใส ชุ่มชื้น ลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ รอยแดง รอยดำ รวมทั้งรอยสิว เสริมสร้างผิวให้มีความแข็งแรงมากขึ้น คงผลลัพธ์ได้นาน 3-6 เดือน
                              • จะเห็นได้ว่าทั้งสองโปรแกรมช่วยแก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกัน และทำงานกับผิวคนละชั้นผิว โดย Radiesse จะทำงานในชั้นผิวที่ลึกกว่า และ Rejuran จะทำงานกับผิวบริเวณชั้นตื้น จึงสามารถทำการรักษาร่วมกันเพื่อเป็นการเป็นการดูแลผิวอย่างครบถ้วนทุกมิติได้โดยสมบูรณ์แบบ ทั้งเป็นการสร้างคอลลาเจน ทั้งสร้างความชุ่มชื้น  รูขุมขนกระชับ ลดความโทรมของใบหน้าได้ด้วย
                              Radeisse

                              ทำไมควรฉีด Radiesse biostimulator ที่รมย์รวินท์คลินิก

                              1. ที่รมย์รวินท์คลินิกมีแพทย์ผู้ชำนาญการ และเป็น KOLs ของ Radiesse อย่างคุณหมอออย พญ.อรุณี ทองอัครนิโรจน์ แพทย์ผู้ชำนาญการประจำรมย์รวินท์คลินิก
                              2. ที่รมย์รวินท์คลินิกแพทย์ทุกท่าน ได้รับการเทรนการทำผลิตภัณฑ์ Radiesse มาจนชำนาญ
                              3. ที่รมย์รวินท์คลินิกแพทย์วิเคราะห์ปัญหาของคนไข้ทุกท่านตามจริงแบบเคสต่อเคส
                              4. ที่รมย์รวินท์คลินิกมีการดูแลความสะอาดตรงตามหลักกระทรวงสาธารณะสุข
                              5. ที่รมย์รวินท์คลินิกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ จากบริษัทจัดจำหน่ายจริงสามารถตรวจสอบได้
                              6. ที่รมย์รวินท์คลินิกมีประสบการณ์กว่า 20 ปีในการรักษา และดูแลด้านความงาม
                              7. ที่รมย์รวินท์คลินิกมีการจัดอบรมพนักงาน เพื่อให้การเข้ารับบริการของคนไข้ในทุกครั้งเป็นการรับบริการที่ดีที่สุด
                              8. ที่รมย์รวินท์คลินิกมีสาขามากมาย เพื่อพร้อมสำหรับการดูแลรักษาคนไข้ทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด รวม 26 สาขา
                              9. ที่รมย์รวินท์คลินิกมีที่จอดรถมากมาย
                              10. คลินิกทุกสาขาสามารถเดินทางได้สะดวกสบาย

                              รู้แบบนี้แล้วไม่ต้องลังเลรีบเข้ามารับบริการ พร้อมรับโปรโมชันสุดพิเศษได้ที่ รมย์รวินท์คลินิก ได้แล้ววันนี้ 

                              Radeisse

                              ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                Promotion 6.6 Rain Season ลดท้าฝน

                                โปรโมชัน 6.6

                                ลดสุดๆรับหน้าฝน ฝนตกทั้งที จะปล่อยอะไรไหลไปกับฝนก็ได้ แต่จะปล่อยให้ความสวยไหลออกไปไม่ได้ !

                                หน้าฝนทั้งที ชุ่มฉ่ำทั้งตัวทั้งใจ และความสวยที่รมย์รวินท์คลินิกมอบให้แบบสุดตัวในฤดูฝนแบบนี้

                                 จะสวยทั้งที ต้องไม่ปล่อยให้ความสวยรั่วไหล ออกไปกับสายฝน และจะต้องสวยทั้งตัวไปเลยตั้งแต่หัวจรดเท้า ตั้งแต่งานหน้า งานตัว งานผิว ไปถึงงานขน เอาให้แบบสวยสุด ทะลุสายฝนไปเลย

                                กับ Promotion พิเศษต้อนรับ 6.6  งานนี้รมย์รวินท์คลินิกจัดให้แบบไม่มีกั๊ก

                                แอบกระซิบเบาๆไม่ให้ฟ้าผ่าว่า โปรโมชันนี้เฉพาะลูกค้าที่จองผ่านช่องทางออนไลน์ของรมย์รวินท์คลินิกเท่านั้น

                                 

                                สามารถจับจองโปรโมชัน 6.6  ก่อนใครได้ตั้งแต่วันที่ 4-10 มิ.ย.67 เท่านั้นน้าา 

                                โปรโมชัน 6.6 / Promotion 6.6

                                โปรทดลองกำจัดขนรักแร้ 

                                กำจัดหมด ละเอียด เนี้ยบถึงราก ถึงโคน ไม่เจ็บ ไม่แสบ ไม่เบิร์น ไม่ทิ้งตอ ไม่คัน  

                                ในราคา 590 บาท จากราคาปกติ 3,400 บาท (โปรโมชันสำหรับทดลองทำครั้งแรก) 

                                โปรโมชัน 6.6 / Promotion 6.6

                                Ac Clear I

                                โปรแกรมรักษาสิวใน 4 ขั้นตอน ปราบสิวอย่างอยู่หมัด

                                  1. กดสิว   เพื่อลดการอักเสบและเคลียร์สิวอุดตัน 
                                  2. ฉีดสิว ลดโอกาสการของการเกิดสิวใหม่และตัดวงจรการอักเสบของสิว 
                                  3. ทรีตเมนต์ P-Acne สูตรเฉพาะของรมย์รวินท์คลินิก ผลักตัวยาเพื่อลดการอักเสบจากสิว  
                                  4. และบำรุงผิวด้วยวิตามิน เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว 
                                  5. มาส์ก ฟื้นฟูผิวและลดการบวมแดงจากการเกิดสิว 

                                ทุกขั้นตอนควบคุมด้วยแพทย์ผู้ชำนาญการ จึงทำให้การรักษาได้ผลลัพธ์ที่ดี เห็นผล ไม่ก่อให้เกิดสิวอักเสบหลังทำการรักษาในราคาพิเศษเพียง 900 บาท จากราคาปกติ  2,100 บาท 

                                โปรโมชัน 6.6 / Promotion 6.6

                                Back Clear I

                                โปรแกรมรักษาสิว ที่หลังด้านบนและหลังด้านล่าง ดูแลอย่างละเอียด ทุกขั้นตอนได้รับมาตรฐาน ปลอดภัย ไม่กลับมาเป็นสิวซ้ำถึง 5 ขั้นตอน

                                  1. กดสิว เพื่อลดการอักเสบของสิว
                                  2. ฉีดสิว ลดการอักเสบของสิว รวมทั้งตัดวงจรการกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ  
                                  3. และลดโอกาสในการเกิดสิวใหม่
                                  4. ทรีตเมนต์ P-Acne ผลักตัวยาเพื่อลดการอักเสบจากสิว และบำรุงผิวด้วยวิตามิน เพิ่มความชุ่มชื้น
                                  5. มาส์ก ฟื้นฟู และลดอาการบวมแดงจากสิว

                                ในราคา 1 ครั้ง 1,800 บาท จากปกติ 3,700 บาท

                                โปรโมชัน 6.6 / Promotion 6.6

                                ให้วิตามินผิว เพื่อการฟื้นฟูผิว ปรับผิวกระจ่างใส เพิ่มความสดชื่น เเละ ให้วิตามินล้างสารพิษในร่างกายซึ่งจะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น

                                  • ให้วิตามินผิวสูตร White & Fresh ช่วยบำรุงให้ผิวขาว และยังปรับผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้น
                                  • ให้วิตามินผิวสูตร Detox ช่วยในการปรับสมดุลให้ร่างกาย ขับสารพิษ รวมทั้งยังช่วยฟื้นฟูสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงยิ่งขึ้น

                                ราคาแบบพิเศษ 1 เเถม 1 ในราคา 3,999 บาท จากราคาปกติ 5,000 บาท

                                โปรโมชัน 6.6 / Promotion 6.6

                                Ultraformer MPT 4 Lift

                                ยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอย ไปพร้อมกับลดไขมันบนใบหน้าได้ในเครื่องเดียว

                                ในราคา 4,900 บาท จากราคาปกติ 10,000 บาท

                                โปรโมชัน 6.6 / Promotion 6.6

                                Sculptra

                                โปรแกรมฉีดสาร PLLA เพื่อสร้างคอลลาเจนใต้ผิวทำให้ผิวหนาขึ้น ลดริ้วรอย และความหย่อนคล้อย โดยไม่มีสารแปลกปลอมและไม่อันตราย

                                4 ขวด  ในราคา 100,000 บาท คิดเป็นขวดละ 25,000 บาท เท่านั้น จากราคาปกติ 245,000 บาท  

                                ไม่เพียงแค่นั้น จองโปรโมชันนี้รับไปเลยฟรีๆ ฉีดโบ ยับยั้งกล้ามเนื้อ ลดกราม และริ้วรอย จำนวน 100 U. มูลค่าถึง 20,000 บาท

                                รีบจับจองกันเข้ามาก่อนหมดสิทธิ์น้า สิทธิ์มีจำนวนจำกัด ช้าหมดอดสวยรับฤดูฝนน้า 

                                *โปรโมชัน 6.6 นี้ตั้งแต่วันที่ 4-10 มิ.ย.67 เท่านั้น 

                                *อาจารย์แพทย์ไม่เข้าร่วมรายการ 

                                *ผลการรักษาเฉพาะบุคคล 

                                *สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เจ้าหน้าที่

                                *เฉพาะสาขารังสิต

                                ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                  วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                  Sculptra กระตุ้นคอลลาเจน สร้างคุณภาพผิว คืออะไร?

                                  Sculptra เหมาะกับใคร

                                  ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                    วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                    Sculptra ตัวสร้างคุณภาพผิวที่เป็นที่พูดถึงมากที่สุด

                                    Sculptra ที่สุดของงานผิวที่เป็นที่กล่าวขานกันมาตลอด ถึงความดีงามหลังการรักษาว่าได้งานผิวที่มีคุณภาพ จนไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจึงได้รับความนิยมไปทั่วโลกขนาดนี้ เพราะเราทุกคนเชื่อว่า การจะมีผิวที่ดีได้ต้องเริ่มมาจากภายใน ซึ่งนั่นหมายถึง ชั้นใต้ผิวหนังนั่นเอง เมื่อมีอายุที่มากขึ้นก็ทำให้ผิวหนังไม่สามารถคงสภาพที่ยังดูสวยสดใสได้ เหมือนตอนยังอ่อนเยาว์จึงต้องเริ่มจากการบำรุงผิวจากใต้ชั้นผิว เพื่อให้สร้างความอ่อนเยาว์จากภายในให้ส่งผลออกมาที่ผิวภายนอกนั่นเอง

                                    Sculptra เป็นหนึ่งโปรแกรมที่ช่วยสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ที่ถูกกล่าวขานอย่างแพร่หลายมาก ๆ เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่ดี ดูมีความเป็นธรรมชาติ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์กว่าวัยได้

                                    Sculptra คืออะไร?

                                    Sculptra Collagen Biostimulator หรือสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ที่เป็นตัวแรกของโลกได้รับความแพร่หลายไปทั่วโลกมาอย่างยาวนานตั้งแต่ 1999 Sculptra ถูกใช้อย่างเป็นวงกว้างมาแล้วกว่า 20 ปีจากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ทั้งยังเป็น Collagen Biostimulator ตัวเดียวที่ได้รับรองมาตรฐานจาก US FDA ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้รับ อย.ไทยในปี 2023

                                    Sculptra Collagen Biostimulator คือ สาร Poly-L-Lactic (PLLA) ที่ทำให้มีขนาดที่เล็กที่สุด เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการนำมาฉีด เพื่อเพิ่มการกระตุ้นคอลลาเจนให้กับบริเวณใต้ผิวหนัง ซึ่งสาร Poly-L-Lactic (PLLA) เป็นสารชนิดเดียวกับเส้นไหมที่แพทย์ใช้ทำการเย็บแผลให้กับคนไข้ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดการตกค้าง หรือส่งผลให้เกิดอันตรายหลังจากการทำ โดยสาร Poly-L-Lactic (PLLA) จะเข้าไปทำการกระตุ้นคอลลาเจนให้กับบริเวณใต้ผิวหนังที่คอลลาเจนเริ่มมีการเสื่อมสลายไปตามวัย สาร Poly-L-Lactic (PLLA) Collagen Biostimulator หลังจากฉีดไปแล้วจะสามารถย่อยสลายได้เป็น H2O, Co2 และ Lactic acid จึงสามารถเข้ากันกับร่างกายของคนเราได้เป็นอย่างดี และยังย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ทั้งนี้ Sculptra ยังมีงานวิจัยรองรับในการรักษามากกว่า 50 งานวิจัย รวมถึงได้ทำกลุ่มตัวอย่างในการรักษา และทดลองมากกว่า 1,000 ราย จึงถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีผู้รับรอง และการันตีเรื่องประสิทธิภาพความพึงพอใจ รวมทั้งความปลอดภัยในการรักษา

                                    Sculptra เป็นโปรแกรมฉีดที่จัดอยู่ในกลุ่ม Collagen Biostimulator ที่ใช้ในการฉีดให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจนของตัวเอง เพื่อทดแทนที่คอลลาเจนเก่าใต้ผิวหนังที่สูญเสียไป โดยการทำงานใต้ผิวหนังชั้นลึก เพื่อให้ส่งผลออกมาถึงผิวหนังชั้นนอก จึงทำให้ช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจน และช่วยคืนความอ่อนเยาว์ ชุ่มชื่นให้กับผิว ยกกระชับผิวที่มีความหย่อนคล้อยให้กลับมากระชับอีกครั้ง ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกบนผิวให้ตื้นขึ้น ปรับผิวกระจ่างใส รูขุมขนกระชับแน่นขึ้น คุณภาพของผิวและความเต่งตึงของใบหน้าในภาพรวมดีขึ้น ปรับให้ผิวที่เคยหลวมจากการสูญเสียคอลลาเจน ให้แน่น อิ่มฟูอีกครั้ง และด้วยความที่ Sculptra ไม่ใช่การฉีดสารเติมเต็มแต่เป็น Collagen Biostimulator จะทำให้ใต้ผิวค่อย ๆ ฟื้นฟูตัวเองและได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหรืออาการข้างเคียงใด ๆ ในการรักษา

                                    Sculptra มีคอลลาเจนที่สำคัญต่อร่างกายอย่างไร?

                                    คอลลาเจน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่จัดเป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนังมนุษย์ และมีสัดส่วนในผิวหนังของคนเราสูงถึง 80% – 90% ไม่เพียงเท่านั้นคอลลาเจนยังเป็นส่วนของโครงสร้างสำคัญต่าง ๆ ที่ประกอบในร่างกาย อาทิ ในกระดูก ในกล้ามเนื้อ เป็นส่วนประกอบของเล็บ เส้นเอ็น รวมทั้งข้อต่อของคนเราด้วย

                                    ร่างกายของมนุษย์ประกอบไปด้วยคอลลาเจนรวมกันหลายชนิดแต่จะมี 5 ชนิดที่สามารถพบได้บ่อยในร่างกาย คือ

                                    1. Collagen Type 1 คอลลาเจนไทป์นี้เป็นคอลลาเจนที่มีความยืดหยุ่นรวมทั้งมีความแข็งแรงสูง สามารถพบได้บริเวณผิวหนัง และเส้นเอ็น
                                    2. Collagen Type 2 คอลลาเจนไทป์นี้เป็นคอลลาเจนที่มีเส้นใยหลวมกว่าคอลลาเจนไทป์ 1 สามารถพบได้บริเวณกระดูก และข้อต่อ
                                    3. Collagen Type 3 คอลลาเจนไทป์นี้เป็นคอลลาเจนที่มีความแข็งแรงต่ำ เมื่อเทียบกับคอลลาเจนไทป์ 1 สามารถพบได้ที่บริเวณผิวหนัง และหลอดเลือด
                                    4. Collagen Type 4 คอลลาเจนไทป์นี้เป็นคอลลาเจนที่มีลักษณะเฉพาะตัวมาก สามารถพบได้ตามเนื้อเยื่อที่เกี่ยวพันที่หุ้มกล้ามเนื้อ ไขมัน และเส้นใยฝอยของเยื่อบุผิว
                                    5. Collagen Type 5 คอลลาเจนไทป์นี้เป็นคอลลาเจนที่มีลักษณะคล้ายกันกับคอลลาเจนไทป์ 1 สามารถพบได้ตามเส้นผม เนื้อเยื่อของทารก รวมไปจนถึงผิวของเซลล์

                                    Sculptra มีความสำคัญอย่างไรต่อเซลล์ Fibroblast

                                    เซลล์ Fibroblast  คือ เซลล์ที่ก่อให้เกิดคอลลาเจนและอิลาสตินที่เรารู้จักกัน โดยคอลลาเจนและอิลาสตินนั้นเป็นสิ่งที่อยู่ภายใต้ผิวหนังของคนเรา และเป็นตัวทำหน้าที่สร้างและรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว รวมทั้งยังทำหน้าที่ในการทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรง สร้างความยืดหยุ่น เด้งกระชับ แต่เมื่อคนเรามีอายุที่มากขึ้นโดยปกติประมาณ 25-30 ปี เซลล์ Fibroblast จะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ ตามวัย ส่งผลให้คอลลาเจน และอิลาสตินไม่เกิดการสร้างขึ้นใหม่ จึงทำให้ผิวของคนเราเกิดความหย่อนคล้อยลงเรื่อย ๆ เมื่อมีอายุที่มากขึ้น

                                    กระบวนการทำงานของ Sculptra หลังฉีดลงสู่ผิว?

                                    หลังฉีด Sculptra Collagen Biostimulator ลงสู้ผิวแล้วผิวจะมีความเติมเต็ม กระชับ เด้งฟูขึ้นทันทีหลังจากฉีด อันเนื่องมาจาก Sculptra เป็นโปรแกรมที่จะต้องทำการผสมกับ Sterile water ก่อนแล้วค่อยนำมาฉีดเข้าที่บริเวณผิวหนัง จึงทำให้ผิวหนังเติมเต็มขึ้นจากการฉีดน้ำเข้าไปที่ผิวหนัง หลังจากนั้นประมาณ 2-3 วันจะค่อย ๆ ยุบลง และจะกลับมายุบ ไม่เต่งตึงเหมือนเดิม เนื่องจากร่างกายได้ทำการดูดซึม Sterile water ที่ฉีดเข้าไปจนหมด

                                    โดยระหว่างนั้น Sculptra ก็จะกระจายตัวไปจนทั่วผิวหนัง หลังจากนั้น Sculptra ก็จะเริ่มทำงานกับผิวหนัง โดยหลังจากที่ฉีด Sculptra และตัวยาเริ่มกระจายตัวไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของผิวหนังอนุภาคของ Sculptra จะเริ่มทำงานโดยการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายด้วยวิธีการ คือ การดึงเซลล์ Macrophages เพื่อมาล้อมรอบตัวอนุภาคของ Sculptra ให้มากที่สุดจากนั้นจะเริ่มทำการส่งสัญญาณให้กับ Fibroblast ที่อยู่ใต้ผิวหนัง เพื่อให้เกิดการรวมตัวที่มากขึ้น ทำให้ผิวมีความแข็งแรงขึ้น หนาแน่นขึ้น ยกกระชับมากขึ้น และเมื่อเวลาผ่านไป Sculptra จะค่อย ๆ เกิดการสลายออกไปเองตามกระบวนการของร่างกาย แต่จะเหลือคอลลาเจนและอิลาสตินที่ถูกสร้าง ในขณะที่ Sculptra ยังอยู่ในร่างกายเอาไว้แทนที่ ทำให้ผิวที่เคยหลวมเกิดการกระชับแน่นขึ้น และช่วยในการยกกระชับใบหน้า และฟื้นฟูคุณภาพผิวได้ยาวนานถึง 25 เดือน ซึ่งยังไม่มี Collagen Biostimulator ตัวใดสามารถทำได้

                                    ความเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้า และผิวหนังเมื่อมีอายุมากขึ้น

                                    เมื่อคนเรามีอายุและวัยที่เพิ่มมากขึ้น โครงสร้างและกระดูกบนใบหน้าจะมีความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากกระดูกของเราจะเกิดการย่อยสลาย ( Volume loss ) และกร่อนลงไปตามกาลเวลา จึงทำให้ใบหน้ามีความเปลี่ยนแปลงจากการสูญเสียปริมาตรของกระดูก  และเมื่อกระดูกมีการผุกร่อนลงไปแล้ว ใบหน้าภาพรวมจะดูโทรมขึ้น เนื่องจากโครงหน้าจะเริ่มตอบ ไม่สดใสเหมือนตอนกระดูกยังไม่ผุกร่อนนั่นเอง

                                    ไม่เพียงเท่านั้น คอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนังของคนเรา ก็จะสร้างได้น้อยลงเรื่อย ๆ ไปจนถึงหยุดสร้าง และสูญเสียออกไปเรื่อย ๆ โดยคนเราจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนในผิวไปทุก ๆ ปีละ 1-2 % เมื่ออายุเราเข้าสู่วัย  20 ปี คอลลาเจนในผิวหนังจะเริ่มสร้างได้น้อยลง และจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนไป เมื่อเข้าสู่วัย 45 ปีในปริมาณ 1- 2% ซึ่งภาพรวมหลังจากที่ค่อย ๆ สูญเสียกระดูกอันเป็นโครงสร้างของใบหน้า รวมทั้งสูญเสียคอลลาเจนไปก็จะดูหย่อนคล้อย จากที่เคยตึงกระชับก็จะไม่เหมือนผิวในช่วงวัยก่อนหน้าอีกแล้ว

                                    อะไรคือความพิเศษของ Sculptra ?

                                    Sculptra เป็น Original Collagen Biostimulator ที่สามารถกระตุ้นให้ผิวหนังเกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว โดยเป็นคอลลาเจนตามธรรมชาติได้ สูงถึง 66.5% โดยเป็นคอลลาเจน type1 ที่ช่วยในการสร้างความยืดหยุ่น และความแข็งแรงให้กับผิว ได้หลังจากฉีด Sculptra ไป 3 เดือนโดยประมาณ ซึ่งคอลลาเจนที่ได้จะเป็นคอลลาเจนที่ผลิตจากผิวหนังของเราเองไม่ก่อให้เกิดอันตราย

                                    ในการฉีด Sculptra ในแต่ละครั้งจะต้องใช้ปริมาณยาเท่าไร?

                                    จากการทำการวิจัยเกี่ยวกับ Sculptra Collagen Biostimulator โดยเน้นการทำการทดลองจากคนจริงและมีกลุ่มตัวอย่าง ในจำนวนที่สามารถทำการคาดคะเนได้แล้ว แพทย์แนะนำให้ใช้ Sculptra ในช่วงอายุคนไข้ 10 ปี ต่อ Sculptra 1 ขวด โดยสามารถปรับเปลี่ยนตามความหลวมของผิวหนังแต่ละคนได้ ทั้งนี้ให้ปรึกษาแพทย์ถึงจำนวนตัวยาที่ใช้ในการรักษาก่อนเข้ารับบริการ

                                    Sculptra กระตุ้นคอลลาเจน

                                    Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมาะกับใคร ?

                                    1. Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
                                    2. Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยบนใบหน้าทั้งริ้วรอยที่เห็นชัด และริ้วรอยที่เห็นไม่ชัด
                                    3. Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยตามวัย
                                    4. Sculptra เหมาะกับผู้ที่มีอายุมากและร่างกายหยุดการผลิตคอลลาเจนแล้ว
                                    5. Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน
                                    6. Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีผิวที่แข็งแรง
                                    7. Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีผิวที่อ่อนเยาว์
                                    8. Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีคุณภาพผิวที่ดี
                                    9. Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีผิวที่กระชับอิ่มฟู
                                    10. Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานไม่ต้องการฉีดบ่อย ๆ

                                    Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับใคร ?

                                    1. Sculptra ไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติผิวหนังมีการเกิดคีลอยด์ หรือมีแผลเป็นนูน
                                    2. Sculptra ไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติผิวหนังเคยแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis)
                                    3. Sculptra ไม่เหมาะกับผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนัง
                                    4. Sculptra ไม่เหมาะกับผู้ที่มีการอักเสบของผิวในบริเวณที่ต้องการทำ
                                    5. Sculptra ไม่เหมาะกับผู้ที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ ให้นมบุตร

                                    หลังจากฉีด Sculptra จะมีผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างไร?

                                    • หลังจากฉีด Sculptra ใบหน้าที่ดูผอมตอบ จากการสูญเสียคอลลาเจน จะถูกเติมเต็มด้วย Collagen Biostimulator ให้ดูอวบอิ่ม มีน้ำมีนวลมากขึ้น
                                    • หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยในการเติมร่องลึกและริ้วรอยให้ตื้นขึ้นได้
                                    •  หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยในการเติมเต็มหน้าแก้มที่แบน ทำให้โหนกแก้มดูเล็ก ใบหน้าโดยรวมดูละมุนขึ้นได้
                                    •  หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยปรับให้ใบหน้ามีความสวยอิ่มเอิบและดูผ่อง เนื่องจากผิวดีมากขึ้น
                                    • หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยทำให้รูขุมขนเล็กลง ลดการเกิดการอุดตันอันเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้
                                    • หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยปรับสภาพผิวให้ดีมากยิ่งขึ้นได้
                                    • หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยให้ผิวที่หลวมมีความหนาแน่นมากขึ้น
                                    • หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยประให้ผิวดูสว่างกระจ่างใสมากขึ้น
                                    • หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยลดริ้วรอยและจุดด่างดำเล็ก ๆ ได้
                                    • หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยทำให้ผิวมีคุณภาพที่ดีมากขึ้นได้
                                    • หลังจากฉีด Sculptra จะช่วยให้ใบหน้าสวยอิ่มเอิบมากขึ้น ดูแตกต่างจากเดิม เปลี่ยนตัวเองให้คุณเป็นคนใหม่ได้ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์

                                    Sculptra กระตุ้นคอลลาเจน

                                    Sculptra สามารถทำที่บริเวณใดได้บ้าง ?

                                    • Sculptra สามารถทำได้ในบริเวณ ขมับ
                                    • Sculptra สามารถทำได้ในบริเวณ หน้าแก้ม
                                    • Sculptra สามารถทำได้ในบริเวณ แก้มล่าง
                                    • Sculptra สามารถทำได้ในบริเวณ แนวกราม

                                    Sculptra ไม่สามารถทำที่บริเวณใดได้บ้าง?

                                    • Sculptra ไม่สามารถทำได้ในบริเวณ โซนใต้ตา
                                    • Sculptra ไม่สามารถทำได้ในบริเวณ ทีโซน
                                    • Sculptra ไม่สามารถทำได้ในบริเวณ ร่องแก้ม
                                    • Sculptra ไม่สามารถทำได้ในบริเวณ ร่องน้ำหมาก

                                    โดยบริเวณที่กล่าวมาทั้งหมดนับเป็นจุดที่มีความบอบบางสูง อาจทำให้เกิดความอันตรายในการทำได้ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ และเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการรักษา

                                    ลักษณะของการบรรจุขวดของ Sculptra มีลักษณะของการบรรจุขวดอย่างไร?

                                    • Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่บรรจุมาในขวดที่สะอาดปราศจากเชื้อ
                                    • Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาในรูปแบบ dried powder หรือที่เรียกกันว่าเป็นแบบผง

                                    Sculptra ที่บรรจุมาในขวด จะประกอบไปด้วย

                                    1.  อนุภาคของสาร Poly-L-lactic acid (PLLA) ปริมาณ 150 mg โดยเป็นสารที่เป็นส่วนประกอบหลัก และไม่ก่อให้เกิดอันตราย
                                    2. Sodium Carboxymethylcellulose สารให้ความคงตัว ปริมาณ 90 mg โดยเป็นส่วนประกอบที่ส่งผลในการทำละลาย และเมื่อ Sculptra เกิดการละลายแล้ว จะสามารถใช้งานได้ทันที
                                    3. Mannitol ปริมาณ 127.5 mg เป็นส่วนประกอบที่ทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถมีการบรรจุเป็นแบบสุญญากาศได้
                                    Sculptra

                                    จะเห็นผลหลังจากการฉีด Sculptra นานเท่าไร?

                                    หลังจากการฉีด Sculptra Collagen Biostimulator จะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นหลังจากการฉีดอย่างต่อเนื่อง โดยจะสามารถสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดในระยะเวลา 2-3 สัปดาห์เป็นต้นไป และจะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนหลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน โดยผิวหนังจะเริ่มสร้างคอลลาเจนไทป์ 1 ได้สูงถึง 66.5%

                                    เมื่อเข้ารับการฉีด Sculptra ควรเตรียมตัวอย่างไร ?

                                    • ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาด้วย Sculptra ไม่ควรฉีด หรือทำการรักษาใบหน้า หรือผิวหน้าด้วยหัตถการประเภทอื่น ๆ 2 – 4 สัปดาห์
                                    • ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาด้วย Sculptra ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด อาทิ ยาในกลุ่มยาแอสไพริน เป็นระยะเวลาขั้นต่ำ 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันอาการฟกช้ำ
                                    • ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาด้วย Sculptra ควรงดการรับประทานวิตามินบำรุง ที่เป็นสาเหตุทำให้เลือดหยุดไหลยากในตอนฉีด Sculptra อาทิ วิตามินอี น้ำมันตับปลาเป็นต้น แปะก๊วย เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์
                                    • ผู้มีอาการป่วย หรือมีโรคประจำตัวร้ายแรง ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนเข้าทำการฉีด Sculptra
                                    • ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาด้วย Sculptra ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระยะเวลา 1-3 วัน
                                    • ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาด้วย Sculptra ควรดูแลสุขภาพร่างกายอยู่ในสภาพปกติแข็งแรงดี

                                    ขั้นตอนการฉีด Sculptra

                                    • ปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์เพื่อประเมินผิวหน้า รวมทั้งสภาพผิวอย่างละเอียดก่อนการทำการฉีด Sculptra
                                    • ผู้ช่วยแพทย์จะทำความสะอาดผิว เพื่อชะล้างและกำจัดความมัน รวมทั้งสิ่งสกปรกบนใบหน้า ก่อนการทำการฉีด Sculptra
                                    • ทายาชาเพื่อลดความเจ็บในระหว่างทำการฉีด Sculptra ทิ้งเอาไว้ 30-40 นาที
                                    • เช็ดยาชาออก เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำการฉีด Sculptra
                                    • แพทย์ลงมือทำการฉีด Sculptra โดยการฉีดเข้าสู่ใต้ผิวหนังอย่างแม่นยำ เพื่อให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว
                                    • เช็ดเพื่อห้ามเลือด
                                    • ประคบเย็นเพื่อให้รอยเข็มจางลง และแปะพลาสเตอร์ปิดรอยเข็ม

                                    วิธีการดูแลตัวเองหลังจากฉีด Sculptra เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ?

                                    • หลังจากเข้ารับบริการฉีด Sculptra ควรนวดให้ครบ Triple 5 คือ นวด 5 วัน 5 ครั้ง วันละ 5 นาที ตามคำสั่งของแพทย์เพื่อให้ Sculptra กระจายตัวไปทั่วทั้งใบหน้า
                                    • หลังจากเข้ารับบริการฉีด Sculptra ควรหลีกเลี่ยงการให้ใบหน้าสัมผัสแสงแดดจัด หรือแสงยูวี เช่น แสงไฟ จนกว่าอาการบวมและแดงจากการฉีดจะหายไป
                                    • หลังจากเข้ารับบริการฉีด Sculptra ไม่ควรเข้ารับการทำหัตถการชนิดอื่น ๆ ในระยะเวลา 2-4 สัปดาห์ เพื่อให้ตัวยา Sculptra ได้ทำงานก่อน
                                    • หลังจากเข้ารับบริการฉีด Sculptra ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้า เนื่องจากใบหน้ายังมีความบวมอยู่
                                    • หลังจากเข้ารับบริการฉีด Sculptra ควรหลีกเลี่ยงการอบซาวน่า หรือการอบไอน้ำในระยะเวลา 24 ชั่วโมง
                                    • หลังจากเข้ารับบริการฉีด Sculptra หากมีอาการเจ็บในบริเวณที่ทำสามารถใช้เจลเย็นประคบในบริเวณที่ฉีด Sculptra ได้

                                    Triple 5 วิธีการนวดใบหน้าหลังฉีด Sculptra ทั้งหมด 4 ท่า ประกอบด้วย

                                    ท่าที่ 1 ใช้นิ้วโป้งนวดไปที่บริเวณขมับด้านซ้าย และด้านขวา  จากนั้น ให้กำมือและค่อย ใช้กำปั้น นวดคลึง จากเลื่อนจากหน้าผากออกไปทางขมับด้านซ้ายและขวาพร้อม ๆ กัน

                                    ท่าที่ 2 ให้ยกนิ้วโป้งขึ้น แล้ววางนิ้วโป้งให้แนบกับแก้มด้านซ้ายและขวา จากนั้นค่อย ๆ เลื่อนนิ้วโป้ง ให้ออกไปบริเวณข้างแก้มพร้อมกันทั้งซ้ายและขวา โดยใช้วิธีกดแล้วค่อย ๆ เลื่อนออกอย่างช้า ๆ และเบามือ

                                    ท่าที่ 3 ให้กำมือ แล้วใช้ในส่วนอุ้งมือกดเข้าที่บริเวณข้างแก้ม จากนั้นค่อย ๆ นวด โดยการเริ่มไล่จากด้านล่างใบหน้า ขึ้นไปด้านบนใบหน้า ให้ถึงบริเวณโหนกแก้ม ให้ทำวนหลาย ๆ ครั้ง ซึ่งวิธีนวดนี้จัดเป็นวิธีการยกกระชับผิวหน้า

                                    ท่าที่ 4 ให้ยกนิ้วโป้งเหมือนกันกับท่าที่ 2 แล้วนำนิ้วมาจรดที่บริเวณคางจากนั้นจึงค่อย ๆ เลื่อนนิ้วโป้งไล่ขึ้นไปตามแนวสันกราม

                                    โดยการนวด Triple 5  แนะนำให้นวด 5 วันหลังจากการฉีด Sculptra วันละ 5 ครั้ง และครั้งละ 5 นาที เพื่อให้ผลลัพธ์ในการฉีด Sculptra เป็นไปอย่างดีที่สุด

                                    Sculptra ต้องทำกี่ครั้งเพื่อการรักษาที่ดีและเห็นผลที่สุด

                                    Sculptra จำนวน 2 – 3 ครั้ง และเมื่อครบกำหนดควรมาทำเพิ่ม เพื่อผลลัพธ์อันเป็นที่น่าพึงพอใจ และเพื่อคงสภาพผลลัพธ์ของผิวให้ดีไปโดยตลอด

                                    Sculptra ควรเว้นระยะเวลาการฉีดนานเท่าไร ?

                                    ในการฉีด Sculptra ควรเว้นระยะห่างในการฉีดประมาณ 4 – 6 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ และประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี

                                    ผลข้างเคียงของ Sculptra มีอะไรบ้าง?

                                    หลังจากฉีด Sculptra  ในช่วง 1-2 วันแรก อาจมีอาการปวด บวมหรือแดงที่ผิว อาการเหล่านี้จะสามารถหายไปเองได้ตามธรรมชาติในระยะ 4-5 วัน โดยไม่ต้องกังวล

                                    หลังจากฉีด Sculptra อาจมีการเจอตุ่มนูน บวมหรือก้อนเล็ก ๆ ในบริเวณใต้ผิวหนังที่ฉีด ซึ่งเป็นอาการปกติหลังการทำสามารถหายได้เองโดยไม่ต้องกังวล หากมีความกังวลสามารถแจ้งคลินิกที่เข้ารับบริการเพื่อให้แพทย์ทำการนวด เพื่อการกระจายตัวของสาร PLLA ที่มากขึ้น และไม่เกาะตัวกันเป็นก้อน

                                    Sculptra สามารถทำได้ตอนอายุเท่าไร?

                                    โดยปกติคอลลาเจนของคนเราจะลดลงตั้งแต่มีอายุ 20 ปี เป็นต้นไป และจะเริ่มสร้างคอลลาเจนได้ช้าลงตามลำดับ ดังนั้นเมื่อคอลลาเจนลดลง จึงสามารถทำการสร้างคอลลาเจน เพื่อทดแทนคอลลาเจนที่ลดลงได้ในทันที เพื่อให้ผิวหนังยังคงสภาพที่ดีอยู่ และไม่ให้ความชุ่มชื้น ยืดหยุ่นบนผิวลดลง ทั้งนี้ยังเป็นการยืดอายุของผิว รวมทั้งยังช่วยคงสภาพความแน่นกระชับของผิว ให้มีริ้วรอยช้าลงกว่าผู้ที่เริ่มฉีด Sculptra ในอายุที่มากอีกด้วย

                                    Sculptra สามารถทำร่วมกับโปรแกรมประเภทฉีดอื่นๆได้หรือไม่ ?

                                    Sculptra เป็นโปรแกรมฉีดประเภท Biostimulator เพื่อฉีดกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว โดยมีวัตถุประสงค์ต่างจากโปรแกรมฉีดชนิดอื่น ๆ ที่อาจเป็นการฉีดเพื่อเติมเต็มอย่างฟิลเลอร์ หรือลดขนาดกล้ามเนื้อ อย่างฉีดโบ จะเห็นได้ว่าโปรแกรมฉีดแต่ละชนิดจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไป อีกทั้งโปรแกรมฉีดแต่ละชนิดยังทำงานคนละชั้นผิวหนังของใบหน้า

                                    จึงสามารถฉีด Sculptra ร่วมกับโปรแกรมฉีดชนิดอื่น ๆ ได้ นับเป็นสิ่งที่ดีอีกด้วย เนื่องจากเป็นการดูแลความงามอย่างทั่วถึงทุกชั้นผิว ทั้งนี้ในการนัดเพื่อเข้ามาทำทุกโปรแกรมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญถึงลำดับการทำ เพื่อให้กระทำทุกโปรแกรมได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

                                    Sculptra เป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากงานผิวหรือ skin quality เป็นสิ่งที่มาแรงมากในช่วงนี้ จึงมีหลากหลายคลินิกเสริมความงามให้ความสนใจ ดังนั้นสิ่งที่ควรให้ความคำนึงถึงก่อนทำการรักษาทุกครั้ง คือ ความน่าเชื่อถือของคลินิกที่ให้บริการ ความได้มาตรฐาน ความสะอาด ชนิดของยา และการการันตีต่าง ๆ รวมทั้งประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำการดูแล จึงควรศึกษาหาข้อมูลโดยละเอียดทุกครั้งก่อนเข้ารับบริการ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เต็มประสิทธิภาพที่สุดในการรักษา

                                    ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                      วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                      Oligio ยกกระชับคืออะไร ? ลดไขมัน ได้อย่างไร ? สร้างงานผิวได้ยังไง ?

                                      oligio

                                      โปรแกรม Oligio เพียง 4,990.-

                                      ฟรี !! โปรแกรม Slim Face ลดเหนียง

                                      ทำความรู้จักกับ Oligio มากยิ่งขึ้นผ่านวิดีโอของคุณคลาวเดีย จักรพันธ์ุ

                                      
Oligio เผยผิวตึง กระชับ ของคุณคลาวเดีย จักรพันธ์ุ ผิวยกกระชับ

                                      Oligio เผยผิวตึง กระชับ ของคุณคลาวเดีย จักรพันธ์ุ ผิวยกกระชับ


                                      ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                        วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                        BEFORE & AFTER

                                        เครื่อง Oligio เทคโนโลยียกกระชับใบหน้า ที่ Romrawin Clinic

                                        นวัตกรรม Oligio สำหรับการยกกระชับผิว ลดริ้วรอย

                                        ในยุคที่ทั้งผู้หญิง ผู้ชายแทบทุกคน สวยหล่อ ครบจบเสร็จพร้อมตั้งแต่หัวจรดเท้า และหันมาดูแลตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อให้ดูดีในแบบที่เป็นตัวเอง ในแบบที่ตัวเองชอบ ไม่ว่าจะเป็น มีสีผิวที่พึงพอใจ มีรูปร่างที่พึงพอใจ มีทรงผมที่พึงพอใจ รวมไปจนถึงมีใบหน้าที่พึงพอใจ บางคนอาจจะทำศัลยกรรมเพื่อให้มีรูปหน้าในแบบที่ตัวเองต้องการ หรือใครที่กลัวการผ่าตัดอาจจะเลือกเครื่องยกกระชับที่มีความเหมาะสมกับตัวเองที่สุด เพื่อให้ได้ใบหน้าที่สวยงามในแบบที่พอดีตามต้องการ

                                        ในท้องตลาดแวดวงความงามมีเครื่องยกกระชับมากมาย ทั้ง ยกกระชับ ลดไขมัน ยกกระชับผิวหน้า ยกกระชับผิวหนัง หรือยกกระชับกล้ามเนื้อ ทุกโปรแกรมยกกระชับจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจทำโปรแกรมยกระชับสามารถแจ้งความต้องการ และแจ้งปัญหาให้แพทย์ทราบเบื้องต้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ

                                         

                                        Oligio กวาง AB Normol
                                        ขั้นตอนการทำ Oligio เพื่อยกกระชับผิวหน้าอย่างอ่อนโยน ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับบุคคล

                                        Oligio โปรแกรมยกกระชับตัวใหม่ล่าสุดในท้องตลาด เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีที่สามารถยกกระชับ ปรับใบหน้าให้เรียวสวยสมใจ โดยที่ไม่เจ็บและไม่แม้แต่จะต้องทายาชาในระหว่างหรือก่อนทำด้วย

                                        Oligio เป็นโปรแกรมยกกระชับจากบริษัท Wontech บริษัทเครื่องมือการแพทย์และความงามจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานทั้งในไทย ยุโรป และ อเมริกา จึงมีความปลอดภัยในการทำการรักษา

                                        Oligio ใช้นวัตกรรมคลื่น RFความถี่ 6.78 MHz  ในการช่วยยกกระชับแต่เป็นการพัฒนาให้มีความสบายในระหว่างทำมากยิ่งขึ้น มีความเจ็บในระหว่างทำที่น้อยลง เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวเจ็บ หรือกลัวกระแสคลื่นต่าง ๆ ในระหว่างทำ

                                        โปรแกรม Oligio คืออะไร

                                        การทำงานของ Oligio

                                        Oligio เป็นการใช้เทคโนโลยีคลื่นความถี่สูง 6.78 MHz ที่สามารถปรับได้ 3 โหมด คือ โหมดเดี่ยว โหมดคู่ และโหมดอัตโนมัติ ยิงลงลึกสู่ชั้นผิว 3 mm. ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมัน (Fat) ในการช่วยยกกระชับผิวหน้า โดยการใช้ความร้อนจากหัว Tips ที่มีลักษณะเป็นหัวเข็ม F4.0 ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และสามารถปรับโหมดการยิงแบบอัตโนมัติได้ ทำให้การยิงพลังงาน ในการส่งกระแสคลื่นลงไปสู่ชั้นผิวหนังมีความสม่ำเสมอ แม่นยำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสังเคราะห์คอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิว ให้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อย่างเป็นระเบียบ และเพิ่มปริมาณที่มากขึ้น ส่งผลให้ผิวหน้าหลังได้ทำดีขึ้น ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และความหนาแน่นให้กับผิว ลดไขมัน ทำให้ชั้นไขมันมีขนาดที่บางลง

                                        การทำงานของ โปรแกรม Oligio

                                        ที่สำคัญยังสามารถช่วยในการลดการเกิดปัญหาอันไม่พึงประสงค์ในขณะที่ทำการรักษา เนื่องจาก Oligio มีการตรวจสอบอุณหภูมิของผิว และระบบตรวจจับแรงกดอย่างแม่นยำในตัว มีระบบทำความเย็นอัจฉริยะ ที่ช่วยปล่อยลมออกมาในระหว่างทำอย่างอัตโนมัติ และยังมีช่องระบายความร้อนที่สามารถกำหนดเองได้ในคนไข้แต่ละราย จึงทำให้ช่วยลดอัตราความเสี่ยงในการสะสมค่าพลังงานความร้อนที่อยู่ใต้ผิวที่สะสมอยู่มากจนเกินไปในชั้นผิว ส่งผลให้ลดโอกาสในการเกิดการเผาไหม้ (Burn) ของผิว และไม่ทำให้ผิวไหม้ หรือมีตุ่มพอง หนอง เป็นต้น

                                        เทคนิคเฉพาะตัวของโปรแกรม OLIGIO FAST MOVING TECHNIQUE

                                        เทคนิคเฉพาะตัวของ Oligio Fast Moving Technique

                                        เป็นเทคนิคที่ออกแบบมาสำหรับการรักษาโดย Oligio เท่านั้น โดย Fast Moving Technique เป็นเทคนิคที่ทำให้การรักษามีความเสถียรมากขึ้น เนื่องจากพลังงานที่ลงสู่ชั้นผิวโดย Oligio นั้นจะลงสู่ชั้นผิวที่เท่ากัน อย่างแม่นยำ ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ลดการเบิร์นหรือการเผาไหม้ของผิวหนังในระหว่างทำ จึงทำให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจมากกว่า โดยแพทย์ทุกท่านของรมย์รวินท์ได้รับการเทรนด์ Fast Moving Technique มาเป็นอย่างดี ทั้งภาคทฤษฏีและปฏิบัติจึงสามารถเชื่อถือได้ว่า หากเข้ามาบรับบริการ Oligio Fast Moving Technique ที่รมย์รวินท์คลินิกจะสามารถให้การรักษาที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยอย่างแน่นอน

                                        จุดเด่นของโปรแกรม Oligio

                                        จุดเด่นของ Oligio

                                        Minimize Pain

                                        Oligio มีระบบ Vibration ในตัวจึงทำให้ช่วยลดและบรรเทาความเจ็บในปวดขณะคนไข้ทำการรักษาอยู่ รวมถึงยังมีระบบ Cooling system ซึ่งเป็นตัวช่วยในการปกป้องผิวชั้นนอกจากความร้อนของคลื่น Monopolar RF ทั้งยังช่วยส่งพลังงานความถี่สูงไปยังผิวชั้นลึก ส่งผลให้หลังทำการรักษาไม่จำเป็นต้องรับการพักฟื้น จึงทำให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ปกติเลยในทันที

                                        Faster Treatment

                                        Oligio มีฟังชันก์ Auto ในการทำงาน จึงมีความแม่นยำ และปลอดภัย แม่นยำในขณะทำการรักษา นอกจากนี้ขนาดของ Face Tip ยังมีขนาดกว้างถึง 4 ซม. ช่วยประหยัดเวลาในการทำมากขึ้น แต่ให้ผลลัพธ์ดีเหมือนเดิม

                                        Oligio มีหัว Tip 600 Shots ใช้เวลาในการทำเพียง 20-30 นาที และ หัว Tip 300 shots ใช้เวลาในการทำเพียง 10-15 นาทีเท่านั้น

                                         

                                        Oligio กระชับผิวหน้า
                                        ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

                                         

                                        Safe Treatment

                                        Oligio มีระบบ Real-Time temperature Monitoring ที่ช่วยในการวัดอุณหภูมิของผิวหนังแบบ real-time ตามจริง เมื่ออุณหภูมิของผิวหนังสูงขึ้นมากกว่า 43 องศา จะทำให้เครื่องหยุดการทำงานทันที จึงเป็นการช่วยลดความเสี่ยงของการเผาไหม้ของบริเวณผิวหนัง รวมถึงยังมีระบบ Pressure Sensing ที่ช่วยตรวจสอบแรงกดระหว่างหัว Tip และผิวหนัง จึงเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดผิวไหม้ อันเนื่องมาจากการที่หัว Tip ไม่แนบกับผิวในระหว่างการรักษา

                                        Convenience

                                        Oligio มีระบบ Treatment ทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ Single / Double / Auto ซึ่งแพทย์ หรือผู้ชำนาญการสามารถปรับใช้ได้ตามความสะดวก

                                        Oligio
                                        ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับบุคคล

                                         

                                        Long-Lasting Effet

                                        Oligio กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินใต้ชั้นผิว จึงทำให้คงสภาพผลลัพธ์ได้นานถึง 6 เดือน – 1 ปี

                                        Oligio ใช้ระยะเวลานานเท่าไรจึงจะเห็นผลลัพธ์ในการทำ ?

                                        ผู้เข้ารับการรักษาด้วย Oligio จะสามารถเห็นผลการยกกระชับ ลดไขมัน ได้ทันที หลังจากทำเสร็จในครั้งแรก เนื่องจากหลังทำคอลลาเจนจะเกิดการหดตัวลง ประมาณ 20-30% จากนั้นผิวหนังจะเกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่บริเวณใต้ผิว ผิวจะค่อย ๆ ฟื้นฟู และจะเห็นผลเต็มที่หลังการรักษาในเวลาประมาณ 3-6 เดือน

                                        ควรเว้นระยะเวลาในการทำ Oligio นานเท่าไร ?

                                        สามารถทำ Oligio ได้ทุก ๆ 6 เดือน เพื่อให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับคงสภาพได้ดีที่สุด รวมทั้งยังลดไขมัน ที่เกิดการสะสมขึ้นมาใหม่ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ และแจ้งรายละเอียดในการรักษาโดยละเอียดเพื่อความปลอดภัย

                                        ทำ Oligio ควรทำตั้งแต่อายุเท่าไร ?

                                        สามารถทำ Oligio ได้ตั้งแต่ผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป เพื่อป้องกันใบหน้าหย่อนคล้อยในอนาคต และในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป จะเป็นการทำเพื่อยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อยลงตามวัย ลดไขมันที่สะสมบริเวณใบหน้า และสามารถทำได้โดยไม่จำกัดเพศ

                                        Oligio สามารถทำบริเวณใดได้บ้าง?

                                        • Oligio สามารถทำบริเวณ “รอบดวงตา” ได้
                                        • Oligio สามารถทำบริเวณ “ทั่วผิวหน้า” ได้
                                        • Oligio สามารถทำบริเวณ “กรอบหน้า” ได้
                                        • Oligio สามารถทำบริเวณ “ใต้คาง หรือเหนียง” ได้
                                        • Oligio สามารถทำบริเวณ “ลำคอ” ได้
                                        • Oligio สามารถทำบริเวณ “หน้าท้อง” ได้
                                        • Oligio สามารถทำบริเวณ “ต้นแขน” ได้
                                        ผลลัพธ์ของการทำ โปรแกรม Oligio

                                        ข้อดีของ Oligio ในการยกกระชับใบหน้าคือ ?

                                        • Oligio จะช่วยยกกระชับผิวที่มีความหย่อนคล้อยอันเนื่องมาจากการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว
                                        • Oligio จะช่วยกระตุ้นการสร้าง และจัดเรียงตัวใหม่ของ collagen ใต้ผิวหนัง
                                        • Oligio จะช่วยเพิ่มคุณภาพของ collagen ให้มีคุณภาพที่ดี
                                        • Oligio จะช่วยลดไขมันส่วนเกินบนใบหน้าที่สะสมอยู่ใต้ผิว ลดแก้มและลดเหนียง ช่วยปรับให้ใบหน้ามีความเรียว เล็ก เข้ารูป กรอบหน้าคมชัดมากขึ้น
                                        • Oligio จะช่วยเพิ่มคอลลาเจนและอีลาสติน ใต้ชั้นผิวทำให้ผิวหนาขึ้นและผิวมีความแข็งแรงขึ้นมากขึ้น
                                        • Oligio จะช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพให้กลับมายืดหยุ่นอีกครั้ง
                                        • Oligio จะช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของผิว
                                        • Oligio จะช่วยทำให้ผิวที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่น และมีความหย่อนคล้อย กลับมาเรียบตึงอีกครั้ง
                                        • Oligio จะช่วยลดขนาดรูขุมขนที่มีความกว้างให้เล็กและกระชับขึ้น
                                        • Oligio จะช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน และลดริ้วรอยบนใบหน้า
                                        โปรแกรม Oligio เหมาะกับใครบ้าง ทำบริเวณไหนได้บ้าง

                                        Oligio เหมาะกับใคร ?

                                        • Oligio เหมาะกับผู้ที่ ต้องการยกกระชับ ใบหน้ามีความหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
                                        • Oligio เหมาะกับผู้ที่ มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด มีไขมันสะสมบนใบหน้า ต้องการลดไขมัน
                                        • Oligio เหมาะกับผู้ที่ มีปัญหา ร่องแก้มลึก มีร่องน้ำหมาก และริ้วรอยต่าง ๆ
                                        • Oligio เหมาะกับผู้ที่ มีปัญหาเนื้อแก้มเยอะ ทำให้หน้าดูบาน ใหญ่ ที่ต้องการลดไขมัน
                                        • Oligio เหมาะกับผู้ที่ อยากให้ใบหน้าเข้ารูป v shape ดูเล็กลง
                                        • Oligio เหมาะกับผู้ที่ มีปัญหาเหนียง
                                        • Oligio เหมาะกับผู้ที่ มีปัญหาเปลือกตาเริ่มตก หนังตาตก ต้องการยกคิ้ว ต้องการกระชับ
                                        • Oligio เหมาะกับผู้ที่ มีมุมปากตก
                                        • Oligio เหมาะกับผู้ที่ คอลลาเจนบนใบหน้าเริ่มลดลงตามวัย และต้องการเพิ่มปริมาณคอลลาเจน
                                        • Oligio เหมาะกับผู้ที่ มีปัญหารูขุมขนกว้างที่ต้องการกระชับรูขุมขนให้มีขนาดเล็กลง
                                        • Oligio เหมาะกับผู้ที่ ต้องการชะลอการเกิดความหย่อนคล้อยของผิวในอนาคต
                                        • Oligio เหมาะกับผู้ที่ ผู้ที่มีลำคอเหี่ยวย่นตามวัย
                                        • Oligio เหมาะกับผู้ที่ มีหน้าท้องเหี่ยวย่น

                                         

                                        Oligio
                                        ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับบุคคล

                                         

                                        Oligio ไม่เหมาะกับใคร ?

                                        • Oligio ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีการฝังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในร่างกาย
                                        • Oligio ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีการฝังน็อต หรือ สกรู ที่บริเวณกะโหลก (Bioabsorbable) หรือรากฟันเทียม
                                        • Oligio ไม่เหมาะกับ ผู้ที่เป็นโรคผิวหนังบางชนิด และยังอยู่ในกระบวนการรักษาบาดแผล
                                        • Oligio ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีการติดเชื้อบางชนิด ที่บริเวณผิวหนังที่ต้องการทำการรักษา
                                        • Oligio ไม่เหมาะกับ ผู้ที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
                                        • Oligio ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีโรคประจำตัว อาทิ โรคเบาหวาน โรคลมบ้าหมู โรคเกี่ยวกับเลือด รวมทั้งโรคที่ส่งผลต่อระบบการแข็งตัวของเลือด
                                        • Oligio ไม่เหมาะกับ ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคแพ้ภูมิตัวเอง รวมทั้งผู้ที่อยู่ในระหว่างการรับประทานยาต้านการอักเสบของผิวหนังทุกวัน
                                        • Oligio ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีแผลเปิด ในบริเวณที่ต้องการทำการรักษา
                                        • Oligio ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีการติดเชื้อไวรัสเริม และยังมีอาการอักเสบอยู่
                                        • Oligio ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีประวัติการรักษาโรคด้วย โปรแกรมยับยั้งกล้ามเนื้อ หรือฉีดฟิลเลอร์ในระยะเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์
                                        • Oligio ไม่เหมาะกับ ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายผิวหนัง หรือปลูกถ่ายไขมันในบริเวณที่ทำการรักษาไม่เกิน 6 เดือน

                                        การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษาด้วย Oligio

                                        • ก่อนทำ Oligio ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อเตรียมผิว
                                        • ก่อนทำ Oligio ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อพร้อมต่อการเข้ารับการรักษา
                                        • ก่อนทำ Oligio ควรหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรง และใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูงเมื่อออกนอกบ้าน
                                        • ก่อนทำ Oligio ควรเตรียมพร้อมร่างกายให้สุขภาพดี เพื่อพร้อมต่อการเสริมสร้างคอลลาเจน

                                        ขั้นตอนการทำการรักษาด้วย Oligio

                                        • ผู้ช่วยแพทย์จะทำการรวบผม เก็บผมให้คนไข้ให้เรียบร้อย
                                        • ผู้ช่วยแพทย์จะทำความสะอาดใบหน้าคนไข้ให้สะอาด ปราศจากเครื่องสำอาง และความมัน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนทำการรักษา
                                        • ผู้ช่วยแพทย์ทำการแปะแผ่นสื่อที่แผ่นหลัง เพื่อเป็นสื่อในการทำการรักษา
                                        • แพทย์ทำการทาเจลเย็นลงบนผิวบริเวณที่ต้องการทำการรักษา
                                        • แพทย์ใช้ Oligio ในการแก้ปัญหาทั่วใบหน้าจนครบจำนวน Shot ผู้ช่วยแพทย์ทำความสะอาดใบหน้า เป็นอันเสร็จการรักษา
                                        คำแนะนำหลังทำ โปรแกรม Oligio

                                        การดูแลตัวหลังทำการรักษาด้วย Oligio

                                        • หลังทำ Oligio ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด และความร้อนโดยตรง เนื่องจากผิวบริเวณที่ทำการรักษาจะมีความบอบบางและแพ้ง่ายอยู่
                                        • หลังทำ Oligio ควรงดการทำเลเซอร์ อบซาวน่า หลังทำการรักษา 1 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่
                                        • หลังทำ Oligio ควรทาครีมกันแดด SPF 50 +++ ขึ้นไป เนื่องจากผิวยังมีความบอบบาง
                                        • หลังทำ Oligio ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพื่อป้องกันอาการอักเสบของผิว

                                        ความรู้สึกระหว่างทำ Oligio

                                        ระหว่างทำ Oligio จะมีความรู้สึกร้อนในผิวบริเวณที่ทำการรักษาเพียงเล็กน้อย จะเป็นความรู้สึกร้อนสลับกันกับความเย็นจากการทำงานของหัว Tip และความร้อนจะไม่ได้ร้อนจนเกิดอันตราย และ Oligio ไม่จำเป็นจะต้องทายาชาก่อนทำการรักษา

                                        Q&A รวบรวมคำถามเกี่ยวกับ Oligio

                                        oligio

                                        1. Oligio สามารถเห็นผลได้นานเท่าไร ?

                                        • หลังทำ Oligio สามารถคงสภาพผลลัพธ์หลังทำได้นาน 6 เดือน – 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และการดูแลของแต่ละบุคคล

                                        2. การทำ Oligio มีความอันตรายหรือไม่ ?

                                        • Oligio เป็นโปรแกรมที่ไม่มีอันตราย เนื่องจากมีระบบ AI ควบคุมการทำงาน ทำให้สามารถจ่ายพลังงานคลื่น Monopolar RF ในการรักษาได้อย่างสม่ำเสมอ มีการป้องกันความเจ็บด้วยระบบสั่น และระบบทำความเย็น ทั้ง Oligio ยังเป็นโปรแกรมที่ได้รับการผ่านการรับรองมาตรฐานทั้งในไทย ยุโรป และ อเมริกา

                                        oligio3. Oligio ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล ?

                                        • Oligio เป็นโปรแกรมที่เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยสามารถทำการยกกระชับได้ในทันที และจะเห็นผลเต็มที่ใน 3-6 เดือนหลังจากการรักษา

                                        4. Oligio ต้องทำบ่อยแค่ไหน ?

                                        • สามารถทำ Oligio ได้ตั้งแต่หลังทำการรักษาไปครบ 6 เดือน เพื่อคงสภาพผลลัพธ์ในการยกกระชับและ ลดไขมัน ที่ดีที่สุด

                                        oligio

                                        5. Oligio ต่างจาก Ultrafomer III อย่างไร ?

                                          • Oligio ใช้คลื่น Monopolar RF ในการรักษาจะทำงานบริเวณผิวหนังชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ชั้นผิว เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้ผิว มีแก้ม เหนียง คาง 2 ชั้น ต้องการลดไขมัน และต้องการให้ผิวแน่นกระชับ กรอบหน้าไม่ชัด มีริ้วรอยรอบดวงตา
                                          •  Ultrafomer III ใช้คลื่น Macro and Micro Focused Ultrasound (MMFU) จะสามารถปล่อยพลังงานได้ถึงชั้น SMAS เหมาะสำหรับ ผู้ที่ผิวหย่อนคล้อย ร่องแก้มชัด มีถุงใต้ตา ริ้วรอย มุมปากตก คิ้วตก แก้มหย่อน

                                        จะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างกันที่คลื่นพลังงานที่ใช้ในการยิงความร้อนลงชั้นผิวหนัง จึงทำให้คลื่นความร้อนในการยิงลงสู่ชั้นผิวหนังในชั้นที่แตกต่างกัน และเหมาะกับการแก้ปัญหากันคนละแบบ สามารถทำการรักษาร่วมกันได้ เพื่อให้ได้รับผลลัพธ์ในการยกกระชับที่ดีมากขึ้น นอกจากนี้ ทั้งสองเครื่องยังสามารถใช้แก้ปัญหากันได้คนละปัญหา หากทำการรักษาร่วมกัน จะได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมทั่วทุกบริเวณมากขึ้น

                                        6. Oligio ต่างจาก Thermage FLX อย่างไร ?

                                        • Oligio ใช้คลื่น Monopolar RF ในการรักษา จะทำงานบริเวณผิวหนังชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ชั้นผิว เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้ผิว มีแก้ม เหนียง คาง 2 ชั้น ต้องการลดไขมัน และต้องการให้ผิวแน่นกระชับ กรอบหน้าไม่ชัด มีริ้วรอยรอบดวงตา
                                        • Thermage FLX ใช้คลื่น Monopolar RF ในการรักษา ชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ชั้นผิว เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ไขมันสะสมใต้ชั้นผิวมีริ้วรอยรอบดวงตา
                                        • จะเห็นได้ว่าทั้งสองโปรแกรม มีหลักการทำงานที่คล้ายกัน เนื่องจากการใช้คลื่นพลังงานในการรักษาที่เป็นคลื่นเดียวกัน แต่ Thermage FLX จะเป็นโปรแกรมยกกระชับที่ไม่มีการสลับพลังงานความร้อน และความเย็นในการรักษาเหมือนกับ Oligio

                                        oligio

                                        7. Oligio ต่างจาก Ulthera SPT อย่างไร ?

                                        • Oligio ใช้คลื่น Monopolar RF ในการรักษา จะทำงานบริเวณผิวหนังชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ชั้นผิว เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้ผิว มีแก้ม เหนียง คาง 2 ชั้น ต้องการลดไขมัน และต้องการให้ผิวแน่นกระชับ กรอบหน้าไม่ชัด มีริ้วรอยรอบดวงตา
                                        •  Ulthera SPT ใช้คลื่น Micro Focused Ultrasound With Visualization (MFU-V) ในการรักษาจะทำงานในบริเวณผิวหนังชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน และชั้น SMAS เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด ไม่ต้องการผ่าตัดดึงหน้า มีจอแสดงผลทำให้เห็นถึงความแม่นยำในการรักษา
                                        • จะเห็นได้ว่า ทั้งสองโปรแกรมยกกระชับจะทำงานกันคนละชั้นผิว ใช้คลื่นพลังงานในการรักษาที่แตกต่างกัน สามารถทำการรักษาทั้งสองโปรแกรมยกกระชับร่วมกันได้ เพื่อผลลัพธ์ในการรักษาที่ได้ผลลัพธ์ในการยกกระชับที่ดีที่สุด อีกทั้งยังเป็นการยกกระชับใบหน้าอย่างทั่วถึงทุกชั้นผิว ทำให้หลังจากทำการยกกระชับทั้งสองเครื่องร่วมกันจะเป็นการช่วยในการยกกระชับ และยังชะลอการหย่อนคล้อยได้อีกด้วย

                                        8. Oligio ต่างจาก Morpheus 8 อย่างไร ?

                                        • Oligio ใช้คลื่น Monopolar RF ในการรักษา จะทำงานบริเวณผิวหนังชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ชั้นผิว เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้ผิว มีแก้ม เหนียง คาง 2 ชั้น ต้องการลดไขมัน และต้องการให้ผิวแน่นกระชับ กรอบหน้าไม่ชัด มีริ้วรอยรอบดวงตา
                                        •  Morpheus 8 ใช้คลื่น RF ในการรักษา จะทำงานบริเวณ ชั้นผิวหนังแท้  เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย และริ้วรอย รูขุมขนกว้าง
                                        • จะเห็นได้ว่า ทั้งสองโปรแกรมยกกระชับใช้พลังงานในการรักษาที่แตกต่างกัน จึงทำให้ทำงานกันคนละชั้นผิวอย่างชัดเจน โดย Morpheus 8 จะสามารถกระตุ้นคอลลาเจน รวมทั้งลดริ้วรอยร่องลึก ลดไขมันส่วนเกิน ลดแก้ม เหนียง คาง 2 ชั้นได้น้อยกว่า Oligio แต่ Morpheus 8 จะช่วยในการปรับผิวให้เรียบเนียน และรักษารอยแผลเป็นได้มากกว่า Oligio แนะนำให้ทำร่วมกันทั้ง 2 โปรแกรมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการยกกระชับ

                                        oligio

                                        9. Oligio ต่างจาก Ultrafomer MPT อย่างไร ?

                                        • Oligio ใช้คลื่น Monopolar RF ในการรักษา จะทำงานบริเวณผิวหนังชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ชั้นผิว เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้ผิว มีแก้ม เหนียง คาง 2 ชั้น ต้องการลดไขมัน และต้องการให้ผิวแน่นกระชับ กรอบหน้าไม่ชัด มีริ้วรอยรอบดวงตา
                                        • Ultrafomer MPT ใช้คลื่น Macro and Micro Focused Ultrasound (MMFU) ในการรักษาโดยสามารถปล่อยพลังงานลงชั้นผิวได้ถึงชั้น SMAS เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ คิ้ว หรือหางตาตก รูขุมขนกว้าง ไม่กระชับ มีริ้วรอยร่องลึก
                                        • โดย Ultrafomer MPT จะสามารถทำการลดไขมันสะสมบนใบหน้า เหนียงใต้คางสองชั้น ได้น้อยกว่า Oligio แต่ช่วยกระชับความหย่อนคล้อยได้มากกว่า จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งหากจะทำการรักษาร่วมกันกับ Oligio จะได้ให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับ ลดไขมันบริเวณใบหน้าในแบบครบรูปแบบ และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

                                        10. Oligio ต่างจาก Volnewmer อย่างไร ?

                                        • Oligio ใช้คลื่น Monopolar RF ในการรักษา จะทำงานบริเวณผิวหนังชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ชั้นผิว เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้ผิว มีแก้ม เหนียง คาง 2 ชั้น ต้องการลดไขมัน และต้องการให้ผิวแน่นกระชับ กรอบหน้าไม่ชัด มีริ้วรอยรอบดวงตา
                                        • Volnewmer ใช้คลื่น Monopolar RF โดยความเย็นของโปรแกรมยกกระชับชนิดนี้จะใช้น้ำในการหล่อเลี้ยงซึ่งอาจจะมีความไม่เสถียรอยู่บ้าง และจะทำการรักษาที่ชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ชั้นผิว เหมาะกับผู้ที่ผิวไม่ตึง มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย เริ่มมีริ้วรอย กรอบหน้าไม่ชัด
                                        • ถึงแม้จะใช้พลังงานเช่นเดียวกัน ในการรักษาจะมีส่วนผลลัพธ์ที่แตกต่างกันในบางส่วน และ Oligio จะมีความเสถียรในการทำความเย็นที่น้อยกว่า อีกทั้ง Volnewmer จะมีราคาที่สูงกว่า

                                        11. Oligio ต่างจาก Sylfirm อย่างไร ?

                                        • Oligio ใช้คลื่น Monopolar RF ในการรักษา จะทำงานบริเวณผิวหนังชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ชั้นผิว เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้ผิว มีแก้ม เหนียง คาง 2 ชั้น ต้องการลดไขมัน และต้องการให้ผิวแน่นกระชับ กรอบหน้าไม่ชัด มีริ้วรอยรอบดวงตา
                                        •  Sylfirm ใช้คลื่น RF Microneedling System ในการรักษา โดยจะส่งพลังงานลงสู่ชั้นผิวชั้นหนังแท้ เหมาะกับผู้ที่มีผิวไม่กระชับ รูขุมขนกว้าง มีริ้วรอย และเน้นไปทางสีผิว
                                        • จะเห็นได้ว่าทั้งสองโปรแกรมทำงานต่างกันทั้งตัวคลื่นพลังงานที่ใช้ในการยิง การรักษา รวมทั้งผลลัพธ์หลังการรักษา หากทำการรักษาร่วมกันทั้งสองเครื่องจะให้ผลลัพธ์ที่ให้ทั้งใบหน้ายกกระชับ และผิวกระจ่างใสไร้ริ้วรอย รวมทั้งมีผิวหน้าที่ดีมากยิ่งขึ้นด้วย

                                        12. Oligio ต่างจาก Emface อย่างไร ?

                                        • Oligio ใช้คลื่น Monopolar RF ในการรักษาจะทำงานบริเวณผิวหนังชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ชั้นผิว เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้ผิว มีแก้ม เหนียง คาง 2 ชั้น ต้องการลดไขมัน และต้องการให้ผิวแน่นกระชับ กรอบหน้าไม่ชัด มีริ้วรอยรอบดวงตา
                                        •  Emface ใช้คลื่น RF + HIFES ในการรักษา และจะทำการยกกระชับถึงชั้นกล้ามเนื้อ จึงทำให้เหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะทำกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพกล้ามเนื้อ และผิว กลัวเจ็บ กลัวการผ่าตัด กลัวเข็ม
                                        • ทั้งสองโปรแกรมเป็นโปรแกรมยกกระชับที่ทำการรักษากันคนละแบบ พลังงานลงชั้นผิวกันคนละชั้น สามารถทำร่วมกันได้ เนื่องจากเป็นโปรแกรมยกกระชับเหมือนกันที่ทำงานที่ชั้นผิวที่แตกต่างกัน  ทำให้การยกกระชับได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

                                        ซึ่งจากข้อมูลข้างต้น Oligio ถือเป็นโปรแกรมยกกระชับ ลดไขมันที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความรวดเร็ว และผู้ที่ต้องการยกกระชับผิว ซึ่งทางรมย์รวินท์พร้อมให้บริการ Oligio แล้วในวันนี้และยังมีโปรแกรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจ โดยสามารถทักหาแอดมินได้ทุกช่องทาง  รวมทั้งยังเข้าไปปรึกษาได้ที่หน้าสาขาได้ตั้งแต่วันนี้

                                        ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                          วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                          Romrawin Clinic ปรับโฉมใหม่ “สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า” ยิ่งใหญ่กว่าเดิม พร้อมให้บริการความงามเพื่อชาวฝั่งธนฯ

                                          Grand Opening-

                                          Romrawin Clinic ปรับโฉมใหม่ “สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า” ยิ่งใหญ่กว่าเดิม พร้อมให้บริการความงามเพื่อชาวฝั่งธนฯ

                                          พบกับโฉมใหม่ของ Romrawin Clinic สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ที่เปิดพร้อมให้บริการทุกท่านในวันที่ 1 มิถุนายน 2567 พร้อมกับโปรโมชันความสวยที่นำมาเสิร์ฟให้คุณขอบอกเลยว่าจึ้งมาก! งานนี้ชาวฝั่งธนฯ และพื้นที่ใกล้เคียงพลาดไม่ได้แล้ว

                                          Romrawin Clinic ได้ฤกษ์ปรับโฉมใหม่ สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ยิ่งใหญ่กว่าเดิมกับอาณาจักรความสวยครบครันด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ครบเครื่องเรื่องงานผิว งานยกกระชับ ปรับรูปหน้า รวมทั้งดูแลสุขภาพ และรูปร่าง โดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ที่วิเคราะห์พร้อมทำการแก้ทุกปัญหาตรงจุด เพื่อให้คุณดูดีในแบบที่เป็นตัวเอง ตามคอนเซ็ปต์ “For The Better You” ที่มีพร้อมสำหรับการรองรับทุกบริการ ไม่ว่าจะเป็น

                                            • โปรแกรมยกกระชับ ปรับรูปหน้า Ulthera, Hifu, Thermage  
                                            • Filler เติมเต็มและปรับรูปหน้า, ฉีดโบ ยับยั้งกล้ามเนื้อ โปรแกรมงานผิว Skin Booster เพื่อ Skin quality ที่ดี 
                                            • บริการ Body & Wellness ที่จะทำให้คุณหุ่นสวย ผิวเรียบเนียน สุขภาพดี 
                                          Grand Opening ปิ่นเกล้า All Banner Size 02 0

                                          แค่ปรับรูปโฉมใหม่ให้ยิ่งใหญ่ก็ว่าจึ้งแล้ว แต่เป็น Romrawin Clinic ทั้งที มีหรือจะให้แค่นี้ งานนี้ขนทัพโปรโมชันสุดพิเศษและยังมีกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายมามอบให้ลูกค้าสาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้ามูลค่ากว่า 100,000 บาท !!

                                          Grand Opening ปิ่นเกล้า All Banner Size 04 0

                                          Romrawin Clinic สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า เดินทางมาสะดวกสบาย

                                          การเดินทางมาที่ Romrawin Clinic สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้าก็ง่ายแสนง่าย เพราะคลินิกของเราตั้งอยู่ที่เซ็นทรัล ปิ่นเกล้าชั้น 3 ในบริเวณที่สังเกตง่าย จอดรถของห้างรองรับอย่างเต็มที่หากท่านมารถยนต์ส่วนตัว หรือหากเดินทางด้วยรถสาธารณะ สามารถเดินทางมาด้วย MRT สายสีน้ำเงิน ลงสถานีบางยี่ขัน ทางออก 4 และต่อรถโดยสารสาธารณะเพียงแค่ 5 นาที ก็จะถึงห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้าจากนั้นตรงมาที่ชั้น 3 Beauty Zone ก็จะได้พบกับโฉมใหม่ของ Romrawin Clinic ที่เปิดพร้อให้บริการแล้ว

                                          หากใครที่อยากต้องการเสริมความงาม แต่ยังไม่มั่นใจว่าตัวเองเหมาะกับโปรแกรมไหน สามารถเข้ามาวิเคราะห์ปัญหาก่อนได้กับ “LIFTING SELECT” เทคนิค วิเคราะห์ปัญหา พร้อมเลือกโปรแกรมที่เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดที่สุดผ่าน 3 เฟรมเวิร์คของรมย์รวินท์คลินิก

                                            • Frame Selection ยกกระชับใบหน้าถึงระดับโครงหน้า และปรับชั้นผิวให้กลับมาอ่อนเยาว์อีกครั้ง  
                                            • Light & Shadow Me สร้างมิติให้ใบหน้าเล่นแสงเงา สวยได้ทุกมิติ  
                                            • Conceal Selection เก็บรายละเอียดงานผิวให้ดูเรียบเนียนยิ่งขึ้น ไม่ง้อ App แต่งรูป 
                                          Grand Opening ปิ่นเกล้า All Banner Size 03 0

                                          ยกขบวนความสวยมาแบบจัดเต็ม

                                          ไม่ว่าจะโปรแกรมอะไรที่ว่าดี Romrawin Clinic ก็มีพร้อมให้บริการความงามแก่ผู้มาเข้ารับบริการแบบครบวงจร ด้วยนวัตกรรม Hi-End และอัพเดตโปรแกรมความงามล่าสุดก่อนใครได้ที่นี่ที่เดียวจบ

                                          หากคุณนึกถึงโปรแกรมยกกระชับ หรือโปรแกรมงานผิว  Skin quality ต้องนึกถึง “LIFTING SELECT” เทคนิคเฉพาะจาก Romrawin Clinic

                                          บริการ Body & Wellness หุ่นสวย ผิวเรียบเนียน สุขภาพดี

                                          นอกจากจะครบเครื่องเรื่องยกกระชับและงานผิวแล้ว Romrawin Clinic ยังมีบริการ Body & Wellness ที่ช่วยดูแลเรื่องรูปร่าง ผิวพรรณ สุขภาพร่างกาย และแก้ปัญหาสุขภาพทางเพศ รวมทั้งแก้ปัญหาความกังวลใจของทั้งคุณผู้หญิง และคุณผู้ชายหมดให้ไปเพียงแค่แวะมาที่ Rorawin Clinic

                                          ใครที่ใช้เวลาว่างช่วงวันหยุดเดินเล่นพักผ่อน นัดกับเพื่อน กินข้าวกับครอบครัว และอยากเพิ่มเติมความสวย เป๊ะ ปัง แบบมุกมิติตั้งแต่หัวจรดเท้า ให้กับตัวเอง อย่าลืมแวะมาที่ Romrawin clinic สาขาปิ่นเกล้า พื้นที่สะดวกสบาย พร้อมบริการครบครันอย่างแน่นอน

                                          เลือกคลินิกเสริมความงามต้อง Romrawin Clinic เพราะเราดูแลคุณโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ และเปิดให้บริการด้านความงามมากว่า 21 ปี และมีสาขา 28 แห่ง ทั่วประเทศ ทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล และต่างจังหวัด เพื่อให้คุณสามารถเข้ามาปรึกษา หรือรับบริการได้ที่สาขาที่สาขาที่ใกล้ที่สุด

                                          ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                            วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                            Pride Month BORN THIS WAY เผยความงามที่แท้จริง สวยในแบบที่เราเลือกเอง

                                            Pride Month

                                            “Pride Month” BORN THIS WAY เผยความงามที่แท้จริง สวยในแบบที่เราเลือกเอง

                                            Romrawin clinic เข้าใจและสนับสนุนในทุกสีสีนที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ทั้งยังต้องการเป็นพื้นที่สบายใจให้กับทุกคนได้มีความสวยและดูดีในแบบที่เป็นตัวของตัวเองได้อย่างมั่นใจในช่วงเดือน Pride Month นี้

                                            ไม่ว่าจะเป็นใครมาจับจ่ายพร้อมแต่งแต้มความสวยงามในแบบที่เป็นคุณกันได้อย่างสบายใจที่ Romrawin clinic ในราคาที่จับต้องได้

                                            เพราะ Romrawin Clinic สนับสนุนความดูดีในแบบของคุณในเทศกาล Pride Month “ลดสูงสุดถึง  70%” เฉพาะวันที่ 1 มิถุนายน ถึง 30 มิถุนายน 2567 นี้ เท่านั้น 

                                            ราคานี้สำหรับจอง Promotion ผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น !!

                                            เฉิดฉายได้สะบัด จัดเต็มในแบบที่เป็นตัวของตัวเองให้สุดเหวี่ยงด้วยโปรแกรมต่างๆที่จะทำให้คุณมั่นใจได้มากขึ้น

                                            กลุ่ม BORN TO CLEAR งานใบหน้า ไม่ว่าใครมีหน้าแบบไหนก็ทำให้ดูดีอย่างที่เป็น

                                            หน้าไร้เหนียง เคลียร์สิว บิ้วหน้าใส

                                            Pride Month / BORN THIS WAY

                                            1. Slim Face ลดไขมันสะลมบนใบหน้าที่ทำให้หมดความมั่นใจ

                                            – Slim Face Size S เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันสะสมในปริมาณไม่มาก

                                            ราคาเพียง  2,900 บาท จากราคาปกติ 3,500 บาท

                                            – Slim Face Size M เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ลดไขมันที่สะสมในปริมาณปานกลาง

                                            ราคาเพียง 3,900 บาท  จากราคาปกติ 5,900 บาท

                                            – Slim Face Size L เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ลดไขมันสะสมจำนวนมาก   

                                            ราคา 6,900 บาท จากราคาปกติ 10,500 บาท

                                            Pride Month / BORN THIS WAY

                                            2. Ac Clear I  4 ขั้นตอน ลดสิว กด ฉีด ทรีตเมนต์ มาส์ก สิวหยุดชะงัก ไม่ก่อให้เกิดสิวใหม่ ครอส 10 ครั้ง

                                            ราคา 8,000 บาท จากราคาปกติ 21,000 บาท

                                            Pride Month / BORN THIS WAY

                                            3. Fractional Laser แก้หลุมสิว จัดการฝังฝืด ปรับผิวให้มีความเรียบเนียน สม่ำเสมอ ฟื้นฟูผิวหน้า ไม่ก่อให้เกิดผิวอักเสบ

                                            ราคา 9,900.- จากปกติ 25,000 บาท

                                            กลุ่ม BORN TO WINK งานผิว ไม่ว่าจะสีผิวแบบไหนก็สามารถมีผิวที่สวยใบหน้ายกกระชับพร้อมสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวออร่าได้

                                            Pride Month / BORN THIS WAY

                                            1. Ulthera SPT แก้ใต้ตาตก เปิดเปลือกตา และแก้ปัญหาใต้ตาหย่อนคล้อย ลดริ้วรอยรอบดวงตา ปรับใต้ตาให้สว่างสดใส

                                            ในราคาเพียง  19,000 บาท จากราคาปกติ 43,000 บาท

                                            Pride Month / BORN THIS WAY

                                            2. Super Hifu ยกกระชับสร้างคอลลาเจน ให้ใบหน้า แถมฟรี Smart laser เพื่อผิวหน้าสวย เผยผิวใส ไร้จุดด่างดำ

                                            ในราคาเพียง 9,900 บาท จากราคาปกติ 18,000 บาท

                                            กลุ่ม BORN TO SHINE ดูดี เฉิดฉาย ทุกมิติ พร้อมอวด เอวสับ ดับขน ผิวเนียน หุ่นกระชับ

                                            Pride Month / BORN THIS WAY

                                            Double Freeze by  Cool sculpting

                                            ฆ่าไขมันดื้อ ลดสัดส่วน ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ถึง  27%   จำนวน 2 ครั้ง แถมฟรี เลเซอร์กำจัดขน บริเวณรักแร้ด้วย Gentle Yag  Laser ขนไม่คุด ไม่เป็นตุ่มหนังไก่ ไม่แสบร้อน  จำนวน 1 ครั้ง

                                            ในราคาเพียง 14,599 บาท จากราคาปกติ 54,000 บาท

                                            กลุ่ม BORN TO BRIGHT สร้างผิวสวยสุขภาพดี เผยความเด่นความไบร์ทได้ทุกสถานการณ์

                                            Pride Month / BORN THIS WAY

                                            Color Ice ทรีตเมนต์หน้ากระจ่างใส ปรับผิวหน้าให้วิงค์ ฟรี ให้วิตามินผิวใส และ Barbie Lips ทรีตเมนต์ปาก สวย

                                            ในราคาเพียง 3,999 บาท จากราคาปกติ 8,400 บาท 

                                            เราทุกคนมีความดูดี ในรูปแบบของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องตรงตามมาตรฐาน Standard ของใคร เพราะเราสามารถสร้าง Standard ขึ้นมาใหม่ได้เสมอ

                                            *ผลลัพธ์ในการรักษาขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล 

                                            *โปรโมชันนี้เฉพาะวันที่ 1 มิถุนายน ถึง 30 มิถุนายน 2567 นี้ เท่านั้น 

                                            *อาจารย์แพทย์ไม่ร่วมในโปรโมชันนี้ 

                                            *สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้าสาขา 

                                            *โปรโมชันนี้เฉพาะรมย์รวินท์คลินิกสาขารังสิตเท่านั้น

                                            ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                              วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                              ทีมแพทย์รมย์รวินท์คลินิก เข้าร่วมฟังการบรรยายในงาน Menarini APAC 2024

                                              Menarini APAC

                                              ทีมแพทย์รมย์รวินท์คลินิก เข้าร่วมฟังการบรรยาย เพื่ออัปเดทความรู้ ในงาน Menarini APAC 2024

                                              Menarini Asia Pacific (Menarini APAC) บริษัทยาและเภสัชภัณฑ์ได้จัดงานประชุมทางวิชาการภายใต้ชื่องาน Merarini APAC 2024 โดยวัตถุประสงค์ของงานคือเพื่อเป็นสื่อการประชาสัมพันธ์และอัปเดทเทรนด์การทำหัตถการต่างๆ ของบริษัท Menarini ให้ที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ โดยเป็นการช่วยพัฒนาและเพิ่มความรู้เกี่ยวกับการทำหัตถการให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น 

                                              งานนี้แพทย์จากรมย์รวินท์คลินิกได้เข้าร่วมด้วย โดยมี พญ.ธิรดา จิตตการ และ พญ.นภัสนันท์ เทพพรพิทักษ์ แพทย์ผู้มีประสบการณ์เป็นตัวแทนในการเข้ารับการประชุมทางวิชาการดังกล่าว งานในครั้งนี้จัดขึ้นที่ The Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel ในวันพุธที่ 29 พฤษภาคม 2567 

                                              งานประชุมทางวิชาการกับ Menarini APAC 2024 นับว่าเป็นงานประชุมที่ยิ่งใหญ่ประจำปี เนื่องจากเป็นงานที่ได้เชิญแพทย์ผู้มากประสบการณ์จากหลากหลายประเทศเข้าร่วมภายในงาน รวมทั้งร่วมแบ่งปันองค์ความรู้ และแชร์ประสงการณ์เกี่ยวกับเคสต่างๆ ให้กับแพทย์ที่เข้าร่วมภายในงาน ซึ่งนับการร่วมงานประชุมที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาด้านการทำหัตถการของทางคลินิก 

                                              Menarini APAC

                                              โดยหัวข้อในการประชุม Menarini Asia Pacific (Menarini APAC) ในครั้งนี้ ประกอบด้วย

                                                • Menarini Vision in Aesthetics (วิสัยทัศน์ของ Menarini เกี่ยวกับความงาม)
                                                • Publication Presentation on Program Definisse (การนำเสนอผลงานของ Definisse)
                                                • Progra, Definisse Threads in Clinical Practice (แนวการทางฝึกร้อยไหมอิตาลีของทางคลินิก)
                                                • Facelift with Program Fillers (ปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์) 
                                                • Practical Anatomy for injectors (กายวิภาคศาสตร์เชิงปฏิบัติในกลุ่มฉีด)
                                                • Leveraging Digital Media for a successful practice (การใช้ประโยชน์จากสื่อดิจิทัลเพื่อการฝึกฝนที่ประสบความสำเร็จ)
                                                • Visual Aesthetics Synergy: Vector Aesthetics (VA) and Target Threading Zones (TTZs) ( การผสมผสานความงามทางสายตา : ความงามแบบเวกเตอร์และโซนสำหรับการร้อยไหม)
                                                • Program Definisse Fillers Live Demonstration (การสาธิตการฉีด Definisse ฟิลเลอร์)

                                              โดยแพทย์ของรมย์รวินท์คลินิกได้เข้าร่วมฟังการบรรยายและได้รับข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการทำหัตถการของทางคลินิก และหวังว่าความรู้ทางการแพทย์ที่ได้รับการอัพเดทจากงานประชุมทางวิชาการครั้งนี้จะช่วยให้ผู้เข้ารับบริการทุกท่านได้รับความพึงพอใจด้วยหัตถการที่มีประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ออกมาสวยงาม มากขึ้นกว่าเดิม 

                                              Menarini APAC

                                              Definisse Fillers คืออะไร ?

                                              ฟิลเลอร์ Definisse เป็นสารเติมเต็ม  หรือ HA  ซึ่งสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยปัจจุบันฟิลเลอร์ Definisse มีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น คือ Core, Restore และ Touch โดยแต่ละแบบก็จะมีความหนาแน่นของโมเลกุลและจุดที่ฉีดแตกต่างกัน

                                                • Definisse Core : ฟิลเลอร์เนื้อแน่นที่อยู่ได้นานถึง 18 เดือน เหมาะสำหรับปรับรูปหน้าและฉีดฟิลเลอร์ที่คางเป็นหลัก
                                                • Definisse Restore : ฟิลเลอร์เติมร่องลึกที่อยู่นานถึง 12 เดือน เหมาะสำหรับเติมร่องแก้มลดริ้วรอยต่าง ๆ จึงเป็นฟิลเลอร์ที่ฉีดร่องแก้มเป็นหลัก
                                                • Definisse Touch : ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มที่อยู่ได้นานตั้งแต่ 8 เดือน ไปจนถึง 12 เดือน ด้วยความที่เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่มทำให้เหมาะฉีดเฉพาะจุด เช่น ปาก ใต้ตา
                                              Menarini APAC

                                              ร้อยไหม Definisse คืออะไร?

                                              ร้อยไหม Definisse คือโปรแกรมร้อยไหมเพื่อยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อยโดย มีคุณสมบัติในการการยกกระชับและช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนใต้ผิวบริเวณที่ทำร้อยไหม

                                              ร้อยไหม Definisse สามารถย่อยสลายเอง จึงทำให้ไม่ตกค้างอยู่ในร่างกาย

                                              ในการประชุมครั้งนี้ทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์จากรมย์รวินท์คลินิกได้รับความรู้เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์และร้อยไหมอย่างมากมาก  สามารถนำความรู้ดังกล่าวมาปรับใช้ในการรักษาให้มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุดได้

                                              ทั้งนี้รมย์รวินท์คลินิกมีให้บริการทุกสาขาทั้งฟิลเลอร์ Definisse และร้อยไหม Definisse โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้าสาขาทั้ง 28 สาขา  

                                              ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                                วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                                Exion and Emface Submentum, the next frontier in aesthetics innovation

                                                Exion and Emface

                                                Exion และ Emface Submentum ก้าวเข้าสู่โลกความงามแห่งอนาคต

                                                BTL Aesthetics บริษัทระดับโลกผู้นำด้านนวัตกรรมเกี่ยวกับการเสริมความงามและสุขภาพได้จัดงานเปิดตัว Exion and Emface Submentum ภายใต้ชื่องาน Exion and Emface Submentum, the next frontier in aesthetics innovation.

                                                EMFACE
                                                Emface

                                                รมย์รวินท์คลินิกนำทีมโดย พญ.ฐานิสร ธรรมลิขิตกุล  (คุณหมอฐา) แพทย์ผู้อำนวยการรมย์รวินท์คลินิก พญ.อรุณี ทองอัครนิโรจน์ (หมอออย) แพทย์ผู้มีประสบการณ์ประจำรมย์รวินท์คลินิก รวมทั้งทีมแพทย์ประจำรมย์รวินท์คลินิกเข้าร่วมภายในงาน

                                                Emface

                                                โดยงานเปิดตัว Exion and Emface Submentum จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2567 เวลา 18:30 – 21:00 น. The Radisson Blu Plaza Bangkok ชั้น 4 ห้อง Grand Ballroom นับเป็นงานที่จัดขึ้นอย่างสุดพิเศษเนื่องจากบรรยากาศภายในงานที่มีความหรูราแต่ยังมีความเป็นกันเอง  และยังมีผู้มีชื่อเสียงจากหลายแวดวงเข้าร่วมภายในงานนี้ด้วย 

                                                EMFACE

                                                ภายในงานเปิดตัว Exion and Emface Submentum มีผู้เข้าร่วมภายในงานจำนวนมาก เพื่อฟังการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับ Exion และ Emface Submentum ภายในงานยังมีการนำ Emface มาให้แสดงให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสถึงประสบการณ์การใช้ Emface   และแสดงให้เห็นระบบการทำงานของ Emface Submentum ที่เป็น Applicator ใหม่ล่าสุด 

                                                EMFACE

                                                ในการบรรยายได้มีการอบรมเกี่ยวกับ Exion และ Emface Submentum ในหัวข้อเกี่ยวกับกลไกและผลลัพธ์ของการทำหัตถการ Exion และ Emface Submentum มากยิ่งขึ้น 

                                                 โดยหัวข้อที่บรรยายบนเวทีถูกแบ่งเป็น 5 ช่วง ดังนี้

                                                  • เกี่ยวกับ Exion และ Applicator ทั้ง 4 แบบ  
                                                  • กลไกการทำงานพร้อมผลลัพธ์ของงานวิจัย Exion Fractional RF  
                                                  • กลไกการทำงานพร้อมผลลัพธ์งานวิจัย Exion Face  
                                                  • กลไกการทำงานและรูปภาพเคสตัวอย่างของ Emface Submentum 
                                                  • ถามตอบกับคณะแพทย์ที่มาเป็นพิธีกรงาน  
                                                EMFACE

                                                รมย์รวินท์คลินิกมีให้บริการ Emface Submentum

                                                แม้จะพึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งาน Exion and Emface Submentum แต่รมย์รวินท์คลินิกมีให้บริการ Emface และ Emface Submentum ลดไขมันบริเวณใต้คางและเหนียงแล้ว นับเป็นคลินิกลำดับต้นๆในประเทศที่มีให้บริการ โดยสามารถเข้าร่วมเปิดประสบการณ์ก่อนใครได้ที่รมย์รวินท์คลินิกทุกสาขา  

                                                หลักการทำงานของ Emface Submentum

                                                Emface Submentum ทำงานโดยเทคโนโลยีส่งคลื่นวิทยุลงไปใต้ผิว 2 เทคโนโลยี ได้แก่ Synchronized Radiofrequency และ HIFES™ โดยคลื่นวิทยุจะลงจากผิวชั้นนอกไปจนถึงชั้นกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยกระชับกล้ามเนื้อเหมือนกับการออกกำลังกายที่บริเวณกล้ามเนื้อ ผลลัพธ์ คือ ผิวบริเวณใต้คางและเหนียงจะมีความกระชับ เรียบเนียน สวยงามเข้ารูปอย่างที่ต้องการ 

                                                เปิดประสบการณ์ใหม่ได้ก่อนใครกับ Emface Submentum  ที่รมย์รวินท์คลินิกทุกสาขา  

                                                ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                                  วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                                  คุณหมอริวเข้าร่วมงานวิชาการนานาชาติ AMWC Asia-TDAC

                                                  หมอริว

                                                  ตัวแทนแพทย์จากรมย์รวินท์คลินิก อัปเดทเทรนด์เพื่อนำมาต่อยอดพัฒนารมย์รวินท์คลินิก ครั้งที่ 11

                                                  AMWC Asia-TDAC การประชุมวิชาการยิ่งใหญ่ประจำปี 2024 เพื่อให้ความรู้แก่แพทย์ผู้เข้าร่วมงานในการศึกษาข้อมูลและองค์ความรู้ทางด้านเวชศาสตร์ความงามในระดับนานาชาติโดยเป็นการให้ความรู้ทั้งภาควิชาการและภาคปฏิบัติ เพื่อให้แพทย์ที่เข้าร่วมงานได้นำมาปรับใช้จริงในการรักษาคนไข้

                                                  นพ. อัครวินท์ ดำรงวัฒนโภคิน (คุณหมอริว) และนพ. ศรัณยู บุญชัย (คุณหมอแบงค์) แพทย์ผู้มีประสบการณ์จากรมย์รวินท์คลินิก ได้เข้าร่วมในงาน AMWC Asia-TDAC การประชุมวิชาการยิ่งใหญ่ประจำปี  “11th Aesthetics Medicine World Congress & Taiwan Dermatology Aesthetic Conference (AMWC ASIA 2024)” ครั้งที่ 6 ณ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน (Taipei, Taiwan ) จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 24-26 พฤษภาคม 2567 เพื่อให้แพทย์ที่เข้าร่วมภายในงานได้นำองค์ความรู้ที่ได้จากงานประชุมครั้งนี้มาปรับ และประยุกต์ใช้ในการพัฒนา รักษา ดูแล คนไข้ในคลินิกอย่างมีประสิทธิภาพ และได้ผลดีที่สุด 

                                                  AMWC Asia-TDAC หมอริว
                                                  AMWC Asia-TDAC หมอริว

                                                  งานนี้ยังเป็นงานที่จัดควบคู่ไปกับงานประชุม ASPCR Annual Congress ครั้งที่ 11ซึ่งเป็นงานให้ความรู้ด้านความงามและยาชะลอวัยที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยงานนี้เป็นความร่วมมือครั้งสำคัญในวงการเสริมความงามระหว่าง Aesthetic Multispecialty Society (AMS) สมาคมโรคผิวหนัง (TDA) สมาคมศัลยกรรมผิวหนังและความงาม (TSDAS) และสมาคมวิจัยเซลล์เม็ดสีแห่งเอเชีย (ASPCR) จากประเทศไต้หวัน

                                                  AMWC Asia-TDAC เป็นงานที่นำเสนอโปรแกรมทางวิทยาศาสตร์ในด้านนวัตกรรมซึ่งเน้นการทำวิจัยเพื่อให้มีเอกสารการในการประกอบการรักษา เพื่อให้ผลลัพธ์ในการรักษามีความปลอดภัยอย่างสูงสุดผ่านการโดยการอบรมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในระดับภูมิภาคและนานาชาติที่เก่งที่สุด อาทิด้าน ศัลยกรรมพลาสติก ด้านโรคผิวหนังเพื่อความงาม หรือเวชศาสตร์ชะลอวัย เป็นต้น 

                                                  AMWC Asia-TDAC หมอริว
                                                  AMWC Asia-TDAC หมอริว

                                                  ภายในงานถูกจัดขึ้นอย่างร่วมสมัยโดยรวบรวมบริษัทความงามหลากหลายบริษัทจากทั่วทุกมุมโลกและหลากหลายกลุ่มความงามทั้งฟิลเลอร์ ฉีดโบ โปรแกรมยกกระชับต่างๆไว้ในงานเพื่อให้อัพเดทนวัตกรรมความงามอย่างมากมาย 

                                                    • ในวันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม 2567 เป็นการอบรมในหลักสูตรที่มุ่งเน้นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ร่วมกันกับการฉีดเพื่อให้ฉีดได้อย่างแม่นยำในแต่ละชั้นผิว รวมทั้งยังมีการ Work Shop รวมกับการลงมือปฏิบัติจริง เพื่อให้ผลลัพธ์ในการรักษาเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด 
                                                    • ในวันเสาร์ที่ 25 และอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม 2567 เป็นการเข้าอบรมตาม Section หัวข้อต่างๆตามที่แพทย์ผู้ร่วมงานต้องการ โดยแบ่งเป็นห้อง และเปลี่ยนหัวข้อตามช่วงเวลา ตั้งแต่ 09.00-18.00 . อาทิหัวข้อเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หัวข้อเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประเภทฉีด หัวข้อเกี่ยวกับศัลยกรรมความงามบนผิวหนัง เพื่อให้ผลลัพธ์ที่รัดกุมที่สุดในการรักษาเป็นต้น 
                                                  AMWC Asia-TDAC หมอริว
                                                  AMWC Asia-TDAC หมอริว

                                                  โดยแพทย์ผู้เข้าร่วมภายในงานจะได้รับความรู้มากมายเพื่อมาปรับใช้กับการรักษาและให้บริการคนไข้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการรักษารวมทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างได้ผลลัพธ์สูงสุด รวมทั้งเพื่อความพึงพอใจที่สุดของผู้รับบริการ  

                                                  รมย์รวินท์คลินิกพร้อมที่จะพัฒนาบุคลากรในทางการแพทย์และบุคลากรทางด้านอื่นๆเพื่อให้ผลลัพธ์ในการรักษาที่เป็นที่น่าพึงพอใจที่สุดในทุกการบริการ 

                                                  ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                                    วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                                    MERZ CADAVERIC WORKSHOP

                                                    MERZ CADAVERIC

                                                    อัปเดทความรู้ในการดูแลคนไข้ในรูปแบบเชิงลึกถึง Anatomy ในงาน MERZ CADAVERIC WORKSHOP

                                                    บริษัท Merz Aesthetics ผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมความงามยักษ์ใหญ่ได้จัดงานอบรมให้ความรู้แก่แพทย์ชั้นนำของประเทศเกี่ยวกับหลักกายวิภาคศาสตร์ เพื่อให้ผลลัพธ์ในการรักษาในทุกๆโปรแกรมเกิดผลลัพธ์ในการรักษาที่ดีที่สุด

                                                    MERZ CADAVERIC

                                                    ภายใต้ชื่องาน MERZ CADAVERIC WORKSHOP งานนี้แพทย์จากรมย์รวินท์คลินิก นำทีมโดยพญ.ฐานิสร ธรรมลิขิตกุล  (คุณหมอฐา) แพทย์ผู้อำนวยการรมย์รวินท์คลินิ เข้าWork Shop ด้วยตนเอง และคุณหมอแวว พญ.วรรณวิมล วรรณรักษ์ แพทย์ผู้ชำนาญการประจำรมย์รวินท์คลินิก รวมทั้งทีมแพทย์ เข้าร่วมภายในงาน

                                                    MERZ CADAVERIC

                                                    เมื่อวันอังคารที่  21 พฤษภาคม 2467 ที่สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี (CHAKRI NARUEBODINDRA MEDICAL INSTITUTE (CNMI) RAMATHIBODI HOSPITAL BANG PHLI )ในเวลา 8.00 -16.00 น. โดยภายในงานจะเป็นการอบรมให้ความรู้แก่แพทย์ เพื่อให้ทราบถึงหลักกายวิภาคศาสตร์และการนำมาปรับใช้กับผลิตภัณฑ์ และเครื่องโปรแกรมดูแลความงามต่างๆของบริษัท Merz Aesthetics อาทิ

                                                    MERZ CADAVERIC
                                                      • ฉีดโบเจนใหม่  
                                                      • ฉีดฟิลเลอร์ Belotelo รุ่นต่างๆ เช่น  
                                                        1. Volume กล่องสีม่วง  ฟิลเลอร์ชนิดเนื้อแข็ง เหมาะสำหรับใช้เพิ่มวอลูมให้ใบหน้า 
                                                        2. Intense กล่องสีชมพู ฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับการฉีดเพื่อเติมเต็มร่องลึก 
                                                        3. Balance กล่องสีส้ม ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อละเอียดเหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องตื้น 
                                                        4. Sofe กล่องสีเหลือง ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อนิ่ม เหมาะสำหรับการเติมริ้วรอยเล็กๆ และงานผิว 
                                                    MERZ CADAVERIC
                                                      • Ulthera ยกกระชับปรับรูปหน้า  
                                                      • Radiesse หรือ Reset ฟื้นฟูถึงระดับโครงสร้างซึ่งเป็นงานกลุ่ม Bio Stimutator ที่เน้นการสร้างผิวเพื่อให้ได้ Skin Quality 
                                                      • Skin Revive  
                                                      • Filler Lips หรือ ฟิลเลอร์ปาก 
                                                    MERZ CADAVERIC

                                                    ซึ่งงานนี้จะเป็นการเรียนการสอนจริงผ่านอาจารย์ใหญ่ โดยละเอียดเพื่อแพทย์ทุกท่านเข้าใจอย่างลงลึกที่สุดโดยหัวข้อในการเรียนการสอนมีดังนี้ 

                                                    RECAP ESSENTIAL AESTHETIC ANATOMY AND HANDS-ON CADAVERIC INJECTIONS

                                                    (CADAVERIC LAB)

                                                      • STATION 1: RECAP FACIAL LAYERS AND RELATED IMPORTANT NEUROVASCULAR STRUCTURES   
                                                      • หัวข้อที่    1 : เกี่ยวกับใบหน้าและโครงสร้างหลอดเลือด รวมทั้งโครงสร้างภายในต่างๆ 
                                                      • STATION 2: FACIAL MUSCLES  
                                                      • หัวข้อที่     2 :  เกี่ยวกับกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า 
                                                      • STATION 3: CLINICAL SURFACE ANATOMY FOR INJECTION CORRELATION   
                                                      • หัวข้อที่     3: ความเกี่ยวข้องของคลินิกกับการฉีด 
                                                      • STATION 4: UPPER FACE INJECTION WITH U/S GUIDE  
                                                      • หัวข้อที่     4: การฉีดที่บริเวณใบหน้าส่วนบน 
                                                      • STATION 5: MIDDLE FACE AND LOWER FACE INJECTION WITH U/S GUID 
                                                      • หัวข้อที่     5: การฉีดบริเวณใบหน้าส่วนกลาง และใบหน้าส่วนล่าง
                                                    MERZ CADAVERIC

                                                    จากนั้นในช่วงบ่ายเป็นการอบรมในเรื่อง 

                                                    AESTHETIC ANATOMY FOR CLINICAL INJECTIONS (LECTURE ROOM)

                                                    DERMAL ANATOMY AND VASCULAR PLEXUS / RETAINING LIGAMENTS AND FAT COMPARTMENTS หรือ กายวิภาคศาสตร์เพื่อการฉีดชนิดต่างๆ ทั้งกายวิภาคศาสตร์ของผิวหนังและช่องท้อง ,การยึดเอ็นและช่องไขมัน  

                                                    และปิดท้ายงานด้วยการถามตอบความรู้เพิ่มเติมของเหล่าแพทย์ที่เข้าร่วมภายในงาน

                                                    สำหรับงาน  MERZ CADAVERIC WORKSHOP ที่จัดขึ้นครั้งนี้ทำให้ทีมแพทย์ชั้นนำของรมย์รวินท์คลินิกได้รับความรู้มากมายที่ทั้งนำมารักษาคนไข้ และส่งต่อความรู้ให้กับแพทย์ท่านอื่นๆในคลินิกได้ จึงทำให้มั่นใจได้ว่ารมย์รวินท์คลินิกเป็นคลินิกแถวหน้าที่มากไปด้วยแพทย์ผู้มากประสบการณ์ที่พร้อมสำหรับการเปิดรับความรู้ และพัฒนาคลินิกเพื่อให้รมย์รวินท์คลินิกเป็นคลินิกเสริมความงามที่ดีที่สุด 

                                                    เผยเคล็ดลับหล่อออร่าจับแบบฉบับ มีน นิชคุณ

                                                    มีน นิชคุณ

                                                    เผยเคล็ดลับหล่อออร่าจับแบบฉบับ มีน นิชคุณเรื่องเล็กน้อยที่แฟนคลับน้องมีนไม่ควรพลาด

                                                    หนุ่มหล่อหน้าขาวใส ตัวสูงโปร่ง ดูสะอาดสะอ้าน ที่กำลังเป็นที่กรี๊ดกร๊าดและกำลังอยู่ในกระแสแบบสุดๆในพ.ศ. นี้ ไหนจะฝีมือการแสดงที่นับวันยิ่งเจิดจรัสสู้จอในทุกบทบาท งานนี้แม่ยกสาวน้อยสาวใหญ่แทบอดใจไม่ไหว ไม่ว่าจะไปงานอีเวนต์ที่ไหนก็ต้องแห่แหนกันไปให้กำลังใจ หนุ่ม มีน นิชคุณ ขจรบริรักษ์ เจ้าของดีกรีนักแสดงรุ่นใหม่ และยังเป็นนักกีฬาบาสเกตบอล ที่ไม่ว่าจะลงสนามไหน สาวก็กรี๊ดไม่หยุดแบบฉุดไม่อยู่ 

                                                    มีน นิชคุณ
                                                    มีน นิชคุณ

                                                    เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงและถูกพูดถึงในด้านความหล่อผิวดี ดูสะอาด ใบหน้าขาวผ่อง มาตั้งแต่สมัยยังเป็นนักกีฬาที่เหงื่อท่วมตัวแล้ว จนตอนนี้มีเช็กลิสต์เป็นพระเอกหนุ่มดาวรุ่งของช่อง ยิ่งดูขาว ใส ผ่องมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าจนแม่ยกทั้งหลายแทบจะต้องใส่แว่นกันแดดเพราะแทบจะมองหนุ่มมีนด้วยตาเปล่าไม่ไหว 

                                                    มีน นิชคุณ
                                                    มีน นิชคุณ

                                                    ส่วนเคล็ดลับความหล่อออร่ากระจายของหนุ่มมีน เจ้าตัวบอกว่าไม่ยากเลย ใครๆก็ทำได้เพราะเป็นเรื่องง่ายๆในชีวิตประจำวันเท่านั้น คือนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอต่อที่ร่างกายต้องการ หรือหากทำไม่ได้จริงๆขอให้นอนหลับ 5-6 ชั่วโมงต่อวันเป็นอย่างต่ำ การดูแลใบหน้า ก็ให้ทำความสะอาดใบหน้าให้ดีทาครีมบำรุงผิว และดูแลตามสมควรในช่วงที่พอจะมีเวลา การออกกำลังกายก็สำคัญ  หนุ่มมีนมีดีกรีเป็นถึงหนุ่มหล่อนักกีฬาบาสเกตบอล การออกกำลังกายมีส่วนในเรื่องของการทำให้ผิวดีเนื่องจากการออกกำลังกายนั้นทำให้เลือดลมและออกซิเจนในร่างกายสูบฉีดดี จึงส่งผลออกมาถึงผิวกายภายนอกอย่างเห็นได้ชัด

                                                    มีน นิชคุณ
                                                    มีน นิชคุณ

                                                    ที่สำคัญอาหารการกินที่ดีก็ส่งผลต่อผิวพรรณและออร่าของหนุ่มมีนเช่นกัน หนุ่มมีบอกว่าให้เลือกรับประทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ให้มากๆถึงแม้เจ้าตัวจะไม่ชอบทานผัก ก็ต้องหาอย่างอื่นมาทดแทนเพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน ไม่เพียงแค่นั้น การมีสุขภาพจิตที่ดีก็ส่งผลออกมาถึงภายนอกเช่นกันเจ้าตัวเลยชอบทำให้ตัวเองมีอารมณ์ที่ดี ด้วยการออกไปท่องเที่ยว ดูสัตว์ หรือเล่นกับสัตว์เลี้ยงของเขาตลอดที่มีเวลา เพื่อให้ดีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ 

                                                    มีน นิชคุณ
                                                    มีน นิชคุณ

                                                    เพียงแค่นี้ก็ทำให้หนุ่มมีสุดหล่อของเหล่าแม่ยกมีใบหน้าที่ขาว ใส ผ่อง ผิวดี แบบที่เห็นแล้ว ซึ่งเคล็ดลับทั้งหมดที่หนุ่มมีน บอกกับเรานั้นเป็นสิ่งที่เราสามารถทำตามได้ไม่ยากแต่น้อยคนนักที่จะทำได้ เพียงแค่เรามีวินัย ใส่ใจ และตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจนแค่นี้สาวๆก็สามารถเป็นแม่ยกเป็นแฟนคลับที่มีผิวสวยขาวใส ไปแข่งกับหนุ่มมีนได้แล้ว และหนุ่มมีนเองก็น่าจะมีความสุขมากๆที่มีแฟนคลับสวยโดยที่ได้แรงบันดาลใจและทำตามเคล็ดลับของหนุ่มมีน จริงไหมหละคะ

                                                    มีน นิชคุณ
                                                    มีน นิชคุณ

                                                    อย่าลืมนำเอาเคล็ดไม่ลับตามแบบฉบับขาวออร่าจับของหนุ่มมีนไปทำตามกันเยอะๆนะคะ สูตรนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็สามารถทำได้ ไม่ใช่ได้แค่ผิวดีด้วย สุขภาพดีและรูปร่างดีก็จะตามมาติดๆถ้าเราทำได้อย่างหนุ่มมีน

                                                    โยเกิร์ต-ณัฐฐชาช์ เผยเคล็ดลับการดูแลตัวเองแบบฉบับสาวสวยสุดตรอง

                                                    โยเกิร์ต

                                                    โยเกิร์ต-ณัฐฐชาช์  เผยเคล็ดลับการดูแลตัวเองแบบฉบับสาวสวยสุดตรอง

                                                    สวยสุดสตรองจนได้รับรางวัลใหญ่การันตีตั้งแต่ต้นปี พร้อมออกงานอีเวนต์ รวมทั้งงานถ่ายแบบเข้าแบบรัวๆไม่หยุดอย่างสาวโยเกิร์ต-ณัฐฐชาช์ บุญประชม ที่ตอนนี้กลับมาโสดสนิทอีกครั้งทำเอาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ใจสั่นกันเป็นแถว งานนี้สื่อทุกหัวและทุกคนที่เห็นสาวโยเกิร์ตในช่วงนี้ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสาวโยเกิร์ตสวยวันสวยคืน นับวันยิ่งสวย  

                                                    ล่าสุดในงาน Grand Opening Program Oligio สาวโยเกิร์ตก็ไม่ทำให้สื่อมวลชนและช่างภาพที่เข้าร่วมงานมากมายต้องผิดหวัง เพราะสาวเจ้าเล่นโชว์ความสวยยันรูขุมขนมาตั้งแต่เปิดประตูเข้างาน ทั้งหน้าตาและผิวพรรณสวยฉ่ำแบบที่ไม่สามารถเอาปากกามาวงข้อติได้สักจุด จนคนในงานแซวกันว่าสาวโยเกิร์ตสวยเหมือนลอยมาเลยทีเดียว 

                                                    สาวโยเกิร์ตเปิดเผยในงานนี้ว่า เคล็ดลับความสวยของเธอนั้น เป็นเคล็ดลับที่จะเรียกว่าไม่ลับก็ได้ เพราะเป็นสิ่งที่ใครๆก็รู้กันดี อยู่ที่ว่าจะทำกันหรือเปล่าเท่านั้นเอง แต่สิ่งสำคัญคือความสม่ำเสมอและต้องทำอย่างเป็นประจำทั้งการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การดื่มน้ำให้ครบตามที่ร่างกายต้องการ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยตัวเธอออกกำลังกาย 5-6 วันต่อสัปดาห์ โดยเป็นการออกกำลังกายที่ไม่นาน ออกท่าง่ายๆไม่ทรมานตัวเองเพียงแค่วันละ 30 นาที แต่อาศัยความสม่ำเสมอ อาหารการกินก็สำคัญ เน้นรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ และเมื่อดูแลตัวเองจากภายในจนครบทุกมิติที่จะทำได้แล้ว การดูแลความสวยจากภายนอกก็ต้องพึ่งคุณหมอที่มีประสบการณ์ และสถาบันเสริมความงามชั้นแนวหน้าที่เชื่อถือได้ที่รวมทั้งเปิดมาอย่างยาวนานแล้ว อย่างรมย์รวินท์คลินิกโดยเธอให้คุณหมอออย พญ. อรุณี ทองอัครนิโรจน์ แพทย์ผู้มีประสบการณ์ ดูแลด้านความงามมาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว ที่เธอมั่นใจในรมย์รวินท์คลินิก เนื่องจากว่าเป็นการเข้ามาดูแลความงามอย่างสบายใจ ครบจบได้ในที่เดียว ครองใจเธอไปเลยตั้งแต่หัวจรดเท้าในที่เดียว 

                                                    โดยในงานเธอแอบกระซิบมาอีกว่า Oligio นั้นเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่ทางเลือกที่น่าสนใจมากเพราะช่วยเรื่องยกกระชับผิว ลดริ้วรอย เนื่องจาก Oligio เป็นโปรแกรมยกกระชับที่ไม่เจ็บ ไม่ต้องใช้ยาชา ใช้เวลาทำต่อครั้งเพียงแค่ 20 นาที ทั้งยังให้ผลลัพธ์ทั้งการยกกระชับและเรื่องของผิวเป็นโปรแกรมยกกระชับที่ให้ผลลัพธ์ครบเครื่องในเครื่องเดียว 

                                                    ส่วนเรื่องความสตอรองของเธอที่ใครๆก็พูดถึง เธอกล่าวว่าเริ่มจากการที่เธอเป็นคนรักตัวเอง จึงทำให้เธอเป็นคนมีความมั่นใจ ทั้งหมดจึงส่งเสริมออกมาจนถึงบุคลิกภายนอกของเธอ  รวมทั้งเธอยังมีความเชื่อเสมอว่า Beauty For Success หรือความงามทั้งหมดจะเป็นตัวพาเธอไปสู่ความสำเร็จ  อย่างที่ทุกๆท่านได้เห็นกันในวันนี้ และเธอยกให้เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเธอ เธอจึงให้ Romrawin Clinic เป็นสถาบันเสริมความงามที่ช่วยในการดูแลความงาม และความมั่นใจให้เธอมาโดยตลอด 

                                                     

                                                    รมย์รวินท์คลินิกเปิดตัว Oligio Fast moving Technique ที่แรกในไทย

                                                    เปิดตัว Oligio Fast moving Technique

                                                    เปิดตัว Oligio Fast moving Technique ที่แรกในไทย

                                                    รมย์รวินท์คลินิก ฉลองครบรอบ 21 ปี อย่างยิ่งใหญ่สมฐานะ พร้อมขึ้นแท่นคลินิกแห่งแรกในประเทศไทย เปิดตัว Oligio ยกกระชับอย่างเป็นทางการ เพื่อปรับคุณภาพผิว Skin quality ด้วยเทคนิคล่าสุด Fast moving Technique พร้อมคว้าสาวฮ๊อตสุดสตรอง”โยเกิร์ตณัฐฐชาช์ บุญประชม เข้าร่วมงานและ Meet & Greet สุด  Exclusive กับมีน นิชคุณ ขจรบริรักษ์ 

                                                    Romrawin x Oligio

                                                    ยืนหนึ่งในไทยมากว่า 21 ปี สำหรับรมย์รวินท์คลินิก คลินิกเสริมความงามอันดับต้นของประเทศพร้อมสาขาให้บริการทั่วประเทศถึง 28 สาขา ได้จัดงานวันครบรอบ 21 ปี อย่างยิ่งใหญ่ไปพร้อมๆกับการเปิดตัว โปรแกรมยกกระชับ Oligio อย่างเป็นทางการที่แรกในประเทศไทย ภายใต้ชื่องานRomrawin x Oligio ในวันที่  26 พฤษภาคม 2567 ที่รมย์รวินท์คลินิก สาขาชิดลชั้น 

                                                    Romrawin x Oligio

                                                    ภายในงานเปิดตัวครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้บริหาร ุณไอแซค จาง ู้จัดการทั่วไ บริษัทวอนเทคเอเชีย และ Dr.Park ร่วมบรรยาย การใช้ Oligio เทคนิค Fast Moving Technique และยังมีดารานักแสดงสื่อมวลชนและแฟนคลับเข้าร่วมภายในงานอย่างมากมายเต็มพื้นที่

                                                    Romrawin x Oligio

                                                    โดยเสาหลักในการทำให้รมย์รวินท์คลินิกมีความแข็งแรงในด้านการเสริมความงามคือ 2 บิ๊กบอสของรมย์รวินท์คลินิกคือ  พญ. ฐานิสร ธรรมลิขิตกุล  (คุณหมอฐา) แพทย์ผู้อำนวยการรมย์รวินท์คลินิก ที่เป็นผู้เลือกสรรและส่งต่อความงามให้คนไข้ และยังเป็นเหมือนแม่แบบให้แพทย์ทุกท่านในคลินิกได้ดำเนินรอยตาม และคุณจอย ขวัญฤทัย ดำรงค์วัฒนโภคิน ผู้บริหารรมรวินท์คลินิกที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลในการบริหาร คอยทำหน้าที่ส่งเสริมกิจกรรมทางด้านการขาย การตลาด และมองหาสิ่งใหม่ๆ เพื่อให้รมย์รวินท์คลินิกเป็นคลินิกเสริมความงามที่มีความทันสมัย ทันกระแส อยู่เสมอผ่านวิสัยทัศน์ด้านธุรกิจและการตลาดอันช่ำชองร่วมด้วยทีมแพทย์ที่เป็นกำลังหลักสำคัญที่ทำให้รมรวินท์คลินิกก้าวขึ้นมาเป็นคลินิกชั้นแนวหน้าอย่างมั่นคง 

                                                    Romrawin x Oligio
                                                    Romrawin x Oligio

                                                    รมย์รวินท์คลินิก คลินิกเสริมความงามที่มุ่งเน้นความสำคัญเรื่องผลลัพธ์และการให้บริการมาเป็นอันดับที่ 

                                                    เทรนด์ความงามในปัจจุบัน เทรนด์ Skin Quality เป็นเทรนด์ที่มาแรงอย่างต่อเนื่องรมย์รวินท์คลินิกจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของงานผิวที่ดี ไปพร้อมๆกับการเพิ่มความยกกระชับให้กับใบหน้า เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการได้มีใบหน้าที่สวยยกกระชับตาม Concept Lifting select ของรมย์รวินท์คลินิกและยังได้ผิวที่มีคุณภาพที่ดี  สวยงามแม้วันที่ไม่ได้แต่งหน้าตามกระแสนิยม  

                                                    Romrawin x Oligio

                                                    รมย์รวินท์คลินิกจึงเลือก Oligio (โอลิจิโอ้) นวัตกรรมยกกระชับผิวหน้า ลำคอรวมทั้งเรือนร่าง ด้วยการใช้คลื่นวิทยุด้วย หรือที่รู้จักกันในแวดวงการแพทย์ว่าคลื่น Monopolar RF ในการรักษา ร่วมกับเทคนิคที่เฉพาะตัวอย่างเทคนิค Fast moving ที่ออกแบบมาเพื่อการรักษาโดยการส่งความร้อนลงสู่ชั้นผิวอย่างทั่วถึงทุกอณูอย่างเท่าเทียมกัน ลดการเสี่ยงและลดอันตรายในระหว่างยกขึ้นจากผิว ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะตัวของ Oligio ที่ไม่มีเครื่องอื่นๆในท้องตลาดเหมือนในขณะนี้ 

                                                    Romrawin x Oligio

                                                    โดย Oligio ได้รับผ่านการรับรองมาตรฐานจาก FDA หรือองค์การอาหารและยา จากในประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป และประเทศไทย  นอกจากนี้ Oligio ยังได้รับการการันตีจากประเทศเกาหลีด้วยรางวัล 2024 Korea customer preference index No.1” เนื่องจากเป็นโปรแกรมยกกระชับที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในหลากหลายช่วงวัย ได้ผลลัพธ์ที่ดี ดูแลตัวเองง่ายทั้งก่อนทำและหลังทำ ไม่เจ็บ ไม่ต้องใช้ยาชาทั้งยังทำให้รู้สึกสบายผิวหน้าระหว่างทำตลอดจนหลังทำ ไม่ต้องพักฟื้น 

                                                    Romrawin x Oligio
                                                    Romrawin x Oligio

                                                    พญ. อรุณี ทองอัครนิโรจน์ (คุณหมอออย) กล่าว การมีผิวที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง Oligio น่าจะเป็นอีกโปรแกรมที่ตอบโจทย์คนไข้ในยุคปัจจุบัน 

                                                    Romrawin x Oligio
                                                    Romrawin x Oligio

                                                    และคุณโยเกิร์ตณัฐฐชาช์ สาวปังแห่งปี กล่าวเสริมว่า การเป็นผู้หญิงในยุคนี้ต้องรักตัวเองและเป็นตัวเอง และผลักดันตัวเองให้ทำแต่สิ่งที่ดีๆการดูแลตัวเองการดูแลตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะผู้หญิงทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง และทั้งหมดก็ทำให้เราเกิดความมั่นใจ และส่งเสริมไปถึงบุคลิกภายนอก  ยังเชื่อเสมอว่า Beauty For Success  เป็นสิ่งสำคัญ โยจึงเลือกให้ Romrawin Clinic ดูแลความสวย เพิ่มความมั่นใจให้โยตลอดมาค่ะ 

                                                    Romrawin x Oligio

                                                    ซึ่งทางน้องมีน นิชคุณ ขจรบริรักษ์ ที่เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ มองว่าผิวที่แข็งแรงช่วยเสริมบุคคลิภาพได้เช่นกัน

                                                    ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                                      วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                                      จอง Oligio ตอนนี้รับความสวย คูณ 2

                                                      จอง Oligio ตอนนี้รับความสวย คูณ 2

                                                      จอง Oligio ตอนนี้รับความสวย คูณ 2

                                                      จับจองความสวยก่อนใคร กับโปรแกรมยกกระชับตัวใหม่ล่าสุดที่กำลังเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์สุดๆในเวลานี้ สวยยก หน้ากระชับ แบบไม่ต้องกังวลมุมหน้าอีกต่อไป ด้วย Oligio โปรแกรมใหม่ขวัญใจสาวๆทั่วทุกหัวระแหง 

                                                      จองผ่านทางช่องทางออนไลน์ตอนนี้ รับไปเลยความสวยมากขึ้นอีก 2 เท่า ! 

                                                      รับความสวยแบบ x2 ทันที กับ Oligio ที่รมรวินท์คลินิก ที่เดียวเท่านั้นที่ใจป้ำให้ขนาดนี้ 

                                                      จองได้ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ถึง 30 มิถุนายน 2567 เท่านั้น รีบจองด่วนๆ 

                                                      สวยสองต่อกับ Oligio 

                                                      ต่อที่ 1 รับไปเลยทันทีส่วนลดในการทำ Oligio ที่ 12,000 บาท เมื่อซื้อโปรแกรมยกกระชับ Oligio จำนวน 300 Shot 

                                                      ต่อที่ 2 รับเพิ่มไปเลย โบม่วง ให้สวยใสไร้ริ้วรอยบนใบหน้า จำนวน 12 Unit ไปเลยแบบฟรีๆ 

                                                      ให้ทุกคนที่มาทำ Oligio ยกกระชับ ได้มีใบหน้าที่ไร้ริ้วรอยกันถ้วนหน้า 

                                                      งานนี้ต้องรีบจองเพื่อรับสิทธิ์ เนื่องจากสิทธิ์ในการให้บริการมีจำนวนจำกัด 

                                                      เพียงแค่ 20 สิทธิ์เท่านั้น ! 

                                                       

                                                      จอง Oligio ตอนนี้รับความสวย คูณ 2

                                                      Oligio ดียังไง?

                                                        • Oligio ช่วยให้เหนียงลดตั้งแต่ทำในครั้งแรก 
                                                        • Oligio ช่วยในการยกกระชับใบหน้า 
                                                        • Oligio ช่วยปรับกรอบหน้าให้ชัดขึ้น 
                                                        • Oligio ยกกระชับใบหน้าได้แบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นใบหน้า 
                                                        • Oligio ทำครั้งเดียวอยู่ได้นานถึง 1 ปี 
                                                        • Oligio ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสติน 
                                                        • Oligio ช่วยในการทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรง 

                                                      Oligio เหมาะกับใคร ?

                                                        • ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด 
                                                        • ผู้ที่มีริ้วรอยร่องแก้มลึก 
                                                        • ผู้ที่ใบหน้ามีเนื้อแก้มเยอะ หรือมีเหนียง 
                                                        • ผู้ที่ต้องการยกกระชับเปลือกตา เปลือกตาเริ่มตก หนังตาตก ต้องการยกคิ้ว 
                                                        • ผู้ที่มุมปากเริ่มตก มีร่องหรือริ้วรอยในระยะเริ่มต้น 
                                                        • ผู้ที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวหน้า 

                                                      Oligio ทำงานยังไง ?

                                                      Oligio ทำงานด้วยการใช้เทคโนโลยีของคลื่นวิทยุแบบ Monopolar RF ที่ ได้รับการรับรองจาก US FDA จากประเทศสหรัฐอเมริกา และยังได้รับการรับรองมาตรฐานทั้งในไทย ยุโรป Oligio เป็นโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้มีความสม่ำเสมอของพลังงาน สามารถปล่อยพลังงานจากเครื่องออกมาได้อย่างต่อเนื่องโดยการใช้คลื่น 6.78 MHz  ในการทำให้เกิดความร้อนและอุณหภูมิสูงเพียงพอสำหรับ การกระตุ้นเซลล์ผิวหนังอย่างลงลึก โดยพลังงานความร้อน RF จะเข้าไปช่วยในการกระตุ้นเซลล์ผิวหนังลงได้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ หรือ Dermis  อีกทั้งพลังงานความร้อนยังสามารถลงลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง จึงส่งผลให้เซลล์ไขมัน หรือ  Subcutaneous Fat ลดลงได้ด้วย จึงทำให้ Oligio นอกจากจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการที่จะยกกระชับใบหน้า และยังเหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมบนใบหน้า บริเวณแก้ม และเหนียง อีกด้วย 

                                                      ดีขนาดนี้ ไม่จองได้หรอ  ? จองก่อนยกก่อน กระชับก่อน หน้าเด็กก่อนด้วย Oligio

                                                      หมายเหตุ 

                                                        1. เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด 
                                                        2. สิทธิ์มีจำนวนจำกัด 
                                                        3. โปรโมชั่นนี้ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ถึง 30 มิถุนายน 2567 เท่านั้น 
                                                        4. ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับบุคคลและการดูแล 

                                                      โปรโมชั่นนี้เฉพาะสาขาพระราม 2 เท่านั้น

                                                       

                                                       

                                                      ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                                        วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                                        ยอดขาย Radiesse ที่รมย์รวินท์คลินิก ถล่มเกินคาดด้วยเทคนิคเฉพาะที่รมย์รวินท์คลินิก

                                                        Radiesse

                                                        คุณหมอออย และคุณหมอริวให้สัมภาษณ์ HELLO Magazine เกี่ยวกับ Radiesse Biostimulator ตัวดังในกระแส

                                                        นาทีนี้ดังไม่หยุด ฉุดไม่อยู่แล้วกับ Radiesse ที่คุณหมอออยคุณหมอออย-พญ.อรุณี ทองอัครนิโรจน์และคุณหมอริว-นพ. อัครวินท์ ดำรงค์วัฒนโภคินแพทย์ผู้ชำนาญการประจำ Romrawin Clinic ได้รับเกียรติให้สัมภาษณ์กับทาง HELLO BEAUTY & HEALTH Magazine งานนี้ทั้งคุณหมอออยและคุณหมอริว ได้พูดถึง Radiesse ด้วยสร้างการกระตุ้น Biostimulator กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว ที่กำลังโด่งดังและเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้อย่างหมดเปลือก เรียกได้ว่าอ่านที่เดียวเข้าใจหมดจดอย่างถ่องแท้ 

                                                        เพราะคุณภาพผิว คือพื้นฐานของความดูดีคือสิ่งที่คุณหมอออยและคุณหมอริวคำนึงถึงอยู่เสมอ

                                                        แต่ความดูดีนั้นไม่ได้หมายถึงความสวย งาม หรือเป๊ะจนมองหาที่ติไม่ได้อย่างที่ใครๆเข้าใจ แต่ความดูดีนี้หมายถึงความพอดีที่ทำให้ดูดีทุกมิติและดูภาพรวมเป็นความดูดีที่พอดี โดยรมรวินท์คลินิกจะมีโปรแกรม Lifting Select ที่เป็นโปรแกรมที่เป็นต้นแบบในการปรับให้ทุกคนดูดีได้ด้วย 3 ขั้นตอนใหญ่ๆ คือ Frame Selection , Light & Shadow Me และ Conceal Selection พูดง่ายๆก็คือการปรับรูปหน้า ให้สวยสมส่วนมากขึ้น การเพิ่มมิติแสงและเงาให้กับใบหน้า และงานผิวที่ดีนั่นเองโดยสวยหล่อแบบเป็นธรรมชาติไม่ล้นไม่แข็งเกินพอดี 

                                                        โดยงานผิวที่ดี และกำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้คือการสร้างคอลลาเจนให้กับใต้ชั้นผิวหรือการฉีดสาร Biostimulator ให้กับผิวเนื่องจากคอลลาเจนบนใบหน้าของคนเราจะลดลงทุกปีตั้งแต่อายุ 30 ปี หากไม่กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ใบหน้าของเราก็จะเกิดการหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ผิวค่อยๆหลวม มีความแน่นที่ลดลงตามอายุที่มากขึ้น 

                                                        การทำ Radiesse จึงเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว และหากทำตั้งแต่อายุยังไม่มากก็จะเป็นการป้องกันคอลลาเจนบนใบหน้าลดลงได้ในอนาคต หรือหากทำตอนอายุมากแล้วก็จะช่วยฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกถึงชั้นโครงสร้างผิว ทำให้ผิวมีความเรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง เม็ดสีผิวดูดีขึ้นและยังช่วยในการช่วยเรื่องโครงหน้าและเพิ่มมิติให้กับผิวอีกด้วย  อีกทั้ง Radiesse ยังช่วยในการจัดกรอบหน้า ให้มีความคมชัดมากขึ้นได้ด้วย เนื่องจากในบางครั้งโครงหน้าของคนเราที่ไม่คม ไม่ชัด ไม่มีกรอบหน้า และไม่กระชับ จะมีสาเหตุมาจากผิวหน้าที่หย่อนคล้อยและย้วย การทำ Radiesse ก็จะช่วยให้ใบหน้าคมชัดได้รูปมีมิติและดูสวยมากขึ้นได้ด้วย

                                                        และหากเข้ามาดูแลตัวเองที่รมรวินท์คลินิก ก็จะสามารถเชื่อมั่นและมั่นใจได้ว่าแพทย์ทุกท่านได้รับการเทรนมาจากแพทย์ที่เป็น KOL ของ Radiesse โดยตรง จึงทำให้มั่นใจได้ว่าฉีดอย่างถูกต้อง ปลอดภัย ดูเป็นธรรมชาติและดูดีขึ้นทุกคนอย่างแน่นอนเนื่องจากแพทย์ทุกท่านได้รับการเทรนการทำ Radiesse มาอย่างชำนาญการ 

                                                        โดยสามารถอ่านบทความดีดีจาก Hellomagazine ได้ที่ https://www.th-hellomagazine.com/beauty-health/romrawin-clinic-radiesse/ 

                                                        ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                                          วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                                          Radiesse สุดคุ้มรับส่วนลด 2 ต่อ !

                                                          Radiesse

                                                          Radiesse สุดคุ้มรับส่วนลด 2 ต่อ !

                                                          นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก ตัวกระตุ้นผิวสุดโด่งดังที่สุดของ พ.ศ.อย่าง Radiesse แล้ว เพราะคุณหมอออย และคุณหมอริว คุณหมอมากความสามารถจากรมรวินท์คลินิกได้รับเกียรติสัมภาษณ์กับทางเว็บไซต์นิตยาสาร Hello ซึ่งเกี่ยวกับ Radiesse งานผิว กลุ่ม biostimulator ตัวดัง

                                                          เทคโนโลยีสารกระตุ้นผิว Radiesse ที่ตอบโจทย์เทรนด์งานผิวที่ใครๆก็ต่างหลงรักในคุณสมบัติกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ที่มี  CaHA (คา-ฮ่า ไมโครสเฟียร์หรือสารสำคัญที่ใช้ในการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทั้งยังมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นสารที่มีความสำคัญต่อผิวทั้ง 5 ประการ และยังมอบถึง 3 ผลลัพธ์ต่อผิวที่เหนือกว่าผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นๆคือ  

                                                            • ช่วยทำให้ผิวมีสุขภาพและคุณภาพดีขึ้น คือเพิ่มความเฟิร์ม มีความแน่นอิ่ม ฟู ยืดหยุ่น เด้ง กระชับ ได้มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 
                                                            • ช่วยลดริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้าให้ดูลดลง และมีความตื้นขึ้น ทั้งยังช่วยทำให้ใบหน้ามีความยกกระชับ และปรับผิวให้มีความอ่อนเยาว์มากขึ้น 
                                                            • เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทฉีดกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิว ที่สามารถคงผลลัพธ์ได้อย่างยาวนานถึง 2 ปี 

                                                          และยังมี 5 จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ใครที่ได้ทำไปก็ต้องตกหลุมรักอย่าง  เพราะมีความปลอดภัยสูง  สามารถไว้วางใจได้ว่ามีมาตรฐาน และถูกใจผู้ใช้จริง 

                                                          สามารถตามบทสัมภาษณ์สุด Exclusive ของคุณหมอออย พญ.อรุณี ทองอัครนิโรจน์ (KOL & Speaker Merz Aesthetics Thailand and Medical Director of Romrawin Clinic) และคุณหมอริว นพ. อัครวินท์ ดำรงค์วัฒนโภคิน (CEO and Medical Director of Romrawin Clinic) 

                                                          ได้ที่ https://www.th-hellomagazine.com/beauty-health/romrawin-clinic-radiesse/

                                                          ลงหนังสือชื่อดังขนาดนี้แล้วก็ต้องจัดโปรโมชันสุดพิเศษ เอาใจคนรักการอ่านกันหน่อย ใครที่เปิดไปเปิดมาแล้วเจอบทสัมภาษณ์ของคุณหมอออย และคุณหมอริว แคปหน้าจอจากเว็ปไซต์ hellomagazine บทความที่มีคุณหมอชื่อดังจากรมย์รวินท์ พร้อมส่งหลักฐานมาทาง INBOX Facebook Romrawin Clinic หรือทางช่องทาง Social Network ต่างๆของทางรมรวินท์คลินิก จะได้รับความสวยคูณ

                                                          ต่อที่ 1 ซื้อ Radiesse 2 กล่อง ในราคา 63,800 บาท จากราคาปกติ 90,000 บาท 

                                                          ต่อที่ 2 รับฟรี Nu Pico  ที่สุดของเลเซอร์ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ มูลค่ากว่า 20,000 บาท 

                                                          ไม่เพียงแค่นั้น ยังให้ไปหน้าสวยใสอีกหนึ่งกรุปด้วย Nu Pico Bright มูลค่า 20,000.-  

                                                          ได้รับดิลดีแบบนี้ เฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น สิทธิ์มีจำนวนจำกัด 

                                                          ที่สำคัญ สามารถเริ่มแคปรับโปรโมชันได้ตั้งแต่วันที่ ระยะเวลาโปรโมชัน 17 พ.ค.- 31 .. 2567 เท่านั้น !

                                                          ช้าหมด อดสวยและยังตกเทรนด์อีกด้วย 

                                                          *โปรโมชันนี้เฉพาะจองออนไลน์เท่านั้น 

                                                          *ระยะเวลาโปรโมชัน 17 พ.ค.– 31 ..2567 

                                                          *โปรโมชันเฉพาะแพทย์ที่เข้าร่วมรายการเท่านั้น (อาจารย์แพทย์ไม่ร่วมรายการ) 

                                                          *ฟรี Nu Pico Bright มูลค่า 20,000.- เมื่อซื้อ Radiesse โปรโมชัน 1 แถม1 

                                                          *ผลลัพธ์การรักษาอาจแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล 

                                                          *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด โปรดตรวจสอบรายละเอียด และเงื่อนไขเพิ่มเติมกับทางเจ้าหน้าที่ 

                                                           

                                                          *เฉพาะสาขาสาขาพารากอนท่านั้น 

                                                          ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                                            วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                                            Romrawin Clinic No.1 Grand Opening อย่างเป็นทางการในงาน Romrawin x Oligio อย่างยิ่งใหญ่

                                                            Oligio

                                                            Romrawin Clinic No.1 Grand Opening อย่างเป็นทางการในงาน Romrawin x Oligio อย่างยิ่งใหญ่คลินิกแรกในไทย 

                                                            นับถอยหลัง เตรียมพบกับงาน Romrawin Clinic  Grand Lunch Oligio ในงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ที่แรกในเมืองไทยก่อนใครในงาน “Romrawin x Oligio” กับโปรแกรมยกกระชับสัญชาติเกาหลีชื่อดัง Oligio พร้อมยกทัพอาจารย์แพทย์ชื่อดังจากเกาหลี Dr. Park พร้อมพบดารา นักแสดง ศิลปิน อินฟลูเอนเซอร์รวมงานอย่างคับคั่ง 

                                                            Romrawin Clinic Present อีเวนต์ใหญ่ประจำ Quarter 2 ในงาน “Romrawin x Oligio” งานเปิดตัวนวัตกรรมเครื่องยกกระชับสุดโด่งดังและเป็นที่นิยมจากประเทศเกาหลี ที่มาพร้อมกับเทคนิคเครื่องเฉพาะตัวที่มีระบบความเย็น ทำให้ในการรักษาไม่เจ็บ ไม่ต้องใช้ยาชา และยังมีเทคนิคเฉพาะตัว ที่ไม่มีใครเหมือนเรียกว่า “Fast Moving” ที่เปิดตัวในประเทศไทยงานนี้ที่แรกเช่นกัน 

                                                            ภายในงานจะมีการเทรนนิ่งแพทย์ Demonstration และ Hand on โดยอาจารย์แพทย์ชื่อดังจาก Oligio อย่าง คุณหมอปาร์ค หรือ Dr. Park  ที่จะมาอบรมแพทย์จากรมย์รวินท์คลินิกในการใช้เทคนิค Fast Moving ในการรักษาคนไข้ด้วย Oligio ยกกระชับ รวมถึงผลลัพธ์จากการใช้เทคนิค Fast Moving ในการรักษา และยังมีการลงมือสอนแบบทำให้ดูจริงๆ (Live Demonstration) ไม่ใช่เพียงแค่ทฤษฎี แต่จะมีการลงมือทำให้เห็นอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แพทย์จากรมย์รวินท์คลินิกสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง 

                                                            ทั้งยังมีการให้แพทย์จากรมย์รวินท์คลินิกลงมือทำจริงโดยมีคุณหมอปาร์ค เป็นผู้ดูแลระหว่างทำอย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่างานนี้เป็นการจัดงานเปิดตัวที่มาพร้อมความเอ็กซ์คลูซีฟแบบที่ยังไม่มีคลินิกไหนมีมาก่อน 

                                                            พร้อมพบกับดารา นักแสดงอาทิเช่น คุณโยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ บุญประชม อินฟลูเอนเซอร์ ติ๊กต็อกเกอร์ และสื่อมวลชนมากมายที่พร้อมตบเท้าเข้าร่วมภายในงาน “Romrawin x Oligio” นี้นอกจากมีกิจกรรมมากมายแล้วยังมีโปรโมชั่นดีดีเอาไว้ให้แฟนๆรมย์รวินท์คลินิก Shop ไว้เพื่อเพิ่มความสวย ยกกระชับ ลดริ้วรอยและสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ได้กันแบบถ้วนหน้า 

                                                            สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เจ้าหน้าที่ประจำรมย์รวินท์คลินิกสาขาเซ็นทรัลพลาซาชิดลม ชั้น 4

                                                            สำหรับ Oligio ยกกระชับเป็นผู้นำทางด้านความงามในกลุ่มโปรแกรมเลเซอร์และกลุ่มโปรแกรมยกกระชับผิวหน้าอันดับ 1 จากประเทศเกาหลี ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมความงามอย่างเป็นธรรมชาติอย่างสาวเกาหลี ที่ยังคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ส่วนตัวเฉพาะบุคคล เพื่อให้การยกกระชับใบหน้า เป็นการยกกระชับที่มาพร้อมกันกับการสร้างคอลลาเจนให้ผิวและดูแลผิวหน้าให้มีสุขภาพที่ดีมี Skin Quality ถึง 3 มิติ คือมีผิวที่ ชุ่มชื้น สวย ใส ไม่แห้งกร้าน , ผิวมีความเรียบเนียนสม่ำเสมอ และผิวยกกระชับ ไร้ริ้วรอย พร้อมสำหรับได้รับการบำรุงไปควบคู่กัน เพื่อให้เกิด Mindful Beauty คือการเป็นคนที่ดูดีทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและภายในไปพร้อมๆกัน 

                                                            Oligio เป็นโปรแกรมที่มีความปลอดภัยเนื่องจากมีการผ่านการรองรับ อย. ทั้งไทย, ยุโรป และสหรัฐอเมริกา 

                                                            สำหรับใครที่อยากมีใบหน้ายกกระชับและผิวที่สวยทั่วทั้ง 3 มิติ สามารถเข้ามาใช้บริการ Oligio ได้แล้ววันนี้ที่รมย์รวินท์คลินิกทุกสาขา ทั้ง 28 สาขาทั่วประเทศแล้วมาร่วมเปิดตัวอย่างเป็นทางการด้วยกันวันที่ 26 พฤษภาคม 2567 นี้ 

                                                            ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                                              วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                                              Exclusive Meet & Greet กับ มีน นิชคุณ

                                                              Meet & Greet มีนนิชคุณ

                                                              ใครเป็นแฟนคลับ มีน นิชคุณยกมือขึ้น

                                                              เตรียมกรี๊ดดดดให้สุดเสียง  ดีใจให้สุดติ่ง พร้อมร่วมงาน Meet & Greet หนุ่มมีน นิชคุณ กันที่รมย์รวินท์คลินิกที่สาขาชิดลมได้เลย 

                                                              โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ๊อยบ่อย ให้ใกล้ชิดกันแบบสุดๆ วันเดียวเท่านั้น !

                                                              งานนี้พิเศษมาก Exclusive แบบสุดๆ เพราะมีผู้โชคดีแค่ 10 ท่านเท่านั้น 

                                                              อย่าพึ่งถอดใจ เพราะผู้โชคดีคนนั้นอาจเป็นคุณ..

                                                              Romrawin Clinic จัดงานใหญ่ เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มาร่วมลุ้น “ Meet & Greet “ กับ หนุ่มฮ๊อตแห่งยุค มีน นิชคุณ ขจรบริรักษณ์ พระเอกชื่อดังที่มีผลงานฮ๊อตฮิตติดกระแสมาแล้วมากมาย และยังมีฐานแฟนคลับที่เหนี่ยวแน่นจนชาวด้อมอื่นๆยังแอบอิจฉา 

                                                              งานนี้ห้ามพลาด ! เพราะหนุ่มมีนจะมาทำอะไรใหม่ๆกับแฟนคลับ ในแบบที่แฟนๆต่างก็คาดไม่ถึง 

                                                              Meet & Greet ครั้งนี้ แค่ดื่มน้ำให้มากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ แล้วกรี๊ดให้สุดเสียงภายในงานให้หนุ่มมีนชื่นใจเท่านั้นก็พอ

                                                              กฏกติกาสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วม Meet & Greet มีน นิชคุณร่วมกับรมย์รวินท์ ง่ายๆ เพียงแค่ “หากได้ทำสวยที่ รมย์รวินท์คลินิก อยากทำโปรแกรมอะไร พร้อมเหตุผลสามารถร่วมสนุกได้ที่ลิ้งค์


                                                              https://forms.gle/Srt6zTQ27KUkK4gC6

                                                               

                                                              กิจกรรม Meet & Greet มีน นิชคุณร่วมกันรมย์รวินท์คลินิกสามารถร่วมสนุกได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้  กรอกให้ครบ กรอกให้ละเอียด อ่านโจทย์ให้ดีดี เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์น้าา 

                                                              กติกาการคัดเลือก 

                                                              จะทำการคัดเลือกโดยคณะกรรมการ ของรมย์รวินท์คลินิก โดยจะคัดเลือกเพียงแค่ 10 ผู้โชคดีที่เข้าร่วมกิจกรรมและต้องทำถูกกติกาเท่านั้น !! ถ้าหากท่านใดมีเหตุผลโดนใจคณะกรรมการจากรมย์รวินท์มากที่สุด ก็จะได้สิทธิ์ในการเข้าร่วมงาน Meet & Greet กระทบไหล่หนุ่มมีนสุดหล่อไปเลย

                                                              แต่เดี๋ยวก่อนนนนน !! ไม่เพียงแค่นั้น อุตส่าห์ชนะการคัดเลือกทั้งที จะแค่ให้เจอหน้าหล่อๆของหนุ่มมีแค่นั้นได้ยังไง งานนี้ต้องได้ถ่ายรูปกลับไปเป็นที่ระลึกด้วยถึงจะพิเศษ !! 

                                                              กิจกรรมงาน Meet & Greet มีนนิชคุณ นี้สามารถเข้าร่วมสนุกกับรมย์รวินท์คลินิกได้ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.67 – 23 พ.ค.67  

                                                              ประกาศผลผู้โชคดีที่จะได้เข้าร่วมงาน Meet & Greet จำนวน 10 ท่าน ในวันที่ 24 พ.ค.67 ผ่านช่องทาง Facebook Fan  Page  Romrawin Clinic เท่านั้น 

                                                              งานนี้ช้าไม่ได้แล้วน้า 

                                                              ไม่มีการขายบัตร

                                                              โปรดระวังมิจฉาชีพที่จะมาในรูปแบบต่างๆ หากเกิดเหตุการณ์จากมิจฉาชีพทางรมย์รวินท์คลินิกไม่ขอรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ว่ากรณีใดใด 

                                                              หมายเหตุ 

                                                              * ผู้โชคดี 1 ท่าน/สิทธิ์เท่านั้น 

                                                              * ไม่สามารถเปลี่ยนของรางวัลเป็นเงินสดได้ 

                                                              * ไม่สามารถเปลี่ยนของรางวัลเป็นโปรแกรม หรือหัตถการในคลินิกได้ 

                                                              * คำตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด 

                                                              * เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด 

                                                              ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                                                วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                                                รมรวินท์คลินิกเข้าอัปเดทเทรนงาน AMI Inhouse Workshop: MD CodeTM Look

                                                                AMI Inhouse Workshop

                                                                รมรวินท์คลินิกจัดอบรมแพทย์เพื่ออัปเดทเทรนความรู้ในการฉีดใหม่ประจำปีกับบริษัท Allergan Medical Institute ภายในงาน AMI Inhouse Workshop: MD CodeTM Look ที่รมรวินท์คลินิกสาขาชิดลม ในวันพุธที่ 15 พฤษภาคม 2567 เวลา 09:00 – 14:00 น.

                                                                AMI Inhouse Workshop

                                                                นำทีมโดยคุณหมอฐา พญ.ฐานิสร ธรรมลิขิตกุล แพทย์ผู้อำนวยการประจำรมรวินท์คลินิก คุณหมอออยพญ.อรุณี ทองอัครนิโรจน์ และ คุณหมอริว นพ. อัครวินท์ ดำรงค์วัฒนโภคิน แพทย์ผู้ชำนาญการประจำ ร่วมด้วยแพทย์ประจำรมรวินท์คลินิกอีกนับสิบท่านเข้าร่วมภายในงาน 

                                                                AMI Inhouse Workshop

                                                                ภายในงานเป็นการสอนแพทย์โดย AMI Trainer Thailand เพื่อสอนฉีดผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ของ บริษัท Allergan Aethetics an AbbVie company 

                                                                AMI Inhouse Workshop

                                                                การจัดอบรมในครั้งนี้เป็นการจัดอบรมในหัวข้อ “Why periorbital treatment is important?” โดยมีหัวข้อย่อย How can we apply FCR on the upper face? และ Key challenge to dynamic expression around periobital.  หัวข้อนี้จะเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาใบหน้าส่วนบน (Upper Face) และ หัวข้อ  MD Codes Look approach มีหัวข้อย่อย What is MD Codes ™ LookCode-by-code injection technique หัวข้อนี้จะเกี่ยวกับการประเมินและเทคนิคการฉีดโดยการใช้รหัสเฉพาะของ Allergan Medical Institute หรือที่รู้จักกันในวงการแพทย์ว่า รหัส MD CODE

                                                                AMI Inhouse Workshop

                                                                จากนั้นจะเป็นการ Demonstration หรือการสาธิตการสอนฉีด โดยเริ่มจากขั้นตอนการประเมินใบหน้าผู้ป่วย จากนั้นเป็นการประเมินตัวยาซึ่งเป็นตัวยาฟิลเลอร์ Allergan รุ่น  Voluma Volift และรุ่น Volbell โดยผู้ป่วยเป็นเพศหญิง มีปัญหาในส่วนของใบหน้าช่วงบนหรือ (Upper Face) มีลักษณะ ตาดูล้า เหนื่อย ดวงตาไม่สดใส 

                                                                AMI Inhouse Workshop2 02 0 0 min scaled

                                                                แพทย์จึงใช้การฉีดฟิลเลอร์โดยการใช้เทคนิค MD Codes Look ในส่วนบริเวณรอบดวงตาเพื่อแก้ปัญหาบริเวณรอบดวงตา เพื่อให้คนไข้รู้สึกเหนื่อยน้อยลง รู้สึกสดใสขึ้น

                                                                ผลลัพธ์หลังการฉีดคือคนไข้มีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คนไข้ภาพรวมดูสดใสขึ้น ตาดูเปิด สดใสมากขึ้น ใต้ตาสว่างมากขึ้น นับป็นที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างมากสำหรับตัวคนไข้

                                                                หลังจากนั้นเป็นการ Hand on injection โดยการให้แพทย์ที่ได้เรียนไปได้ลงมือทำเอง ซึ่งแพทย์ทุกท่านของรมรวินท์คลินิกในระหว่างที่ทำการอบรมได้มีความตั้งใจเป็นอย่างมากจึงทำให้ทุกท่านเมื่อลงมือทำการฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิค MD Codes Look จึงสามารถทำการฉีดได้เป็นอย่างดี และเป็นที่น่าพึงพอใจสำหรับคนไข้

                                                                ฟิลเลอร์ Allergan เป็นฟิลเลอร์ที่ดี มีคุณภาพ และมีความปลอดภัยมาก เมื่อทำการฉีดโดยแพทย์ที่มีความรู้และได้รับการอบรมจากบริษัทโดยตรงยิ่งส่งผลให้ฟิลเลอร์ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น รวมจนถึงได้ผลลัพธ์อย่างสูงสุดของผลิตภัณฑ์

                                                                สามารถเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ Allergan รุ่น  Voluma Volift และรุ่น Volbell ด้วยเทคนิค MD Codes Look ได้แล้ว ที่รมรวินท์คลินิกทุกสาขาทั้ง 28 สาขา สามารถรับคำปรึกษาและติดต่อสอบถามรายละเอียดเบื้อต้น ได้ที่ช่องทางออนไลน์ของรมรวินท์คลินิก หรือหน้าร้านทุกสาขาใกล้บ้านท่าน

                                                                ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                                                  วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                                                  EMFACE คืออะไร? ทำงานยังไง? ยกกระชับได้อย่างไร?

                                                                  Emface


                                                                  ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                                                    วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                                                    BEFORE & AFTER

                                                                    Emface
                                                                    Emface

                                                                    EMFACE เครื่องยกกระชับกล้ามเนื้อ เครื่องแรกของโลกที่ตอบโจทย์คนกลัวเจ็บ

                                                                    EMFACE ยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้าเครื่องแรกและเครื่องเดียวของโลก มาพร้อม Applicator  ใหม่ ช่วยลดเหนียง ลดไขมัน


                                                                    สุดยอดเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี สำหรับใช้ในการยกกระชับถึงชั้นกล้ามเนื้อของใบหน้า เครื่องแรก และเครื่องเดียวในโลก ที่สามารถทำได้ในขณะนี้ อีกทั้ง EMFACE ยังเป็นโปรแกรมที่ได้รับการยอมรับจากแพทย์และผู้ใช้จริง เซเลป ดารา คนดังจากทั่วโลก ว่าได้รับผลลัพธ์ที่เป็นที่น่าพึงพอใจ ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในปีที่ผ่านมา ทั้งยังครองใจใครหลาย ๆ คน จนกลายเป็นกระแสว่าแพทย์ท่านใดไม่ได้ทำ EMFACE หรือคลินิกใดไม่มี EMFACE ไว้ให้บริการคนไข้ เท่ากับเชย ล้าสมัย หรือไม่เลือกสรรเทคโนโลยีที่ดีให้กับลูกค้า มาถึงขนาดนี้แล้วมาทำความรู้จักกับ EMFACE โดยละเอียดกันดีกว่า

                                                                     


                                                                    EMFACE คืออะไร ?

                                                                    EMFACE คือ โปรแกรมที่ผ่านการออกแบบวิจัยรวมทั้งพัฒนาโปรแกรมมาเป็นอย่างดี ในการใช้สำหรับยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า จึงทำให้ได้รับการขนานนามว่าเป็นที่สุดของเครื่องยกกระชับกล้ามเนื้อ ที่ทำงานกับกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้ ลึกกว่า และตรงจุดกว่า จึงเป็นการรักษาที่ได้ผลลัพธ์อย่างตรงจุด ทำให้ EMFACE ได้รับความน่าเชื่อถือ รวมทั้งได้รับการรับรองประสิทธิภาพ ความปลอดภัยจาก USFDA หรือ อย. จากประเทศสหรัฐอเมริการวมถึงทั่วโลก

                                                                    EMFACE ยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้าทำงานอย่างไร ให้ผลลัพธ์อย่างไร ?

                                                                    EMFACE ยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า เป็นโปรแกรมที่ให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับกล้ามเนื้อบนใบหน้าในระยะยาว โดยการทำงานของตัวเครื่องจะทำงาน โดยการใช้พลังงานในการช่วยกระตุ้นให้เกิดการทำงานต่อชั้นผิวบนใบหน้าได้อย่างครบทุกชั้น ตั้งแต่ชั้นผิวหนัง ไขมัน ไปจนถึงชั้นกล้ามเนื้อ อย่างครบถ้วนจึงทำให้ EMFACE ยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้าได้ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีเครื่องใดในโลกที่สามารถยกกระชับได้ถึงชั้นกล้ามเนื้อได้เลยในปัจจุบัน

                                                                    EMFACE ยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า ไม่ใช่แค่เพียงกระตุ้นและยกกระชับกล้ามเนื้อบนใบหน้าเพียงอย่างเดียว EMFACE นั้นยังช่วยในการลดริ้วรอยขนาดเล็ก ๆ ร่องน้ำหมาก  ร่องแก้ม รวมทั้งยังช่วยลดไขมันในได้ในเครื่องเดียว

                                                                    โปรแกรม emface ใช้คลื่นอะไรในการยกกระชับ ?

                                                                    EMFACE ใช้คลื่นอะไรในการยกกระชับ ?

                                                                    EMFACE เป็นเครื่องยกกระชับกล้ามเนื้อ ที่มีความผสมผสานระหว่างสองเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน อันประกอบไปด้วย

                                                                      • เทคโนโลยี HIFES (High Intensity facial electric stimulation)  คลื่นวิทยุความถี่ที่มีลักษณะพิเศษ ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถกระจายพลังงานความร้อนจากตัวคลื่นได้อย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ ทำให้ผิวหนังในบริเวณที่ทำเกิดการหด เกร็ง เป็นจังหวะ 125 cycles จากการหดเกร็งนี่เอง จึงเป็นเหมือนการทำให้กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าเปรียบเสมือนได้รับการออกกำลังกาย จึงก่อให้เกิดคุณภาพของกล้ามเนื้อบนใบหน้าที่ดีมากยิ่งขึ้นถึง 30% จากเดิม อีกทั้งเทคโนโลยีนี้ยังสามารถลงลึกถึงใต้ชั้นผิวได้ถึง 20 มิลลิเมตร และยังมีความปลอดภัยมาก เนื่องจากมี AI คอยควบคุมคุณภาพ และวัดระดับความลึกของการปล่อยคลื่นให้อยู่ในระดับที่เหมาะแก่การทำการรักษา  นอกจากนี้คลื่นชนิดนี้ยังช่วยในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างการผลิตคอลลาเจน และอิลาสตินบริเวณใต้ผิวหนัง ในผิวหนังชั้น ไขมันใต้ผิวหนัง และชั้นผิวหนังแท้ จึงทำให้ผิวบริเวณที่ทำ มีความเรียบเนียน กระชับ ไร้ริ้วรอย และรอยเหี่ยวย่น  
                                                                      • เทคโนโลยี Synchronized RF พลังงานคลื่นวิทยุแม่เหล็กที่มีไฟฟ้าแรงสูง ที่ช่วยในการกระตุ้นการยกกระชับ ตั้งแต่ชั้นผิวหนังแท้ ไปจนถึงชั้นกล้ามเนื้อ และจะทำงานร่วมกันกับพลังงาน RF จึงสามารถช่วยในการเผาผลาญไขมันที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังได้ อีกทั้งพลังงานยังสามารถควบคุมพลังงาน RF ดังกล่าวให้ไม่ปล่อยความร้อนลงสู่ชั้นผิว จึงทำให้ไม่เกิดการเบิร์นของผิวและยังช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน รวมถึงอีลาสตินที่อยู่บริเวณใต้ผิว ทั้งยังคงความยืดหยุ่นรวมกับช่วยพยุงผิวหนังไปพร้อม ๆ กันกับการยกกระชับกล้ามเนื้อแบบลงลึกถึง 37%
                                                                    โปรแกรม emface ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

                                                                    EMFACE ยกกระชับกล้ามเนื้อบนใบหน้า ได้รับการวิจัยอย่างแม่นยำแล้วว่าสามารถยกกระชับได้ลงลึกถึงกล้ามเนื้อ และยังสามารถช่วยเพิ่มจำนวนและปริมาณการสร้างคอลลาเจน (Collagen) ใต้ชั้นผิวได้ถึง 27% เพิ่มอิลาสติน (Elastin) บริเวณใต้ชั้นผิวได้สูงสุดถึง 129% EMFACE  ยังช่วยในการเพิ่มความหนาแน่นของกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้สูงสุดถึง 19.2% ช่วยเพิ่มเส้นใยของกล้ามเนื้อใบหน้าได้ 19.2% ช่วยลดริ้วรอยได้สูงสุดถึง 37% ช่วยในการยกกระชับผิวหนังได้สูงสุดถึง 23% ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อและยกกระชับกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้อีกถึง 30% เลยทีเดียว

                                                                    ไฮไลต์สำคัญของ EMFACE คือการเป็นโปรแกรมที่ช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้าได้ถึงบริเวณชั้น SMAS ที่เป็นเนื้อเยื่อติดกับกล้ามเนื้อ มีคุณสมบัติในการยกพยุงโครงสร้างใบหน้า เป็นชั้นที่ศัลยแพทย์ใช้สำหรับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า

                                                                    รวมทั้ง EMFACE ยังสามารถลงลึกถึงผิวหนังชั้น Muscle หรือชั้นกล้ามเนื้อที่ยังไม่มีเครื่องใดทำได้ จึงทำให้ผลลัพธ์ในการทำ EMFACE ได้ผลที่ดีเกินคาดจากผู้ใช้บริการจริง ไม่เพียงเท่านั้น EMFACE ยังช่วยในการลดความหย่อนคล้อยของบริเวณ Skin layer ทั้งสองชั้นอย่าง ชั้นหนังกำพร้า (epidermis) ชั้นหนังแท้ (dermis) และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง Superfacial Fat (Subcutaneous) ได้อีกด้วย

                                                                    EMFACE ยกกระชับได้ในผิวหนังชั้นใดบ้าง? 

                                                                    สามารถแจกแจงได้ดังนี้

                                                                    Skin Layer 

                                                                      • Epidermis
                                                                      • Dermis

                                                                    Superficial 

                                                                      • Fat (Subcutaneous)

                                                                    SMAS

                                                                    Muscle 

                                                                      • Retaining Ligament & Spaces

                                                                    การติดเครื่องมือ Applicator ของ EMFACE จะติดด้วยกัน 3 บริเวณคือ 

                                                                      1. บริเวณแก้มซ้าย
                                                                      2. บริเวณแก้มขวา
                                                                      3. บริเวณหน้าผาก

                                                                    ใหม่ล่าสุด EMFACE ออก Applicator ใหม่ เอาใจคนมีไขมันบนใบหน้าเยอะ มีเหนียง มีแก้มล่างสะสมที่ต้องการจะลดเหนียง ซึ่งในขณะนี้มีเพียงไม่กี่คลินิกในประเทศไทย และรมรวินท์คลินิกมีให้บริการเป็นคลินิกอันดับต้น ๆ ของไทย

                                                                    Emface Submentum

                                                                     EMFACE และ EMFACE Submentum แตกต่างกันอย่างไร ? 

                                                                     EMFACE Submentum แตกต่างกับ EMFACE คือ การที่ออกแบบ Applicator ใหม่ ที่ต่างจากของเดิม เนื่องจาก Applicator ใหม่นี้จะทำงานโดยเน้นลดไขมันบริเวณใต้คาง เพื่อช่วยในการลดเหนียง ไปพร้อม ๆ กับยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณใต้คาง (Double Chin) ซึ่งจะช่วยในการลดขนาดของเซลล์ไขมันสะสม ที่เป็นส่วนเกินอยู่บริเวณใต้คาง จนกลายเป็นเหนียง หรือคางสองชั้นที่เราเห็นกันนั่นเอง

                                                                    ในกรณีนี้ไม่ใช่เพียงแค่คนเจ้าเนื้อหรืออ้วนเท่านั้น คนผอมก็สามารถมีเหนียง หรือคางสองชั้นได้เช่นกัน โดยการติดเครื่องมือของ EMFACE Submentum เพื่อลดเหนียงจะติด Applicator ในบริเวณที่แตกต่างกับ EMFACE ปกติ เนื่องจากจะเน้นเป็นการลดเหนียงและคางสองชั้นมากกว่า โดยจะติดด้วยกัน 3 บริเวณ คือ

                                                                      1. บริเวณแก้มซ้าย
                                                                      2. บริเวณแก้มขวา
                                                                      3. บริเวณเหนียง ใต้คาง

                                                                    Applicator แต่ละแผ่นของ EMFACE และ EMFACE Submentum ทำงานอย่างไร ? 

                                                                    Applicator ของ EMFACE ติดบริเวณหน้าผาก

                                                                    เพื่อช่วยในการยกกระชับกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณหน้าผาก เหนือคิ้ว หางคิ้ว ยกหางตาตก และยังช่วยลดริ้วรอยบริเวณใบหน้าส่วนบน หรือ (Upper face) ให้มีขนาดเล็กลง จนถึงไม่มีเลย  

                                                                    Applicator ของ EMFACE ติดบริเวณแก้มซ้ายและขวา

                                                                    เพื่อช่วยในการยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้าส่วนกลาง และส่วนล่าง ให้ยกขึ้น เช่น ยกแก้มที่หย่อนคล้อย มุมปากที่ตกลง กระเปาะแก้มที่หย่อนและตกลงให้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดริ้วรอย อาทิ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ร่องลึกต่าง ๆ ให้ตื้นขึ้น และดียิ่งขึ้น เปรียบเสมือนการออกกำลังกายให้กับใบหน้า 

                                                                    Applicator ของ EMFACE Submentum ติดบริเวณเหนียง (Double Chin 

                                                                    เพื่อช่วยลดลดเหนียง และลดไขมันที่สะสมอยู่บริเวณใต้คาง ทั้งยังช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อในบริเวณใต้คางไปพร้อม ๆ กัน จึงทำให้ผลลัพธ์ที่ได้จะได้ทั้ง ลดเหนียง และยกกระชับในคราวเดียวกันหลังจากทำการรักษา 

                                                                    emface เหมาะกับใคร

                                                                    EMFACE และ EMFACE Submentum เหมาะกับใคร ? 

                                                                    EMFACE EMFACE Submentum สามารถทำได้ตั้งแต่คนไข้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป โดยคนที่มีอายุในช่วง 20 ปี จะเป็นกลุ่มที่ยังไม่ปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยมากนัก แต่อาจจะมีปัญหาเรื่อง Baby Fat

                                                                    หากทำ EMFACE จะช่วยในการยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า ปรับขนาดใบหน้าให้เล็กลงและยกกระชับมากขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูคมชัด ได้สัดส่วนที่สวยงามมากขึ้น และยังช่วยยืดอายุ ป้องกันใบหน้าไม่ให้หย่อนคล้อยก่อนวัย และช่วยชะลออายุผิวได้ด้วยในอนาคต

                                                                    หากทำ EMFACE Submentum จะช่วยลดไขมันบริเวณใบหน้า ทั้งแก้ม ใต้คางหรือลดเหนียง ทำให้ใบหน้าดูโตเป็นสาวมากขึ้น และเห็นรูปหน้าที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

                                                                    EMFACE EMFACE Submentum ในกลุ่มคนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป จะเริ่มมีปัญหาใบหน้า และผิวหน้ามากขึ้นแล้ว การทำ EMFACE เป็นเหมือนการยกความหย่อนคล้อยของใบหน้าอย่างตรงจุด ที่สามารถทำได้ทุก ๆ ปี เมื่อรู้สึกกังวล แต่ได้ผลลัพธ์เทียบเท่าการทำศัลยกรรมดึงหน้า แต่ไม่จำเป็นต้องหย่อนคล้อยมากจึงจะทำได้ เหมือนการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้าก็สามารถทำได้

                                                                    หากทำ EMFACE จะช่วยลดความหย่อนคล้อยที่เกิดขึ้นจากวัย และปัจจัยอื่น ๆ บนใบหน้า โดยหากทำ EMFACE จะเข้าไปทำการยกกระชับกล้ามเนื้อ ลดริ้วรอยทั้งลึกและตื้น ทั้งนี้ยังช่วยเรื่องความอ่อนเยาว์ และทำให้ใบหน้าดูสดใส เนื่องจาก EMFACE ยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้าช่วยยกทั้ง หางตา และมุมปาก อันเป็นส่วนที่เมื่อมีอายุจะเริ่มตกลง จึงทำให้ใบหน้าของคนเราดูเศร้า และดูดุด้วย

                                                                    EMFACE Submentum จะช่วยทำให้ช่วงล่างของใบหน้า และบริเวณกรอบหน้ามีความคมชัดมากขึ้น และยังเป็นการลดยกกระชับในส่วนไขมัน ลดเหนียง คางสองชั้น กระเปาแก้ม ที่ไม่ว่าจะเป็นคนในช่วงอายุเท่าไรก็สามารถมีได้ทุกคนด้วย

                                                                    หากทำ EMFACE จะช่วยแก้ปัญหาอะไรบนใบหน้าได้บ้าง ? 

                                                                      • EMFACE จะช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผาก
                                                                      • EMFACE จะช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณแก้ม
                                                                      • EMFACE จะช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณ Jawline
                                                                      • EMFACE จะช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณคิ้ว
                                                                      • EMFACE จะช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณหางตา
                                                                      • EMFACE จะช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อมุมปาก
                                                                      • EMFACE จะช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อกรอบหน้า
                                                                      • EMFACE จะช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อกระเปาะแก้ม
                                                                      • EMFACE ช่วยลดริ้วรอยทั่วทั้งใบหน้า

                                                                    EMFACE Submentum ช่วยแก้ปัญหาอะไรบนใบหน้าได้บ้าง ? 

                                                                      • EMFACE Submentum จะช่วยลดเหนียง (Double Chin) และลดไขมันใต้คาง
                                                                      • EMFACE Submentum จะช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณแก้ม
                                                                      • EMFACE Submentum จะช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อมุมปาก
                                                                      • EMFACE Submentum จะช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อกระเปาะแก้ม
                                                                      • EMFACE Submentum จะช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อกรอบหน้า
                                                                      • EMFACE Submentum จะช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณ Jawline

                                                                    EMFACE และ EMFACE Submentum ต้องเข้ารับการรักษาต่อเนื่องกี่ครั้งจึงจะเห็นผลดีที่สุด ?

                                                                    เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการรักษา EMFACE และ EMFACE Submentum ควรเข้ารับการรักษาอย่างสม่ำเสมอให้ครบ Protocol ของโปรแกรม คือ 4 ครั้ง และเว้นระยะห่างในการทำแต่ละครั้ง 1 สัปดาห์ หรือ 7 วัน หรือตามวันนัดของแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ในการลดเหนียง 

                                                                    EMFACE และ EMFACE Submentum สามารถคงผลลัพธ์ได้นานเท่าไร ? 

                                                                    หลังจากการทำ EMFACE และ EMFACE Submentum ครบ Protocol สามารถคงผลลัพธ์ในการยกกระชับกล้ามเนื้อ ลดเหนียงและไขมันบนใบหน้าได้นานถึง 1 ปี 

                                                                    หลังจากทำ EMFACE และ EMFACE Submentum ครบแล้วควรเข้ามาทำอีกทีเมื่อไหร่ ? 

                                                                    หลังจากเข้ารับการรักษา EMFACE และ EMFACE Submentum แล้ว จะสามารถคงสภาพการยกกระชับกล้ามเนื้อไขมัน และลดเหนียงได้ถึง 1 ปี จึงทำให้ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาบ่อย และสามารถทิ้งช่วงการรักษาได้ถึง 1 ปี ในระหว่างนั้นสามารถทำโปรแกรมยกกระชับอื่น เพื่อเป็นการทำให้ผลลัพธ์ในการรักษาดียิ่งขึ้นได้ 

                                                                    emface นวัตรกรรมออกกำลังกายให้กระชับใบหน้า

                                                                    EMFACE และ EMFACE Submentum ใช้เวลาในการรักษานานเท่าไร? 

                                                                    ในการรับการรักษา EMFACE และ EMFACE Submentum ใช้ระยะเวลาในการทำเพียง 20 นาทีเท่านั้น และไม่ต้องทา หรือฉีดยาชาร่วมในการรักษา  

                                                                    EMFACE และ EMFACE Submentum ใช้เวลานานเท่าไรจึงจะเห็นผลลัพธ์ในการรักษา ? 

                                                                    สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำในครั้งแรก แต่จะเห็นผลลัพธ์ชัดขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่เข้ารับการรักษาในครั้งที่ 1-3 และจะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน หลังจากทำการรักษาครบ 4 ครั้ง นอกจากนี้หลังจากทำการรักษาครบ 4 ครั้งแล้ว ประสิทธิภาพของ EMFACE และ EMFACE Submentum ยังจะทำงานกับผิวหน้าต่อ จึงส่งผลให้การรักษาเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

                                                                    ความรู้สึกระหว่างทำโปรแกรม emface และโปรแกรม EMFACE Submentum

                                                                    ความรู้สึกระหว่างทำ EMFACE และ EMFACE Submentum

                                                                      • ระหว่างทำจะรู้สึกตึงบนหน้า
                                                                      • ระหว่างทำจะรู้สึกเหมือนโดนดึงหน้า
                                                                      • ระหว่างทำจะรู้สึกกระตุก ๆ บนใบหน้า
                                                                      • ระหว่างทำจะรู้สึกเหมือนโดนเครื่องบังคับใบหน้าให้ขยับไปตามเครื่อง
                                                                      • ระหว่างทำจะรู้สึกอุ่นในบริเวณที่แปะ Applicator
                                                                      • ระหว่างทำจะรู้สึกกระตุกจากการยกกระชับของกล้ามเนื้อที่อยู่บนใบหน้า
                                                                      • ระหว่างทำจะรู้สึกเหมือนถูกนวด
                                                                      • บริเวณเหนียงจะมีความอุ่นมากกว่าบริเวณใบหน้า เนื่องจากพลังงานของ Applicator มีความร้อนที่สูงกว่า
                                                                    emface ยกกระชับใบหน้าทันทีหลังทำ

                                                                    หมายเหตุ*

                                                                    ความรู้สึกตามที่กล่าวมาข้างต้นนั้น จะเป็นเพียงการส่งกระแสคลื่นพลังงานตามจังหวะ และพัก สลับกันเป็นจังหวะ ไม่ใช่การดูด หรือการช๊อตของไฟฟ้า ผู้ที่มีความกลัว หรือกังวล รวมทั้งกลัวเข็ม สามารถเข้ารับการรักษาได้โดยไร้กังวล

                                                                    emface
                                                                    emface

                                                                    การดูแลตัวเองก่อนเข้ารับการรักษา EMFACE และ EMFACE Submentum  

                                                                      • พักผ่อนให้เพียงพอ
                                                                      • ดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อเตรียมพร้อมผิวให้พร้อมรับการกระตุ้น
                                                                      • ไม่ต้องแต่งหน้าวันที่เข้ารับการรักษา

                                                                    การดูแลตัวเองหลังเข้ารับการรักษา EMFACE และ EMFACE Submentum

                                                                    EMFACE และ EMFACE Submentum เป็นโปรแกรมที่หลังเข้ารับการรักษาจะไม่มีรอยเข็ม ไม่มีรอยช้ำ จึงไม่จำเป็นต้องดูแลเป็นพิเศษ สามารถทาครีมบำรุง และแต่งหน้า รวมทั้งใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ 

                                                                    emface
                                                                    emface

                                                                    อาการหลังเข้ารับการรักษา EMFACE และ EMFACE Submentum  

                                                                    หลังเข้ารับการรักษาในแต่ละครั้ง หากเป็นผู้ที่มีผิวบาง หรือผิวแพ้ง่าย อาจจะเห็นเป็นรอยแดงจากการติดแผ่น Applicator และความอุ่นของเครื่องเพียงเล็กน้อย ในระยะเวลาอันสั้น จึงไม่ต้องกังวล เนื่องจากรอยแดงที่เกิดขึ้นนั้นสามารถหายไปได้เอง และอาจมีอาการเสียวฟันบ้างในผู้เข้ารับการรักษาบางท่าน

                                                                    โดยอาการดังกล่าวไม่เป็นอาการอันตราย

                                                                    emface
                                                                    emface

                                                                    ใครไม่เหมาะกับการเข้ารับการรักษาด้วย EMFACE และ EMFACE Submentum ? 

                                                                      • ผู้ที่มีโลหะใกล้กับบริเวณที่ทำการรักษา หรือบริเวณที่ติดเครื่องมือ
                                                                      • ผู้ที่มีประวัติเคยทำการรักษาโรค ด้วยการใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ
                                                                      • ผู้ที่เคยมี หรือกำลังมีอาการตับหรือไตวาย
                                                                      • ผู้ที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด หรือมีอาการเกี่ยวกับหัวใจ
                                                                      • ผู้ที่ทำเคมีบำบัด
                                                                      • ผู้ที่อยู่ในระหว่างการใช้รังสีรักษา
                                                                      • ผู้ที่มีการเสริมซิลิโคนหน้าผาก เนื่องจากอาจทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของซิลิโคนที่เสริมมา
                                                                      • สตรีที่กำลังตั้งครรภ์

                                                                    ทั้งนี้ในการปรึกษา ก่อนเข้ารับการรักษาควรแจ้งอาการของโรคที่เป็น และอาการต่าง ๆ ในร่างกายให้แพทย์ทราบโดยละเอียด เพื่อให้การประเมินการรักษา เป็นไปอย่างแม่นยำที่สุด  เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และความปลอดภัยในการรักษา

                                                                    emface VS เครื่องยกกระชับที่มาแรง

                                                                    EMFACE และ EMFACE Submentum สามารถทำร่วมกับหัตถการประเภทใดได้บ้าง ? 

                                                                    สามารถจำแนกได้เป็นกลุ่มการรักษา ดังนี้ 

                                                                    หัตถการกลุ่มฉีด

                                                                    สามารถทำ EMFACE และ EMFACE Submentum ร่วมกับหัตถการกลุ่มฉีดได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น สารยับยั้งกล้ามเนื้อ หรือฉีดโบ ,สารเติมเต็ม (ฉีด Filler ไม่ว่าจะเป็นฉีดเพื่อปรับรูปหน้า หรือฉีดฟิลเลอร์งานผิว) สารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator เช่น ฉีด Radiesse ฉีด sculptra) ฉีดงานผิว (เช่น ฉีด Rejuran หรือไหมน้ำชนิดต่าง ๆ) รวมทั้งการลดไขมันลดเหนียง เป็นต้น

                                                                    หัตถการกลุ่มฉีดดังกล่าว สามารถทำร่วมกับ EMFACE และ EMFACE Submentum ได้เนื่องจากพลังงานของตัวเครื่องจะไม่ส่งผลเสียกับตัวยา และไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่หากทำหัตถการกลุ่มฉีดมาแล้ว ควรเว้นระยะเวลา 2-4 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับการรักษาด้วย EMFACE และ EMFACE Submentum เพื่อให้รอยแผลจากการฉีดปิดสนิทเข้าที่ และตัวยาที่ฉีดเข้าไปเข้าที่เข้าทางเป็นอย่างดี

                                                                    หากต้องการเข้ารับการรักษา EMFACE และ EMFACE Submentum และหัตถการประเภทฉีดในการรักษาครั้งเดียวกัน ควรทำ EMFACE และ EMFACE Submentum ก่อนเสมอ เพื่อป้องกันตัวยาเกิดการเคลื่อนที่และกระจายตัว นอกจากนี้คลื่นจาก EMFACE และ EMFACE Submentum อาจเข้าไปทำการสลายตัวยา หรือเข้าไปทำให้ตัวยาออกฤทธิ์ผิดชั้นได้

                                                                    หัตถการกลุ่มเครื่อง

                                                                    สามารถทำ EMFACE และ EMFACE Submentum ร่วมกับหัตถการกลุ่มเครื่องได้ทุกชนิด แต่ต้องเข้ารับการรักษาคนละครั้ง เนื่องจากเครื่องยกกระชับ และลดเหนียงแต่ละเครื่องมีพลังงานการส่งคลื่นคนละชนิด และความลึกในการยิงคลื่นลงชั้นผิวยังมีความแตกต่างกัน หากทำร่วมกับโปรแกรมยกกระชับเครื่องอื่น ๆ จะยิ่งเป็นการทำให้ผลลัพธ์ในการรักษาดียิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นการยกกระชับในทุกชั้นผิวอย่างทั่วถึงนั่นเอง

                                                                    emface VS เครื่องยกกระชับอื่น ต่างกันอย่างไร

                                                                    ทรีทเมนต์ (Treatment) 

                                                                    สามารถทำ EMFACE และ EMFACE Submentum ได้ เนื่องจากเป็นการดูแลปรนนิบัติผิว ไม่มีแผล ไม่มีรอยเข็ม สามารถทำก่อน หรือหลังการทำ EMFACE และ EMFACE Submentum ได้โดยไม่มีอันตราย

                                                                    การทำหัตถการเฉพาะจุด เช่นฉีดสิว

                                                                    สามารถทำได้แต่ควรทำ EMFACE และ EMFACE Submentum ก่อน เนื่องจากป้องกันการเจ็บ อาการช้ำจากรอยเข็มที่ทำการรักษา หรือควรทำคนละรอบการรักษาโดยทิ้งระยะห่างในการรักษา 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ตัวยาที่ฉีดมาออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่ก่อน

                                                                    กลุ่มให้วิตามินบำรุงผิว และฟื้นฟูร่างกาย

                                                                    สามารถทำการรักษาได้ตามปกติ เนื่องจากการรักษากลุ่มนี้เป็นการดูแลผิว และไม่ได้ทำบริเวณใบหน้า ไม่มีคลื่น และรอยเข็มบนใบหน้า จึงไม่ทำให้เกิดอันตรายจากรอยเข็ม อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมผิวทั่วทั้งร่างกาย

                                                                    ทั้งนี้ก่อนเข้ารับการรักษา ควรแจ้งความประสงค์แก่เจ้าหน้าที่ในการเข้ารับการรักษา เพื่อการเรียงลำดับการทำหัตถการในแต่ละครั้งให้ถูกต้อง และเพื่อผลลัพธ์ในการรักษาทุกโปรแกรม ทุกตัวยา และทุกเครื่องอย่างดีที่สุด


                                                                    EMFACE เป็นโปรแกรมยกกระชับกล้ามเนื้อเครื่องแรก และเครื่องเดียวในโลก ที่ตอนนี้มีการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น โดยการเพิ่ม Applicator ที่ใช้ติดบริเวณเหนียง เพื่อลดเหนียงทำให้การรักษาครอบคลุมทั่วทั้งใบหน้า มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากไม่มีเข็ม ไม่เจ็บ ไม่แสบ ไม่ร้อนในระหว่างทำ แต่เป็นเครื่องที่อาศัยความแม่นยำในการติดแผ่น Applicator ของแพทย์เป็นอย่างมาก หากติดผิดพลาด ไม่ถูกทิศทางของกล้ามเนื้อ หรือไม่รู้สรีระบนใบหน้า อาจทำให้การรักษาไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี และอาจทำให้เกิดผลกระทบอื่น ๆ ตามมา


                                                                    รมย์รวินท์คลินิก คลินิกเสริมความงามอันดับต้นๆของประเทศไทย 

                                                                    รมย์รวินท์คลินิก นำทีมโดยแพทย์ที่มากความสามารถและได้รับความน่าเชื่อถือมากมายพร้อมให้การรักษารวมทั้งให้คำปรึกษา ทั้งยังมีประสบการณ์ในการดูแลคนไข้นับ 30 ปี และมีสาขาทั่วทั้งประเทศไทย พร้อมให้คนไข้เข้ารับการรักษา จึงเป็นเครื่องการันตีได้ว่ามีความน่าเชื่อถือ ทุกการรักษาเห็นผลจริง จึงทำให้มีคนไข้เข้ามาเข้ารับการรักษาเป็นจำนวนมาก

                                                                    ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                                                      วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                                                      Deal ลับ จัดเต็มฉลอง ULTHERAPY 2.6 ล้านทรีตเมนต์ ในงาน

                                                                      Ulthera

                                                                      ชาว Romrawin Clinic ห้ามพลาด ‼ เสียงลือเสียงเล่าอ้างสิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็น “ต้องมา SEE กับตา”  เพราะงานฉลองความสำเร็จ อัลเทอราปี ครบ 2.6 ล้านทรีตเมนต์ทั้งที จะจัดแบบเล็กๆ มาเล่นๆไม่ได้ เขาไม่ทำกัน งานนี้ ลดแล้วลดอีก งานนี้ Romrawin Clinic  เชิญชวนชาวเชียงใหม่มาร่วมสนุกพร้อมรับโปรโมชั่นดีๆ แบบสุดๆ จุกๆสะใจ กับ “งาน ULTHERAPY SEENOMENON ปรากฏการณ์สวย ที่สัมผัสได้ด้วยตา” ที่ Central Festival สาขาเชียงใหม่ บริเวณโซนใหญ่ด้านนอก (Outdoor Area)  งานนี้สาวๆ หนุ่มๆ คนไหนที่อยากคืนความอ่อนเยาว์ เพิ่มความยกกระชับบนใบหน้า ให้ดูดีแบบที่ใครๆก็เดาอายุจริงของเราไม่ออก  สามารถ Walk in เข้ารับโปรโมชันพิเศษสำหรับ “Ulthera SPT” ได้ที่ รมย์รวินท์คลินิก สาขา Central Festival เชียงใหม่ คลินิกหาง๊ายง่ายอยู่ที่ ชั้น 4 โซน Beauty ติดทางเข้าจอดรถ (แยกดอยสะเก็ด)   ใครที่เห็นโพสนี้ จากช่องทาง Facebook Fan page “Romrawin clinic” หรือทาง website “romrawin.com” 

                                                                      สามารถสามารถติดต่อขอรับส่วนลดกับพนักงานได้ที่หน้าสาขาเลย  1 คนต่อ 1 สิทธิ์ สำหรับวันที่กำหนดโปรโมชั่นและสำหรับสาขาเชียงใหม่เท่านั้น !  นอกจากที่รมรวินท์คลินิกจะมีโปรโมชั่นดีดีให้แบบจุกๆแล้ว ภายในงานนอกจากจะมีกิจกรรมพิเศษต่างๆ ข่าวสารดีๆ และเรื่องราวที่น่าสนใจต่างๆ ให้อัพเดทพร้อมความสนุกสนานกันแล้ว ยังมีมินิคอนเสิร์ตจากคู่จิ้นสุดฮ๊อต ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ และยังมีวง Boy Band T- POP แถวหน้าอย่าง ต้าห์อู๋ พิทยา – ออฟโรด กันตภณ และวง PROXIE ที่จะมาร่วมสร้างความสนุกสนานตลอดช่วงเวลาให้แก่ผู้ร่วมงานแบบจัดไม่ยั้งเต็มแน่นตลอดทั้ง 2 วัน  

                                                                        • 17 พฤษภาคม 2567 เวลา 18.00 – 19.00 พบ ต้าห์อู๋ ออฟโรด 
                                                                        • 18 พฤษภาคม 2567 เวลา 19.00 – 20.00 พบ PROXIE 

                                                                      ในงานยังมีกิจกรรมสนุกๆให้ผู้เข้าร่วมงานได้เล่นสนุกและยังลุ้นรับของที่ระลึก รวมทั้งของรางวัลภายในงานอีกมากมาย มูลค่าสูงสุดถึง 3,000 บาท  ทั้งได้โปรโมชัน ทั้งได้ร่วมสนุก ทั้งได้เจอนักร้องชื่อดังที่ฮ๊อตฮิตติดกระแสในเวลานี้ และยังได้รับรางวัลติดไม้ติดมือกลับบ้านอย่างมากมาย ไม่ไปไม่ได้แล้ว !  งานจัดเพียง 2 วัน แต่รมรวินท์คลินิกใจดีต่อโปรโมชัน Ulthera SPT ให้ถึงสิ้นเดือน   รีบจองโปรโมชัน Ulthera SPT กันเข้ามานะคะ  เพราะสิทธิ์ต่อวันมีจำนวนจำกัดน้าาาาาา  *โปรโมชันเฉพาะแพทย์ที่เข้าร่วมรายการเท่านั้น  *โปรโมชันจองออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. 67 – 30 มิ.ย. 67   *ผลลัพธ์การรักษาอาจแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล  *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด โปรดตรวจสอบรายละเอียด และเงื่อนไขเพิ่มเติมโดยละเอียดกับทางเจ้าหน้าที่ 

                                                                      *เฉพาะที่รมรวินท์คลินิกสาขา Central Festival เชียงใหม่เท่านั้น 

                                                                      ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




                                                                        วันที่สะดวกในการติดต่อ








                                                                        โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ยกกระชับความหย่อนคล้อย

                                                                        โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ยกกระชับความหย่อนคล้อย

                                                                        Ultraformer MPT 4D LIFT ยกกระชับความหย่อนคล้อย

                                                                        เป็นสาวแก้มเยอะ เขาว่าจะหน้าเด็กใช่มั้ยคะ แต่สำหรับตูนคือนอกจากจะแก้มเยอะแล้ว มันยังเริ่มห้อยจนย้อยแล้วค่ะตอนนี้ และแก้มที่ย้อยๆ เนี่ยแหละค่ะทำให้หน้าของตูนดูหย่อนคล้อยไม่กระชับเลย ซึ่งมันถึงเวลาแล้วค่ะที่ตูนจะลองทำหัตถการเกี่ยวกับใบหน้าบ้าง ตูนก็มาที่รมย์รวินท์คลินิกเนี่ยแหละค่ะ เพราะเป็นคลินิกที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ดูได้จากสาขาที่มีถึง 28 สาขาทั่วประเทศ และมีรีวิวอีกมากมาย ตูนเลยอดใจไม่ไหวขอมาให้รมย์รวินท์คลินิกดูแลเรื่องผิวค่ะ

                                                                         

                                                                        ก่อนเริ่มทำหัตถการตูนจะได้ทำโปรแกรม Lifting Select ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์ผิวหน้าผ่าน 3 เฟรมเวิร์ก ซึ่งได้แก่ 

                                                                        • Frame Selection เป็นเทคนิคแก้ปัญหาและปรับโครงหน้าให้ได้รูป และยกกระชับหน้า ให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย
                                                                        • Light & Shadow Me เป็นเทคนิค ลดจุดบกพร่อง และเพิ่มจุดโดดเด่นให้ใบหน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น
                                                                        • Conceal Selection เป็นเทคนิคการแก้ไขงานผิวให้มีความเรียบเนียน กล้าที่จะโชว์ผิวสวยมากยิ่งขึ้น

                                                                         

                                                                        ซึ่งวันนี้ตูนได้ทำโปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ซึ่งจัดอยู่ในทุกเฟรมเวิร์กเลยค่ะ ซึ่ง โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ช่วยยกกระชับหน้าได้ถึง 4 มิติ เพียงแค่ 3 ขั้นตอนเท่านั้นค่ะ 

                                                                         

                                                                        โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ยกกระชับความหย่อนคล้อย
                                                                        ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

                                                                         

                                                                        ขั้นตอนที่ 1 ยกผิวหน้า แน่นกระชับ ลดเลือนริ้วรอย

                                                                        • มิติที่ 1 หน้าส่วนบน ลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ลดถุงใต้ตา ลดริ้วรอยรอบดวงตา ยกหางตา
                                                                        • มิติที่ 2 หน้าส่วนล่าง สร้างคอลลาเจน ยกกระชับใบหน้าให้ผิวแน่นเฟิร์ม สลายไขมันชั้นตื้น

                                                                         

                                                                        ขั้นตอนที่ 2 สร้างกรอบหน้า

                                                                        • มิติที่ 3 ลดเหนียงสลายไขมัน ปรับกรอบหน้าให้คมชัด

                                                                         

                                                                        ขั้นตอนที่ 3 เก็บงานผิว 

                                                                        • มิติที่ 4 กระชับรูขุมขนให้หน้าเนียนละเอียด ผิวกระจ่างใส สุขภาพดี 

                                                                         

                                                                        ซึ่งโปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT เครื่องเดียวก็ช่วยยกกระชับหน้า เก็บความหย่อนคล้อยได้ทั่วทุกความลึกผิวเลยค่ะ ตูนเห็นผลลัพธ์หลังทำ โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ได้ทันทีเลยว่าแก้มย้อยๆ ที่ตูนเคยมีมันกระชับขึ้น กรอบหน้า V-Shape มากยิ่งขึ้นค่ะ และใต้ตาที่เคยดูอิดโรยตอนนี้หายไปเลย รอบตาของตูนดูสดใสขึ้นมาก ตอนนี้หน้าของตูนดูมิติมากขึ้นเลยค่ะ 

                                                                         

                                                                        ขอบอกเลยว่าใครที่อยากได้ทั้งงานยกกระชับ เก็บกรอบหน้าให้ดูมีมิติ และเรื่องงานผิวเนียนสวย ต้องมาทำ โปรแกรม  Ultraformer MPT 4D LIFT ที่รมย์รวินท์คลินิกนะคะ ตูนทำแล้วได้ผลจนอยากให้ทุกคนมาลองค่ะ

                                                                         

                                                                        โปรแกรม  Ultraformer MPT 4D LIFT คืออะไร

                                                                         

                                                                        โปรแกรม  Ultraformer MPT 4D LIFT ช่วยยกกระชับผิวหน้า ด้วยพลังงาน Focused Ultrasounds โดยจะปล่อยพลังงานลงลึกสู่ผิว เพื่อไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้บริเวณผิวที่หย่อนคล้อยไม่เรียบเนียนกลับมายกกระชับ แน่นเฟิร์มขึ้น และยังยิงพลังงานลงสู่ชั้นไขมันไปสลายไขมันที่สะสมใต้ผิวหนังให้ผิวยกกระชับมากขึ้น สร้างกรอบหน้าให้ ใบหน้าดูมีมิติ และโปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ยังช่วยเรื่องงานผิว ปรับผิวให้เนียนละเอียด มีคุณภาพดีขึ้นได้อีกด้วย โดยโปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ปล่อยพลังงานคลื่นเสียง 2 พลังงาน คือ

                                                                         

                                                                        • Micro Focused Ultrasound เป็นพลังงานที่ช่วยในเรื่องการยกกระชับหน้าด้วยการส่งพลังงานลงสู่ผิวได้ลงลึกถึงชั้น SMAS หรือ Superficial Muscuar Aponeurotic System หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีว่าเป็นชั้นผิวที่ศัลยแพทย์นิยมใช้ในการผ่าตัดทำศัลยกรรมดึงหน้า เมื่อพลังงานลงสู่ชั้นผิวนี้จะเกิดการหดตัวของชั้นผิวทำให้ผิวเกิดความกระชับนั่นเอง
                                                                        • Macro Focused Ultrasound เป็นพลังงานลงสู่ใต้ชั้นผิวเข้าไปกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้เกิดความเรียบเนียนกระชับ และเข้าไปลดไขมันสะสมใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวเกิดความลีนเฟิร์มมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

                                                                         

                                                                        โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ยกกระชับความหย่อนคล้อย
                                                                        ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

                                                                         

                                                                        โดยโปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT สามารถจำแนกรูปแบบของการปล่อยพลังงานได้ดังนี้

                                                                         

                                                                        • โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ปล่อยพลังงานแบบ Normal MODE (Normal Dot) โดยเป็นการปล่อยพลังงานในลักษณะเส้นประแบบจุดไข่ปลาขนาดเล็กเรียงตัวกันเป็นแถว
                                                                        • โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ปล่อยพลังงานแบบ MP MODE (Micro pulse) โดยเป็นการปล่อยพลังงานในลักษณะเป็นเส้นตรง ซึ่งช่วยสะสมพลังงานได้อย่างต่อเนื่อง
                                                                        • โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ปล่อยพลังงานแบบ ULTRA BOOST MODE (Circular Dot) ซึ่งเป็นการปล่อยพลังงานในลักษณะเส้นประเป็นวงกลม ช่วยเรื่องงานผิวโดยเฉพาะ 
                                                                        • โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ปล่อยพลังงานแบบ ULTRA BOOST MP MODE (Micro circle) ซึ่งเป็นการปล่อยพลังงานในลักษณะเส้นประเป็นวงกลม ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส 

                                                                         

                                                                        โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ยกกระชับความหย่อนคล้อย
                                                                        ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

                                                                         

                                                                        โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT  ดียังไง

                                                                        • โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ช่วยยกกระชับผิวหน้า
                                                                        • โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า
                                                                        • โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ช่วยลดร่องลึกบนใบหน้า
                                                                        • โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ช่วยลดความหย่อนคล้อยของใบหน้า
                                                                        • โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ช่วยสร้างกรอบหน้าให้คมชัด
                                                                        • โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ช่วยเพิ่มมิติให้กับใบหน้า
                                                                        • โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ช่วยกระชับรูขุมชน
                                                                        • โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว
                                                                        • โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ช่วยเก็บงานผิวให้เรียบเนียน กระจ่างใส
                                                                        • โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ช่วยลดไขมันสะสมใต้ผิวหนัง
                                                                        • โปรแกรม Ultraformer MPT 4D LIFT ช่วยทำให้หน้าลีน เฟิร์มมากยิ่งขึ้น

                                                                         

                                                                        สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องผิว ไม่ว่าจะเป็นความหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ฝ้า กระ หรือสิว ปรึกษากับรมย์รวินท์คลินิกได้ตลอดเลยนะคะ ไม่ว่าจะหน้าร้าน ทั้ง 28 สาขา หรือช่องทางออนไลน์ รมย์รวินท์คลินิกยินดีให้คำปรึกษาเรื่องผิวกันคุณค่ะ 

                                                                        Ultherapy กับการฉีดโบ คู่กันได้มั้ย คุณโฟมหาคำตอบให้แล้ว

                                                                        ultherapy

                                                                        ไขข้อสงสัยกับคุณโฟม..ทำ Ultherapy กับการฉีดโบ คู่กันได้มั้ย

                                                                        ใครๆ ก็เข้าคลินิกเสริมความงาม ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย ก็อยากสวย หล่อ ดูดีกันทุกคน จริงมั้ยคะคุณโฟม

                                                                        ใช่ครับ! สมัยนี้อยากหน้าเรียว หน้าเด็กก็แค่เข้าคลินิกเสริมความงามก็จัดการปัญหาผิวหน้าได้ทุกอย่าง อย่างตัวของโฟมเองก็มีปัญหาเหมือนคนทั่วๆ ไปที่กังวลเรื่องผิวหน้าไม่กระชับ และหย่อนคล้อย ก็มาจัดการยกกระชับ และเติมเต็มผิวอยู่บ่อยๆ แต่ข้อแม้ของโฟมก็คือ ต้องเป็นคลินิกเสริมความงามที่เชื่อถือได้ มีมาตรฐาน และมีแพทย์ผู้มีประสบการณ์เฉพาะเรื่องผิว อย่างที่รมย์รวินท์คลินิกเนี่ยแหละครับ ที่โฟมไว้ใจให้ดูแลผิวของโฟม เพราะโฟมมาทำที่นี่บ่อยมาก และก็จะแนะนำคนรู้จักทุกคนให้มาทำที่รมย์รวินท์คลินิกด้วยครับ

                                                                        ultherapy

                                                                        อย่างที่บอกไป โฟมชอบมายกกระชับใบหน้า เพราะรู้สึกว่าเริ่มอายุมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เราก็ต้องรีบดูแลผิวหน้าของตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ เลย ปัญหาจะได้ไม่มากหรือสายเกินแก้ โปรแกรมยกกระชับผิวหน้าที่โฟมมาทำเรื่อยๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น  Ultherapy ที่เขามีชื่อเสียงในเรื่องยกกระชับผิวหน้าได้ดีมาก และอีกโปรแกรมหนึ่งก็คือ การฉีดโบซึ่งช่วยเรื่องปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กและลดริ้วรอย โฟมทำทั้งสองโปรแกรมบ่อยมากๆ จนโฟมสงสัยว่า เราสามารถทำทั้งสองโปรแกรมนี้พร้อมกันเลยได้มั้ย และโฟมก็คิดว่าหลายๆ คนคงจะสงสัยเหมือนกัน วันนี้โฟมจะพาทุกคนไปหาคำตอบและพิสูจน์ผลลัพธ์กันครับ

                                                                        ultherapy

                                                                        วันนี้คุณหมอที่จะมาดูแลผิวหน้าของโฟมคือคุณหมอแพร (พญ.ธิรดา จิตตการ) ครับ คุณหมอบอกว่าจริงๆ แล้วหัตถการ 2 โปรแกรม ไม่ว่าจะเป็น Ultherapy หรือ การฉีดโบ จัดอยู่ในเทคนิค Lifting Select เหมือนกัน ซึ่งเทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่ช่วยยกกระชับ และแก้ไขความหย่อนคล้อยของใบหน้า ซึ่งเป็นเทคนิคที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะที่รมย์รวินท์คลินิกเท่านั้นนะครับ

                                                                        ultherapy

                                                                        Ultherapy แก้ไขความหย่อนคล้อย ทำคู่กับฉีดโบได้ไหม

                                                                        คุณหมอแพรบอกว่าโปรแกรมทั้ง 2 ตัวนี้จะต่างกันเรื่องผลลัพธ์ที่ได้ เพราะตัวโปรแกรม Ultherapy จะเน้นในเรื่องของการช่วยยกกระชับผิว แก้ไขความหย่อนคล้อย โดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด ด้วยพลังงาน Ultrasound ที่ยิงพลังงานได้ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งคุณหมอแพรบอกว่าชั้นนี้เป็นชั้นที่นิยมใช้ในการศัลยกรรมเพื่อดึงหน้า และเป็นชั้นที่อยู่ระหว่างผิวหนังและไขมัน หากชั้นนี้ถูกยกหรือดึงขึ้น จะทำให้ผิวทุกๆ ชั้นยกตาม จริงเป็นการช่วยดึงความหย่อนคล้อยของผิวหน้าให้ยกขึ้นด้วยครับ ซึ่งโปรแกรม Ultherapy ให้ผลลัพธ์ที่สามารถเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำเลยครับ ว่าหน้าดูยกขึ้น ความหย่อนคล้อยดูลดลงไปเลยจริงๆ และผลลัพธ์ที่ได้ก็จะคงอยู่ยาวนานถึง 2 ปีเลย

                                                                        ultherapy review2 scaled

                                                                        ส่วนตัวโปรแกรมฉีดโบ คุณหมอแพรบอกว่าตัวนี้จะเน้นไปในเรื่องของการคลายกล้ามเนื้อเฉพาะจุด ก็คือเวลาที่เรามีการแสดงออกทางสีหน้า หรืออารมณ์จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่เราแสดงเกิดการพับ หรือย่นเข้าหากันพอนานๆ เข้าจะทำให้เกิดเป็นริ้วรอย ทำให้หน้าเราดูแก่ ดูโทรมได้ การฉีดโบเป็นการเข้าไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อในบริเวณนั้นๆ ให้หยุดชั่วคราว ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัวมากขึ้น และพอเราแสดงออกทางสีหน้าก็จะทำให้ส่วนนั้นไม่เกิดเป็นรอยพับ หรือรอยย่นแล้วครับ ซึ่งการฉีดโบ นอกจากจะช่วยลดริ้วรอย ยังช่วยเก็บและปรับกรอบหน้า ลดขนาดกล้ามเนื้อของใบหน้าให้ดูเรียวเล็กได้อีกด้วย โฟมชอบการฉีดโบที่รมย์รวินท์คลินิกมาก เพราะคุณหมอมีเทคนิคเฉพาะที่ทำให้เจ็บน้อยมาก และคุณหมอยังช่วยดูและประเมินก่อนการฉีดให้โฟมด้วย ว่ารูปหน้า หรือปัญหาริ้วรอยแบบโฟมควรจะฉีดประมาณไหนให้ออกมาดูดีแบบเป็นธรรมชาติ ไม่ดูโป๊ะ และโฟมมั่นใจได้เลยว่าที่รมย์รวินท์คลินิกเขาใช้ของแท้แน่นอนครับ

                                                                        ซึ่งคุณหมอแพรบอกเลยว่า หากใครมีปัญหาหน้าหย่อนคล้อย และอยากลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้าด้วยทั้งสองโปรแกรมนี้ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรม Ultherapy และโปรแกรมฉีดโบ สามารถทำร่วมกันได้เลยครับ แต่ต้องบอกก่อนเลยว่าให้ทำกับคลินิกที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย เครื่องมือและผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้นะครับ จะได้ทั้งดูดีและปลอดภัยโดยไม่เสี่ยง เหมือนที่โฟมเลือกทำที่รมย์รวินท์คลินิกครับ

                                                                        ultherapy review4 scaled

                                                                        ข้อควรรู้ในการทำ Ultherapy และฉีดโบ ร่วมกัน

                                                                        หากแพทย์แนะนำให้ทำทั้ง Ultherapy และฉีดโบร่วมกัน ควรทำ Ultherapy เป็นอันดับแรก เพราะการทำ Ultherapy ต้องใช้ความร้อนในการยกกระชับผิว ส่วนการฉีดโบเป็นการเข้าไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดโบให้เกิดการคลายตัว กล้ามเนื้อส่วนนั้นเกิดการใช้งานหรือขยับน้อยลง ทำให้ริ้วรอยลดลง และการฉีดโบจะไม่ถูกกับความร้อน เพราะจะทำให้สลายตัวได้ จึงควรทำ Ultherapy ก่อน

                                                                        หากมีการฉีดโบก่อน และอยากทำ Ultherapy เพื่อให้หน้ายกกระชับขึ้น ควรเว้นระยะอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ เพื่อเว้นระยะให้การฉีดโบคงตัว ไม่สลายตัวเพราะความร้อนจากการทำ Ultherapy

                                                                        ใครมีปัญหาเรื่องผิวหน้า และอยากปรึกษาคุณหมอผู้มีประสบการณ์เฉพาะด้าน เข้ามาที่รมย์รวินท์คลินิกได้ทั้ง 28 สาขาทั่วประเทศได้เลยนะคะ เรายินดีดูแลให้คุณดูดีได้ในแบบที่เป็นตัวเองค่ะ

                                                                        Glass Glow Skin Lock ผิวโกลว์ ฉ่ำน้ำ

                                                                        Glass Glow Skin

                                                                        Lock ผิวโกลว์ ฉ่ำน้ำ ด้วย Glass Glow Skin

                                                                        สาวผิวแห้ง ผิวขาดน้ำต้องมาดูรีวิวนี้เลย บูสต์ผิวให้โกลว์ ฉ่ำน้ำ ดูสุขภาพดี แบบคุณนีนแบบเร่งด่วน!

                                                                        นีนเป็นคนที่ผิวแห้งอยู่แล้ว ยิ่งช่วงนี้ค่อนข้างทำงานหนัก และพักผ่อนน้อย ไม่ค่อยดูแลตัวเอง ทำให้ผิวหน้าของนีนแห้งมากยิ่งขึ้นไปอีก และพอผิวแห้งสิ่งที่ตามมาก็คือเรื่องปัญหาผิวค่ะ ผิวกร้าน รูขุมขนกว้าง ริ้วรอยจุดด่างดำมาหมด หน้าไม่ใส ไม่เฟรชเลยค่ะช่วงนี้

                                                                         

                                                                        นีนหาวิธีมาหลากหลายวิธีทั้งพยายามพักผ่อนเยอะๆ ดื่มน้ำ หรือแม้แต่ครีมบำรุงที่ใครว่าดี แต่ก็ดีขึ้นแค่ในระดับหนึ่งเท่านั้น ยิ่งช่วงนี้นีนต้องออกงาน รีวิวต่างๆอีก ไม่อยากออกกล้องแล้วดูไม่สดใสเลย นีนก็เลยมองหาวิธีทำให้ตัวเองสวย ผิวดี ผิวฉ่ำน้ำแบบเร่งด่วน จนมาเจอรมย์รวินท์คลินิกเนี่ยแหละที่ตอบโจทย์ของนีนได้

                                                                        Glass Glow Skin

                                                                        ที่นีนเลือกมาให้รมย์รวินท์คลินิกดูแลปัญหาผิวของนีน เพราะนีนได้ยินชื่อเสียงของรมย์รวินท์มาแล้ว และเพื่อนๆก็แนะนำให้มาทำที่นี่ เพราะทำแล้วเห็นผลลัพธ์ดีจากทั้งคนใกล้ตัวนีนเอง และรีวิวจากผู้มาเข้ารับบริการจริงที่นี่ ทำให้นีนเชื่อใจได้เลยว่า รมย์รวินท์จะต้องทำให้นีนสวย ดูดีขึ้นได้แน่ๆค่ะ

                                                                        ก่อนการรักษาที่นี่มีเทคนิคที่เรียกว่า Lifting Select ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ปัญหาผิวผ่าน 3 เฟรมเวิร์ก ได้แก่

                                                                        • Frame Selection แก้ไข และปรับโครงหน้า สร้างชั้นผิวให้กลับมาอ่อนเยาว์
                                                                        • Light & Shadow Me เพิ่มมิติให้ใบหน้ามีความคมชัด เล่นแสงเงา
                                                                        • Conceal Selection ปรับผิวให้สวยเนียน เผยผิวอย่างมั่นใจ ไม่ต้องปกปิดปัญหา

                                                                        ซึ่ง 3 เฟรมเวิร์คนี้เป็นเทคนิคที่ช่วยให้เรารู้ปัญหาผิวและเลือกการรักษาที่ตอบโจทย์กับเรามากที่สุด และต้องบอกเลยว่าเทคนิคนี้มีเฉพาะที่รมย์รวินท์คลินิกเท่านั้นนะคะ

                                                                        และวันนี้นีนต้องการที่สุดคือการแก้ไข เฟรมเวิร์คที่ 3 Conceal Selection คือปัญหางานผิวค่ะ

                                                                        Glass Glow Skin

                                                                        วันนี้คุณหมอแพร (พญ.ธิรดา จิตตการ) เป็นผู้มาดูแลผิวให้กับนีนค่ะ คุณหมอแพรประเมินหน้าของนีนและเลือกฉีด Glass Glow Skin ให้นีน ตัวนี้จะช่วยเติมน้ำให้ผิวฉ่ำน้ำด้วย Hyaluronic Acid ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการกักเก็บน้ำให้ผิวมีความชุ่มชื้นอยู่แล้ว และ Glass Glow Skin ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลเจนใต้ชั้นผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอย และยังคืนความสดใสอ่อนเยาว์ให้กับผิวอีกด้วยค่ะ

                                                                        สำหรับผลลัพธ์หลังทำ Glass Glow Skin

                                                                        บอกเลยว่ารู้สึกแฮปปี้มากๆ นีนรู้สึกได้เลยถึงความชุ่มชื้นของผิว ผิวนีนดูโกลว์ ฉ่ำน้ำมากตอนนี้ รู้สึกว่ารูขุมขนกระชับขึ้น ผิวเนียนละเอียดขึ้นมากเลย แล้วยังเล่นแสงอีกต่างหาก ตอนนี้หน้านีนดูสดใสมากขึ้นเหมือนได้พักผ่อนดูแลตัวเองมาอย่างเต็มที่แต่จริงๆ นีนได้ Glass Glow Skin เนี่ยแหละช่วยบูสต์ความโกลว์ ผิวฉ่ำน้ำให้นีนแบบเร่งด่วน และคุณหมอยังบอกอีกว่า Glass Glow Skin ทำครั้งหนึ่งล็อกผิวให้โกลว์ ฉ่ำน้ำได้นานถึง 9 เดือน คนผิวปกติสามารถทำ Glass Glow Skin ปีละ 1 ครั้ง แต่สำหรับคนที่มีผิวแห้งแบบนีน คุณหมอแนะนำให้ทำปีละ 2 ครั้งค่ะ สงสัยต้องมาทำติดต่อกันซะแล้ว เพราะนีนอยากผิวโกลว์ ฉ่ำน้ำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เลย สำหรับใครที่ผิวแห้งกร้าน ดูไม่เฟรช มาทำ Glass Glow Skin นะคะ อยากให้ทุกคนได้ผลลัพธ์ผิวหน้า Glass Glow Skin แบบนีนค่ะ

                                                                        Glass Glow Skin

                                                                        มาทำความรู้จักฉีด Glass Glow Skin ตัวช่วยบูสต์ผิวโกลว์ ฉ่ำน้ำกันก่อน

                                                                        ฉีด Glass Glow Skin เป็นที่ช่วยเติมน้ำให้กับผิว หลายๆคนคงรู้กันว่า ความชุ่มชื้นเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวมีคุณภาพที่ดี สำหรับนี้จะช่วยเติม Hyaluronic Acid หรือ HA ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสารเติมเต็มที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีมาก และมีความปลอดภัย เพราะเป็นสารที่ได้จากธรรมชาติ และมีโมเลกุลเล็กกว่า เนื้อละเอียด และมีน้ำหนักเบากว่าฟิลเลอร์แบบทั่วไป ซึ่ง Glass Glow Skin นี้ เป็นตัวช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยฉีดที่บริเวณ Mid Dermis ด้วยการใช้เทคนิคที่มีชื่อว่า Hourglass Technique หรือเทคนิคนาฬิกาทราย ที่จะช่วยดีไซน์หาจุดตกกระทบแสงของผิว ให้ผิวเปล่งประกาย ผิวดูโกลว์ ฉ่ำน้ำ พร้อมช่วยเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึกให้ผิวอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น Glass Glow Skin ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน ไม่ดูหลอกตา เสมือนมีผิวดีมาตั้งแต่เกิด

                                                                        Glass Glow Skin

                                                                        ฉีด Glass Glow Skin ช่วยในเรื่องอะไรได้บ้าง

                                                                        • ฉีด Glass Glow Skin ช่วยเติมเต็มน้ำให้ผิวชุ่มชื้นทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ฉ่ำน้ำ
                                                                        • ฉีด Glass Glow Skin ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้เกิดการเรียงตัวใหม่ที่แน่นกระชับมากยิ่งขึ้น ให้ให้ผิวแน่นเฟิร์ม รูขุมกระชับ
                                                                        • ฉีด Glass Glow Skin ช่วยเติมเต็มร่องลึกของผิว ลดเลือนริ้วรอย คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว
                                                                        • ฉีด Glass Glow Skin ช่วยในเรื่องปรับรูปหน้า สร้างกรอบหน้าให้ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น

                                                                        ใครเหมาะกับฉีด Glass Glow Skin บ้างนะ

                                                                        • ฉีด Glass Glow Skin เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง หรือผิวขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้น
                                                                        • ฉีด Glass Glow Skin เหมาะกับผู้ที่มีผิวขาดการบำรุง ดื่มน้ำน้อย
                                                                        • ฉีด Glass Glow Skin เหมาะสำหรับคนพักผ่อนน้อย ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง

                                                                        ผลลัพธ์หลังทำฉีด Glass Glow Skin

                                                                        Glass Glow Skin

                                                                        มาเป็นสาวผิวโกลว์ ฉ่ำน้ำด้วย Glass Glow Skin ที่รมย์รวินท์คลินิกกันนะคะ

                                                                        รมย์รวินท์คลินิกคว้า 2 รางวัลในงาน Praew Iconic Beauty 2023

                                                                        รูปเปิด

                                                                        ขวัญฤทัย ดำรงค์วัฒนโภคิน กรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหาร รมย์รวินท์คลินิก พร้อมด้วย พญ.ธิรดา จิตตการ และ พญ.วรรณวิมล วรรณรักษ์ แพทย์จากรมย์รวินท์คลินิก ร่วมขึ้นรับรางวัล Iconic Apac Most Accelerated Growth Ulthera และ Iconic Ultra Former MPT Installed Base Leader จากงานประกาศรางวัล Praew Iconic Beauty 2023 ที่จัดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน 2566


                                                                        3 หัตถกรรมที่นางเอกสาวสวย คุณมิว ลักษณ์นารา ฟันธงทำแล้ว ไม่เสียดายเงินแน่นอน!

                                                                        มิว ลักษณ์นารา

                                                                        เคล็ดลับการดูแลตัวเองของคุณมิว ลักษณ์นารา ดารา-นักแสดงสาวสวย พอว่างจากงานก็ขอมาดูแลตัวเองให้ดูดีซักหน่อย ถึงจะสวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ ผู้หญิงเขายอมกันที่ไหนล่ะ สวยแล้วก็ต้องสวยยิ่งขึ้นไปอีกสิถึงจะถูก!! ยิ่งช่วงนี้เห็นกี่ที คุณมิวก็ยิ่งสวยเปล่งออร่าขึ้นมากๆ อย่ารอช้า! ไปถามคุณมิวกันดีกว่าค่า

                                                                        มิว ลักษณ์ นารา

                                                                        มิวก็เป็นคนหนึ่งค่ะที่อยากดูแลให้ตัวเองดูดีขึ้น บวกกับอาชีพของมิวที่ต้องใช้หน้าตาในการทำงานก็ต้องใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น มิวก็ได้รมย์รวินท์คลินิกเนี่ยแหละค่ะช่วยดูแลความสวยให้มิวตลอดๆ พอว่างจากงานก็มาเติมความสวยเรื่อยๆ เลย ถ้าถามว่ามิวทำหัตถการอะไรบ้าง ขอบอกว่าเยอะอยู่ค่ะ แต่ถ้าถามว่าหัตถการไหนที่มิวชอบบ้าง มิวยกให้ 3 หัตถการนี้เป็นหัตถการที่ทำแล้วคุ้มค่า สวย ดูดี ทำแล้วไม่เสียดายเงินแน่นอนค่ะ

                                                                        มิว ลักษณ์ นารา

                                                                        หัตถการที่คุณมิว ลักษณ์นารา แนะนำ

                                                                        • หัตถการแรกที่มิวอยากจะแนะนำเลย คือการฉีดโบค่ะ สำหรับอาชีพของมิวที่ต้องใช้หน้าตาในการทำงาน ยิ่งช่วงที่ออกกล้องหน้าเราจะดูขยายมากขึ้นกว่าเดิม มิวเห็นตัวเองในทีวีแล้วรู้สึกว่าหน้ากลมมาก ยอมไม่ได้! จนต้องให้การฉีดโบช่วย ซึ่งการฉีดโบนี้เหมาะกับมิวมาก เพราะมิวมีปัญหาช่วงกรามที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้กรอบหน้าดูไม่คมชัด คุณหมอก็ใช้การฉีดโบเนี่ยแหละค่ะ ช่วยทำให้เนื้อเล็กลง ปรับแต่งกรอบหน้าของมิวให้ดูคมชัด มีมิติมากขึ้น หลังทำการฉีดโบเห็นผลลัพธ์ได้เลยค่ะว่าหน้าของมิวดูเรียวเล็กลง กรอบหน้าชัด ดูเป็นธรรมชาติมากๆ ไม่ดูโป๊ะ ดูหลอกตาเลยค่ะ ใครที่มีปัญหาหน้ากลม หน้าหย่อนคล้อยไม่ได้รูปต้องลองฉีดโบเลยค่ะ ทำแล้วจึ้งจริงค่ะ

                                                                        มิว ลักษณ์ นารา

                                                                        • หัตถการที่ 2 ที่มิวชอบมากเลยก็คือการฉีด Filler ปาก ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ปากเนี่ยเป็นอะไรที่มิวรู้สึกว้าวมากกก ก่อนหน้านี้มิวทำหัตถการต่างๆ ที่ค่อนข้างหนักไปทางยกกระชับ ปรับรูปหน้าอะไรซะมากกว่า แต่มิวเห็นเพื่อนไปทำการฉีด Filler ปาก ด้วยความที่มิวเป็นคนปากค่อนข้างบางมากอยู่แล้ว พอเห็นปากของเพื่อนสวยอวบอิ่ม ทาลิปสติกสวย มิวก็เลยอยากไปลองทำการฉีด Filler ปากบ้าง มิวเลยได้ไปปรึกษาคุณหมอที่รมย์รวินท์คลินิก ก่อนทำคุณหมอจะประเมินใบหน้าของมิวก่อนว่า รูปหน้า โครงหน้าแบบมิว ควรจะทำแบบไหนดี ที่ทำให้เข้ากับหน้า และดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งหลังจากทำการฉีด Filler ปากแล้วมิวชอบมากค่ะ ปากดูอิ่มมากขึ้น ดูเต็ม มีมิติมากขึ้น พอทาลิปแล้วปากสวยเลย หลังจากนั้นมิวก็เลยต้องมาทำการฉีด Filler ซ้ำค่ะ มีครั้งแรกก็ต้องมีอีกเรื่อยๆ เลยค่ะ การฉีด Filler ปาก เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่มิวรู้สึกปลื้มมาก ต้องมาทำซ้ำ และมิวก็อยากให้ทุกคนมาลองทำกันดูนะคะ ใครที่รู้สึกว่าหน้าตัวเองดูไม่สวย ให้มาลองทำการฉีด Filler ปากดูก่อนค่ะ

                                                                        มิว ลักษณ์ นารา

                                                                        • หัตถการที่ 3 ที่มิวอยากแนะนำ เหมาะมากกับคนที่มีเวลาน้อย ไม่ค่อยได้พักผ่อน ผิวหน้าแย่ต้องการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน ต้องรีบมาทำโปรแกรม COLOR ICE กันเลยค่ะ ช่วงที่มิวทำงานหนัก เรียนหนัก ไหนจะต้องออกกองบ่อย ออกอีเวนต์บ่อย ไม่มีเวลาพักผ่อน ดูแลตัวเองเป็นช่วงที่มิวรู้สึกว่าหน้าตัวเองโทรมมากไม่ไหว ผิวแห้งหยาบกร้านจนคิดว่าไม่ได้ละจะต้องหาวิธีกู้สภาพผิวหน้าตัวเองด่วนๆ เลย มิวก็ได้ทำ COLOR ICE ที่รมย์รวินท์คลินิกเนี่ยแหละช่วยไว้ ตอนทำฟินมากก เพราะมันเย็นๆ เหมือนได้ผ่อนคลายผิวไปในตัวเลย คุณหมอบอกว่าโปรแกรม COLOR ICE จะใช้ความเย็นในการผลักตัวยาและวิตามินลงสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก และใช้แสง LED 3 สีช่วยฟื้นสภาพผิว
                                                                          แสงสีแดง จะช่วยในเรื่องของการกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวหน้ากระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น และยังช่วยพวกริ้วรอยต่างๆ
                                                                          แสงสีฟ้า ช่วยควบคุมแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของสิว และยังช่วยลดการอักเสบของสิวด้วยค่ะ
                                                                          แสงสีเหลือง จะช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ลดการบวกหรืออักเสบของผิว ลดความหมองคล้ำของผิว ปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส

                                                                        มิว ลักษณ์ นารา

                                                                        สำหรับใครที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเองและผิวหน้าต้องการการบำรุงอย่างเร่งด่วน มิวแนะนำให้มาทำโปรแกรม COLOR ICE เลยค่ะ เพราะมิวติดใจมาก ว่างงานปุ๊บก็มาบำรุงผิวด้วยโปรแกรม COLOR ICE ปั๊บเลย ตอนนี้ต่อให้มิวไม่แต่งหน้า โชว์หน้าสด ผิวของมิวก็ยังสวย ดูดีได้ค่ะ

                                                                        มิว ลักษณ์ นารา

                                                                        3 หัตถการที่มิวแนะนำบอกเลยว่าใครยังไม่เคยลอง ต้องไปลองนะคะ อย่าคิดว่าตัวเองไม่สวย ลองทำ 3 หัตถการนี้ก่อนรับรองสวย ดูดี ฟินนนแน่นอนค่า

                                                                        มิว ลักษณ์นารา

                                                                        ใครที่มีปัญหาผิว หรืออยากปรึกษาเรื่องผิวมาให้ตัวจริงเรื่องผิวอย่างรมย์รวินท์คลินิกช่วยดูแลคุณให้สวย ดูดี นะคะ

                                                                        รมย์รวินท์คลินิกยกทัพทีมแพทย์ขึ้นคว้ารางวัลในงาน EMPOWER  CONFIDENCE : Allergan exclusive dinner 2020

                                                                        รมย์รวินท์คลินิก ยกทัพทีมแพทย์ขึ้นรับรางวัลในงาน EMPOWER  CONFIDENCE : Allergan exclusive dinner 2020
                                                                        EMPOWER  CONFIDENCE
                                                                        รมย์รวินท์คลินิก ยกทัพทีมแพทย์ขึ้นรับรางวัลในงาน EMPOWER  CONFIDENCE : Allergan exclusive dinner 2020
                                                                        EMPOWER  CONFIDENCE : Allergan exclusive dinner 2020
                                                                        EMPOWER  CONFIDENCE : Allergan exclusive dinner 2020
                                                                        EMPOWER  CONFIDENCE : Allergan exclusive dinner 2020
                                                                        EMPOWER  CONFIDENCE : Allergan exclusive dinner 2020
                                                                        EMPOWER  CONFIDENCE : Allergan exclusive dinner 2020
                                                                        EMPOWER  CONFIDENCE : Allergan exclusive dinner 2020

                                                                        สมเป็นสถาบันความงามระดับต้นของเมืองไทย แพทย์หญิงฐานิสร ธรรมลิขิตกุล แห่งรมย์รวินท์ คลินิก ยิ้มปลื้มเดินสายไม่หยุด ล่าสุดยกทัพทีมแพทย์ซึ่งประกอบด้วย แพทย์หญิงอรุณี ทองอัครนิโรจน์, แพทย์หญิงธิรดา จิตตการ และแพทย์หญิงนภัสนันท์ เทพพรพิทักษ์ขึ้นคว้ารางวัลบนเวทีมาครองได้ถึง 2 รางวัล ได้แก่ รางวัล • Top Allergan Aesthetics Valued Customer 2020 Body Contouring • Excellent Allergan Aesthetics Valued Customer 2020 ในงาน EMPOWER  CONFIDENCE : Allergan Aesthetics Night ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล เมื่อคืนวันที่ 17 ธันวาคม 2563 โดยมีพระเอกคนดัง ‘ ณเดชน์ คูกิมิยะ’ ร่วมงานด้วย

                                                                        Ultherapy SPT ยกให้ตึง ดึงให้เป๊ะ ดีไซน์หน้าใหม่ให้กระชับ

                                                                        Ultherapy SPT

                                                                        ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น คอลลาเจนจะถูกสร้างน้อยลง แต่กลับถูกทำลายเพิ่มมากขึ้น เรียกได้ว่าผลิตไม่ทันใช้ ทำให้เราเริ่มสังเกตเห็นริ้วรอยเล็กๆ และรูขุมขนเริ่มกว้างออกตอนวัยใกล้ 30 เมื่อเข้าสู่ช่วงวัย 40 หากไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง นอกจากริ้วรอย ร่องลึกจะเริ่มชัดขึ้น ผิวแลดูหยาบกร้าน ขาดความชุ่มชื้น เส้นใยอิลาสตินที่ยึดโครงสร้างผิวก็จะยืดออก ขาดความยืดหยุ่นหรือสปริงตัว ทำให้หางตาตก หนังตาตก แก้มห้อย มีคางสองชั้นหรือมีเหนียง ผิวโดยรวมหย่อนคล้อย เริ่มเห็นร่องแก้มที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

                                                                        เทคนิคการรักษาแบบใหม่ 10 1

                                                                        ปัจจุบันมีเทคโนโลยีการยกกระชับผิวอย่างหลากหลาย และหนึ่งในเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ครองใจสาวๆ ทั่วโลก คือ การยกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียง Ultrasound หรือ Ultherapy  โดยได้พัฒนาคลื่นเสียงตัวนี้ให้มีความจำเพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ให้ตรงเข้าแก้ปัญหาใต้ชั้นผิวที่อยู่ชั้นลึกในระดับชั้นผ่าตัดดึงหน้า (SMAS) เพื่อช่วยทำให้เกิดการหดตัว ยกดึงขึ้น อีกทั้งพลังงาน Ultrasound ที่ถูกเปลี่ยนเป็นความร้อนยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ปรับการเรียงตัวใหม่ของเส้นใยอิลาสติน ทำให้ผิวอิ่มฟู ช่วยลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก และทำให้ผิวดูเรียบเนียน กระชับมากขึ้น

                                                                        How to ultherapy

                                                                        Ultherapy

                                                                         

                                                                        Program Ultherapy

                                                                        – ยกคิ้ว หางตา

                                                                        – ดึงหน้าให้กระชับ ร่องแก้มดูตื้นขึ้น

                                                                        – เก็บกรอบหน้า

                                                                        – ลดเหนียงใต้คาง

                                                                        – กระชับลำคอ

                                                                        – ผิวตึง เรียบเนียน ลดริ้วรอย

                                                                        เทคนิคการรักษาแบบใหม่ 3

                                                                        Ultherapy SPT คือ อะไร?

                                                                        เพราะชั้นผิวของเรามีความแตกต่างกัน แผนการรักษาด้วยการยกกระชับ Ultherapy จึงถูกสร้างขึ้นมาเฉพาะสำหรับบุคคลนั้น ๆ (Customized)

                                                                        ลืมคอนเซ็ปท์การรักษาแบบเดิมๆ (Standard) กับการรักษาที่สร้างความจำเพาะสำหรับผิวของคุณเท่านั้น เพราะปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เราแต่ละคนแตกต่างกัน ทั้งอายุ เพศ น้ำหนักและความลึกของชั้นผิวภายใน เป็นต้น การรักษาด้วยการยกกระชับอัลเทอราพีแบบใหม่ นอกจากจะทำให้ผลลัพธ์ของการยกกระชับดีขึ้น ด้วยการมองเห็นภาพของชั้นผิวแบบเรียลไทม์ ทำให้พลังงานคลื่นเสียง (MFU-V: Microfocused ultrasound with visualization) ลงไปใต้ชั้นผิวที่เราต้องการได้อย่างตรงจุด ยังส่งผลให้ความเจ็บในขณะทำลดลง จำนวนการยิงที่น้อยลงแต่กลับส่งผลถึงประสิทธิภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม

                                                                        ด้วยการรักษา 3 ขั้นตอนของการยกกระชับ Ultherapy SPT
                                                                        1. S (see) คือการมองเห็นชั้นผิวแบบเรียลไทม์ เพื่อให้การวางแผนการยิงที่ความลึกใต้ผิวต่างๆ กัน ได้ผลลัพธ์ไปยังชั้นผิวที่เราต้องการซึ่งเป็นชั้นที่อุดมไปด้วยเส้นใยคอลลาเจนทำให้เกิดความยกกระชับของใบหน้าสูงสุด ไม่สูญเสียช็อตในการลงพลังงานแบบที่ไร้ประโยชน์
                                                                        2. P (plan) แพทย์สามารถวางแผนการยิงที่ระดับความลึกต่างๆ สำหรับบริเวณที่แตกต่างกันทั่วใบหน้าและลำคอ และกำหนดจำนวนการยิงและระดับพลังงานที่จะใช้ในการทำแต่ละบริเวณให้ได้ผลลัพธ์ที่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
                                                                        3. T (treat) แพทย์ลงมือรักษาตามแผนที่วางไว้ โดยขณะที่ลงพลังงานแต่ละช็อต สามารถเช็คระดับชั้นผิวได้ที่หน้าจอของเครื่องอัลเทอราพีแบบเรียลไทม์ได้ตลอดเวลา

                                                                        จะเห็นได้ว่า การรักษาแบบใหม่มีความจำเพาะต่อบุคคลแต่ละคนมากกว่าเดิม (แบบเดิมจะมีการยิงเป็นแบบแผนที่เหมือนกัน ใช้ความลึกที่เท่ากันในบริเวณเดียวกัน โดยไม่คำนึงถึงความต่างของแต่ละบุคคล) จึงต้องอาศัยแพทย์ที่ผ่านการฝึกฝนและมีประสบการณ์ในการใช้เครื่องมือ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของการยกกระชับสูงสุด และด้วยหลักการของการกระตุ้นเส้นใยคอลลาเจนใต้ผิว จึงต้องรอผลลัพธ์ที่เริ่มเห็นชัดที่ 2-3 เดือนหลังการทำ และผลของการยกกระชับนี้ สามารถอยู่ได้ยาวนาน 12-18 เดือน ขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

                                                                         

                                                                         

                                                                         

                                                                        เทคนิคการรักษาแบบใหม่ 5 1

                                                                        เทคนิคการรักษาแบบใหม่ 4 1

                                                                         

                                                                        ผลหลังการรักษาด้วย Program Ultherapy

                                                                                เทคนิคการรักษาแบบใหม่ 7 1

                                                                        เทคนิคการรักษาแบบใหม่ 8 1

                                                                        เทคนิคการรักษาแบบใหม่ 9 1

                                                                        11111

                                                                        1 ใน 3 แพทย์ผู้คิดค้นเทคนิคการฉีดโปรแกรม Skin Radiance

                                                                        Skin Radiance
                                                                        พญ.อรุณี ทองอัครนิโรจน์ (หมอออย) แพทย์ผู้มากประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้าแห่ง รมย์รวินท์ คลินิก
                                                                        หนึ่งในสามผู้คิดค้นเทคนิคการฉีดผิวให้สวยดูฉ่ำน้ำด้วยโปรแกรม Skin Radianceได้รับเชิญไปบรรยายให้ความรู้กับแพทย์เพื่อการปรับผิวให้มีสุขภาพดี (revitalize skin quality) ด้วยเทคนิค Hourglass Pattern ตอกย้ำความสำเร็จกับโปรเจค Skin Radiance เป็นปีที่สอง ที่สถาบันสุขภาพและความงามตรัยญา เมื่อเร็วๆ นี้
                                                                        cover 1 5
                                                                        23

                                                                        หมอออยเป็นวิทยากรให้กับ MASJ Treatment Program ในหัวข้อ Flawless angle

                                                                        MASJ Treatment Program

                                                                         

                                                                        S 18087985

                                                                        แพทย์วิทยากรที่มีประสบการณ์ระดับสูงทางด้านการฉีดปรับรูปหน้า

                                                                        แพทย์หญิงอรุณี ทองอัครนิโรจน์ (หมอออย) จาก รมย์รวินท์ คลินิก ได้รับเกียรติจาก บริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์ ไทยแลนด์ จำกัด (Merz Aesthetics Thailand) เป็นวิทยากรให้กับ MASJ Treatment Program ในหัวข้อ Flawless angle จะรักษากรอบหน้าอย่างไรให้หน้าคมสวยไร้เหนียงกังวลใจ เมื่อเร็วๆ นี้

                                                                         

                                                                        S 3383439

                                                                        ไร้ขนทุกมุมมอง laser “กำจัดขน” ให้ผิวเนียนใส บอกลาหนังไก่ได้เลย

                                                                        laser

                                                                        ไร้ขนทุกมุมมอง laser “กำจัดขน”

                                                                        สาวๆ ทุกคนไม่ว่าใครก็อยากมีวงแขนที่เนียนเรียบ แม้ว่า “ขนรักแร้” จะเป็นสิ่งเกิดขึ้นและมีมาตามธรรมชาติบางคนมองเป็นเรื่องธรรมดา บางคน เป็นเรื่องที่กังวล และ หนักใจอยู่ไม่น้อย จนต้องหาวิธีกำจัดขน ปัญหาเจ้าขนรักแร้ ที่พร้อมที่จะโพล่ขึ้นมาทักทายเราตลอดเวลา เผลอหน่อยเดียว อ้าวมาอีกแล้ว อยากใส่แต่เสื้อเกาะอก สายเดี่ยว แขนกุด โชว์ไหล่สวย ๆ ซะหน่อย เป็นอันจบ หากไม่ได้กำจัดขนนี้ออกไป

                                                                        หลายคนคงมีประสบการณ์ ขนแขนสแตนด์อัพ ก็ทำการกำจัดขน ด้วยการโกน ถอน แว็กซ์ ผ่านกันมาแล้วทั้งนั้น วิธีการกำจัดขนที่ว่ามานี้ขนจะขึ้นมาเป็นตอเร็วมาก ๆ แถมยังดำคล้ำไม่เรียบเนียน เป็นหนังไก่ให้ปวดใจกันถ้วนหน้า แต่ไม่ต้องกังวลใจไป ปัจจุบัน ตามคลินิก หรือ ศูนย์บริการความงามมีให้บริการหลากหลาย ลองเปลี่ยนวิธีมาทำเลเซอร์กำจัดขนรักแร้ ดูสิ ซึ่งมั่นใจได้เลยสามารถกำจัดขนได้อย่างถาวร แถมบางที่ก็มีโปรรักแร้ขาวกลิ่นตัวแรง ใต้วงแขนดำ ได้อีกด้วยนะ วงในการบิวตี้ เค้ามีบริการครบครัน เผื่อผิวใต้ววงแขนของเราจะได้ขาวเนียนใส ไร้ปัญหาขนดกมากวนใจ

                                                                        การทำงานของเลเซอร์

                                                                        การใช้เลเซอร์ เป็นวิธีกำจัดขนโดยแสงเลเซอร์ โดยลำแสงจะเข้าไปจับกับเม็ดสี ของขนในระยะที่ขนกำลังเจริญเติบโต วิธีนี้มีข้อดีคือไม่เจ็บ การใช้เลเซอร์สามารถกำจัดขนได้ 70-90 % ในครั้งแรก ๆ และหลังจากทำซ้ำหลาย ๆครั้ง ขนที่เหลือเส้นขนจะเล็กลง บางลง สีจางลง และการงอกมาใหม่ช้าลง โดยทั่วไปเส้นขนที่ถูกทำลายได้ดีมีทั้งหมด 3 ระยะ ซึ่งระยะที่โตเต็มจะได้ผลดีที่สุด การทำเลเซอร์กำจัดขนควรทำต่อเนื่องกัน 3-6 ครั้ง ขึ้นไป ขนจึงจะค่อยลดลงอย่างเห็นได้ชัด

                                                                        คลินิค หรือ ศูนย์บริการความงาม นอกจากการทำเลเซอร์กำจัดขนแล้ว ยังมีโปรแกรม ที่น่าสนใจอีก ที่สามามรถจัดการกับผิวใต้วงแขน ให้เรียบเนียนสวยที่อยากแนะนำ นอกจากการทำเลเซอร์กำจัดขน เพื่อเผยผิวสวย เปิดผิวใสใต้วงแขนได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

                                                                        การทำเลเซอร์ลดเหงื่อใต้วงแขน

                                                                        การที่คนเรามีเหงื่อใต้วงแขนมาก ๆ สามารถทำให้มีกลิ่นตัวแรง การทำเลเซอร์เพื่อลดเหงื่อใต้วงแขนสามารถทำได้เช่นกัน

                                                                        การรักษาใช้จำนวนครั้งในการรักษาน้อย 1-2 ครั้ง ก็เห็นผล และผลที่ได้คงอยู่ถาวร หลังการรักษาจะมีแผลเล็กๆ ขนาดประมาณ 3-5 มม. บริเวณใต้วงแขน ซึ่งแผลจะจางหายไปได้เอง และอาจมีอาการบวมหลังการรักษาได้บ้าง การรักษาจะเริ่มเห็นผลหลังการรักษาไปแล้วประมาณ1-2 เดือน ตรงนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลนะค่ะ

                                                                        การฉีดโบลดเหงื่อ

                                                                        การฉีดโบเพื่อลดเหงื่อ การรักษาจะไม่มีแผลใดๆ หลังการรักษา และเริ่มเห็นผลหลังการรักษาภายใน1-2 สัปดาห์ การรักษาแต่ละครั้งนั้น ผลการรักษาจะคงอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน

                                                                        การลดรอยคล้ำบริเวณผิวใต้วงแขน

                                                                        วิธีการนี้ เป็นการรักษาด้วย Whitening laser ซึ่งเป็นการใช้เลเซอร์ปรับเม็ดสี เวลาทำการรักษาจะรู้สึกอุ่นๆ บริเวณผิวนิดหน่อย ซึ่งสำหรับปัญหารักแร้หมองคล้ำอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การแพ้โรลออน การโกน การถอน การแว๊กซ์ หรือ จากฮอร์โมนเพศของแต่ละคน

                                                                        image003 84

                                                                        การทำทรีตเมนท์ลดรอยคล้ำ

                                                                        การทำทรีทเมนท์ ลดรอยคล้ำใต้วงแขน วิธีนี้เป็นการรักษา รอยด่างดำ รอยหมองคล้ำ นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว จึงช่วยให้ผิวเนียบเรียบขึ้น เต่งตึง เพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว สามารถโชว์ผิวใต้วงแขนได้อย่างมั่นใจ

                                                                        สาเหตุของการที่มีขนใต้วงแขนนั้น มีปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นองค์ประกอบด้วย เช่น พันธุกรรม ,ฮอร์โมน ,การรับประทานยา หรือวิตามิน บางตัว ก็อาจมีผลต่อการเกิดขึ้น และเจริญเติบโตของเส้นขน ที่มากน้อยแตกต่างกันไป การทำเลเซอร์กำจัดขนนั้นสามารถทำลายรากขน ได้ 70-90 % ก็จริง แต่ต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง 3 – 6 ครั้งขึ้นไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์การกำจัดขนเป็นที่น่าพึงพอใจ ก่อนเข้ารับบริการรักษาควรงดการถอนหรือแวกซ์ ประมาณ  3-8 วัน  แต่สามารถโกนได้ แต่ให้เส้นขนขึ้นมาให้เต็มที่ก่อน เพื่อการรักษาที่เห็นผลได้ชัดเจน  เพราะทำให้รู้ปริมาณเส้นขนทั้งหมดที่ขึ้นอยู่ในบริเวณพื้นที่ ที่ต้องการกำจัดขนออกไป และที่สำคัญการทำการรักษาควรได้รับการดูแลจากแพทย์ ที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรงนะค่ะ

                                                                        รอยสิวเก่าไป รอยสิวใหม่มา “รักษาสิว” กับ Nupico ช่วยปรับผิวให้เนียนเรียบขึ้น

                                                                        Nupico

                                                                        สำหรับคนที่เคยรักษาสิวมาแล้ว มีหลายคนไม่น้อยที่ต้องเจอปัญหาสิวอักเสบเรื้อรัง สิวดื้อยา เคยรักษาแล้วไม่หายหาดสักที ซ้ำร้ายยังฝากร่องรอยจากสิวให้ปวดใจ ไม่ว่าจะเป็นผิวหลุมโลกพระจันทร์ จุดด่างดำ เก่าไปใหม่มาไม่รู้จบ สารพัดสารเพใช้แนวทางการรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ หลากหลายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของเราได้

                                                                        รู้ไหม รมย์รวินท์ คลินิค มีทางเลือกใหม่สำหรับการรักษาสิว ด้วย NuPicoLaser เทคโนโลยีน้องใหม่ มาให้บริการด้านความงามที่ถูกออกแบบมาเพื่อการดูแล ปรนนิบัติผิวโดยเฉพาะ เพราะการรักษาผิวไม่ใช่การรักษาแค่เพียงภายนอกเท่านั้น การรักษานั้นต้องเริ่มตั้งแต่ภายในมาสู่ภายนอก จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่ผิวจะต้องถูกฟื้นฟูสุขภาพผิวภายในควบคู่กับการฟื้นฟูบำรุงผิวภายนอก เพื่อแก้ไขปัญหาผิวให้หายไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ

                                                                        NuPico คืออะไร

                                                                        NuPico Laser คือ นวัตกรรมใหม่ ในการใช้เลเซอร์รักษาผิว ช่วยในการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ลบรอยสัก ปรับสีผิวให้กระจ่างใส ไร้ริ้วรอย ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวมีความเรียบเนียนขึ้น  เทคโนโลยีของNupico Laser มีระบบการทำงานแบบใช้พลังงานคลื่อนพลังงานที่สูงใช้ระยะเวลาที่สั้นมากในการเข้าไปทำให้เม็ดสีแตกตัวได้อย่างละเอียด

                                                                        ข้อดี ของ NuPico Laser

                                                                        • ใช้พลังงานอันสั้น และสูงมาก ทำให้เม็ดสีแตกตัวได้ละเอียด
                                                                        • ใช้เวลาในการักษาน้อย ช่วยให้ริ้วรอยของผิวจางหายได้เร็วขึ้น
                                                                        • การรักษาเจ็บน้อย
                                                                        • ไม่มีผลข้างเคียง หลังการรักษา ไม่เป็นแผล
                                                                        • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น

                                                                        เรื่องของสิวๆ  ไม่ใช่เรื่องกรรม หรือ กรรมพันธุ์ ที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาด ต้นเหตุเกิดจากการรักษาไม่ถูกวิธีต่างหาก ส่วนมากจะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ทำให้รักษายังไงไม่หายขาดสักที  วิธีการรักษาอย่างถูกวิธี คือการทำให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี ผิวชุ่มชื่น ผิวระบายอากาศได้ดี ทำให้ไม่มีสิ่งสกปรกอุดตัน หากผิวระบายอากาศไม่ดี จะทำให้เกิดสิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขน ทำให้เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว ดังนั้นการรักษาให้ผิวหน้าแข็งแรงสุขภาพดี สามารถทำให้สิวหายขาด เป็นการรักษาสิวที่ได้ผลอย่างยั่งยืน  เรื่องของผิว ให้รมย์รวินท์ คลินิค ดูแลนะค่ะ แล้วคุณจะเห็นถึงความต่าง…

                                                                        กังวลใจจากสิวอยู่ มั้ย!!!“รักษาสิว” ด้วย Nupico Laser

                                                                        Nupico Laser

                                                                        ปัญหาความไม่มั่นใจ กังวลใจจากสิว ที่ต้องเผชิญอยู่ ทำอย่างไรไม่หายสักที ปัญหาเรื่องของสิว มันไม่จิ๋วแล้วสินะ การเกิดสิวนั้นมีหลายรูปแบบ และ แตกต่างกันไปตามแต่สภาพผิวของแต่ละคน แต่ไม่ทุกคนที่จะทราบว่าแท้จริงแล้วสิวที่ตัวเองเป็นอยู่เรียกว่าสิวอะไร เรามาทำความรู้จักสิวแต่ละชนิดกันเถอะ..

                                                                        1. สิวอักเสบ คือ สิวที่เกิดจากการอุดตันในรูขุมขนและต่อมไขมันใต้ผิวหนัง จนปรากฏออกมาเป็นสิวในลักษณะต่าง ๆ มักทำให้เกิดการเจ็บปวดหากสัมผัสโดนผิวบริเวณนั้น

                                                                        สิว อักเสบมี 4 ชนิด ด้วยกัน

                                                                        • สิวตุ่มแดง มีลักษณะเป็นตุ่มแดง เป็นก้อนนูนขึ้น และมีอาการเจ็บปวด
                                                                        • สิวหัวหนอง เกิดจากการอักเสบบริเวณต่อมเหงื่อ และ รูขุมขน ลักษณะเป็นตุ่มหนองสีขาวตรงบริเวณหัวสิว
                                                                        • สิวก้อนลึก ลักษณะตุ่มสิวทั่วไป แต่ตุ่มจะเป็นก้อนแข็งขนาดใหญ่ลึกลงไปในชั้นผิวหนัง
                                                                        • สิวซีสต์ เป็นตุ่มสิวขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายฝี ภายในเป็นหนองอักเสบ เป็นสิวชนิดที่รุนแรงและทำให้เกิดอาการเจ็บปวดมากที่สุด

                                                                        2. สิวอุดตัน  คือ สิวขนาดเล็กที่เป็นตุ่มอุดตันใต้ผิวหนัง เป็นสิวชนิดที่ไม่เกิดการอักเสบ เกิดจากการอุดตันในรูขุมขน มักพบได้ที่บริเวณหน้าผาก และคาง

                                                                        สิวอุดตันมี 2 ชนิด ได้แก่

                                                                        • สิวหัวดำหรือสิว หัวเปิด จะมีลักษณะเป็นจุดสีดำปรากฏบนผิวหนัง เกิดจากการอุดตันของขน เนื้อเยื่อ และไขมัน แล้วโผล่พ้นขึ้นมาสัมผัสกับออกซิเจน ทำให้ไขมันเปลี่ยนเป็นสีดำ
                                                                        • สิวหัวขาว หรือสิวหัวปิด มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆสีขาวบนผิวหนัง เกิดขากเชื้อแบคทีเรียที่อุดตันภายในรูขุมขน ใต้ผิวจึงมองเห็นเป็นจุดสีขาวอุดตันอยู่บนผิวหนัง

                                                                        3. สิวผดผื่น คือ สิวที่มีลักษณะคล้ายกับผดผื่นขนาดเล็ก ลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ ใส ๆ เป็นสิวที่แสดงอาการเมื่ออากาศร้อน ยิ่งร้อนยิ่งเกิดขึ้นได้ง่าย และ มาก

                                                                        4. สิวสเตียรอยด์  คือ มีลักษณะเป็นเม็ดแดง ๆ ขึ้นกระจายทั่วทั้งใบหน้า หรือเป็นกระจุกในบริเวณใด บริเวณหนึ่ง แต่จะขึ้นมาเยอะมากบริเวณที่ทาครีม หรือยาที่มีสเตียรอยด์บริเวณนั้นเยอะ

                                                                        รู้จักสิว  เข้าใจสิว การรักษาก็ง่ายขึ้น การรักษาตั้งแต่ต้นเหตุของการเกิดสิว นั้นเป็นวิธีที่ถูกต้อง ส่วนมากคนที่รักษาไม่หายขาดสักที เกิดจากการรักษาไม่ถูกวิธี โดยส่วนมากจะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ทำให้การรักษาไม่เห็นผล สิวกลับมาใหม่ เป็นเป็นหาย ๆ เป็นวงจร ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดังนั้น ศูนย์บริการความงาม รมย์รวินท์ ได้มองเห็นถึงปัญหานี้ จึงได้นำนวัตกรรมตัวใหม่ที่ทันสมัยอย่างNupico Laser มาใช้ในการช่วยฟื้นฟูรักษาผิวได้ครบอย่างครอบคลุมจบทุกปัญหาผิว

                                                                        คุณสมบัติของ Nupico Laser

                                                                        นวัตกรรมใหม่ Nupico Laser จากประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้ดี อีกทั้งยังสามารถลบปานดำ ปานน้ำตาล ลบรอยสักได้หลากสี และขจัดรอยด่างดำ  ริ้วรอย กลบหลุมสิว รวมถึงปัญหาผิวที่ไม่พึงปรารถนา ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวกระตุ้นการสร้างคอลาเจนใต้ชั้นผิวได้อย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวพรรณกลับมาเรียบเนียน กระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์ โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาภายหลังการรักษาอย่างเลเซอร์รุ่นเดิมๆ.

                                                                        ดังนั้นวิธีการรักษาอย่างถูกวิธี สามารถทำให้สิวหายขาดได้ เป็นการรักษาสิวที่ได้ผลอย่างยั่งยืน การทำให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี ผิวไม่มีสิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขนช่วยลดปัญหาผิวได้  หากผิวระบายอากาศไม่ดีจะทำให้เกิดสิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขน ทำให้เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว การรักษาให้ผิวหน้าแข็งแรงสุขภาพดีนั้นเป็นสิ่งสำคัญ อีกทั้งยังส่งผลให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื่น  ผิวเปล่งปลั่ง เต่งตึง ไร้ซึ่งปัญหาผิว สิวไม่มาเยือนอีกต่อไป  …

                                                                        ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับวิธีกำจัดขนที่สาวๆต้องรู้

                                                                        กำจัดขน

                                                                        สาวๆ ทั้งหลายคงเคยได้ยินได้ฟังถึงคำแนะนำหรือความเชื่อต่างๆ เกี่ยวกับวิธีการกำจัดขนที่ไม่พึงประสงค์มาบ้างแล้วไม่มากก็น้อยนะคะ ซึ่งจะได้ผลดีหรือผลเสียนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวของสาวๆ เองว่าเมื่อได้ทดลองแล้วเกิดผลอย่างไรบ้าง บางครั้งได้ผลเวิร์คสุดๆ แต่บางครั้งก็กลับส่งผลเสียทำร้ายผิวสวยๆ แถมยังยากต่อการรักษาให้ผิวกลับมาเป็นปกติ มาดูความเชื่อแบบผิดๆ เกี่ยวกับวิธีกำจัดขนที่เราอาจเคยได้ยินมานานหรือความเชื่อแบบบอกต่อโดยไม่สืบค้นหาสาเหตุว่าถูกหรือผิด

                                                                        เพราะฉะนั้น สาวๆ คะหยุดการทำร้ายผิวหนังของคุณกับวิธีการกำจัดขนแบบผิดๆ หรือความเชื่อที่ผิดๆ เกี่ยวกับวิธีการกำจัดขน แล้วมาดูว่าความเชื่อที่คุณเคยได้ยินมานั้นมันจริงเท็จแค่ไหนกันค่ะ

                                                                        ความเชื่อ: ห้ามสครับผิวก่อนโกนขนเพราะจะเกิดรอยดำ

                                                                        สาวๆ หลายคนมีความเชื่อที่ว่า ถ้าหากสครับผิวแล้วโกนขนนั้นจะทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบและเกิดรอยดำคล้ำขึ้นได้ เอาเป็นว่าลืมความเชื่อเดิมๆ ไปได้แล้วค่ะ ลองหันมาสครับผิวก่อนการโกนขน หรือกำจัดขนเพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่ตายแล้วออกไปซึ่งเซลล์ผิวเก่านี้อาจปะปนและติดอยู่กับเส้นขน และช่วยทำให้เส้นขนชี้ขึ้นและโกนออกได้ง่ายขึ้น หากโกนขนโดยที่ไม่ได้สครับผิวก่อน อาจทำให้เกิดขนคุด หรือรูขุมขนอักเสบได้ค่ะ

                                                                        shutterstock 492500941

                                                                        ความเชื่อ: ต้องโกนย้อนแนวขนผิวจะเนียนเรียบ

                                                                        เชื่อว่าสาวๆ กว่า 50% นิยมกำจัดขนด้วยวิธีการโกนย้อนแนวขนขึ้นไป เพราะสามารถกำจัดขนได้เกลี้ยงเกลาเนียนเรียบกว่าการโกนตามแนวขน แต่ผลเสียที่ตามมานั้นทำให้สาวๆ ต้องรู้สึกผิดและเลิกการโกนแบบย้อนแนวขนไปเลยค่ะ เพราะผิวหนังบริเวณที่ถูกโกนเสี่ยงต่อการถูกมีดบาดได้ง่าย อีกทั้งยังส่งผลให้ผิวหนังและรูขุมขนเกิดการระคายเคือง ทำให้เกิดขนคุดและสิวตามมาได้ค่ะ

                                                                         

                                                                        ความเชื่อ: การกำจัดขนด้วยเลเซอร์มันเจ็บมากนะ

                                                                        หลายคนยังฝังความเชื่อที่ว่าการกำจัดขนด้วยเลเซอร์เป็นวิธีที่เจ็บมากๆ หากต้องกำจัดขนด้วยวิธีนี้ต้องโบกยาชาเข้าช่วยลดความรู้สึกเจ็บก่อนทำ อย่างไรก็ตาม ความเจ็บนั้นก็ขึ้นอยู่กับความไวต่อการกระตุ้นของแต่ละคน อีกทั้งนวัตกรรมการกำจัดขนด้วยเลเซอร์สมัยใหม่นั้นคุณจะสัมผัสได้ถึงความร้อนเพียงเล็กน้อย หรือความรู้สึกเจ็บอาจกลายเป็นศูนย์ไปเลย ทางที่ดีต้องไปสัมผัสด้วยตัวของคุณเองค่ะ คล้ายกับสำนวนที่ว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่าทดลองทำ คุณว่าจริงมั้ยคะ …

                                                                        หากอยากศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ เลเซอร์กำจัดขน

                                                                         

                                                                        ความเชื่อ: ห้ามทำบิกินีแว็กซ์ระหว่างมีประจำเดือน

                                                                        จริงๆ แล้วเราสามารถกำจัดขนบริเวณนั้นด้วยวิธีทำบิกินีแว็กซ์ในช่วงมีประจำเดือนได้ค่ะ แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าผิวหนังระคายเคืองง่ายช่วงมีประจำเดือน ก็ควรเลี่ยงการแว็กซ์ขนไปก่อน แล้วรอให้ผิวหนังกลับมาเป็นปกติจึงค่อยกำจัดขนด้วยการแว็กซ์ค่ะ

                                                                        shutterstock 198459449

                                                                        ผลเสียของการกำจัดขนแบบผิดๆ

                                                                        เกิดขนคุด เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนด้วยโปรตีนที่ชื่อว่า Keratin (เคอราติน) ทำให้ผิวบริเวณที่มีขนนั้นมีชั้นผิวที่หนาขึ้น ส่งผลให้ขนที่งอกใหม่ไม่สามารถแทงทะลุผิวหนังได้ ขนจึงงอกยาวขึ้นและม้วนงออยู่ใต้ชั้นผิว ดันให้ผิวบริเวณนั้นเป็นตุ่มขึ้น มีลักษณะเป็นจุดดำๆ เล็กๆ ขึ้นตามรูขุมขนทำให้ผิวหนังดูสากคล้ายหนังไก่ มักพบในผู้ที่มีผิวแห้งมากกว่าผิวมัน

                                                                        รูขุมขนอักเสบ เกิดจากการระคายเคืองที่รูขุมขนซึ่งเป็นผลจากการถอนหรือโกนเพื่อกำจัดขนเป็นประจำ เป็นสาเหตุที่ทำให้รูขุมขนอักเสบตามมาได้

                                                                        จุดด่างดำตามร่างกาย มีลักษณะเป็นจุดแบนสีแดงจนถึงสีน้ำตาลเข้ม สาเหตุเกิดจากการอับเสบของผิวหนังเกิดจากการกำจัดขนด้วยวิธีการโกน แม้ว่าจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแต่ก็สร้างความกวนใจให้สาวๆ ไม่น้อย

                                                                        เกิดรอยแผลเป็น การกำจัดขนด้วยวิธีโกน ถอน หรือใช้ครีมกำจัดขนบ่อยครั้ง อาจเกิดการอักเสบขึ้นและเกิดรอยแผลเป็นจากขนคุด หรือรอยแผลเป็นจากการแพ้ผื่นคันของครีมหรือเจลกำจัดขนได้ ซึ่งหากดูแลรักษาไม่ดีก็อาจส่งผลกระทบกับชั้นผิวภายนอกในระยะยาวได้ค่ะ

                                                                        จบปัญหาขน “กำจัดขน” ลงลึกถึงราก ปราบทุกเส้น โชว์ผิวได้ดั่งใจ

                                                                        กำจัดขน

                                                                        หลายคนคงต้องประสบ พบกับปัญหาขนตามร่างกาย กันอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะขนหน้าแข้งเอย ขนรักแร้ก็ดี ขนตรงจุดซ่อนเร้นก็ใช่ บางคนก็ดกดำเงางามซะเหลือเกิน แถมบางคนยังเป็นที่น่าเจ็บใจ ตรงที่อยากให้ดกกลับไม่ดก แต่ตรงที่ไม่อยากให้มีกลับขึ้นมาดีจังใช่มัยค่ะ

                                                                        สาว ๆ จึงต้องมองหาวิธีการ กำจัดขน ในแบบต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ผ่านวิธีการ กำจัดขน มาหลายรูปแบบ แต่ยังไงไอ้เจ้าขนนี่ ก็ยังขยันขึ้นมาไม่หยุดหย่อน ไม่ว่าจะถอน โกน แว็กซ์ ฯลฯ สารพัดวิธี มันก็ได้ผลแค่ขนหลุดล่วงออกไป แต่สิ่งที่คงอยู่กับการกำจัดขนแบบนี้ก็คือ ผิวเป็นรอยดำ หรือเป็นผิวหนังไก่ เกิดขนขด ขนคุด ทำให้ไม่น่ามองเอาเสียเลย ทำให้ขาดความมั่นใจ ไม่กล้าเปิดเผยผิวให้คนอื่นได้เห็น

                                                                        ปัจจุบัน มีวิธี กำจัดขน ที่ให้ผลถาวร ผิวเกลี้ยงเกลา จบปัญหาผิวที่ไม่สวยงาม โดยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยวิธี Laser เพื่อจี้ทำลายรากขนปราบลึกถึกรากถึงโคนการกำจัดขน ด้วยเลเซอร์ ถึงจะเป็นนวัตกรรม กำจัดขนน้องใหม่ และกระแสความนิยมกำลังเพิ่มมากขึ้น เพราะการทำเลเซอร์กำจัดขน ไม่ได้หมายถึง การกำจัดขนรักแร้ เพียงอย่างเดียว แต่การทำเลเซอร์ยังช่วยกำจัด ปัญหาขนตามร่างกาย ไม่ว่า “ขนที่ขา” หรือ ขนในที่ลับ หรือบริเวณอื่น ๆ ที่อยากกำจัด ก็สามารถกำจัดขนออกไปด้วยเลเซอร์ได้ และผลลัพธ์ที่ได้มานั้นถือว่าคุ้มค่ามากๆ ใครที่กำลังมองหาวิธีกำจัดขนอยู่ อยากให้ผิวกลับมาเนียนสวย ไร้ขน แนะนำเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้ประสิทธิภาพ พร้อมความปลอดภัยไร้กังวล

                                                                        หลักการทำงานเลเซอร์กำจัดขน

                                                                        ด้วยประสิทธิภาพของ เลเซอร์กำจัดขน จะทำงานโดยส่งผ่านพลังงานเลเซอร์ผ่านเข้าผิวหนังไปทำลายรากขน โดยอาศัยหลักการเลือกจับกับเฉพาะเม็ดสีหรือเมลานินในขนเท่านั้น จากนั้นพลังงานเลเซอร์ก็จะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน และส่งผลทำลายเส้นขนตลอดจนรากขนซึ่งเป็นตัวการสร้างขนให้ขึ้นมาใหม่ ด้วยกระบวนการดังกล่าวจะพบว่าเพียงแค่การทำไม่กี่ครั้ง ขนในบริเวณที่ทำการรักษากำจัดขน จะลดลง ขึ้นช้าลง เส้นเล็กลง และบางลงอย่างเห็นได้ชัด

                                                                        การเตรียมตัวก่อนกำจัดขน

                                                                        สำหรับการเตรียมตัวก่อนการ กำจัดขนด้วยเลเซอร์นั้น ไม่มีขั้นตอนอะไรที่ยุ่งยากเลย โดยปล่อยให้ขนบริเวณที่จะกำจัดนั้นขึ้นมาตามธรรมชาติ ไม่ต้องไปถอนหรือโกนออกให้ขนเติบโตเต็มที่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อการกำจัดขนที่ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ เพราะแพทย์จะได้เห็นปริมาณของเส้นขนที่มีอยู่ตามความเป็นจริง ทำให้ผลการรักษา กำจัดเส้นขนได้หมดทุกเส้น ตรงจุดเห็นผลได้อย่างชัดเจนที่สุด

                                                                        image003 83

                                                                        ขั้นตอนกำจัดขน ด้วยเลเซอร์

                                                                        การกำจัดขน จะเริ่มจากการโกนขนบริเวณที่ทำ ใช้ยาชาทาเพื่อลดความเจ็บขณะทำ หลังจากนั้นรอให้ยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30 นาที หรือมากกว่านั้นเล็กน้อย จึงสามารถทำเลเซอร์ได้ และการทำเลเซอร์ใช้เวลาประมาณ 10-30 นาทีในการกำจัด แต่ทั้งนี้ขึ้นกับขนาดพื้นที่บริเวณที่ต้องการกำจัดขน ขณะที่ทำจะรู้สึกเหมือนถูกดีดเป็นระยะ ๆและรู้สึกวูบวาบใต้ผิว เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการจากนั้นจะทำการประคบเย็นจะช่วยทำให้รู้สึกสบายผิวขึ้นเป็นอันจบกระบวนการรักษา เพื่อการรักษาให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และมีประสิทธิภาพ ควรทำซ้ำ 3-6 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งควรห่างกันอย่างน้อย 1 เดือนภายหลังการ กำจัดขน ผิวบริเวณที่ทำเลเซอร์อาจแดงเรื่อ ๆ ประมาณ 1-3 ชั่วโมง แต่จะหายเป็นปกติ มีส่วนน้อยไม่ถึง 1% ที่อาจมีสะเก็ดหรือตุ่มน้ำพองใสซึ่งจะค่อย ๆ หายไปได้เมื่อทายาที่แพทย์จ่ายให้ไป ส่วนการดูแล สามารถปฏิบัติตัวไปตามปกติ เพียงแต่หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด ๆ ประมาณ 2-3 สัปดาห์ หากจำเป็นต้องโดนแดดจริง ๆ ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงมากกว่า 30 PA++ ป้องกันไว้ทุก 1-2 ชั่วโมง ตลอดเวลาที่โดนแดดจัด ๆ

                                                                        ทีนี้ก็จะได้ผิวเกลี้ยงเกลาไร้ขน จบปัญหาขนได้ดั่งใจ ไม่ต้องมากังวลที่จะต้องคอยสำรวจร่างกาย เมื่อต้องสวมใส่เสื้อสายเดี่ยว แขนกุด อีกต่อไป ชุดไหนๆ ก็มั่นหน้า มั่นใจกันไปเลบ แต่ด้วยเลเซอร์หลายคนเข้าใจว่าการทำเลเซอร์ขนรักแร้ แล้ว รักแร้จะขาวขึ้นด้วย ที่จริงแล้วไม่ถูกซะทีเดียว การทำเลเซอร์นั้นมีส่วนช่วยทำให้ผิวดีขึ้นในระดับหนึ่ง ถ้าต้องการให้รักแร้ขาว นั้นมีขั้นตอนการรักษาอีกแบบหนึ่ง การทำการรักษา กำจัดขน ต้องได้รับคำแนะนำ และปรึกษาแพทย์โดยตรง แต่การทำเลเซอร์อย่างเดียวนั้น ช่วยให้ผิวเนียนขึ้น เกลี้ยงเกลาขึ้น ไม่เป็นหนังไก่ สามารถใส่เกาะอก สายเดี่ยว ยกแขนโชว์ใต้วงแขนได้แบบมั่นๆ กันไปเลย

                                                                        แชร์วิธีการกำจัดขนแบบปลอดภัย ไร้รอยแผลรอยดำ

                                                                        กำจัดขน

                                                                        แชร์วิธีการกำจัดขนแบบปลอดภัย ไร้รอยแผลรอยดำ

                                                                        เมื่อปัญหาเรื่องของขนมาเป็นอุปสรรคขวางกั้นความสวย บรรดาสาวๆ อย่างเราจึงไม่ยอมจำนนและหาวิธีการกำจัดขนสารพัดรูปแบบ อาทิ ถอน โกน แว็กซ์ ครีมกำจัดขน หรือการใช้นวัตกรรมเลเซอร์ มาช่วยกำจัดขนไม่พึงประสงค์ออกไป ซึ่งแต่ละวิธีการนั้นหากคุณสาวๆ ปฏิบัติไม่ถูกวิธีอาจจะสร้างปัญหาผิวตามมาได้ เช่น ขนคุด สิว รอยแผล รอยดำ ดังนั้น เรามาไขความกระจ่างเกี่ยวกับวิธีการกำจัดขนที่ถูกต้อง แบบปลอดภัยไม่ทิ้งรอยแผลรอย รอยดำให้ช้ำใจค่ะ

                                                                        การถอน เป็นวิธีกำจัดขนด้วยการใช้แหนบหรือที่ถอนขนดึงเส้นขนออกมาทั้งเส้น มักใช้กำจัดขนเฉพาะส่วนหรือตามบริเวณที่ขนขึ้นไม่มาก การถอนควรดึงเส้นขนบริเวณโคน เพื่อไม่ให้ขาดออกจากกัน และควรเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ใช้ถอนด้วยแอลกอฮอล์ทั้งก่อนและหลังใช้นะคะเพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อ หลังกำจัดขนเราไม่ควรใช้ครีมบำรุงผิวในทันที แต่ควรจะใช้ครีมหลังกำจัดขนโดยเฉพาะ เพื่อลดการระคายเคืองและลดการเกิดขนคุดได้ค่ะ โดยผลลัพธ์หลังการทำจะคงอยู่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะมีเส้นขนงอกขึ้นมาใหม่

                                                                        image003 3

                                                                        การโกนขน การกำจัดขนด้วยวิธีการโกนนั้นจะได้ผลแค่ในระยะสั้นๆ เท่านั้นค่ะ อีก 2-3 วัน ขนของคุณก็จะงอกขึ้นมาใหม่ ทั้งนี้ ก่อนโกนขนอย่าลืมสครับผิวเบาๆ เพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าออก โดยควรโกนตามแนวขน และให้ผิวบริเวณนั้นเปียกเล็กน้อย เพื่อช่วยให้ขนไม่แข็งจนเกินไปและโกนได้ง่ายขึ้น สำหรับการกำจัดขนบริเวณจุดซ่อนเร้นหรือบริเวณที่ผิวบอบบางนั้นควรใช้ครีมโกนขนร่วมด้วยเพื่อป้องกันการระคายเคือง หลังทำการโกนอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ค่ะ ทางที่ดีหลังจากกำจัดขนคุณอาจจะใช้โจโจ้บาออยล์หรืออาฟเตอร์เชฟเข้ามาช่วยค่ะ

                                                                        การแว็กซ์ขน เป็นวิธีกำจัดขนที่รวดเร็วและทำให้ผิวหนังเรียบเนียน ขนเส้นใหม่จะงอกภายใน 3-6 สัปดาห์ วิธีนี้ส่งผลให้รูขุมขนอ่อนแอ หากกำจัดขนเป็นประจำอาจมีขนขึ้นน้อยลงและขึ้นช้ากว่าเดิม ทั้งนี้ การแว็กซ์อาจทำให้เกิดตุ่ม รอยแดง และการอักเสบที่ผิวหนังชั่วคราว

                                                                        image005 2

                                                                        ซึ่งการแว็กซ์ขนอย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเจ็บน้อยลงนั้น ควรเลือกแว็กซ์ที่ผ่านการรับรองจาก อย.และเหมาะกับสภาพผิวของตนเองในการกำจัดขน ดังนั้น ควรทดสอบอาการแพ้ทุกครั้งก่อนกำจัดขน โดยทาแว็กซ์บาง ๆ บริเวณข้อพับแขน ข้อมือ ท้องแขน หรือหลัง และหลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณดังกล่าวสัมผัสน้ำหรือเหงื่อประมาณ 48 ชั่วโมง หากไม่เกิดผื่นแดงแสดงว่าไม่มีอาการแพ้ค่ะ

                                                                        หากมีผิวบอบบางควรใช้แว็กซ์ที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น แว็กซ์น้ำตาล แต่ก่อนแว็กซ์กำจัดขนรบกวนเช็คสักนิดนะคะว่าขนสั้นเกินไปหรือไม่ ทางที่ดีควรปล่อยให้ขนยาวเกินครึ่งเซนติเมตรแล้วค่อยแว็กซ์ เนื่องจากขนที่สั้นเกินไปอาจทำให้แว็กซ์ได้ยากและไม่เรียบเนียน ซึ่งวิธีการแว็กซ์เพื่อกำจัดขนที่ถูกต้องคือ แปะแผ่นแว็กซ์ให้แนบสนิทกับผิวหนังและดึงแว็กซ์ออกอย่างเร็วภายในครั้งเดียว หลังจากนั้น ใช้โทนเนอร์สำหรับทำความสะอาดใบหน้าที่มีส่วนผสมของคาโมมายล์เช็ดผิวหลังการแว็กซ์ เพื่อปรับสภาพผิวและลดความเสี่ยงต่อการเกิดรอยแดงและบวม ทั้งนี้ แพทย์ไม่แนะนำให้คนบางกลุ่มกำจัดขนด้วยการแว็กซ์ ได้แก่ ผู้ที่มีภาวะขนดก ผู้ที่กำลังใช้ยารักษาสิวบางชนิด และผู้ที่มีผิวไหม้แดดบริเวณรักแร้ค่ะ

                                                                        ครีมกำจัดขน เป็นครีมสำหรับใช้ทาบริเวณผิวหนังที่ต้องการกำจัดขน ควรทาทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที หรือตามคำแนะนำของแต่ละผลิตภัณฑ์ โดยสารเคมีในครีมนั้นจะไปปรับเปลี่ยนโครงสร้างโปรตีนของเส้นขนที่อยู่เหนือผิวหนังให้อ่อนยุ่ยและเช็ดออกได้ง่ายค่ะ ข้อดีของการกำจัดขนด้วยวิธีนี้คือ ทำได้ง่ายและรวดเร็ว แต่สารเคมีที่เป็นส่วนประกอบอาจทำให้ครีมมีกลิ่นฉุนและก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ อีกทั้งอาจใช้ไม่ได้ผลกับผู้ที่มีเส้นขนหยาบหนาค่ะ

                                                                        image007

                                                                        ทั้งนี้ ส่วนผสมของครีมแต่ละยี่ห้อย่อมแตกต่างกันออกไป ก่อนใช้กำจัดขนจึงควรอ่านฉลากบนผลิตภัณฑ์ให้ละเอียดทุกครั้ง และหากคุณสาวๆ ต้องการกำจัดขนบริเวณจุดซ่อนเร้น ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระบุให้ใช้สำหรับส่วนนี้โดยเฉพาะ ส่วนผู้ที่มีผิวบอบบางหรือเคยมีอาการแพ้ ควรลองทดสอบก่อนใช้โดยป้ายครีมปริมาณเล็กน้อยลงบนผิวหนัง และปฏิบัติตามคำแนะนำของแต่ละผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัด ไม่ควรทายากำจัดขนในปริมาณมากเกินไป และควรล้างหรือเช็ดครีมออกตามเวลาที่กำหนดค่ะ

                                                                        เลเซอร์ขน เป็นเทคโนโลยีช่วยกำจัดขนจะทำการกำจัดขนที่ไม่พึงปรารถนา โดยให้ความร้อนช่วยทำลายและยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นขน ซึ่งมักได้ผลดีกับเส้นขนสีดำ เนื่องจากแสงเลเซอร์จะจับเม็ดสีเมลานินในเส้นขนสีดำได้มากกว่า ทั้งนี้ เลเซอร์ที่ใช้ในทางการแพทย์มีหลายชนิด ก่อนเข้ารับการกำจัดขนด้วยวิธีนี้ควรปรึกษากับแพทย์ถึงข้อดี ข้อเสีย และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

                                                                        image009

                                                                        นอกจากนี้ การเลเซอร์กำจัดขนด้วยเทคโนโลยีนี้ยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องขนคุด รูขุมขนอุดตัน ทำให้ผิวดูเกลี้ยงเกลา เรียบเนียน ผิวแลดูสว่าง สะอาดสะอ้านขึ้นด้วย ด้วยการรักษาเพียง 5-8 ครั้ง และควรกำจัดขนซ้ำทุก 1 เดือน เพื่อยับยั้งวงจรการเกิดขนอย่างต่อเนื่อง ขนก็จะค่อยๆ หายไป ทำให้คุณรำคาญใจน้อยลงอีกด้วยค่ะ

                                                                        รมย์รวินท์คลินิก ร่วมสนับสนุน คมชัดลึกอวอร์ด ครั้งที่ 16

                                                                        คมชัดลึกอวอร์ด

                                                                        รมย์รวินท์คลินิก ร่วมสนับสนุน คมชัดลึกอวอร์ด ครั้งที่ 16

                                                                        ภาพข่าวคมชัดลึก ๒๐๐๓๐๖ 0002

                                                                        เมื่อวันที่ 3 มีนาคม คุณจอย ขวัญฤทัย ดำรงค์วัฒนโภคิน  กรรมการผู้จัดการรมย์รวินท์คลินิก ร่วมสบันสนุนและมอบรางวัลในงานประกาศรางวัล คมชัดลึกอวอร์ด ครั้งที่ 16 ในสาขา นักร้องเพลงไทยสากลยอดนิยม ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ ธนนท์ จำเริญ ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ ซึ่งรางวัลคมชัดลึกอวอร์ด เป็นรางวัลที่มอบให้แก่ศิลปิน นักแสดงในวงการบันเทิง ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง งานมอบรางวัลครั้งนี้ จัดมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 นับว่าเป็นรางวัลที่ใช้การันตีความสามารถของศิลปิน นักแสดงทั้งบุคคลเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ที่ได้นำเสนอสิ่งที่ดี ความบันเทิง ต่อสาธารณะ และสายตาประชาชนมาตลอด

                                                                        ภาพงาน Cool Caravan ซึ่งรอบนี้จัดขึ้นที่ เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต โดยทีม Fat Freezing specialist ให้คำปรึกษาและดูแลลูกค้าทุกท่านอย่างใกล้ชิด บรรยากาศสุดอบอุ่นและประทับใจ

                                                                        cool caravan westgate ๑๙๐๘๐๖ 0011

                                                                        รวมภาพบรรยากาศ กิจกรรม คูล คาราวาน ที่ CentralPlaza Rama 2 ชั้น 2

                                                                        DSC 3661

                                                                        ขบวน Cool Caravan เดินสายถึงคิว CentralPlaza Rama2 ครั้งนี้รมย์รวินท์แจกโปรฉ่ำๆรับหน้าฝน ทั้งโปรแกรมดูแลรูปร่าง และผิวพรรณ ซึ่งลดสูงสุดถึง 70 % งานนี้ลูกค้าแฮปปี้กันสุดๆเลยค่ะ เราเก็บภาพบรรยากาศมาให้ชมกันค่ะ

                                                                        งาน Masala Wedding Fair 2019 งาน Wedding Fair ไทย-อินเดีย ที่ใหญ่ที่สุด จัดขึ้นวันที่ 8-9 มิ.ย.2019 ที่ โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค (Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park)

                                                                        o41870b11a81eab5f6733e48c49b1e8e3 25785085 190613 0012

                                                                        รมย์รวินท์คลินิกได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงาน อีกทั้งยังได้รับเกียรติจาก เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย H.E. Mrs. Suchitra Durai, Ambassador of India to Thailand เข้าเยี่ยมชมบูธของเรา นอกจากนี้ยังมีว่าที่เจ้าบ่าว ว่าที่เจ้าสาว ให้ความสนใจบริการจากรมย์รวินท์คลินิกเป็นจำนวนมาก

                                                                        รมย์รวินท์คลินิก เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ กับสาขาที่ 25 เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี

                                                                        o41870b11a81eab5f6733e48c49b1e8e3 25377734 190525 0007

                                                                        รมย์รวินท์คลินิก เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ กับสาขาที่ 25  เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี วันที่ 27-28 เมษายน 2562 โดยมีมินิคอนเสิร์ตเอาใจชาวอุดรและชาว สปป.ลาว  จากสองนักร้องหนุ่มสุดฮอต โตโน่ ภาคิน และ ริท เรืองฤทธิ์ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงาน Grand Opening พร้อมรับสิทธิพิเศษแบบ Exclusive มากมายภายในงาน ลานกิจกรรมชั้น1 หน้าโรบินสัน งานนี้ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่น

                                                                        ขบวน “Cool Caravan” จากรมย์รวินท์ คลินิก เดินสายไปมอบโปรโมชั่นดีๆให้ลูกค้าทั่วประเทศ

                                                                        o41870b11a81eab5f6733e48c49b1e8e3 25377750 190525 0004

                                                                        ขบวน “Cool Caravan” จากรมย์รวินท์ คลินิก เดินสายไปมอบโปรโมชั่นดีๆให้ลูกค้าทั่วประเทศ คราวนี้ถึงคิว”ศูนย์การค้าจังซีลอน” โดยงานมีในวันที่ 18-19 พ.ค 62 งานนี้นำทั้งเกมส์สนุกๆ การแสดงดีๆ ทั้งคาบาเร่ต์โชว์ และ เพลงสากลสไตล์ acoustic และปิดท้ายด้วยโปรเย็นๆช่วยดับร้อนกันถ้วนหน้า

                                                                        รมย์รวินท์คลินิก ได้รับรางวัล 1 ใน 5 คลินิกที่มีการฉีดฟิลเลอร์มากที่สุดของ Galderma

                                                                        รูปลงเวบไซต์ 190329 0007 1

                                                                        รมย์รวินท์คลินิกได้รับรางวัล 1 ใน 5 คลินิกที่มีการฉีดฟิลเลอร์มากที่สุดของ Galderma
                                                                        รางวัลที่ได้เป็นเครื่องยืนยันประสบการณ์ และตอกย้ำความเชี่ยวชาญ รวมไปถึงความไว้วางใจจากลูกค้า

                                                                        เรายังคงมุ่งเน้นมาตรฐานด้านคุณภาพเเละเลือกสรรคทุกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้รับบริการ โดยรางวัล นี้ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่เเสดงให้ถึงศักยภาพทุกด้านของเราอย่างเเท้จริง
                                                                        ผู้เข้ารับบริการทุกท่านมีส่วนสำคัญที่ทำให้เราได้รับรางวัลในครั้งนี้ เราจะรักษามาตรฐานอันสูงสุดไว้เช่นนี้ตลอดไปเพื่อให้ผู้รับบริการได้รับสิ่งที่ดีทีสุด “เพราะเราจริงใจเลือกสรรเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเพื่อคุณ ”

                                                                        ครีมหน้าเรียวช่วย “ปรับรูปหน้าเรียว” ได้จริงหรือไม่

                                                                        212

                                                                        มีสาวๆ จำนวนไม่น้อยที่อยากมีรูปหน้าเรียวสวย แต่ก็กลัวการผ่าตัดศัลยกรรมปรับรูปหน้าเรียว ไม่อยากเจ็บ ไม่อยากเสี่ยง แนะนำให้ฉีดโบ ฟิลเลอร์ ร้อยไหม ก็บอกว่ากลัวเข็มอีก สุดท้ายจึงเลือกที่จะใช้ครีมครีมทาเพื่อปรับรูปหน้าเรียว ว่าแต่ว่า…ครีมหน้าเรียวแบบนี้ จะช่วยปรับรูปหน้าเรียวได้จริงหรือ ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่สงสัยเหมือนกันมาหาคำตอบกันค่ะ

                                                                        ครีมหน้าเรียวช่วยปรับรูปหน้าเรียวแบบไหนได้บ้าง

                                                                        ปัญหาส่วนใหญ่ของสาวอยากหน้าเรียวเป็นเพราะ “กรามใหญ่” หน้าใหญ่ไม่ได้รูปจนอยากปรับรูปหน้าเรียว แม้ไม่ต้องใช้หลักวิชาการอะไรก็สามารถวิเคราะห์ได้ว่า “เป็นไปไม่ได้” ที่หน้าไม่ได้รูปเนื่องจากโครงสร้างกระดูกจะ แก้ไขไม่ได้โดยการทาครีม ปรับรูปหน้าเรียวได้ แต่ที่ยังมีโอกาสเห็นผลอยู่ก็คือคนที่ แก้มเยอะ เหนียงย้อย คือต้องเป็นหน้าที่ไม่ได้รูปเพราะมีกล้ามเนื้อหรือไขมันส่วนเกินเยอะเท่านั้น

                                                                        เหตุผลที่ทำให้ครีมหน้าเรียวช่วยปรับรูปหน้าเรียวได้

                                                                        การออกกำลังกายทำให้รูปร่างที่เผละด้วยไขมันกระชับได้สัดส่วนขึ้นฉันใด การออกกำลังให้ใบหน้าก็ย่อมทำให้รูปหน้ากระชับขึ้นได้ฉันนั้น ครีมหน้าเรียวจึงช่วยปรับรูปหน้าเรียวได้ ด้วยเหตุผลดังนี้

                                                                        1. หน้าใหญ่เพราะการทำงานของเลือดและน้ำเหลืองผิดปกติ เมื่อมีการทาครีมพร้อมกับการนวดกระตุ้นทำให้ระบบโลหิตและน้ำเหลืองทำงานได้ดีขึ้น รูปหน้าจึงปรับเปลี่ยนไปด้วย
                                                                        2. หน้าใหญ่เพราะกล้ามเนื้อและไขมันบนใบหน้ามากเกินไป ลองนึกถึงสภาพคนมีกล้ามเนื้อเป็นลูกๆ ดูนะคะ ถ้าการนวดลดที่ต้นเหตุได้ การใช้ครีมนวดหน้าเสริมเข้าไปก็ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลงได้เช่นกัน
                                                                        3. ปกติครีมทำหน้าเรียวมักจะต้องให้นวดหน้าควบคู่ไปด้วย แม้แต่การนวดหน้าธรรมดายังช่วยยกกระชับใบหน้า การมีครีมนวดหน้ามาเสริมจึงให้ผลในทิศทางเดียวกัน

                                                                        ครีมนวดหน้าปรับรูปหน้าให้เรียวได้ขนาดไหน

                                                                        ถ้าคิดว่าใช้ครีมนวดหน้าเรียวแล้ว จะมีหน้า V-Shape เหมือนไปฉีดโบมา หรือไปผ่าตัดมา ย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าเป็นไปได้ คงไม่มีใครเลือกที่จะเจ็บจากการเข้าคลินิกความงามทั้ง ๆ ที่ทั้งเจ็บ ทั้งเสียเงินมาก และเสียเวลาในการรักษาตัวมากกว่า จึงต้องบอกว่าความคาดหวังว่าใบหน้าจะเรียวจากการนวดหน้ายังคงต้องอยู่ในขอบเขตที่จำกัด

                                                                        แต่คำว่าครีมหน้าเรียวช่วยปรับรูปหน้าเรียวได้นั้น เป็นเพราะอาศัยการนวดกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหรือไขมันเข้าช่วย ทำให้ชั้นผิวหนังมีความกระชับมากขึ้น อย่างไรก็ตามหากอยากนวดแล้วได้ผลต้องอาศัยความต่อเนื่อง สม่ำเสมอ จึงจะทำให้รูปหน้ากระชับขึ้น หากเป็นครีมนวดคุณภาพดี นวดถูกวิธีตามหลักการ และจะสามารถปรับรูปหน้าเรียว V-Shape ได้มีกรณีเดียวคือ รูปหน้าดั้งเดิมเป็น V-Shape อยู่แล้วแต่เปลี่ยนไปเพราะมีกล้ามเนื้อและไขมัน เมื่อนวดไปจึงสามารถกลับไปเหมือนเดิมได้

                                                                        สำหรับท่านใดที่มีปัญหาในการปรับรูปหน้าเรียว แนะนำให้ปรึกษาเพทย์ผู้เชียวชาญดีกว่านะคะ อย่างคลินิกรมย์รวิทท์ของเรา มีโปรแกรมในการปรับรูปหน้าเรียวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำ Thermage, Ulthera, Hifu, ฉีดโบ, ร้อยไหม เป็นต้น ด้วยการคัดสรรเครื่องมือที่ทันสมัย ความรู้ความชำนาญของแพทย์ ประกอบกับประสบการณ์มากกว่า 14 ปีของเรา จึงมั่นใจได้ว่าจะช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับคนไข้ที่มาใช้บริการกับเราอย่างแน่นอนค่ะ

                                                                        ลูกกลิ้งนวดหน้า ช่วยทำ “หน้าเรียว” ได้จริงหรือไม่

                                                                        211

                                                                        ลูกกลิ้งหน้าเรียว เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยมีขายในท้องตลาดมานาน ด้วยคุณสมบัติที่โฆษณาว่า เป็นลูกกลิ้งนวดหน้า ช่วยปรับรูปหน้าเรียวได้ด้วยวิธีง่ายๆ เพียงกลิ้งลูกกลิ้งดังกล่าวไปมาบริเวณใบหน้าเท่านั้น อีกทั้งราคาที่แสนถูก จึงสร้างความสงสัยให้ผู้บริโภคสืบต่อกันมาว่า ลูกกลิ้งนวดหน้าช่วยทำหน้าเรียวได้จริงหรือไม่ คุณเองก็เป็นคนหนึ่งที่สงสัยใช่มั้ยคะ? ถ้าอย่างนั้นมาหาคำตอบไปพร้อมกันเลย

                                                                        สมมุติฐานว่าลูกกลิ้งนวดหน้าน่าจะช่วยทำให้หน้าเรียวได้จริง

                                                                        1. สินค้าชนิดนี้ มีจำหน่ายในต่างประเทศมานานเป็น 10 ปีแล้ว มาตรฐานการควบคุมสินค้าในต่างประเทศอยู่ในระดับเคร่งครัด
                                                                        2. ถ้าไม่มีคุณภาพจริง คงอยู่ในท้องตลาดไม่ได้ จะหายไปตามความไม่ต้องการของตลาด ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงมีแนวโน้มว่าช่วยทำหน้าเรียวได้จริง

                                                                        แนวคิดการทำงานของลูกกลิ้งนวดหน้าเพื่อการปรับรูปหน้าเรียว

                                                                        เมื่อเทียบกับการปรับรูปหน้าเรียวด้วยโปรแกรม Hifu, Ulthera หรือ Thermarge โปรแกรมเหล่านี้จะเป็นการกระตุ้นผิวที่ถูกทำให้เกิด “บาดแผลแบบรูเข็ม” คือเป็นแผลขนาดเล็กมากใต้ผิวหนังชั้นลึก หลังจากนั้นร่างกายจะพยายามสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเพื่อจะซ่อมแซมตัวเอง

                                                                        แต่ในส่วนของ การนวดคลึงบนผิวหนังนั้น หลักการทำงานคือเป็นการกระตุ้นให้มีการไหลเวียนเลือด โดยปกติแม้ใช้กำลังมือกำลังนิ้วเหมือนการนวดแผนไทยทั่วไปก็สามารถกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้ แต่ลูกกลิ้งมีการกระตุ้นที่มากกว่ามือ เพราะอุปกรณ์ที่มีความนูนหรือเป็นคลื่นกล้ามเนื้อจึงเหมือนได้ออกกำลังกาย จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ผิว

                                                                        แต่ถึงอย่างนั้นลูกกลิ้งก็ยังมีประสิทธิภาพในการทำงานได้น้อยกว่าโปรแกรมทำหน้าเรียว เพราะโปรแกรมจากคลินิกที่มาพร้อมกับเครื่องมืออันทันสมัย ประกอบกับความรู้ความชำนาญของแพทย์ จะทำให้กระตุ้นผิวในชั้นที่ลึกกว่า และใช้เวลาน้อยกว่าลูกกลิ้งนวดหน้าหลายเท่า

                                                                        วิธีใช้ลูกกลิ้งนวดปรับรูปหน้าเรียว

                                                                        ก่อนอื่นต้องล้างหน้าให้สะอาดหมดจด สาวๆ อาจจะสครับผิวหน้าก่อนก็ได้เพื่อให้แน่ใจว่าผิวหน้าสะอาดอย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นสิ่งสกปรกตกค้างจะถูกผลักเข้าสู่รูขุมขนจนทำให้เกิดสิวได้ จากนั้นทาครีมบำรุงที่ใบหน้าเล็กน้อยเพื่อผลักสารอาหารเข้าสู่ผิวและลดการเสียดสีที่อาจทำให้บาดเจ็บมากเกินไป แล้วกลิ้งลูกกลิ้งไป-มา บริเวณข้างแก้ม กลิ้งขึ้น-ลง ต่อเนื่องครั้งละ 15-30 นาทีต่อครั้ง

                                                                        ทำไมบางคนบอกว่าปรับรูปหน้าเรียวด้วยลูกกลิ้งไม่ได้ผล

                                                                        1. ทำไม่ถูกวิธี และไม่ทำอย่างต่อเนื่องจริงจัง
                                                                        2. ไม่อดทนรอการเปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณหนึ่ง
                                                                        3. ตระหนกตกใจกับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น เช่น เมื่อย เจ็บ หรือระคายเคือง

                                                                        ผลข้างเคียงจากการใช้ลูกกลิ้งทำหน้าเรียว

                                                                        1. ใช้ไม่เป็น ขาดคำแนะนำที่ถูกต้อง ใช้น้ำหนักแรงเกินไป บ่อยเกินไป อาจทำให้เกิดแผลอักเสบ จากความระคายเคืองได้
                                                                        2. ติดเชื้อจากบาดแผลที่เกิดขึ้นจากการทำงานของลูกกลิ้ง แต่ดูแลลูกกลิ้งไม่สะอาดพอ จนอาจส่งผลให้สิวขึ้นมากกว่าเดิม
                                                                        3. ใช้ร่วมกับผู้อื่น ทำให้มีการส่งต่อเชื้อโรคผ่านลูกกลิ้ง

                                                                        การใช้ลูกกลิ้งนวดหน้าช่วยทำให้หน้าเรียวได้ระดับหนึ่งก็จริง แต่ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าการทำหน้าเรียวด้วยลูกกลิ้ง เป็นการทำงานกับผิวชั้นนอก อีกทั้งไม่ได้มีเครื่องมือทางการแพทย์อื่นมากระตุ้น ฉะนั้นต้องอาศัยความสม่ำเสมอทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องใช้เวลาหลายเดือนเลยทีเดียว แต่ถ้าหากหลายคนท้ออยากจะได้ผลที่เร็วและชัวร์ แนะนำให้ปอาศัยเครื่องมือที่ทันสมัยจากคลินิก อย่างรมย์รวินท์คลินิกของเราก็มีโปรแกรมปรับรูปหน้ามากมายเอาไว้บริการคุณค่ะ

                                                                        รูปหน้าของคนมีกี่ประเภท รูปหน้าแบบไหนที่เหมาะกับการ “ทำหน้าเรียว”

                                                                        210

                                                                        รูปหน้าโดยธรรมชาติของคนเรานั้นมีหลายแบบ บางคนหน้ารูปไข่ บางคนหน้าเล็ก บางคนก็หน้ากลม และอีกหลายรูปทรงใบหน้าแตกต่างกันไปตามเผ่าพันธุ์ เชื้อชาติ และพันธุกรรม แล้วคุณละคะมีรูปหน้าแบบไหน ตอนนี้พึงพอใจในรูปหน้าของตัวเองแล้วหรือยัง ถ้ายังมาดูกันว่ารูปหน้าแบบคุณเหมาะกับการทำหน้าเรียวตามเทรนด์ในปัจจุบันได้หรือไม่

                                                                        ประเภทของรูปหน้า

                                                                        1. หน้ารูปหัวใจ เป็นรูปทรงหน้าที่ดูสวยและมีเสน่ห์กว่าใคร เริ่มตั้งแต่หน้าผากจะมีความคล้ายรูปวาดหัวใจมีไรผมแหลมลงมาที่กลางหน้าผาก จากหน้าผากลงมาถึงคาง ส่วนกรอบหน้าจะค่อย ๆ เรียวลงมาจนถึงส่วนคางซึ่งจะมีความมนเหมือนปลายรูปหัวใจ
                                                                        2. หน้ารูปสี่เหลี่ยม รูปหน้าแบบนี้มีความกว้างและความยาวพอๆ กัน กรอบหน้าสองข้างค่อนข้างตรงลงมา ปลายคางตัด และมีสันกรามที่ค่อนข้างกว้างจึงทำให้ดูเป็นเหลี่ยม 
                                                                        3. รูปหน้ากลม ลองนึกถึงวงกลมเทียบกับใบหน้า คือมีความกว้างและความยาวของหน้าเกือบเท่ากันทุกองศา ช่วงที่กว้างที่สุดจะเป็นช่วงโหนกแก้ม หน้าผากกับช่วงกรามจะเล็กกว่า ลักษณะช่วงกรามจะมีรูปมนๆ
                                                                        4. หน้ารูปไข่ เป็นอีกหนึ่งรูปทรงใบหน้าที่หลายคนชอบ ด้วยความยาวของใบหน้าจะมากกว่าความกว้าง ส่วนหน้าผากจะกว้างกว่าช่วงกราม ส่วนของกรามและคางจะมนเรียวได้รูป เมื่อดูภาพรวมของใบหน้าก็จะมีความมน ดูสวยแบบมีมิติ
                                                                        5. รูปหน้ายาว มีลักษณะคล้ายกับหน้ารูปไข่เหมือนกันแต่จะมีความยาวมากขึ้นจากส่วนหน้าผากและคาง กรอบหน้าเล็ก เมื่อมองภาพรวมจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าความยาวใบหน้าจะมากกว่าด้านข้าง
                                                                        6. รูปหน้าสามเหลี่ยมหรือตัววี รูปหน้า V-Shape ที่สาว ๆ ไฝ่ฝันและนิยมทำหน้าเรียวกันมาก คือโครงหน้าที่เหมือนสามเหลี่ยมกลับหัวเนื่องจากมีส่วนหน้าผากกว้างและสูง มีเส้นกรอบหน้าแคบเรียวลงมาจนถึงส่วนคาง ในขณะที่ส่วนคางจะแหลมจนเห็นได้ชัดคล้ายเป็นเป็นตัววี
                                                                        7. ใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือรูปเพชร นึกภาพสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ใบหน้ารูปแบบนี้จะมีส่วนโหนกแก้มกว้างที่สุด  หน้าผากกับบริเวณสันกรามจะไล่เลี่ยกัน

                                                                        เทคนิคการดูรูปหน้าของตัวเองว่าเป็นแบบไหน

                                                                        สำหรับใครที่อยากรู้ว่ารูปหน้าของตนเป็นอย่างไร สามารถวัดได้ดังนี้

                                                                        1. วัดส่วนกว้างที่สุดของใบหน้าจากซ้ายไปขวา
                                                                        2. วัดความยาวที่สุดของใบหน้า จากบริเวณไรผมตรงหน้าผากลงมาจรดปลายคาง
                                                                        3. วัดจากสันกรามมาถึงคางเป็นอีกส่วนที่ใช้ประกอบการพิจารณาว่ามีรูปหน้าแบบไหน
                                                                        4. อย่างไรก็ตามขนาดใบหน้าของแต่ละคนไม่เท่ากันจึงจำกัดความด้วยตัวเลขได้ยาก ทั้งนี้ให้เทียบสัดส่วนด้านกว้าง ด้านยาวของกรอบหน้า จากนั้นเปรียบเทียบกับคำจำกัดความของรูปหน้าประเภทต่างๆ ก็จะรู้ว่ามีตัวเองมีรูปหน้าแบบไหน

                                                                        รูปหน้าที่ทำหน้าเรียวได้สวยจะต้องมีพื้นฐานรูปหน้ามีความยาวมากกว่าความกว้างและต้องอยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม เช่น หน้ารูปไข่ หน้าสามเหลี่ยม หน้าเพชร แต่ทั้งนี้ต้องไม่ยาวจนเกินไป ส่วนรูปหน้าเหลี่ยม หรือหน้ากลมมากเกินไป อาจไม่ค่อยนิยมมากนักในหมู่คนไทย สำหรับใครที่อยากทำหน้าเรียว สามารถทำได้ด้วยการใช้โปรแกรมเสริมความงามเข้าช่วย โดยสอบถามได้ที่ 080-153-9000 หรือเดินทางเข้ามาปรึกษากับรมย์รวินท์คลินิกได้ทุกสาขา เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มากด้วยประสบการณ์ที่พร้อมดูแลคุณค่ะ

                                                                        อยากทำหน้าเรียว V-Shape ด้วยเทอร์มาจควรเริ่มต้นอย่างไร

                                                                        209

                                                                        เทคโนโลยีความงามด้านการทำหน้าเรียวมีด้วยกันหลายวิธี หนึ่งในวิธีที่นิยมก็คือ THERMAGE (เทอร์มาจ) ที่หลายคนก็อาจจะลองทำบ้าง แต่สำหรับใครที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนก็ย่อมอยากรู้ถึงขั้นตอนการทำเอาไว้เผื่อประกอบการตัดสินใจในการทำหน้าเรียว บทความนี้รมย์รวินท์คลินิกจึงขออาสาทุกท่านไปทำความรู้จักกับการปรับรูปหน้าเรียวด้วยการทำเทอร์มาจกันค่ะ

                                                                        เทอร์มาจ (Thermage) คืออะไร  

                                                                        เทอร์มาจ เป็นเทคโนโลยีในการทำหน้าเรียว ทำให้ผิวตึงกระชับด้วยใช้ความถี่ของคลื่นวิทยุแบบขั้วเดียวเข้าไปกระตุ้นผิวตั้งแต่ชั้นหนังแท้ผ่านเข้าไปจนถึงจนถึงผิวหนังชั้นลึก (SMAS) ความร้อนในระดับที่สม่ำเสมอที่ถูกส่งผ่านเข้าไปจะช่วยให้โครงสร้างผิวหนังมีความยืดหยุ่น กระชับตัวดีขึ้น มีการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ที่ส่งผลให้ผิวมีสุขภาพดี นุ่มนวล รูขุมขนเล็กลง

                                                                        สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำหน้าเรียวด้วยเทอร์มาจ

                                                                        แน่นอนว่าก่อนที่จะเดินเข้าคลินิกศัลยกรรมความงามไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์ใดก็ตาม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเสียก่อน อย่างน้อยก็ต้องทำความเข้าใจให้แตกฉานว่าโปรแกรมที่เราสนใจทำนั้น แท้จริงมีประโยชน์อย่างไร ช่วยแก้ไขปัญหาของเราได้อย่างตรงจุดหรือไม่  เพราะโปรแกรมเสริมความงามก็มีด้วยกันหลายวิธี ซึ่งบางวิธีก็มีความคล้ายคลึงกัน

                                                                        กรณีการทำเทอร์มาจนั้น เป็นโปรแกรมที่ช่วยในการกระชับปรับรูปหน้าเรียว ทำหน้าเรียว เน้นการกระชับ (Tightening) ฉะนั้นจึงเหมาะกับผู้ที่มีไขมันที่หน้าเยอะ ผู้ที่มีใบหน้าอ้วน หน้าไม่กระชับ กรณีผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยร่วมด้วย การทำเทอร์มากอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ ก็อาจจะต้องทำโปรแกรมอื่นร่วมด้วย ความเข้มข้นของการยิง Shot ก็มีความสำคัญ เพราะหากยิง Shot ที่น้อยเกินไป หรือลงไปไม่ถึงผิวหนังชั้นลึก ก็ย่อมทำให้ผิวหน้ากระชับได้ไม่เต็มที่

                                                                        นอกจากนี้ยังมีเรื่องของข้อจำกัด เช่น หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยเป็นมะเร็ง ผู้ที่มีสายสวนหัวใจ มีโลหะในร่างกาย กลุ่มคนนี้ ทำเทอร์มาจไม่ได้ ควรศึกษาข้อดี-ข้อเสียให้ครบ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อทราบปัญหาที่ต้องแก้ไข โดยก่อนเข้ารับการปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียว ท่านสามารถ Walk in เข้ามาปรึกษากับที่แพทย์ได้ที่รมย์รวินท์คลินิกได้ทุกสาขา เมื่อมั่นใจแล้วค่อยตกลงนัดหมายเวลาไปทำเทอร์มาจอีกครั้งค่ะ

                                                                        ขั้นตอนการทำหน้าเรียวด้วยเทอร์มาจ

                                                                        1. ทายาชาและรอจนกว่ายาชาออกฤทธิ์ ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที
                                                                        2. ออกแบบตำแหน่งที่จะทำเทอร์มาจ โดยทำการลอกตารางเทอร์มาจลงบนใบหน้า
                                                                        3. ใช้อุปกรณ์ทำเทอร์มาจในจุดที่กำหนดไว้ โดยกดเครื่องมือบนใบหน้าให้คลื่นวิทยุส่งผ่านความร้อนเข้าไปในชั้นคอลลาเจนของไขมัน กระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวกระชับ
                                                                        4. ขณะทำเทอร์มาจมีความร้อนจากอุปกรณ์สู่ผิวที่ต้องมีการควบคุมระดับความร้อน จึงต้องอาศัยแพทย์ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเครื่องมือดีเพียงพอ ใช้ให้เหมาะกับผิวจะได้ไม่เกิดผลข้างเคียง
                                                                        5. สุดท้ายจะมีการใช้ความเย็นต่อผิวเพื่อลดการระคายเคือง
                                                                        6. การทำเทอร์มาจจากจุดเริ่มต้นทำถึงเสร็จจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณ Shot ที่ยิง
                                                                        7. เมื่อทำเสร็จ คนไข้สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที ไม่ต้องพักรักษาตัว

                                                                        ผลข้างเคียงหลังจากทำเทอร์มาจ

                                                                        ในส่วนของผลข้างเคียงจากาการทำหน้าเรียวด้วยเทอร์มาจนั้น อาจมีรอยแดงหลังทำบ้างซึ่งเกิดจากระดับความร้อนหรือระยะเวลาที่ทำ แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะรอยแดงจะหายไปเอง หลังทำเสร็จจะเห็นถึงความแตกต่างราว 20-30% หลังจากนั้นจะมีความชัดเจนขึ้นในช่วง 1 เดือนขึ้นไปเพราะเป็นช่วงที่ชั้นผิวสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินขึ้นมาซ่อมแซมผิวอย่างเต็มที่ ส่วนผลที่สมบูรณ์จะคงสภาพต่อเนื่องได้ถึง 1-2 ปีค่ะ สำหรับงบประมาณการทำหน้าเรียวด้วยเทอร์มาจนั้น จะอยู่ระหว่าง 30,000 – 100,000 บาทขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล รวมถึงกรณีที่ต้องทำร่วมกับโปรแกรมอื่นด้วย

                                                                        และนี่ก็เป็นข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจกระชับปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวด้วยเทอร์มาจ เมื่อเข้าใจหลักการเหล่านี้ดีแล้ว ลำดับต่อไปก็สามารถเข้าไปปรึกษาแพทย์ที่คลินิกได้เลยนะคะ หรือจะโทรสอบถามได้ที่สายตรงได้ที่ 080-153-9000 รมย์รวินท์คลินิกยินดีให้บริการค่ะ

                                                                        ทำหน้าเรียวด้วยวิธีการฉีด กับการผ่าตัดศัลยกรรมอะไรดีกว่ากัน

                                                                        208

                                                                        เทรนด์สาวหน้าเรียวรูปทรง V-Shape ยังอยู่ในกระแสไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหน ส่วนใครที่หน้ไม่ได้รูปก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะมีวิธีการทำหน้าเรียวมากมายให้เลือกทำกัน นอกจากวิธีทำศัลยกรรมแล้ว ยังมีวิธีที่เจ็บตัวน้อยกว่า นั่นก็คือ การฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบ ร้อยไหม ฯลฯ ว่าแต่ว่า…หากเปรียบเทียบกันแล้ววิธีการไหนจะดีกว่ากัน ถ้าอยากรู้ ตามมาดูกันเลยค่ะ

                                                                        เปรียบเทียบการทำหน้าเรียวด้วยวิธีการฉีดกับการผ่าตัดศัลยกรรม

                                                                        1.ระดับความเปลี่ยนแปลง ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า การทำหน้าเรียวด้วยการฉีด (ซึ่งอาจจะเป็นการฉีดโบ ฟิลเลอร์ ร้อยไหม ฯลฯ) เปรียบเทียบเหมือนกับการปรับรูปหน้าชั่วคราว ผลจะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี คือเมื่อปริมาณของสารที่ฉีดเข้าไปหมดฤทธิ์ลงก็จะต้องทำซ้ำ แต่การผ่าตัดศัลยกรรม (ไม่ว่าจะเป็นการเสริมซิลิโคนไปจนถึงการผ่าตัดกราม) จะมีการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างถาวร หรืออย่างน้อยก็อยู่ได้ 10 ปีจึงค่อยแก้ไขใหม่

                                                                        2.ความเจ็บและการรักษาตัว การปรับรูปหน้าเรียวด้วยวิธีฉีดคือการใช้เข็มในการฉีดตัวยาเข้าไปที่ใบหน้า ข้อดีคือเจ็บน้อยกว่า และไม่ต้องรักษาตัวนาน ส่วนการทำศัลยกรรมเป็นหัตถการณ์ที่ใหญ่กว่า บางเคสถึงกับต้องวางยาสลบเข้าช่วย การศัลยกรรมปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวส่วนใหญ่จะทำการเปิดแผลภายในช่องปากเพื่อซ่อนแผลเป็น จึงทำให้กระทบต่อการพูดและการทานอาหารด้วย 

                                                                        3.ระยะเวลารักษาตัว การทำหน้าเรียวด้วยการฉีด ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ทำเสร็จเรียบร้อย และสามารถกลับบ้านได้เลยไม่ต้องพักฟื้น อาจจะมีอาการบวมช้ำบ้างในช่วง 3-7 วันแต่ก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ ส่วนการผ่าตัดศัลยกรรมทำหน้าเรียว ส่วนใหญ่แล้วใช้เวลาทำ 30 นาทีขึ้นไปขึ้นอยู่กับประเภทของการผ่าตัด ต้องใช้เวลาพักฟื้นรักษาแผลอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ และต้องให้เวลาร่างกายปรับตัวอีกหลายเดือนกว่าผลลัพธ์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างถาวร

                                                                        4.ระยะเวลาของผลลัพธ์ การทำหน้าเรียวด้วยการฉีดไม่ว่าจะเป็นประเภทใดก็ตาม ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ 6-12 เดือนโดยประมาณ เนื่องจากการฉีดสารเป็นการทำให้กล้ามเนื้อเปลี่ยนไปเพียงชั่วคราวเท่านั้น หากใบหน้าเริ่มกลับไปเหมือนเดิมต้องทำการฉีดซ้ำอีก แต่การผ่าตัดศัลยกรรมทำหน้าเรียวมีความเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างถาวร อย่างการเสริมซิลิโคนที่คางก็สามารถอยู่ได้ราว 10 ปีขึ้นไป หรือถ้าเป็นการผ่าตัดกระดูกกรามก็ให้ผลที่ถาวรตลอดไป

                                                                        5.ความเสี่ยงด้านการผิดพลาด ไม่ว่าจะทำหน้าเรียวด้วยวิธีไหนก็ล้วนมีความเสี่ยง เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความเชี่ยวชาญของแพทย์ รวมทั้งการฉีดสารที่ไม่ได้คุณภาพ ยกตัวอย่าง

                                                                        • ถ้าเป็นการฉีดพลาด ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายใน 3-4 วัน หรือรอให้หมดฤทธิ์ตามอายุของสารแล้วค่อยฉีดใหม่ แต่ผลข้างเคียงก็อาจทำให้หน้าเบี้ยวไปสักพักใหญ่
                                                                        • แต่ถ้าผิดพลาดมากฉีดถูกเส้นประสาทสำคัญบนใบหน้าอาจส่งผลถาวร
                                                                        • ส่วนกรณีฉีดกับหมอกระเป๋าราคาถูก ก็เสี่ยงที่จะทำให้เกิดการอักเสบได้
                                                                        • ส่วนศัลยกรรมผิดพลาดก็จะต้องศัลยกรรมแก้ไข ซึ่งจะได้ผลมากน้อยเพียงใดอยู่ที่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นและต้องอาศัยฝีมือของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการแก้ไข

                                                                        6.ค่าใช้จ่าย การฉีดแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่าย 3,000 บาทขึ้นไป แต่ผลลัพธ์อยู่ได้ 6-8 เดือนก็ต้องฉีดใหม่เป็นระยะ ซึ่งจะเป็นอยู่เช่นนี้ตลอดที่ยังต้องการทำ หากเปรียบเทียบระยะยาวอาจมีค่าใช้จ่ายมากกว่าการศัลยกรรมครั้งเดียว ส่วนการศัลยกรรมมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่เป็นการจ่ายคราวเดียวแล้วจบ โดยอยู่ที่ประมาณ 40,000 – 100,000 บาท ตามแต่ปัญหาที่ต้องการแก้ไข แต่ข้อดีคือผลอยู่ได้ถาวรหรืออย่างน้อยก็ 10 ปีขึ้นไปไม่ต้องทำใหม่อีก

                                                                        การทำหน้าเรียวด้วยวิธีการฉีดกับการผ่าตัดศัลยกรรม ต่างก็มีข้อดี ข้อเสีย และข้อจำกัดที่แตกต่างกัน หากถามว่าวิธีไหนจะดีกว่ากันนั้น ต้องตอบว่าขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เพราะแต่ละคนมีปัญหาโครงสร้างใบหน้าที่แตกต่างกัน สำหรับท่านใดที่สนใจทำหน้าเรียวแต่ยังไม่รู้ว่าควรจะทำด้วยวิธีไหนดี สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่รมย์รวินท์คลินิกทุกสาขาค่ะ

                                                                        ทำหน้าเรียวด้วยวิธีไหน ให้ผลที่ยาวนานที่สุด

                                                                        ฉีดโบ

                                                                        หลายคนที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด หน้ากลม คางเยอะ หน้าดูอ้วน ไม่เป็น v-shape ตามสมัยนิยม ปัจจุบันนี้มีเทคนิควิธีทำหน้าเรียวมาให้เลือกทำกันมากมาย ซึ่งแต่ละวิธีก็มีจุดดีจุดเด่นแตกต่างกันไป รวมถึงปัญหาของแต่ละคน สภาพร่างกายของแต่ละคน ซึ่งส่งผลต่อรูปแบบวิธีการรักษา แต่วันนี้เราจะมาดูกันว่าวิธีการทำหน้าเรียวแบบไหนที่คงผลการรักษาได้ยาวนานที่สุด

                                                                        1. การผ่าตัด การผ่าตัดทำหน้าเรียวเป็นวิธีที่ผลลัพธ์ที่ยาวนานที่สุด ได้ผลลัพธ์ชัดเจนแน่นอนที่สุด วิธีนี้สามารถแก้ไขใบหน้าได้หลากหลายแบบ ตั้งแต่ โหนกแก้ม กราม และคาง ปัจจุบันวิทยาการแพทย์ล้ำหน้าไปมากสามารถผ่าตัดผ่านด้านในปาก โดยอาศัยเครื่องมือพิเศษในการตัดกระดูกในช่องปาก ข้อดีคือไม่มีรอยแผลเป็นทิ้งไว้ให้เห็นจากภายนอก สิ่งสำคัญคือแพทย์ผู้ทำการรักษาต้องมีประสบการณ์สูง มีความชำนาญเฉพาะทาง เพราะการผ่าตัดเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่เส้นประสาท ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้เข้ารับบริการเป็นอย่างมาก
                                                                        2. Thermage เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง สามารถส่งพลังเข้าไปยังชั้นผิวหนังทำให้เกิดความร้อนใต้ชั้นผิวบริเวณที่มีคอลลาเจน เมื่อชั้นผิวถูกกระตุ้นจะส่งผลให้มีการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ ช่วยคืนความยืดหยุ่นและยกกระชับทำให้ผิวดูอิ่มเต็ม การทำหน้าเรียววิธีนี้ที่ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น ทำเสร็จแล้วสามารถกลับบ้านและทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำเสร็จ จะเห็นผลชัดเจนขึ้นภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ และคงผลการรักษายาวนาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและสภาพร่างกายของแต่ละคน
                                                                        3. ร้อยไหม การใช้ไหมเส้นเล็กจำนวนมากหลายร้อยเส้น นำมาเรียงร้อยเชื่อมโยงกันไว้ใต้ผิวหนัง ไหมที่นำมาใช้ได้มาตรฐานเดียวกับไหมละลายที่ใช้เย็บเส้นเลือดหัวใจ จึงมีความปลอดภัยและสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว การร้อยไหมเป็นการทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ กระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนบริเวณรอบเส้นไหม เมื่อมีคอลลาเจนเพิ่มขึ้นผิวบริเวณดังกล่าวก็จะตึงกระชับ ลดความหย่อนคล้อย ช่วยปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวอย่างได้ผล โดยปกติเส้นไหมจะสลายตัวไปภายใน 8 เดือน หลังทำเสร็จจะมีอาการบวมตามแนวรอยไหมบ้าง แต่จะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ ผลลัพธ์จะปรากฏชัดเจนขึ้นภายในเวลา 2 เดือน และให้ผลยาวนาน 1-2 ปี
                                                                        4. Lipo Lifting อีกหนึ่งวิธีปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียว ที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะไม่บวมไม่ช้ำไม่แสบเหมือนยาลดไขมันตัวอื่น โดยใช้เทคนิคการฉีดไหมเข้าสู่ใต้ผิวหนัง เส้นไหมที่ได้ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ จึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ พร้อมทั้งเคลือบด้วยสารชนิดพิเศษที่สามารถละลายไขมันใต้ผิวหนังได้ดี การฉีดไหมแต่ละครั้งจะเทียบเท่าการร้อยไหมแบบเรียบ โดยเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินบริเวณแก้ม คาง เหนียง หรือบริเวณผิวที่หย่อนยาน เมื่อทำเสร็จจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน ผิวยกกระชับขึ้นทันที มองเห็นกรอบหน้าชัดเจน เป็นการทำหน้าเรียวที่ได้ผลดี โดยไม่ต้องทำศัลยกรรม ไม่ทิ้งอาการบวมแดงช้ำไว้บนใบหน้า ไม่ต้องเสียเวลาพักพื้น หลังทำเสร็จแล้วทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นภายใน 3-4 สัปดาห์ และคงผลการรักษาได้ยาวนานเป็นปี
                                                                        5. ดูดไขมัน การดูดไขมันไม่ได้ใช้กับบริเวณหน้าท้อง สะโพก หรือต้นขาเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้เพื่อปรับรูปหน้าเรียวได้ด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ไขมันส่วนเกินบริเวณใต้คาง เหนียง สามารถใช้เทคนิควิธีการดูดไขมันได้เช่นเดียวกัน ปัจจุบันเครื่องดูดไขมันได้มีการพัฒนาก้าวล้ำหน้า หลังจากดูดไขมันออกไปแล้วผิวจึงไม่หย่อนคล้อย และมีเพียงรอยแผลเล็กๆ เท่านั้น หลังทำเสร็จจะสังเกตเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลง สำหรับผลการรักษาจะคงอยู่ได้ยาวนานเพียงใดขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัวของผู้เข้ารับการรักษาแต่ละราย

                                                                        วิธีการปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียว มีตั้งแต่การผ่าตัดใหญ่ จนถึงการใช้เครื่องมือพิเศษที่ไม่ทำให้เกิดรอยแผล สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาก็คือเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยของสถานเสริมความงาม และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้รักษา การตัดสินใจจากงบประมาณเพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องเสมอไป รมย์รวินท์คลินิก ให้ความสำคัญกับความทันสมัยของเครื่องมือเป็นสิ่งแรก มีการคัดสรรเครื่องมือเพื่อให้ตอบโจทย์ปัญหาผิวลูกค้า ด้วยจุดนี้เองจึงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับคนไข้ที่มาใช้บริการรมย์รวินท์คลินิกของเรา

                                                                        ทำหน้าเรียว ด้วยวิธีไหนใช้เวลาพักฟื้นน้อยที่สุด

                                                                        206

                                                                        วิธีการปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวมีอยู่มากมายหลายวิธี ตั้งแต่ศัลยกรรมดึงหน้า ผ่าตัดใส่ซิลิโคน ฉีดสารเติมแต่ง หรือใช้เครื่องมือไฮเทคต่างๆ ซึ่งมีข้อดีข้อเด่นแตกต่างกันไป แต่ถ้าหากเลือกได้หลายคนคงจะเลือกวิธีทำหน้าเรียวที่ได้ผลลัพธ์ยอดเยี่ยมและใช้เวลาพักฟื้นน้อยที่สุด วันนี้เรามีวิธีปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวมาแนะนำกัน ลองตามไปดูกันว่ามีวิธีไหนบ้าง

                                                                        1. Hifu เทคนิคการทำหน้าเรียวที่ขึ้นชื่อว่าไม่เจ็บ เห็นผลไว เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวด์เข้มข้นสูง ส่งผ่านพลังงานเข้าไปยังชั้นผิว SMAS ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อเดียวกับที่ทำศัลยกรรมดึงหน้า เมื่อชั้นเนื้อเยื่อได้รับการกระตุ้นจะมีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวยกกระชับ อิ่มเต็ม หลังจากทำเสร็จไม่ต้องพักฟื้น ไม่เกิดอาการบวม ช้ำ แดง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัดเจน มีไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้า ผลการรักษาจะเห็นชัดเจนขึ้นภายใน 4-6 สัปดาห์ และคงผลลัพธ์ต่อเนื่องยาวนานเป็นปี
                                                                        2. Thermage เทคโนโลยียกกระชับผิว ทำหน้าเรียวด้วยการส่งคลื่นความถี่วิทยุ RF ส่งพลังเข้าไปยังชั้นผิวหนังระดับลึก เพื่อกระตุ้นให้เนื้อเยื่อสร้างคอลลาเจนใหม่เพิ่มขึ้น ขณะทำหัตถการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะคอยควบคุมความร้อนสลับเย็นให้คงที่ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด หลังทำเทอมาร์จผู้รับบริการจะรู้สึกได้ทันทีว่าริ้วรอยลดลง ผิวแข็งแรงขึ้น ทำหน้าเรียวเป็น v-shape มากขึ้น และที่สำคัญหลังจากทำเสร็จไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ทั้งแต่งหน้า ช้อปปิ้ง ออกกำลังกาย แต่ก็อาจจะมีบางรายที่มีผิวแดงเล็กน้อย แต่ก็จะหายไปเองในเวลาอันรวดเร็ว
                                                                        3. Filler ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มชนิดหนึ่งที่ใช้ฉีดเพื่อลดและแก้ปัญหาริ้วรอยบริเวณต่างๆ บนใบหน้า รวมถึงเติมเต็มจุดที่บกพร่อง เพื่อปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวได้ตามต้องการ โดยสารเติมเต็มดังกล่าวมีให้เลือกหลายประเภท ที่นิยมแพร่หลายก็จะมีการใช้ไขมันตนเอง คอลลาเจนจากสัตว์ หรือไฮยาลูโรนิก-แอซิด ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมกันอย่างมาก หลังฉีดแล้วจะเห็นผลได้ทันที และเห็นผลชัดเจนมากขึ้นเมื่ออาการบวมน้ำหายไป ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้ 6 เดือน หรือมากน้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน หลังฉีดแล้วไม่ต้องพักฟื้น สามารถแต่งหน้า หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ
                                                                        4. ฉีดโบ เทคนิคการปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวที่นิยมทำกันมาก คือการฉีดโบ ซึ่งเป็นสารสกัดโปรตีนธรรมชาติจากแบคทีเรีย มีคุณสมบัติช่วยคลายกล้ามเนื้อ ลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มร่องลึกบริเวณต่างๆ ช่วยแก้ปัญหาข้อบกพร่องบนใบหน้าได้ดี โดยคุณหมอจะเป็นผู้วินิจฉัยและกำหนดตำแหน่งการฉีดอย่างเหมาะสม ซึ่งต้องอาศัยความเชี่ยวชาญชำนาญเป็นอย่างมาก จึงจะปรับรูปหน้าทำหน้าเรียวได้อย่างสวยงาม หลังฉีดโบอาจจะต้องระมัดระวังอย่าจับหรือนวดบริเวณที่ฉีด โดยบางรายอาจจะมีรอยแดงบ้างเล็กน้อย แต่จะหายไปเองภายใน 1 วัน หลังจากนั้นจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์
                                                                        5. Lipo Lifting เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณแก้ม คาง เหนียง ทำให้หน้าดูกลมดูอ้วน การปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวที่มีปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ง่าย โดยวิธีการฉีดไหมไลโป ซึ่งให้ผลลัพธ์ปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวเทียบเท่าการร้อยไหม แต่ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น ไม่ทิ้งรอยช้ำบวมแดงให้เห็น ตัวยาที่ใช้สกัดมาจากธรรมชาติมีคุณสมบัติช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินใต้ผิวหนัง ตัวเส้นไหมจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นเนื้อเยื่อ ช่วยให้ผิวยกกระชับ ลดอาการหย่อนคล้อยได้ดี ส่งผลให้ทำหน้าเรียวเล็ก ดูเป็น v-shape ตามสมัยนิยม หลังฉีดไหมไลโปไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ ทั้งนี้คุณหมอแนะนำว่าให้ดื่มน้ำเพิ่ม เพื่อช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันให้ดีขึ้น

                                                                        เทคนิควิธีการทำหน้าเรียวเหล่านี้ ล้วนมีจุดประสงค์เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับ มองเห็นกรอบหน้าชัดเจนทั้งสิ้น ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลการรักษาแตกต่างกันไป คือ อายุ ลักษณะโครงสร้างและสภาพผิวพรรณของผู้รับบริการ ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการวิเคราะห์อย่างละเอียดและแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสม จะทำให้แก้ไขปัญหาผิวได้ตรงจุดมากกว่า สำหรับท่านใดที่ต้องการเข้ามาพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถ Walkin เข้ามาได้ที่รมย์รวินท์คลินิกได้ทุกสาขา

                                                                        ทำหน้าเรียว ด้วยวิธีไหนเจ็บตัวน้อยที่สุด

                                                                        205

                                                                        ปัจจุบันมีเทคนิคการทำหน้าเรียวอยู่มากหมายหลายวิธี ซึ่งต่างก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีได้ดั่งใจ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างมากคือความเจ็บปวดทรมานของการทำสวย ถึงแม้จะอยากให้หน้าเรียวหน้ากระชับมากแค่ไหน แต่ถ้าต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดมากมายก็คงต้องขอบายไปก่อน วันนี้เรามีวิธีปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวที่แม้แต่คนที่มีระดับความอดทนต่อความเจ็บต่ำก็ยังรับได้ แสดงว่าคนทั่วไปก็รับได้แน่นอน

                                                                        HIFU (ไฮฟู)

                                                                        การทำ Hifu เป็นหนึ่งในวิธีปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวที่หลายคนยืนยันคอนเฟิร์มว่าเจ็บตัวน้อยที่สุด เพราะไม่มีการใช้เข็ม ไม่มีการใช้มีดผ่าตัดมาเกี่ยวข้อง มีเพียงเครื่องมืออันทันสมัยที่ส่งคลื่นอัลตราซาวด์เข้มข้น ที่สามารถส่งพลังเข้าสู่ใต้ผิวระดับลึกที่เรียกว่าชั้น SMAS เป็นชั้นกล้ามเนื้อเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ดึงหน้า ด้วยคุณสมสบัติของเครื่องชนิดนี้จึงสามารถใช้การส่งคลื่นที่มีความเข้มข้นสูงเข้าไปกระตุ้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังเพื่อให้เกิดแผลขนาดเล็กมาก

                                                                        จากนั้นร่างกายจะกระตุ้นให้บริเวณดังกล่าวสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ซึ่งส่งผลให้ผิวกระชับอิ่มเต็ม ช่วยปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวเป็น v-shape มองเห็นกรอบหน้าชัดเจนขึ้นมาก ด้วยผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทันทีหลังทำ จึงมีผู้นิยมใช้บริการทำไฮฟูกันมากมาย ซึ่งอาจจะทำร่วมกับวิธีการปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวแบบอื่นก็ได้ ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ผู้ให้การรักษาและความต้องการของผู้เข้ารับบริการ

                                                                        ฉีดโบ

                                                                        วิธีการสุดคลาสสิคในการทำหน้าเรียว ซึ่งคุณหมอท่านบอกว่าเจ็บน้อยถึงน้อยที่สุด เพราะใช้เข็มที่มีขนาดเล็กจึงทำให้รู้สึกเจ็บน้อย ประกอบกับการฉีดโบเป็นจุดๆ ตามตำแหน่งที่เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อย ทุกครั้งที่ฉีดเสร็จก็จะมีการนวดคลึงกันเล็กน้อยพอให้ยากระจายตัว หลังฉีดเสร็จครบทุกจุด ผู้รับบริการสามารถเดินออกจากคลินิกได้เลยโดยไม่ต้องพักฟื้น ที่สำคัญเห็นผลการเปลี่ยนแปลงแทบจะทันที สามารถแต่งหน้า ทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ

                                                                        แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของคุณหมอด้วย สำหรับหมอที่มีประสบการณ์มีชั่วโมงบินสูง ก็รับประกันได้ว่ามือเบาและแม่นยำ สำหรับระยะเวลาออกฤทธิ์ของการฉีดโบ การทำหน้าเรียวก็อยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล สามารถเข้ามาฉีดซ้ำได้เพื่อให้ผลการรักษาคงอยู่ยาวนาน ซึ่งควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการเอง

                                                                        LIPO LIFTING (การฉีดไหมไลโป)

                                                                        เทคนิควิธีทำหน้าเรียวที่ใช้แนวคิดการรักษาแบบธรรมชาติบำบัด เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมตนเองโดยใช้การฉีดไหมที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ จึงไม่ทิ้งสารเคมีตกค้างไว้ภายในร่างกาย วิธีการฉีดไหมแบบนี้เทียบเท่าได้กับการร้อยไหมเรียบ  ถ้าจะให้เทียบกัน การฉีดไหมหนึ่งมิลลิลิตรเทียบเท่าการร้อยไหมหนึ่งเส้น โดยให้ผลลัพธ์ดีเทียบเท่ากันได้เลย แต่ที่สำคัญคือ หลังจากทำเสร็จเห็นผลยกกระชับ ทำหน้าเรียวได้ทันที ไม่ทำให้บวมช้ำเหมือนการร้อยไหมทั่วไป ฉีดเสร็จแล้วสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้

                                                                        ก่อนการฉีดไหมไม่จำเป็นต้องทายาชา ไม่ต้องประคบเย็น สามารถฉีดเข้าไปได้เลย จึงเป็นสิ่งยืนยันได้ว่าการปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวด้วยวิธีนี้ไม่ทำให้เจ็บตัวแน่นอน หลังฉีดเสร็จจะมีเพียงอาการร้อนบริเวณที่ฉีดประมาณ 1-2 นาที หลังจากนั้นจะรู้สึกเป็นปกติ การฉีดไหมไลโปนั้นจะช่วยทั้งเรื่องการยกกระชับรูปหน้า ลดความหย่อนคล้อยและริ้วรอยต่างๆ รวมถึงการลดไขมันส่วนเกิน กระตุ้นให้มีการเผาผลาญไขมันและกำจัดออกจากร่างกาย ผลลัพธ์ของการฉีดไหมทำหน้าเรียวจะเห็นผลทันทีและจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นภายในเวลาไม่กี่วัน โดยยังคงผลลัพธ์ไว้ได้ยาวนานเป็นปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาและสภาพใบหน้าของผู้เข้ารับบริการแต่ละคน

                                                                        ด้วยวิธีการปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวที่กล่าวมา ทุกวิธีล้วนมีจุดเด่นสำคัญคือทำแล้วไม่เจ็บ ไม่ช้ำ หรือปวดบวม หลังทำเสร็จเห็นผลได้ทันที จึงเป็นที่นิยมของผู้ที่รักสวยรักงามส่วนใหญ่ แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่จะลืมไปเสียไม่ได้ คือมาตรฐานความปลอดภัยของสถานเสริมความงาม ความน่าเชื่อถือและประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำการรักษา และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้ ถ้ามีครบองค์ประกอบทุกอย่าง ก็เลือกใช้บริการเสริมความงามได้ด้วยความสบายใจ สำหรับท่านใดที่ต้องการปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ มีชั่วโมงบินสูง อย่าลืมเลือกใช้บริการที่รมย์รวินท์คลินิกนะคะ

                                                                        ทำหน้าเรียวด้วยวิธีไหนที่ค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด

                                                                        204

                                                                        ในปัจจุบันเทคนิคการปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวมีอยู่มากมายหลายวิธีให้ได้เลือกใช้บริการกัน โดยแต่ละวิธีมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันไป ซึ่งขึ้นอยู่กับโครงสร้างรูปหน้า ผิวพรรณและปัญหาของแต่ละคน นอกจากเทคนิควิธีการในการปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวแล้วยังมีเรื่องของงบประมาณค่าใช้จ่ายที่ต้องคำนึงถึงด้วย วันนี้เรามีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับงบประมาณการปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

                                                                        การฉีดโบ

                                                                        เริ่มจากวิธียอดฮิตที่หลายคนมักจะนึกถึง คือการทำหน้าเรียวด้วยการฉีดโบ  ซึ่งเป็นโปรตีนสกัดจากแบคทีเรียที่มีความบริสุทธิ์สูง เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะส่งผลให้กล้ามเนื้อคลายตัวจึงช่วยลดริ้วรอยลดความหย่อนคล้อยของใบหน้าได้ หลังฉีดจะรู้สึกว่าใบหน้าตึงกระชับทันที แต่จะออกฤทธิ์เห็นผลเต็มที่หลังฉีดประมาณ 2-14 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าของแต่ละคน การทำหน้าเรียวด้วยวิธีนี้ควรเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะต้องฉีดเข้ากล้ามเนื้อเล็กบนใบหน้าซึ่งต้องใช้ความละเอียดเป็นอย่างมาก สำหรับค่าบริการเริ่มต้นก็อยู่ที่หลักพันถึงหลายพันบาท ขึ้นอยู่กับโปรโมชันของแต่ละคลินิกและจำนวนยูนิตที่ฉีด ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาแพทย์และปัญหาของผู้เข้ารับบริการแต่ละราย

                                                                        การทำไฮฟู่

                                                                        การทำหน้าเรียวด้วยไฮฟู่ (Hifu) เป็นเครื่องมือที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง ส่งพลังเข้าไปกระตุ้นชั้นกล้ามเนื้อระดับลึก เปรียบได้กับการเย็บดึงกล้ามเนื้อที่มีความละเอียดสูง จึงช่วยกระตุ้นชั้นเนื้อเยื่อให้มีการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวยกกระชับ ลดความหย่อนคล้อย ทำหน้าเรียว ลดริ้วรอยได้ดี ที่สำคัญไม่ต้องเจ็บตัวโดนเข็มจิ้มให้หวาดเสียวกันด้วย โดยปกติหลังจากทำไฮฟู่จะเห็นผลทันทีประมาณ 10-30% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละคน และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นภายในเวลา 1 เดือน ค่าบริการเริ่มต้นที่หลักพันถึงหลายพันบาทเช่นกัน ซึ่งมีคลินิกบางแห่งไม่จำกัดจำนวนช็อตในการยิงด้วยซ้ำ เรียกได้ว่ายิงกันทั่วหน้าราคาบุฟเฟ่ต์ไปเลย

                                                                        การทำ LLD Fat

                                                                        สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องไขมันส่วนเกินบริเวณแก้มและเหนียงต้องการปรับทำหน้าเรียว วิธีการทำ LLD Fat หรือ Lipolytic Lymph Drainage เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เหมาะสมเพราะมีคุณสมบัติในการลดไขมันส่วนเกินอย่างรวดเร็ว ผลิตมาจากสารสกัดจากธรรมชาติ 100% จึงมีความปลอดภัยสูง หลังฉีดเห็นผลทันที 10-20% ระยะเวลาที่เห็นผลชัดที่สุดหลังจากฉีดไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ ที่สำคัญหลังฉีดเสร็จไม่ต้องพักฟื้น สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ สำหรับผู้ที่มีชั้นไขมันมากสามารถกลับมาฟอลโลอัพฉีดซ้ำได้ เพื่อให้เห็นผลชัดเจนช่วยกระชับ ทำหน้าเรียวเป็น v-shape ได้ดั่งใจ ทางด้านราคาก็เพียงแค่หลักพัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณซีซีที่ใช้ฉีดเข้าไป ซึ่งก็ไม่ได้มากมายอะไร ยังคงเป็นราคาที่สาวๆ เอื้อมถึงได้แน่นอน

                                                                        การร้อยไหม

                                                                        เป็นปกติของผู้ที่มีอายุมากขึ้น การสร้างคอลลาเจนของร่างกายก็ย่อมจะลดน้อยถอยลงไป ส่งผลให้ผิวพรรณหย่อนคล้อยไม่เต่งตึง การร้อยไหมเป็นอีกวิธีหนึ่งที่นิยมใช้เพื่อยกกระชับผิว ทำหน้าเรียว โดยใช้วิธีร้อยไหมละลายจำนวนหลายร้อยเส้นเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้เนื้อเยื่อใต้ผิวมีการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวดูอิ่มเต็มกระชับ ช่วยปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวตามสมัยนิยมอีกด้วย ปัจจุบันมีการร้อยไหมหลายแบบ ทั้งไหมเงี่ยงกุหลาบ ไหมก้างปลา ฯลฯ ซึ่งแล้วแต่ว่าคลินิกใดจะนำเสนอไหมในลักษณะไหน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในการยกกระชับใบหน้าได้ ทำหน้าเรียวสวยอย่างที่ต้องการ ด้วยราคาที่ไม่สูงเกินเอื้อมเพียงแค่ไม่กี่พัน ก็สามารถทำหน้าเรียวได้แล้ว

                                                                        ถึงแม้ว่าการทำหน้าเรียวแต่ละวิธีจะมีค่าใช้จ่ายในการทำไม่แพงมากนัก แต่ถ้าหากบริหารจัดการงบประมาณไม่ดี ก็อาจทำให้คอร์สบานปลายได้ สำหรับท่านใดที่กังวลเรื่องค่าใช้จ่าย สามารถโทรปรึกษากับสายตรงรมย์รวินท์ได้ที่ 080-153-9000 หรือเดินทางเข้าไปปรึกษาแพทย์ผู้เขี่ยวชาญได้ทั้ง 24 สาขา เพื่อประเมินปัญหาผิวที่แท้จริง ก็จะทำให้คุณประเมินค่าใช้จ่ายได้แม่นยำมากขึ้น

                                                                        ทำหน้าเรียว…ด้วยวิธีฉีดโบอย่างไรให้ปลอดภัย

                                                                        203

                                                                        ใครๆ ก็อยากมีใบหน้าแต่งตึงเรียวงามได้รูปกันทั้งนั้น หนึ่งในเทคนิควิธีที่ช่วยทำหน้าเรียว v-shape ได้ดั่งใจ นั่นคือการฉีดการฉีดโบ แต่ก็ยังมีหลายคนที่รู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ที่จะต้องฉีดเอาสารบางอย่างเข้าไปในร่างกาย สำหรับคนที่ไม่เคยปรับรูปหน้าเรียวด้วยการฉีดโบมาก่อนไม่ต้องกังวลใจไป วันนี้เรามีคำแนะนำดีๆเกี่ยวกับการทำหน้าเรียวมาแนะนำกัน รับประกันว่าทั้งสวยและปลอดภัยแน่นอน

                                                                        มาทำความรู้จักการฉีดโบกันก่อน

                                                                        การฉีดโบ เป็นโปรตีนสกัดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งซึ่งนิยมใช้ในวงการความสวยความงามมายาวนาน เมื่อใช้ในปริมาณพอเหมาะจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ช่วยลดริ้วรอยและยกกระชับผิวช่วยปรับรูปหน้าเรียวได้ดี การทำงานของการฉีดโบเมื่อฉีดเข้าสู่บริเวณที่ต้องการแล้ว จะเข้าไปจับที่ปลายประสาท ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวคลายตัว ส่งผลให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้นและจางลง ทำหน้าเรียว โดยระยะเวลาเห็นผลจะขึ้นอยู่กับลักษณะความหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าว ซึ่งต้องอาศัยเวลาตั้งแต่ 2-14 วัน แตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล

                                                                        ทำหน้าเรียวด้วยวิธีการฉีดโบอย่างไรจึงปลอดภัย

                                                                        การฉีดโบจัดได้ว่าเป็นยาที่มีการขึ้นทะเบียนเพื่อการรักษาริ้วรอย ทำหน้าเรียว ผ่านการรับรองจาก อย. ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ปัจจุบันทั่วโลกมีการใช้โการฉีดโบเพื่อทำหน้าเรียวอย่างแพร่หลายมานานแล้ว จึงมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย เพียงแต่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน สามารถสืบย้อนกลับที่มาของยาได้ แบรนด์ที่นิยมใช้ในประเทศไทยมีทั้งของสหรัฐอเมริกาและของเกาหลี ซึ่งเป็นการฉีดโบบริสุทธิ์ที่มีความปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์สามารถนำมาใช้ปรับรูปหน้าเรียวได้ดี

                                                                        นอกจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองแล้ว สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือแพทย์ผู้ฉีดการฉีดโบต้องเป็นแพทย์ที่ได้รับอนุญาตจากแพทยสภา ศึกษามาทางด้านความงามโดยเฉพาะ พร้อมทั้งการพิจารณาถึงประสบการณ์การรักษาที่ผ่านมา ยิ่งผ่านเคสการรักษามาเยอะ ยิ่งมีความเชี่ยวชาญชำนาญ สามารถให้คำแนะนำและแก้ปัญหาให้กับผู้เข้ามารับบริการโดยเฉพาะผู้ที่ต้องการทำหน้าเรียวได้อย่างตรงจุด

                                                                        เหนือสิ่งอื่นใดการเลือกใช้บริการจากสถาบันความงามที่ผ่านมาตรฐานการรับรองจะช่วยให้ผู้เข้ารับบริการได้รับความปลอดภัยสูงสุด อย่างรมย์รวินท์คลินิกของเรา ด้วยประสบการณ์อันยาวนานกว่า 15 ปี 24 สาขา เราจึงมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมที่จะให้บริการทุกท่านอย่างทั่วถึง และสามารถขอคำปรึกษาได้ตลอดเวลาหลังจากใช้บริการไปแล้วก็ยังสามารถติดตามผลได้

                                                                        ข้อควรระวัง

                                                                        การที่อยากจะปรับรูปหน้าเรียว ทำหน้าเรียว ด้วยการฉีดโบโดยพิจารณาจากราคาถูกเข้าว่า อย่างที่หลายคนรู้จักกันในนามของหมอกระเป๋า ที่ให้บริการฉีดโบกันถึงบ้าน หมอประเภทนี้ถ้าหากตรวจสอบกันจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าจะมีใบประกอบโรคศิลป์หรือเปล่าด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นก็คือหมอเถื่อน คงไม่ต้องอธิบายกันต่อว่าอันตรายขนาดไหน ทั้งนี้ตามปกติแพทย์จะไม่นิยมให้บริการนอกสถานที่ เพราะถึงแม้จะเป็นเรื่องการเสริมความงามแต่ก็ต้องอาศัยเครื่องไม้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่สะอาดปลอดภัย อยู่ในห้องที่ควบคุมความสะอาดผ่านการฆ่าเชื้ออย่างดี การใช้แสง การใช้ยา และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งจะเป็นการดีกว่าที่ผู้รับบริการจะเข้าใช้บริการที่คลิกนิก

                                                                        ที่สำคัญคือความเสี่ยงจากการได้รับการฉีดโบปลอม ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก การฉีดโบปลอมทำให้ปากเบี้ยว หนังตาตก ยิ่งไปกว่านั้นถ้าฉีดมากเกินไปยากระจายออกฤทธิ์วงกว้างไปทั่วเกินการควบคุม ทำให้กล้ามเนื้อส่วนอื่นเป็นอัมพาตไปด้วย อาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ และอีกหนึ่งสิ่งที่อาจจะถูกมองข้ามจากการใช้การฉีดโบปลอมก็คืออาการดื้อยา ซึ่งถ้าหากดื้อยาเสียแล้วจากนี้ต่อไปก็จะดื้อยาทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบจริงหรือปลอมก็ตาม

                                                                        จริงอยู่ที่การเสริมความงามเป็นการเสริมสร้างบุคลิกภาพเพื่อให้เกิดความมั่นใจ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของชีวิต ก่อนเข้ารับบริการเสริมความงามครั้งใดก็ตาม ขอให้สละเวลาตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานของสถานเสริมความงาม ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ รวมถึงใบอนุญาตของแพทย์ที่ทำการรักษา หรือสามารถโทรสอบถามการให้บริการของเราได้ที่ 080-153-9000 รมย์รวินท์คลินิกยินดีให้บริการค่ะ

                                                                        รู้ไว้ใช่ว่า ปรับรูปหน้าเรียว Thermage, Ulthera และ Hifu เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

                                                                        202

                                                                        หน้าไม่กระชับ ผิวหนังหย่อนคล้อย เป็นหนึ่งในปัญหาหลักของผู้หญิงที่พบเห็นกันได้อยู่เสมอ แน่นอนว่าปัจจัยสำคัญคือเรื่องของอายุซึ่งเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าเราจะต้องยอมจำนนต่อธรรมชาติเสมอไป โชคดีที่สมัยนี้มีเทคโนโลยีในการทำหน้าเรียวมากมายที่ทำให้เราสวยได้เพียงเจ็บตัวนิดเดียวเท่านั้น สำหรับบทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับ 3โปรแกรมยกกระชับปรับรูปหน้าเรียวที่ฮิตที่สุดในเวลานี้ค่ะ

                                                                        3 โปรแกรมยอดฮิต ยกกระชับผิวหน้า ปรับรูปหน้าเรียว

                                                                        1. Thermage เทอร์มาจ เป็นการใช้ความถี่ของคลื่นวิทยุส่งพลังงานความร้อนผ่านชั้นผิวด้านบนสุดเข้าไปทำงานในผิวชั้นล่าง หลักการคือคลื่นเสียงนี้จะทำให้โครงสร้างใต้ผิวหนังเกิดการสั่นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวกระชับตัวดีขึ้น ปรับรูปหน้าเรียวได้
                                                                        2. Ulthera อัลเทาร่า เป็นการทำงานโดยคลื่นอัลตร้าซาวด์ ส่งผ่านพลังงานแบบไปที่ชั้นผิวหนังชั้น smas ซึ่งเป็นผิวหนังชั้นลึก จึงทำให้เกิดการหดตัว Ulthera เป็นนวัตกรรมที่สามารถทำงานกับชั้นผิวที่ลึกที่สุดเลยก็ว่าได้
                                                                        3. Hifu ส่วนไฮฟูนั้นใช้หลักการเดียวกันกับอัลเทร่า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและปรับรูปหน้าเรียวเหมือนกัน เพียงแต่ความเข้มข้นของการส่งผ่านคลื่นจะน้อยกว่า แต่ข้อดีคือเจ็บน้อยที่สุด เหมาะสำหรับคนที่กลัวความเจ็บ

                                                                        Thermage ต่างกับ Ulthera และ Hifu อย่างไร

                                                                        เป็นอะไรที่ทำให้หลายคนสับสนพอสมควรระหว่างตัวช่วยในการยกกระชับทั้ง 3 ตัว กับ เทอร์มาจ อัลเทาร่า และ ไฮฟู ก่อนอื่นเลยขอแบ่งตามประเภทของคลื่นก่อน โดย “เทอร์มาจ เป็นการใช้ความถี่ของคลื่นวิทยุ”[  ส่วน “อัลทาร่า และ ไฮฟู ใช้คลื่นประเภทเดียวกันคือคลื่นอัลตราซาวด์”

                                                                        จุดเด่นของโปรแกรมแต่ละประเภทก็แตกต่างกัน ในความเข้าใจของคนไทยมักจะเรียกโปรแกรม 3 อย่างนี้ว่าการ”ยกกระชับปรับรูปหน้า” แต่ความหมายในเชิงลึก “อัลทาร่าและไฮฟูจะเน้นไปที่…การยก” (ส่งคลื่นลงไปใต้ชั้นผิวหนังเพื่อทำให้ไขมันและกล้ามเนื้อที่ห้อยย้อย ยกกลับมายังจุดเดิม) ส่วน “เทอร์มาจจะเน้นที่…การกระชับ” (คลื่นเสียงจะทำให้ไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังเกิดการสั่นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการเกาะกลุ่มกันแน่นขึ้น กระชับขึ้น ทำให้ชั้นไขมันที่หนา ดูบางลง ปรับรูปหน้าเรียวได้)

                                                                         ส่วนอัลทาร่ากับไฮฟู หลายคนอาจสงสัยว่าต่างกันอย่างไร อัลทาร่าจะเป็นการส่งผ่านคลื่นลงไปในชั้นผิวที่ได้ลึกกว่า ซึ่งก็คือชั้น SMAS การทำงานในระดับที่ลึกกว่าทำให้ผลที่ได้อยู่นานกว่า แต่ก็เจ็บกว่า และค่าใช้จ่ายมากกว่าไฮฟู ส่วนไฮฟูข้อดีตรงกันข้ามกับอัลเทอร่า คือเจ็บน้อยกว่า แต่ก็ผลลัพธ์อยู่ได้น้อยกว่า ถ้าหากจะทำให้ได้ผลดีอย่างต่อเนื่องควรทำไฮฟูซ้ำปีละ 2-3 ครั้ง ต่างกับอัลเทร่าที่อยู่ได้นานถึง 1 ปี

                                                                        ทำไมถึงปรับรูปหน้าเรียวแล้วไม่ได้ผล

                                                                        หลายคนสงสัยว่าทำไมเข้าคอร์สยกกระชับปรับรูปหน้าเรียวแล้วไม่ได้ผล ต้องยอมรับว่าตัวแปรหนึ่งที่สำคัญคือ “ปริมาณของ Shot ที่ยิงนั้นน้อยเกินไป” หลายคนเข้าใจว่าขอแค่ได้ยิงผลลัพธ์ก็น่าจะไม่ต่างกัน ความจริงแล้วความเข้มข้นและความลึกของการส่งพลังงานคลื่นนั้นมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยเยอะเป็นพิเศษ หรือผู้ที่มีไขมันเยอะเป็นพิเศษ การยิง Shot ที่น้อยก็ไม่ต่างจากการทาครีมกันแดดบาง ๆ แล้วคาดหวังจะกันแดดได้นานหลายชั่วโมง ส่วนความลึกในการส่งคลื่นลงสู่ชั้นผิวก็เปรียบเหมือนกับค่า SPF ที่ยิ่งน้อยก็ย่อมป้องกันแดดได้น้อยกว่า แต่เหตุผลที่ปรับค่าของเครื่องให้ส่งน้อยลงนั้นเป็นเพราะหลายคนกลัวเจ็บนั่นเอง

                                                                        จะเห็นได้ว่าโปรแกรมยกกระชับปรับรูปหน้าเรียวทั้ง 3 นี้ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง การเลือกจำนวน shot เยอะย่อมนำมาซึ่งค่าใช้จ่ายที่สูง ส่วนการส่งคลื่นลงไปในระดับผิวที่ลึกย่อมทำให้รู้สึกเจ็บ ฉะนั้นวิธีการแก้ไขที่ดีที่สุดคือการทำทั้ง 3 โปรแกรมรวมกัน หรือเลือกทำสองอย่างควบคู่กัน แต่ทั้งนี้แต่ละคนควรจะ mixed and match แบบไหนดี ควรจะปรึกษาแพทย์เป็นรายบุคคลค่ะ สำหรับท่านใดที่อยากปรึกษาการยกกระชับปรับรูปหน้าเรียวด้วย 3 โปรแกรมนี้ สามารถสอบถามได้ฟรี ที่รมย์นวินท์คลินิกทุกสาขาค่ะ

                                                                        รู้ไว้ใช่ว่า หลักการ “ปรับรูปหน้าเรียว”ด้วย HIFU สิ่งที่สาวๆควรรู้ก่อนตัดสินใจทำ

                                                                        201

                                                                        Hifu นวัตกรรมความงามที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการปรับรูปหน้าเรียว ทำงานโดยใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ยิงเข้าไปใต้ชั้นผิว จุดเด่นของมันคือการยิงคลื่นโดยทำให้เกิดแผล เป็น shot เล็กๆ จากภายในโดยที่ผิวหน้าด้านนอกไม่มีเลือดออกเลย จากนั้นร่างกายจะสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเอง เป็นการปรับรูปหน้าเรียวโดยที่ไม่ต้องเติมสารใดเข้าสู่ร่างกาย จึงทำให้หลายคนมั่นใจว่าจะไม่เกิดความเสี่ยงต่อการแพ้ค่ะ ว่าแต่ Hifu จะได้ผลหรือไม่ จะมีข้อเสียอย่างไรถ้าอยากรู้ตามมาดูกันค่ะ

                                                                        ผู้ใดที่เหมาะสำหรับการทำ Hifu

                                                                        Hifu ขึ้นชื่อในเรื่องของการปรับรูปหน้าเรียว เพิ่มความกระชับ ลดความหย่อนคล้อย เก็บกรอบหน้า ทำให้หน้าได้รูปสวยคมขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีไขมันเยอะบริเวณเหนียง คาง จะเหมาะสำหรับการทำ Hifu เป็นอย่างมาก โดยการทำ Hifu จะตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแต่อยู่ในระดับที่เพิ่งเริ่มหรือผิวหย่อนคล้อยไม่มาก เพราะมีระดับความแรงและราคาที่เหมาะสม แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยมากๆ อาจจะต้องทำร่วมกับโปรแกรมดูแลผิวหน้าชนิดอื่น หรือเพิ่มความแรงขึ้นเป็นการยิง Shot ด้วยโปรแกรมที่เรียกว่า Ulthera แทน

                                                                        การทำ Hifu เจ็บหรือไม่

                                                                        การทำ Hifu ถ้าบอกว่าไม่เจ็บเลยก็คงจะเป็นเรื่องที่โกหก เพราะการยิง Shot ผ่านผิวหนังลงไปนั้นมันจะเกิดความรู้สึกหน่วง ๆ บ้าง หรือในจุดที่ยิงผ่านส่วนโครงหน้าที่เป็นกระดูก ก็จะทำให้ใบหน้าของเราเกิดความหน่วงมากขึ้น หรือเจ็บแบบแปล๊บๆ (เป็นระดับที่ทนได้) แต่นั่นคือสัญญาณที่ดี เพราะมันสะท้อนให้เห็นว่าประสิทธิภาพของเครื่องถือว่าใช้ได้ ปรับระดับพลังงานที่พอดีไม่ต่ำเกินไป เพราะถ้าไม่เจ็บเลยนั่นแปลว่ายิง Shot ลงไปได้ไม่ลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งแน่นอนว่าการปรับรูปหน้าเรียวอาจจะไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร 

                                                                        การทำ Hifu อยู่ได้นานแค่ไหน

                                                                        การทำ Hifu แต่ละครั้งจะเห็นผลหลังทำเสร็จเพียง 20-30% (สำหรับท่านใดที่ทำเสร็จแล้วไม่รู้สึกต่าง อย่าเพิ่งตกใจนะคะ ให้สังเกตที่ร่องลึก หรือกรอบหน้าก็จะพอเห็นการปรับรูปหน้าเรียวได้บ้าง) แต่ช่วง 1 เดือนหลังจากนั้นร่างกายจะค่อยๆ สร้างคอลลาเจนขึ้นมาจึงทำให้เห็นผลชัดขึ้นในช่วง 1 เดือน ผลของการทำ Hifu โดยเฉลี่ยจะอยู่ได้นานราว 5-6 เดือน หมายความว่า ใน1ปีถ้าทำ 2-3 ครั้งกำลังดี หรือถ้าหากต้องการยิงซ้ำก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยให้เว้นช่วงจากการทำครั้งแรกประมาณ 3 เดือน จากนั้นก็สามารถยิงซ้ำได้ค่ะ

                                                                        เลือกทำ Hifu ที่เรทราคาเท่าไหร่ดี

                                                                        สำหรับใครที่สนใจการปรับรูปหน้าเรียวด้วย Hifu อาจจะพบว่ามีราคาที่แตกต่างกันมากอย่างน่าตกใจ ตั้งแต่หลัก(หลาย)หมื่นบาทไปจนถึงไม่กี่พันบาทเท่านั้น คงจะเป็นเรื่องยากที่จะฟังธงอะไรดีหรือไม่ดี แต่ปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดราคาคือยี่ห้อของเครื่องและ หัวยิง Shot เพราะหัวยิงแต่ละหัวมีประสิทธิภาพในการยิงหน้าตื้นต่างกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วหัวยิงที่คุณภาพดี ยิงได้ลึก พลังงานคงที่ จะมีราคาสูงจึงทำให้ต้นทุนสูง และค่าใช้จ่ายแพงกว่า แต่ก็ตามมาด้วยผลลัพธ์ที่ดีกว่า ฉะนั้นก่อนเลือกคอร์สยิง Hifu จากที่ใด ควรสอบถามด้วยว่าที่คลินิกใช้เครื่องรุ่นใดแล้วไปศึกษาคุณภาพของเครื่องเพิ่มเติม ก็จะช่วยคุณตัดสินใจเลือกคอร์สยิง Hifu ได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น 

                                                                        สำหรับท่านใดที่สนใจการปรับรูปหน้าเรียว หรืออยากเก็บโครงหน้าให้ชัดเจนขึ้น โดยที่อาจมีปัญหารูปหน้าไม่มากนัก และมีงบปานกลาง Hifu เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณที่สุดแล้วล่ะค่ะ ในส่วนของจำนวน Shot ที่กำลังกังวลว่าควรทำจำนวนเท่าไหร่และบริเวณไหนดี สามารถปรึกษาฟรีได้ที่ โทร 080-153-9000   หรือ Walk in ได้ที่รมย์รวินท์คลินิกทุกสาขาค่ะ

                                                                        รู้ไว้ใช่ว่าหลักการ “ปรับรูปหน้าเรียว” ด้วยวิธีร้อยไหม สิ่งที่สาวๆควรรู้ก่อนตัดสินใจทำ

                                                                        200

                                                                        เมื่อใบหน้าเริ่มหย่อนคล้อยไปตามกาลเวลา หลายคนก็ต้องเริ่มหาตัวช่วยที่จะทำให้หน้ายังคงความสวยใสเหมือนวัยรุ่นดังเดิม “การร้อยไหม” เป็นวิธีปรับรูปหน้าเรียวอีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมเสมอมา หลักการคือ ร้อยเส้นไหมชนิดพิเศษเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง จากนั้นร่างกายก็จะทำหน้าที่สร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้ผิวเราสวยใสเต่งตึงตามที่ต้องการ

                                                                        ไหมมีกี่ประเภท

                                                                        สมัยก่อนไหมที่นิยมในการนำมาร้อยปรับรูปหน้านั้นทำมาจากวัสดุที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโลหะหนัก (ทองคำ) หรือพลาสติก(พอลิโพไพรลีน) ที่ทนความร้อนสูงและไม่ละลายง่าย แต่ในระยะยาวกลับปรากฏว่าไหมที่ไม่ละลายอาจนำมาซึ่งผลเสียที่เยอะกว่าเช่นเส้นไหมทะลุเพราะชั้นผิวหนังและชั้นไขมันใต้ผิวหนังของเราบางลง

                                                                        ปัจจุบันนี้ จึงนิยมการใช้ “ไหมละลาย” ซึ่งเป็นไหมสังเคราะห์ชนิดพิเศษที่ทำขึ้นมาเพื่อใช้ในวงการความงาม การปรับรูปหน้าเรียวโดยเฉพาะ มีทั้งไหม PDO (Polydioxanone) และไหม PGA (Synthetic Absorbable Monofilament) มีคุณสมบัติพิเศษหลายอย่าง ได้แก่ ไม่ทำปฏิกิริยาที่ระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อ, ช่วยลดอาการอักเสบและติดเชื้อ, เมื่อไหมหมดอายุการใช้งาน (6-8 เดือน) มันจะสามารถสลายหายไปได้เอง, และยังถูกออกแบบมาหลากหลายรูปแบบเพื่อคุณสมบัติที่เฉพาะเจาะจงขึ้น

                                                                        • ไหมสปริง (Spring Lifting) หรือบางคนเรียกว่าไหมเกลียว คุณลักษณะจะมีซิลิโคนกลมพันอยู่รอบเส้นไหม เพื่อเกี่ยวและยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ปรับรูปหน้าเรียวได้มากขึ้น
                                                                        • ไหมก้างปลา (Barb) เป็นไหมที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบันนี้ โดยเป็นไหมที่ถูกบากให้เป็นเงี่ยงออกมา เมื่อทำการร้อยเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังเงี่ยงก้างปลาก็จะเกี่ยวพันเนื้อเยื่อให้ยกขึ้นและดึงให้ตึงขึ้น
                                                                        • ไหม Molding PDO เป็นไหมอีกประเภทที่ได้รับความนิยมพอๆกับไหมก้างปลา คุณสมบัติเด่นคือเป็นไหมที่หล่อขึ้นมาทั้งเส้น จุดบากมีความแข็งแรง สามารถเกี่ยวพันเนื้อเยื่อได้ดีกว่า ปรับรูปหน้าเรียวเห็นผลนานกว่า 
                                                                        • ไหมกรวย (Silhouette soft) ไหมกรวยตัวเส้นไหมจะมัดเป็นปม และจะมีพลาสติกทรงกรวยอยู่ระหว่างปมของเส้นไหม มีหน้าที่ในการช่วยยกกระชับและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

                                                                        ผู้ที่เหมาะและไม่เหมาะสำหรับการทำร้อยไหม

                                                                        การร้อยไหมเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อยอย่างเห็นได้ชัด โดยทั่วไปเป็นช่วงอายุประมาณ 35 – 55 ปี ซึ่งจะเห็นผลได้ชัดเจนมากกว่า เป็นวิธีการปรับรูปหน้าเรียวที่รวดเร็ว ร้อยไหมปุ๊บเริ่มเห็นผลทันทีและจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่ร่างกายสร้างคอลลาเจนอย่างเต็มที่ อีกทั้งผลลัพธ์นี้สามารถอยู่ได้นานราว 6 เดือนถึง 1 ปีเลยทีเดียว

                                                                        หลายคนบอกว่าการร้อยไหมสามารถทำได้ทุกคน เพราะเป็นกระบวนการยกกระชับ ปรับรูปหน้าเรียว ช่วยลดเลือนริ้วรอยซึ่งประโยชน์ของมันนั้นไม่ผิดเลย แต่อย่างไรก็ตามผู้ที่มีอายุยังน้อย ที่ยังไม่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมากนัก ก็อาจจะยังไม่จำเป็นต้องร้อยไหมก็ได้  เพราะสามารถปรับรูปหน้าเรียวได้ด้วยวิธีอื่นอีกหลายวิธี

                                                                        ร้อยไหมอยู่ได้นานแค่ไหน ทำได้อีกครั้งเมื่อไหร่

                                                                        สำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าเรียวอย่างเห็นได้ชัด สามารถกลับมาร้อยไหมซ้ำหลังจากทำครั้งแรกไปแล้วอย่างน้อย 3 เดือน หลังจากการร้อยไหมเสร็จสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ทันทีไม่ต้องพักฟื้น แต่สิ่งที่ต้องระวังคือในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังการร้อยไหม ควรเลี่ยงการอ้าปากกว้าง หัวเราะดัง ๆ ตะโกนดัง ๆ หรือแสดงอารมณ์ทางสีหน้ามากเกินไปเพื่อป้องกันไหมฉีกขาดและอักเสบ

                                                                        ส่วนผลข้างเคียง นอกจากการบวมเขียวช้ำที่เกิดได้ตามปกติแล้ว อาจเกิดการติดเชื้อ เกิดรอยบุ๋ม หน้าไม่เรียบได้ ฉะนั้นควรที่จะทำภายใต้คลินิกที่สะอาด ปลอดภัย และได้มาตรฐาน เพราะแพทย์ที่เชี่ยวชาญจะเข้าใจดีว่าควรร้อยไหมเข้าไปในระดับความลึกแค่ไหนจึงจะเหมาะสม

                                                                        สำหรับผู้ที่ต้องการร้อยไหมปรับรูปหน้าเรียว สร้างความเต่งตึง หรืออยากสอบถามปรึกษาปัญหาผิวหน้าสามารถเข้ามาสอบถามกับคลินิกรมย์รวินท์ของเราได้ทุกสาขา จากประสบการณ์มากกว่า 14 ปี บวกกับความทันสมัยของเครื่องมือ เราเชื่อว่าจะช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับคนไข้ที่มาใช้บริการของเราค่ะ

                                                                        รู้ไว้ใช่ว่า หลักการปรับรูปหน้าเรียวด้วย Filler สิ่งที่สาวๆควรรู้ก่อนตัดสินใจทำ

                                                                        filler

                                                                        การฉีด Filler เป็นการปรับรูปหน้าเรียวได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นกระบวนการที่ใช้เวลาอันสั้นเพียงไม่กี่นาที แต่ผลลัพธ์อยู่ได้นานเป็นปี แถมราคายังถูกกว่าการศัลยกรรมหลายเท่า ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ได้รับความนิยมในวงการความงามเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นหลายคนก็ยังอดกังวลไม่ได้ว่าการปรับรูปหน้าเรียวด้วยฟิลเลอร์นั้นมีผลข้างเคียงหรือไม่

                                                                        Filler ฟิลเลอร์คืออะไร?

                                                                        Filler หรือฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มที่มีประโยชน์ในการปรับรูปหน้าเรียว หรือแก้ไขข้อบกพร้องของใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นการลดเลือนริ้วรอย การเติมจมูก, คาง หรือส่วนที่ดูตอบให้มีความนูนมากขึ้น ฟิลเลอร์ที่ใช้ในวงการความงามคือ “กรดไฮยาลูรอนิค แอซิด” (Hyaluronic acid หรือ HA) ความจริงแล้วสารเหล่านี้มีอยู่ในร่างกายของเรา แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นกระบวนการสังเคราะห์สารตัวนี้จะลดลง โดยเฉพาะเมื่ออายุเข้าสู่วัย 30 ขึ้นไป

                                                                        ความรู้ทางการแพทย์ สมัยก่อนมีการใช้ กรดไฮยาลูรอนิค แอซิดในการรักษาอาการข้อเข่าเสื่อมหรือโรค ที่เกี่ยวกับข้อต่อ เพราะมีลักษณะหนืดข้น ละลายน้ำได้ดี ช่วยลดการเสียดสี ลดอาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณข้อต่อ แต่จากการศึกษายังพบว่าสารนี้มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดี และมีประโยชน์ในวงการความงามจึงนิยมนำมาใช้ในการปรับรูปหน้าเรียว หรือปรับโครงสร้างใต้ชั้นผิวหนังให้ดูเต็มมากขึ้น

                                                                        ฉีดฟิลเลอร์แล้วทำไมถึงไหล?

                                                                        อีกหนึ่งคำถามที่มักจะได้ยินอยู่เสมอคือ “ปรับรูปหน้าเรียวด้วยฟิลเลอร์แล้วกลัวมันไหลจะทำอย่างไร” ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ฟิลเลอร์มีหลายชนิด มีลักษณะโมเลกุลต่างกันตั้งแต่โลเลกุลใหญ่ไปจนถึงละเอียด ซึ่งแต่ละชนิดต่างก็มีคุณสมบัติในการใช้กับวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น

                                                                        ฟิลเลอร์ที่มีโลเลกุลใหญ่ จะเหมาะสำหรับการปั้นรูปหรือขึ้นรูป เช่นบริเวณจมูก คาง ฟิลเลอร์ที่มีโลเลกุลเล็กลงมาหน่อย จะเหมาะสำหรับการฉีดเพื่อเติมเต็ม ซึ่งได้แก่ บริเวณร่องแก้ม หน้าผาก หรือฉีดบนใบหน้าสำหรับผู้ที่มีปัญหาหย่อนคล้อยไม่มากที่ต้องการเน้นผิวที่ดูอวบอิ่มมีน้ำมีนวล ฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลละเอียด จะเหมาะสำหรับการฉีดเฉพาะจุด เช่น ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว ผู้ที่มีริ้วรอยร่องตื้น และยังใช้ในการปรับรูปหน้าเรียวได้เช่นกัน

                                                                        ฉะนั้นคำถามคือกรณีที่ฟิลเลอร์ไหล จะต้องมาดูแล้วว่าเราฉีดฟิลเลอร์ชนิดใดเข้าสู่ผิวบริเวณใด ถ้าฉีดฟิลเลอร์ชนิดที่มีโมเลกุลใหญ่กับผิวที่ไม่เหมาะ ก็อาจทำให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนที่ไปยังบริเวณบนใบหน้าได้ 

                                                                        ฟิลเลอร์ ละลายได้จริงหรือไม่?

                                                                        อีกหนึ่งคำถามยอดฮิต “เมื่อเจอความร้อนฟิลเลอร์ละลายหรือไม่” ทำความเข้าใจกันก่อนโดยปกติเมื่อฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าเรียวย่อมฉีดอยู่ในบริเวณแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นแก้ม คาง หน้าผาก ฯลฯ ซึ่งโดยปกติแล้วเป็นจุดที่ไม่ได้โดนความร้อนโดยตรง หรือถ้าสัมผัสก็ช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นไดรเป่าผม น้ำอุ่น หรืออาหารที่ร้อนซึ่งก็จะกระทบเฉพาะบริเวณริมฝีปาก แต่ระยะเวลาที่สัมผัสความร้อนเหล่านี้เกิดขึ้นเพียงสั้น ๆ การสัมผัสความร้อนจึงไม่ได้ส่งผลให้ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าเรียวละลายได้ขนาดนั้น

                                                                        แต่อย่างไรก็ตาม ฟิลเลอร์เป็นสารที่สังเคราะห์จากธรรมชาติ ฟิลเลอร์คุณภาพมาตรฐาน ที่ใช้ปรับรูปหน้าเรียวจะสลายหายไปอยู่แล้วในช่วงระยะเวลา 1 ปีโดยเฉลี่ย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณความเข้มข้น บริเวณที่ฉีด พฤติกรรมของเรา รวมทั้งคุณภาพของฟิลเลอร์ด้วย เมื่อหมดระยะเวลามันจะสามารถสลายตัวได้เองจนไม่เหลือตกค้าง 100% ฉะนั้นถ้าอยากให้ผลของการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าเรียวออกมาดีที่สุดต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดนะคะ สำหรับท่านใดที่ยังมีข้อสงสัยสามารถโทรสอบถามสายตรงได้ที่ 080-153-9000 รมย์รวินท์คลินิกยินดีให้บริการค่ะ

                                                                         

                                                                        รู้ไว้ใช่ว่าการฉีดโบก็มีอันตราย เลือกให้ดีก่อนทำหน้าเรียว

                                                                        ฉีดโบ

                                                                        เมื่อกล่าวถึง การฉีดโบมั่นใจได้เลยว่าไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะว่าด้วยเรื่องของความงาม ผู้คนส่วนใหญ่จะต้องนึกถึงการทำการฉีดโบเป็นอันดับต้นๆ อยู่แล้วฉีดโบมีประโยชน์ในการปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวมากมายไม่ว่าจะเป็นการลดกราม ลดเลือนริ้วรอย ร่องแก้ม รอยตีนกา ฯลฯ เรียกว่าฉีดโบช่วยได้ทั่วทั้งใบหน้าเลยทีเดียว แต่ถึงแม้จะได้รับความนิยมมากแค่ไหน สาวๆ ก็ต้องระวังกันด้วยนะคะ เพราะภายใต้ความนิยมนี้ก็ยังมีของปลอมซ่อนอยู่

                                                                        รู้ไว้ใช่ว่าฉีดโบปลอมก็มีนะ

                                                                        เมื่ออะไรที่เป็นของดังก็มักจะมีของเลียนแบบเป็นธรรมดา การฉีดโบปลอมก็ย่อมมีเช่นกัน แถมยังเป็นสิ่งที่ระวังยาก เพราะบางครั้งการก็อปปี้นี้ก็ทำได้แนบเนียนราวกับเป็นของจริง ด้วยบรรจุภัณฑ์ที่คล้ายซะจนแยกไม่ออก ยิ่งเป็นตัวยาแล้วยิ่งไม่สามารถดูออกได้เลยว่าเป็นของแท้แน่นอนหรือไม่ ฉะนั้นสิ่งที่หลายคนต้องตระหนักก็คือการตรวจสอบให้ดีก่อนเลือกใช้บริการ

                                                                        วิธีการตรวจสอบการฉีดโบก่อนใช้บริการ

                                                                        1. ลืมเรื่องราคาโปรโมชั่นไปให้หมดสิ้น เชื่อว่าสาวๆ บางคนต้องมีอาการแพ้คำว่าโปรโมชั่น เมื่อเจอคำว่า “โปรโมชั่น” เมื่อไหร่ต้องตื่นตาตื่นใจทุกที ความจริงแล้วการทำหน้าเรียวช่วงโปรโมชั่นไม่ใช่สิ่งผิด เพราะมันเป็นการตลาดที่ทุกคลินิกต่างก็เลือกใช้ แต่สิ่งที่อยากให้ระวังคือโปรโมชั่นที่มีราคาถูกมากจนน่าตกใจ เช่นโปรจากหลักหมื่นลดเหลือแค่หลักร้อยปลายๆ หรือพันต้นๆ ถ้าเจออย่างนี้ควรจะเอะใจ และศึกษาข้อมูลก่อนเลือกใช้บริการ
                                                                        2. ขอตรวจสอบขวดบรรจุพร้อมกล่องทุกครั้ง โดยปกติการฉีดโบของแท้ขวดที่บรรจุกับกล่องของขวดนั้น ๆ จะต้องมีเลข Lot ที่ตรงกัน ก่อนใช้บริการควรขอตรวจสอบเลขข้างกล่องนี้ ซึ่งจะมีตั้งแต่เลข Lot ที่ผลิต วันผลิต วันหมดอายุ ของแท้จะต้องตรงกันทั้งหมด ควรเป็นขวดที่เปิดใหม่ และอย่าลืมดูขนาดรูปร่างของขวดด้วยล่ะ จงอย่าอายที่จะขอดูเพื่อความแน่ใจ พึงระลึกไว้เสมอว่าถ้าหากโชคร้ายเจอการฉีดโบปลอม นอกจากจะปรับรูปหน้าไม่เรียวแล้ว ยังอาจจะแพ้ หรือหน้าพังไปเลยก็ได้
                                                                        3. ตรวจสอบบยี่ห้อการฉีดโบกับบริษัทผู้นำเข้า ถ้าเป็นไปได้ควรขอตรวจสอบยี่ห้อของโบและนำยี่ห้อนั้นไปตรวจสอบกับผู้นำเข้า ว่าคลินิกชื่อ…(ที่เราจะเข้ารับบริการ)…ได้ทำการสั่งสินค้าจากผู้นำเข้าโดยตรงหรือไม่ วิธีการนี้อาจจะดูยากและซับซ้อน แต่จะทำให้คุณในฐานะผู้บริโภคจะได้รับบริการที่มีคุณภาพที่สุด ส่วนวิธีการขอตรวจสอบยี่ห้อก่อนนั้นอาจจะใช้วิธี Walk in เข้าไปปรึกษาการปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวด้วยการฉีดโบก่อนและขอดูยี่ห้อของโบที่ใช้ สำหรับคลินิกใดที่ใช้ของแท้ย่อมยินดีที่จะให้ลูกค้าดูอย่างไม่ลังเล
                                                                        4. ทำการบ้านก่อนที่จะเดินเข้าคลินิก จากการสำรวจที่ผ่านมาพบว่ากลุ่มคนที่อยากปรับรูปหน้า ทำหน้าเรียวด้วยการฉีดโบมักจะเชื่อใจคลินิกมากกว่าเชื่อใจตนเอง เพราะด้วยความที่คิดว่าคลินิกมีความเชี่ยวชาญมากกว่าเรา มีชื่อเสียง มีฐานลูกค้ามากมาย คงไม่กล้าใช้ของไม่ได้คุณภาพเป็นแน่ อีกทั้งด้วยความที่โบเป็นสินค้าเฉพาะทางมีศัพท์ทางเทคนิคที่เข้าใจยาก ทำให้เลี่ยงการหาข้อมูลพื้นฐานด้วยตัวเองแต่เลือกที่จะเชื่อเจ้าหน้าที่แทน ความจริงแล้วเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องนัก ในฐานะผู้บริโภคควรที่จะต้องศึกษาข้อมูลก่อนเบื้องต้น อย่างน้อยก็ควรที่จะรู้ว่าการฉีดโบมีกี่ประเภท นิยมนำเข้าจากที่ไหนบ้าง คลินิกที่เราจะใช้บริการใช้ผลิตภัณฑ์โบยีห้ออะไร ที่คลินิกฉีดให้ใช้กี่ยูนิต เป็นต้น
                                                                        5. ควรตรวจสอบหลาย ๆ คลินิก อย่าเพิ่งเชื่อรีวิว หรือคำบอกเล่าต่างๆ นานา เกี่ยวกับทุกคลินิกที่ได้ข้อมูลมาก แต่จงเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ในใจแล้วเดินเข้าไปปรึกษาคลินิกด้วยตนเอง และที่สำคัญคือควรสอบถามพูดคุยกับหลายๆคลินิก การที่ได้สอบถาม พูดคุย การตอบคำถามของแพทย์ การให้ข้อมูลต่าง ๆ ของเจ้าหน้าที่จะเป็นส่วนช่วยให้คุณตัดสินได้ง่ายขึ้นค่ะ

                                                                        ในแต่ละปีมีผู้สนใจทำหน้าเรียวด้วยการฉีดโบเป็นหมื่นเป็นแสนคน แต่คนที่ทำแล้วหน้าไม่เรียวดั่งใจก็มีไม่น้อยเช่นกัน ฉะนั้นถ้าคุณไม่อยากเป็นคนหนึ่งที่พลาด เสียเงินฟรีโดยไม่เกิดผลลัพธ์แถมยังต้องเสี่ยงต่อการแพ้ต่าง ๆ ควรศึกษาหาข้อมูลเยอะๆ นะคะ สำหรับใครที่อยาก Walk in เข้ามาพูดคุยเพื่อดูบรรยากาศ สามารถ walk in เข้ามาได้ที่รมย์รวินท์คลินิกได้ทุกสาขา เจ้าหน้าที่ของเราพร้อมให้คำปรึกษา และยินดีต้อนรับทุกท่านค่ะ

                                                                        งานประกาศรางวัลคุณภาพ “คม ชัด ลึก อวอร์ด ครั้งที่ 15” ปี 2019

                                                                        รูปลงเวบไซต์ 190329 0004

                                                                        ในงานประกาศรางวัลคุณภาพ “คม ชัด ลึก อวอร์ด ครั้งที่ 15” ปี 2019 รมย์รวินท์ คลินิก ขอร่วมแสดงความยินดีกับ คนบันเทิงทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังที่ได้รับรางวัล ประเภท เพลงไทยสากล ภาพยนตร์ ละคร และป๊อปปูลาร์โหวต ที่มีผลงานโดดเด่น และมีคุณภาพตลอดปี 2561 โดยผู้บริหารรมย์รวินท์คลินิก คุณขวัญฤทัย ดำรงค์วัฒนโภคินได้มอบรางวัลและร่วมแสดงความยินดีกับ “คุณเป็ก ผลิตโชค” เจ้าของรางวัลเพลงสากลยอดนิยม

                                                                        รูปลงเวบไซต์ 190329 0001

                                                                        นอกจากนี้”คุณเบลล่า ราณี แคมเปน” ยังนำทัพนักแสดงช่อง 3 เข้ารับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม

                                                                        รูปลงเวบไซต์ 190329 0002

                                                                        รมย์รวินท์จึงขอยืนยันที่จะยืนเคียงข้างและเป็นเบื้องหลังความมั่นใจของคนบันเทิงต่อไปค่ะ

                                                                        ก้าวสู่วิวัฒนาการ“ลดริ้วรอย” แห่งวัย กระตุ้นผิวให้เรียบเนียนขึ้น

                                                                        64

                                                                        วิวัฒนาการของความงามนั้นไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ ด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นมีแต่จะก้าวล้ำไปข้างหน้า เพื่อการต่อต้านริ้วรอย ลดริ้วรอยบนใบหน้าเพื่อผิวหน้าที่เรียบเนียบกระชับทำให้เราได้สัมผัสความล้ำหน้าของวิทยาการที่พร้อมจัดการกับผิวหน้าได้อย่างล้ำลึกอย่างน่าอัศจรรย์ อย่างเทคโนโลยี  Thermage  ที่จะแนะนำนี้ ว่าเจ้าตัวนี้สามารถจัดการกับผิวอย่างเรา ๆ ได้อย่างไร

                                                                        นวัตกรรม  Thretment Thermage

                                                                        Thretment Thermage  เป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิว ลดริ้วรอย อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการปรับรูปหน้าเรียวเล็ก เป็นนวัตกรรมทางการเเพทย์ที่ใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุขั้วเดียว โดยปล่อยพลังงานความร้อนลงไปได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ที่อยู่ลึกสุดของโครงสร้างผิวซึ่งมีคอลลาเจนเป็นองค์ประกอบสูงที่สุดจะช่วยในการกระตุ้นและการสร้างคอลลาเจนใหม่  เพื่อเเก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย ลดไขมันสะสมใต้ผิวหนัง พร้อมทั้งช่วยลดไขมันส่วนเกินได้อย่างตรงจุด ปรับยกกระชับรูปหน้า  ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กได้รูป  ผิวหนังมีความยืดหยุ่นขึ้น  และยังสามารถช่วยฟื้นฟูสภาพปัญหาผิว ทำให้พผิวเเข็งเเรง  รูขุมขนละเอียดขึ้น  ผิวหน้าเรียบเนียบ ลดริ้วรอย คืนความชุ่มชื่นให้กับผิวแลดูอ่อนเยาว์ขึ้น

                                                                        Threatment Thermage กับการกระตุ้น คอลลาเจน

                                                                        คอลลาเจน (Collagen) คือ โปรตีนเนื้อเยื่อเส้นใยที่ร่างกายมนุษย์สามารถสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ ทำหน้าที่เพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย โดยผิวหนังที่มีคอลลาเจนนั้นอยู่ในชั้นหนังแท้ คอลลาเจน ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น สดใส เปล่งปลั่ง ลดริ้วรอย เมื่ออายุยังน้อยร่างกายจะผลิตได้มาก แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้นโดยเฉาพในวัยเลข 30++ การผลิตคอลลาเจนจะลดลงเรื่อย ๆ ดังนั้นการเสริมสร้างคอลลาเจนให้ขึ้นมาใหม่ จึงเป็นสิ่งที่ไม่เราควรปล่อยให้ผิวร่วงโรยไปตามวัย เพราะคอลลาเจนช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวให้ผิวแข็งแรง เรียบเนียน และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ลดริ้วรอยก่อนวัยได้

                                                                        การทำงานของ  Thermage

                                                                        Thermage เป็นการใช้คลื่นวิทยุส่งผ่านความร้อนไปยังชั้นหนังแท้ส่วนที่ลึกที่สุดของผิว โดยประสิทธิภาพของ Thermage ทำหน้าที่เพื่อให้ผิวกระชับและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่มีอยู่เดิมให้สร้างขึ้นมาใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผิวหน้าแน่น กระชับ เรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง และลดริ้วรอย ซึ่งเหมาะกับคนที่ไขมันบริเวณใบหน้าค่อนข้างเยอะ ทำแล้วไม่ทิ้งริ้วรอยแผลเป็น และไม่ต้องพักฟื้น

                                                                        บริเวณที่ต้องทำการรักษา ด้วย Thermage

                                                                        • ร่องแก้ม
                                                                        • คาง
                                                                        • คอ
                                                                        • รอบดวงตา
                                                                        • หน้าผาก
                                                                        • แก้ม
                                                                        • เหนียงใต้คาง

                                                                        ผู้ที่ไม่ควรทำ Thermage

                                                                        • ผู้ที่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์
                                                                        • ผู้ป่วยโรคมะเร็ง
                                                                        • ผู้ป่วยใส่สายสวนหัวใจ
                                                                        • ผู้ป่วยที่มีโลหะในร่างกาย

                                                                        ข้อดีของการทำ Thermage

                                                                        • ช่วยทำให้ผิวตึงกระชับทันทีหลังการทำ
                                                                        • ใช้เวลาน้อยในการทำ
                                                                        • ทำแล้วอยู่ได้นาน ไม่ต้องทำบ่อย
                                                                        • ไม่ทำให้เกิดริ้วรอยและแผลเป็น
                                                                        • ไม่ต้องพักฟื้น
                                                                        • หลังทำสามารถแต่งหน้า และ ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

                                                                        ข้อเสียของการทำ Thermage

                                                                        •  อาจเกิดผื่นในจุดที่ทำหรือบวมแดงเล็กน้อยได้ แต่จะหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์

                                                                        และนี่คือวิวัฒนาการด้านความงาม ที่สาว ๆ ไม่ควรพลาดอีกหนึ่งช่องทางของการทำสวย และอยากลดริ้วรอยอย่างไรก็ตามถึงจะผลข้างเคียงจากการทำ Thretment Thermage คือ การทำให้เกิดผื่นในจุดที่ทำหรือบวมแดงเล็กน้อยก็ตาม เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพ และผลลัพธ์ที่ได้มา ถือว่าคุ้มค่าทีเดียวแต่สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาในการเลือกทำการรักษา คือ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ เครื่องมือ อุปกรณ์ การให้บริการที่ได้มาตรฐานและได้รับการยอมรับนั้นสำคัญมาก  เพื่อความสบายใจตลอดการรักษา อีกทั้งผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้นเป็นที่น่าพึงพอใจ

                                                                        บอกลาหน้าแก่ หน้าย่น “ลดริ้วรอย” กระชับผิวให้เรียบเนียนสวย

                                                                        63

                                                                        การมีผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ มีความกระชับผิวนั้นเป็นสิ่งที่สาวๆ ทุกคนต้องการแต่ด้วยวัยที่เพิ่มขึ้น ปัญหาผิวเริ่มก่อตัวขึ้นอยู่เงียบ ๆ โดยที่เราเองไม่ทันได้สังเกตุ รู้ตัวอีกที ก็เต็มไปด้วย ปัญหาผิวริ้วรอยจุดด่างดำเกิดขึ้นกับผิวซะแล้วเรื่องริ้วรอยนับเป็นหนึ่งในปัญหาที่ใครหลาย ๆ คนไม่อยากพบเจอ โดยเฉพาะริ้วรอยก่อนวัย ซึ่งริ้วรอยบนใบหน้านั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ หลายปัจจัยที่เป็นต้นเหตุ มาจากอะไรบ้างที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาผิว และริ้วรอยก่อนวัย

                                                                        สาเหตุที่ผิวเกิดริ้วรอย

                                                                        ด้วยวัยที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เซลล์ผิวสร้างอิลาสตินและคลอลาเจนได้น้อยลง ผิวกระชับยืดหยุ่นของผิวลดลงไม่เหมือนเดิม เมื่อผิวสูญเสียคลอลาเจนและอิลาสตินไปตามวัยแล้ว อาการของผิวริ้วรอยก็ตามมาติดๆ นานวันเข้าผิวก็เริ่มเหี่ยวย่น บ่งบอกถึงวัยที่ผู้หญิงอย่างเราไม่พึงปรารถนา จึงต้องหาวิธีการกระชับผิวและลดริ้วรอย

                                                                        สิ่งแวดล้อม และ แสงแดด

                                                                        แสงแดด รังสี UVA และ UVB ในแสงแดด จะทำผิวแห้งลง ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื่นและเกิดริ้วรอย จุดด่างดำบนใบหน้า รวมถึงวิถีการใช้ชีวิตล้วนเป็นสาเหตุทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้มากขึ้น

                                                                        คอลลาเจนในชั้นผิวลดลง

                                                                        คอลลาเจนนั้นมีอยู่แล้วในชั้นผิวหนังของเราตามธรรมชาติ แต่เมื่อเราอายุมากขึ้นคอลลาเจนในผิวก็จะลดน้อยลง เสื่อมลงเรื่อย ๆ ตามวัยที่เพิ่มขึ้น  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วย ว่ามีปริมาณคอลลาเจนในชั้นผิวมากน้อยแค่ไหน ดังน้น จึงต้องหาวิธีการกระชับผิวและลดริ้วรอย

                                                                        ดื่มน้ำน้อย

                                                                        การดื่มน้ำมีประโยชน์มากมาย การดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นอกจากไม่เพิ่มแคลอรี่แล้วยังช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย อีกทั้งช่วยทำให้เพิ่มความสดชื่น และมีประโยชน์กับผิว ช่วยกระชับผิว ลดริ้วรอยได้ เพราะร่างกายของคนเราประกอบด้วยน้ำเป็นส่วนใหญ่ หากดื่มน้ำไม่เพียงพอในแต่ละวันจะทำให้เซลล์ผิวเหี่ยวแห้งซึ่งทำให้ใบหน้าเกิดเหี่ยวย่นขึ้นได้

                                                                        การแก้ปัญหาริ้วรอยก่อนวัย

                                                                        ฉีดโบ

                                                                        การฉีดโบเป็นหนึ่งในวิธีแก้ปัญหาผิว ช่วยลดริ้วรอยก่อนวัยได้อย่างรวดเร็วและเห็นผลได้ดี  โดย การฉีดโบจะออกฤทธิ์ต่อกล้ามเนื้อ ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว รอยเหี่ยว รอยย่นบนใบหน้าที่เกิดจากการดึงรั้งของกล้ามเนื้อก็จะตื้นขึ้น ลดริ้วรอยและค่อยๆหายไปในที่สุด แต่ข้อเสียของการฉีดโบ คือ อยู่ได้ไม่นาน ต้องไปฉีดซ้ำทุก ๆ 4-6 เดือน

                                                                        ผ่าตัดดึงหน้า

                                                                        การผ่าตัดดึงผิวหน้าจะช่วยให้ใบหน้ากลับมาเรียบเนียน ลดริ้วรอย ข้อดีของการผ่าตัดดึงหน้า ไม่ต้องกลับไปทำซ้ำ ส่วนข้อเสีย คือ ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

                                                                        Treatment Thermage ( เทอร์มาจ)

                                                                        เทอร์มาจ คือ เทคโนโลยีคลื่นวิทยุช่วยในการยกกระชับผิวและลดริ้วรอย โดยไม่มีแผล  ปัญหาผิวที่มีริ้วรอยและหย่อยคล้อย จะยกกระชับทันทีระดับหนึ่งหลังรักษา และดีขึ้นเรื่อบๆ อย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยี เทอร์มาจ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องสีผิว ใช้รักษากับผู้ที่มีผิวสีเข้มได้ ซึ่งต่างจากการเลเซอร์ทั่วไปหลังการรักษาไม่ต้องพักฟื้นสามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ หลังการรักษารักษาผิวหน้าจะดูเรียบเนียนขึ้น ลดริ้วรอย ผิวยกกระชับและดูอ่อนเยาว์

                                                                        Treatment Thermage ( เทอร์มาจ ) นอกจากช่วยรักษาผิวหน้าให้เรียบเนียน ลดริ้วรอยได้แล้ว ยังสามารถรักษาผิว รอบดวงตา และผิวเปลือกตาได้อีกด้วย   การทำทรีทเมนต์เทอร์มาจ สามารถช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตา และปัญหาหนังตาตก ซึ่งเกิดจากความหย่อนคล้อยของผิวตามอายุที่ร่วงโรย ให้ดวงตากลับมาสดใสและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

                                                                        เมื่อเราพบว่ามีปัญหาริ้วรอยก่อนวัยแล้ว แน่นอนว่าจะปล่อยปละละเลยไปไม่ได้เด็ดขาด ซึ่งเราสามารถจัดการกับการลดริ้วรอยก่อนวัยบนใบหน้าได้ หากมีความรู้สึกว่า ผิวหน้าที่เคยเต่งตึงกระชับและดูสดใส กำลังจะถูกแทนที่ด้วยความหย่อนคล้อย เต็มไปด้วยริ้วรอย จุดด่างดำแล้ว ควรรีบดูแลรักษา และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อลดริ้วรอย ให้ผิวของเรา คงความอ่อนเยาว์ ย้อนเวลาให้ผิวกลับมาตึงกระชับ เรียบเนียน ผิวสวยได้อย่างเป็นธรรมชาติ

                                                                        แนะวิธีเติมความชุ่มชื่นให้กับผิว “ลดริ้วรอย” ก่อนวัยที่ดีที่สุด

                                                                        62

                                                                        อุปสรรคสำคัญของผู้หญิงอย่างเรา ๆ ก็คือเรื่องริ้วรอยบนใบหน้านี่แหละที่เป็นปัญหา สร้างความกังวลใจอยู่ไม่น้อย และต้องหาวิธีรักษาเพื่อลดริ้วรอย ผู้หญิงเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้นคอลลาเจนและอีลาสติน กรดไฮยาลูรอนิกในผิวจะลดลง และสารอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์ผิว ไม่ได้เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังอาจเกิดได้จากปัจจัยอื่น ๆ อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมส่วนตัวสภาพแวดล้อม  อาหารการกิน หรือไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ก็ล้วนแล้วแต่มีส่วนในการทำให้เกิดริ้วรอยได้

                                                                        เพราะเมื่อนานวันเข้า ริ้วรอยเหล่านี้จะค่อย ๆ ชัดและลึกลงเรื่อย ๆ และคงอยู่ให้เห็นบนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้รู้สึกว่าตัวเองแก่ก่อนวัยอันควร ไม่ว่าจะพยายามแอ๊บหน้าเด็กยังไงหน้าก็ดูไม่เหมือนเดิม ความสดใสเต่งตึงดูเหมือนจะหายไปทำให้ขาดความมั่นใจกับริ้วรอยที่มาเยือน ดังนั้น หากลดริ้วรอยลงได้ก็จะทำให้ความมั่นใจกับมา

                                                                        วิธีเติมความชุ่มชื่น ลดริ้วรอยบนใบหน้า

                                                                        • ใส่ใจเรื่องอาหารการกินสิ่งดี ๆ เริ่มต้นจากภายใน ผิวหน้าก็เหมือนกัน อาหารที่ดีมีประโยชน์จะช่วยให้ผิวเราสวย ลดโอกาสการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ การทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ถั่ว งาดำ หรือผักผลไม้ที่มีสีเหลือง สีส้ม อย่างเช่น ส้ม แครอท ฟักทอง มะเขือเทศ แตงโม  หรืออาหารเสริมที่มีสารเสริมคอลลาเจนสกัด หรือไฮยาลูรอนิก ก็ช่วยลดริ้วรอยได้เช่นกัน
                                                                        • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นครีมหรือเซรั่มที่มีสารช่วยบำรุงผิวให้ความชุ่มชื่น ลดริ้วรอย วิธีทาครีมที่ถูกต้องนั้นให้ปัดขึ้นเสมอ ใช้นิ้วไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ ไปหาโหนกแก้ม
                                                                        • หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิวหน้า ได้แก่ การนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ การถูหน้าแรง ๆ  การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุทำให้เกิดริ้วรอยและความเหี่ยวย่นมากขึ้น
                                                                        • ปกป้องผิวจากแสงแดด เพื่อลดริ้วรอย เพราะแสงแดดจะเป็นตัวขัดขวางการสร้างคอลลาเจนในผิว จนทำให้ผิวมีคอลลาเจนและอีลาสตินที่น้อยอยู่แล้วยิ่งแย่ไปใหญ่ ดังนั้นควรหันมาปกป้องผิวก่อนการออกแดดด้วยการทาครีมกันแดดอยู่เสมอ รวมไปถึงแสงจากจอคอมพิวเตอร์ที่สว่างมากเกินไปทำให้ต้องหรี่ตา เกิดเป็นริ้วรอยขึ้นได้
                                                                        • ใช้ครีมลดริ้วรอยใช้ครีมหรือเซรั่มลดริ้วรอยช่วยให้ผิวเรียบเนียนไม่ต้องการฉีดหรือผ่าตัด ทุกวันนี้เรามีหลายแบรนด์ที่มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยจัดการกับปัญหาริ้วรอยก่อนวัยได้ดีเลเซอร์ลดริ้วรอย การทำเลเซอร์ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เพื่อเป็นการช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า
                                                                        • ทรีทเม้นท์ Thermage ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ขึ้นมาใหม่ส่งผลให้ผิวแลดูกระชับตึงขึ้นลดริ้วรอย ด้วยระบบสั่นสะเทือน ทำให้เจ็บน้อย ระบบสั่นสะเทือนจะช่วยเบนความรู้สึกเจ็บ และกระจายความร้อนอย่างสม่ำเสมอลงไปยังใต้ผิวได้ลึกขึ้นสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี

                                                                        ปัญหาผิวหน้าเมื่อเกิดขึ้นแล้ว สร้างปัญหาให้กับสาว ๆ ไม่น้อยสำหรับริ้วรอยก่อนวัย จะอาศัยแต่วิธีการแก้ไข วิธีการลดริ้วรอยอย่างเดียวอาจไม่พอ จะต้องคอยดูแลไม่ให้ริ้วรอยเกิดขึ้นหรือกลับมาอีกง่าย ๆ เพื่อปกป้องใบหน้าให้ห่างไกลจากริ้วรอยก่อนวัย ริ้วรอยก่อนวัยรักษาได้ ถ้าเราเข้าใจและรู้จักปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรา กิจกรรมในชีวิตประจำวันอาจที่เสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอย หมั่นดูแลผิวทั้งจากภายในและภายนอก เพื่อผิวสวยเพื่อลดริ้วรอยก่อนวัยค่ะ

                                                                        20 ปลาย ๆ อย่าชะล่าใจ“ลดริ้วรอย” แห่งวัยก่อนจะสายเกินแก้ !!!

                                                                        61

                                                                        เรื่องริ้วรอยแห่งวัยเป็นเรื่องใกล้ตัวไปซะแล้ว ยิ่งอายุเพิ่มขึ้น ปัญหาของผิว ก็มากขึ้นเช่นเดียวกันยิ่งกับใบหน้าแล้วยิ่งต้องใส่ใจดูแลกันมากโขเลยเชียว… อย่าปล่อยให้วัยมาเป็นตัวกำหนดอายุเราอีกต้องไป เกิดเป็นหญิงต้องสวยใส ลดริ้วรอยดูแลผิวให้ดูอ่อนเยาว์..ใส่ใจสุขภาพกันนะค่ะ..

                                                                        เรามาเริ่มคุยกันเรื่องริ้วรอยของวัย 20 ปลาย ๆ กัน จะย่างเข้าสู่วัยแห่งการดูแลผิวอย่างจริงจังเสียที…  ช้ากว่านี้ไม่ได้แล้วนะจ๊ะสาวๆ  !!!  ไปแล้วกู้กลับยากนะเออ… 

                                                                        ริ้วรอยเริ่มต้นจากอะไร..วัย 20  ปลายๆ  ถึงได้อย่าชะล่าใจ  มันมาเร็ว เคลมเร็ว .. ยังกะ  Fast 8   เชียวนะ. เอาไม่ทันอาการเหี่ยวย่น ถามหากันทีเดียว..ซึ่งขั้นตอนการลดริ้วรอย ดูแลผิวให้ดูอ่อนเยาว์ เรามีเคล็ด (ไม่) ลับมาบอกต่อด้วยแหละ…

                                                                        เคล็ด (ไม่) ลับ  Step 1 ดื่มน้ำให้เพียงพอ ในร่างกายของเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง  1 ใน 3 ส่วน เพราะการดื่มน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ควรดูแลใส่ใจตัวเองด้วยวิธีง่าย ๆ กับการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน อย่างน้อยวันละ  8  แก้ว จะช่วยกระต้นให้ระบบในร่างกายทำงานได้ดี ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส แลดูชุ่มชื่นอิ่มน้ำตลอดวันและช่วยลดริ้วรอยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ดื่มน้ำแล้วดี ดื่มน้ำกันเยอะ ๆ นะสาว ๆ..

                                                                        เคล็ด (ไม่) ลับ  Step 2 การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี ทำให้เลือดลมไหลเวียนภายในร่างกายเป็นปกติ ส่งผลให้ผิวพรรณแลดูสดใส มีน้ำมีนวล ช่วยลดริ้วรอยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะร่างกายได้มีการขับของเสียออกจากร่างกาย โดยการเสียเหงื่อ ซึ่งเป็นของเสียที่ออกจากร่างกายทางผิวหนัง เหมือนเป็นการดีท๊อกซ์ไปในตัว..เสียเหงื่อวันละนิด เพื่อผิวพรรณที่สดใสอยู่คู่กับเรานานแสนนาน..

                                                                        เคล็ด (ไม่) ลับ Step 3 ล้างหน้าอย่างถูกวิธี  อย่า!! ทำร้ายผิว จากการล้างหน้านะจ๊ะสาว ๆ ขอเตือนไว้ก่อน… เพราะการล้างหน้าที่ถูกวิธีสำคัญมากสำหรับผิว เพราะผิวหน้าคนเราบอบบาง ไม่ควรกระทำการรุนแรงใด ๆ ที่เป็นการทำร้ายผิว เริ่มต้นการล้างหน้าที่อ่อนโยน นุ่มนวล ที่สำคัญมือเราต้องสะอาดด้วยนะจ๊ะ ด้วยมือเรานี่แหละเป็นแหล่งรวมเชื่อโรคต่าง ๆ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการนำปัญหามาสู่ผิว เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าให้เหมาะกับสภาพผิว ช่วยลดริ้วรอย หลังล้างหน้าอย่าลืมบำรุงผิวด้วยครีมที่มีส่วนผสมมอยเจอร์ไรเซอร์ให้ผิวชุ่มชื่นอยู่เสมอนะค่ะ

                                                                        เคล็ด (ไม่) ลับ Step 4 ใช้ครีมกันแดดทุกครั้ง  ศัตรูตัวร้ายทำลายผิวก็คือแสงแดดนี่แหละ ยิ่งแดดบ้านเรานี่แล้ว เพรี้ยงๆ ทั้งวัน ซึ่งเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย เมื่อผิวโดนแสงแดดมาก ๆ ปัญหาผิวก็ตามมามากมาย ทั้งผิวแห้ง ผิวกร้าน ด่างดำ หมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื้น ดังนั้นจึงต้องดูแลผิวด้วยการทาครีมกันแดดที่สมารถป้องกันรังสี UV ได้ดี  เลือก SPF ที่เหมาะสมกับสภาวะแวดล้อมที่อยู่ เพื่อป้องกันผิวและลดริ้วรอย แม้อยู่ในที่ร่มก็ ไว้ใจไม่ได้นะค่ะสาว ๆ

                                                                        เคล็ด (ไม่) ลับ Step 5 ทางเลือกใหม่ไม่ต้องเจ็บตัว Thermage เป็นการยกกระชับทั่วใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยเทคนิคทางการแพทย์สมัยใหม่ เป็นการกระตุ้นการสร้าง Collagen ในชั้นผิวหนังแท้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อผิวหน้าที่เนียนเรียบ ลดริ้วรอย ยกกระชับ แลดูอ่อนเยาว์

                                                                        สัญญาณแรกของผิวที่เริ่มมีอายุมากขึ้น จะเริ่มปรากฏเป็นริ้วรอยบาง ๆ เมื่อผิวของเราบางลง ความสามารถในการป้องกันผิวจากรังสีต่าง ๆ จะลดลงอย่างเห็นได้ชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ  Collagen ในใต้ชั้นผิวก็เหมือนกัน การเริ่มดูแลผิวในวัย 20 ปลาย ๆ  เชื่อเถอะ การเริ่มต้นที่ดี มันส่งผลดีต่อเราได้นะค่ะ ความสวย ความงาม ใคร ๆ ก็ต้องการสิ่งสำคัญ เราต้องใส่ใจตัวเราให้มาก ๆ ไม่ควรมองข้ามการดูแลตัวเอง ดูแลผิวให้ดูอ่อนเยาว์หาวิิธีลดริ้วรอยที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างถูกวิธี อย่าให้อายุ มากำหนดวัยเราเลยนะค่ะ..

                                                                        ตัวช่วย แก้ไขอาการผิวแห้ง “ลดริ้วรอย”รอยเหี่ยวย่น บนผิวหน้า

                                                                        60

                                                                        ปัญหาริ้วรอยเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับ คนยุคนี้ไปแล้วสินะ  ลองสังเกตดูจากผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นสิ  หากไม่ช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำแล้วท่าจะไปต่อได้ยาก ทำให้ผู้ผลิตสินค้าต้องคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ  ที่ช่วยลดริ้วรอย มาเป็นจุดขาย จุดดึงดูด เพื่อตอบโจทย์ และ สร้างความพึงพอใจสำหรับผู้ใช้ตลอดเวลา

                                                                        ปัญหาริ้วรอยเกิดจากอะไร ?  เกิดได้อย่างไร ? ทำไมถึงสร้างปัญหา และความกังวลใจให้กับคนเราได้มากมายขนาดนั้น  และสาเหตุของการเกิดริ้วรอยสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย มาจากอายุก็ดี  ปริมาณสารคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิวก็ใช่  แสงแดดก็เกี่ยว  ตลอดจนสภาวะแวดล้อมที่เราอยู่มลพิษทั้งนั้น…แถมยังเกิดจากวิถีการใช้ชีวิตของเราก็มีส่วนในการทำให้เกิดริ้วรอยด้วยเช่นกัน ดังนั้น เราต้องเข้าใจเกี่ยวกับริ้วรอยบนใบหน้าให้ดีเสียก่อนว่าปัญหามาจากอะไร เราถึงจะหาทางรักษาเพื่อลดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ..

                                                                        ริ้วรอยจากอายุ…

                                                                        เมื่ออายุเริ่มมากขึ้นปัญหาผิวก็ตามมาอีกมากโข..โดยช่วงอายุแต่ละวัยยังส่งผลต่อผิวต่างกัน ยิ่งตัวเลขอายุเพิ่มขึ้น ริ้วรอยก็เพิ่มขึ้นตามอายุเช่นกัน การดูแลผิวอย่างถูกวิธีจะช่วยป้องกันผิวและลดริ้วรอยที่อาจจะเกิดขึ้นตามวัย

                                                                        การสูญเสียคอลลาเจนที่อยู่ใต้ชั้นผิว

                                                                        คอลลาเจน คือสิ่งที่สำคัญมากในการคงความอ่อนเยาว์ของผิว แต่ว่าพอเราแก่ขึ้น ระดับคอลลาเจนก็จะค่อยๆลดลง จนในที่สุดแล้วก็จะนำไปสู่ระดับที่ทำให้ผิวเริ่มเหี่ยวย่น เมื่ออายุมากขึ้น การทำงานของระบบต่างๆของ เซลล์ผิวหนังจะมีประสิทธิภาพลดลง ทำให้สมดุล ระหว่างการสร้างและทำลายเซลล์ผิวสูญเสียไป ผิวจึง เริ่มเสื่อมสภาพและปรากฏออกมาให้เห็นในรูปของ ริ้วรอย ดังนั้น การเสริมสร้างคอลลาเจนจะช่วยให้ผิวกระชับ ลดริ้วรอยได้ค่ะ

                                                                        สภาวะแวดล้อมและการใช้ชีวิต

                                                                        ในสภาวะแวดล้อมทุกวันนี้ มีมลพิษปะปนอยู่มากมาย อีกทั้งมลพิษต่าง ๆ เป็นตัวร้ายทำร้ายผิวอย่างร้ายกาจ และการชีวิตก็มีส่วนในการเกิดริ้วรอยด้วยเช่นกัน ดังนั้น ควรเลี่ยงอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่มีมลพิษ เพื่อลดริ้วรอยที่อาจจะเกิดขึ้น

                                                                        แสงแดด (UV)

                                                                        แสงแดด ศัตรูตัวร้ายของผิวเราไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุไหนๆ ก็ตาม มันสามารถทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้ เป็นสิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยงและควรป้องกันเป็นอย่างยิ่ง รังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดถือเป็นศัตรูตัวฉกาจที่กระตุ้นให้ผิวถูกทำลายคอลลาเจนในผิวหนังให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น แสงแดดเป็นปัจจัยภายนอกเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วก่อนวัยอันควร ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด เพื่อป้องกันปัญหาผิว ลดริ้วรอยที่จะเกิดขึ้น

                                                                        วิธีการดูแล รักษา

                                                                        • บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อให้ผิวหน้าสดใส ลดริ้วรอย และเมื่ออยู่ในวัยหมดประจำเดือนแล้ว ผิวจะแห้งกว่าตอนสาวๆ จึงเป็นเหตุให้คนอายุมาก มีรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย
                                                                        • ทาครีมบำรุงรอบดวงตา เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวบริเวณรอบดวงตา
                                                                        • ทานอาหารที่ช่วยลดริ้วรอยอาหารบางอย่างสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยออกไปจากชั้นผิวได้ โดยเฉพาะอาหารทะเล หากทานเป็นประจำจะมีประโยชน์มาก เพราะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ซึ่งมีประสิทธิภาพในการต่อต้านและลดริ้วรอย รวมถึงการรับประทานธาตุเหล็ก, วิตามินและสารอาหารอื่นๆในปริมาณที่เหมาะสมก็จะช่วยลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวของคุณดูเปล่งปลั่ง
                                                                        • ดื่มน้ำให้เพียงพอน้ำเป็นตัวช่วยในการแก้ปัญหาสุขภาพและความงามอย่างมาก การดื่มน้ำมากๆจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นขึ้นและช่วยลดริ้วรอย 
                                                                        • ฉีดโบ รักษาลดริ้วรอยที่เป็นริ้วเล็ก ๆ รวมถึงรอยตีน การฉีดโบจะมีคุณสมบัติทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเกิดการคลายตัวชั่วคราว ทำให้ริ้วรอยจางลงอย่างชัดเจน แต่ต้องทำการฉีดซ้ำทุก ๆ 6-8 เดือน และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
                                                                        • Thermage ตัวช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen ในชั้นผิวหนังแท้ เพื่อผิวหน้าที่เนียนเรียบ ลดริ้วรอย ยกกระชับ ผิวสวยใส

                                                                        ได้ทราบเรื่องราวจุดเริ่มต้นของการเกิดริ้วรอยกันบ้างแล้ว อย่าได้วางใจกับริ้วรอยที่มารบกวน การป้องกันและดูแลอย่างถูกวิธี รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่องร่างกาย จะช่วยลดริ้วรอย ผิวดูอ่อนเยาว์ได้มากขึ้น อย่ามองข้ามเรื่องเล็กน้อยเพื่อผิวที่ดูดีอยู่คู่กับเรานาน ๆ ไม่ว่าจะดูแลด้วยตัวเอง หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวก็ตาม เพื่อสุขภาพผิวที่ดีอย่าปล่อยให้กาลเวลา และอายุมาพรากผิวสวยไปเลยนะค่ะ

                                                                        เรื่องของผู้หญิง “รีแพร์” ความจริงที่ผู้หญิงอยากรู้!!

                                                                        241

                                                                        เรื่องที่ไม่ควรละเลยสำหรับคุณผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยกลางคนหรือคนที่มีครอบครัว มีลูกแล้วแล้ว ซึ่งถ้ามีปัญหาของช่องคลอดหลวม อยากกระชับน้องสาว เมื่อช่องคลอดไม่กระชับจะแก้ไขอย่างไรให้เหมาะสมและปลอดภัย ซึ่งในปัจจุบันจะเห็นได้ว่า การรีแพร์เป็นวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ การรีแพร์ สามารถทำได้ 2 วิธี

                                                                        กระชับช่องคลอดแบบผ่าตัด

                                                                        เป็นการรีแพร์ หรือ ผ่าตัดแก้ปัญหาและเย็บน้องสาวให้กระชับขึ้น โดยจะมีบาดแผลเกิดขึ้นในช่องคลอด ซึ่งหลังจากรีแพร์คนไข้จะต้องหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ หรือสิ่งที่เป็นสาเหตุอาจทำให้แผลที่บริเวณช่องคลอด เกิดการฉีกขาดหรือมีแผลเพิ่มขึ้นจากเดิม หลีกเลี่ยงกิจกรรมทุกประเภท ที่จะเกิดการกระทบแผลจากการผ่าตัด แม้กระทั้งการไอ หรือจาม แรง ๆ ก็อาจส่งผลได้

                                                                        กระชับช่องคลอดแบบไม่ผ่าตัด

                                                                        วิธีการกระชับช่องคลอดแบบไม่ต้องผ่าตัด เป็นการรักษาด้วยตัวเอง ซึ่งจะเหมาะสำหรับคนที่เริ่มรู้สึกว่าน้องสาวเริ่มไม่กระชับ คือการขมิบหรือออกกำลังกายให้กับช่องคลอดฟิตกระชับขึ้น โดยสามารถกระทำได้ทุกวันและทำซ้ำได้ตามความต้องการ วิธีทำก็คือการขมิบค้างไว้ประมาณ 10 นาทีและปล่อยคลายตัวออก โดยทำให้ได้ประมาณ 150 ครั้งต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้น้องสาวกระชับขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด

                                                                        รีแพร์ (Repair)คือ การซ่อมแซม เป็นการผ่าตัดตกแต่งกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่หย่อนยานภายในช่องคลอดให้กระชับขึ้น เพื่อให้ขนาดหรือเส้นผ่าศูนย์กลางของช่องคลอดเล็กลงและเกิดการหดรัดที่ดีกว่าเดิม โดยเป็นการผ่าตัดตลอดแนวความลึกของช่องคลอด รวมถึงการผ่าตัดตกแต่งเนื้อเยื่อและผิวหนังบริเวณปากช่องคลอดให้ได้รูปกระชับขึ้นด้วย

                                                                        242

                                                                        ในบางครั้งผู้หญิงรู้ตัวเองดีว่ามีปัญหาช่องคลอดหลวมแต่ด้วยความอายจึงไม่กล้าเปิดเผย และไม่กล้าปรึกษาใครทำให้ต้องใช้ชีวิตที่ขาดความมั่นใจ หรือแม้กระทั่งการใช้ชีวิตคู่ ในบางครั้งผู้ชายอาจไม่กล้าพูดเพราะกลัวผู้หญิงเสียใจ กลัวทำให้ผู้หญิงหมดความมั่นใจ หากปล่อยทิ้งไว้ ไม่เข้ารับการรีแพร์เรื่องก็อาจบานปลายกลายเป็นปัญหาครอบครัวขึ้นมาได้ ดังนั้นผู้หญิงยุคใหม่ No สน No แคร์ จึงให้ความสนใจกับการทำรีแพร์ เพราะเป็นวิธีที่จะช่วยทำให้มีความสุขในเรื่องเพศมากขึ้น เรื่องชีวิตคู่ก็กลับมาสุขสม อารมณ์หมายกันอีกครั้ง..

                                                                        กระชับน้องสาว “รีแพร์” สิ่งที่ผู้หญิงไม่ควรละเลย

                                                                        239

                                                                        ผู้หญิงสมัยใหม่หันมาสนใจดูแลตัวเองกันมากขึ้น เรื่องที่เป็นที่นิยมและสนใจมากเกี่ยงกับกระชับช่องคลอดก็คือ การทำรีแพร์ หลายคนอาจจะสงสัยว่า รีแพร์ คืออะไร รีแพร์ ความหมายก็คือการซ่อมแซม การซ่อมแซมในที่นี้หมายถึงบริเวณช่องคลอดผู้หญิงที่ต้องได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะผู้หญิงที่เคยผ่านการมีบุตรหรือผู้หญิงที่คิดว่าส่วนนั้นของตัวเองไม่ค่อยฟิตเหมือนตอนสาว ๆ  และผู้หญิงบางคนถึงขนาดขาดความมั่นใจไปเลยก็มี หรือบางรายเริ่มจะมีปัญหากับคู่ชีวิต จึงอยากจะหาวิธีแก้ปัญหาในส่วนนี้ให้ได้ แต่ครั้งจะถามใคร ๆ หรือเข้าไปหาหมอสูติเพื่อปรึกษาก็รู้สึกเขินอาย

                                                                        ปัจจุบันเรื่องของผู้หญิง ไม่ใช่ความลับไม่ใช่เรื่อน่าอายอีกต่อไป เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องใส่ใจ และให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะเรื่องของอวัยวะเพศ เป็นเรื่องใกล้ตัวมาก ถือได้ว่าเป็นเรื่องชี้ชะตาชีวิตของผู้หญิงเลยก็ว่าได้ ดังนั้น ศูนย์บริการความงาม รมย์รวินท์ คลินิค ได้มองเห็นปัญหานี้ ของผู้หญิงยุคใหม่ ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจ และ คืนความสาวให้กลับคืนมา การทำรีแพร์เป็นวิธีที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป

                                                                        โปรแกรม Love Lift เพื่อช่วยผู้หญิงแก้ปัญหาช่องคลอดไม่กระชับ

                                                                        240

                                                                        โปรแกรม Love Lift

                                                                        • ผู้ที่กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ไอจามปัสสาวะเล็ด
                                                                        • ผู้ที่ช่องคลอดไม่กระชับหลวมมีลมออกขณะมีเพศสัมพันธ์
                                                                        • ผู้ที่มีภาวะช่องคลอดแห้ง เจ็บ
                                                                        • ผู้ที่มีกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแอหย่อนคล้อยเนื่องมาจาก น้ำหนักตัว อายุที่มากขึ้น โรคภูมิแพ้
                                                                        • ผู้หญิงที่ผ่านการคลอดโดยธรรมชาติ

                                                                        โปรแกรม Love Lift

                                                                        การทำงานของโปรแกรม Love Lift   เป็นการใช้เทคโลยีพลังงานคลื่นวิทยุไปช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และ อิลาสตินขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและผนังช่องคลอดแข็งแรงกระชับตึงขึ้น ทั้งบริเวณภายนอกและภายในช่องคลอด โดยไม่ต้องผ่าตัดที่สำคัญไม่เจ็บปลอดภัย ไม่ต้องพักฝื้น

                                                                        การเตรียมตัวก่อนทำ โปรแกรม Love Lift

                                                                        • ไม่อยู่ในช่วงภาวะมีประจำเดือน
                                                                        • เคยตรวจภายในและผลเป็นปกติในระยะเวลา 2 ปี
                                                                        • ไม่อยู่ในภาวะอักเสบติดเชื้อ-
                                                                        • ไม่มีโรคประจำตัว ร้ายแรง
                                                                        • หลังคลอดปกติ เว้น 3-6 เดือน ผ่าคลอด เว้น 1 เดือน หรือตามคำแนะนำแพทย์

                                                                        การดูแลหลังทำ

                                                                        หลังทำการรีแพร์ โดยโปรแกรม Love Lift สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ  โดยที่ไม่มีอาการหรือความรู้สึกใดๆ แต่เว้นการมีเพศสัมพันธ์ 6 ชั่วโมงหลังจากการทำ

                                                                        การทำรีแพร์เพื่อให้ช่องคลอดกระชับขึ้นนี้ สามารถช่วยแก้ไขปัญหาความบกพร่องของร่างกายที่ผิดปกติ โดยเฉพาะ เพิ่มความรู้สึกพึงพอใจทางเพศได้ แต่การทำรีแพร์ ไม่ใช่ซะทีเดียวที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องเพศสัมพันธ์ได้ เพราะสาเหตุของของความไม่สุขสมทางเพศนั้น ไม่ได้เกิดจากเรื่องทางร่างกายอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ของคู่รัก อารมณ์ความรู้สึกที่ดีของการใช้ชีวิตร่วมกันช่วงนั้นต่งหาก แต่การทำ รีแพร์ เป็นเพียงแค่ขั้นตอนหนึ่งที่เพิ่มความมั่นใจ ทวงคืนความสุขให้กับคุณผู้หญิง ไม่ต้องกังวล กับสิ่งที่ไม่พึงประสงค์มารบกวนจิตใจกันอีกยาว ว่ามั๊ยค่ะสาว ๆ

                                                                        ซ่อมแซมใหม่ ให้คืนความสาว “รีแพร์” ไม่ใช่เรื่องน่าอาย..

                                                                        236

                                                                        สาวรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ วัยไหนๆก็ทำ “รีแพร์” ได้ การทำรีแพร์เป็นการผ่าตัดตกแต่งเพื่อกระชับช่องคลอดที่หย่อนคล้อย ซึ่งในปัจจุบันได้รับความสนใจจากสาว ๆ เป็นจำนวนมาก  ผู้หญิงที่มีปัญหาช่องคลอดหลวมไม่กระชับ ส่วนใหญ่ผ่านการแต่งงานรวมไปถึงมีบุตรมาแล้ว ทำให้ขาดความมั่นใจ จึงเข้ารับการรักษาด้วยการทำรีแพร์ เพื่อความสวยงาม เพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้น การทำรีแพร์สามารถคืนความสาวและเพิ่มความมั่นใจให้ทั้งสาว ๆ ที่กำลังประสบปัญหาจนทำให้หมดความมั่นใจและเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

                                                                        ผู้หญิงความสุขและความมั่นใจของผู้หญิง ไม่ได้เกิดจากการมีรูปร่างหน้าตาและผิวพรรณที่ดี และจะไม่มีปัญหาชีวิต เรื่องของจุดซ่อนเร้นหรืออวัยวะเพศหญิง อีกเรื่องที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผู้หญิงต้องไม่ละเลย และต้องหาวิธีการรักษา อาทิ การทำรีแพร์ ซึ่งจุดซ่อนเร้น ในที่นี้หมายถึง หัวหน่าว แคมเล็ก แคมใหญ่ ซึ่งนอกจากจะมีหน้าที่หลักคือเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกของเพศหญิงแล้ว ยังมีอิทธิพลต่อร่างกายและจิตใจในด้านต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นบริเวณ ย่อมกลายเป็นปัญหา บั่นทอนความสุข และอาจกลายเป็นปัญหาสั่นคลอนภายในครอบครัว ขาดความมั่นใจในการดำเนินชีวิตคู่ได้ การทำรีแพร์จึงช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้

                                                                        237

                                                                        เรื่องอวัยวะเพศของผู้หญิง เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนมีคำถามข้อนี้อยู่ในใจ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอวัยวะเพศของเรามีความผิดปกติ เพราะผู้หญิงหลายคนอาจจะยังไม่รู้จักจุดซ่อนเร้นของตนเองดีพอ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ ดังนั้น การเรียนรู้และทำความเข้าใจถึงธรรมชาติของ หัวหน่าว แคมเล็ก และ แคมใหญ่ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้หญิงจะทำความเข้าใจ เพื่อให้เราสามารถสังเกตและมองเห็นถึงความผิดปกติของอวัยวะเพศ เพื่อจะได้ทำการรักษาและแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และ ตรงใจกัน

                                                                        238

                                                                        การผ่าตัดตกแต่ง หัวหน่าว แคมเล็ก และ แคมใหญ่ โดยส่วนใหญ่มักทำร่วมกับการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่ง รีแพร์  ตกแต่งกระชับช่องคลอด รักษาปัสสาวะเล็ด  ในปัจจุบันการรักษากระชับช่องคลอด การรีแพร์นั้นทำได้สะดวกมากขึ้น ด้วยมีการผ่าตัด ตกแต่งจุดซ่อนเร้นด้วยเลเซอร์ เทคโนโลยีพลังงานคลื่นวิทยุ เข้าไปช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และ อิลาสตินขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและผนังช่องคลอดแข็งแรง กระชับตึงขึ้น ทั้งบริเวณภายนอกและภายในช่องคลอด โดยไม่ต้องผ่าตัด ที่สำคัญไม่เจ็บปลอดภัย ไม่ต้องพักฝื้น

                                                                        การผ่าตัดด้วยเลเซอร์ ทำให้ผลการผ่าตัดมีความแม่นยำมากขึ้น รวมทั้งช่วยลดการสูญเสียเลือดและการบอบช้ำของเนื้อเยื่อลง ปัญหาความผิดปกติของหัวหน่าว แคมเล็ก และแคมใหญ่ การทำรีแพร์สามารถคืนความสาวและเพิ่มความมั่นใจให้ทั้งสาว ๆ ทั้งหลายที่ประสบปัญหาจนทำให้หมดความมั่นใจและเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งนี้การรีแพร์จะได้ผลลัพธ์ที่ดี มีความปลอดภัย ไม่มีความเสี่ยงในการขาดความรู้สึกในการมีเพศสัมพันธ์ ทำให้คุณผู้หญิงกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง และมีความสุขทางเพศสัมพันธ์กับคนรักมากขึ้นควรเข้ารับการปรึกษาและรักษากับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำรีแพร์โดยเฉพาะ อย่างรมย์รวินท์ คลินิค ศูนย์บริการความงามที่ครบครัวทุกบริการเรื่องความงาม อย่างผู้รู้จริง…

                                                                        ปลุกชีวิตให้คืนสาว “รีแพร์” เรื่องของผู้หญิง ไม่ใช่เรื่องใหม่..

                                                                        234

                                                                        ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยหลายคนต่อปีที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดมดลูก และหนึ่งในสาเหตุนั้นคือ ‘มดลูกหย่อนหรือต่ำ’ เนื่องจากช่องคลอดไม่กระชับ ปัญหาปัสสาวะเล็ด สาเหตุหลักๆ ของการหย่อนยานของผนังมดลูกคือ การคลอดลูก เนื่องจากการคลอดตามธรรมชาติแต่ละครั้ง ช่องคลอดจะขยายใหญ่ขึ้น ตอนคลอดมีช่วงเวลาที่ต้องเบ่งคลอด เลยทำให้ผนังช่องคลอดเกร็งแล้วหย่อนลงมา และยิ่งคุณแม่คนใดที่คลอดลูกหลายคนก็มีโอกาสที่ผนังมดลูกจะหย่อนยานมากขึ้น

                                                                        ผู้หญิงที่เคยผ่านการมีบุตรหรือผู้หญิงที่คิดว่าส่วนนั้นของตัวเองไม่ค่อยฟิตเหมือนเดิม ส่งผลให้ผู้หญิงบางคนถึงกับขาดความมั่นใจไปก็มี หรือบางรายเริ่มจะมีปัญหากับสามีจึงอยากจะแก้ปัญหาในส่วนนี้ให้หายขาดให้ได้
                                                                        ศูนย์บริการความงาม รมย์รวินท์ คลินิค เข้าใจปัญหานี้ดี จึงได้มี โปรแกรม Love Lift ในการทำรีแพร์ เพื่อช่วยผู้หญิงแก้ปัญหาช่องคลอดไม่กระชับ 
                                                                        โปรแกรม Love Lift แก้ปัญหา

                                                                        • ผู้ที่กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ไอจามปัสสาวะเล็ด
                                                                        • ผู้ที่ช่องคลอดไม่กระชับหลวมมีลมออกขณะมีเพศสัมพันธ์
                                                                        • ผู้ที่มีภาวะช่องคลอดแห้ง เจ็บ
                                                                        • ผู้ที่มีกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแอหย่อนคล้อยเนื่องมาจาก น้ำหนักตัว อายุที่มากขึ้น โรคภูมิแพ้
                                                                        • ผู้หญิงที่ผ่านการคลอดโดยธรรมชาติ

                                                                        โปรแกรม Love Lift

                                                                        การทำรีแพร์ด้วยโปรแกรม Love Lift เป็นการใช้เทคโลยีพลังงานคลื่นวิทยุ ไปช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และ อิลาสตินขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและผนังช่องคลอดแข็งแรง กระชับตึงขึ้น ทั้งบริเวณภายนอกและภายในช่องคลอด โดยไม่ต้องผ่าตัด ที่สำคัญไม่เจ็บปลอดภัย ไม่ต้องพักฝื้น

                                                                        235

                                                                        การเตรียมตัวก่อนทำ โปรแกรม Love Lift

                                                                        • ไม่อยู่ในช่วงภาวะมีประจำเดือน
                                                                        • เคยตรวจภายในและผลเป็นปกติในระยะเวลา 2 ปี
                                                                        • ไม่อยู่ในภาวะอักเสบติดเชื้อ
                                                                        • ไม่มีโรคประจำตัว ร้ายแรง
                                                                        • หลังคลอดปกติ เว้น 3-6 เดือน ผ่าคลอด เว้น 1 เดือน หรือตามคำแนะนำแพทย์

                                                                        การทำรีแพร์เป็นการตกแต่งเพื่อกระชับช่องคลอดที่หย่อนคล้อย ซึ่งในปัจจุบันได้รับความสนใจจากสาว ๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งในแต่ละวัยอาจจะเข้ารับการรักษาเพื่อจุดประสงค์ที่ต่างกัน ด้วยอายุที่มากขึ้นและผ่านการคลอดบุตร อาจทำให้ช่องคลอดทั้งภายในและภายนอกมีความกว้างมากขึ้น เกิดภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน หรือ ภาวะ กระบังลมหย่อน การทำรีแพร์สามารถคืนความสาวและเพิ่มความมั่นใจให้ทั้งสาว ๆ ทั้งหลายที่ประสบปัญหาจนทำให้หมดความมั่นใจและเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งนี้เพื่อผลลัพธ์ที่ดี มีความปลอดภัย ควรเข้ารับการปรึกษาและรักษากับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการรีแพร์โดยเฉพาะ รวมไปถึงเลือกผ่าตัดในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและน่าเชื่อถือนะค่ะ..

                                                                        เรื่องใกล้ตัว กับการ “รีแพร์” ที่ผู้หญิงควรรู้อย่างลึกซึ้ง

                                                                        232

                                                                        จะเห็นได้ว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ให้ความสนใจเข้ารับการผ่าตัดทำรีแพร์จะเป็นผู้หญิงที่ผ่านการแต่งงาน และผ่านการคลอดบุตรมาแล้ว อายุประมาณ 30-50 ปี โดยจะเป็นการผ่าตัดในแง่ของการศัลยกรรมตกแต่งเพื่อความสวยงามและสร้างความมั่นใจให้กลับคืนมา แต่สำหรับผู้หญิงอายุ 60 ปีขึ้นไปหรือวัยทอง จะเป็นการผ่าตัดในแง่ของการรักษาภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนที่เป็นเป็นหาเรื่องสุขภาพ ดังนั้นความจำเป็นในการทำ “รีแพร์” จึงต่างวัตถุประสงค์กัน

                                                                        รีแพร์ (Repair)คือ การซ่อมแซม เป็นการผ่าตัดตกแต่งกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่หย่อนยานภายในช่องคลอดให้กระชับขึ้น เพื่อให้ขนาดหรือเส้นผ่าศูนย์กลางของช่องคลอดเล็กลงและเกิดการหดรัดที่ดีกว่าเดิม โดยเป็นการผ่าตัดตลอดแนวความลึกของช่องคลอด รวมถึงการผ่าตัดตกแต่งเนื้อเยื่อและผิวหนังบริเวณปากช่องคลอด

                                                                        รีแพร์แก้ปัญหา ช่องคลอดไม่กระชับ

                                                                        ในยุคปัจจุบันมีการนำเลเซอร์ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่มาใช้ในการกระชับช่องคลอด โดยทางศูนย์บริการความงาม รมย์รวินท์ คลินิค ได้นำเทคโนโลยีรีแพร์ใหม่ ในการใช้เลเซอร์รักษาปัญหาช่องคลอดไม่กระชับ ช่องคลอดมีปัญหาต่าง ๆ อย่างได้ผล ด้วยโปรแกรม Love Lift  มาใช้แทนการผ่าตัด Love Lift เป็นการใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอดโดยไม่ผ่าตัด ใช้เวลาในการประมาณ 1 ชั่วโมง การเลเซอร์ช่วยลดการสูญเสียเลือดและลดความบอบช้ำของเนื้อเยื่อลงได้มาก เจ็บน้อยกว่าและฟื้นตัวเร็วกว่าการผ่าตัดรีแพร์ทั่วไป

                                                                        233

                                                                        โปรแกรม Love Lift  เป็นการใช้เลเซอร์รีแพร์กระชับช่องคลอดโดยไม่ผ่าตัด โดยการนำหัวเลเซอร์สอดเข้าไปในช่องคลอด แล้วปล่อยพลังงานเลเซอร์ออกมาในคลื่นความยาวที่เหมาะสม ตลอดแนวความลึกของช่องคลอด เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ทำให้กล้ามเนื้อช่องคลอดมีความตึงตัวขึ้น ผนังช่องคลอดหดเล็กลง มีความแข็งแรงและกระชับขึ้น เป็นการรักษารีแพร์โดยไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่มีการสูญเสียเลือดและไม่มีอาการปวดใดๆ โดยมีการวัดความตึงตัวของช่องคลอดทั้งก่อนและหลังทำ จึงสามารถเห็นถึงผลของการใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอดได้ โปรแกรม Love Lift  เป็นอีกหนึ่งทางช่วยแก้ไขปัญหาของผู้หญิงโดยเฉพาะ

                                                                        โปรแกรม Love Lift

                                                                        เป็นเทคโลยีในการทำรีแพร์ที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ ไปช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และ อิลาสตินขึ้นมาใหม่ส่งผลให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและผนังช่องคลอดแข็งแรง กระชับตึงขึ้น ทั้งบริเวณภายนอกและภายในช่องคลอด โดยไม่ต้องผ่าตัด ที่สำคัญไม่เจ็บปลอดภัย ไม่ต้องพักฝื้น ส่งผลให้ช่องคลอด บริเวณภายในจุดซ่อนเร้น – ผนังช่องคลอดหดกระชับ มีความยืดหยุ่นมากขึ้น กระตุ้นการทำงานของระบบเส้นประสาท และเพิ่มการไหลเวียนของเส้นเลือดที่มาหล่อเลี้ยงภายในช่องคลอดให้ทำงานสมบูรณ์ขึ้น ส่งผลให้ระบบการทำงานของต่อมต่างๆ ทำงานดีขึ้น สร้างสารคัดหลั่งให้มาหล่อเลี้ยง เพิ่มความชุ่มชื้น และทำหน้าที่กำจัดเชื้อโรคต่างๆ ตามระบบธรรมชาติ รวมถึงช่วยแก้ปัญหาปัสสาวะเล็ดในรายที่มีปัญหา อีกทั้งยังช่วยให้บริเวณภายนอกจุดซ่อนเร้น – กระชับผิว ลดริ้วรอย บริเวณรอบๆ ผิวปากช่องคลอดให้เรียบเนียนกระชับขึ้น

                                                                        การทำรีแพร์ควรทำในช่วงที่ประจำเดือนหมดไม่เกิน 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการอักเสบของแผลและการปนเปื้อนของเลือดในระหว่างการรักษา หลังทำ รีแพร์ ต้องงดการมีเพศสัมพันธ์สัก 2 เดือน งดออกกำลังกาย 1 เดือน ไม่ยกของหนัก พยายามเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด เดินให้น้อยที่สุด เพื่อป้องกันการอักเสบ พักผ่อนให้มาก งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ทำความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัดด้วยน้ำสะอาด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดหลังการรักษา..

                                                                        ดีต่อใจ!!! ปราบรอยสิว เติมหลุมสิว “รักษาสิว” ด้วย Nupico

                                                                        231

                                                                        ปัญหาความไม่มั่นใจจากสิวเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเจอกันมาแล้วไม่มากก็น้อย อีกทั้งเคยรักษามาหลายต่อหลายครั้ง ไม่หายหาดสักที ซ้ำร้ายยังฝากร่องรอยจากสิวให้ปวดใจ ไม่ว่าจะเป็นผิวหลุม จุดด่างดำ เก่าไปใหม่มาไม่รู้จบ

                                                                        ปัจจุบันทางเลือกใหม่สำหรับการรักษาสิว ด้วย Laser อย่างNuPico เทคโนโลยีน้องใหม่มาแรง เข้า มาให้บริการด้านความงามที่ถูกออกแบบมาเพื่อการแก้ไขปัญหาผิวโดยเฉพาะ เพราะการแก้ปัญหาผิว ไม่ใช่การรักษาแค่เพียงภายนอกเท่านั้น การรักษาตั้งแต่ภายในจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ที่จะต้องฟื้นฟูสุขภาพผิวภายในควบคู่กับการฟื้นฟูบำรุงผิวภายนอก เพื่อแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ

                                                                        NuPico คืออะไร

                                                                        Nupico เป็นนวัตกรรมใหม่จากประเทศสหรัฐอเมริกา NupicoLaser สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้ดี อีกทั้งยังสามารถลบปานดำ ปานน้ำตาล รอยสักหลากหลายๆ สี และช่วยจัดการรอยด่างดำ ผิวหมองคล้ำที่ไม่พึงปรารถนาได้ดี ช่วยทำให้ผิวพรรณกลับมากระจ่างใสเรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ อีกทั้งช่วยฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างอ่อนโยน โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาภายหลังจากการรักษาอย่างเลเซอร์รุ่นเดิม  NiPico Laser ทำงานอย่างไร

                                                                        • NuPico Laser เป็นการใช้เทคโนโลยีคลื่นแสงเลเซอร์คลื่นพลังานความถี่ที่สั้นที่สุด เข้าไปทำลายเม็ดสีที่รวมตัวกันให้แตกละเอียด   ซึ่งแตกต่างจากการทำงานของเครื่องเลเซอร์รุ่นเดิมๆ   จึงสามารถทำให้เม็ดสีที่เรียงตัวกันอย่างหนาแน่นเป็นกระจุก เกิดการแตกตัวจนกลายเป็นอนุภาคที่มีขนาดเล็กที่สุด และจะถูกกำจัดออกจากร่างกายตามกลไกธรรมชาติ
                                                                        • NuPico Laser  มีความปลอดภัยสูง ด้วยกลไก Photoacoustic คลื่นความถี่พลังงานแสงถูกดูดกลืนจนเกิดเป็นแรงดันและแตกกระจายออก โดยไม่ทำให้เกิดการสะสมความร้อนในบริเวณข้างเคียง แสงเลเซอร์จะเลือกจับเฉพาะรอยดำที่กระจุกตัวให้แตกกระจายเท่านั้น จึงทำให้ผิวข้างเคียงไม่ถูกทำลายไปด้วย นอกจากนี้ พลังงานแสงที่มีความถี่สูงมาก จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนสสารเป็นแรงดันเล็กๆ ในระดับนาโนกระจายทั่วผิวหนังในระดับคอลลาเจนลึก ทำให้เกิดการสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนใหม่ขึ้นจำนวนมาก ช่วยฟื้นฟูให้ผิวมีความแน่น เรียบเนียน กระจ่างใส ริ้วรอยจึงค่อย ๆ จางลดลง

                                                                        NuPico Laser รักษาอะไรได้บ้าง

                                                                        • รักษาปัญหารอยดำ เช่น กระ กระแดด จุดด่างดำ
                                                                        • ลบปานดำ ปานน้ำตาล
                                                                        • ลบรอยสักต่างๆ ได้ทุกสี
                                                                        • รักษาริ้วรอยแห่งวัยที่เพิ่มขึ้น, ฝ้าตื้น ฝ้าลึก ผิวหมองคล้ำ
                                                                        • ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนเสื่อมสภาพ
                                                                        • รักษาแผลเป็นจากหลุมสิว
                                                                        • แก้ไขปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวไม่กระชับ

                                                                        การรักษาปัญหาผิวที่เกิดจากสิว ต้องได้รับการรักษาจากผู้ที่มีประสบการณ์โดยเฉพาะด้าน สาวๆ คงรู้ๆ กันอยู่แล้วว่ามีความยากลำบากแค่ไหน และต้องใช้เวลายาวนานมากในการรักษา หากรักษาไม่ดีก็อาจได้รับผลข้างเคียง ทำให้การรักษาเกิดความยุ่งยากมากขึ้นด้วย นวัตกรรมใหม่ NuPico Laser ถือได้ว่าเข้ามาเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการความงาม ด้วยการใช้เลเซอร์รักษาผิวที่สามารถทำให้เม็ดสีที่ผิดปกติจางลง สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกในการรักษา อีกทั้งยังไม่มีผลข้างเคียงเหมือนการรักษาด้วยเลเซอร์รุ่นเก่าการรักษาไม่ทำให้เจ็บ ไม่เสี่ยงต่อผิวไหม้จากความร้อนของเลเซอร์ สามารถทำการรักษาได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียน อ่อนเยาว์ กระจ่างใส ได้ดังเดิม..

                                                                        เปลี่ยนหน้าสิว เป็นหน้าใส “รักษาสิว” ด้วย nupico

                                                                        nupico

                                                                        ปัญหาผิวหนังที่พบบ่อยที่สุดปัญหาหนึ่ง คงหนีไม่พ้นเรื่องของสิว เมื่อเกิดขึ้นกับใครแล้วคงต้องมีความกังวลใจอยู่ไม่น้อย แถมยังส่งผลต่อสภาพจิตใจอย่างมาก แล้ววิธีไหนจะเป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุด คงไม่ใช่การขัดผิวลอกผิว หรือการทำทรีทเม้นท์ แต่การรักษาควรรักษาที่ต้นสาเหตุของการทำให้เกิดสิว เพื่อให้เกิดผลการรักษาที่ดีที่สุด เพื่อคงสภาพของผิวในระยะยาว

                                                                        สาเหตุของการเกิดสิว

                                                                        สิวเกิดจากการอุดตันในรูขุมขนทำให้ปิดทางออกของน้ำมันหล่อเลี้ยงผิว สิวสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย แต่ส่วนมากมักจะพบได้มากในวัยรุ่น เนื่องจากในวัยรุ่นมีฮอร์โมนกระตุ้นการาสร้างน้ำมันมากกว่าวัยอื่นๆซึ่งเกิดขึ้นได้จากสาเหตุดังนี้

                                                                        1. เกิดการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพ ซึ่งผิวจะผลัดเซลล์ผิวออกมาตามธรรมชาติ แต่ขับออกไม่หมดทำให้ตกค้างในรูขุมขนกลายเป็นตุ่ม หรือสิวเกิดขึ้น
                                                                        2. เกิดจากสิ่งกระตุ้นซึ่งทำให้ผิวมีการผลิตน้ำมันเลี้ยงผิวมากขึ้นกว่าปกติ เช่น ฮอร์โมน ความเครียด การอดนอน อากาศร้อน หรือพฤติกรรมที่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองต่อผิว เช่น การสครับผิวบ่อยเกินไป การจับ แคะ แกะเกา และการใช้เครื่องสำอางค์   ส่งผลกระตุ้นทำให้ผิวต้องผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้นโดยธรรมชาติเพื่อลดอาการการระคายเคืองของผิว
                                                                        3. เกิดจากขนอ่อน โดยปกติจะหลุดออกไปเองตามธรรมชาติ เมื่อขนอ่อนขึ้นมากเกินไปและไม่หลุดออก ทำให้เกิดการรวมตัวกับน้ำมันในรูขุมขนทำให้เกิดการอุดตันในชั้นผิวหนัง จนกลายเป็นสิวขึ้น

                                                                        สภาพปัญหาผิว สาเหตุของการเกิดสิวต้องรักษาให้ตรงจุด ปัจจุบัน ศูนย์บริการความงาม รมย์รวินท์ คลินิค ได้นำนวัตกรรมน้องใหม่เข้ามาเป็นตัวช่วยในการรักษาปัญหาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยี  Nupico Laser ซึ่งเน้นหลักการฟื้นฟูให้ผิวแข็งแรง ควบคู่กับการรักษาที่ปลอดภัยไม่เกิดผลข้างเคียงใด ๆ มาให้บริการแล้ว

                                                                        NuPicoLaser คืออะไร

                                                                        Nupico Laser คือ นวัตกรรมใหม่ในการใช้เลเซอร์รักษาผิว ช่วยในการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ลบรอยสัก ปรับสีผิวให้กระจ่างใส ไร้ริ้วรอย ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนฟื้นฟูผิวใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวมีความเรียบเนียนขึ้น  เทคโนโลยีของNupico Laser มีระบบการทำงานแบบใช้คลื่อนพลังงานที่สูงใช้ระยะเวลาที่สั้นมากในการรักษาเข้าไปทำให้เม็ดสีแตกตัวได้อย่างละเอียด

                                                                        NuPico Laser รักษาอะไรได้บ้าง

                                                                        • รักษาปัญหารอยดำ เช่น กระ กระแดด จุดด่างดำ
                                                                        • ลบปานดำ ปานน้ำตาล
                                                                        • ลบรอยสักต่างๆ ได้ทุกสี
                                                                        • รักษาริ้วรอยแห่งวัยที่เพิ่มขึ้น, ฝ้าตื้น ฝ้าลึก ผิวหมองคล้ำ
                                                                        • ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนเสื่อมสภาพ
                                                                        • รักษาแผลเป็นจากหลุมสิว
                                                                        • แก้ไขปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวไม่กระชับ

                                                                        ดังนั้นการรักษาสิวแบบยั่งยืน โดยไม่ใช้ยา หรือสารเคมี ที่ส่งผลทำให้หน้าบางแดง ผิวแห้งแพ้ง่าย ต้องเข้าใจถึงสภาพปัญหาผิวเป็นอย่างดี การรักษาสิวแบบยั่งยืนนั้นเราจะต้องไม่ใช้ยาหรือสารเคมีใดๆ ที่อาจส่งผลทำให้ผิวหนังบาง แห้ง แดง เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้  ด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในตอนนี้ กับนวัตกรรมตัวใหม่อย่าง NuPico Laser เป็นตัวเลือกอีกตัวที่น่าสนใจไม่น้อยในการรักษาปัญหาผิวกับผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด อีกทั้งยังช่วยให้ผิวคงสภาพความแข็งแรง คงความอ่อนเยาว์ของผิว ได้ผิวที่เรียบเนียนกลับมาอยู่กับเราได้อย่างยาวนานขึ้น..

                                                                        กังวลใจจากสิวอยู่ มั้ย!!!“รักษาสิว” มาลบรอยสิวกระตุ้นคอลลาเจนฟื้นฟูผิวกัน..

                                                                        สิว

                                                                        ปัญหาความไม่มั่นใจ กังวลใจจากสิว ที่ต้องเผชิญอยู่ ทำอย่างไรไม่หายสักที ปัญหาเรื่องของสิว มันไม่จิ๋วแล้วสินะ การเกิดสิวนั้นมีหลายรูปแบบ และ แตกต่างกันไปตามแต่สภาพผิวของแต่ละคน แต่ไม่ทุกคนที่จะทราบว่าแท้จริงแล้วสิวที่ตัวเองเป็นอยู่เรียกว่าสิวอะไร เรามาทำความรู้จักสิวแต่ละชนิดกันเถอะ..

                                                                        1. สิวอักเสบ คือ สิวที่เกิดจากการอุดตันในรูขุมขนและต่อมไขมันใต้ผิวหนัง จนปรากฏออกมาเป็นสิวในลักษณะต่าง ๆ มักทำให้เกิดการเจ็บปวดหากสัมผัสโดนผิวบริเวณนั้น

                                                                        สิว อักเสบมี 4 ชนิด ด้วยกัน

                                                                        • สิวตุ่มแดง มีลักษณะเป็นตุ่มแดง เป็นก้อนนูนขึ้น และมีอาการเจ็บปวด
                                                                        • สิวหัวหนอง เกิดจากการอักเสบบริเวณต่อมเหงื่อ และ รูขุมขน ลักษณะเป็นตุ่มหนองสีขาวตรงบริเวณหัวสิว
                                                                        • สิวก้อนลึก ลักษณะตุ่มสิวทั่วไป แต่ตุ่มจะเป็นก้อนแข็งขนาดใหญ่ลึกลงไปในชั้นผิวหนัง
                                                                        • สิวซีสต์ เป็นตุ่มสิวขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายฝี ภายในเป็นหนองอักเสบ เป็นสิวชนิดที่รุนแรงและทำให้เกิดอาการเจ็บปวดมากที่สุด

                                                                        2. สิวอุดตัน  คือ สิวขนาดเล็กที่เป็นตุ่มอุดตันใต้ผิวหนัง เป็นสิวชนิดที่ไม่เกิดการอักเสบ เกิดจากการอุดตันในรูขุมขน มักพบได้ที่บริเวณหน้าผาก และคาง

                                                                        สิวอุดตันมี 2 ชนิด ได้แก่

                                                                        • สิวหัวดำหรือสิว หัวเปิด จะมีลักษณะเป็นจุดสีดำปรากฏบนผิวหนัง เกิดจากการอุดตันของขน เนื้อเยื่อ และไขมัน แล้วโผล่พ้นขึ้นมาสัมผัสกับออกซิเจน ทำให้ไขมันเปลี่ยนเป็นสีดำ
                                                                        • สิวหัวขาว หรือสิวหัวปิด มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆสีขาวบนผิวหนัง เกิดขากเชื้อแบคทีเรียที่อุดตันภายในรูขุมขน ใต้ผิวจึงมองเห็นเป็นจุดสีขาวอุดตันอยู่บนผิวหนัง

                                                                        3. สิวผดผื่น คือ สิวที่มีลักษณะคล้ายกับผดผื่นขนาดเล็ก ลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ ใส ๆ เป็นสิวที่แสดงอาการเมื่ออากาศร้อน ยิ่งร้อนยิ่งเกิดขึ้นได้ง่าย และ มาก

                                                                        4. สิวสเตียรอยด์  คือ มีลักษณะเป็นเม็ดแดง ๆ ขึ้นกระจายทั่วทั้งใบหน้า หรือเป็นกระจุกในบริเวณใด บริเวณหนึ่ง แต่จะขึ้นมาเยอะมากบริเวณที่ทาครีม หรือยาที่มีสเตียรอยด์บริเวณนั้นเยอะ

                                                                        รู้จักสิว  เข้าใจสิว การรักษาก็ง่ายขึ้น การรักษาตั้งแต่ต้นเหตุของการเกิดสิว นั้นเป็นวิธีที่ถูกต้อง ส่วนมากคนที่รักษาไม่หายขาดสักที เกิดจากการรักษาไม่ถูกวิธี โดยส่วนมากจะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ทำให้การรักษาไม่เห็นผล สิวกลับมาใหม่ เป็นเป็นหาย ๆ เป็นวงจร ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดังนั้น ศูนย์บริการความงาม รมย์รวินท์ ได้มองเห็นถึงปัญหานี้ จึงได้นำนวัตกรรมตัวใหม่ที่ทันสมัยอย่าง Nupico Laser มาใช้ในการช่วยฟื้นฟูรักษาผิวได้ครบอย่างครอบคลุมจบทุกปัญหาผิว

                                                                        คุณสมบัติของ Nupico Laser

                                                                        นวัตกรรมใหม่ Nupico Laser จากประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้ดี อีกทั้งยังสามารถลบปานดำ ปานน้ำตาล ลบรอยสักได้หลากสี และขจัดรอยด่างดำ  ริ้วรอย กลบหลุมสิว รวมถึงปัญหาผิวที่ไม่พึงปรารถนา ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวกระตุ้นการสร้างคอลาเจนใต้ชั้นผิวได้อย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวพรรณกลับมาเรียบเนียน กระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์ โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาภายหลังการรักษาอย่างเลเซอร์รุ่นเดิมๆ.

                                                                        ดังนั้นวิธีการรักษาอย่างถูกวิธี สามารถทำให้สิวหายขาดได้ เป็นการรักษาสิวที่ได้ผลอย่างยั่งยืน การทำให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี ผิวไม่มีสิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขนช่วยลดปัญหาผิวได้  หากผิวระบายอากาศไม่ดีจะทำให้เกิดสิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขน ทำให้เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว การรักษาให้ผิวหน้าแข็งแรงสุขภาพดีนั้นเป็นสิ่งสำคัญ อีกทั้งยังส่งผลให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื่น  ผิวเปล่งปลั่ง เต่งตึง ไร้ซึ่งปัญหาผิว สิวไม่มาเยือนอีกต่อไป  …

                                                                        NuPicoLaser “รักษาสิว”รักษาสิวๆ ผิวไม่เรียบ

                                                                        NuPicoLaser

                                                                        หลายคนคงจะมีปัญหาเรื่องการแยกประเภทของสิวไม่ออก  ไม่เข้าใจว่าสิวที่ตัวเองเป็นอยู่เป็น สิวชนิดไหน นี่คือเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การรักษาสิวไม่ประสบความสำเร็จ ไม่หายขาดสักที การเลือกใช้วิธีในการรักษาสิวไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยี การเลือกทรีทเมนท์ หรือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ทีไม่ถูกกับปัญหาที่เป็นอยู่  กลับกลายเป็นการซ้ำเติมผิว มากกว่าการแก้ปัญหาผิว ในบางคนเป็นสิวหนักมากกว่าเดิม ส่งผลทำให้การรักษาสิวที่ผ่านมาไม่เห็นผลสักที และทำให้หลาย ๆคนกลายเป็นสิวเรื้อรังก่อนที่เราคิดจะหาสถานที่รักษาสิวที่ไหนดี วันนี้เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่าเค้าใช้วิธีการอะไรในการช่วยรักษาสิวให้หายไปจากหน้าเราได้เสียที

                                                                        NuPicoLaser คืออะไร

                                                                        Nupico Laser คือ นวัตกรรมใหม่ในการใช้เลเซอร์รักษาผิว ช่วยในการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ลบรอยสัก ปรับสีผิวให้กระจ่างใส ไร้ริ้วรอย ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนฟื้นฟูผิวใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวมีความเรียบเนียนขึ้น   ด้วยเทคโนโลยีของ Nupico Laser มีระบบการทำงานแบบใช้คลื่นพลังงานความถี่ที่สูงใช้ระยะเวลาที่สั้นมากในการรักษาเข้าไปทำให้เม็ดสีแตกตัวได้อย่างละเอียด

                                                                        ข้อดี ของ NuPicoLaser

                                                                        • ใช้พลังงานที่สั้น และสูงมาก ทำให้เม็ดสีแตกตัวได้อย่างละเอียด
                                                                        • ใช้เวลาในการักษาน้อย ช่วยให้ริ้วรอยของผิวจางหายได้เร็วขึ้น
                                                                        • การรักษาทำให้เจ็บน้อย
                                                                        • ไม่มีผลข้างเคียง หลังการรักษา ไม่เป็นแผล
                                                                        • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น

                                                                        NuPicoLaser รักษาอะไรได้บ้าง

                                                                        • รักษาปัญหารอยดำ เช่น กระ กระแดด จุดด่างดำ
                                                                        • ลบปานดำ ปานน้ำตาล
                                                                        • ลบรอยสักต่างๆ ได้ทุกสี
                                                                        • รักษาริ้วรอยแห่งวัยที่เพิ่มขึ้น, ฝ้าตื้น ฝ้าลึก ผิวหมองคล้ำ
                                                                        • ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนเสื่อมสภาพ
                                                                        • รักษาแผลเป็นจากหลุมสิว
                                                                        • แก้ไขปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวไม่กระชับ

                                                                        การรักษาผิวด้วยเทคโนโลยี นั้นเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับการรักษาปัญหาผิว และด้วยนวัตกรรมตัวใหม่อย่าง Nupico Laser  จากประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้ดีและที่สำคัญได้ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาผิวโดยเฉพาะ ประสิทธิภาพของพลังงาน NupicoLaser ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับสภาพผิวหน้า ที่เป็นอุปสรรคของความกระจ่างใสและเรียบเนียนบนใบหน้า รวมถึงรอยสักและรอยด่างดำต่างๆ บนร่างกาย ที่ทำให้ผิวพรรณดูหม่นหมอง สีผิวไม่สม่ำเสมอให้กลับมาเรียบเนียนสวยใสได้อีกครั้ง และนี่เป็นเพียงบางส่วนที่เราแนะนำเท่านั้น รมย์รวินท์ คลินิค ยังมีการบริการด้านความงามอย่างครบครัน เรื่องปัญหาผิว รมย์รวินท์ ช่วยได้นะค่ะ…

                                                                        รอยสิวเก่าไป รอยสิวใหม่มา “รักษาสิว” กับ NuPico ช่วยปรับผิวให้เนียนเรียบขึ้น

                                                                        NuPico

                                                                        สำหรับคนที่เคยรักษาสิวมาแล้ว มีหลายคนไม่น้อยที่ต้องเจอปัญหาสิวอักเสบเรื้อรัง สิวดื้อยา เคยรักษาแล้วไม่หายหาดสักที ซ้ำร้ายยังฝากร่องรอยจากสิวให้ปวดใจ ไม่ว่าจะเป็นผิวหลุมโลกพระจันทร์ จุดด่างดำ เก่าไปใหม่มาไม่รู้จบ สารพัดสารเพใช้แนวทางการรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ หลากหลายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของเราได้

                                                                        รู้ไหม รมย์รวินท์ คลินิค มีทางเลือกใหม่สำหรับการรักษาสิว ด้วย NuPicoLaser เทคโนโลยีน้องใหม่ มาให้บริการด้านความงามที่ถูกออกแบบมาเพื่อการดูแล ปรนนิบัติผิวโดยเฉพาะ เพราะการรักษาผิวไม่ใช่การรักษาแค่เพียงภายนอกเท่านั้น การรักษานั้นต้องเริ่มตั้งแต่ภายในมาสู่ภายนอก จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่ผิวจะต้องถูกฟื้นฟูสุขภาพผิวภายในควบคู่กับการฟื้นฟูบำรุงผิวภายนอก เพื่อแก้ไขปัญหาผิวให้หายไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ

                                                                        NuPico คืออะไร

                                                                        NuPico Laser คือ นวัตกรรมใหม่ ในการใช้เลเซอร์รักษาผิว ช่วยในการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ลบรอยสัก ปรับสีผิวให้กระจ่างใส ไร้ริ้วรอย ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวมีความเรียบเนียนขึ้น  เทคโนโลยีของ Nupico Laser มีระบบการทำงานแบบใช้พลังงานคลื่อนพลังงานที่สูงใช้ระยะเวลาที่สั้นมากในการเข้าไปทำให้เม็ดสีแตกตัวได้อย่างละเอียด

                                                                        ข้อดี ของ NuPico Laser

                                                                        • ใช้พลังงานอันสั้น และสูงมาก ทำให้เม็ดสีแตกตัวได้ละเอียด
                                                                        • ใช้เวลาในการักษาน้อย ช่วยให้ริ้วรอยของผิวจางหายได้เร็วขึ้น
                                                                        • การรักษาเจ็บน้อย
                                                                        • ไม่มีผลข้างเคียง หลังการรักษา ไม่เป็นแผล
                                                                        • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น

                                                                        เรื่องของสิวๆ  ไม่ใช่เรื่องกรรม หรือ กรรมพันธุ์ ที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาด ต้นเหตุเกิดจากการรักษาไม่ถูกวิธีต่างหาก ส่วนมากจะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ทำให้รักษายังไงไม่หายขาดสักที  วิธีการรักษาอย่างถูกวิธี คือการทำให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี ผิวชุ่มชื่น ผิวระบายอากาศได้ดี ทำให้ไม่มีสิ่งสกปรกอุดตัน หากผิวระบายอากาศไม่ดี จะทำให้เกิดสิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขน ทำให้เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว ดังนั้นการรักษาให้ผิวหน้าแข็งแรงสุขภาพดี สามารถทำให้สิวหายขาด เป็นการรักษาสิวที่ได้ผลอย่างยั่งยืน  เรื่องของผิว ให้รมย์รวินท์ คลินิค ดูแลนะค่ะ แล้วคุณจะเห็นถึงความต่าง…

                                                                        ผลัดเซลล์ผิวเก่า สร้างเซลล์ผิวใหม่ “รักษาฝ้า กระ” จัดการได้ NuPicoปิดจบทุกปัญหาผิว..

                                                                        226

                                                                        เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ผิวหน้าที่เคยสวยใสเรียบเนียนก็ไม่เป็นเหมือนดังเก่าเสียแล้ว   ฝ้า กระ จุดด่างดำทุกอย่างพร้อมใจกันมาแบบไม่ทันตั้งตัว  ผิวหน้าที่สวยใสเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา  แต่มันช่างเป็นไปได้ยากเมื่อผิวต้องเจอภาวะแวดล้อมรอบตัว ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นจากธรรมชาติ เช่น แสงแดด, ความร้อน จากภาวะมลพิษ ฝุ่นละออง ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ฯลฯ รวมถึงความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนทำให้ผิวหน้าหยาบกร้าน หมองคล้ำ ฝ้า กระ ตามมาผิวไม่เรียบเนียน  เมื่อใครต้องเจอกับปัญหาผิวหน้าแน่นอนความมั่นใจหายไปในทันทีต้องหาวิธีที่จะช่วยรักษาปัญหาผิวทำให้ผิวหน้ากลับมาขาวใส เนียนนุ่ม เหมือนอย่างเคย ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ช่วยกู้หน้า ให้ฟื้นคืนชีพอย่างเป็นธรรมชาติ

                                                                        เทคโนโลยี เปลี่ยนโลกกับนวัตกรรมใหม่ ปฎิวัติ การทำงานของเลเซอร์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ นั้นก็คือ Laser NuPico เป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของเลเชอร์ใหม่โดยสิ้นเชิง พลังงานของแสงเลเซอร์จะคลื่นที่ด้วยความถี่สูง ที่มีความเร็วของคลื่นแสงที่เคลื่อนตัวที่ระดับความเร็ว 1 ต่อล้าน ล้าน วินาที ส่งตรงเข้าทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติด้วยการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และ เร็วมาก ๆ โดยไม่ก่อให้เกิดความร้อน สะสมบริเวณรอบๆ ผิว ซึ่งแตกต่างจาก เลเซอร์รุ่นเก่า ที่ใช้กันมา

                                                                        NuPico คืออะไร

                                                                        NuPico เป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการรักษาความงาม รักษาปัญหาผิว โดยใช้แสงเลเซอร์ ในการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ  ความหมองคล้ำอย่างเป็นธรรมชาติ โดยคุณสมบัติของเลเซอร์ NuPico จะส่งคลื่นพลังงานความถี่สูงเข้าไปยังใต้ชั้นผิว และใช้เวลาในรักษาปัญหาผิว สั้นมาก ๆ คลื่นพลังงานแสงของ เลเซอร์ NuPico จะยิงเข้าไปยังชั้นผิวหนังบริเวณที่มีปัญหา ส่งผลให้เม็ดสีที่รวมตัวกันอยู่เป็นกลุ่มก้อนใต้ชั้นผิวหนังเกิดการแตกตัว กระจายออกไปอย่างรวดเร็วในทันที จึงยังไม่ทำให้เกิดความร้อนสะสมใต้ชั้นผิวหนัง ช่วยลดความเสี่ยงผิวแสบไหม้ ไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงจากการรักษา  และที่สำคัญในระหว่างทำการรักษาไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด ไม่มีอาการบวม แดง แสบผิว หลังทำไม่ต้องพักฟื้น หลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

                                                                        image003 2

                                                                        Laser NuPico  ช่วยแก้ปัญหา

                                                                        • ผิวหน้าหมองคล้ำ
                                                                        • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
                                                                        • ช่วยลดริ้วรอย จุดด่างดำ
                                                                        • ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใส
                                                                        • ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

                                                                        นวัตกรรม  Laser NuPico ช่วยรักษาปัญหาผิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ  ปรับสีผิวให้กระจ่างใส อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  นอกจากนั้นยังช่วยรักษาผิวบริเวณผิวหน้าได้ดีแล้ว ยังสามารถรักษาผิวบริเวณ แขน หลังมือ ตามลำตัว รวมทั้งบริเวณริมฝีปาก รักแร้ และบริเวณฐานนมได้อีกด้วย การรักษา เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ารับการรักษา และรักษาต่อเนื่องได้ โดยเว้นระยะห่างเดือนละ 1 ครั้ง  ทำแค่เพียง 1 – 2 ครั้ง  ก็สามารถเปลี่ยนผิวใหม่ผลัดเซลล์ผิวเก่าออกจากหน้า ด้วยเทคโนโลยี Laser Nupico ที่สามารถให้พลังงานความถี่สูง ใช้ระยะเวลาสั้นมากในการทำให้เม็ดสีแตกตัวได้อย่างละเอียด จึงใช้เวลาในการรักษาน้อยกว่าเลเซอร์ระบบเก่า

                                                                        ทีนี้ไม่ว่าใคร ๆ ก็พร้อม อวดผิวสวยเผยผิวกระจ่างใส กันได้ทุกวัน ไม่ต้องกังวลใจเหนียมอายกันอีกต่อไป ผิวสวย ๆ ใส ๆ ใคร ๆ ก็ชอบ ผิวเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติแล้วคุณจะหลงรักผิวขึ้นมาในทันทีเมื่อได้ผิวสวยกลับมาแล้ว อย่าลืมใช้ครีมกันแดดด้วยละหลีกเลี่ยงแสงแดดด้วยยิ่งดี หน้าเราจะได้เนียนใส อยู่คู่กับเราตราบนานแสนนาน..

                                                                        จบทุกปัญหาผิวด้วย Nu Pico “รักษาฝ้า กระ รอยดำ หลุมสิว” เผยผิวเนียนเรียบ สว่างใส

                                                                        224

                                                                        การหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เป็นฝ้า กระ ผิวหน้าไม่เรียบเนียนใส  อันเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อความสวย สาเหตุการเกิดจากปัญหาฝ้ากระนั้น ถือว่าเป็นปัญหาของหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะหญิง หรือ ชาย ก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น แถมยังรักษาให้หายขาดได้ยากอีกด้วย ฝ้า กระ นั้นเป็นเหตุทำให้เกิดเป็นรอยด่างดำบนใบหน้า ซึ่งเกิดมาจากการทำงานที่ผิดปกติของเม็ดสีเมลานินที่เกิดขึ้นใต้ชั้นผิวก่อ

                                                                        ตัวรวมกัน จนเห็นเป็นสีน้ำตาลดำ บนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด แต่เราสามารถรักษาฝ้ากระให้หายขาดได้โดยการใช้เทคโนโลยี และวิธีทางธรรมชาติเข้าช่วย ให้สาวๆ ได้อวดหน้าใสแบบไม่พลาดอย่างมั่นใจเต็ม 100 มาดูวิธีรักษาฝ้ากระอย่างถูกต้องและเหมาะสม กับทุกๆ คนกัน อยากให้ฝ้า กระ หายขาดตามเลยนะค่ะ

                                                                        วิธีการรักษาฝ้า กระ นั้นมีหลากหลายวิธี  ซึ่งการรักษาฝ้า กระ นั้นสามารถใช้สารเคมี และการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ ก็สามารถรักษาฝ้า กระให้หมดไปได้แต่ที่เราจะแนะนำนี้ เป็นการใช้เทคโนโลยี ทางการแพทย์สมัยใหม่ช่วยรักษาฝ้า กระ ด้วยนวัตกรรมที่ถูกคิดค้นขึ้นมา เพื่อตอบสนองคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการ การรักษาที่เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว สะดวก ไม่ยุ่งยาก  จึงได้เกิดนวัตกรรมตัวนี้ขึ้นมา

                                                                        นวัตกรรมตัวนี้ ปฎิวัติประสิทธิภาพ การทำงานของเลเซอร์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ นั้นคือ Laser Nu Pico เป็นการเปลี่ยนวิธีการทำงานของเลเชอร์ โดยใช้พลังงานแสงเลเซอร์ด้วยคลื่นความถี่สูง ที่มีความเร็วของคลื่นแสงที่เคลื่อนตัวที่ระดับความเร็ว 1 ต่อล้าน ล้าน วินาที ส่งตรงเข้าทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติด้วยการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และ เร็วมาก ๆ โดยไม่ก่อให้เกิดความร้อน สะสมบริเวณรอบๆ ผิว ซึ่ง Laser Nu Pico แตกต่างจาก เลเซอร์รุ่นเก่า ที่ใช้กันมา

                                                                        225

                                                                        วิธีการรักษาฝ้า กระ ด้วย Nu Pico

                                                                        Nu Pico เป็นพลังงานคลื่นแสงเลเซอร์ความเร็วสูง ทางเลือกใหม่ในการรักษาฝ้า กระ  ทำงานโดยการส่งพลังงานคลื่นแสงความถี่สูง เข้าไปยังใต้ชั้นผิว ด้วยพลังคลื่นแสงเลเซอร์ จะเข้าไปทำลายเม็ดสีที่ใต้ผิวที่กระจุกรวมตัวกันอย่างหนาแน่น ให้แตกกกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเม็ดสีที่รวมกันนี้เป็นต้นเหตุทำให้ผิวหมองคล้ำดำเสีย ผิวหน้าไม่กระจ่างใส พลังงานแสงเลเซอร์ Nu Picoสามารถกำจัดเม็ดสีให้จางลงได้ในทันที ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำทั้งหลายที่เป็นเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อความสวย จึงจางลง และทำให้ผิวค่อย ๆ กระจ่างใสขึ้น และเห็นผลลัพธ์ได้ในการรักษาฝ้า กระเพียงไม่กี่ครั้งอีกทั้งไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ ที่ทำให้กังวล หลังการรักษา สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เคล็ดลับ!! อย่าลืมทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ออกจากบ้านด้วยละ

                                                                        ทีนี้ไม่ว่าใคร ๆ ก็สามารถอวดหน้าใสแบบไม่พลาดได้อย่างมั่นใจ Nu Pico ช่วยจบปัญหาผิว อุปสรรคใหญ่ของสาว ๆ  กับทางเลือกใหม่ในการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำให้หายขาด อีกทั้งยังเป็นที่น่าพึงพอใจทั้งผู้ให้การรักษา และผู้รับการรักษา Win Winกันไป ที่สำคัญการรักษาด้วย เลเซอร์ Nu picoไม่เกิดผลข้างเคียง ไม่ต้องกังวลเรื่องการเกิดรอยหลังการรักษา  จึงเปรียบเสมือนของเล่นตัวใหม่ที่สาว ๆ ไม่ควรพลาด กับประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม เทคโนโลยีน้องใหม่ที่สาว ๆ ต้องตกหลุมรัก อีกทั้ง Nu Pico ยังให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจ เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องฟักฟื้น จำนวนครั้งในการรักษาก็น้อย ลืมเลเซอร์ในยุคเก่าไปได้เลย..หมดยุคแล้วเลเซอร์ แบบเจ็บๆ ………………

                                                                        จัดการมันซะ “รักษาฝ้า กระ” กำจัดจุดด่างดำ ความหมองคล้ำ ให้ผิวหน้าเรียบเนียนอย่างหมดจด..

                                                                        222

                                                                        ฝ้า เกิดจากการที่เม็ดสีผิวหรือเม็ดสีเมลานิน (Melanin pigment) ทำงานมากเกินไป จึงทำให้สีผิวดำคล้ำเป็นหย่อม ๆ สีผิวไม่สม่ำเสมอ เนื่องมาจากเม็ดสีเมลานินที่ทำหน้าที่กรองรังสียูวี เมื่อผิวได้รับแสงแดดมากขึ้น เม็ดสีเมลานินก็จะถูกผลิตออกมามากขึ้นตามไปด้วย รังสีที่ส่งผลต่อการเกิดฝ้านั้นคือ “รังสี UVA” ซึ่งรังสียูวีเอจะมีช่วงคลื่นที่ยาวกว่ารังสียูวีบี จึงสามารถทำลายผิวได้ลึกกว่า เมื่อตากแดดเป็นเวลานาน ๆ ผิวจึงคล้ำเสียได้ และนอกจากแสงแดดแล้ว การใช้เครื่องสำอางบางชนิดที่มีส่วนผสมของสารสเตรอย การทานยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด รวมไปถึงฮอร์โมนและกรรมพันธุ์ ก็เป็นสาเหตุของการเกิดฝ้าได้เช่นกัน (ถ้าสาเหตุการเกิดฝ้ามาจากกรรมพันธุ์ ก็ต้องคิดหนักหน่อยสำหรับการรักษา เพราะการรักษาค่อนข้างยากที่จะหายขาดได้)

                                                                        223

                                                                        ประเภทของฝ้า

                                                                        • ฝ้าแบบตื้น จะอยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า (ผิวหนังชั้นนอก) ฝ้าชนิดนี้จะเป็นสีน้ำตาล ขอบชัด เกิดขึ้นได้ง่าย
                                                                        • ฝ้าแบบลึก จะอยู่ในระดับที่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า ความลึกของมันจะทำให้เกิดเป็นสีน้ำตาลอมฟ้าหรือสีน้ำตาลอมม่วง เป็นฝ้าที่รักษาได้ยาก

                                                                        เมื่อเกิดฝ้า กระ ขึ้นแล้วการรักษาค่อนข้างยาก การป้องกัน กำจัดจุดด่างดำจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด หลีกเลี่ยงแสงแดดเท่าที่ทำได้ แต่ถ้าหากจำเป็นต้องเผชิญกับแสงแดด ควรทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันผิวจากรังสียูวี โดยเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 ขึ้นไป และต้องเป็นแบบ PA+++ ด้วย ถึงจะช่วยปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าต้องอยู่กับแสงแดดตลอดทั้งวัน คงต้องเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงขึ้นมากไปอีก โดยหมั่นทาครีมกันแดดบ่อย ๆ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าครีมกันแดดยังคงมีประสิทธิภาพดีพอต่อการป้องกันแสงแดด และพวกไอร้อนจากเตา รังสีจากหน้าจอคอมฯ ก็เป็นอีกสาเหตุทำให้เกิดฝ้าได้เช่นกัน  นอกจากการดูแลผิวจากภายนอกแล้ว การดูแลตัวเองจากภายในโดยการรับประทานทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี ที่เป็นตัวช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น จึงเป็นตัวช่วยที่ดีเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ฝ้าขยายตัวใหญ่เพิ่มขึ้น หรือบางตัวมีส่วนทำให้เม็ดสีผิวจางลงได้เหมือนกัน

                                                                        image005 1

                                                                        เทคโยโลยี จัดการฝ้า กระ

                                                                        ปัจจุบันมีนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยในการรักษาฝ้า รักษาปัญหาผิว ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ดีที่สุดก็ว่าได้ ซึ่งวงการแพทย์ผิวหนัง กำลังเป็นที่นิยมกันอย่างมากในการนำเทคโนโลยี ตัวนี้เข้ามาทำการรักษาผิว  เทคโนโลยีน้องใหม่ตัวนี้ เป็นนวัตกรรมที่ดีที่สุดแห่งยุคก็ว่าได้ นั่นคือ เทคโนโลยี เลเซอร์  NuPico การทำงานของมันจะส่งพลังงานแสงเลเซอร์ เข้าถึงเม็ดสีที่ผิดปกติไม่ว่าจะเป็นฝ้า กระ หรือ กำจัดจุดด่างดำ รอยดำจากหลังสิวที่รักษาได้ยาก และใช้เวลานาน สามาราถรักษาให้หายขาดได้  ด้วยความถี่สูงของเลเซอร์ ที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงนี้เป็นเทคโนโลยีที่เลเซอร์รุ่นเก่าทำไม่ได้ พลังงานแสงเลเซอร์จะเข้าไปทำให้เม็ดสีที่รวมกันอย่างหนาแน่นที่กระจุกตัวรวมกันจนมองเห็นเป็นเม็ดสีเข้มบนผิวหน้า เกิดการแตกกระจายตัวออกทำให้จุดต่าง ๆ เหมือนถูกดูกซึมออกจากผิว โดยไม่มีการสะสมความร้อนในบริเวณผิวรอบ ๆ แต่อย่างใด เม็ดสีที่ผิดปกติที่ถูกคลื่นพลังงานแสงเลเซอร์เข้าไปทำลายจะจางลงในทันที สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่การรักษาในครั้งแรก และไม่มีผลข้างเขียงใด ๆ ไม่ทำให้เจ็บ ไม่เสี่ยงผิวไหม้ เห็นผลการรักษาที่รวดเร็ว ในการรักษาเพียงไม่กี่ครั้ง

                                                                        สำหรับผู้ที่ไม่อยากเผชิญกับปัญหาฝ้า กระบนใบหน้าแล้วละก็ ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดฝ้ากระขึ้นได้  หากคนที่ประสบปัญหาแล้ว เมื่อมีเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพดีขนาดนี้ คงไม่ต้องมานั่งกลุ่มใจกับปัญหา หนักอก ที่ยากแก้ไขอีกต่อไป ด้วยพลังการรักษาของเลเซอร์ NuPico นี้นั้นให้ผลลัพธ์ที่หน้าทึ่งอยู่ไม่น้อย กับการรักษาฝ้ากระ กำจัดจุดด่างดำที่สามารถขจัดฝ้ากระให้หมดไปจากผิวเราได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งไม่มีความเสี่ยงใด ๆ รู้อย่างนี้แล้ว จะรอช้าอยู่ใย จัดการมันออกไปซะ..อย่าปล่อยให้มันรกหน้าอีกต่อไป

                                                                        ฝ้าหลุด คืนผิวกระจ่างใส “รักษาฝ้า กระ” Nu Pico ให้ผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ

                                                                        220

                                                                        คงมีคนที่มีความกังวลเรื่องฝ้าบนใบหน้ากันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งถ้าผิวคนเราไม่มีความเสี่ยงที่จะต้องโดนแสงแดดมาก และโดนแสงแดดโดยตรง อาจไม่เกิดปัญหาสักเท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่ต้องเผชิญกับมลภาวะ อีกทั้งแสงแดดอันเจิดจ้า แผ่รังสีอุลตร้าไวโอเลตอย่างเต็มกำลัง แล้วมากระทบผิวเรานี่สิ คงจะหลีกเลี่ยงได้ยากที่จะไม่มีการรวมตัวของสีผิวที่เข้มขึ้น ซึ่งที่ใช้เรียกกันว่า หน้าขึ้นฝ้า หน้าขึ้นกระ ทีนี้แหละ พอได้ขึ้นหน้า มันก็ชวนกันมาเต็มขบวน ทั้งฝ้า ทั้งกระ ริ้วรอย จุดด่างดำ ตามมาเป็นแถว ซึ่งพอถึงจุดนี้แล้วถือว่ายากต่อการรักษาด้วยการใช้ครีมบำรุง ใช้ครีมกันแดด จะทุกชนิด ก็ไม่ได้ผลแล้ว

                                                                        ดังนั้นเรามาทำความรู้จัก ฝ้า กันว่ามันเกิดจากอะไร อะไรคือต้นเหตุ

                                                                        ฝ้า (Melasma)  คือ  การที่ผิวมีรอยคล้ำสีดำ  หรือน้ำตาลอ่อน ที่บริเวณใบหน้า  มักจะเกิดขึ้นบริเวณโหนกแก้ม  คาง  หน้าผาก  และปลายจมูก

                                                                        image003 1

                                                                        สาเหตุของการเกิดฝ้า

                                                                        1. ฝ้าฮอร์โมน เมื่อมีฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มากเกินไป เช่น การหลั่งฮอร์โมนช่วงตั้งครรภ์ หรือ การหลั่งฮอร์โมนจากต่อมหมวดไตซึ่งทำให้เซลล์สร้างเม็ดสี  (Melanocytes)  ในชั้นผิวหนังผลิตเม็ดสี  (Melanin) ออกสู่ผิวหนังไม่สม่ำเสมอ จึงมีการกระตุ้นสร้างเม็ดสีที่ผิดปกติ หรือ กระตุ้นเม็ดสีให้เข้มกว่าเดิม จึงทำให้เกิดฝ้าขึ้นได้
                                                                        2. การได้รับแสงรังสี UVA และ UVB โดยตรงหรือบ่อยครั้ง ทำให้เซลล์เม็ดสีในผิวหนังได้รับการกระตุ้นให้ผลิตเม็ดสีเพิ่มขึ้น สีผิวจึงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีที่เข้มขึ้น
                                                                        3. จากการใช้เครื่องสำอาง เช่น ครีมหน้าขาวใสที่มีส่วนผสมของสารเคมี สารกันบูด หรือสารปรอท ตะกั่ว สารจำพวกนี้อาจมีสารที่ทำให้เกิดภาวะผิวบาง  เหมือนเป็นการกระตุ้นให้ฝ้าเกิดขึ้นได้ง่ายจะเห็นว่าตอนแรกทาไปหน้าจะขาวเรียบเนียน พอนานเข้า หน้าจะเริ่มเป็นคนแพ้ง่ายเพราะผิวถูกทำลายให้บางลงเมื่อหยุดใช้จะเห็นมีฝ้าขึ้นทาเท่าไหร่ไม่หายและมีเส้นเลือดฝอยขึ้น หน้าแดง ทำให้มีสีน้ำตาลเข้มเป็นจุด ๆ เมื่อสะสมมากขึ้นจึงทำให้เป็นฝ้าได้

                                                                        ปัจจุบัน หลายคนอาจจะยังไม่ทราบกระบวนการรักษาฝ้านั้น มีการพัฒนากันมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ ที่ดีทั้งผู้ให้การรักษา และ ผู้รับการรักษา ด้วยนวัตกรรมใหม่ที่มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้ได้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยให้การรักษาผิวเป็นเรื่องง่าย ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป ในวงการแพทย์ผิวหนัง เสริมความงาม เทคโนโลยีน้องใหม่ที่ว่านี้นี้ มีการพิสูจน์แล้วว่าให้ผลลัพธ์ที่ตรงจุด และ โดนใจกันมาก ๆ  นั่นก็คือ เทคโนโลยีการใช้ เลเซอร์  NuPico ในการรักษาปัญหาผิว ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีมีประสิทธิภาพ คืนผิวกระจ่างใส ช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน  แลดูอ่อนเยาว์เป็นธรรมชาติ  เหมือนช่วยดึงอายุออกไปจากเบ้าหน้า อีกทั้งมีความความปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียงใดๆ

                                                                        NuPico คืออะไร

                                                                        NuPico เป็นพลังงานแสงเลเซอร์ ที่สามารถส่งพลังงานด้วยคลื่นความถี่ที่สูงมาก ๆ เข้าไปยังใต้ชั้นผิว โดยเข้าไปทำให้เม็ดสีที่ผิดปกติซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผิว เป็นฝ้า กระ  มีความหมองคล้ำ ดำเสีย สีผิวไม่สม่ำเสมอ หรือรอยดำต่าง ๆ บนใบหน้า พลังงานของแสงเลเซอร์ Nupico ที่มีความถี่สูงมากๆ นี้ ได้เคลื่อนตัวด้วยความเร็วสูงในระดับ 1 ต่อ ล้าน ล้าน วินาที ที่เข้าไปกระทบเม็ดสีให้เกิดการแตกตัวด้วยระบบการสั่นสะเทือนแบบรวดเร็ว  ทำให้เม็ดสีที่รวมตัวกันอยู่เป็นกลุ่มใต้ผิวหนัง เกิดการแตกตัวของเม็ดสีกระจายออกไปในทันที โดยไม่ทำให้เกิดเป็นความร้อนสะสม ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียง Nupico เป็นนวัตกรรมน้องใหม่สำหรับการรักษาฝ้า กระ ช่วยคืนผิวกระจ่างใส อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

                                                                        เป็นอย่างไรบ้างค่ะ NuPico น้องใหม่ในวงการความงามที่สาว ๆ ไม่ควรพลาด กับการรักษาที่ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และไม่ต้องกังวลเรื่องการเกิดรอยบวม แดง คืนผิวกระจ่างใส หลังการรักษา อีกทั้งยังช่วยลดจำนวนครั้งในการรักษาน้อยลง  ซึ่งไม่เหมือนการรักษาด้วยเลเซอร์ในยุคเก่า ๆ ที่ใช้กันมา ซึ่งจะเห็นได้ว่าคลื่นพลังแสงความถี่สูงของ เลเซอร์ NuPico นี้ เป็นการปฎิวัติการทำงานของเลเซอร์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์การรักษาปัญหาผิว และทางการแพทย์

                                                                        รับมือกับจุดด่างดำ ริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ ให้ถูกจุด “รักษาฝ้า กระ” ด้วย NuPico เหมือนได้ชีวิตใหม่

                                                                        219

                                                                        ทุกวันนี้จะเห็นได้ว่าการที่มีผิวสุขภาพดี ผิวหน้ากระจ่างใสแลดูเป็นธรรมชาตินั้น ดูเหมือนว่าไม่ใช่แค่สาว ๆ แล้วสินะ  ทุกเพศ ทุกวัย ล้วนมีความต้องการผิวสุขภาพดีด้วยกันทั้งนั้น แต่ที่เห็นเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด ก็คงจะเป็นบรรดากลุ่มสาว ๆ ซะส่วนใหญ่ สาวคนไหนที่มีสภาพผิวหมองคล้ำ มีจุดริ้วรอยด่างดำ ไม่กระจ่างใส รอยสิว ฝ้าขึ้นหน้า กระ ขึ้นมารบกวนจิตใจ คงจะต้องหาวิธีมาบำรุง รักษากันยกใหญ่ หลากหลายวิธีการ หลากหลายตัวช่วยที่หามาใช้ ตามแบบฉบับของแต่ละคน

                                                                        image003

                                                                        สาวๆ บางคนอาจเลือกวิธีธรรมชาติตามความถนัด ความชอบ ความสะดวก แล้วแต่สูตรของใคร ก็ของใครสินะ ในวิธีธรรมชาติที่คัดสรรมาอย่างดีแล้วนั้น ประสิทธิภาพการรักษาก็ยังพอได้อยู่ แต่อาจจะใช้เวลาค่อนข้างนานสักหน่อยกว่าที่จะได้ผิวสวย ผิวหน้ากระจ่างใส กว่าที่ผิวจะผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพให้หลุดออก และจางลง อีกทั้งจะต้องมีความขยันเป็นทุนหมั่นดูแลเอาใจใส่กันสักหน่อยนะ สำหรับสูตรธรรมชาติบำบัด

                                                                        สาว ๆ บางคนอาจเลือกวิธีลัด ที่สะดวกรวดเร็ว ทำแล้วเห็นผลรวดเร็วทันใจ สบายใจกันไป ก็เลือกใช้เทคโนโลยีในการรักษา อย่างเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ อย่าง นวัตกรรม เลเซอร์ NuPico รักษาผิวหน้า ให้ผิวหน้ากระจ่างใส อยากทราบกันแล้วใช่มั๊ยละว่า ไอ้เจ้า เลเซอร์ NuPico นี้ คืออะไร ช่วยรักษาผิวเราได้อย่างไร เรามาทำความรู้จักกันเลยค่ะ

                                                                        image005

                                                                        NuPico คืออะไร

                                                                        NuPico เป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการแพทย์รักษาความงาม รักษาผิว โดยใช้แสงเลเซอร์ ในการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ  ความหมองคล้ำ ผิวหน้ากระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ โดยคุณสมบัติของเลเซอร์ NuPico จะส่งคลื่นพลังงานความถี่สูงเข้าไปยังใต้ชั้นผิว และใช้เวลาในการรักษาสั้นมาก ๆ คลื่นพลังงานแสงของ เลเซอร์ NuPico จะยิงเข้าไปยังชั้นผิวหนังบริเวณที่มีปัญหา ส่งผลให้เม็ดสีที่รวมตัวกันอยู่เป็นกลุ่มก้อนใต้ชั้นผิวหนังเกิดการแตกตัว กระจายออกไปอย่างรวดเร็วในทันที จึงยังไม่ทันได้เกิดความร้อนสะสมใต้ชั้นผิวหนัง จึงช่วยทำให้ลดความเสี่ยงทำให้ผิวแสบไหม้ ไม่เกิดผลข้างเคียงจากการรักษา  และที่สำคัญในระหว่างทำการรักษาไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด ไม่มีอาการบวม แดง แสบผิว หลังทำไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ทำให้สามารถเผยผิวหน้ากระจ่างใส อวดผิวสวยกันได้ทุกเจน ไม่ว่าเจนไหน ๆ ก็พร้อมเผยผิวสวย เปิดผิวใส สู่สายตาชาวโลกได้ยลโฉมกัน

                                                                        ข้อดีของ เลเซอร์ NuPico

                                                                        • รักษาฝ้า กระ ให้จางลง
                                                                        • ทำให้ผิวเรียบเนียน
                                                                        • ช่วยกลบหลุมสิว
                                                                        • ปราบผิวหมองคล้ำ
                                                                        • ผิวหน้ากระจ่างใส

                                                                        จะเห็นได้ว่าการรักษาผิวหน้านั้น นอกจากวิธีธรรมชาติบำบัด การใช้ครีมบำรุงผิวรักษาผิวนั้น ช่วยให้ผิวสวยได้เหมือนกัน แต่ก็มีข้อแตกต่างที่น่าจะ เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจอยู่บ้างสำหรับสาว ๆ  ที่จะเห็นได้อย่างชัดเจน คือ การใช้เลเซอร์ช่วยในการรักษานั้นได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เห็นผลชัดเจนอย่างมีประสิทธิภาพ และการทำงานของ เลเซอร์ NuPico นั้น ถือว่าเป็นการปฎิวัติวงการเลเซอร์  การรักษาความงามด้วยเลเซอร์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์วงการแพทย์ด้านผิวหนังอย่างเห็นได้ชัด ด้วยประสิทธิภาพการรักษาที่สามารถทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติ ได้ผิวใหม่กลับมา อีกทั้งยังไม่ก่อให้เกิดความร้อนเหมือนเลเซอร์แบบเดิมอีกต่อไป

                                                                        ให้ Love Lift คืนความสาว “กระชับช่องคลอด” ฟิตกระชับจุดซ่อนเร้น ให้รักเราไม่เก่าเลย

                                                                        217

                                                                        อาการช่องคลอดแห้ง (Vaginal Dryness) เป็นอาการหรือภาวะภายในช่องคลอดขาดเมือกหล่อลื่นหรือมีน้อยลงกว่าปกติ ทำให้เยื่อบุช่องคลอดขาดความชุ่มชื่นจนเกิดความแห้งกร้านและอาจก่อให้เกิดอาการเจ็บขึ้นได้ ซึ่งสามารถพบได้ในผู้หญิงทุกวัย และพบได้มากกับผู้หญิงวัยทอง แต่ผู้หญิงที่มีภาวะช่องคลอดแห้ง ไม่กระชับช่องคลอด อาจมีอาการได้ตลอดเวลา ในบางรายอาจมีอาการเป็นระยะหรือเฉพาะในขณะมีเพศสัมพันธ์

                                                                        แม้ว่าภาวะช่องคลอดแห้ง ไม่กระชับช่องคลอดเกิดขึ้นได้บ่อยในผู้หญิงและสามารถดีขึ้นได้เอง แต่หากอาการที่เกิดขึ้นกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันแล้วละก็ ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ ช่องคลอดขาดน้ำหล่อลื่น ช่องคลอดแห้ง ท้ายที่สุดจนนำไปสู่ปัญหาระหว่างคู่ครอง ความรักที่ดูหวานชื่น ความสุขทางเพศลดลง อาจส่งผลในระยะยาวได้หายไม่ทำการรักษาอย่างจริงจัง

                                                                        โปรแกรม Love Lift เทคโนโลยีทางเลือกใหม่แก้ปัญหาจุดซ่อนเร้น

                                                                        Love Lift เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยเรื่องการรีแพร์แบบก้าวกระโดดในวงการเสริมความงาม ทำให้ผู้หญิงมีทางเลือกมากขึ้นในการแก้ปัญหาความไม่กระชับจุดซ่อนเร้น ล่าสุด รมย์รวินท์ คลินิก ได้นำโปรแกรม เลิฟ ลิฟท์ (Love Lift) เข้ามาให้บริการกับสาวๆ ได้ดูแลตัวเองให้ลึกไปถึงจุดซ่อนเร้น กระชับช่องคลอด เพราะผู้หญิงหลายคนประสบกับปัญหาผิวบริเวณพื้นที่ส่วนตัวไม่กระชับ ทางเลือกใหม่ที่มีประสิทธิภาพ  ให้การรักษาที่ง่ายและไม่ต้องทนเจ็บปวด  มีปลอดภัยและรวดเร็ว สะดวกสบายต่อการรับบริการ ไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอีกต่อไป Love Lift เข้ากระชับจุดซ่อนเร้น กระชับช่องคลอด เครื่องจะทำงานด้วยการปล่อยคลื่นพลังงานต่ำ เพื่อเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในช่องคลอด ในอุณหภูมิความร้อนระดับอุ่นๆ ที่เหมาะสม ไปช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินขึ้นมาใหม่ แบบเฉพาะเจาะจงไปตรงบริเวณ ที่เป็นจุดศูนย์

                                                                        รวมของการรับความรู้สึกทางเพศ ฟื้นฟูคอลลาเจนฟื้นฟูกระชับช่องคลอด จุดซ่อนเร้นกระชับ อีกทั้งช่วยแก้ปัญหาอาการปัสสาวะเล็ด โดยไม่ต้องผ่านการผ่าตัด 

                                                                        ใครบ้างที่เหมาะสำหรับรับบริการโปรแกรม Love Lift

                                                                        • ผู้ที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาเป็นระยะเวลานาน
                                                                        • ผู้ที่ผ่านการคลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาติ
                                                                        • ผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน
                                                                        • ผู้ที่มีปัญหาขาดความชุ่มชื่นภายในช่องคลอด
                                                                        • ผู้ที่มีอาการปัสสาวะเล็ด กระปริดกระปอย

                                                                        โปรแกรม Love Lift นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาปัสสาวะเล็ดแล้ว ยังช่วยฟื้นฟูความสาวและคืนความฟิตกระชับช่องคลอดกลับมาอีกครั้ง โดยไม่ต้องผ่าตัดที่สำคัญไม่เจ็บและให้ความปลอดภัย ปัญหาน้องสาวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น จนคุณสามีหมดรัก ให้รักหวานอีกครั้งด้วย Love Lift คืนความสาว “กระชับช่องคลอด”  ช่วยฟิตจุดซ่อนเร้น   ให้รักเราไม่เก่าเลย ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงหาก สงสัยว่าตัวเองเกิดปัญหาภาวะช่องคลอดแห้ง ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการหาวิธีรักษาที่เหมาะ ให้คืนความมั่นใจในความเป็นหญิงได้อย่างมั่นใจ..

                                                                        ช่องคลอดไม่กระชับ Love Lift “กระชับช่องคลอด” ฟื้นฟูจุดซ่อนเร้น

                                                                        109
                                                                        image001 89

                                                                        ผู้หญิงเรานอกจากจะดูแลความสวยความงาม หน้าตา รูปร่าง แล้วยังไม่เพียงพอ ยังมีอีกหลายจุดที่ต้องได้รับการดูแล และใส่ใจกับมัน หน้าสวยอย่างเดียวไม่ได้แล้ว สำหรับผู้หญิงยุคใหม่ ซึ่งจุดสำคัญอีกจุดที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ก็เรื่องสุขภาพของช่องคลอด ผิวบริเวณจุดซ่อนเร้น ของสาวๆ ก็ต้องการ การดูแล ไม่แพ้ผิวส่วนอื่นเหมือนกัน

                                                                        ปัจจุบันการดูแลกระชับช่องคลอด ด้วยวิธีธรรมชาติอาจไม่เพียงพอ ล่าสุด รมย์รวินท์ คลินิก มีโปรแกรม “เลิฟ ลิฟท์ (Love Lift)” ที่ช่วยทำให้ผู้หญิงได้ดูแลตัวเองไปถึงจุดซ่อนเร้น เพราะผู้หญิงหลายคนอาจต้องประสบกับปัญหากับความไม่กระชับของช่องคลอด ปัญหาช่องคลอดหลวมไม่กระชับ อาจเพราะเกิดจากการคลอดบุตรแบบธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งภาวะช่องคลอดแห้ง ที่รวมไปถึงสตรีในวัยใกล้หมดประจำเดือน  นั่นเป็นเพราะฮอร์โมนเพศที่เริ่มน้อยลง ปัญหาไม่กระชับช่องคลอดนี้ ยังเป็นต้นเหตุทำให้เกิดภาวะปัสสาวะเล็ด กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ตามมาอีกด้วย

                                                                        สาเหตุของปัญหาช่องคลอด ไม่กระชับ

                                                                        ปัญหาช่องคลอด ไม่กระชับนั้น เกิดจากสาเหตุของการเสื่อมสภาพของเส้นใยคอลลาเจน ซึ่งทำหน้าที่เหมือนโครงเหล็กที่ยึดตรึงให้ช่องคลอดกระชับ เกิดการเสื่อมสลาย หายไปอันเนื่องจากวัยที่เพิ่มมากขึ้น หรือหากเกิดก่อนเวลาอันควร อาจเป็นเพราะเกิดการฉีกขาด ในตอนคลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาติ แม้ว่าจะออกกำลังกายเพื่อบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานให้แข็งแรง การขมิบช่องคลอดเพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับ ซึ่งก็สามารถช่วยกระชับช่องคลอดได้ แต่จะเป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาในระยะเริ่มต้นเท่านั้น แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ผิวหนังสามารถรักษาและฟื้นฟูกระชับผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นนี้ได้แล้ว

                                                                        โปรแกรม เลิฟ ลิฟท์ (Love Lift)

                                                                        เลิฟ ลิฟท์ (Love Lift) คืออะไร เป็นเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาสำหรับช่วยรักษาเป็นทางเลือกหนึ่งของการทำรีแพร์ และฟื้นฟูสภาพช่องคลอด เพื่อแก้ไขปัญหาช่องคลอดให้กลับมากระชับช่องคลอดขึ้น  โดยการทำงานของ Love Lift  จะทำงานด้วยความอ่อนโยน นุ่มนวล ต่อผิวที่บอบบาง จึงช่วยฟื้นฟูกระชับผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นทั้งภายในช่องคลอด และผิวรอบบริเวณภายนอก โดยใช้ระยะเวลาที่สั้นในการรักษา ขั้นตอนรักษาง่ายขึ้นสะดวกสบายขึ้น และหลังการรักษาไม่ต้องพักฟื้น โดยผลลัพธ์ที่ได้ไม่เพียงคืนความกระชับผิวบริเวณจุดซ่อนเร้น กระชับช่องคลอด ทั้งภายในช่องคลอด และผิวรอบบริเวณภายนอกเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยง ภายในช่องคลอดทำให้มีความชุ่มชื้น พร้อมทั้งเพิ่มประสาทสัมผัสออกัสซั่มให้ไวต่อความรู้สึก อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาภาวะปัสสาวะเล็ดกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้อีกด้วย

                                                                        โปรแกรม เลิฟ ลิฟท์ (Love Lift) ช่วยให้ให้สาวๆ ได้ดูแลตัวเอง จากสภาวะช่องคลอดไม่กระชับให้ลึกไปถึงจุดซ่อนเร้น ที่ยากจะเปิดเผยให้ใครๆ รู้ได้ ปัญหาเล็ก ๆ แต่ไม่เล็กอย่างที่คิด ใครที่ต้องประสบปัญหานี้อยู่ย่อมเข้าใจดี ถึงความลำบาก อย่าให้ปัญหาช่องคลอดหลวมไม่กระชับ มาทำให้เราขาดความมั่นใจในการใช้ชีวิตได้  โปรแกรม  Love Lift  จากรมย์รวินท์ คลินิค ช่วยได้ ด้วยเทคโนโลยีที่อ่อนโยนช่วยฟื้นฟูกระชับผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นอย่างปลอดภัย เรียกคืนความมั่นใจให้สาวๆ กลับมาอีกครั้ง..

                                                                        เป็นผู้หญิงต้องใส่ใจ “กระชับช่องคลอด” ให้ฟิตกระชับ คืนรักกลับมาอีกครั้ง

                                                                        215

                                                                        ปัญหาของผู้หญิงเกี่ยวกับปัญหาช่องคลอด ไม่ได้เกิดขึ้นจากวัยที่เพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียว การดูแลสุขภาพช่องคลอด การกระชับช่องคลอด เป็นสิ่งที่ผู้หญิงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะเมื่อปัญหาช่องคลอดมาเยือน เกิดขึ้นกับใครแล้วเป็นปัญหาใหญ่แน่นอน ที่สำคัญเมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้ว ไม่กล้าเปิดเผย รู้สึกเขินอายเมื่อต้องพูดเรื่องนี้กับใคร ดังนั้น การกระชับช่องคลอดเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้หญิงอย่างมาก

                                                                        ปัญหาสุขภาพช่องคลอด ช่องคลอดไม่กระชับ เกิดได้จากหลายสาเหตุหลายปัจจัย แต่ที่สุดแล้วส่งผลเสียต่อร่างกาย ขาดความมั่นใจ เกิดความกังวลใจ อาการเริ่มต้นส่งสัญญาณความบกพร่องของช่องคลอด เริ่มจากอาการ ปัสสาวะเล็ด ช่องคลอดแห้ง ส่งผลให้น้ำหล่อลื่นน้อย เกิดเป็นปัญหาสุขภาพช่องคลอดตามมา

                                                                        โปรแกรม เลิฟ ลิฟท์ Love Lift  ยกกระชับจุดซ่อนเร้น

                                                                        ด้วยเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาสำหรับการดูแลสุขภาพช่องคลอด ออกแบบมาเฉพาะ เพื่อกระชับช่องคลอดให้ความอ่อนโยน นุ่มนวล ต่อผิวที่บอบบาง จึงช่วยฟื้นฟูกระชับผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นทั้งภายในช่องคลอด และผิวรอบบริเวณภายนอกที่มีความบอบบาง วิธีการกระชับช่องคลอดใช้ระยะเวลาที่สั้น ขั้นตอนการทำง่ายสะดวกสบาย และหลังการรักษาไม่ต้องพักฟื้น โดยผลลัพธ์ที่ได้ไม่เพียงคืนความกระชับภายในช่องคลอด และผิวรอบบริเวณภายนอกเท่านั้น แต่ยังเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงช่องคลอดให้มีความชุ่มชื้นขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มประสาทสัมผัสออกัสซั่ม อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาภาวะปัสสาวะเล็ดได้อีกด้วย

                                                                        ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป กับการดูแลสุขภาพช่องคลอดด้วย โปรแกรม Love Lift  นวัตกรรมใหม่ ช่วยยกกระชับช่องคลอด  แบบยกให้กระชับ ฟิตทั้งใน กระชับทั้งนอก  “เลิฟ ลิฟท์ (Love Lift)”  ช่วยดูแลให้ผู้หญิงอย่างเรา ได้ดูแลตัวเองให้ลึกไปถึงจุดซ่อนเร้น เพราะผู้หญิงต้องประสบกับปัญหาพื้นที่ส่วนตัวไม่กระชับ ส่งผลให้เกิดปัญหาใหญ่ทำลายสัมพันธ์ของชีวิตคู่ได้ การกระชับช่องคลอดจะช่วยสร้างสัมพันธ์ให้ดีขึ้น

                                                                        Love Lift กระชับรัก กระชับสัมพันธ์

                                                                        • ดูแลฟื้นฟูสุขภาพช่องคลอด
                                                                        • ยกกระชับช่องคลอด ฟิตทั้งใน กระชับทั้งนอก
                                                                        • เพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงช่องคลอด
                                                                        • เพิ่มประสาทสัมผัส ให้ไวต่อความรู้สึก

                                                                        การมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องธรรมชาติ และมีความสำคัญสำหรับการใช้ชีวิตคู่มากพอควร หากมีปัญหาแล้วไม่ได้รับการแก้ไข จะส่งผลร้ายทำให้ชีวิตคู่ไม่มีความสุขอีกต่อไป  อีกทั้งปัญหาช่องคลอดไม่กระชับมักเกิดร่วมกับอาการปัสสาวะเล็ด ปัสสาวะซึม หรือมดลูกเคลื่อนย้อยลงมา ชีวิตแย่ ๆ เกิดขึ้นได้อย่างคาดไม่ถึง  มาเติมความหวานให้รักเรากลับมาฟิตอีกครั้งกับการกระชับช่องคลอดด้วย กับโปรแกรม “เลิฟ ลิฟท์ (Love Lift)” เทคโนโลยีช่วยฟื้นฟูกระชับผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นที่อ่อนโยน กระชับช่องคลอด พร้อมคืนความมั่นใจให้แก่ผู้หญิงเราได้อีกครั้ง..

                                                                        รมย์รวินท์คลินิก ได้รับรางวัล ICONIC ULTHERAPY TREATMENT จากนิตยสาร แพรว

                                                                        แพรว 960x960 e1561261739120

                                                                        เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 นิตยสารแพรวจัดงานมอบรางวัลด้านความงาม PRAEW ICONIC BEAUTY 2018 ภายใต้คอนเซ็ปท์ ‘THE SECRET WEAPON’ ณ สยามพารากอน ชั้น 1

                                                                        รมย์รวินท์คลินิกได้รับรางวัล ICONIC ULTHERAPY TREATMENT ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรางวัลแห่งความสำเร็จของรมย์รวินท์คลินิกที่ผ่านการคัดสรรจากคณะกรรมการและกูรูความงามที่มีชื่อเสียงของเมืองไทยว่า รมย์รวินท์คลินิกมีอาวุธลับทางความงามที่ทรงอานุภาพและเป็นผู้นำทางด้านความงาม

                                                                        ข้อมูลเพิ่มเติมโทร 080-153-9000 / 080-154-9000

                                                                        Line: @romrawinclinic 

                                                                        Inbox: @RomrawinClinic 

                                                                        ชีวิตดี๊ดี…ลบรอยสัก ลบอุปสรรคในชีวิต

                                                                        73

                                                                        ในโมเม้นท์หนึ่งของช่วงชีวิต หลายคนเกิดอารมณ์อยากมีรอยสัก และตัดสินใจเดินไปหาช่างให้ช่วยบรรจงเข็มสักลวดลายที่ชื่นชอบลงบนร่างกาย ซึ่งคุณอาจจะรู้สึกภาคภูมิใจในช่วงเวลานั้นค่ะ แต่เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง รอยสักที่คุณเคยชื่นชอบอาจสร้างอุปสรรคในการดำเนินชีวิตประจำวัน หรือไปขัดขวางความฝันที่เคยตั้งใจเอาไว้ไม่ให้สามารถกระทำได้ เมื่อรอยสักกลายเป็นอุปสรรค และทางออกก็คือ การลบรอยสักให้เกลี้ยงค่ะ ซึ่งวิธีการลบรอยสักที่ได้ผลดีและปลอดภัยมากที่สุดก็คือ เลเซอร์ลบรอยสัก เมื่อลบรอยสักออกไปแล้ว เราลองมากันดูว่า จะช่วยลบอุปสรรคในด้านใดออกไปได้บ้าง เพื่อชีวิตดีดี๊แบบที่คุณต้องการค่ะ…

                                                                        shutterstock 546214693

                                                                        1. ไร้ข้อจำกัดเรื่องการสมัครงาน

                                                                        หลากหลายอาชีพนั้นได้ตั้งกฎเหล็ก “ห้ามมีรอยสัก” ออกมาเป็นระเบียบของการสมัครงานอย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าตัวคุณจะมีความสามารถชนิดเจ๋งสุดๆ ไอเดียกระฉูด มีมันสมองฉลาดเลิศ แต่ต้องยอมรับความจริงของชีวิตค่ะ ว่างานบางตำแหน่ง หรือบางธุรกิจก็มีข้อจำกัดในเรื่องของบุคลิกภาพ ความน่าเชื่อถือ และความสะอาดสะอ้านของร่างกายอย่างเคร่งครัด ชนิดที่เรียกว่า เป๊ะตั้งแต่หัวจรดเท้า หากมีรอยสัก ก็ควรทำการลบรอยสักเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เช่น อาชีพสายการบินซึ่งเชื่อว่าเป็นอาชีพในฝันที่ใครๆ ก็อยากเข้าร่วมทำงานในองค์กรอันมีเกียรตินี้ ดังนั้น เมื่อภาพลักษณ์มีความสำคัญ หนึ่งในมารตการคัดบุคลากรเข้าร่วมงานสายการบินจึงมีความเข้มงวด รวมถึงห้ามมีรอยสักปรากฏให้เห็นบนร่างกาย รวมถึงอาชีพข้าราชการทุกตำแหน่ง หรือรัฐวิสาหกิจ ที่มีข้อห้ามชัดเจนเรื่องห้ามมีรอยสัก ดังนั้น ถ้าคุณยังฝันอยากทำงานด้านสายการบิน หรืองานในตำแหน่งราชการก็รีบลบรอยสักแล้วเดินหน้าหาความฝันที่คุณต้องการดีกว่าค่ะ

                                                                        2. พ่อปลื้มแม่ปริ่มยิ้มได้ เมื่อลูกสาวลบรอยสัก

                                                                        อันนี้ ส่งผลต่อความรู้สึกโดยตรงกับคนที่รักคุณค่ะ โดยเฉพาะคุณสาวๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่มักออกอาการไม่ปลื้มกับรอยสักของลูกสาวสักเท่าไหร่หรอกค่ะ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะความรัก ห่วงใย ความกังวล ด้วยเกรงว่ารอยสักจะไปสร้างผลกระทบต่อชีวิตของลูกสาว ประหนึ่งว่า ถ้าลูกเจ็บแต่พ่อแม่จะเจ็บยิ่งกว่านะคะ ซึ่งในฝั่งของลูกสาว หากมีรอยสักที่เกิดจากอารมณ์เพียงชั่ววูบ แต่ไม่ได้รู้สึกผูกพันหรือยึดติดกับรอยสักที่มีนั้น ก็แนะนำให้ลบรอยสักนั่นออกไปดีกว่านะคะ คงช่วยทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกยินดีและโล่งใจไม่น้อยและการลบรอยสักยังเป็นผลดีต่อตัวคุณเองด้วยค่ะ

                                                                        shutterstock 150111695

                                                                        3. เปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อคนรอบข้าง

                                                                        ถึงแม้ว่ารอยสัก จะเป็นรสนิยมความชื่นชอบส่วนบุคคลที่ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับใคร แต่เอาเข้าจริงๆ ความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ต่อคนที่มีรอยสักย่อมมีความรู้สึกว่าคนที่มีรอยสักดูอันตราย หรืออาจมีอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย จนไม่กล้าเข้าใกล้ ซึ่งเชื่อว่าหลายครั้งที่คนมีรอยสักคงเคยสัมผัสความรู้สึกของคนรอบข้างนั้นได้ แม้ว่าในความเป็นจริงรอยสักจะเป็นเพียงความชื่นชอบส่วนตัวก็ตาม เอาเป็นว่า ถ้าคุณไม่ได้ซีเรียสอะไรกับรอยสักที่มี การลบรอยสักออกไปอาจช่วยลดความรู้สึกอึดอัดของคุณในเวลาที่เจอกับคนในสังคมรอบๆ ข้างได้ค่ะ

                                                                        4. ลบรอยสัก ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพอนามัย

                                                                        ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับรอยสักเลยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ไม่ใช่ว่า คุณจะสามารถวางใจได้ 100% นะคะ เพราะอันตรายแฝงที่มากับรอยสักนั้น น่ากลัวกว่าที่คิด ดังข้อมูลที่เรามานำเสนอดังนี้ค่ะ

                                                                        • ความเสี่ยงเมื่อรอยสักสัมผัสถูกแสงแดด อย่างที่ทราบกันดีว่าแสงแดดแรงๆ สามารถทำร้ายผิวของเราได้มากแค่ไหน แต่ผิวที่มีรอยสักจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเจ็บป่วย หากผิวบริเวณนั้นสัมผัสถูกแสงแดดมากเกินไป สำหรับบางคนอาจมีอาการบวมและคันเกิดขึ้น โดยเฉพาะรอยสักที่มีหมึกสีเหลือง เป็นสาเหตุของอาการคัน อักเสบ และผิวหนังบวมแดงเมื่อสัมผัสถูกแสงแดด ซึ่งเกิดจากแคดเมี่ยมที่อยู่ในหมึกนั่นเอง ทั้งนี้ หมึกสีอื่นๆ ก็สามารถสร้างปัญหาได้เช่นกัน โดยจากการศึกษาในประเทศเดนมาร์กพบว่า ผู้ที่สักลายด้วยหมึกสีดำ แดง และฟ้าจะแสดงปฏิกิริยาทางผิวหนังอย่างชัดเจนค่ะ หากไม่อยากเสี่ยงกับอาการเหล่านี้ควรลบรอยสักออกเพื่อสุขภาพของคุณเองค่ะ
                                                                        • ผิวหนังบริเวณรอยสักไหม้จากการตรวจ MRI มีตัวอย่างให้เห็นในปี 2011 นักฟุตบอลอาชีพรายหนึ่งซึ่งมีรอยสักสีดำได้ทำการเอ็กซเรย์ หรือที่เรียกว่าตรวจ MRI  ปรากฏว่าผิวหนังของเขามีรอยไหม้ขณะที่ตรวจ MRI อยู่ เนื่องจากกระแสไฟฟ้าได้ก่อตัวขึ้นในผงเหล็กซึ่งเป็นส่วนประกอบของหมึก สำหรับผู้ป่วยที่สักลายด้วยหมึกดำจะมีความเสี่ยงในการตรวจ MRI เนื่องจากหมึกดำมีเหล็กออกไซด์ รวมถึงหมึกสีแดงก็มีความเสี่ยงนี้ด้วยเช่นกัน
                                                                        • โดนลอยสักกลบจนไม่เห็นปัญหาด้านสุขภาพ ทั้งนี้ ลายสักบนผิวหนังอาจไปปกปิดปัญหาด้านสุขภาพซึ่งทำให้ผู้ที่เกิดปัญหาไม่สามารถรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติได้ทันเวลา มีรายงานว่า รอยสักจะปกปิดอาการของโรคมะเร็งผิวหนัง ซึ่งรวมถึงมะเร็งไฝ มะเร็งผิวหนังชนิดเบซาลเซลล์ (BCC) เป็นมะเร็งผิวหนังชนิดหนึ่งที่มีจุดเริ่มต้นมาจากเบซาลเซลล์ ซึ่งเป็นเซลล์ที่อยู่ภายในผิวหนังทำหน้าที่สร้างเซลล์ผิวหนังใหม่เมื่อเซลล์เดิมตาย และมะเร็งผิวหนังชนิดสเควมัสเซลล์ (SCC) เกิดขึ้นในผิวหนังชั้นกลาง โดยในปี 2013 มีรายงานว่าพบผู้ชายคนหนึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งไฝหลังจากที่เขาไปลบรอยสักด้วยเลเซอร์ เนื่องจากก่อนหน้านี้ บริเวณที่มีการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งถูกปิดทับด้วยหมึกดำ ซึ่งรอยสักทำให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังสังเกตไฝที่อาจกลายเป็นมะเร็งได้ลำบาก หากรอยสักนั้นไม่จำเป็นต่อชีวิตก็ควรทำการลบรอยสักออกเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจตามมา
                                                                        shutterstock 789102274

                                                                        5. ญาติผู้ใหญ่ฝั่งคู่รักเลิกกีดกัน

                                                                        หุหุ… ข้อนี้ฟังดูแล้วอาจจะมีหลายท่านคิดว่า ดูละครน้ำเน่ามากไปหรือเปล่า? แต่มันคือชีวิตจริงของใครหลายๆ คนที่ต้องประสบกับปัญหานี้อยู่นะคะ สำหรับปัญหารอยสักที่ญาติฝั่งแฟนเขาไม่ปลื้มอย่างแรงเนี่ย… บางรายถึงขั้นยื่นคำขาด ถ้าหากไม่ลบรอยสักออกจะให้ลูกหลานตนเองเลิกคบ หรือไม่ยอมให้แต่งงานด้วยกันเลยก็มีค่ะ ดังนั้น เพื่อตัดปัญหาด้านอุปสรรคความรัก การลบรอยสักจึงเป็นทางออกที่จะทำให้ความรักของคุณทั้งคู่ผ่านฉลุย ไร้ปัญหาญาติกีดกัน ได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างแฮปปี้ค่ะ

                                                                        สักด้วยมือ ลบด้วยเลเซอร์ ทางออกของการลบรอยสักที่ไม่ทิ้งร่องรอยปัญหาผิว

                                                                        72

                                                                        ปัญหาส่วนใหญ่ที่ตามมาของคนที่ตัดสินใจสักไปแล้วก็คือ ลวดลายที่สักเอ๊าท์ตกเทรนด์ ลายไม่สวยถูกใจ สักความทรงจำของแฟนเก่าแล้วเกิดปัญหากับแฟนคนใหม่ หรือวัยรุ่นที่คึกคะนองสักกันเองแล้วลวดลายออกมาเพี้ยนๆ ดูตลก กลายเป็นปัญหาหนักใจที่ต้องการลบรอยสักนั้นทิ้งไป ซึ่งปัญหาของคนที่ลบรอยสักด้วยวิธีธรรมชาติอย่างการใช้ปูนแดง ยางมะละกอ หรือยางของเม็ดมะม่วงหิมพานต์นั้น ผลของมันทำให้เกิดรอยแผลเป็นมาแทนที่รอยสัก ดังนั้น ทางออกของการลบรอยสักที่ดีที่สุดในยุคนี้ คงไม่มีอะไรจะเห็นผลดีเกินกว่านวัตกรรมลบรอยสักด้วยเลเซอร์ค่ะ แล้วเลเซอร์ดีกว่าอย่างไร? ทำไมต้องลบรอยสักด้วยเลเซอร์ มาดูคำตอบกันค่ะ

                                                                        ลบรอยสักด้วยเลเซอร์เห็นผล 100% หรือไม่?

                                                                        มักมีหลายคนสงสัยว่า การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ รอยสักจะหายเกลี้ยงเลยหรือไม่?  ทั้งนี้ การลบรอยสักด้วยเลเซอร์จะเห็นผล 100% เลยหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้ค่ะ

                                                                        1. ขนาดและสีของรอยสัก ขนาดที่ใหญ่จะต้องใช้ระยะเวลานาน ส่วนสีของรอยสักแต่ละสีจะมีความยากง่ายในการลบต่างกัน แต่ก็มีบางคนที่ทำเลเซอร์ลบรอยสักเพียงครั้งเดียวก็จางได้ค่ะ เช่น คนที่สักด้วยสีดำสีเดียว จะลบรอยสักได้ง่ายที่สุดเพราะสีดำจะดูดซึมแสงเลเซอร์ได้เกือบทุกชนิดและดูดได้มากที่สุด จึงทำให้เห็นผลไวกว่าสีอื่นค่ะ
                                                                        2. ตำแหน่งของร่างกายที่สัก อาจจะมีผลในเรื่องการเกิดแผลเป็นหลังจากการลบรอยสัก เช่น บริเวณหลัง หน้าอก สามารถเกิดแผลเป็นได้ง่ายกว่าบริเวณอื่น นอกจากนี้ ยังมีข้อควรระวังสำหรับบางตำแหน่งที่ลบรอยสักยาก เช่น สักอายไลน์เนอร์บริเวณตำแหน่งใกล้ดวงตา ซึ่งเลเซอร์ที่ใช้ในการลบรอยสักพวกนี้จะเป็นอันตรายกับจอประสาทตา ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่จะทำให้ตาสูญเสียการมองเห็นได้ค่ะ
                                                                        3. ระดับความลึกของรอยสัก ปัจจัยหนึ่งของการลบรอยสัก จะยากหรือง่ายนั้นก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของช่างที่สักด้วยค่ะ ถ้าใช้เครื่องมือสักโดยช่างที่มีความชำนาญสูง จะลบไม่ยาก เพราะระดับของการสักนั้นอยู่ในระดับเดียวกัน แต่ในขณะเดียวกันถ้าสักแบบพวกมือสมัครเล่น หรือใช้มือสัก การสักจะอยู่คนละระดับกัน ทำให้ยิ่งลบรอยสักยากขึ้นเพราะระดับความลึกไม่เท่ากันค่ะ

                                                                        การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ จะทำให้รอยสักจะจางลงเรื่อยๆ ได้มากถึง 95% หลังเลเซอร์ลบรอยสักประมาณ 5-6 ครั้ง โดยทำห่างกันทุก 1-2 เดือน ซึ่งคุณควรพบแพทย์ทุกครั้งตามนัด เพื่อติดตามผลและทำอย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผลดี

                                                                        แต่ถ้าใครอยากลบรอยสักให้หายภายในครั้งเดียวแบบ 100% อาจต้องพึ่งวิธีการตัดรอยสักออกไปค่ะ ซึ่งเป็นวิธีการผ่าตัดโดยการตัดผิวหนังบริเวณที่มีรอยสักออกแล้วเย็บแผลให้เข้าหากัน แต่เหมาะสำหรับรอยสักที่มีขนาดเล็กๆ เท่านั้นนะคะ วิธีการลบรอยสักนี้ แม้ว่ารอยสักก็จะหายเกลี้ยงแต่จะมีแผลเป็นเล็กๆ มาแทนค่ะ ดังนั้น ถ้าอยากให้รอยสักจางไปโดยไม่มีแผลเป็น ก็ควรลบรอยสักด้วยเลเซอร์ดีกว่าค่ะ

                                                                        shutterstock 379393678

                                                                        ลบรอยสักด้วยนวัตกรรมเลเซอร์ Nupico Untattoo

                                                                        รมย์รวินท์คลินิกเข้าใจและตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นของการลบรอยสักด้วยเลเซอร์แบบเดิมๆ จึงได้นำนวัตกรรมเลเซอร์อันทันสมัย Nupico Untattoo มาช่วยแก้ปัญหาระหว่างและหลังกระบวนการลบรอยสักได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรามาลองมาทำความรู้จักกับนวัตกรรมเลเซอร์ลบรอยสัก Nupico Untattoo กันว่าจะช่วยแก้ปัญหารอยสักของคุณได้อย่างไรบ้าง และได้ผลที่ดีกว่าเลเซอร์ลบรอยสักแบบเดิมได้อย่างไร มาดูกันค่ะ

                                                                        1. ลบรอยสักได้ทุกสี และรักษาได้ครอบคลุมทุกเม็ดสีทั้งตื้นและลึก นวัตกรรมเลเซอร์ Nupico Untattoo มีความยาวของคลื่นให้เลือกใช้หลายช่วงคลื่น รอยสักสามารถจางลงได้ทุกสีแม้เป็นสีที่ลบยาก และมีความยาวคลื่นชนิดที่ไม่ทำให้เกิดสะเก็ดแผลหลังการรักษา ดังนั้น หลังการลบรอยสักผิวของคุณจึงเนียนเรียบไม่เกิดรอยนูนตะปุ่มตะป่ำขึ้นค่ะ
                                                                        2. เห็นผลการรักษาอย่างชัดเจนในครั้งแรก โดยใช้แสงเลเซอร์เข้าไปแตกตัวเม็ดสีที่มีอยู่ใต้ผิวหนังให้มีขนาดเล็กลง สามารถเข้าไปทำลายเม็ดสีได้ทุกเฉดสีในชั้นผิวหนังลึก หลังการรักษาลบรอยสักในครั้งแรกจะเห็นได้ว่าความแน่นของเม็ดสีน้อยลงเป็นข้อดีที่ช่วยลดจำนวนครั้งของการรักษาลงได้
                                                                        3. ไม่เกิดรอยดำ หากลบรอยสักด้วยวิธีนี้ เนื่องจากเลเซอร์ Nupico Untattoo จะถูกปล่อยออกมาในระยะเวลาที่สั้นมากๆ พลังงานแสงนี้จะถูกยิงเข้าไปยังผิวทำให้เม็ดสีแตกออกเป็นอนุภาคเล็กๆ ในทันที โดยจะไม่ทำให้เกิดความร้อนสะสมไม่เสี่ยงต่อผิวไหม้ จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดรอยดำได้ค่ะ
                                                                        4. เจ็บน้อย จุดเด่นที่สำคัญของการลบรอยสักด้วย Nupico Untattoo คือเจ็บน้อย โดยแพทย์จะแปะยาชาช่วยเพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บลงมาได้อีกระดับ หลังทำไปสักพักจะรู้สึกชาแต่แทบไม่รู้สึกถึงความเจ็บ ดังนั้น หลังการลบรอยสักคุณจึงไม่ต้องพักฟื้น และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติค่ะ
                                                                        5. ปลอดภัย เลเซอร์ Nupico Untattoo ได้รับการรับรองจาก FDA ประเทศสหรัฐอเมริกา และ อย.ของประเทศไทย จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยทุกขั้นตอนของการทำค่ะ

                                                                        การดูแลหลังลบรอยสักด้วยเลเซอร์

                                                                        • มัดระวังอย่าให้โดนน้ำหลังทำเลเซอร์ เพราะจะทำให้แผลชื้นติดเชื้อได้ง่าย
                                                                        • หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลที่ทำเลเซอร์สัมผัสแสงแดด
                                                                        • ควรทาครีมที่แพทย์จัดให้จนกว่าแผลจะหายเป็นปกติ เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงเกิดรอยด่างดำขึ้นได้

                                                                        หลังลบรอยสักด้วยเลเซอร์แล้วมีผลข้างเคียงหรือไม่?

                                                                        การลบรอยสักด้วยเลเซอร์มีผลข้างเคียงน้อยมากค่ะ ทั้งนี้ เมื่อสะเก็ดหลุดหลังการรักษาแล้วรอยสักจะค่อยๆ จางลงในระดับหนึ่ง โดยไม่เกิดแผลเป็นหรือร่องรอยใดๆ หลังทำการลบรอยสักคุณอาจจะรู้สึกเจ็บหรือแสบบริเวณที่ทำการรักษาเล็กน้อย สามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็นและทานยาแก้ปวดได้ค่ะ

                                                                        อยากลบรอยสักแบบปลอดภัย แต่ไม่อยากเจ็บตัว ควรใช้วิธีไหน

                                                                        71

                                                                        การสักตามผิวหนัง เป็นการนำเม็ดสีเข้าสู่ผิวหนังด้วยวิธีการทำให้เกิดแผลเล็กๆ จากการเจาะด้วยเข็มหรือเครื่องสัก เมื่อแผลหายเม็ดสีจะค้างอยู่ในชั้นผิวหนังตลอดไป โดยมีหลากหลายเหตุผลของคนที่สักเพื่อความพึงพอใจ ความสวยงาม ความเชื่อศรัทธา ความรัก อยากเท่ หรือสาวๆ บางคนอาจจะสักเพื่อความสวยงามบนใบหน้าเช่นการสักคิ้ว เป็นต้น แต่เมื่อรอยสักที่เคยชื่นชอบกลับไม่เป็นที่ต้องการของเราอีกต่อไป ด้วยต่างเหตุผลต่างความจำเป็นของแต่ละคน ซึ่งจะมีเหตุผลใดบ้างเราได้รวบรวมเหตุผลที่คนอยากลบรอยสักมาให้ดู และเมื่ออยากลบรอยสักแบบปลอดภัย แต่ไม่อยากต้องเจ็บตัวซ้ำอีกจะมีวิธีลบรอยสักไหนบ้าง เราก็มีข้อมูลดีๆ มานำเสนอเช่นกันค่ะ

                                                                        เหตุผลที่อยากลบรอยสัก

                                                                        • สักพลาด การสักผิดพลาดถือเป็นฝันร้ายของหลายคน เพราะรอยสักนั้นจะติดฝังแน่นลงบนเรือนร่างไปตลอดชีวิต ยิ่งเห็นยิ่งช้ำใจจึงเป็นเหตุผลแรกๆ ที่ต้องลบรอยสักค่ะ
                                                                        • สักไม่สวย เมื่อลวดลายที่สักออกมาไม่ตรงใจ บิดเบี้ยว สีเพี้ยน ลายเพี้ยน เจ้าของลายสักออกอาการไม่ปลื้มแบบนี้ก็เป็นเหตุให้ต้องลบรอยสักออกไปค่ะ
                                                                        • ลายมันเอ๊าท์ ส่วนใหญ่ปัญหานี้มักจะเกิดกับวัยรุ่นที่ไปสักตามกระแสฮิตตอนนั้น แต่พอวันเวลาผ่านไปไอ้ลวดลายเท่ๆ คูลๆ ที่เคยสักเอาไว้กลับกลายเป็นความเอ๊าท์ความเชยแบบสุดๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้พี่คงทนอายไม่ได้ต้องลบรอยสักออกไปซะแล้วล่ะ
                                                                        • อยากทำงาน มีหลายบริษัทเลยนะคะที่ไม่รับคนที่มีรอยสักเข้าทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชนบางบริษัท เพราะฉะนั้นถ้าตั้งใจอยากทำงานในองค์กรที่หวังไว้ก็ต้องลบรอยสักนั้นออกไปซะ
                                                                        • อยากลืมเธอ ยามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน แต่ยามชังแม้กินน้ำตาลยังขมขื่น คนที่สักชื่อแฟนหรือความทรงจำเกี่ยวกับแฟนอันนี้น่าเป็นห่วงค่ะ เพราะเมื่อเลิกกันแล้วเธอก็หมดความหมายจึงต้องลบเธอออกไปจากความทรงจำซะ นั่นก็คือการลบรอยสักที่เกี่ยวข้องกับเธอออกไปค่ะ
                                                                        • อยากแต่งงานกับเธอ เมื่อครอบครัวอีกฝ่ายยื่นคำขาดว่าถ้าไม่ลบรอยสักจะไม่ยอมให้ลูกของตนแต่งงานด้วย เอาล่ะสิ งานนี้มันหนักใจไม่น้อย แต่เพื่อจะได้แต่งงานกับเธอแล้วฉันยอมทุกอย่างจึงเป็นเหตุผลปนรอยยิ้ม ของคนต้องการลบรอยสัก
                                                                        • ลบความผิดพลาดสมัยวัยรุ่น มีหลายคนที่เคยลองสักกันเองแบบตามมีตามเกิดกับเพื่อนตอนสมัยวัยรุ่น ซึ่งผลที่ออกมาก็คงเดาได้ไม่ยากใช่ไหมคะ ว่าลวดลายจะมีสภาพเป็นแบบไหน พอโตเป็นผู้ใหญ่ความอายมันก็บังเกิดค่ะ ดังนั้น จึงต้องลบรอยสักที่เคยคิดว่าเท่ (หรือเปล่า…) อันนี้ออกไปซะ ไม่งั้นคงต้องโดนล้อไปตลอดชีวิตแน่ค่ะ

                                                                        ลบรอยสักมีอันตรายหรือไม่?

                                                                        สิ่งที่กังวลใจสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจลบรอยสัก ก็คืออันตรายที่แฝงมากับการลบรอยสักค่ะ อันที่จริงแล้วการลบรอยสักจะมีอันตรายหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับวิธีที่ใช้ในการลบรอยสัก ในกรณีที่ลบรอยสักโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะมีความปลอดภัย โดยแพทย์มักจะเลือกใช้วิธีมาตรฐานอย่างการลบรอยสักด้วยเลเซอร์ ซึ่งเลเซอร์ที่ใช้จะเป็นเลเซอร์สำหรับใช้ลบรอยสักโดยเฉพาะ และแพทย์จะยิงแสงเลเซอร์ในขนาดที่พอเหมาะ จำนวนครั้งในการทำเหมาะสมที่ทำให้รอยสักจางลงได้โดยไม่เกิดผลแทรกซ้อนตามมา

                                                                        แต่ในกรณีที่ไปลบรอยสักโดยใช้น้ำยาลอกลายที่เป็นกรดเพื่อกัดผิวหนังบริเวณที่สักให้หลุดออกไปนั้น ขอเตือนไว้ก่อนว่าเป็นวิธีการลบรอยสักที่มีอันตรายและไม่แนะนำให้ทำค่ะ เพราะน้ำกรดจะมีฤทธิ์กัดกร่อนค่อนข้างแรง ถ้ารอยสักมีขนาดใหญ่หรือเป็นบริเวณกว้าง ทำไปแล้วไม่ได้รับการดูแลแผลอย่างดีมีโอกาสจะเกิดการติดเชื้อเอาง่ายๆ ได้เลยนะคะ และเมื่อแผลหายแล้วมีโอกาสเป็นแผลเป็นนูน หรือคีลอยด์ ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายได้ค่ะ

                                                                        ลบรอยสักแบบไหน ปลอดภัยแต่ไม่เจ็บตัว

                                                                        แม้ว่าเราจะเคยทนทานความเจ็บกับเข็มของรอยสักได้ แต่ยังคงจำความรู้สึกเจ็บนั้นได้ดีและรู้สึกเข็ดหากต้องเจ็บตัวซ้ำอีกเมื่อลบรอยสักออก เราจึงมีทางออกสำหรับคนที่อยากลบรอยสักแบบปลอดภัยแต่ไม่อยากเจ็บตัวมาฝากกันค่ะ

                                                                        ลบรอยสักด้วยครีม

                                                                        ถ้าคุณเคย “เจ็บมาเยอะ” ข้อดีของวิธีนี้ คือคุณไม่ต้องเจ็บตัว แต่ข้อเสียอาจจะเป็นเรื่องของเวลาที่อาจจะต้องใช้เวลานานถึงนานมากเลยทีเดียว โดยคุณสมบัติของครีมลบรอยสักจะซึมซับเข้าไปทำให้รอยสักดูจางลง (อย่างน้อยก็ต้อง 1 เดือนขึ้นไปถึงจะเห็นความจางของหมึก) ซึ่งคนที่ใช้วิธีลบรอยสักนี้อาจจะต้องใช้เงินพอสมควรเพราะใช้ระยะเวลานาน และเห็นผลค่อนข้างช้า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วยค่ะ

                                                                        shutterstock 384997729

                                                                        ลบรอยสักแบบไม่เจ็บตัว ด้วยนวัตกรรมเลเซอร์ NU-PICO un-tattoo

                                                                        ปัจจุบันวิธีลบรอยสักที่ได้ผลดีและนิยมมากที่สุดคือ การใช้เลเซอร์ลบรอยสัก ซึ่งไม่เป็นการทำลายชั้นผิวหนัง ทางรมย์รวินท์คลินิกได้นำนวัตกรรมเลเซอร์ NU-PICO un-tattoo ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการใช้ลบรอยสัก โดยแพทย์ผู้ชำนาญการจะเป็นผู้ประเมินการรักษาด้วยแสงเลเซอร์ที่มีความยาวของคลื่นหลายช่วงคลื่น เพื่อเข้าไปทำลายเม็ดสีได้ทุกเฉดสีในชั้นผิวหนังลึกอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รอยสักสามารถจางลงได้ทุกสีแม้เป็นสีที่ลบยาก และมีความยาวคลื่นชนิดที่ไม่ทำให้เกิดสะเก็ดแผลหลังการรักษา ไม่ทำเกิดความร้อนสะสมไม่เสี่ยงต่อผิวไหม้ จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดรอยดำ และไม่เกิดรอยแผลหลังลบรอยสักไปแล้วค่ะ

                                                                        จุดเด่นที่สำคัญของ NU-PICO un-tattoo ในการลบรอยสัก คือเจ็บน้อยค่ะ คุณสามารถทำตัวชิวๆ ได้โดยไม่ต้องเกร็ง โดยแพทย์จะแปะยาชาช่วยเพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บลงมาได้อีกระดับ หลังทำไปสักพักจะรู้สึกชาแต่แทบไม่รู้สึกถึงความเจ็บเลยล่ะค่ะ หลังทำการลบรอยสักคุณสามารถลั้ลลาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่ต้องพักฟื้น เลเซอร์ NU-PICO un-tattoo ได้รับการรับรองจาก FDA ประเทศสหรัฐอเมริกา และ อย.ของประเทศไทย ดังนั้น คุณจึงมั่นใจหายห่วงได้ในความปลอดภัยทุกขั้นตอนของการทำค่ะ